Diphtheria_Assembly 1

Download Report

Transcript Diphtheria_Assembly 1

Diphtheria
โรคคอตีบ
Rome Buathong, MD., FETP., MIH.
Central Epidemiological Investigation Unit
Bureau of Epidemiology
Department of Disease Control
Outline
• ระบาดวิทยา และแนวทาง
การป้องกันควบคุมโรคคอ
ตีบ
• การวินิจฉัยทาง
ห้องปฏิบต
ั ก
ิ ารโรคคอตีบ
• การดูแลรักษาผูปวยโรคคอ
Diphtheria Hotspots 1997
- 2006 from cases
reported to the WHO
> 100 reported cases
50 - 100 reported cases
1-49 reported cases
No cases reported/Information NA
Source: www.dipnet.org/general.public.php
World Situation of
Diphtheria
Source: www.who.int/immunization_monitoring/diseases/diphteria/en/index.html
6
100
5
 Immunized age: < 22 years
80
 Un-immunized age: > 32 years
4
 Grey zone: 23-31 years
60
3
40
•Keep in mind un-immunized people
2
still at risk even age < 22 years old
1
20
0
0
1977 1981 1985 1989 1993 1997 2001 2005 2009
Started with 1977 but
Vacc. Coverage in 1980
1990 coverage reached to 90%
การระบาดของโรคคอตีบประเทศ
ไทย
ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕
และการดาเนินการควบคุม
ป้องกันโรค
โดยสานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
สถานการณโรคคอตี
บ* ประเทศไทย (1 มิ.ย.
์
– 6 พ.ย. 2555)
จังหวัด
จานวนป่วย
ยืนยัน
จานวนป่วย
น่าจะเป็ น
จานวน
พาหะ
First
onset
Last
onset
เลย
27
0
61
24 Jun
19 Oct
เพชรบูรณ ์
4
1
13
2 Aug
1 Oct
หนองบัวลาภู
3
4
6
9 Sep
14 Oct
อุดรธานี
1
0
1
24 Oct
24 Oct
สุราษฎรธานี
์
1
1
0
4 Oct
4 Oct
นครราชสี มา
0
1
0
29 Oct
29 Oct
รวม
36
7
81
24 Jun
29 Oct
* นิยามผู้ป่วยใหม่
นิยามโรคใหม่ (1)
• ผู้ป่วยสงสั ย ไดแก
่ ไี ข้ เจ็บคอ
้ ่ ผูที
้ ม
คอแดง หรือไดรั
้ บการวินิจฉัยเป็ น คอ
อักเสบ หรือกลองเสี
ยงอักเสบ หรือตอม
่
่
ทอนซิลอักเสบ
รวมกั
บมีแผนฝ
่
่ ้ าขาวเทา
ในลาคอ หรือจมูก
• ผู้ป่วยน่าจะเป็ น ไดแก
ผูป
่ ี
้ ่
้ ่ วยสงสั ย ทีม
ปัจจัยเสี่ ยงอยางน
่
้ อย ๑ ขอ
้ ดังนี้
– มีประวัตส
ิ ั มผัสใกลชิ
้ ดกับผูป
้ ่ วยยืนยันโรคคอตีบ
ภายใน ๑๔ วันกอนป
่
่ วย
– มีประวัตเิ ดินทางมาจากอาเภอทีพ
่ บผูป
้ ่ วยยืนยัน
โรคคอตีบ ภายใน ๑๔ วันกอนป
่
่ วย
นิยามโรคใหม่ (2)
• ผู้ป่วยยืนยัน
ไดแก
้ ่ ผูป
้ ่ วยสงสั ย/น่าจะเป็ น
ทีต
่ รวจพบเชือ
้ Toxigenic strain C.
