บรรยาย เรื่อง สถานการณ์และการดำเนินงานโรคคอตีบในพื้นที่ สคร. 7 อบ.

Download Report

Transcript บรรยาย เรื่อง สถานการณ์และการดำเนินงานโรคคอตีบในพื้นที่ สคร. 7 อบ.

สถานการณ์ และมาตรการดาเนินงานโรคคอตีบ
โดย....เกศรา แสนศิริทวีสุข
สานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอบ.
พค.
2555
มิย.
กค.
สค.
กย.
ตค.
กรม คร. สง่ ทีมสานักระบาดวิทยา และ สคร. สนับสนุน สสจ. สอบสวน ควบคุมโรค
ั ดาห์
กรม คร. ประสานสงั่ การโดย war room และ VDC กับ สคร. ประจาสป
• กรม คร. หารือ
ปลัดฯ ไพจิตร
และผู ้ตรวจฯ
• ปลัดฯ ประชุม
สสจ.8 จว.โดย
VDC 26 กย.
อธิบดี คร. ให ้
นโยบายระดมกาลัง
คร. ชว่ ยควบคุมโรค
กรม คร. หารือปลัดฯ
ณรงค์ ปลัดฯ ให ้จัด
ประชุม ที่ จ.เลย
ปลัด สธ.ให ้ยก
ระดับความร่วมมือ
เร่งรัดควบคุมโรคให ้
สงบโดยเร็ว
เกิดการระบาดใน
สปป.ลาว สธ. สง่
DAT ไปชว่ ย
เริม
่ พบผู ้ป่ วยใน
้
อ.ด่านซาย
จ.เลย สว่ นใหญ่
เป็ นผู ้ใหญ่
ผู ้ป่ วยใน อ.ด่าน
้ มีมากขึน
ซาย
้ สว่ น
ใหญ่เป็ นผู ้ใหญ่
และพบผู ้ป่ วยใน
อ. ผาขาว
การระบาดใน อ.
้ ง
ด่านซายยั
ขยายตัว พบ
ผู ้ป่ วยใน
อ. ภูหลวง
การระบาดใน
้ ชะลอ
อ.ด่านซาย
ตัว พบการระบาด
ในโรงเรียน อ.
วังสะพุง พบ
ผู ้ป่ วยใน จ.
เพชรบูรณ์ และ
หนองบัวลาภู
การระบาดใน
อ.วังสะพุง ชะลอ
ตัว พบผู ้ป่ วยใน
จ. อุดร และ
ั ใน
ผู ้ป่ วยสงสย
จ.สกลนคร
พบผู ้ป่ วยเด็ก
ทารกจากฝั่ งลาว
สถานการณ์โรคคอตีบระบาดใน สปป.ลาว ไม่มีข้อมูลชัดเจน คาดว่ายังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง
18 Oct
2012
จานวนผู้ป่วยคอตีบตามวันเริ่มป่ วย แยกรายทีพ่ บในสถานพยาบาล
และทีค่ ้ นหาเพิม่ เติม (จากข้ อมูล ๕๙ ราย)
จานวนผูป้ ่ วย (ราย)
8
7
6
5
4
3
2
1
ผูป
้ ่ วยร ับร ักษาในสถานพยาบาล
เลย (๒๘ ราย)
เพชรบูรณ์ (๔ ราย)
หนองบัวลาภู (๑ ราย)
ผูป
้ ่ วยค้นหาเพิม
่ เติมในชุมชน
เลย (๑๘ ราย)
เพชรบูรณ์ (๖ ราย)
หนองบัวลาภู (๒ ราย)
20 22 24 26 28 30 2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26 28 30 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 25 27 29 31 2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26
มิถุนายน
กรกฎาคม
สงิ หาคม
กันยายน
ว ันเริม่ ป่ วย
จำนวนผูป้ ่ วยสะสม รำยจังหวัด พ.ศ. 2555
จ ังหว ัด
ยืนย ัน
ั
สงสย
พาหะ
26 (to be clarified)
ี ชวี ต
เสย
ิ
First onset
Last onset
2
24 Jun
7 Oct
เลย
27
อุดร
1
0
0
0
เพชรบูรณ์
4
1
13
0
2 Aug
19 Oct
หนองบัวลาภู
4
4
3
0
9 Sep
9 Oct
สุราษฎร์ธานี
1
1
0
0
4 Oct
4 Oct
ปั ตตานี
5
0
0
0
13 Jul
13 Sep
ยะลา
3
0
0
2
15 Jan
4 Oct
ี งราย
เชย
0
1
0
0
6 Feb
6 Feb
ั ภูม*ิ
ชย
0
1
0
0
17 Oct
17 Oct
ลพบุร*
ี
0
1
0
0
19 Oct
19 Oct
พิษณุโลก*
0
1
0
0
21 Oct
21 Oct
45
36
16
4
15 Jan
19 Oct
รวม
* จังหวัดใหม่ทพี่ บผู้ป่วยสงสัย(ข้อมูล ณ.วันที่ 2 พ.ย 55)
พื้นที่เสี่ ยงต่อกำรเกิดโรคคอตีบ
ี่ ง
ความเสย
พบผู ้ป่ วย
ยืนยัน
จ ังหว ัด
7 จังหวัด: เลย เพชรบูรณ์
หนองบัวลาภู สุราษฎร์ธานี
ยะลา ปั ตตานี อุดรธานี
ั 6 จังหวัด: เชย
ี งราย สกลนคร
พบผู ้ป่ วยสงสย
ั ภูม ิ ลพบุร ี
/ เหตุการณ์
อุดรธานี ชย
ผิดปกติ
พิษณุโลก
พืน
้ ทีต
่ ด
ิ กับ
พืน
้ ทีเ่ กิดโรค
10 จังหวัด: น่าน พะเยา
อุตรดิตถ์ หนองคาย พิจต
ิ ร
นครสวรรค์ ขอนแก่น
ี า นราธิวาส สงขลา
นครราชสม
พืน
้ ทีแ
่ รงงาน
ต่างด ้าว
17 จังหวัด
พืน
้ ทีเ่ ฝ้ าระวัง
ปกติ
47 จังหวัด
๕ ระดับ สี =แดง บำนเย็น ส้ม เหลือง เทำ
ถ้ าท่ านพบหรือรับรายงานผู้ป่วยสงสั ยคอตีบ 1 ราย
ท่ านจะทาอย่ างไรต่ อไป ?
