นโยบายการเปิดเผยข้อมูล - Chiang Rai Rajabhat University

Download Report

Transcript นโยบายการเปิดเผยข้อมูล - Chiang Rai Rajabhat University

การบัญชีระหวาง
่
International
ประเทศ
Asst. Prof.Accounting
Dr. Panchat Akarak
E-mail [email protected]
School of Accounting
Chiang Rai Rajabhat University
:CRRU
บทที่ 2 ความแตกตางทางการ
่
บัญชี
(Accounting
Diversity)
หัวขอสาคัญ
้
ความแตกตางของนโยบายการบั
ญชี
่
วิธก
ี ารบัญชี
นโยบายการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
ทฤษฎีอธิบายความแตกตางของนโยบายการ
่
บัญชี
ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
ทฤษฎีแรงจูงใจของผูบริ
้ หาร
การประเมินผลประโยชนและตนทุนของนโยบาย
วัตถุประสงคบทเรี
ยน
์
เพือ
่ ให้นักศึ กษาทราบและอธิบายความ
แตกตางทางการบั
ญชีและลักษณะความ
่
แตกตาง
่
เพือ
่ ให้นักศึ กษาสามารถวิเคราะหผลกระทบ
์
ของนโยบายการบัญชีทม
ี่ ค
ี วามแตกตางกั
น
่
ตองบการเงิ
นได้
่
เพือ
่ ให้นักศึ กษาทราบและอธิบายถึงทฤษฎีท ี่
เป็ นสาเหตุความแตกตางทางการบั
ญชีท ี่
่
เกิดขึน
้
2.1 ความแตกตางของนโยบาย
่
การบัญชี
นโยบายการบัญชี หมายถึง วิธก
ี ารบัญชี
และนโยบายการเปิ ดเผยขอมู
่ บริ
้ ลทีผ
ู้ หาร
เลือกนามาปฏิบต
ั ใิ นการจัดทานาเสนอ
ขอมู
้ ลทางการเงิน
สิ่ งทีผ
่ ้บริ
ู หารจะตองพิ
จารณานโยบายการ
้
บัญชี ไดแก
้ ่
1. วิธก
ี ารบัญชีทใี่ ช้ในการวัดมูลคาของ
่
สิ นทรัพย ์ หนี้สิน
2.1 ความแตกตางของนโยบาย
่
การบัญชี
Mueller (1968) การบัญชีมห
ี น้าทีใ่ นการ
ให้บริการขอมู
่ ี้จะเป็ นประโยชนก็
้ ล หน้าทีน
์
ตอเมื
่ ขอมู
่ อ
้ ลทีใ่ ห้บริการสามารถสนองตอบ
ตอความต
องการของสั
งคม และตัวเลข
่
้
สะท้อนขอมู
้ ลให้เห็ นสภาพแวดลอมของการ
้
บัญชีน้น
ั
ดังนั้น การบัญชีตองปรั
บเปลีย
่ นไปตาม
้
สภาพแวดลอมและ
การเปลีย
่ นแปลง
้
ทีเ่ กิดขึน
้ ในธุรกิจ เมือ
่ สภาพแวดลอมทาง
2.1 ความแตกตางของนโยบาย
่
การบัญชี
ญชี แบงตามขนาดของ
ความแตกตางของการบั
่
่
ธุรกิจ ดังนี้
1. การบัญชีสาหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Small
Enterprise)
2. การบัญชีสาหรับธุรกิจขนาดกลาง และ
(Medium Enterprise)
3. การบัญชีสาหรับธุรกิจขนาดใหญ่ (Large
Enterprise)
ความแตกตางของการบั
ญชี แบงตามประเภท
่
่
สรุปนโยบายการบัญชี
นโยบายการ
บัญชี
1.วิธก
ี ารบัญชี
วิธก
ี ารวัดมูลคา่
-สิ นทรัพย ์ (Assets)
-หนี้สิน (Liabilities)
-ส่วนของเจ้าของ
(Owners’ Equity)
-รายได้ (Revenue)
-คาใช
(Expense)
่
้จาย
่
2. เปิ ดเผยข้อมูลใน
ปริมาณการเปิ ดเผยข
รายงานการเงิ
นอมู
้ ล
-เปิ ดเผยมาก (More
Disclosure)
-เปิ ดเผยจากัด (Limited
Disclosure)
2.1 ความแตกตางของนโยบาย
่
การบัญชี
นโยบายการบัญชี แยกไดเป็
้ น 2
ส่วนสาคัญ ไดแก
้ ่
1. วิธก
ี ารบัญชี ทัง้ 5 ประเภท
(Recognition)
2. การเปิ ดเผยข้อมูลในรายงานการเงิน
(Disclosure)
วิธก
ี ารบัญชี (Accounting
Method)
วิธก
ี ารบัญชี หมายถึง
วิธก
ี ารวัดมูลคาของสิ
นทรัพย ์ หนี้สิน
่
ส่วนของเจ้าของ รายได้ และ
คาใช
จการ โดยใช้วัดมูลคา่
่
้จายของกิ
่
เป็ นจานวนเงิน เพือ
่ ให้ผู้ใช้ข้อมูลทาง
การเงินทีส
่ ามารถประเมินฐานะการเงิน
และผลการดาเนินงานของกิจการได้
วิธป
ี ฏิบต
ั ท
ิ างการบัญชีในการจัดทาและ
น
าเสนอรายงานการเงิ
น
รายการบัญชี
วิธป
ี ฏิบต
ั ท
ิ างการบัญชี
1. สิ นค้าคงเหลือ/ตนทุ
้ น
ขาย
2. คาเสื
่ ่ อมราคา
3. ทีด
่ น
ิ อาคาร และ
อุปกรณ ์
4. ต้นทุนการกูยื
้ ม
5. การกอสร
างระยะยาว
่
้
FIFO, LIFO, WA, Specific
Identification
Straight Line, DB, DDB, Units of
Production, Units of Service Hours,
SYD
Historical Cost, Replacement Cost,
Current Cost
Interest Expense, Borrowing Cost
Completed Contracted , Percentage
Contracted
วิธป
ี ฏิบต
ั ท
ิ างการบัญชี
งานวิจย
ั โดยส่วนใหญได
ี ฏิบต
ั ิ
่ จั
้ ดกลุมวิ
่ ธป
ทางการบัญชี เป็ น 2 กลุม
่
(Gray,1988;
Nobes,
1998)
กลุมที
่
1
่
วิธป
ี ฏิบต
ั ท
ิ างการบัญชีทอ
ี่ ยูบนหลั
กความ
่
ระมัดระวัง (Conservatism Approach)
กลุมที
่ ่ 2
วิธป
ี ฏิบต
ั ท
ิ างการบัญชีทอ
ี่ ยูบน
่
หลักการนาเสนอขอมู
้ ลเชิงบวก
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
การใช้หลักความระวัง ใช้เพือ
่ ป้องกัน
ไมให
่ ้แสดงรายการ ดังนี้
ตา่
ลคา่ หนี้สิน/คาใช
-ไมแสดงมู
่
้จาย
่
่
เกินไป
-ไมแสดงมู
ลคา่ สิ นทรัพย/รายได
สูง
่
้
์
เกินไป
เพือ
่ บิดเบือนขอมู
้ ลให้แตกตางไปจากความ
่
เป็ นจริง
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
ดังนั้น
งบการเงินตามวิธก
ี ารบัญชีทต
ี่ ง้ั อยูบน
่
หลักความระมัดระวัง อาจแสดงมูลคา่
สิ นทรัพยและรายได
ต
้ า่
์
้สิน
ในขณะเดียวกัน แสดงมูลคาหนี
่
และคาใช
ง
่
้จายสู
่
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
งานวิจย
ั (Weetman and Gray, 1991;
Cooke 1993, Norton, 1995.
ศึ กษาระดับความระมัดระวังของวิธก
ี ารบัญชี
วิธก
ี ารบัญชีใดอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
มากกวากั
ี ฏิบต
ั ิ
่ น โดยการเปรียบเทียบวิธป
ทางการบัญชี 2 วิธห
ี รือมากกวา่ และดู
ผลกระทบตองบการเงิ
นโดยแสดงมูลคา่
่
สิ นทรัพยหรื
้ า่ กวา่ และแสดง
์ อรายไดต
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
ตัวอยาง
การคานวณตนทุ
่
้ นขายและสิ นค้า
รายการ
จานวนหน่วย
ราคาตอหน
จานวนเงินรวม
่
่ วย
คงเหลื
อ
ซือ
้ ครัง้ ที่ 1
15
10
150
ซือ
้ ครัง้ ที่ 2
20
12
240
ขายครัง้ ที่ 1
10
40
400
ซือ
้ ครัง้ ที่ 3
15
15
225
ขายครัง้ ที่ 2
15
40
600
ขายครัง้ ที่ 3
20
40
800
การคานวณตนทุ
้ นขายและสิ นคา้
คงเหลือ ซือ้
รายกา
ต้นทุนขาย
คงเหลือ
ร
FIF LIFO WA FIFO LIFO
O
ซือ
้ ครัง้ ที่ 150 150 150
WA FIFO LIFO
WA
150
150
150
150
240
50
240
50
240
225
150
240
150
120
150
120
225
390
1
ซือ
้ ครัง้ ที่ 240
2
240
240
100
ขายครัง้
ที1
่
ซือ
้ ครัง้ ที่ 225
3
225
225
120
111.