diphtheriae จากตัวอยางในล
าคอ จมูก ช่อง
่
หู เยือ
่ บุตา ช่องคลอด หรือจากบาดแผลที่
่ รวจพบ
ผิวหนัง ทัง้ นี้ให้รวมผูป
้ ่ วยน่าจะเป็ นทีต
เชือ
้
C. diphtheriae และอาศัยในอาเภอที่
พบการระบาดของโรคคอตีบ เพือ
่ ให้การ
ควบคุมและป้องกันโรคดาเนินการไดอย
้ าง
่
รวดเร็ว
สาหรับกรณีผป
ู้ ่ วยสงสั ย/น่าจะเป็ น ทีต
่ รวจพบ
จานวนผู้ป่วยคอตีบตามวันเริม
่ ป่วย แยก
รายทีพ
่ บในสถานพยาบาล และทีค
่ ้นหา
เพิม
่ เติม (จากข้อมูล ๕๙ ราย)
จานวนผูป้ ่ วย (ราย)
8
7
6
5
4
3
2
1
ผูป
้ ่ วยร ับร ักษาในสถานพยาบาล
เลย (๒๘ ราย)
เพชรบูรณ์ (๔ ราย)
หนองบัวลาภู (๑ ราย)
ผูป
้ ่ วยค้นหาเพิม
่ เติมในชุมชน
เลย (๑๘ ราย)
เพชรบูรณ์ (๖ ราย)
หนองบัวลาภู (๒ ราย)
20 22 24 26 28 30 2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26 28 30 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 25 27 29 31 2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26
มิถุนายน
กรกฎาคม
สงิ หาคม
กันยายน
ว ันเริม่ ป่ วย
โรคคอตีบจังหวัดเลย เพชรบูรณ ์ 7 –
20 ต.ค. 55
Loei
ต. หนองงิว้ อ.วังสะพุง จ.เลย
1 ราย
ไม่ มี ป ระวัต ิสั มผัส ผู้ ป่ วยสงสั ย
หญิง 55 รายอืน
่ ๆ แตมี
่ ผู้สั มผัสรวมบ
่
้าน
ปี
ทีม
่ อ
ี าชีพขายสลากกินแบง่ ซึ่ง
ต้ อ ง นั่ ง ร ถ ไ ป ข า ย ห ว ย กั บ
เริม
่ ป่วย
ชาวบ้ านจากต าบลอื่ น ๆ ใน
7 ต.ค.
อาเภอวังสะพุงเป็ นประจา
Pitsanulok
Petchaboon
ตาบลทีพ
่ บผู้ป่วยมากอน
2
่
สั ปดาหล
่ ด
์ าสุ
ตาบลใหมที
่ บผู้ป่วยใน 2
่ พ
สั ปดาหล
่ ด
์ าสุ
ผู้ป่วยรายใหมใน
2 สั ปดาห ์
่
ลาสุ
่ ด
จานวนผูป
่ ป่วยแยก
้ ่ วยคอตีบตามวันเริม
รายพืน
้ ที่
จานวนผู้ป่ว
จานวนพาห
3
1
1
1
1
4
3
8
3
14
1
4
3
6
1
10
10
1
13
1
1
1
จานวนผูป
=
้ ่ วยตอพาหะ
่
ประเมินความเสี่ ยง
• ช่องวางของภู
มต
ิ ้านทานโรค
่
– ประชาชนทีย
่ งั ไมมี
ู ต
ิ านทานโรค
ในกลุม
่ ภม
้
่
ผูใหญ
ที
อเกิดในช่วงตนของ
EPI
้
่ เ่ กิดกอนหรื
่
้
program (พ.ศ.2527) และเด็กทีไ่ มได
่ รั
้ บวัคซีน
ครบ โดยเฉพาะชาวเขา และแรงงานตางด
าว
่
้
– ช่องวางของภู
มต
ิ านทานโรคเช
่
้
่ นนี้ มีอยูใน
่
จังหวัดอืน
่ ๆดวย
้
• แหลงโรค
่
– ผูป
้ ทีร่ ะบาด เป็ นแหลง่
้ ่ วยและผูเป็
้ นพาหะในพืน
แพรเชื
้
่ อ
– พาหะมีจานวนมากกวาผู
่ บ
่ ป
้ ่ วยทีพ
โรคคอตีบ
(Diphtheria)
โรคคอตีบ
• เป็ นโรคติดเชือ
้ เฉี ยบพลันของระบบ
ทางเดินหายใจ ซึง่ ทาให้เกิดการ
อักเสบ มีแผนเยื
อ
่
่
pseudomembrane เกิดขึน
