โครงสร้างของคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ

Download Report

Transcript โครงสร้างของคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ

โครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์
โครงสร้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์
วิเชษฐ์ พลายมาศ
นงลักษณ์ พรมทอง
ว ัตถุประสงค์การเรียนรู ้
 เพือ
่ ทำควำมเข ้ำใจเกีย
่ วกับโครงสร ้ำงของ
ึ ษำถึงโครงสร ้ำงพืน
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร โดยศก
้ ฐำน
ของระบบคอมพิวเตอร์ และโครงสร ้ำงของ
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร
 เพือ
่ ให ้รู ้เกีย
่ วกับสถำปั ตยกรรมพืน
้ ฐำนของระบบ
คอมพิวเตอร์ โครงสร ้ำงสร ้ำงหน่วยรับเข ้ำ/สง่ ออก
ั ้ ของหน่วยเก็บ และ
โครงสร ้ำงหน่วยเก็บ ลำดับชน
กำรป้ องกันระดับฮำร์ดแวร์ และสถำปั ตยกรรมของ
ระบบทัว่ ไป
 เพือ
่ ให ้รู ้เกีย
่ วกับโครงสร ้ำงระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร
โปรแกรมระบบ โครงสร ้ำงระบบ และเครือ
่ งเสมือน
Agenda
 Computer System Operation
 I/O Structure
 Storage Structure
 Storage Hierarchy
 Hardware Protection
 General System Architecture
ปฏิบ ัติการของระบบคอมพิวเตอร์
(computer-system operation)
ี ย
 ระบบคอมพิวเตอร์ขนำดใหญ่ปัจจุบน
ั ประกอบด ้วย ซพ
ี ู และกลุม
่





ื่ มต่อเพือ
ของตัวควบคุมอุปกรณ์ (device controller) ซงึ่ เชอ
่
เข ้ำถึงหน่วยควำมจำผ่ำนทำงบัสระบบ (system bus)
อุปกรณ์แต่ละชนิดจะมีตวั ควบคุมอุปกรณ์เฉพำะแยกจำกกัน โดย
มี local buffer
ี ย
ซพ
ี แ
ู ละตัวควบคุมอุปกรณ์ทงั ้ หมดสำมำรถทำงำนไปพร ้อมๆ กัน
ได ้
ี ย
ซพ
ี จ
ู ะย ้ำยข ้อมูลเข ้ำ/ออกระหว่ำงหน่วยควำมจำหลักกับ local
buffer
ี ย
ตัวควบคุมอุปกรณ์จะบอกซพ
ี วู ำ่ อุปกรณ์ทำงำนเสร็จแล ้วหรือยัง
โดยวิธข
ี ด
ั จังหวะ (interrupt)
เพือ
่ ประกันว่ำลำดับกำรเข ้ำถึงหน่วยควำมจำนีเ้ ป็ นไปอย่ำง
ถูกต ้อง จะเป็ นหน ้ำทีข
่ องตัวควบคุมหน่วยควำมจำทีจ
่ ะเป็ นผู ้คอย
จัดจังหวะ
ภาพที่ 2.1 ระบบคอมพิวเตอร์ สมัยใหม่
Computer-System Operation (cont.)