โรคคอตีบ
► เป็ นโรคติดเชื้อเฉี ยบพลันของระบบทำงเดินหำยใจ ซึ่ งทำให้เกิดกำรอักเสบ
มีแผ่นเยือ่ เกิดขึ้นในลำคอ
► ในรำยที่รุนแรงจะมีกำรตีบตันของทำงเดินหำยใจ จึงได้ชื่อว่ำโรคคอตีบ ซึ่ ง
อำจทำให้ถึงตำยได้
► พิษ (exotoxin) ของเชื้อจะทำให้มีอน
ั ตรำยต่อกล้ำมเนื้อหัวใจ และ
เส้นประสำทส่ วนปลำย
สำเหตุ
► เกิดจำกเชื้อแบคทีเรี ย Corynebacterium diphtheriae (C.
diphtheriae) ซึ่งมีรูปทรงแท่งและย้อมติดสี แกรมบวก
► มีสำยพันธุ์ที่ทำให้เกิดพิษ (toxigenic)
(nontoxigenic)
► พิษที่ถูกขับออกมำจะไปที่กล้ำมเนื้ อหัวใจ
และปลำยประสำท ทำให้เกิดกำรอักเสบ
และไม่ทำให้เกิดพิษ
ระบำดวิทยำ
► พบอยู่ในคนเท่ านั้น โดยจะพบอยู่ในจมูกหรือลาคอของผู้ป่วยหรือผู้ตด
ิ เชื้อ โดยไม่
มีอาการ (carrier) แต่ สามารถแพร่ เชื้อได้
► ติดต่ อกันได้ ง่าย Droplet and contact
► 2-6
weeks transmissible without
treatment, communicable<4 days after
appropriate antibiotics
► พิษ (exotoxin) ของเชื้อจะทาให้ มีอน
ั ตรายต่ อกล้ามเนือ้ หัวใจ และ
เส้ นประสาทส่ วนปลาย
► อัตราป่ วยตาย (case-fatality rate) ประมาณร้ อยละ 10-30
► ส่ วนใหญ่ ของผู้ป่วยทีพ
่ บจะอยู่ในชนบทหรือในชุ มชนแออัด ซึ่งมีเด็กที่ยงั ไม่ ได้ รับ
วัคซีนหรือได้ รับไม่ ครบเป็ นจานวนมาก
ระยะฟักตัวและกำรแพร่ เชื้อ
► ระยะฟั กตัวของโรคส่ วนใหญ่อยูร่ ะหว่ำง 2-5 วัน อำจพบนำนกว่ำนี้ ได้
► เริ่ มแพร่ เชื้อได้ต้ งั แต่ก่อนเริ่ มป่ วย และเชื้อจะอยูใ่ นลำคอของผูป
้ ่ วยที่ไม่ได้
รับกำรรักษำได้ประมำณ 2 สัปดำห์ แต่บำงครั้งอำจนำนถึงหลำยเดือนได้
► ผูท
้ ี่ได้รับกำรรักษำเต็มที่เชื้อจะหมดไป ภำยใน 1-2 สัปดำห์
Diphtheria – Clinical features
► Clinical




manifestations:
85-90%
50-85%
26-40%
50%
► Toxin
Sore throat
low grade fever
dysphagia
membrane
mediated
 myocarditis, polyneuritis, renal tubular necrosis
and other systemic toxic effects
Dirty white patches
over tonsils and
posterior pharyngeal wall
Diphtheria
Milky white patches over tonsils
Infectious mononucleosis
Enlarge and injected tonsils
Acute tonsillitis
Enlarge and injected tonsils
Acute tonsillitis
Throat
swab
การเก็
บต ัวอย่า(TS)
ง
ว ัสดุอป
ุ กรณ์
่ งคอ
1. ไฟฉายกาล ังแรงสาหร ับสอ
้ื
2. ไม้ swab ปราศจากเชอ
ื้
3. ไม้กดลิน
้ ปราศจากเชอ
4. Amies’ transport medium
Throat swab (TS)
อุปกรณ์ในการเก็บตัวอย่าง
ไม้กดลิน
้
ไม้พ ันสาลี
Amies trasport media
Throat swab
(posterior pharyngeal swab)
Indication for sampling: Resp. symptom (direct detection)
How to take the sample:
• Hold tongue away with tongue depressor
• Locate areas of inflammation and exudate
posterior pharynx, tonsillar region of
throat behind uvula
in
• Avoid swabbing soft palate; do not touch tongue
• Rub area back and forth with cotton or
Dacron swab
WHO/CDS/EPR/ARO/2006.1
Throat swab (TS)
วิธก
ี าร ...