้ ในลาคอ
• ในรายทีร่ ุนแรงจะมีการตีบตันของ
่ วาโรคคอ
ทางเดินหายใจ จึงไดชื
่
้ อ
ตีบ ซึง่ อาจทาให้ถึงตายได้
• พิษ (exotoxin) ของเชือ
้ จะทาให้มี
สาเหตุ  slide # 65
• เกิดจากเชือ
้ แบคทีเรีย Corynebacterium
diphtheriae (C. diphtheriae) ซึง่ มีรป
ู ทรง
แทงและย
อมติ
ดสี แกรมบวก
่
้
• มีสายพันธุที
่ าให้เกิดพิษ (toxigenic) และ
์ ท
ไมท
่ าให้เกิดพิษ (nontoxigenic)
• พิษทีถ
่ ก
ู ขับออกมาจะไปทีก
่ ลามเนื
อ
้ หัวใจ
้
และปลายประสาท ทาให้เกิดการอักเสบ
ระบาดวิทยา
• โรคติดตอชนิ
ดนี้ เชือ
้ จะพบอยูในคนเท
านั
่
่
่ ้นโดย
จะพบอยูในจมู
กหรือลาคอของผูป
้
่
้ ่ วยหรือผูติ
้ ดเชือ
โดยไมมี
่ อาการ (carrier)
• ติดตอกั
รั
้ โดยตรงจาก
่ นไดง้ ายโดยการได
่
้ บเชือ
การไอ จามรดกัน หรือพูดคุยกันในระยะ
ใกลชิ
้ จะเขาสู
้ ด เชือ
้ ่ ผูสั
้ มผัสทางปากหรือ
ทางการหายใจ บางครัง้ อาจติดตอกั
่ นไดโดย
้
การใช้ภาชนะรวมกั
น เช่น แกวน
่
้ ้า ช้อน
หรือ สูบบุหรีร่ อ
ื ใช้อุปกรณเสพยาร
วมกั
น หรือ
์
่
การดูดอมของเลนร
นในเด็กเล็ก
่ วมกั
่
• ทัง้ ผูป
้ ทีไ่ มมี
้ ่ วยและผู้ติดเชือ
่ อาการสามารถแพร่
เชือ
้ ได
ระยะฟักตัวและการแพรเชื
้
่ อ
• ระยะฟักตัวของโรคส่วนใหญอยู
าง
่ ระหว
่
่
2-5 วัน อาจพบนานกวานี
่ ้ ได ้
• เริม
่ แพรเชื
้ ไดตั
ม
่ ป่วย และ
่ อ
้ ง้ แตก
่ อนเริ
่
เชือ
้ จะอยูในล
าคอของผูป
่
้ บการ
้ ่ วยทีไ่ มได
่ รั
รักษาไดประมาณ
2 สั ปดาห ์ แตบางครั
ง้
้
่
อาจนานถึงหลายเดือนได้
• ผูที
้ จะหมดไป
้ ไ่ ดรั
้ บการรักษาเต็มทีเ่ ชือ
ภายใน 4 วัน
อาการและอาการแสดงสาหรับ
Pharyngeal & Tonsil Diphtheria
• เริม
่ ดวยมี
อาการไขต
ด
้
้ า่ ๆ มีอาการคลายหวั
้
ในระยะแรก ไอ เจ็บคอ เบือ
่ อาหาร ใน
เด็กโตอาจจะบนเจ็
บคออักเสบ
่ บคอคลายกั
้
บางรายอาจจะพบตอมน
่ อโตดวย
้าเหลืองทีค
่
้
• ในคอพบแผนเยื
อ
่ สี ขาวปนเทาติดแน่นอยู่
่
บริเวณทอนซิล และบริเวณลิน
้ ไก่ แผนเยื
อ
่
่
นี้เกิดจากพิษทีอ
่ อกมาทาให้มีการทาลาย
เนื้อเยือ
่ และทาให้มีการตายของเนื้อเยือ
่ ทับ
ซ้อนกันเกิดเป็ นแผนเยื
อ
่ (membrane) ติด
่
แน่นกับเยือ
่ บุในลาคอ
• หากแผนเยื
อ
่ อาจจะเลยลงไปในหลอดคอ
่
จะทาให้ทางเดินหายใจตีบตันหายใจลาบาก
Diphtheria – Clinical features
• Clinical manifestations:
85-90% Sore throat
50-85% low grade fever
50%
membrane
26-40% dysphagia
• Toxin mediated
myocarditis, polyneuritis, renal tubular
necrosis and other systemic toxic effects