 เมือ
่ เปิ ดเครือ
่ งหรือรีบต
ู (reboot) จะมีโปรแกรม
้
เล็กๆ ถูกโหลดเข ้ำหน่วยควำมจำหลักเพือ
่ ใชใน
กำรเริม
่ ระบบ เรียกว่ำ โปรแกรมปลุกเครือ
่ ง หรือ
โปรแกรมบูต (bootstrap program)
 เมือ
่ os ถูกบรรจุ (load) เข ้ำมำไว ้ใน
หน่วยควำมจำแล ้วจึงเริม
่ กระบวนกำรเริม
่ ต ้น (init
process) หรือ UPP (Universal Progenitor
Process) และพร ้อมทีท
่ ำงำนโดยกำรรอคอย
เหตุกำรณ์บำงอย่ำง
ั สญ
ั ญำณกำร
 เหตุกำรณ์จะเกิดขึน
้ โดยอำศย
ขัดจังหวะ (interrupt) ซงึ่ ถูกสง่ มำโดยฮำร์ดแวร์
หรือซอฟต์แวร์
หน้าทีข
่ องการข ัดจ ังหวะ
Common Functions of Interrupts
ี ย
 ฮำร์ดแวร์อน
ิ เทอร์รัพท์จะถูกสง่ ไปยังซพ
ี ผ
ู ำ่ นทำงบัสระบบ
ั คำสงั่ ปฏิบต
 ซอฟต์แวร์อน
ิ เทอร์รัพท์จะอำศย
ั ก
ิ ำรพิเศษที่
เรียกว่ำ กำรเรียกระบบ (system call หรือ monitor call)
 กำรขัดจังหวะแต่ละชนิดจะได ้รับกำรตอบสนองด ้วย service
routine ทีเ่ หมำะสมกับกำรขัดจังหวะนัน
้ ๆ
ี ย
 เมือ
่ ซพ
ี ถ
ู ก
ู ขัดจังหวะมันจะหยุดทำงำนชวั่ ครำวเพือ
่ ให ้
ี
อุปกรณ์ทำกำรถ่ำยข ้อมูลจนแล ้วเสร็จ เพือ
่ ป้ องกำรสูญเสย
ี ย
กำรขัดจังหวะ (lost interrupt) จำกนัน
้ ซพ
ี จ
ู งึ จะกลับไป
ทำงำนทีค
่ ้ำงอยูต
่ อ
่ ไป
ี ย
 OS จะรักษำสถำนะของซพ
ี ป
ู ั จจุบน
ั ไว ้โดยเก็บเรจิสเตอร์
และตัวนับโปรแกรมขณะนัน
้ (program counter)
Common Functions of Interrupts
(cont.)
่ มอบกำรควบคุมไปยัง รูทน
 กำรขัดจังหวะจะสง
ี บริ
กำรขัดจังหวะ (interrupt service routine) ผ่ำน
ทำง อินเทอร์รัพต์เว็กเตอร์ (interrupt vector)
ซงึ่ บรรจุทอ
ี่ ยูข
่ องรูทน
ี บริกำรทัง้ หมดไว ้
 สถำปั ตยกรรมกำรขัดจังหวะจะต ้องจัดเก็บทีอ
่ ยู่
ของคำสงั่ ทีถ
่ ก
ู ขัดจังหวะ
 แทร็บ (Trap) คือกำรขัดจังหวะโดยซอฟต์แวร์ท ี่
อำจเกิดโดยข ้อผิดพลำด หรือผู ้ใชร้ ้องขอ
 ในฐำนะนี้ OS จึงเป็ น interrupt driven.
ภาพที่ 2.2 ช่วงเวลาของการขัดจังหวะสาหรับกระบวนการเดียวที่กาลังแสดงผลลัพธ์
I/O Structure
 หลังจำก i/o เริม
่ ต ้น, กำรควบคุมจะถูกสง่ กลับ
้ อ
ิ้
ไปยังโปรแกรมผู ้ใชเมื
่ ปฏิบต
ั ก
ิ ำรของ i/o สน
เสร็จลง (I/O completion) เท่ำนัน
้
ั่ ว่ำงของซพ
ี ย
 รอคำสง
ี ู (CPU idle) จนกว่ำจะถึงกำร
ขัดจังหวะถัดไป
้ วยควำมจำ
 รอลูป (Wait loop) เพือ
่ ใชหน่
ิ้ ลงและ
 อย่ำงน ้อยกำรร ้องขอ i/o หนึง
่ ครัง้ เสร็จสน
ไม่ต ้องทำงำนต่อไป
I/O Structure (cont.)
 หลัง i/o เริม
่ ต ้น, กำรควบคุมจะถูกสง่ กลับไป
้
ยังโปรแกรมผู ้ใชโดยปรำศจำกกำรรอให
้ i/o
ิ้ (I/O completion)
ปฏิบต
ั ก
ิ ำรเสร็จสน
 กำรเรียกระบบ (System call) – กำรร ้องขอไปยัง
้
OS เพือ
่ ขอให ้ผู ้ใชรอจนกว่
ำปฏิบต
ั ก
ิ ำรของ i/o จะ
ิ้
เสร็จสน
 ตำรำงสถำนะอุปกรณ์ (Device-status table)
่ ชนิด
บรรจุรำยกำรเกีย
่ วกับกำรขอใชอุ้ ปกรณ์ เชน
ทีอ
่ ยู่ และสถำนะ เป็ นต ้น
ี้ ปยังตำรำงอุปกรณ์ i/o เพือ
 OS จะสร ้ำงดัชนีชไ
่ ดู
สถำนะของอุปกรณ์ และแก ้ไขรำยกำรในตำรำง
รวมทัง้ กำรขัดจังหวะ
I/O Structure (cont.)