4
278.
6
503.
6
การคานวณตนทุ
้ นขายและสิ นคา้
คงเหลือ ซือ้ (ตอ)
่
รายกา
ต้นทุนขาย
คงเหลือ
ร
FIF LIFO
O
ซือ
้ ครัง้ ที่ 225 225
3
WA
FIFO LIFO
WA
225
225
189
ขายครัง้
ที3
่
50
120
120
150
120
100
75
รวม
540
565 552.
4
ขายครัง้
ที2
่
FIFO LIFO
WA
50
240
225
120
225
150
120
225
150
120
503.6
75
50
63
314.6
สรุป การเปรียบเทียบขอมู
้ ลในงบ
การเงิน
วิธก
ี ารบัญชี สิ นค้าคงเหลือ ตนทุ
้ นขาย
FIFO
75
540
LIFO
50
565
WA
63
552.4
•สรุปผล วิธ ี LIFO แสดงมูลคาสิ
่ นทรัพยต
์ า่
กวาวิ
ี น
ื่ และ
่ ธอ
•สรุปผลการวิจย
ั
วิธ ี LIFO
ความ
คาใช
งกกว
าวิ
่ ายสู
่ อยู้จบนหลั
่
่ ธี
ระมั
ี ารบัญชีอน
ื่
อืน
่ ดระวังมากกวาวิ
่ ธก
(Zmijewski and Hagerman, 1981)
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
งานวิจย
ั Gay,1980; Weetman and
Gray,1991; Cooke, 1983; Norton,
1995.
ศึ กษาระดับความระมัดระวังในประเทศ
ทีม
่ ก
ี ารใช้วิธก
ี ารบัญชีทอ
ี่ ยูบนหลั
ก
่
ความระมัดระวังยอมแสดงมู
ลคาในงบ
่
่
การเงินแตกตางไปจากประเทศที
ใ่ ช้
่
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอข้อมูล
การคานวณคาดั
่ ชนีความระมัดระวัง
Index of Conservatism=
1-[กาไร(หรือทุน) ของประเทศแรก –กาไร
(หรือทุน)ของประเทศสอง]
คาสั
าไร (หรือทุน)
่ มบูรณของก
์
ของประเทศแรก
การคานวณคาดั
่ ชนีความระมัดระวัง
งานวิจย
ั ของ Norton (1995) ศึ กษาเปรียบเทียบ
วิธก
ี ารบัญชีของประเทศออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
โดยคานวณคาดั
่ ชนีความระมัดระวังดังนี้
Index of Conservatism =
1-[กาไร(หรือทุน)ของสหรัฐอเมริกา – กาไร(หรือ
ทุน)ของออสเตรเลีย]
•ถ้าคาดั
า่ 1 หมายความวา่
่ ชนีความระมัดระวังทีไ่ ดมากกว
้
ทุน) ของดระวัง
าสั
รณของก
าไร
วิธก
ี ารบัญชีทค
ป
ี่ ฏิ
ั ใิ บูนออสเตรเลี
ยอยูบนหลั
กความระมั
่ บตม
์
่ (หรือ
สหรัาสหรั
ฐ
กา กา
น้อยกว
ฐอเมริ
่ อเมริ
•ถ้าคาดั
่ ชนีความระมัดระวังทีไ่ ดน
้ ้ อยกวา่ 1 หมายความวา่
วิธก
ี ารบัญชีทป
ี่ ฏิบต
ั ใิ นออสเตรเลียอยูบนหลักความระมัดระวัง
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
Gray, 1980; Cooke, 1993; Norton,
1995 มีความเห็ นจากการวิจย
ั วา่ วิธก
ี าร
บัญชีตามหลักนี้จะใช้การวัดมูลคาตามวิ
ธี
่
ราคาทุนเดิม (Historical Cost)
Gray, 1988; Nobes, 1998
งานวิจย
ั ในอดีตไดจั
ใ่ ช้
้ ดกลุมประเทศที
่
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวังมาก
่
เป็ นประเทศในกลุมยุ
่ โรป (Continental
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
ประเทศในกลุมยุ
่ โรป (Continental
European Group) ไดแก
้ ่
อัลจีเรีย
แองโกลา ออสเตรีย เบลเยีย
่ ม
เบอรกี
์ นา โคลัมเบีย
คาเมอรูน เดนมารค ์ อียป
ิ ต์
ฟิ นแลนด ์ ฝรัง่ เศส เยอรมันนี กรีซ กีเนีย
อิตาลี ญีป
่ ่น
ุ ลักเซมเบิรก
โมรอคโค
์
นอรเวย
โปรตุเกส
ซิเนกัลป
วิธก
ี ารบัญชีอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
(Conservatism Approach)
ประเทศในกลุมยุ
่ โรป (Continental
European Group) หรือรูปแบบคอนติเนน
ตอล (Continental Model) หมายถึง
ประเทศทีร่ วมอยูในกลุ
มนี
ื ประเทศ
่
่ ้คอ
ในยุโรปและญีป
่ ่น
ุ
ธุรกิจจะผูกติดกับ
ธนาคารซึง่ เป็ นแหลงเงิ
่ นทุนส่วนใหญ่ การ
บัญชีจะเป็ นไปตามกฎหมาย
ตาม
กฎระเบียบทีก
่ าหนดโดยรัฐบาลเพือ
่ คานวณ
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอข้อมูลเชิง
บวก (Optimism Approach)
วิธก
ี ารบัญชีจะเน้นการนาเสนอขอมู
้ ลเชิงบวก ยึด
หลักผูใช
้ ้งบการเงินภายนอกไดรั
้ บประโยชนใน
์
การตัดสิ นใจเชิงเศรษฐกิจมากทีส
่ ุด
วิธก
ี ารบัญชีกลุมนี
่ ้ เน้นแนวคิดและการนาเสนอ
ข้อมูลทีถ
่ ูกตองที
ส
่ ุด และมีประโยชนสู
้
์ งสุด
(True and Fair View)
วิธน
ี ี้เน้นการใช้ราคาทุนปัจจุบน
ั หรือมูลคาปั
ั
่ จจุบน
เป็ นเกณฑในการวั
ดมูลคา่
์
รายไดและคาใชจายจะเนนการรับรูทน
ั ทีตามมูลคา
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอข้อมูลเชิง
บวก (Optimism Approach)
งานวิจย
ั ในอดีตส่วนใหญ่ มีมุมมองวา่
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอข้อมูล
เชิงบวก (Optimism Approach) เป็ น
วิธก
ี ารบัญชีในกลุมของประเทศ
แอง
่
โกร-แซกซอน (Anglo-Saxon
Countries)
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอข้อมูลเชิง
บวก (Optimism Approach)
ประเทศ แองโกร-แซกซอน (Anglo-Saxon
Countries) หรือเรียกวาบั
ิ -อเมริกน
ั
่ ญชีแบบบริทช
(British-American Model) ไดแก
้ ่
ออสเตรเลีย บาฮามา บารบาดอส
เบนิน
์
เบอรมิ
์ วตา้ บอสวานา แคนาดา เกาะเคยแมน
์
อเมริกากลาง โคลัมเบีย คอสตาริกา ไซปรัส
รัฐโดมิชก
ิ น
ั ฟิ จ ิ กานา ฮ่องกง อินเดีย
อินโดนีเซีย ไอรแลนด
์
์ อิสราเอล จาไมก้า
เคนยา ลิเบอเรีย มาลวี มาเลเซีย เม็กซิโก
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอขอมู
้ ลเชิงบวก
(Optimism Approach)
ประเทศแองโกร-แซกซอน (Anglo-Saxon
Countries) หรือประเทศทีใ่ ช้บัญชีแบบบริ
ทิช-อเมริกน
ั (British-American Model)
หมายถึง
การบัญชีรูปแบบทีต
่ อบสนองความต้องการ
ของผู้ลงทุน และผู้ให้กู้ในการตัด สิ น ใจเป็ น
ใหญ่ เนื่ อ งจากมีพ ฒ
ั นาการตลาดหุ้ นทุ น
และหุ้ นกู้ ขนาดใหญ่ กิจ การขนาดใหญ่
และมีทุนดาเนินงานสูง ระดับการศึ กษาสูง
วิธก
ี ารบัญชีเปรียบเทียบ 2 แนวคิด
•ตัวอยางวิ
ี ารบัญชี
่ ธก
รายการบัญชี
วิธก
ี ารบัญชี Optimism
วิธก
ี ารบัญชี Conservatism
คาเสื
่ ่ อมราคา
งานกอสร
างระยะยาว
่
้
เส้นตรง
อัตราส่วนของงานทีท
่ าเสร็จ
วิธย