• Fatality rate: general 5–10%,
but in <5 or >40 year olds,
Colonization
Normal flora
α haemolytic
streptococci
Neisseria species
Diphtheroids
Anaerobic cocci
Fusobacteria
Bacteroides
Micrococci
Respiratory
pathogens
that can be carried
Transient
colonisation
S. Pyogenes
Enterobactericiae
S. pneumoniae
H. influenzae
C. diphtheriae
Pseudomonads
Candida
(Group A Strep)
แยกการติดเชือ
้ ตามตาแหน่งทีพ
่ บ
• สามารถ infect mucous membrane ไดทุ
้ ก
ส่วนของรางกาย
่
1. Anterior nasal diphtheria
 ลักษณะ น้ามูกมีหนองปน อาจพบเลือดออก
 พบแผนฝ
่ ้ าในจมูก
 อาการไมรุ่ นแรง ไมค
toxin ถูก ดูด
่ อยพบ
่
ซึม เขากระแสเลื
อด
้
 การให้ anti-biotic และ anti-toxin ไดผลดี
้
 เก็บ nasal swab สงหอง Lab
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
2. Pharyngeal and Tonsillar
diphtheria
 พบการติดเชือ
้ ที่ pharynx,
tonsils
 อาการ: เจ็บคอ, เบือ
่ อาหาร, ไข้
ตา่
 พบแผนฝ
่ ้ าสี เทาที่ ทอนซิล
อาจลามไปถึง เพดานออน
ลิน
้
่
ไก่
 แผนฝ
น
้ เรือ
่ ปยๆ
่ อยละ
้้ าขยายและโตขึ
 ประมาณร
10
ของผู
้ ่ วยกลุมนี
่ ้จะมีอาการ
อุดตัวนทางเดิ
น
หายใจได
รุนแรงจะ รวดเร็
มีไขสู
ง
มาก
และมี้ อาการ systemic
้
toxicity
โดย exudative
ลามรวดเร็วมาก มี
 อาการรุ
นแรงถา้ membrane
Toxin ถูกดูด
2. Pharyngeal and Tonsillar
diphtheria
 พบการติดเชือ
้ ที่ pharynx,
tonsils
 อาการ: เจ็บคอ, เบือ
่ อาหาร, ไข้
ตา่
 พบแผนฝ
่ ้ าสี เทาที่ ทอนซิล
อาจลามไปถึง เพดานออน
่
 แผนฝ
้ เรือ
่ ยๆ
่ ้ าขยายและโตขึน
จะ อุดตั
นทางเดิ
นหายใจได
 ประมาณร
อยละ
10
ของผู้ ้ป่วยกลุมนี
้
่ ้จะมีอาการ
 อาการรุ
Toxin
ถูกดู
ด
รุนแรง
รวดเร็วนแรงถ
มีไขสู
และมี
อาการ
systemic
้ างมาก
toxicity
exudativeอดmembrane ลามรวดเร็วมาก มี
ซึมโดย
เขาสู
้ ่ กระแสเลื
3. Laryngeal diphtheria
 อาจเกิดจากการติดเชือ
้ ที่ pharynx,
tonsils แลวลามไปที
่ กลองเสี
ยง
้
่
หรือติดเชือ
้ ทีก
่ ลองเสี
ยงโดยตรง
่
 อาการ: ไข้ , เสี ยงแหบ , ไอ
 แผนฝ
่ ้ าอาจอุดตันทางเดินหายใจ
โคมา ตาย
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
4. Cutaneous
diphtheria
and
คอตีบ (ต่อ)
other
 การติดเชือ
้ ทีผ
่ วิ หนังเป็ นเพียงแผลตืน
้ ๆ ไมมี
่
ลักษณะเฉพาะ และมักไมมี
่ systemic toxicity แผล
หายเองได้
 ส่วนใหญพบ
non-toxigenic C. diphtheriae
่
strain
. ตาแหน่งอืน