้
่ งตรวจ
1. สวม mask ขณะเก็บตัวอย่าง และใชไฟฉายส
อ
ตรวจดูคอหาบริเวณอักเสบทีม
่ ท
ี ม
ี่ แ
ี ผ่นเยือ
่ สเี ทา
้ ้กดลิน
้ ้ swab ถูบริเวณสองข ้างของ
2. ใชไม
้ ผู ้ป่ วยและใชไม
tonsil และ Posterior pharynx
3. นา swab จุม
่ ลงใน Amies trasport media
ื่ -นามสกุล วันเวลาทีเ่ ก็บตัวอย่างของผู ้ป่ วยทีข
4. ระบุชอ
่ ้าง
ั เจน
หลอดให ้ชด
Tonsil
Throat swab (TS)
Posterior pharynx
่ ต ัวอย่าง
การนาสง
• บรรจุ swab ทีจ
่ ม
ุ่ ลงใน Amies trasport media
่ ต ัวอย่างสง
่ ห้องปฏิบ ัติการภายใน
พร้อมใบนาสง
24 ชว่ ั โมงไม่ตอ
้ งแชเ่ ย็น
• กรณีมากกว่า 24 ชว่ ั โมงให้เก็บ swab ทีจ
่ ม
ุ่ ลง
ใน Amies trasport media ในตูเ้ ย็น 2-8 องศา
ี ส แล้วนาสง
่ ทีอ
เซลเซย
่ ณ
ุ หภูมห
ิ อ
้ งหรือแชเ่ ย็น
• ต ัวอย่างเก็บไว้ได้ไม่เกิน 72 ชว่ ั โมง
VDO Throat swab
https://www.facebook.co
m/ptorng.xr
VDO
Corynebacterium
diphtheriae &
Diphtheria
https://www.youtube.co
m/watch?feature=player
_embedded&v=bedJdX
AK6F4
https://www.facebook.
com/ptorng.xr
https://www.youtube.c
om/watch?feature=pla
yer_embedded&v=Vjq
9jRBEklg#!
นิยามโรคคอตีบ
Suspected case หมำยถึง ผูป้ ่ วยที่มีไข้ และ เจ็บคอ หรื อได้รับกำรวินิจฉัยเป็ นคอ
อักเสบ หรื อกล่องเสี ยงอักเสบ หรื อต่อมทอมซิลอักเสบ ร่ วมกับมีแผ่นฝ้ ำสี ขำว ปนเทำในลำคอ
หรื อจมูก
Probable case หมำยถึง ผูป้ ่ วยสงสัย ที่มีปัจจัยเสี่ ยงอย่ำงน้อย 1 ข้อ ดังนี้
- มีประวัติสมั ผัสใกล้ชิดกับผูป้ ่ วยยืนยันโรคคอตีบ ภำยใน 14 วัน ก่อนป่ วย
- มีประวัติเดินทำงมำจำกอำเภอที่พบผูป้ ่ วยยืนยันโรคคอตีบ ภำยใน วัน ก่อนป่ วย
- มีอำกำรคอบวม(bull neck)
- มีอำกำรทำงเดินหำยใจอุดตัน
- มีภำวะกล้ำมเนื้อหัวใจอักเสบ หรื อพบ motor paralysis ภำยใน 6 สัปดำห์
หลังเริ่ มป่ วย
- เสี ยชีวติ
นิยามโรคคอตีบ
Confirmed case หมำยถึง ผูป้ ่ วยสงสัย/ผูป้ ่ วยน่ำจะเป็ น ที่มีผลเพำะ
เชื้อจำกลำคอ พบเชื้อ Toxigenic strain Corynebacterium
diphtheriae จำกตัวอย่ำงในลำคอ จมูก ช่องหู เยือ่ บุตำ ช่องคลอด หรื อจำก
บำดแผลผิวหนัง
Close contact หมำยถึง ผูท้ ี่ได้สมั ผัสติดต่อคลุกคลีกบั ผูป้ ่ วยในช่วง
14 วัน นับจำกวันเริ่ มป่ วยของผูป้ ่ วยคอตีบ ซึ่งมีโอกำสได้รับเชื้อโดยตรงจำกกำร
ไอ จำม รดกัน พูดคุยกันในระยะใกล้ชิด หรื อ กำรใช้ภำชนะร่ วมกัน เช่น แก้วน้ ำ
ช้อน หรื อกำรดูดอม ของเล่นร่ วมกันในเด็กเล็ก
Carrier case หมำยถึง ผูไ้ ม่มีอำกำร หรื อมีอำกำรเล็กน้อย เช่น เจ็บคอ แต่
อำกำรไม่ เข้ำกับนิยำมผูป้ ่ วยสงสัย ที่ผลตรวจเพำะเชื้อสำรหลัง่ จำกลำคอพบ
Corynebacterium diphtheriae