ี อดลดลง
เมือ
่ งานแลวเสร็
จ
้
ต้นทุนการกูยื
้ ม
การบันทึกเป็ นตนทุ
้ น
บันทึกเป็ นคาใช
่
้จาย
่
กาไรจากอัตราแลกเปลีย
่ น
บันทึกเป็ นรายไดในงบ
P/L
้
บันทึกเป็ นกาไรทีย
่ งั ไมรั
่ บรู้ FPS
ต้นทุนขายและสิ นค้าคงเหลือ
FIFO
LIFO
Nobes, 1998 Towards a general model of the reasons for international differences in
financial reporting, Abacus, Vol. 34 no 2 p.168
นโยบายการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
(Disclosure Policy)
ความสาคัญของการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
งานวิจย
ั ในอดีตพบว่าการเปิ ดเผยข้อมูลใน
รายงานการเงิ น มี ค วามส าคัญ ต่ อการ
ดาเนินงาน (Graam, King and bailes,
2000; Choi and Levich, 1990; Healy
and Palepu, 2001; Holthausen and
Leftwich, 1983)
งานวิจย
ั ในอดีตพบวา่ ข้อมูลทางการเงินมี
นโยบายการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
(Disclosure Policy)
การเปิ ดเผยข้อมูลจึงมีความสาคัญตอ
่
กิ จ ก า ร ผู้ บ ริ ห า ร ต้ อ ง ตั ด สิ น ใ จ ว่ า
จะต้ องเปิ ดเผยข้ อมู ล ปริม าณมากน้ อย
เพือ
่ กอให
่
้ เกิดประโยชนสู
่ จการ
์ งสุดตอกิ
(ก่ อความเสี ยหายให้ แก่ กิ จ การน้ อย
ทีส
่ ุด)
นั่น คือ การเปิ ดเผยข้ อมู ล จะส่ งผลต่อ
นโยบายการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
(Disclosure Policy)
งานวิจ ัย ในอดีต ได้ แบ่ งกลุ่ มนโยบาย
การเปิ ดเผยข้ อมู ล ออกเป็ น 2 กลุ่ ม
ดังนี้
ก ลุ่ ม 1 ก า ร ป ก ปิ ด ข้ อ มู ล บ า ง ส่ ว น
(Secrecy)
ก ลุ่ ม 2 ก า ร เ ปิ ด เ ผ ย ข้ อ มู ล อ ย่ า ง
โปรงใส
(Transparency)
่
นโยบายการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
(Disclosure Policy)
กลุม
่ 1 การปกปิ ดขอมู
้ ลบางส่วน
(Secrecy)
เป็ นนโยบายที่
ผู้บริหารเลือกเปิ ดเผยขอมู
้ ลเพียงบางส่วน/
จากัด
งานวิจย
ั ของ Gray and Roberts, 1989;
Elliott and Jacobson, 1994. เชือ
่ วา่
ปริม าณและเรือ
่ งทีผ
่ ู้บริหารเลือ กเปิ ดเผยนั้น
จะต้องพิจารณาต้นทุนและผลประโยชนกั
์ บผู้
นโยบายการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
(Disclosure Policy)
ก ลุ่ ม 2 ก า ร เ ปิ ด เ ผ ย ข้ อ มู ล อ ย่ า ง
โปรงใส
(Transparency)
่
เป็ นนโยบายทีต
่ รงกันข้ ามกับกลุ่ม
แรก คือ ผู้ บริห ารเลือ กที่จ ะเปิ ดเผย
ข้อมูลให้มากทีส
่ ุดเทาที
่ ะเปิ ดเผยได้
่ จ
ผู้ บ ริ ห า ร เ ชื่ อ ว่ า ผู้ ใ ช้ ข้ อ มู ล
การเงินภายนอกต้องการใช้ข้อมูลเพือ
่
การเปิ ดเผยขอมู
งใส
้ ลอยางโปร
่
่
(Transparency)
งานวิจย
ั เกีย
่ วกับการเปิ ดเผยขอมู
้ ลในรายงาน
การเงินของบริษท
ั ในหลาย
ประเทศ เช่น
Gray et al.,1995; Crain and Diga, 1998
Chau and Gray, 2002; Camferman and
Cooke, 2002.
โดยมีเครือ
่ งมือในการวัดปริมาณการเปิ ดเผย
nj
ข้อมูล ถ้าบริษท
ั เปิ ดเผยขอมู
้ ลจะไดรั
้ บคะแนน
i=1
จากการเปิ
ดเผย และนาคามาค
านวณดัชนีระดับ
่
การเปิ ดเผยขอมู
้ ล (Disclosure Index)
การเปิ ดเผยขอมู
งใส
้ ลอยางโปร
่
่
(Transparency)
สูตรคานวณดัชนีระดับการเปิ ดเผยขอมูล
nj
้
(Disclosure Index)
i=1
Ij= ∑ Xij
nj
nj = จานวนขอมู
่ วรเปิ ดเผยในบริษท
ั
้ ลทัง้ หมดทีค
j
Xij = 1
เมือ
่ บริษท
ั มีการเปิ ดเผยขอมู
้ ล หรือ
= 0 เมือ
่ บริษท
ั ไมมี
่ การเปิ ดเผยขอมู
้ ล
คา่ Ij ทีค
่ านวณคือ =
การเปรียบเทียบการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
เรือ
่ ง
การเปิ ดเผย Transparency
การเปิ ดเผย Secrecy
การรายงานเฉพาะส่วน
งาน
เปิ ดเผยขอมู
้ ลส่วนงานทีเ่ ข้า
เงือ
่ นไข
ไมเปิ
ส่วน
่ ดเผยถึงแมจะมี
้
งานทีเ่ ขาเงื
่ นไขการ
้ อ
รายงานเฉพาะส่วนงาน
การเปิ ดเผยรายการ
ระหวางกั
นของบริษท
ั ที่
่
เกีย
่ วของกั
น
้
เปิ ดเผยรายละเอียดมูลคาของ
่
แตละประเภทรายการที
ม
่ ก
ี าร
่
ทากับบริษท
ั ทีเ่ กีย
่ วของกั
น
้
เปิ ดเผยขอมู
้ ลยอดรวม
รายการค้าทีม
่ ก
ี ารทากับ
บริษท
ั ทีเ่ กีย
่ วของกั
น
้
กาไรตอหุ
่ ้น
เปิ ดเผย
ไมเปิ
่ ดเผย
Nobes, C. (1998), “Towards a general model of the reasons for international
differences in financial reporting, Abacus, Vol. 34, no. 2, p 168.
สรุป แนวคิดการเลือกวิธก
ี ารบัญชีและ
นโยบายการเปิ ดเผยข้อมูล
นโยบายการ
บัญชี
1.วิธก
ี ารบัญชี
Conservat
ism
Approa
-สิ นch
ทรัพย/์
รายได้ ตา่
-หนี้สิน/
Optimis
m
Approa
-สิ นทรัพย/์
ch สูง
รายได
้
-หนี้สิน/
2. เปิ ดเผยข้อมูลใน
รายงานการเงิน
Transpare
ncy
-เปิ
ดเผย
มาก
Secrec
-เปิ ดyเผย
บางส่วน
2. ทฤษฎีอธิบายความแตกตางของ
่
นโยบายการบัญชี
ทฤษฎีทใี่ ช้อธิบายมูลเหตุความแตกตาง
่
ทางการบัญชี มี 3 ทฤษฎี
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
(Environmental-Determinism
Theory)
2. ทฤษฎีแรงจูงใจของผูบริ
้ หาร
(Positive Accounting Theory)
3. การประเมินผลประโยชนและต
นทุ
้ น
์
ทฤษฎีอธิบายความแตกตางของ
่
นโยบายการบัญชี
1. ทฤษฎี
สภาพแวดลอมกั
บ
้
การบัญชี
(EnvironmentalDeterminism
1. ระบบการเมือง (Political
Theory)
System)
2. ระบบกฎหมาย (Law
System)
3. ระบบการศึ กษา
(Education System)
4. ระบบเศรษฐกิจ
(Economic System)
5. วัฒนธรรม (Culture
2. ทฤษฎีแรงจูงใจ
ของผู้บริหาร
(Positive
Accounting
Theory)
1. ทฤษฎีความตัวแทน
(Agency Theory)
2. ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาด
ทุน (Capital marketassociation Theory)
3. ทฤษฎีตนทุ
้ นทาง
การเมือง (Political cost
theory)
3. การเปรียบเทียบ
ต้นทุนและ
ผลประโยชน์ (Costbenefit
1.