่ ๆ
lung vagina conjunctiva
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
Complications
เกิดจาก ภาวะที่ exotoxin ไปทาลายอวัยวะตางๆ
ที่
่
สาคัญคือ หัวใจ ไต และระบบประสาท การถูก
ทาลายมากหรือน้อยขึน
้ กับ ตาแหน่งทีม
่ ก
ี ารติดเชือ
้
และ ปริมาณของ toxin ทีถ
่ ก
ู สรางและกระจายเข
าสู
้
้ ่
กระแสโลหิต
 หัวใจ
พบวาอาจมี
myocarditis เกิดขึน
้ บอยถึ
ง
่
่
2 ใน 3 แตแสดงอาการเพี
ยงประมาณร้อยละ 10
่
พบการเปลีย
่ นแปลงคลีน
่ ไฟฟ้าหัวใจ (EKG) มักพบ
ในสั ปดาหแรก
ถึง 1
เดือน
Dysrhythmias
์
พบไดบ
และถารนแรง
อาจทาให้เสี ยชีวต
ิ ได้
้ อย
่
้
ไต พบเพียงโปรตีนหรือ cast ในปัสสาวะ
สาหรับ
ไตวายพบไดน
กจะรุนแรงถึงชีวต
ิ
้ ้ อย แตถ
่ าพบอาการมั
้
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
ระบบประสาท neuritis
พบไดร้ ้อยละ 5-10 ของ
Complete Blood Count
จะพบจานวนเม็ดเลือดขาว (WBC) ใน
peripheral blood
 ประมาณ 10,000 – 20,000 เซลล/ลบ.มม.
์
ในกลุมอาการน
่
้ อยถึงปานกลาง และ
 มากกวา่ 25,000
เซลล/ลบ.มม.
ใน
์
่ อ
ี าการรุนแรง
ผูป
้ ่ วยทีม
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
การวินิจฉัยแยกโรค
1. Group A Streptococcal pharyngitis


ระยะทีผ
่ ้ป
ู ่ วยมาพบแพทย ์ มักพบไขสู
้ งทันที
ออนเพลี
ย ปวดหัว เจ็บคอ กลืนลาบาก อาจมี
่
อาการปวดทองหรื
ออาเจียน
บริเวณ pharynx
้
มีสีแดงจัด มี exudates บริเวณทอนซิล พบวาเด็
่ ก
ทีอ
่ ายุมากวา่ 3 ปี ทีจ
่ ะมีอาการดังกลาว
เด็กที่
่
อายุน้อยมักไมมี
exudate
่
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวใน peripheral blood ไม่
ช่วยในการวินิจฉัยแยกโรคจากคอตีบ ประวัตข
ิ อง
การไดรั
้ บวัคซีน และขอมู
้ ลทางระบาดวิทยานั้นมี
ความสาคัญกวา่
2. Adenovirus infection
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
การวินิจฉัยแยกโรค
3. Epstein-Barr virus infection
(Infectious Mononucleosis)




อาการคอยเป็
นคอยไป
ออนเพี
ลย ปวดศี รษะ แลว
่
่
่
้
จึงเจ็บคอ มีไข้
7-20 วันตอมา
มีตอมน
้าเหลือง posterior
่
่
cervical gland โต
มักพบรวมกั
บมามโต
(รอยละ50)
และอาจมีตบ
ั โต
่
้
้
(รอยละ10-30)
การตรวจ complete blood count จะพบ atypical
lymphocyte สูงและเป็ นลักษณะ Downy cell
โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ
Milky white patches over tonsils
Infectious mononucleosis
Enlarge and injected tonsils
Group A Strep.