* ไม่แนะนำให้ส่งตรวจหำ toxigenic strain ในพื้นที่ที่พบผูป้ ่ วยยืนยัน
แล้ว
การคัดกรองผู้ป่วยเพิ่มเติม
• จากชุมชนที่พบผู้ป่วยคอตีบ หรื อผู้ป่วยสงสัยคอตีบ
• จากผู้สมั ผัสใกล้ ชิดผู้ป่วยคอตีบ หรื อผู้ป่วยสงสัยคอตีบ ทัง้ วงที่ 1 และ 2
– ให้ ทา TS ให้ ยาปฏิชีวนะ และติดตามอาการและการกินยาจนครบกาหนด
ค้ นหาผู้ป่วยเพิม่ เติม และติดตามอาการและกินยา
ผู้ป่วยสงสัยคอตีบ
ค้ นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม
ในหมู่บ้าน ต่ อเนื่อง 14 วัน
หมู่บ้าน
ผู้ป่วย
หมู่บ้าน
ใกล้ เคียง
หมู่บ้าน
Exposed
ค้ นหาผู้สัมผัสใกล้ ชดิ
ร่ วมบ้ าน ร่ วมงาน
ค้ นหาผู้สัมผัส
ใกล้ ชดิ ของผู้
ที่มีอาการป่ วย
ค้ นหาผู้สัมผัส
ใกล้ ชดิ ของผู้
ที่ไม่ ป่วย
ติดตามสอบถามอาการป่ วยทุกคน และตามการกินยา จนครบ 14 วัน
กิจกรรมที่ต้องดาเนินการ
ผู้ป่วยสงสัยคอตีบ
ค้ นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม
ในหมู่บ้าน ต่ อเนื่อง 14 วัน
หมู่บ้าน
ผู้ป่วย
หมู่บ้าน
ใกล้ เคียง
หมู่บ้าน
Exposed
ค้ นหาผู้สัมผัสใกล้ ชิด
ร่ วมบ้ าน ร่ วมงาน
ค้ นหาผู้สัมผัส
ใกล้ ชิดของผู้
ที่มีอาการ
ป่ วย
ค้ นหาผู้สัมผัส
ใกล้ ชิดของผู้
ที่ไม่ ป่วย
การให้ ยาปฏิชีวนะ DAT
การให้ วคั ซีนในหมูบ่ ้ านที่พบผู้ป่วย หมุบ่ ้ านข้ างเคียง และหมูบ่ ้ านที่เกี่ยวข้ อง
การติดตามอาการ และการกินยา
เครื่องมือควบคุมป้ องกันโรคคอตีบ
• Diphtheria toxoid: กลุ่มเสี่ ยง ลดกำรป่ วยตำย
• Diphtheria anti-toxin: ลด complication
• Antibiotics: Erythromycin, Roxithromycin, PGs
ช่วยกำจัดและลดจำนวนเชื้อในลำคอ
• โรคแทรกซ้อนทำงหัวใจและทำงเส้นประสำท ให้กำรรักษำประคับประคอง
ตำมอำกำร
• ผูป้ ่ วยเด็กโรคคอตีบจะต้องพักเต็มที่ อย่ำงน้อย 2-3 สัปดำห์ เพื่อป้ องกันโรค
แทรกซ้อนทำงหัวใจ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นปลำยสัปดำห์ที่ 2
• Non-pharmaceutical: mask, alcohol gel
• Person: isolation, ติดตำมอำกำร กำรกินยำ และสอบสวนโรค
มาตรการในผู้ป่วย (Case management)
• ให้ Diphtheria Antitoxin (DAT) และยาปฏิชีวนะตามมาตรฐานการ
รักษา และติดตามอาการตามมา เช่ น กล้ามเนือ้ หัวใจอักเสบ
• แยกผู้ป่วยจนกว่ า ผลเพาะเชื้อให้ ผลลบติดต่ อกัน 2 ครั้ง ห่ างกันอย่ างน้ อย
24 ชั่วโมง ภายหลังหยุดให้ ยาปฏิชีวนะ
• เพือ่ เสริมภูมิคุ้มกันสาหรับผู้ป่วยคอตีบ ให้ Diphtheria Toxoid
จานวน 3 ครั้ง แก่ผู้ป่วยทุกราย โดยเริ่มให้ วคั ซีนเข็มแรกก่ อนผู้ป่วยกลับ
บ้ านระยะห่ างระหว่ างเข็ม 1 เดือนและชนิดวัคซีนขึน้ กับอายุผู้ป่วยดังนี้
– ถ้ าผู้ป่วยอายุ ≥ 7 ปี ให้ dT
– ถ้ าผู้ป่วยอายุ < 7 ปี ให้ DT
มาตรการในผู้สัมผัส (Close contact)