ต้นทุนในการจัดทา
assessment)
รายงานทางการเงิน
(Production costs)
2. ความเสี ยเปรียบในการ
แขงขั
่ น
(Competitive
disadvantages)
3. ต้นทุนในการไมปฏิ
ั ิ
่ บต
ตามกฎ ระเบียบ และ
ขอบังคับ (Non-
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
(Environmental-Determinism
Theory)
สภาพแวดลอมมี
ความสั มพันธกั
้
์ บการบัญชี
สรุปได้ 5 ระบบ ดังนี้
1. ระบบการเมือง (Political)
2. ระบบกฎหมาย (Law)
3. ระบบการศึ กษา (Education)
4. ระบบเศรษฐกิจ (Economic)
5. วัฒนธรรม (Culture)
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
(Environmental-Determinism
Theory)
1. ระบบการเมือง
รัฐบาลเขามาเกีย
่ วของกับการบัญชี
้
้
มากน้อยเพียงใดขึน
้ อยูกั
่ บระบบการเมืองในประเทศนั้น
ๆ
American Accounting Association : AAA, 1977
ไดเสนอระบบการเมื
องแบงได
้
่
้ 5 ประเภท คือ
1. ระบบประชาธิปไตย (Political Democracy)
2. ระบบกึง่ ประชาธิปไตย (Tutelary Democracy)
3. ระบบคณาธิปไตย (Modernizing Oligarchy)
4. ระบบเผด็จการ (Totalitarian Oligarchy)
5. ระบบมหากษัตริย (Traditional Oligarchy)
ระบบการเมือง1. ระบบประชาธิปไตย (Political
Democracy)
รัฐบาลมาจากการเลือกตัง้ และมีสภาผูแทนราษฎร
้
มีหน้าทีเ่ ป็ นผูออกกฎหมาย
้
การบริหารมีการถวงดุ
ลอานาจระหวางรั
่
่ ฐบาลกับ
สภาฯ
ประชาชนตรวจสอบและแสดงความเห็ นเกีย
่ วกับ
การบริหารงานของรัฐบาลได้
การบัญชีมค
ี วามเป็ นอาชีพ ใช้ดุลยพินิจของนัก
บัญชี ยืดหยุน
่ การพัฒนาการทางบัญชีรวดเร็ว
ระบบการเมือง2. ระบบกึง่ ประชาธิปไตย (Tutelary
Democracy)
ระบบการเมืองทีร่ ฐั บาลมาจากการเลือกตัง้
รัฐมีส่วนในการบริหารประเทศและออกกฎหมาย
ประชาชนถูกจากัดการแสดงความคิดเห็ นโดย
ทางกฎหมาย
การบัญชีถก
ู กาหนดเป็ นกฎหมาย เปลีย
่ นแปลง
ยาก พัฒนาช้า
เช่น ประเทศอินเดีย ศรีลงั กา
ระบบการเมือง3. ระบบคณาธิปไตย (Modernizing
Oligarchy)
ระบบการเมืองทีม
่ ค
ี นบางกลุมมี
่ อานาจในการ
บริหารและพัฒนาประเทศ
รัฐบาลเป็ นผูออกกฎหมายและเป็
นผูบริ
้
้ หาร
ประเทศ สภาฯเป็ นทีป
่ รึกษา
ประชาชนถูกจากัดขอบเขตและการแสดง
ความเห็ น
การบัญชีถก
ู กาหนดเป็ นกฎหมายโดยคนบางกลุม
่
การพัฒนาช้า
ระบบการเมือง4. ระบบเผด็จการ (Totalitarian
Oligarchy)
ระบบการเมืองทีม
่ ค
ี นเพียงกลุมเดี
่ ยว/หรือคนเดียว
ทาหน้าทีใ่ นการควบคุม/บริหารประเทศ
ประชาชนถูกจากัดการแสดงความคิดเห็ น
กฎหมายออกโดยบุคคลกลุมที
่ ริหารประเทศ
่ บ
เพียงกลุมเดี
่ ยว
การบัญชีมข
ี อจ
ม
้
้ ากัด ถูกกาหนดตามผูควบคุ
เปิ ดเผยขอมู
้ ลน้อย
เช่น จีน
ระบบการเมือง5. ระบบมหากษัตริย ์ (Traditional
Oligarchy)
ระบบการเมืองทีม
่ ก
ี ษัตริยปกครองประเทศ
์
กษัตริยมี
์ อานาจสูงสุดในการบริหารประเทศ
กฎหมายมีจานวนน้อย
กฎหมายการบัญชีมน
ี ้ อย ตามความจาเป็ น การ
พัฒนาช้า
เช่น บรูไน
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
(Environmental-Determinism
Theory)
2. ระบบกฎหมาย นักวิชาการไดแบง
้
่
กฎหมายเป็ น 2 ระบบ ดังนี้
1. Civil Law or Code Law
ระบบกฎหมายทีม
่ ก
ี ารกาหนด
กฎหมายสาคัญทุกเรือ
่ งทีอ
่ าจ
จะเกิดขึน
้
การตัดสิ นคดีใช้ขอกฎหมายในการตั
ดสิ น
้
2. Common Law or Case Law
ระบบกฎหมายพัฒนามาจาก
ระบบกฎหมาย1. Civil Law or Code Law
เป็ นระบบกฎหมายทีพ
่ ฒ
ั นาจากกฎหมาย
โรมัน
มีคณะกรรมการรางกฎหมายโดยให
่
้
ครอบคลุมความสาคัญทุกเรือ
่ ง
การตัดสิ นคดียด
ึ กฎหมายทีก
่ าหนดเป็ นหลัก
การเปลีย
่ นแปลงกฎหมายมีกระบวนการ
ยุงยาก
พัฒนาช้า
่
การบัญชีจะกาหนดไวในกฎหมาย
้
ระบบกฎหมาย2. Common Law or Case Law
ระบบกฎหมายทีเ่ กิดขึน
้ ในประเทศอังกฤษ
กฎหมายพัฒนามาจากกรณีตาง
ๆ ที่
่
เกิดขึน
้ จริง อาจจะเรียกวา่ “Case Law”
การตัดสิ นคดีขน
ึ้ อยูกั
ั ๆ ทีเ่ คย
่ บกรณีน้น
เกิดและตัดสิ นคดีอยางไร
่
่ นได้
การบัญชีจะมีความยืดหยุน
่ ปรับเปลีย
ทันตามสถานการณ ์
วิชาชีพบัญชีมค
ี วามเป็ นอิสระจากรัฐบาล
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
(Environmental-Determinism
Theory)
3. ระบบการศึ กษา
งานวิจย
ั ในอดีต (Radebaugh, 1975 Perera,
1975; Doupnik and Salter,1995)
ศึ กษาความสั มพันธระหว
างระบบการศึ
กษาและการ
์
่
บัญชี เห็ นวา่ ระบบการศึ กษาเป็ นตัวแปรในการบง่
บอกวา่ การบัญชีในประเทศนั้นสามารถมี
อน้อย
ความซับซ้อนไดมากหรื
้
ถ้าการศึ กษาพัฒนาดานบั
ญชีไมเพี
้
่ ยงพอ การบัญชี
รองรับความซับซ้อนไดน
้ ้ อย
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี
้
(Environmental-Determinism
Theory)
“คุณภาพการศึ กษามีความสั มพันธกั
์ บการ
บัญชี”
3. ระบบการศึ กษา คุณภาพการศึ กษามี
ความสั มพันธกั
การบัญชี 3
์ บ
ดาน
ดังนี้
้
1. ดานลั