Acute exudative tonsi
Acute pharyngotonsillitis
Dirty white patches
over tonsils and
posterior pharyngeal w
Pharyngotonsillar Diphtheri
ผู้ป่วยจังหวัดเลย
รายทีเ่ ห็ นแผนฝ
่ ้ าขาวชัด
ผู้ป่วยจังหวัดเพชรบูรณ ์
กอนรั
กษา (06/08/2012)
่
หลังรักษา (21/08/
การรักษา  slide #
120
• ให Diphtheria antitoxin (DAT) ทุกราย
้
• ให้ยาปฎิชว
ี นะแกผู
่ สั
้ มผัมใกลชิ
้ ดในชุมชน
– ยาฉี ด ไดแก
ิ น
ิ ฉี ดเขากล
าม
1
้ ่ เพนนิซล
้
้
ครัง้ (Benz. Pen ไมมี
่ แลว)
้
– ยากิน ไดแก
้ ่ Erythromycin หรือ
Roxithromycin
• เจาะคอในเด็กทีม
่ โี รคแทรกซ้อนจากการอุด
กัน
้ ของทางเดินหายใจ
• โรคแทรกซ้อนทางหัวใจและทางเส้นประสาท
ให้การรักษาประคับประคองตามอาการ
• ผูป
กเต็มที่ อยาง
้ ่ วยเด็กโรคคอตีบจะตองพั
้
่
การป้องกัน
• ตองแยกผู
่ อยางน
้
้ป่วยจากผู้อืน
่
้ อย 2 สั ปดาห ์ หลัง
เริม
่ มีอาการ หรือตรวจเพาะเชือ
้ ไมพบเชื
อ
้ แลวอย
าง
่
้
่
น้อย 1 ครัง้
• ผู้ป่วยทีห
่ ายจากโรคคอตีบแลว
ู ค
ิ มกั
ุ้ นโรค
้ อาจไมมี
่ ภม
เกิดขึน
้ เต็มที่ จึงอาจเป็ นโรคคอตีบซา้ อีกได้ ดังนั้นจึง
ตองให
้
้วัคซีนป้องกันโรค (DTP หรือ dT) แกผู
่ ้ป่วย
ทีห
่ ายแลวทุ
้ กคน
• ผู้ใกลชิ
้ ดผู้ป่วย เนื่องจากโรคคอตีบติดตอกั
่ นไดง้ าย
่
ดังนั้นผู้สั มผัสโรคทีไ่ มมี
ู ค
ิ ุ้มกันโรคจะติดเชือ
้ ไดง้ าย
่ ภม
่
จึงควรไดรั
ชิ
้ บการติดตามดูอาการอยางใกล
่
้ ด โดยทา
การเพาะเชือ
้ จากลาคอ และติดตามดูอาการ
• ในผู้ทีส
่ ั มผัสโรคอยางใกล
ชิ
บตัวอยาง
ให้
่
้ ด ตองเก็
้
่
พิจารณาสุ่มทา throat swab ในคนไข้ เจ็บคอ คอแดง สัปดาห์ ละ 5-10 ราย
มาตรการเร่ งด่ วน
• ฝึ กทักษะการสอบสวนโรคเชิงลึก และการค้นหาผูป้ ่ วยผูส้ ัมผัส สาหรับทีม
SRRT ระดับอาเภอ-ตาบล พร้อมศึกษาเรี ยนรู ้มาตรการจากพื้นที่ระบาด
ขณะนี้
• ขยายศักยภาพการตรวจเพาะเชื้อ C. diphtheriae และยืนยันด้วย
Biochemistry ในโรงพยาบาลจังหวัด หรื อศูนย์วิทย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง
• เพิ่มความครอบคลุมการได้รับวัคซีน DTP ในเด็กอายุนอ้ ยกว่า ๗ ปี ที่มีอายุ
เกินจากเกณฑ์อายุน้ นั ๆ ก่อน
• ค้นหาพื้นที่จาเป็ นต้องได้รับ dT ล่วงหน้าเพื่อลดอัตราป่ วยตายในกลุ่มเสี่ ยง
• รายงานจานวนผูป้ ่ วย พาหะ พร้อมทั้งพื้นที่สาหรับประเมินความเสี่ ยง และ
เข้าควบคุมโรคแล้ว เป็ นรายสัปดาห์
ระบบบัญชาการเพือ
่ ป้องกันการระบาดโรคคอตีบ
จังหวัดเลย กันยายน – พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ระดับจังหวัด/อาเภอ ผู้บัญชาการเหตุการณ ์
หน่วย Logistic
และประสานงานทีมบริหารจัดการ
(เลขาฯ การประชุม)
ั ก
ิ ารติดตาม
หน่วยปฏิบต
ั ก
ิ ารดานวั
คซ
หน่วยปฏิบต
ั ก
ิ ารสอบสวนหน่วยปฏิบต
้
คราะหข
อาการผูป
้ ลและรายงานโรค
์ อมู
้ ่ วยและการกินยาและรายงานผลสาเร็จ
ทีมขอมู
ทีมสอบสวนโรคทีมติดตามอาการ
้ ล และ
รายงานโรค เคลือ
่ นทีเ่ ร็ว ผู้ป่วย/ผู้สั มผัส
ทีมสุขศึ กษา ให้วัคซีน
และสารวจความครอบคล
บทบาทหน้าที่
หน่วย
ประสานงาน
•
•
•
•
Logistic
และ
คน เงิน ของ
เอกสาร
ประสานงาน
แผนพั
สื่ อวิทยุ กระจาย
่ บประชาสั มพันธ ์
เสี ยง
• กาหนดการประชุม war room และชีแ
้ จงหน่วย
ปฏิบต
ั ก
ิ ารฯ
บทบาทหน้าที่
หน่วยปฏิบต
ั ก
ิ าร
สอบสวน (หน่วยจูโจม)
่
วิเคราะหข
์ ้อมูลและรายงานโรค
่ วยเสนาธิการ)
• รับรายงาน (หน
และสอบสวนโรคเฉพาะราย
ในรพ.