• ค้นหำผูส้ มั ผัสใกล้ชิด ได้แก่ ผูท้ ี่ได้สมั ผัสติดต่อคลุกคลีกบั ผูป้ ่ วยในช่วง 14
วัน นับจำกวันเริ่ มป่ วยของผูป้ ่ วยรำยนี้ ติดต่อจำกกำรไอ จำม พูดคุยกันใน
ระยะใกล้ชิด หรื อใช้ภำชนะร่ วมกัน
• ติดตำมดูอำกำรทุกวันเป็ นเวลำ 14 วัน ว่ำมีอำกำรโรคคอตีบหรื อไม่ ถ้ำมี
อำกำรให้กำรรักษำแบบผูป้ ่ วยทันที และให้เพำะเชื้อจำกลำคอ (Throat
swab) ก่อนให้ยำ erythromycin 40-50 mg/kg/day รับประทำน ≥7 วัน
– กรณีไม่ มีอาการ และเพำะเชื้อได้ผลบวก ให้ดำเนินกำรแบบเป็ นพำหะ
– กรณีมีอาการ และเพำะเชื้อได้ผลบวก ให้ดำเนินกำรแบบผูป้ ่ วยคอตีบ
– กรณีมีอาการ แต่เพำะเชื้อได้ผลลบ ให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยอีกครั้ง
มาตรการในผ้ ูสัมผัส (Close contact)
• ไม่แนะนำให้ฉีด DAT ในผูส้ ัมผัสโรค เพื่อลดกำรแพ้
• ให้วคั ซีน DTP หรื อ dT ตำมเกณฑ์อำยุทนั ที โดยพิจำรณำจำกประวัติกำร
ได้รับวัคซีน DTP ในอดีตดังนี้
– กรณี เด็กไม่เคยได้รับวัคซี น หรื อได้ไม่ครบ 3 ครั้ง หรื อไม่ทรำบ ให้ DTP
สูตร 0, 1, 2 เดือน(ระยะห่ำงระหว่ำงเข็ม 1 เดือน)
– กรณี ที่เด็กได้รับวัคซี นครบ 3 ครั้งแล้ว แต่ยงั ไม่ได้รับกำรกระตุน้ ภำยใน 1 ปี ให้
ฉี ด dT 1 เข็ม
– กรณี ที่เด็กได้รับวัคซี น 4 ครั้ง แต่ครั้งสุ ดท้ำยนำนเกิน 5 ปี ให้ฉีด dT 1 เข็ม
– กรณี ที่เด็กได้รับวัคซี น 4 ครั้ง ครั้งสุ ดท้ำยไม่เกิน 5 ปี หรื อได้รับวัคซี นครบ 5
ครั้งแล้ว ไม่ตอ้ งให้วคั ซี นอีก
มาตรการในพาหะ (Carrier)
• ช่วงที่เป็ นผู้สัมผัสใกล้ ชิด ให้รับประทำนยำ erythromycin เป็ นเวลำ 7 วัน
และเก็บตัวอย่ำง Throat swab ส่ งตรวจเบื้องต้น
• เมื่อผลเพำะเชื้อจำกลำคอเบื้องต้นเป็ นบวก สงสัยเชื้อ C. diphtheriae และยัง
ไม่มีอำกำร จัดเป็ นพาหะ ให้รับประทำนยำ erythromycin ต่ออีก 7 วัน
• เมื่อผลเพำะเชื้อยืนยันจำกกรมวิทยำศำสตร์กำรแพทย์ พบเชื้อ C. diphtheriae ที่
มียนี ผลิตสำร Toxin เมื่อรับประทำนยำครบแล้วให้ส่งเพำะเชื้อในสำรเลี้ยงเชื้อ
Loffler blood agar ซ้ ำอีก 2 ครั้งห่ ำงกัน 24 ชัว่ โมง
• ถ้ำผลเพำะเชื้อจำกลำคอเป็ นผลบวกให้ยำ erythromycin รับประทำนต่อไป
และเพำะเชื้อจำกลำคอช้ ำอีกครั้งจนเป็ นผลลบ
• ให้วคั ซีนเช่นเดียวกับมำตรกำรในผูส้ มั ผัส
• ติดตำมผลกำรเพำะเชื้อและรับประทำนยำอย่ำงใกล้ชิดเป็ นเวลำ 14 วัน
แบบรายงานคอตีบ
•
•
•
•
•
•
•
คอตีบ1 แบบสอบสวนโรคผูป้ ่ วยสงสัยและผูป้ ่ วยคอตีบ
คอตีบ2 แบบค้นหำผูส้ ัมผัสคอตีบ
คอตีบ3 แบบติดตำมอำกำรสำหรับผูส้ ัมผัสใกล้ชิดผูป้ ่ วยคอตีบ
คอตีบ 4 ทะเบียนกำรตรวจ Throat swab
คอตีบ 5 ใบบันทึกผูป้ ่ วย/ผูส้ งสัยโรคคอตีบ
คอตีบ 6 แบบค้นหำผูป้ ่ วยสงสัยคอตีบในชุมชน
คอตีบ 7 แบบสัมภำษณ์เฝ้ ำระวังโรคคอตีบเชิงรุ กโดย อสม.