กษณะวิชาการบัญชีทม
ี่ ก
ี ารสอน
้
ในสถาบันการศึ กษา
2. ดานความรูความสามารถของอาจารย
บการบัญชี1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
้
ระบบการศึ กษา
(Environmental-Determinism
Theory)
คุณภาพการศึ กษามีความสั มพันธ ์
กับการบัญชี
1. ดาน
้
ลักษณะ
วิชาการ
บัญชีทม
ี่ ี
การสอนใน
2. ดาน
้
ความรู้
ความสาม
ารถของ
อาจารย ์
3. ดาน
้
สถาบัน
วิชาชีพ
การ
บัญชี
ระบบการศึ กษา1. ดานลั
กษณะวิชาการบัญชีทม
ี่ ก
ี ารสอน
้
ในสถาบันการศึ กษา
การสอนรายวิชาการบัญชีใน
สถาบันการศึ กษามีความครอบคลุม
ในทุกดาน
เช่น บัญชีการเงิน
้
บัญชีบริหาร การตรวจสอบบัญชี
ระบบสารสนเทศทางการบัญชี
และมีงานวิจย
ั เกีย
่ วกับการบัญชียอม
่
แสดงวานักบัญชีมค
ี วามรู
ระบบการศึ กษา2. ดานความรู
ความสามารถของ
้
้
ญชี
อาจารยทางการบั
์
ความรูความสามารถของอาจารย
้
์
ผู้สอน พิจารณาจากวุฒก
ิ ารศึ กษา
ผลงานวิชาการ งานวิจย
ั วิธก
ี าร
สอน เครือ
่ งมือทีใ่ ช้ในการสอน
จานวนผูสอนเพี
ยงพอกับจานวน
้
ผู้เรียน
ระบบการศึ กษา3. ดานสถาบั
นวิชาชีพการบัญชี
้
การพัฒนาของสถาบันวิชาชีพ
ทางการบัญชี เป็ นปัจจัยบงบอก
่
การพัฒนาการทางการบัญชี
ภายในประเทศนั้น ๆ
ถาหากสถาบั
นวิชาชีพมีความ
้
เขมแข็
งและเป็ นอิสระ การพัฒนา
้
บการบัญชี1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
้
ระบบเศรษฐกิจ
(Environmental-Determinism
Theory)
4. ระบบเศรษฐกิจ ประกอบดวยส
้
่ วน
สาคัญตาง
ๆ ดังนี้
่
1. ลักษณะธุรกิจ
2. ลักษณะการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจของประเทศ
3. การเติบโตของตลาดทุน
ภายในประเทศ
1.ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี(Environmental้
Determinism Theory)
1. ลักษณะธุรกิจ
แบงได
่
้ 3 ประเด็น ดังนี้
1.1 แหลงที
่ าเงินทุน
่ ม
-เงินทุนจากตลาดทุน
เน้นบุคคลหรือกลุม
่
บุคคลภายนอก เปิ ดเผยขอมู
้ ลมาก
-เงินทุนจากสถาบันการเงิน
เน้นกฎหมาย ให้
ความสาคัญเจ้าของและธนาคาร
1.2 โครงสรางผู
้
้ถือหุ้น
-ธุรกิจทีเ่ ป็ นของรัฐควบคุม การบัญชีและการ
รายงานเป็ นไปตามทีร่ ฐั ตองการ
้
-ธุรกิจเอกชน
ผู้ถือหุ้นภายในอาจจะให้
ความสาคัญกับบุคคลภายนอกน้อย
บการบัญชี1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
้
ระบบเศรษฐกิจ
(Environmental-Determinism
2.Theory)
ลักษณะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ
น
ระดับการเติบโตแตกตางกั
ในแตละประเทศมี
่
่
-ประเทศเกษตรกรรม
รายการบัญชีไม่
ซับซ้อน พัฒนาการทางบัญชีจะช้า อาจจะใช้
เกณฑเงิ
เงิ
์ นสดมากกวาเกณฑ
่
์ นคาง
้
-ประเทศอุตสาหกรรม
รายการบัญชีซบ
ั ซ้อน
มาก ทัง้ มูลคาสิ
รกิจสูง
และ
่ นทรัพยในธุ
์
บการบัญชี 1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
้
ระบบเศรษฐกิจ
(Environmental-Determinism
Theory)
3.
การเติบโตของตลาดทุนภายในประเทศ
-ประเทศทีม
่ ต
ี ลาดทุนเข็มแข็ง
บริษท
ั
การเปิ ดเผยขอมู
สามารถระดมทุนไดมาก
้ ล
้
เน้นบุคคลภายนอก ไมต
ง้ สารองเมือ
่ จะ
่ องตั
้
จายปั
นผล เช่น สหรัฐอเมริกา
่
-ประเทศทีต
่ ลาดทุนไมเข
ง
บริษท
ั
่ มแข็
้
ระดมทุนจากเจ้าหนี้/สถาบันการเงิน
เปิ ดเผยขอมู
่ าเป็ น และตองตั
ง้
้ ลเทาที
่ จ
้
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี ้
วัฒนธรรม
(Environmental-Determinism Theory)
5. วัฒนธรรม (Culture) มีผลกระทบตอการ
่
บัญชีของแตละประเทศ
งานวิจย
ั ทีส
่ าคัญไดแก
่
้ ่
งานวิจย
ั Gray 1988 ไดศึ
ั ของ
้ กษางานวิจย
Hofsteds และไดเสนอ
Hofsteds-Gray Model
้
เพือ
่ ใช้อธิบายความสั มพันธระหว
างวั
์
่ ฒนธรรม
และการบัญชี 4 ดาน
คือ
้
1. Individualism VS Collectivism
2. Large VS Small Power Distance
3. Strong VS Weak Uncertainty Avoidance
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี ้
วัฒนธรรม
(Environmental-Determinism Theory)
งานวิจย
ั Gray 1988 ไดเสนอลั
กษณะการ
้
บัญชี 4 ลักษณะทีจ
่ ะมีความสั มพันธกั
์ บ
วัฒนธรรม คือ
1. Professionalism VS Statutory
Control
2. Uniformity VS Flexibility
3. Conservatism VS Optimism
4. Secrecy VS Transparency
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี ้
วัฒนธรรม
(Environmental-Determinism Theory)
งานวิจย
ั Gray 1988 เชือ
่ มโยงลักษณะ
ของวัฒนธรรมและลักษณะของการบัญชี
เขาด
น และแสดงความสั มพันธตาม
้ วยกั
้
์
สมมติฐานของ Gray คือ
1. ในประเทศทีค
่ วามสั มพันธในสั
งคมไม่
์
แนบแน่น(Individualism) ยอมรับความ
เสี่ ยงในอนาคตได้ (Large Uncertainty
Avoidance) ยอมรับความเทาเที
่ ยมกัน
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี ้
วัฒนธรรม
(Environmental-Determinism Theory)
สมมติฐานงานวิจย
ั Gray 1988.