ี ย
ิ้ ไอ/โอ
 วิธท
ี ซ
ี่ พ
ี ต
ู ้องรอให ้กำรเสร็จสน
ี ก่อนนี้ เรียกว่ำ ประสำนเวลำ หรือ
เสย
ซงิ โครนั ส (synchronous)
่ นวิธท
 สว
ี ต
ี่ รงกันข ้ำมเรียกว่ำ ไม่ประสำนเวลำ
หรืออะซงิ โครนั ส (asynchronous)
ี ย
 ในกรณีทเี่ ป็ นประสำนเวลำ ซงึ่ ซพ
ี ต
ู ้องรอให ้
ิ้ ไอ/โอ นั น
ี ย
กำรเสร็จสน
้ ในระหว่ำงทีซ
่ พ
ี รู อ
จำเป็ นต ้องมีคำสงั่ พิเศษ เรียกว่ำ คำสงั่ รอ
(wait instruction) ไปเรือ
่ ยๆ จนกว่ำจะได ้รับ
กำรขัดจังหวะใหม่
Two I/O Methods
Synchronous
Asynchronous
Device-Status Table
I/O Structure (cont.)
 ในกรณีของอะซงิ โครนั ส i/o
ิ ธิภำพของระบบ ในระหว่ำงที่ i/o
 จะเพิม
่ ประสท
ี ย
กำลังทำงำนอยู่ ซพ
ี ส
ู ำมำรถดำเนินกำรงำนอืน
่
หรือเริม
่ ทำ i/o ของอุปกรณ์ตวั อืน
่ ไปพร ้อมๆ กันได ้
 แต่กำรเหลือ
่ มกำรทำงำนในลักษณะนีก
้ ็ยงั มี
ข ้อจำกัดเนือ
่ งจำกควำมแตกต่ำงกันระหว่ำง
ี ย
ควำมเร็วของ i/o กับซพ
ี ม
ู ม
ี ำก
 ต ้องใช ้ DMA เข ้ำมำชว่ ย
โครงสร้าง DMA
(DMA Structure)
้ ปกรณ์ไอ/
 DMA (Direct Memory Access) จะใชในอุ
่ เทป ดิสก์ เครือข่ำยสอ
ื่ สำร
โอ ทีม
่ ค
ี วำมเร็วสูง เชน
เป็ นต ้น
้ อ OS ต ้องกำรรับ-สง่ ข ้อมูล,
 ถ ้ำโปรแกรมผู ้ใชหรื
 OS จะหำ บัฟเฟอร์ทต
ี่ ้องกำร (บัฟเฟอร์วำ่ ง สำหรับนำเข ้ำ,
บัฟเฟอร์เต็มสำหรับสง่ ออก) จำกอำณำบริเวณของบัฟเฟอร์
็ ค่ำเรจิสเตอร์ของตัวควบคุม
 จำกนัน
้ ตัวขับอุปกรณ์จะเซต
DMA เพือ
่ ระบุต ้นทำง ปลำยทำง และขนำดทีจ
่ ะสง่
 หลังจำกนัน
้ DMA จะควบคุมและดำเนินกำรสง่ ข ้อมูลระหว่ำง
i/o กับหน่วยควำมจำ
ี ย
 ในระหว่ำงนัน
้ ซพ
ี ก
ู ็เป็ นอิสระทีท
่ ำงำนอย่ำงอืน
่ ได ้ จนกระทั่ง
ิ้ DMA จะสง่ สญ
ั ญำณขัดจังหวะซพ
ี ย
กำรสง่ ข ้อมูลเสร็จสน
ี ู อีก
ครัง้ หนึง่
simple DMA Structure
MAR (memory address register)
MDR (memory data register)
CU (Control Unit)
PC (Program Counter)
IR (Instruction Register)
DMA Structure
โครงสร้างของหน่วยเก็บ
(Storage Structure)
 โดยหลักกำรแล ้ว เรำต ้องกำรฝั งโปรแกรมและข ้อมูลไว ้ภำยใน
หน่วยควำมจำหลักอย่ำงถำวรตลอดเวลำ แต่เป็ นไปไม่ได ้ด ้วย
สำเหตุสำคัญ 2 ประกำร
 หน่วยควำมจำหลักมีขนำดน ้อยเกินกว่ำทีจ
่ ะสำมำรถเก็บโปรแกรม
และข ้อมูลทีต
่ ้องกำรไว ้ทัง้ หมดได ้
 หน่วยควำมจำหลักเป็ นอุปกรณ์ประเภทหน่วยเก็บลบเลือนได ้
