สำรวจวินิจฉัย สุราษฎร์ธานี

Download Report

Transcript สำรวจวินิจฉัย สุราษฎร์ธานี

การสารวจเตรียมความพรอมเข
าสู
้
้ ่ WSP
รวมกั
บ K-water
่
กรณี กปภ.สาขาสุราษฏรธานี
์
ในระหวางวั
่ นที่
K-Water
• ทีมงาน
วิศวกร
ส่วนกลาง
สนง.ใหญ่
กปภ.
•นักวิทยาศ
าสตรจาก
์
กคน.
1-4 พฤศจิกายน 2554
กปภ.ข.
•ผอ.กปภ.ข
นักวิทยาศา
สตร ์ และ
วิศวกร
จาก
กปภ.
สาขา
• ผจก.
กปภ.
สาขา
หนง.
ผลิต
พนักงา
การดาเนินงานของ K-water
เป้าหมาย :
ปรับปรุงคุณภาพน้าประปา
กลยุทธ ์
: ปรับปรุงโรงกรอง
น้ากม.5
การสารวจ
ขัน
้ ตอน
กระบวนการผลิตจายน
้าคุณภาพน้า
่
เครือ
่ งจักรกล
เครือ
่ งมือ อุปกรณ์
และอืน
่ ๆ
ความขุน
่ 1.0 NTU
ขยายผลไปยัง
กปภ.สาขา
หรือ โรงกรอง
น
า
อื
น
่
้
เสนอแผนปฎิบต
ั ก
ิ าร
การปรับปรุง โรงกรอง
น้า กม. 5 ตามลาดับ
ความสาคัญ
2
1,600
m3/hr.
แหลงน
่ ้า
คลองพุมดวง
สารส้
ม
Mixing
basin
(Cone)
150
mm.
500 m3/hr.
แหลงน
่ ้า
แมน
่ ้าตาปี
น.กาญจน
ดิษฐ ์
Floccula
tion
basin
reuse backwash
water pond
สารส
้
ม
Mixing
Floccul
basin
ation
(Static
basin
Mixer)
Elevated
tank
(Khuan Ta
Sediment
ation
basin
Filter
beds (10)
Sludge
lagoon
Sediment
ation
basin
High lift
pumping station
Filter
beds
(8)
คลอรี
น
Clear water
reservoir 3,000
3
m3 (2)
การดาเนินงานประเมินประสิ ทธิภาพในระบบผลิต โดย K-water
1
คุณภาพน้าในระบบผลิต
9
ระบบกาจัดการรัว่ ไหลของคลอรีน
2
การสรางตะกอน
้
10
อัตราการไหลของน้าดิบ
3
ระบบกวนเร็ว
11
อัตราการจายสารเคมี
่
4
ระบบกวนช้า
12
เครือ
่ งสูบน้า
5
ระบบถังตกตะกอน
13
ระบบไฟฟ้ากาลัง
6
ปริมาณและวิธก
ี ารกาจัดตะกอน
14
หม้อแปลงไฟฟ้า
7
ถังกรอง
15
ระบบ SCADA
8
การฆาเชื
้ โรค
่ อ
16
การจัดการ Mobile Plant
4
ความขุน
่
(NTU)
คลอรีนคงเหลือ
(มก./ล.)
น้าคลองพุมดวง
97
น้ากอนกรอง
่
น้ากรองแลว
้
จุดเก็บตัวอยาง
่
มาตรฐานน้าประปา
ความขุน(NTU)
่
กปภ.
k-Water
0.05
-
-
4.5
0.04
10
1
1.2
1.77
5
0.05
การเติมคลอรีนในน้าดิบ
ควรให้มีคลอรีนคงเหลือ ไม่
มากกวา่ 0.5 มก./ล.