2. ในสั งคมทีไ
่ มมั
่ ใจในเหตุการณใน
่ น
์
อนาคต (Strong Uncertainty
Avoidance) เน้นความสั มพันธในสั
งคม
์
(Collectivism) และยอมรับความไมเท
่ า่
เทียมกัน(Large Power Distance) จะมี
วิธก
ี ารบัญชีให้เลือกปฏิบต
ั น
ิ ้ อย
(Uniformity)
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี ้
วัฒนธรรม
(Environmental-Determinism Theory)
สมมติฐานงานวิจย
ั Gray 1988
3. ในประเทศทีค
่ นในสั งคมไมมั
่ ใจใน
่ น
เหตุการณอนาคต(Strong
Uncertainty
์
Avoidance) เน้นความสั มพันธในสั
งคม
์
(Collectivism) ให้ความสาคัญเรือ
่ งจิตใจ
มากกวาวั
่ ตถุ(Femininity) ลักษณะการ
บัญชีสาหรับวัดมูลคาสิ
้สินจะ
่ นทรัพยและหนี
์
เน้นหลักความระมัดระวัง (Conservatism)
ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี-วัฒนธรรม
้
(Environmental-Determinism Theory)
สมมติฐานงานวิจย
ั Gray 1988 คือ
4. ในสั งคมทีม
่ ล
ี ก
ั ษณะทีค
่ นในสั งคมไม่
มัน
่ ใจในเหตุการณอนาคต(Strong
์
Uncertainty Avoidance) ยอมรับความไม่
เทาเที
่ ยมกัน(Large Power Distance) เน้น
งคม ให้ความสาคัญกับ
ความสั มพันธในสั
์
จิตใจมากวาวั
่ ตถุ (Femininity) ลักษณะ
การเปิ ดเผยขอมู
่ บุคคลภายในเทานั
้ ลเพือ
่ ้น
1. ทฤษฎีสภาพแวดลอมกั
บการบัญชี -วัฒนธรรม
้
(Environmental-Determinism Theory)
ความสั มพันธระหว
าง
มุมมองทางวัฒนธรรม
่
์
Individualism
Uncertainty
Power
Masculinity
กับ คานิ
ย
มทางการบั
ญ
ชี
่
Avoidance
Distance
Professionalism
High
Low
Low
-
Uniformity
Low
High
High
-
Conservatism
Low
High
-
Low
Secrecy
Low
High
High
Low
Gray, S. J. 1988, “Towards a theory of Cultural Influence on the development of
accounting systems internationally, Abacus, Vol.24 No. 1 p1-15
2.2 แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
Watt and Zimmerman, 1978 นาเสนอทฤษฎีครัง้
แรกปี 1978
จากการวิจย
ั เรือ
่ ง การเลือกวิธก
ี ารบัญชีของผูบริ
้ หาร
ประกอบดวย
3 ทฤษฎียอย
้
่
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
Jensen and Meckling, 1976
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital marketassociation theory)
2.2 แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน
(Agency Theory)
Jensen and Meckling, 1976
ทฤษฎีนี้อธิบายความสั มพันธระหว
2
างคน
์
่
กลุม
อผูจ
่ คือ กลุมแรกคื
่
้ ้าง (Principal) ซึง่ เป็ น
ผู้ยอมมอบทรัพยากรและสิ ทธิในการจัดการ
ทรัพยากรทีต
่ นมีอยูให
่ ่ 2 คือ ผู้ถูก
่ ้กับคนกลุมที
จ้าง (Agent) ซึง่ ทาหน้าทีบ
่ ริหารจัดการเพือ
่ ให้ผู้
จ้างไดผลตอบแทนที
ส
่ งู ทีส
่ ุด และตนเองได้
้
คาตอบแทนจากการทางานนั้น
2.2 แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
1. จ้างบริหารงาน/ใช้ทรัพยากร/
ให้คาตอบแทน
่
ทาสั ญญาผลตอบแทน/ตรวจสอบ
ผู้จ้าง การทางาน
ผู้ถูกจ้าง
(Principal)
(Agent)
(ผู้ถือหุ้น/
(ผู้บริหาร)
2.
ผลก
าไร/ผลตอบแทนตาม
เจ้าหนี้)
ข้อตกลงการจ
เลือกใช
้างแี่ ละการเปิ ดเผยขอมู
้นโยบายบัญชีท
้ ล
อ
่ ลด Agency
Cost
Agencyเพื
Theory
เชือ
่ วาผู
่ ะทางานเพือ
่
่ ้บริหารมีแรงจูงใจทีจ
ผลประโยชนตั
์ วเอง
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
Agency Theory เชือ
่ วา่ ผู้บริหารมี
แรงจูงใจทีจ
่ ะทางานเพือ
่ ผลประโยชนตั
์ วเอง
มากกวาผลประโยชน
ของผู
่
้จ้าง ซึง่ ทาให้ผู้
์
ญเสี ยผลประโยชน์ เรียกวา่
จ้างอาจจะตองสู
้
“Agency cost”
ตัวอยาง
Agency Cost การฟุ่มเฟื อยของ
่
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
วิธก
ี ารลด Agency costs
ผู้จ้างเพิม
่ มาตรการตรวจสอบการทางาน
ของ Agent เช่น จ้าง
ผู้ตรวจสอบ
บัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน จัดทารายงาน
การเงินมากขึน
้
ทาสั ญญาระหวางผู
่
้บริหาร (Agent) กับผู้
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
วิธก
ี ารลด Agency costs
การทาสั ญญาระหวางผู
่
้บริหาร (Agent)
กับเจ้าหนี้
(Principle) เพือ
่ กาหนด
เงือ
่ นไขการรักษาระดับอัตราส่วนทางการเงิน
เช่น อัตราส่วนสิ นทรัพยต
้สิน
่
์ อหนี
ผลตอบแทนตอก
่ าไร ผลตอบแทนตอ
่
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
Agency Theory จึงมีสมมติฐานวา่
ผู้บริหารมีแรงจูงใจเลือกใช้วิธก
ี ารบัญชีแบบ
Optimism Approach เพือ
่ ให้บริษท
ั แสดงผล
กาไรและสิ นทรัพยสู
์ ง
ส่งผลให้ผู้บริหารไดรั
้ บผลตอบแทนสูง
(Compensation)
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
Agency Theory จึงมีสมมติฐานวา่
ผู้บริหารมีแรงจูงใจใช้นโยบายมีการเปิ ดเผย
ขอมู
งใส
(Transparency) เพือ
่
้ ลอยางโปร
่
่
ลดความกดดันทีจ
่ ะไดรั
้ บจากผู้ถือหุ้นและ
เจ้าหนี้ และเป็ นการลด Agency Costs
ทีม
่ าจากการตรวจสอบการทางานของ
ผูบริหาร
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.1 ทฤษฎีความสั มพันธ/ตั
์ วแทน (Agency
Theory)
Theory เชือ
่ วา่ ผู้บริหารบริษท
ั เลือกใช้โย
บายบัญชีและเปิ ดเผยขอมู
้ ลมาก ทาให้กาไร
สูผูงบริหาร
เปิ ดเผยมาก ทาให้ผูบริ
หารลด
้
้
Agency
ได
ผลตอบแทน
-ใช้วิธบ
ี ญ
ั Cost
ชีทาให
้ บ
้ ้ และไดรั
ผลตอบแทนสูง
ตามสั
กาไรสูญ
ง ญา/สูง
Optimism
Approach
High
Compensatio
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital marketassociation Theory)
ทฤษฎีนี้พฒ
ั นาจากสมมติฐานทางการเงินทีว่ า่
ตลาดมีประสิ ทธิภาพ
(Efficient Market Hypothesis: EMH) เชือ
่ วา่ ใน
ตลาดทุนทีม
่ ป
ี ระสิ ทธิภาพในระดับกลาง นักลงทุน
จะมีปฏิกริ ย
ิ าตอบสนองอยางทั
นทีหรือรวดเร็วตอ
่
่
ข้อมูลทางการเงินทีเ่ ปิ ดเผย และจะสะทอนให
้
้เห็ น
การเปลีย
่ นแปลงของราคาหุ้นในตลาดเงินและตลาด
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital
market-association Theory)
Theory เชือ
่ วา่ ตัวเลขทีบ
่ ริษท
ั แสดงกาไรสูง
แสดงวาผลการด
าเนินงานดี และมีผลตอการ
่
่
เติบโตในอนาคต ทาให้นักลงทุนภายนอก/
เจ้าหนี้ เชือ
่ มัน
่ และทาให้การระดมทุนได้
งาย
และมีตนทุ
่
้ นทางการเงินตา่ (Low
Cost of capital)
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital marketassociation Theory)
Theory เชือ
่ วา่ การเปิ ดเผยขอมู
้ ลทางการเงิน
มีผลตอต
เนื่องจาก
่ นทุ
้ นทางการเงิน
ผู้บริหารรูข
้ อมู
้ ลมากกวานั
่ กลงทุนภายนอกถา้
เมือ
่ ใดทีน
่ ก
ั ลงทุนรูสึ้ กวามี
่ ความไมเท
่ าเที