แนวทางการตรวจ
วินิจฉัยและให้ ยา
ปฏิชีวนะสาหรั บ
ผู้ป่วยสงสัยคอตีบ
แนวทางการตรวจ
วินิจฉัยและให้ ยา
ปฏิชีวนะสาหรั บ
พาหะ
แนวทางการตรวจ
วินิจฉัยและรั กษา
ผู้สัมผัสใกล้ ชดิ ผู้ป่วย
้ ทีร่ ะบาด
พืน
ี่ ง
้ ทีเ่ สย
พืน
้ ทีอ
พืน
่ น
ื่ ๆ
้ ทีเ่ พือ
การกาหนดพืน
่ การเฝ้าระว ังป้องก ันควบคุม
โรคคอตีบ
้ ทีห
(พืน
่ น่วยน ับเป็นอาเภอ) เป็น 4 ระด ับ
้ ทีร่ ะบาด
1.พืน
ั
้ ทีส
2.พืน
่ งสย
ี่ ง
้ ทีเ่ สย
3. พืน
้ ทีอ
4. พืน
่ น
ื่ ๆ
้ ทีร่ ะบาดคอตีบ
นิยามพืน
้ ทีร่ ะบาด ได ้แก่ อาเภอทีพ
1.พืน
่ บผู ้ป่ วยยืนยันโรคคอตีบหรือ
ผู ้ป่ วยน่าจะเป็ น หรือพาหะ
ั หมายถึง อาเภอทีพ
ั
้ ทีส
2. พืน
่ งสย
่ บผู ้ป่ วยสงสย
ี่ ง หมายถึง อาเภอทีอ
้ ทีเ่ สย
3. พืน
่ ยูใ่ กล ้เคียงกับพืน
้ ทีก
่ ารระบาด
้ ทีต
4. พืน
่ ด
ิ ตามต่อเนือ
่ ง หมายถึง พืน
้ ทีร่ ะบาดทีไ่ ม่พบผู ้ป่ วย
ั ผัส
คอตีบ และพาหะจากการค ้นหาผู ้ป่ วยเพิม
่ เติมในชุมชนหรือผู ้สม
ิ เป็ นเวลา 14 วัน ทัง้ นีห
ใกล ้ชด
้ ลังจากผู ้ป่ วยคอตีบและพาหะ
ื้ ซ้า
รายสุดท ้ายรับประทานยาครบ 14 วันและผลตรวจเพาะเชอ
ื้ Corynebacterium diphtheriae ด ้วย
ไม่พบเชอ
้ ทีร่ ะยะปลอดภ ัย หมายถึง พืน
5. พืน
้ ทีต
่ ด
ิ ตามต่อเนือ
่ งทีไ่ ม่พบผู ้ป่ วย
ั คอตีบ ผู ้ป่ วยคอตีบ และพาหะเป็ นเวลา 1 เดือน หลังจาก
สงสย
ดาเนินงานควบคุมโรคครบตามทีก
่ าหนด
้ ทีป
6. พืน
่ กติ หมายถึง พืน
้ ทีท
่ ไี่ ม่ได ้กับนิยาม พืน
้ ทีร่ ะบาด พืน
้ ที่
ั พืน
ี่ ง พืน
สงสย
้ ทีเ่ สย
้ ทีต
่ ด
ิ ตามต่อเนือ
่ ง และพืน
้ ทีร่ ะยะปลอดภัย
้ ที่
มาตรการตามระด ับพืน
Area
endemic
area
War
room

contact
case
Dx & Tx
Mop up
catch up
surveillance
active
surveillance











mangemen
t

all
Suspected
area




<15 Y
risk area



<15 Y
non risk
area

การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
• 1.พื้นที่ (อำเภอ) ที่พบผูป้ ่ วยโรคคอตีบหรื อพื้นที่ที่สงสัยว่ำเป็ นพื้นที่ที่มีกำรแพร่ เชื้อ
1.1 active case finding and contact case management
- สอบสวนโรคและค้นหำผูส้ มั ผัสโรค
- ติดตำมผูท้ ี่ได้รับยำให้ได้รับคำแนะนำและกินยำปฏิชีวนะตำมเกณฑ์(โดยอสม.)
1.2 MOP UP Vaccination เร่ งให้วคั ซี นโดยให้ภูมิคุม้ กันเสริ มด้วย dT 2 ครั้ง ทุกคน
เพื่อป้ องกันควำมรุ นแรงหำกมีกำรติดเชื้อ โดยไม่เน้นประวัติกำรฉี ดวัคซี น และให้เข็มแรก
แล้วเสร็จภำยใน 2 สัปดำห์ ยกเว้นมีหลักฐำนว่ำได้รับวัคซีนครบถ้วน
1.3 Catch UP Vaccination หลังจำกดำเนินกำรข้อ ที่ 1.2 แล้ว 1 เดือนให้วคั ซี น
เก็บตกในเด็กตำมระบบปกติ
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
1.3 Active surveillance
- จัดระบบเฝ้ ำระวังเชิงรุ ก อำกำรไข้ เจ็บคอ ฝ้ ำสี เทำในคอ โดย อสม. สัปดำห์ละ 2 ครั้ง
รำยงำนส่ งต่อโรงพยำบำลส่ งเสริ มสุ ขภำพตำบล และโรงพยำบำลชุมชน
1.4 Early diagnosis and treatment จัดให้มีกำรวินิจฉัย รักษำตำมแนวทำงฯ
ตลอดจนกำรส่ งต่อผูป้ ่ วยให้ทนั ท่วงที
1.5 Risk communication กำรสื่ อสำรควำมเสี่ ยง เรื่ องกำรป้ องกันโรคแก่ประชำชน
ทัว่ ไป อสม. ชุมชน บุคลำกรสำธำรณสุ ข และในกลุ่มเสี่ ยงต่ำงๆ เช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรี ยน