/ รพ.สต. /สถานพยาบาลอืน
่
• สอบสวนโรคเคลือ
่ นทีเ่ ร็ว
เพือ
่ คนหาผู
ป
้
้ ่ วย
ผูสั
และแหลงโรค
้ มผัสใกลชิ
้ ด
่
• ชีเ้ ป้าหมาย
– ผู้ป่วย ผู้สั มผัส ทีต
่ องติ
ดตามอาการและการกินยา
้
– พืน
้ ทีส
่ าหรับให้วัคซีน: สาหรับพืน
้ ทีเ่ สี่ ยงสาหรับให้
วัคซีนป้องกัน และพืน
้ ทีร่ ะบาดสาหรับให้วัคซีน
ควบคุม
• รวบรวมผลตรวจทางห้องปฏิบต
ั ก
ิ ารฯ ทุกวัน
การสอบสวนและควบคุมโรคเบือ้ งต้ น
• มุงเน
่ วามครอบคลุมการคนหาผู
สั
่ ้ นทีค
้
้ มผัสและ
แหลงโรค
โดยแบงเป็
่
่ น
– ผู้สั มผัสของผู้ป่วยหรือพาหะ (เรียกวา่ “วงที่ 1”)
ให้ทาการเก็บตัวอยาง
จายยา
และวัคซีนให้
่
่
ครบถวน
้
– ผู้สั มผัสของผู้สั มผัส (เรียกวา่ “วงที่ 2” หรือวง
ถัดๆไป) เนื่องจากในกลุมนี
่ ้จะมีเป็ นจานวนมาก
จึงใช้แนวทางดังนี้
• กรณีทเี่ ป็ นผู้ทีม
่ อ
ี าการตามเกณฑผู
์ ้ป่วยสงสั ยให้
ทาการเก็บตัวอยาง
จายยา
และให้วัคซีนทุก
่
่
ราย
ค้นหาผู้ป่วยเพิม
่ เติม และติดตาม
อาการและกินยา
ผู้ป่วยสงสั ย
กรณีพบผู้ป่วย >1 ราย คอตีบ
กรณีพบผู้ป่วย 1 ร
ค้นหาผู้สั มผัส
ในหมู
บ
านเดี
ย
วกั
น
่
้
ค้นหาผู้ป่วยเพิม
่ เติม
ใกลชิ
ด
้
ในหมูบ
่ อง
่ ้าน ตอเนื
่
รวมบ
าน
่
้
14 วัน
ค้นหาผูร้ วมงาน
่
คนหาผู
หมูบ
่ ้าน
ผู้ป่วย
หมูบ
่ ้าน
ใกลเคี
้
ยง
หมูบ
่ ้าน
ที่
เชือ
่ มโยง
สั มผัส
ใกลชิ
้ ด
ของผู้ทีม
่ ี
อาการ
ป่วย
้
้
สั มผัส
ใกลชิ
้ ด
ของผู้ทีไ่ ม่
ป่วย
ติดตามสอบถามอาการป่วยทุกคน และตามการกินยา
จนครบ 14 วัน
บทบาทหน้าที่
หน่วยปฏิบต
ั ก
ิ ารติดตามอาการ และ
การกินยา
• รับส่งขอมู
ั ก
ิ ารสอบสวนโรค
้ ลจากหน่วยปฏิบต
เน้นกลุมเป
ั ประทานยา
่ ้ าหมายทีร่ บ
รายชือ
่ ผูป
้ ่ วยติดตามอาการแทรกซ้อน
– ติดตามการกินยาของผูสั
้ มผัส ผูป
้ ่ วย พาหะ
– ให้สุขศึ กษาสาหรับผูที