(volatile storage)
 จึงจำเป็ นต ้องมีหน่วยเก็บรอง (secondary storage) ที่
สำมำรถเก็บโปรแกรมและข ้อมูลปริมำณมำกไว ้ได ้อย่ำงถำวร
 ปั จจัยสำคัญทีค
่ วรพิจำรณำได ้แก่




ควำมเร็ว
ต ้นทุน
ขนำด
กำรลบเลือนได ้
จานแม่เหล็ก (Magnetic Disk)
่ น
 ควำมเร็วของดิสก์มำจำก 2 สว
้
 transfer rate คืออัตรำควำมเร็วทีใ่ ชในกำรส
ง่ ถ่ำย
ข ้อมูลจำกอุปกรณ์ไปยังคอมพิวเตอร์ ซงึ่ มีหน่วยวัด
เป็ นเมกะบิตต่อวินำที (megabit per second)
 positioning time หรือ random access time ซงึ่
มีหน่วยวัดเป็ นมิลลิวน
ิ ำที (millisecond)
ประกอบด ้วย
้
 seek time เป็ นเวลำทีใ่ ชในกำรเคลื
อ
่ นหัวอ่ำน
ไปยังร่อง (track) ทีต
่ ้องกำร
้
 -rotational latency เป็ นเวลำทีใ่ ชในกำรค
้นหำ
เซกเตอร์ทต
ี่ ้องกำร
Moving-Head Disk Mechanism
ั้
ลาด ับชนของหน่
วยเก็บ
Storage Hierarchy
Caching
้ นหน่วยควำมจำควำมเร็วสูงในกำรเก็บ
 ใชเป็
้
ข ้อมูลทีม
่ ักถูกเรียกใชงำนบ่
อย
 จำเป็ นต ้องมีนโยบำยกำรจัดกำรแคช/แทนที่
แคช (cache management/replacement
policy)
้
 แคชถูกนำไปใชในหน่
วยเก็บหลำยระดับ อำจ
มีปัญหำกำรปรับค่ำข ้อมูลในแคชแต่ละระดับ
ไม่ถก
ู ต ้องได ้ เรียกว่ำ กำรเกำะกลุม
่ และควำม
ต ้องกัน (Coherency and Consistency)
Cache Structure
Migration of A From Disk to Register
ปั ญหำกำรเกำะกลุม
่ และควำมต ้องกัน (Coherency and
Consistency) ทีข
่ ้อมูลในแคชแต่ละระดับไม่สอดคล ้องกัน
การป้องก ันระด ับฮาร์ดแวร์
Hardware Protection
 Dual-Mode Operation
 I/O Protection
 Memory Protection
 CPU Protection
การดาเนินการโหมดคูก
่ ัน
(Dual-Mode Operation)
 เพือ
่ ประกันควำมถูกต ้องของกำรปฏิบต
ั ก
ิ ำรและทุก
โปรแกรม ตลอดทัง้ ข ้อมูลของโปรแกรมเหล่ำนัน
้ จำก
กำรรุกรำนของโปรแกรมผิดปกติ กำรปกป้ องนีม
้ ค
ี วำม
จำเป็ นต ้องใช ้ โหมด (modes) ในกำรปฏิบต
ั ก
ิ ำร
ได ้แก่
 โหมดผู ้ใช ้ (user mode)
 โหมดมอนิเตอร์ (monitor mode)
้ ดแวร์เข ้ำมำชว่ ย โดยกำหนด
 ทัง้ สองโหมดจะใชฮำร์
mode bit ให ้ monitor (0) และ user (1)
 ทำให ้ปฏิบต
ั ก
ิ ำรกับคำสงั่ บำงอย่ำงจะสำมำรถทำได ้
ด ้วยเฉพำะในฐำนะของระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำรเท่ำนัน
้ และ
บำงคำสงั่ จะทำได ้ในฐำนะของผู ้ใช ้
Dual-Mode Operation (cont.)
 กำรออกแบบระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำรโดยป้ องกันคำสงั่ ระดับเครือ
่ งทีอ
่ ำจเป็ น
่ คำสงั่ จำพวก คำสงั่ อภิสท
ิ ธิ์ (privileged
อันตรำยอย่ำงเชน
instructions)
ั่ ประเภทอภิสท
ิ ธิจ์ ำกกำร
 โดยกำหนดให ้ฮำร์ดแวร์จะยอมรับคำสง
ปฏิบต
ั ก
ิ ำรใน monitor mode เท่ำนัน
้
 ถ ้ำมีควำมพยำยำมทีจ
่ ะเรียกใชค้ ำสงั่ เหล่ำนีจ
้ ำก user mode,
ฮำร์ดแวร์จะถือว่ำเป็ นกำรกระทำทีผ
่ ด
ิ ปกติและจะ trap ไปยัง
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำรทันที
การป้องก ัน i/o
(I/O Protection)
ั่ เกีย
 กำหนดให ้ทุกคำสง
่ วกับ i/o เป็ นคำสงั่
ิ ธิ์
อภิสท
้
 ต ้องประกันว่ำโปรแกรมผู ้ใชจะไม่
ได ้รับ
อนุญำตให ้ควบคุมคอมพิวเตอร์ในฐำนะโหมด
มอนิเตอร์ได ้
Use of A System Call to Perform I/O
การป้องกนหน่วยความจา
(Memory Protection)
 ต ้องปกป้ อง interrupt vector (ตำรำงทีเ่ ก็บตัวช ี้
ไปยัง interrupt service) ไม่ให ้ถูกแก ้ไขค่ำได ้
โดยโปรแกรมผู ้ใช ้
 และปกป้ องรูทน
ี บริกำรขัดจังหวะ (interrupt
service routine) ในระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำรไม่ให ้ถูก
แก ้ไขได ้
 จุดมุง
่ หมำยก็เพือ
่ ป้ องกันกำรรุกล้ำระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร
้
จำกโปรแกรมผู ้ใช ้ และป้ องกันโปรแกรมผู ้ใชจำก
้
กำรรุกล้ำของผู ้ใชคนอื
น
่ ทัง้ โดยเจตนำและไม่
เจตนำ
Memory Protection (cont.)
่ นๆ
 ทำได ้โดยจัดสรรหน่วยควำมจำออกเป็ นสว
้ ้ำถึงได ้เฉพำะพืน
โดยยินยอมให ้โปรแกรมผู ้ใชเข
้ ที่
ของตนเองทีไ่ ด ้รับอนุญำตเท่ำนัน
้ ด ้วยกำรใช ้ เรจิ
สเตอร์ 2 ตัว
 base register เก็บค่ำเริม
่ ต ้นของหมำยเลขตำแหน่ง
้
หน่วยควำมจำทีย
่ อมให ้ใชงำนได
้
 limit register เก็บค่ำขนำดของพืน
้ ทีห
่ น่วยควำมทีจ
่ ะ
้ ้
ยอมให ้ใชได
 พืน
้ ทีข
่ องหน่วยควำมจำอำจแบ่งออกเป็ นสว่ น
หลักๆ ได ้แก่ สว่ นของระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร และ สว่ น
ของผู ้ใช ้
Use of A Base and Limit Register
Memory Protection (cont.)
ี ย
 โดยที่ ซพ
ี ู จะกำหนดหมำยเลขพืน
้ ที่
หน่วยควำมจำทัง้ หมดไว ้ใน เรจิสเตอร์ ด ้วย
monitor mode
 ถ ้ำมีควำมพยำยำมทีจ
่ ะใช ้ monitor mode เพือ
่
เข ้ำถึง monitor memory หรือรุกล้ำพืน
้ ทีข
่ อง
้
ผู ้ใชคนอื
น
่ ก็จะเกิด trap ไปยังระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร
 base และ limit registers ต ้องถูกกำหนดค่ำได ้
โดยระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำรเท่ำนัน
้ โดยกำรใชค้ ำสงั่ พิเศษ
ิ ธิ์ (special privileged
ประเภทอภิสท
instruction) ซงึ่ ทำได ้เฉพำะใน monitor mode
เท่ำนัน
้
Hardware Address Protection
ี ย
การป้องก ันซพ
ี ู
(CPU Protection)
้ ให ้ติด
 โดยทีเ่ รำจะต ้องปกป้ องโปรแกรมผู ้ใชไม่
บ่วงอยูใ่ นวังวนไม่รู ้จบ (infinite loop) และไม่
ยอมสง่ คืนกำรควบคุมให ้แก่ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร
วิธก
ี ำรนีเ้ รำจะใช ้ timer ซงึ่ เป็ นฮำร์ดแวร์ เข ้ำมำ
ชว่ ย
 timer สำมำรถตัง้ ค่ำกำรขัดจังหวะคอมพิวเตอร์
ตำมเวลำทีก
่ ำหนด ซงึ่ อำจเป็ นเวลำคงทีห
่ รือ
แปรเปลีย
่ นก็ได ้
ิ
 โดยจะถูกใชอั้ ตรำทีค
่ งทีข
่ องนำฬกำและตั
วนับ
(counter) ซงึ่ ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำรจะเป็ นผู ้ตัง้ ค่ำตัวนับ
สถาปัตยกรรมของระบบทวไป
่ั
(General System Architecture)
 Computer system utilization นำไปสู่
 ระบบหลำยโปรแกรม (multiprogramming)
 ระบบแบ่งเวลำ (time sharing) ทีย
่ น
ิ ยอมให ้
้
ทรัพยำกรของระบบสำมำรถถูกใชงำนได
้จำกหลำย
โปรแกรมและหลำย process
 กำรแบ่งสรร (sharing) ได ้นำไปสู่
 กำรปรับเปลีย
่ นสถำปั ตยกรรมพืน
้ ฐำนของ
คอมพิวเตอร์ทย
ี่ น
ิ ยอมให ้ os สำมำรถดูแลกำร
ควบคุม (control) อยูเ่ หนือระบบคอมพิวเตอร์ และ
i/o
General System Architecture
(cont.)