1.6 war room จัดตั้งศูนย์ปฏิบตั ิกำรฯ โดยนำยแพทย์สำธำรณสุ ขจังหวัดเป็ นผูส้ งั่ กำร
ประชุมติดตำมสถำนกำรณ์ ระดมทรัพยำกรดำเนินกำร อย่ำงน้อยสัปดำห์ละ 2 ครั้ง และให้
รำยงำนให้ปลัดกระทรวงสำธำรณสุ ขทรำบผลปฏิบตั ิงำนเป็ นระยะ อย่ำงน้อยสัปดำห์ละครั้ง
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
2.พื้นที่เสี่ ยงที่มีโอกำสสู งจะพบผูป้ ่ วย (พื้นที่ระดับอำเภอที่อยูต่ ิดกับพื้นที่ 1)
2.1 ให้วคั ซี นเก็บตก(catch up) ตำมระบบปกติ สำหรับเด็กอำยุต่ำกว่ำ ๑๕ ปี
กรณี เด็กอำยุ ๗ - ๑๕ ปี ที่ไม่ทรำบประวัติให้ dT สองครั้งห่ำงกันหนึ่ งเดือน และให้
ดำเนินกำรฉี ดวัคซี นเข็มแรกแล้ว เสร็จภายใน สองสั ปดาห์
2.2 ทบทวนควำมรู้ แพทย์ พยำบำล และเจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุ ข ในเรื่ องโรคคอตีบ กำร
วินิจฉัย กำรรักษำ ตลอดจนแนวทำงกำรส่ งต่อผูป้ ่ วยภายในหนึ่งสั ปดาห์
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
2.3Risk communication กำรสื่ อสำรควำมเสี่ ยง เรื่ องกำรป้ องกันโรคแก่
ประชำชนทัว่ ไป อสม ชุมชน บุคลำกรสำธำรณสุ ข และในกลุ่มเสี่ ยงต่ำงๆ เช่น ศูนย์
เด็กเล็ก โรงเรี ยน
2.4war room จัดตั้งศูนย์ปฏิบตั ิกำรฯ โดยนำยแพทย์สำธำรณสุ ขจังหวัด เป็ นผูส้ ั่งกำร
ประชุมติดตำมสถำนกำรณ์ประเมินควำมเสี่ ยง ติดตำมผลกำรดำเนินงำนตำมข้อ 2.1
และ 2.2 อย่ำงน้อยสัปดำห์ละครั้ง และให้รำยงำนให้ปลัดกระทรวงสำธำรณสุ ขทรำบ
ผลปฏิบตั ิงำนเป็ นระยะอย่ำงน้อยสัปดำห์ละครั้ง
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
•
•
•
•
•
3.พื้นที่อื่นๆ นอกจำก 1 และ 2
3.1 ให้วคั ซีนเก็บตก(catch up) ตำมระบบปกติ
3.2 ทบทวนควำมรู ้แก่แพทย์ พยำบำล และเจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุ ข ใน
เรื่ องโรคคอตีบ กำรวินิจฉัย กำรรักษำ ตลอดจนแนวทำงกำรส่ งต่อผูป้ ่ วย
3.3 Risk communication กำรสื่ อสำรควำมเสี่ ยง เรื่ องกำรป้ องกันโรค
แก่ประชำชนทัว่ ไป อสม ชุมชน บุคลำกรสำธำรณสุ ข และในกลุ่มเสี่ ยง
ต่ำงๆ เช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรี ยน
3.4 นำยแพทย์สำธำรณสุ ขจังหวัด ติดตำมสถำนกำรณ์กำรเกิดโรค
ร่ วมกับสำนักงำนป้ องกันควบคุมโรคในเขตรับผิดชอบ และให้รำยงำน
ผลกำรดำเนินงำนตำมข้อ 3.1 และ 3.2 ให้ปลัดกระทรวงสำธำรณสุ ข
ทรำบภำยใน 2 สัปดำห์และเมื่อมีเหตุกำรณ์อื่นๆเพิ่มเติม
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
•
•
•
กำรดำเนินกำรในพื้นที่
1.ให้นำยแพทย์สำธำรณสุ ขจังหวัดเป็ นผูบ้ ญั ชำกำรเหตุกำรณ์ในพื้นที่
ดำเนินกำรวิเครำะห์สถำนกำรณ์ สัง่ กำร กำกับ ติดตำมผลกำร
ดำเนินกำร โดยบูรณำกำรทรัพยำกรในจังหวัด และศูนย์วิชำกำรต่ำง
ๆ ในระดับเขตร่ วมกันควบคุมโรคไม่ให้เป็ นปัญหำได้โดยเร็ ว
2.ให้รำยงำนผลกำรดำเนินงำนมำยังกรมควบคุมโรคทุกสัปดำห์ เพื่อ
วิเครำะห์และ แจ้งสำนักงำนปลัดกระทรวง และหน่วยงำนอื่น ๆ ที่
เกี่ยวข้อง และในกรณี มีเหตุกำรณ์พิเศษเพิ่มเติมให้รำยงำน
ปลัดกระทรวงสำธำรณสุ ข ผูต้ รวจรำชกำรกระทรวงสำธำรณสุ ข และ
กรมควบคุมโรคทรำบทันที
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
• สำนักงำนปลัดกระทรวงฯ เป็ นผูส้ ั่งกำร กำกับ ติดตำม ประเมินผลในภำพรวม