5
เพือ
่ ควบคุมการตกตะกอนมีประสิ ทธิภาพมากทีส
่ ุด
เพือ
่ ให้
น้ากอนเข
าถั
่
้ งกรองมีความขุนต
่ า่
โดยตัง้ เป้าหมายให้ลดจาก 10 NTU ให้เหลือ 2.0 NTU
เพือ
่ ให้น้ากรองแลวมี
้ ความขุนต
่ า่ ลง
และการฆาเชื
้ โรคดวยคลอรี
นมีประสิ ทธิภาพโดยจะลดความ
่ อ
้
6
เสี่ ยงจากการปนเปื้ อนสิ่ งสกปรก
• ความขุน
่
• pH
• ความเป็ นดาง
่
• สารอินทรีย ์
• สารอนินทรีย ์
2) คุณภาพน้า
• ปริมาณ
ระบบ
กวนเร็ว
• ชนิด
• อุณหภูม ิ
1) สารเคมี
• ระยะเวลา
• G value
3) ระบบ/ออกแบบ • แบบใบพัด
• ขนาด
ถังกวนเร็ว
7
ปรับปรุงลาดับการเติมสารเคมี
8
การหาชนิดและปริมาณสารเคมี
ผลจารเทสต
35 มก./ล
์
์ ปริมาณสารส้มทีเ่ หมาะสม
- โรงกรองกม.5 ใช้สารส้ม 20 มก./ล. จึงไดปรั
้ บให้เพ
- ปรากฏวา่ ฟล็อกในถังกวนช้ามีขนาดใหญกว
่ าเดิ
่ ม
- ซึง่ หมายถึงการสมาน/รวมตะกอนเกิดอยางสมบู
รณ ์
่
9
3. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพในระบบกวน
เร็ว
คาG
(Velocity Gradient)
่
= 2,500 ( H/t
) 1/2
เมือ
่ G = G- value (sec)-1
H = Hydraulic loss (m.)
t = retention time (sec)
ปริมาตรของถังกวนเร็ว
กxยxส
= 3 m x 1m x
5m ควรอยูในช
คา่ G ตาม criteria design
่
่ วง
สูตร G
400 – 700 sec-1
10
3. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพในระบบกวนเร็ว คาG
่
(Velocity Gradient)
การคานวณกอนและหลั
งการปรับเปลีย
่ น คา่ G
่
(Velocity Gradient)
ในระบบกวนเร็ว
รายการ
กอนปรั
บ Cone
่
Mixing
25
หลังปรับ Cone
Mixing
75
G (sec-1)
240
410
Turbidity (NTU)
4.75
2.65
Hydraulic loss
,H (cm.)
Remark : คา่ G ตาม criteria design ควรอยูในช
่
่ วง
400 – 700 sec-1
11
ปรับ
3. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพในระบบกวนเร็ว คาG
่
้ ในระบบ
Hydraulic
loss ให้สูงขึน
(Velocity
Gradient)
กวนเร็ว
บริเวณรางจ่ ายสารส้ มอุดตัน
25
cm.
กอนปรั
บระดับการเปิ ด
่
Mixing Cone
75
cm.
หลังปรับระดับการเปิ ด Mixing
Cone
12
3. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพ
ในระบบกวนเร็ว
ปรับปรุงรางจายสารเคมี
ให้จายได
่
่
้
อยางทั
ว่ ถึง
่
จุดจายสารส
่
้ม
เดิม
บริเวณ
จายสาร
่
เส้มไมได
่ ้
ควรปรับปรุงเป็ น
แบบเวียร ์
บริเวณ
จาย
่
สารส้ม
ได้
13
4.การตรวจสอบประสิ ทธิภาพระบบ
กวนช้า หาคา่ G
14
4. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพในระบบ
กวนช้า หาคา่ G
15
4.การตรวจสอบประสิ ทธิภาพในระบบ
กวนช้า หาคา่ G
หาความเร็วรอบในการกวน
การนาคาG
่
ของเครือ
่ งจารเทสต
์
์
16
5.การตรวจสอบ Hydraulic loading
Rate
ในถังตกตะกอน
17
6. การตรวจสอบปริมาณและวิธก
ี ารกาจัด
ตะกอนในระบบผลิต
S : ปริมาณสารทัง้ หมด (ตัน/วัน)
Q : อัตราการไหลน้าดิบ (ลบ.ม./ วัน)
T : ความขุนน
่ (NTU)
่ ้าดิบเฉลีย
E1 : ss/NTU coef.
C: ปริมาณสารส้ม (มก./ล.)
