Department of Civil Engineering Faculty of Engineering, Mahidol University Lecture Notes EGCE 421 Water Resource Engineering Areeya Rittima, D.Eng. E-mail: [email protected].
Download ReportTranscript Department of Civil Engineering Faculty of Engineering, Mahidol University Lecture Notes EGCE 421 Water Resource Engineering Areeya Rittima, D.Eng. E-mail: [email protected].
Department of Civil Engineering Faculty of Engineering, Mahidol University Lecture Notes EGCE 421 Water Resource Engineering Areeya Rittima, D.Eng. E-mail: [email protected] Department of Civil Engineering Faculty of Engineering, Mahidol University Lecture 2 Overview of Hydrology Overview of fundamental hydrology วัฏจักรอุทกวิทยา Hydrologic cycle Atmospheric Subsystem Surface Subsystem Groundwater Subsystem การวิเคราะห์ข้อมูลอุทกวิทยาเบื้องต้น ปริมาณการใชน้ ้ าของพืช -Double Mass Curve Analysis ้ ที่ -หาปริมาณนา้ ฝนในพืน ฝน Rainfall-Runoff Model -วิเคราะห์ ึ ปริมาณการซม ึ การซม -วิเคราะห์ปริมาณการระเหย ข้อมูลอุทกวิทยา การระเหย นา้ ท่า -หาปริมาณนา้ ท่าจากสูตรเอมไพริก ัล -Flow Duration Curve -Hydrograph/Unit Hydrograph ประเภทของระบบ 1. Closed System Environment Input Process Output 2. Opened System Environment Input Process Output การวิเคราะห์ข้อมูลฝน การวิเคราะห์ข ้อมูลฝนเบือ ้ งต ้น 1. เลือกสถานีทม ี่ ช ี ว่ งสถิตข ิ ้อมูลยาวและกระจายครอบคลุมพืน ้ ทีล ่ ม ุ่ น้ า ้ นตัวแทนลุม 2. ผลการวิเคราะห์ฝนสามารถใชเป็ ่ น้ าได ้ ื่ ถือได ้ของ 3. ข ้อมูลฝนทุกสถานีต ้องผ่านการทดสอบความน่าเชอ ข ้อมูลโดยวิธ ี Double Mass Curve กรณีทม ี่ ข ี ้อมูลถูกต ้อง รูปกราฟ ้ จะมีลก ั ษณะเป็ นเสนตรง สว่ นข ้อมูลทีเ่ บีย ่ งเบนไปจะได ้รับการปรับแก ้ ให ้สอดคล ้องกับความเป็ นจริง การวิเคราะห์ข้อมูลฝน Double D O U BMass L E M A Curve S S C U R VAnalysis E 40,000 ST A T IO N 450001 ( m m .) 35,000 30,000 25,000 20,000 15,000 10,000 5,000 0 0 10,000 20,000 30,000 68 ST A T ION M EA N ( m m .) 40,000 การวิเคราะห์ข้อมูลฝน ้ ที่ การหาปริมาณฝนเชงิ พืน 1. วิธเี ฉลีย ่ โดยเลขคณิต (Arithmetic Mean Method) จานวนปริมาณฝนของทุก ้ ทีแ ้ ที่ สถานีทงในพื ั้ น ่ ละพืน ข้างเคียง R = (R1+R2+R3+…..+Rn) n ้ ที่ ปริมาณฝนในพืน (mm.) จานวนสถานีว ัดนา้ ฝน ทงหมด ั้ การวิเคราะห์ข้อมูลฝน ้ ที่ การหาปริมาณฝนเชงิ พืน 2. วิธท ี ส ิ เสน (Thiessen Polygon Method) ้ ทีส พืน ่ ถานีว ัด R = (A1R1+A2R2+A3R3+…..+AnRn) A1+A2+A3+…..+An ้ ที่ ปริมาณฝนในพืน (mm.) จานวนสถานีว ัดนา้ ฝน ทงหมด ั้ = (A1R1+A2R2+A3R3+…..