• กรมควบคุมโรค เป็ นผูป้ ระสำนงำนหลัก วิเครำะห์ติดตำมสถำนกำรณ์ในภำพรวม
สนับสนุน ทำงวิชำกำร กำรปฏิบตั ิกำร เวชภัณฑ์ และอื่น ๆ แก่หน่วยงำน
ส่ วนกลำงและส่ วนภูมิภำค
• กรมวิทยำศำสตร์กำรแพทย์ บริ หำรจัดกำรให้หอ้ งปฏิบตั ิกำรโรงพยำบำลสำมำรถ
ให้บริ กำรตรวจ เพำะเชื้อทำงห้องปฏิบตั ิกำร ให้มีคุณภำพและเพียงพอ โดยมีศนู ย์
วิทยำศำสตร์กำรแพทย์เขต และกรมวิทยำศำสตร์กำรแพทย์สนับสนุน
• กรมกำรแพทย์ จัดทำแนวทำงกำรรักษำผูป้ ่ วยโรคคอตีบเพิ่มเติม ถ่ำยทอดให้
แพทย์และพยำบำลปฏิบตั ิได้ตำมช่องทำงต่ำง ๆ รวมถึงจัดทีมแพทย์ทปี่ รึ กษำให้
คำปรึ กษำแก่แพทย์ในกำรรักษำผูป้ ่ วยเป็ นรำยกรณี
การสั่ งการโดยปลัดกระทรวงฯ
• กรมสนับสนุนบริ กำรสุ ขภำพ บริ หำรจัดกำร อสม. ดำเนินกำรมำตรกำรเฝ้ ำระวัง
เชิงรุ กในชุมชนพื้นที่ระบำด
• กรมอนำมัย สนับสนุนสุ ขอนำมัยที่ดีในกำรป้ องกันโรคแก่ประชำชนทัว่ ไป และ
ในกลุ่มเสี่ ยงที่อยูร่ วมกัน เช่น โรงเรี ยน ศูนย์เด็กเล็ก โดยบูรณำกำรร่ วมกับ
แนวทำงศูนย์เด็กเล็กปลอดโรค (กรมควบคุมโรค)
• องค์กำรเภสัชกรรม ร่ วมกับกรมควบคุมโรค จัดเตรี ยมเวชภัณฑ์ เช่น วัคซี น
ยำรักษำโรค ให้มีอย่ำงเพียงพอและทันเวลำ
• สำนักงำนหลักประกันสุ ขภำพแห่ งชำติ (สปสช.) สนับสนุนงบประมำณในกำร
ดำเนินกำรแก่จงั หวัดต่ำง ๆ รวมถึงเวชภัณฑ์ต่ำง ๆ ที่จำเป็ น
• ให้มีกำรวิเครำะห์สถำนกำรณ์ สัง่ กำรแก้ไขปั ญหำเพิม่ เติม ติดตำม ประเมินผล
อย่ำงสม่ำเสมอ อย่ำงน้อยสัปดำห์ละครั้ง โดยกรมควบคุมโรคเป็ นผูป้ ระสำนงำน
มาตรการเร่ งด่ วน
• เพิ่มควำมครอบคลุมกำรได้รับวัคซีนขั้นพื้นฐำน (Catch up)
• ค้นหำพื้นที่จำเป็ นต้องได้รับ dT ล่วงหน้ำเพื่อลดอัตรำป่ วยตำยในกลุ่มเสี่ ยง
• ฝึ กทักษะกำรสอบสวนโรคเชิงลึก และกำรค้นหำผูป้ ่ วยผูส้ ัมผัส สำหรับทีม
SRRT ระดับอำเภอ-ตำบล พร้อมศึกษำเรี ยนรู ้มำตรกำรจำกพื้นที่ระบำด
ขณะนี้
• ขยำยศักยภำพกำรตรวจเพำะเชื้อ C. diphtheriae และยืนยันด้วย
Biochemistry ในโรงพยำบำลจังหวัด หรื อศูนย์วิทย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง
• ตั้งศูนย์บญั ชำกำรควบคุมป้ องกันกำรระบำดของโรคคอตีบในจังหวัด
ใกล้เคียงพื้นที่ระบำด
• รำยงำนจำนวนผูป้ ่ วย พำหะ พร้อมทั้งพื้นที่สำหรับประเมินควำมเสี่ ยง และ
เข้ำควบคุมโรคแล้ว เป็ นรำยสัปดำห์
ระบบบัญชาการเพือ่ ป้องกันการระบาดโรคคอตีบ
จังหวัดเลย กันยายน – พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ระดับจังหวัด/อาเภอ
ส่ วนบังคับบัญชาการ
คณะกรรมการตอบโต้ การระบาดโรคคอตีบ
- เป็ นผู้ตัดสินใจ ตอบสนองเหตุการณ์
- มอบหมายงาน
- รับคาแนะนาทั่วไปจากหน่ วยรับผิดชอบ
หน่ วย Logistic
และประสานงาน ทีมบริหารจัดการ
(เลขาฯ การประชุม)
หน่ วยปฏิบัตกิ ารติดตาม
หน่ วยปฏิบัตกิ ารสอบสวน
วิเคราะห์ ข้อมูลและรายงานโรค อาการผู้ป่วยและการกินยา
หน่ วยปฏิบัตกิ ารด้ านวัคซีน
และรายงานผลสาเร็จ
ทีมข้ อมูล และ ทีมสอบสวนโรค ทีมติดตามอาการ ทีมสุขศึกษา และ
Mop-up dT
รายงานโรค
เคลื่อนที่เร็ว
ผู้ป่วย/ผู้สัมผัส
ทีมติดตาม dT/
DTP coverage
แหล่ งที่มาของข้ อมูล: กรมควบคุมโรค
-สานักระบาดวิทยา
ขอบพระคุณค่ ะ
-สานักโรคติดต่ อทั่วไป
-War room กระทรวงสาธารณสุข และ
กรมควบคุมโรค
ข้ อพิจารณา: มาตรการในการดาเนินงานคอตีบ
ให้ ยดึ ตามการสัง่ การจาก WAR ROOM กระทรวงฯ