E2 : The coef. Of Alum
18
6. การตรวจสอบปริมาณและวิธก
ี ารกาจัด
ตะกอนในระบบผลิ
ต
- ปริมาณตะกอนแห้ง
10.6 ตัน
- ประกอบดวยน
้าเ
้
99.5 % คานวณเป็ น
ปริมาณสารละลาย
ตะกอน 212 ลบ.ม./
วัน
- หากไมระบาย
่
ตะกอนออก จะสะสม
อยูในพื
น
้ ที่
50%
่
ของถังตกตะกอน
- ในถังตกตะกอนเกิดตะกอน
ฟุ้ง กอนเข
าระบบกรอง
่
้
หลังจากปรับระดับ mixing
cone ซึ่งเกิดจากน้าไหลผาน
่
ถังตกตะกอนเร็วขึน
้
- ควรเรงซ
่ ง
่ ่ อมแซมเครือ
กวาดตะกอนโดย
- ควรมีระบบกาจัดตะกอน
เช่น Sludge Drying Bed 19
7. การตรวจสอบประเมินประสิ ทธิภาพใน
ถังกรอง
ระบบกรองทีด
่ ี
ควรกาจัด
ความขุนได
่
้
หลังลางระบบกรอง
้
ตะกอนเหลือในสาร
กรอง < 10%
20
7. การตรวจสอบประเมิ
นMax
ประสิ ทธิ
ภาพในถั
ง
ชนิดตัวอยางน
้า/รายการ
Min
Average
่
ทดสอบ
กรอง
น้าดิบ
-Turbidity (NTU)
- pH
-Turbidity (NTU)
น้า
-pH
กอน
่
-Turbidity (NTU)
กรอง - pH
น้าประปา-Res. Chlorine
(mg/L)
1,200
7.69
4.21
6.57
3.70
7.60
1.33
23.0
6.70
1.70
6.52
0.71
6.85
1.00
72.0
7.08
2.9
6.53
2.75
7.07
1.15
ความขุ่นของน้ า ก่อนและหลัง ผ่านระบบกรอง =
2.9 และ 2.75 NTU
แสดงวาถั
่ งกรองกาจัดความขุนได
่
้ 5% สาเหตุ
??
21
7. การตรวจสอบประเมินประสิ ทธิภาพใน
ถังกรอง
ทดสอบตะกอนสะสม (SRA-Sludge Retention
Analysis)
ในสารกรอง ถังกรอง
ทดสอบความขุ
นในน
า
ขณะBackwash
้
่
เก็บตัวอยางน
้า
่
ทุก 30 วินาที
22
7. การตรวจสอบประเมินประสิ ทธิภาพใน
ถังกรอง
หาตะกอนสะสม (SRA-Sludge Retention
Analysis) ในทรายกรอง
เก็บตัวอยางทรายกรอง
่
ทุก 10 ซม.
ทราย+น้า+กวน 30 นาที
วัดคาความขุ
น
่
่
23
7. การตรวจสอบประเมินประสิ ทธิภาพในถัง
กรอง
ทดสอบความขุนในน
้าขณะBackwash ถังกรอง เก็บ
่
ตัวอยางน
้า ทุก 30 วินาที
่
เก็บตัวอยางน
้าขณะBackwash
่
ทุก 30 วินาที
วัดความขุนในตั
วอยางน
้า
่
่
24
7. การตรวจสอบประเมินประสิ ทธิภาพในถัง
กรอง
25
7. การตรวจสอบประเมินประสิ ทธิภาพใน
ถังกรอง
ปรับปรุงระบบลางหน
้
้า
ทรายกรอง
ตักโคลนบนทรายออกและ
เพิม
่ ชัน
้ ทราย
26
8. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพการฆาเชื
้
่ อ
โรค
Procedure
Unit
Volume of Clear m3
well (V)
Retention
Min
time(T)
T10/T (B)
CT measured mg/L min
Method
L×W×H
(Worst case = daily lowest level)
V ÷Qmax (hr) ×60 (min/hr)
Tracer test (using Fluorine)
Rule of thumb : 0~1
T×B×C
CTrequired mg/L min
USEPA GUIDANCE MANUAL(19
Ratio of CT
CT measured ÷
CT
required
(=Safety Value)
Safety Value > 1