+AnRn) A = (W1R1+W2R2+W3R3+…..+WnRn Thiessen’s Coefficient Wn=A1/A ) การวิเคราะห์ข้อมูลฝน ้ ที่ การหาปริมาณฝนเชงิ พืน ้ ชนน ั้ า้ ฝน (Isohyetal Line Method) 3. วิธเี สน ั ้ ชน ั้ ้ ทีท อาศยสถิ ตน ิ า้ ฝนทีส ่ ถานีตา่ ง ๆ และรอบ ๆ พืน ่ ต ี่ อ ้ งการหาและจ ัดทาเสน ั้ นา้ ฝนชนละ 10-20 mm. ค่าเฉลีย ่ ของปริมาณฝนระหว่าง A1, A2,…..,An R = (A1R1+A2R2+A3R3+…..+AnRn) A1+A2+A3+…..+An ปริมาณฝนเฉลีย ่ ในพืน ้ ที่ (mm.) ้ น ั ้ น้ าฝน พืน ้ ทีร่ ะหว่างเสนช การวิเคราะห์ข้อมูลฝน ้ ที่ การหาปริมาณฝนเชงิ พืน 4. วิธป ี ริมาณฝนก ับความสูงของสถานีว ัด (Depth-Elevation Method) โดยทั่วไปปริมาณฝนจะเพิม ่ ขึน ้ ตามระดับความสูงของสถานีวัด 80,000 Station1 ป ริ ม า ณ ฝ น ( มม.) 70,000 60,000 50,000 Station2 40,000 30,000 20,000 Station3 10,000 0 ค ว า มสู ง ข อ ง ส ถา นีว ัด ั พันธ์เป็ นเสนตรง ้ ความสม หาโดยวิธ ี Least Square การวิเคราะห์ข้อมูลฝน ้ ที่ การหาปริมาณฝนเชงิ พืน ปริมาณฝนในแต่ละสถานีหาได ้จากกราฟ Depth-Elevation ของสถานีตา่ ง ๆ ทีค ่ วามสูง เฉลีย ่ ตามลาดับ จากนั น ้ ปริมาณฝนทัง้ หมดจะคานวณหาได ้จาก R = (A1R1+A2R2+A3R3+…..+AnRn) A1+A2+A3+…..+An ปริมาณฝนเฉลีย ่ ในพืน ้ ที่ (mm.) พืน ้ ทีท ่ รี่ ะดับความสูงต่าง ๆ ปริมาณฝนเฉลีย ่ ของพืน ้ ที่ A1, A2,…..,An ่ ฝนรายเดือน รายปี เป็ นต ้น วิธน ี เี้ หมาะสาหรับการหาปริมาณฝนเฉลีย ่ เป็ นระยะเวลานานเชน การวิเคราะห์ข้อมูลฝน ้ ที่ การหาปริมาณฝนเชงิ พืน 5. วิธเี ฉลีย ่ ระด ับความสูง (Mean Arial Elevation Method) ้ ั พันธ์ของปริมาณฝนและความสูงของสถานีวัดมีความสม ั พันธ์ วิธน ี ใี้ ชในกรณี ทค ี่ วามสม ้ เป็ นเสนตรง ค่าพารามิเตอร์ของแต่ละพืน ้ ที่ Ri = a+bhi ความสูงของสถานี ปริมาณฝนเฉลีย ่ ในพืน ้ ที่ (mm.) การวิเคราะห์ข้อมูลน้้าท่า ้ งต้น การวิเคราะห์ขอ ้ มูลนา้ ท่าเบือ สูตรเอมไพริก ัล (Empirical Formula) วิเคราะห์เหนือเขือ ่ น Q = aAb เมือ ่ Q = ปริมาณนา้ ท่ารวมเฉลีย ่ รายปี (mcm) ้ ทีร่ ับนา้ ฝน (sq.km.) A = พืน ้ ที่ a,b = พารามิเตอร์ของแต่ละพืน เขือ ่ น วิเคราะห์ใต้เขือ ่ น การวิเคราะห์ข้อมูลน้้าท่า ้ งต้น การวิเคราะห์ขอ ้ มูลนา้ ท่าเบือ Rational Method นิยมใชใ้ นการคานวณหาอ ัตราการไหลสูงสุดของลุม ่ นา้ ขนาดเล็ก Q = ciA เมือ ่ Q = อ ัตราการไหลสูงสุด (cms) ั ิ ธิน c = สมประส ท ์ า้ ท่า = Runoff/Precipitation i = ความเข้มฝน (mm/hr) ้ ทีร่ ับนา้ (sq.km.) A = พืน การวิเคราะห์ข้อมูลน้้าท่า ้ งต้น การวิเคราะห์ขอ ้ มูลนา้ ท่าเบือ ข้อจาก ัดของ Rational Method -ใชเ้ ฉพาะลุม ่ นา้ ทีม ่ ข ี นาดไม่เกิน 13 sq.km ั า้ ในพืน ้ ทีล -สมมุตวิ า ่ อ ัตราการดูดซบน ่ ม ุ่ นา้ มีคา่ คงที่ -ไม่คานึงถึงกระบวนการในการเปลีย ่ นฝนเป็นนา้ ท่า การวิเคราะห์ข้อมูลน้้าท่า การวิเคราะห์ Flow-Duration Curves ่ งเวลา (Flow-Duration Curve) คือ โค้งความถีส โค้งอ ัตราการไหล-ชว ่ ะสม ั ว่ นของเวลาทีอ ซงึ่ ให้ขอ ้ มูลสดส ่ ัตราการไหลมีคา่ มากกว่าหรือเท่าก ับค่าที่ กาหนด (Searcy, 1959) ฝน-น้้าท่า การแผ่กระจายของปริมาณฝนในระด ับ Region ฝน น้ าท่า การวางแผนการใชน้ ้ า การป้ องกันอุทกภัย/ภัยแล ้ง ปริมาณฝนในระดับ Region แบบจ้าลองฝน-น้้าท่า Ranfall-Runoff Model TANK Model Standford Watershed Model SCS Model, Sacramento Model การวิเคราะห์ข้อมูลการระเหย การวิเคราะห์ปริมาณการระเหย อ ัตราการระเหย (Evaporation Rate) Erate = Kp*Ep เมือ ่ Kp = Pan Coefficient ~0.8 Ep = อ ัตราการระเหยจาก Class-A Pan (mm/day) ปริมาณการระเหย (Evaporation) Evaporation = Erate*Area ้ ทีผ เมือ ่ Area = พืน ่ วิ นา้ (sq.m) การวิเคราะห์ข้อมูลการระเหย ึ การวิเคราะห์ปริมาณการซม ึ (Infiltration) คือ กระบวนการทีน ึ ผ่านผิวดินลงไปตามชอ ่ งว่าง การซม ่ า้ ไหลซม ่ น ระหว่างเม็ ดดินสูพ ื้ ดินทีอ ่ ยูล ่ ก ึ ลงไป ึ ปัจจ ัยทีม ่ ผ ี ลต่ออ ัตราการซม 1) สภาพผิวหน้าดินและพืชปกคลุมดิน 2) คุณสมบ ัติของดิน -ความพรุน (Porosity) -ความนาเชงิ ชลศาสตร์ (Hydraulic Conductivity) ื้ ในดิน 3) ความชน 4) ฯลฯ เครื่องมือวัดระดับน้้า Simple vertical staff Sectional staff Staff gauge Inclined staff เครื่องมือวัดน้้าฝน Rain Gauge เครื่องมือวัดน้้าฝน Tipping Bucket Rain Gauge เครื่องมือวัดปริมาณการระเหย Class-A Pan เครื่องมือวัดปริมาณการระเหย Double Ring Infiltrometer เครื่องมือวัดปริมาณการใช้น้าของพืช Lysimeter เครื่องมือวัดความเร็วน้้า Current Meter ปริมาณการใช้น้าของพืช ้ า้ ของพืช (Evapotranspiration) ปริมาณการใชน ี จากพืน ่ รรยากาศในรูป ้ ทีเ่ พาะปลูกสูบ เป็นปริมาณนา้ ทงหมดที ั้ ส ่ ญ ู เสย ของไอนา้ ้ เยือ 1. ปริมาณนา้ ทีพ ่ ช ื ดูดไปจากดิน : นาไปสร้างเซลล์และเนือ ่ และคายออกทางใบ ่ รรยากาศ เรียกว่า การคายนา้ (Transpiration) ไปสูบ 2. ปริมาณนา้ ทีร่ ะเหยจากผิวดินบริเวณรอบ ๆ ต้นพืช เรียกว่า การระเหย (Evaporation) ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณการใช้น้าของพืช สภาพดินฟ้า อากาศ ปริมาณและ วิธก ี ารให้นา้ ชนิดพืชทีป ่ ลูก ้ า้ ปริมาณการใชน ของพืช ระยะการเจริญ เติบโต วิธก ี ารปลูกพืช ฤดูกาล ปริมาณการใช้น้าของพืช ้ า้ ของพืช (Evapotranspiration) ปริมาณการใชน ้ ัตราสว่ นการคายนา้ ของพืช (วิธด 1. การใชอ ี งเดิ ั้ ม) 2. การว ัดโดยตรง ้ า้ ของพืช (Lysimeter) -การว ัดจากถ ังว ัดการใชน ึ ษาจากความชน ื้ ในดิน -ศก ึ ษาจากแปลงทดลอง -ศก ้ า้ ของพืชอ้างอิง 3. การคานวณการใชน