ั ประทานยา
้ ร่ บ
• รายงานสถานการณพื
้ ทีต
่ ด
ิ ตามตอเนื
่ ่อง
์ น
• รวบรวมขอมู
้ ล และสรุปผลการดาเนินการ
รายวัน/สั ปดาห ์
บทบาทหน้าที่
หน่วยปฏิบต
ั ก
ิ าร
ดานวั
คซีน
้
และรายงานผลสาเร็จ
• รับส่งขอมู
ั ก
ิ ารสอบสวนโรค
้ ลจากหน่วยปฏิบต
รั
่ องได
เน้นกลุมเป
้ บวัคซีน สาหรับ
้
่ ้ าหมายทีต
พืน
้ ทีเ่ สี่ ยง และพืน
้ ทีร่ ะบาด
• คนหาความครอบคลุ
มของวัคซีนสะสมในพืน
้ ที่
้
าบล เพือ
่ พิจารณาพืน
้ ทีเ่ สี่ ยง
ของแตละต
หมูบ
่
้
่ าน
• บริหารจัดการวัคซีน การเก็บ
การฉี ด
และ
cold chain
• ติดตามการฉี ดวัคซีนครบตามกลุมเป
่ ้ าหมาย
จานวนครัง้ และอาการแทรกซ้อน
การประชาสั มพันธและสื
่ อสารความ
์
เสี่ ยง
• เพือ
่ เพิม
่ โอกาสในการตรวจพบโรคไดเร็
้
้ วขึน
– อาการ และอาการแสดง
• ลดโอกาสในการแพรเชื
้ ในชุมชน
่ อ
– วิธก
ี ารแพรเชื
้ และระยะเวลา
่ อ
– การแยกผู้ป่วยและอนามัยส่วนบุคคล
• เพิม
่ โอกาสในการไดรั
อในการรับ
้ บความรวมมื
่
วัคซีน
– วัคซีนป้องกันการป่วยหรือป่วยรุนแรง
– แมไม
้ แตช
้ ป
่ ้ องกันการติดเชือ
่ ่ วยลดโอกาสในการ
แพรเชื
้
่ อ
ว่ ไป(อายุ
>30)รู
ว
าตั
วเองยั
งไม่
้คนทัวไม
้
่
–ต
เป็้องให
นโรคแล
มี
ภ
ม
ู
ิ
ต
องฉี
ด
กระตุ
นตามเกณฑ
้
่
้
้
์
การสรางเสริ
มภูมค
ิ ุมกั
้
้ น
• ทาไดครบถ
วน
(ตามเกณฑ ์ เข็มทีส
่ อง)
้
้
ทุกอาเภอภายใน 3 เดือน โดยไดแบ
้ ง่
กลุมเป
่ ้ าหมายเป็ นสองลักษณะ ไดแก
้ ่
– กลุมประชากรทั
ว่ ไป โดยให้แตละพื
น
้ ที่
่
่
กาหนดจานวนกลุมเป
่ ้ าหมาย จานวนวัคซีน
ทีต
่ องการและปฏิ
ทน
ิ การปฏิบต
ั งิ าน
้
– กลุมเป
่ ้ าหมายพิเศษ
• เจ้าหน้าทีส
่ าธารณสุข
• ผู้ทีม
่ โี อกาสสั มผัสคนเป็ นจานวนมาก ไดแก
้ ่
พนักงานห้างสรรพสิ นค้า แมค
่ ้าพอค
่ ้า
พนักงานรานอาหาร ผูหญิงบริการ คนขาย