Evaluation
27
8. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพการฆาเชื
้
่ อ
โรค
○สิ่ งจาเป็ นสาหรับการฆาเชื
้ โรคคือน้ากรอง
่ อ
นต
า่
องมี
คาเชื
วามขุ
่
้
้ อการฆ
ปัจจัยทีม
่ ผ
ี แล
ลตวต
อ
้
โรค
:
่
่
: pH, อุณหภูม,ิ residual chlorine ,อัตราการ
ไหล, ระดับน้า
การเพิม
่ Baffle Wall ในถังน
Baffle Wall
28
9. ตรวจสอบระบบกาจัดการรัว่ ไหลของ
กาซคลอรีน
Cl2 + 2NaOH ↔ NaOCl + NaCl + H2O
ไมมี
่ โซดาไฟ
อยูในถั
ง
่
(20%)
29
10. การตรวจสอบอัตราการไหลของน้า
ดิบ
เหตุผล
อัตราการไหลของน้าดิบเป็ น
ปัจจัยพืน
้ ฐานในระบบประปาอัตราการไหลมี
ความสั มพันธกั
์ บระยะเวลาในระบบประปาทัง้ หมด
ตรวจสอบอัตราการไหลของน้าดิบ
จุดที่ 1
จุดที่ 2
(㎥/hr)
2,064
2,000
จุด
ตรวจสอ
บ
30
11. การตรวจสอบอัตราการจายสารเคมี
่
อัตราการจายสารเคมี
เป็ นสิ่ งทีส
่ าคัญใน
่
กระบวนการผลิตน้า
จึงจาเป็ นต้องมีการตรวจสอบอัตราการจายของ
่
การวัดอัตราจายสารส
มเครื
อ
่
งที
่
2
ตารางอางอิ
ง
่
้ สารเคมี
้
Stroke Q
(%)
(ℓ)
43
5
60
80
5
Time Dozing rate Table
(sec)
(ℓ/hr)
(ℓ/hr)
28.91
579
526
28.34
5
23.58
5
23.24
5
5
17.82
17.40
769
745
1200
1000
800
600
측정값
400
조견표
200
0
1,010
1,005
43
60
80
펌프 Stroke(%)
อัตราการไหลทีท
่ ดสอบไดอยู
เกณฑ ์ ดี: มี
้ ใน
่
ความคลาดเคลือ
่ นตา่ กวา่ 10% เมือ
่ เทียบกับ
ตารางอางอิ
ง
้
39
31
12. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพเครือ
่ งสูบ
น้า
เหตุผล
การสั่ นสะเทือนเป็ นสิ่ งสาคัญในการตรวจสอบ
สภาพเครือ
่ งสูบน้าประปาเพือ
่ การบารุงรักษาเชิง
ป้องกัน
เครือ
่ งสูบน้าแรงสูง กม. 5
Pump
#2
#3
#4
Motor ①
Ver. Hor.
11.8 26.7
14.4 21.2
14.1 27.9
④
③
Motor ②
Pump ③
Pump ④ Result
Ver. Hor. Ver. Hor. Ver. Hor. (ISO10816-7)
5.8 30.9 7.2
13.7 6.2 15.8 D ใช้
ไมได
6.4 13.7 7.2
6.4
3.8
2.5
D ่ ใช้ ้
ไมได
11.2 20.9 7.8
16.9 3.3
3.9
D ่ ใช้ ้
ไมได
่ ้
②
①
Check point
Ⓐ แนวดิง่
(V) Ⓑ
แนวราบ (H)
Ⓒ แนวเพลา
(A)
32
12. การตรวจสอบเครือ
่ งสูบน้า
มาตรฐาน ISO 10816
33
12. การตรวจสอบเครือ
่ งสูบน้า
ขอเสนอ
้
แนะ
ตรวจสอบแนวเพลาเครือ
่ งสูบน้า
34
12. การตรวจสอบประสิ ทธิภาพเครือ
่ ง
สูบน้า
เงือ
่ นไขการ
การเตรียมอะไหล่
ตรวจสอบปั๊ม
ปั๊ม & มอเตอร ์
- ประสิ ทธิภาพ ปั๊ม
ในกรณีทป
ี่ ๊ม
ั มีปญ
ั หา
&
มอเตอร
์ อน ปั๊ม & มอเตอร ์
- การสั่ นสะเทื
35
12. การตรวจสอบเครือ
่ งสูบน้า
การเลือกปั๊มทีม
่ ี
ประสิ ทธิภาพ
- พิจารณาจาก แรงดัน อัตราการสูบ กะแสไฟฟ้า