่ ยมใน
การรับรูข
้ อมู
้ ล (Information asymmetry)
ระหวางผู
่ วา่
่
้บริหารกับนักลงทุน โดยเชือ
ผู้บริหารทราบขอมู
้ ลมากกวาและใช
่
้ขอมู
้ ลหา
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital marketassociation Theory)
Theory เชือ
่ วา่ ถ้าบริษท
ั เปิ ดเผยขอมู
้ ลมาก
ทาให้ผูลงทุ
นเชือ
่ วาผู
ดขอมู
้
่ ้บริหารไมปกปิ
่
้ ล
เพือ
่ ตนเอง
ทาให้ความเสี่ ยงของนักลงทุน
ลดลง และสนใจลงทุนในตลาดทุนทาให้
เปิ ดเผย
ระดมทุ
นไดง้ าย
และส่งผลตอต
ทาง
้ นทุ
่
่ ตนทุ
้ นทาง
การเงิ
of capital)
ข้อมูนลลดลง
มาก (Low Costการเงิ
นตา่ Low
Transparen
Cost of
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital marketassociation Theory)
Theory นี้สรุปไดว
้ า่ ตัวเลขกาไรและ
การเปิ ดเผยขอมู
้ ลมีผลตอความสามารถ
่
ในการระดมทุนจากตลาดทุน
สรุป
กาไรสูง
เปิ ดเผยมาก
ระดมทุนงาย
ตนทุ
่
้ นทางการเงินตา่
กาไรตา่
ปกปิ ดขอมู
้ ล
2. แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.2 ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาดทุน (Capital marketassociation Theory)
ดังนั้น Theory เชือ
่ วาผู
่ ้บริหารจะมี
แรงจูงใจทีจ
่ ะเลือกใช้นโยบายบัญชีทา
ให้บริษท
ั มีกาไรสูง (Optimism
approach) และการเปิ ดเผยข้อมูลอยาง
่
โปรงใส
(Transparency) เพือ
่ สามารถ
่
ระดมทุนไดง้ าย
(ทาให้ตนทุ
่
้ นทางการ
2.แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.3 ทฤษฎีตนทุ
้ นทางการเมือง
(Political cost theory)
ตนทุ
้ นทางการเมือง คือ คาใช
่
้จาย
่
และ/หรือ คาเสี
่ ริษท
ั จะต้อง
่ ยโอกาสทีบ
เสี ยให้รัฐบาล เมือ
่ รัฐบาลมีการออก
ๆ
กฎหมาย กฎเกณฑ ์ ระเบียบตาง
่
ให้บริษท
ั ตองปฏิ
บต
ั ต
ิ าม
้
ทฤษฎีนี้เชือ
่ วา่ รัฐบาลให้ความสนใจ
2.แรงจูงใจของผู้บริหาร (Positive
Accounting Theory)
2.3 ทฤษฎีตนทุ
้ นทางการเมือง (Political
cost theory)
Political Cost Theory: PCT มีสมมติฐาน
วา่ ผู้บริหารจะมีแรงจูงใจในการเลือก
วิธก
ี ารบัญชีทท
ี่ าให้บริษท
ั ไมเป็
่ นใจของ
่ นทีส
รัฐบาล โดยเลือกวิธก
ี ารบัญชีทแ
ี่ สดงผล
กาไรตา่ (Conservatism approach) และ
เลือกทีจ
่ ะเปิ ดเผยขอมู
งใส
้ ลอยางโปร
่
่
(Transparency)
2.3.3 การประเมินผลประโยชนและต
นทุ
้ น
์
ของนโยบายการบัญชี (Cost-benefit
assessment)
งานวิจย
ั ในอดีต เชือ
่ วาผูบริหารไดคานึงถึง
่ ้
้
ต้นทุนและผลประโยชนที
Gray and
์ ไ่ ดรั
้ บ
Roberts, 1989 เสนอตนทุ
้ นและผลประโยชนที
์ ่
คานึงถึงมากทีส
่ ุด มี 4 ลักษณะดังนี้
1. ต้นทุนในการจัดทารายงานทางการเงิน
(Production costs)
2. ความเสี ยเปรียบในการแขงขั
่ น (Competitive
disadvantages)
3. ต้นทุนในการไมปฏิ
ั ต
ิ ามกฎ ระเบียบ และ
่ บต
2.3.3 การประเมินผลประโยชนและต
นทุ
้ น
์
ของนโยบายการบัญชี (Cost-benefit
assessment)
1. ต้นทุนในการจัดทารายงานทางการเงิน
(Production costs)
ต้นทุนในการจัดทารายงานการเงิน ไดแก
้ .่
-คาใช
อมู
่
้จายในการรวบรวมข
่
้ ล
-คาใช
ดทาขอมู
่
้จายในการจั
่
้ ล
่ วชาญพิเศษ
-คาใช
้ ย
้างผูเชี
่
้จายในการจ
่
-คาใช
ดทารูปเลมรายงาน
่
้จายในการจั
่
่
-คาใช
ดเผยขอมู
่
้จายในการเปิ
่
้ ล
2.3.3 การประเมินผลประโยชนและต
นทุ
้ น
์
ของนโยบายการบัญชี (Cost-benefit
assessment)
2. ความเสี ยเปรียบในการแขงขั
่ น
(Competitive disadvantages)
การเปิ ดเผยขอมู
่ วกับนโยบายการบริหารมาก
้ ลเกีย
ทาให้คูแข
ยเปรียบในการแขงขั
่ งทราบและเสี
่
่ น เช่น
กาไรแยกตามส่วนงาน ข้อมูลการวิจย
ั พัฒนา
ข้อมูลกลยุทธทางการตลาด
ข้อมูล
์
ความสั
ม
พั
น
ธ
กั
บ
บริ
ษ
ท
ั
ที
เ
่
กี
ย
่
วข
อง
์
้ การเปิ ดเผย
(Competitiv
ดังนัe
้น ความเสี ยเปรียบทางการคาจะท
าใหล้กิจการ
้ ขอมู
้
ปกปิ ดขอมูลหรือเลือกทีจ
่ ะเปิ ดเผยบางสวนตามความ
2.3.3 การประเมินผลประโยชนและต
นทุ
้ น
์
ของนโยบายการบัญชี (Cost-benefit
assessment)
3. ตนทุ
ั ต
ิ ามกฎ ระเบียบ
้ นในการไมปฏิ
่ บต
และขอบั
้ งคับ
(Non-compliance cost and litigation
cost)
เป็ นตนทุ
่ จ
ิ การจะตองเสี
ยให้กับ
้ นทีก
้
หน่วยงานของรัฐบาล
เกีย
่ วกับการไมจั
่ ดทารายงานทางการ
เงินตามกฎหมาย /ขอกาหนด
2.3.3 การประเมินผลประโยชนและต
นทุ
้ น
์
ของนโยบายการบัญชี (Cost-benefit
assessment)
4. การสรางภาพลั
กษณที
่ ี (Public
้
์ ด
relations)
รายงานการเงินเป็ นเครือ
่ งมือสราง
้
ภาพลักษณให
การ/
ผู้บริหาร
่
์ ้แกองค
์
ผู้บริหารสามารถเลือกนโยบายการ
ดเผย บรู้
เปิ ดเผยข้อมูล เพือ
่ ให้สัการเปิ
งคมภายนอกรั
Public
อมูงลคม/
ความรับผิดชอบตอลู
กคข
า/สั
้
่
้
relations
ทฤษฎีอธิบายความแตกตางของ
่
นโยบายการบัญชี
1. ทฤษฎี
สภาพแวดลอมกั
บ
้
การบัญชี
(EnvironmentalDeterminism
1. ระบบการเมือง (Political
Theory)
System)
2. ระบบกฎหมาย (Law
System)
3. ระบบการศึ กษา
(Education System)
4. ระบบเศรษฐกิจ
(Economic System)
5. วัฒนธรรม (Culture
2. ทฤษฎีแรงจูงใจ
ของผู้บริหาร
(Positive
Accounting
Theory)
1. ทฤษฎีความตัวแทน
(Agency Theory)
2. ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาด
ทุน (Capital marketassociation Theory)
3. ทฤษฎีตนทุ
้ นทาง
การเมือง (Political cost
theory)
3. การเปรียบเทียบ
ต้นทุนและ
ผลประโยชน์ (Costbenefit
1.
ต้นทุนในการจัดทา
assessment)
รายงานทางการเงิน
(Production costs)
2. ความเสี ยเปรียบในการ
แขงขั
่ น
(Competitive
disadvantages)
3. ต้นทุนในการไมปฏิ
ั ิ
่ บต
ตามกฎ ระเบียบ และ
ขอบังคับ (Non-
จบบทที่ 2
งานแบบฝึ กหัดคาถามทายบท
้
ขอ
้ 4 7 และ10
งานคาถามเชิงอภิปราย
ขอ
้ 4 และ 7
Topic
ขอ
4
้
Conservatism
Optimism
LIFO
WA
Completed
Percentage
3. Borrowing Cost
Expense & Cost
4. Depreciation
Straight line & DDB
Expense
Cost
DDB
Straight-line
5. Corporation exp.
Expense & Intangible
Expense
Intangible Asset
1. Inventory LIFO & WA
2. Contract
Complete & Percentage
ขอ
7
Hofstede
้
Model
Topic
Culture Value
1.
2.
ครอบครัวขยาย
แสดงความคิดเห็นเปิ ดเผย
1. Collectivism
2. Individualism
3. สั งคมยกยองคนร
า่ รวย
่
3. Masculinity
4. กฎหมายให้ความเป็ นธรรม
ได้
5. การตอต
ดใหม่ ๆ
่ านแนวคิ
้
4. Small Power Distance
5.
Weak Uncertainty
Avoidance
ขอ
10
Hofstede้
Gray Model
Culture Value
Accounting Value
1.
ปัจเจกชนสูง/ยอมรับความ
แตกตาง/ยอมรั
บความคิดใหม่
่
1.
Professionalism
ใช้วิจารณญาณของนักบัญชีสูง
2.