36
13. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ากาลัง
โดยเปรียบเทียบจากอุณหภูมแ
ิ ตกตางของไฟ
่
เป็ นวิธท
ี ด
ี่ ท
ี ส
ี่ ุดเพือ
่ ป้องกันกอนที
อ
่ ุบต
ั เิ หตุจะเกิดขึน
้
่
อุณหภูมแ
ิ ตกตาง
่
ตา่ กวา่ 5 ℃
ระหวาง
่ 5℃ - 10 ℃
เกิน 10℃
ผลสรุป
ดี
ไมดี
่
ใช้ไมได
่ ้
37
13. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ากาลัง
เครือ
่ งถายภาพวั
ดความรอน
่
้ ภาพความรอน
้ ภาพจริง
38
13. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ากาลัง
ภาพจริง
ภาพความรอน
้
แผงสวิทชมอเตอร
์
์ #4
ใช้ไมได
่ ดี้ หรือผิด
42.5 43.7 56.1 สรุป การเชือ
่ มตอไม
่
่
R
ความ
ร้อน
S
T
39
13. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ากาลัง
ภาพความรอน
้
R
S
ภาพจริง
T
ฟิ วส์เสา
ไฟฟ
า ้
ใช
ไม้ ได
้
่
54.0
43.4
46.2
สรุ
ป
ความรอน
้
การเชือ
่ มตอไม
ดี
่
่ หรือผิดป
40
13. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ากาลัง
ภาพความรอน
้
P1 P2 P3 P4
ความรอน
้ 28.630.132.690.2 สรุป
ภาพจริง
สวิทช ์ เบรกเกอร ์
ใช้ไมได
่ ้
41
13. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ากาลัง
Before
After
เครือ
่ งวัดอุณหภูมอ
ิ น
ิ ฟราเรด
แสดงผลอุณหภูมท
ิ วี่ ด
ั
ได้
ตรวจสอบหา
ขัว้ ตอสายไฟที
ถ
่ ก
ู ต้องเหมาะสม
่
ความรอนที
เ่ กิดจากขัว้ ตอสายไฟที
ไ่ มเหม
้
่
่
42
14. การตรวจสอบหมอแปลงไฟฟ
้
้า
หม้อแปลงไฟฟ้า
ผลการตรวจสอบ
น้ามันเปลีย
่ นสี
เปลีย
่ นกรอง
น้ามัน
น่ามันแห้ง
เติมน้ามันใน
ถ้วย
43
15. การตรวจสอบจากระบบ SCADA
ระดับ
U-SCADA system
วาลว์
กระแสไฟ อุณหภูม ิ แรงดัน
โรงสูบแรงตา่
คาดการณแรงดั
นน้า
์
รายงานกระบวนการกรองน้า
ตก
ิ ารเกิด
แสดงขอมู
้ ล Real Time การวิเคราะหประวั
์
- อุณหภูม ิ แรงดัน การใช้ไฟฟ้า
การตรวจจับเหตุทเี่ กิดขึน
้ การเพิม
่ ประสิ ทธิภาพ
- แจ้งเตือนไปยังพนักงาน
เช่น ความรอน
ไฟดับ
้
ระบบการควบคุมอัตโนมัต ิ
เช่นการเดินปั๊ม
การล
44 า้
กรอง
16.การพิจารณาการจัดการ Mobile Plant
ประเด็นสาคัญในการเดินระบบ
Mobile Plant
○
- ความขุนของน
่ 10 NTU
้าดิบเฉลีย
่
- ความขุนของน
้าดิบสูงสุดไมเกิ
่
่ น 1,000
NTU
- ความขุน
ิ ละ อัตราการไหล
่ อุณหภูมแ
45
าเนินการตอไป....
สิ่ งทีจ
่ ะตองด
่
้
รวบรวมประเด็นปัญหา
วิเคราะหหาแนวทางแก
ไขทางในเลื
อกตางๆ
้
่
์
วิเคราะหปั
์ ญหา/ความเสี่ ยง จัดลาดับความสาคัญ
จัดทารายละเอียดในประเด็นทีจ
่ ะแกไข
้
จัดทาแผนปฏิบต
ั ก
ิ าร
เสนอขอรับการสนับสนุ นในดานต
างๆ
้
่
46
Q&A
47