เอือ
้ เฟื้ อเผือ
่ แผ/ยอมรั
บความ
่
แตกตางทางสั
งคม/อยู่
่
รวมกันเป็ นกลุม
่
2.
Conservatism
ใช้วิธก
ี ารบัญชีเน้นความ
ระมัดระวัง
3.
อยูรวมกั
นเป็ นกลุม/ยอมรั
บ
่
่
ความแตกตาง/ต
อต
ด
่
่ านความคิ
้
แปลกใหม่
3.
Uniformity
วิธก
ี ารบัญชีมใี ห้ทางเลือกให้น้อย
ขอ
4.2
้
ขอ
้ 4
จาก 3 ทฤษฎี คิดวาแรงจู
งใจมีผลตอการ
่
่
ตัดสิ นใจของผู้บริหารทีส
่ ุด
และ Positive Accounting Theory เหมือน
หรือแตกตางกั
บ Cost-Benefit Assessment
่
อยางไร
่
ขอ
7.2
้
ขอ
่ วี ฒ
ั นธรรมแบบ
้ 7.2 ในประเทศทีม
Individualism (มีความเป็ นปัจเจกชน
สูง) Small Power Distance (มีความ
เทาเที
่ ยมกัน) Weak Uncertainty
Avoidance (ยอมรับในสิ่ งใหมๆ่ )
ลักษณะทางการบัญชีตามแนวคิดของ
Gray จะมีลก
ั ษณะอยางไร
เพราะ
่
เหตุใด
คาตอบ
ขอ
7.2
้
-Professionalism ให้ความสาคัญกับ
วิจารณญาณนของนักบัญชีใน
การจัดทาและการเปิ ดเผยขอมู
้ ล
-Flexibility นักบัญชีมท
ี างเลือกให้สามารถ
เลือกปฏิบต
ั ไิ ดมาก
้
-Optimism การเลือกใช้วิธก
ี ารบัญชีเน้นการ
วัดมูลคาสิ
่ นทรัพยและ
์
หนี้สินใช
จบบทที่ 2
งาน
-สรุปโมเดลการวิจย
ั ทีไ่ ด้
จากบทที่ 2
-ทฤษฎีทใี่ ช้อธิบายงานวิจย
ั
-ทฤษฎีทใี่ ช้อธิบายงานวิจย
ั
ในบทที่ 2
ทฤษฎีอธิบายความแตกตางของ
่
นโยบายการบัญชี
1. ทฤษฎี
สภาพแวดลอมกั
บ
้
การบัญชี
(EnvironmentalDeterminism
1. ระบบการเมือง (Political
Theory)
System)
2. ระบบกฎหมาย (Law
System)
3. ระบบการศึ กษา
(Education System)
4. ระบบเศรษฐกิจ
(Economic System)
5. วัฒนธรรม (Culture
2. ทฤษฎีแรงจูงใจ
ของผู้บริหาร
(Positive
Accounting
Theory)
1. ทฤษฎีความตัวแทน
(Agency Theory)
2. ทฤษฎีเกีย
่ วกับตลาด
ทุน (Capital marketassociation Theory)
3. ทฤษฎีตนทุ
้ นทาง
การเมือง (Political cost
theory)
3. การเปรียบเทียบ
ต้นทุนและ
ผลประโยชน์ (Costbenefit
1.
ต้นทุนในการจัดทา
assessment)
รายงานทางการเงิน
(Production costs)
2. ความเสี ยเปรียบในการ
แขงขั
่ น
(Competitive
disadvantages)
3. ต้นทุนในการไมปฏิ
ั ิ
่ บต
ตามกฎ ระเบียบ และ
ขอบังคับ (Non-
-สรุปโมเดลการวิจย
ั ทีไ่ ด้
จากบทที่ 2
งานวิจย
ั Gay,1980; Weetman and
Gray,1991; Cooke, 1983; Norton,
1995.
ศึ กษาระดับความระมัดระวังในประเทศ
ทีม
่ ก
ี ารใช้วิธก
ี ารบัญชีทอ
ี่ ยูบนหลั
ก
่
ความระมัดระวังยอมแสดงมู
ลคาในงบ
่
่
ใ่ ช้
การเงินแตกตางไปจากประเทศที
่
วิธก
ี ารบัญชีทเี่ น้นการนาเสนอข้อมูล
เชิงบวก
การคานวณคาดั
่ ชนีความระมัดระวัง
งานวิจย
ั ของ Norton (1995) ศึ กษาเปรียบเทียบ
วิธก
ี ารบัญชีของประเทศออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
โดยคานวณคาดั
่ ชนีความระมัดระวัง ดังนี้
Index of Conservatism =
1-[กาไร(หรือทุน)ของสหรัฐอเมริกา – กาไร(หรือ
ทุน)ของออสเตรเลีย]
•ถ้าคาดั
า่ 1 หมายความวา่
่ ชนีความระมัดระวังทีไ่ ดมากกว
้
ทุน) ของดระวัง
าสั
รณของก
าไร
วิธก
ี ารบัญชีทค
ป
ี่ ฏิ
ั ใิ บูนออสเตรเลี
ยอยูบนหลั
กความระมั
่ บตม
์
่ (หรือ
สหรัาสหรั
ฐ
กา กา
น้อยกว
ฐอเมริ
่ อเมริ
•ถ้าคาดั
่ ชนีความระมัดระวังทีไ่ ดน
้ ้ อยกวา่ 1 หมายความวา่
วิธก
ี ารบัญชีทป
ี่ ฏิบต
ั ใิ นออสเตรเลียอยูบนหลักความระมัดระวัง
การเปิ ดเผยขอมู
งใส
้ ลอยางโปร
่
่
(Transparency)
งานวิจย
ั เกีย
่ วกับการเปิ ดเผยขอมู
้ ลในรายงาน
การเงินของบริษท
ั ในหลาย ๆ ประเทศ เช่น
Gray et al.,1995; Crain and Diga, 1998
Chau and Gray, 2002; Camfferman and
Cooke, 2002.
โดยมีเครือ
่ งมือในการวัดปริมาณการเปิ ดเผย
nj
ข้อมูล ถ้าบริษท
ั เปิ ดเผยขอมู
้ ลจะไดรั
้ บคะแนน
i=1
จากการเปิ
ดเผย และนาคามาค
านวณดัชนีระดับ
่
การเปิ ดเผยขอมู
้ ล (Disclosure Index)
การเปิ ดเผยขอมู
งใส
้ ลอยางโปร
่
่
(Transparency)
สูตรคานวณดัชนีระดับการเปิ ดเผยขอมูล
nj
้
(Disclosure Index)
i=1
Ij= ∑ Xij
nj
nj = จานวนขอมู
่ วรเปิ ดเผยในบริษท
ั
้ ลทัง้ หมดทีค
j
Xij = 1
เมือ
่ บริษท
ั มีการเปิ ดเผยขอมู
้ ล หรือ
= 0 เมือ
่ บริษท
ั ไมมี
่ การเปิ ดเผยขอมู
้ ล
คา่ Ij ทีค
่ านวณคือ =
งานวิจย
ั (Weetman and Gray, 1991;
Cooke 1993, Norton, 1995.
ศึ กษาระดับความระมัดระวังของวิธก
ี ารบัญชี
วิธก
ี ารบัญชีใดอยูบนหลั
กความระมัดระวัง
่
มากกวากั
ี ฏิบต
ั ิ
่ น โดยการเปรียบเทียบวิธป
ทางการบัญชี 2 วิธห
ี รือมากกวา่ และดู
ผลกระทบตองบการเงิ
นโดยแสดงมูลคา่
่
สิ นทรัพยหรื
้ า่ กวา่ และแสดง
์ อรายไดต
มูลคาหนี
้สินหรือคาใช
งกวา่
่
่
้จายสู
่
งานวิจย
ั Gray 1988 ไดศึ
ั
้ กษางานวิจย
ของฮอกสเตท
Hofsteds และไดเสนอ
้
Hofsteds - Gray Model เพือ
่ ใช้อธิบาย
ความสั มพันธระหว
างวั
่ ฒนธรรมและการ
์
คือ
บัญชี 4 ดาน
้
1. Individualism VS Collectivism
2. Large VS Small Power
Distance
3. Strong VS Weak Uncertainty
งานวิจย
ั Gray 1988 ไดเสนอลั
กษณะ
้
การบัญชีมค
ี วามสั มพันธกั
์ บวัฒนธรรม
มี 4 ลักษณะ คือ
1. Professionalism VS
Statutory Control
2. Uniformity VS Flexibility
3. Conservatism VS
Optimism