ั dual mode
 กำรดูแลกำรควบคุมโดยอำศย
 user mode
 monitor mode
 โครงสร ้ำงนีส
้ นั บสนุนหลักกำรของคำสงั่
ิ ธิ์ (privileged instructions) ทีส
อภิสท
่ ำมำรถ
ถูกกระทำได ้เฉพำะ monitor mode
General System Architecture
(cont.)
ั่ อภิสท
ิ ธิ์ (privileged instructions)
 คำสง
 I/O instructions
ั่ เกีย
 คำสง
่ วกับกำรแก ้ไขค่ำเรจิสเตอร์สำหรับจัดกำร
หน่วยควำมจำ และ timer
ั่ หยุด (halt instruction)
 คำสง
ั่ เกีย
 คำสง
่ วกับกำรเปิ ด/ปิ ดระบบกำรขัดจังหวะ
ั่ ในกำรเปลีย
 คำสง
่ นจำก user mode เป็ น monitor
mode รวมทัง้ กำรเปลีย
่ นค่ำ mode bit ของ
ฮำร์ดแวร์
โครงสร้างระบบ
(system structure)
 โครงสร ้ำงอย่ำงง่ำย (simple structure)
ั ้ (layered approach)
 โครงสร ้ำงแบบลำดับชน
โครงสร้างอย่างง่าย
(simple structure)
 โปรแกรมผู ้ใชจึ้ งสำมำรถเข ้ำถึง เรียกใช ้ และ
ครอบครองทรัพยำกรระบบได ้อย่ำงอิสระ และ
โดยสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็ นต ้องร ้องขอผ่ำน
monitor mode
ภาพที่ 2.12 โครงสร้างแบบลาดับชั้นของ MS-DOS
ภาพที่ 12.3 โครงสร้างระบบยูนิกซ์
ั้
โครงสร้างแบบลาด ับชน
(layered approach)
ั ้ เป็ นสว่ นๆหรือ modularity
 กำรออกแบบในลักษณะลำดับชน
ิ กับระดับของฮำร์ดแวร์ (layer 0)
 ระดับล่ำงเป็ นระดับทีใ่ กล ้ชด
ขึน
้ ไปจนถึงระดับบนสุด (lever N) เป็ นระดับของสว่ นติดต่อ
ผู ้ใช ้ (user interface)
ั ้ (layered approach)
 คุณลักษณะทีด
่ ข
ี องระบบแบบลำดับชน
 ควำมเป็ นหน่วย (modularity) ทีอ
่ ส
ิ ระต่อกัน
ั้
 แต่ละหน่วยมีหน ้ำทีเ่ ฉพำะตำมลำดับชน
ั ้ ล่ำงจะจัดหำบริกำรทีเ่ หมำะสมให ้ชน
ั ้ บน
 ชน
 กำรสร ้ำง แก ้ไข ตรวจหำควำมผิดพลำดเป็ นเรือ
่ งไม่ยำก
 สำมำรถควบคุมและจำกัดควำมผิดพลำดในแต่ละระดับ
 ยุง
่ ยำกมำกในกำรออกแบบหน ้ำทีใ่ ห ้สมบูรณ์ได ้ในแต่ละระดับ
ภาพที่ 12.4 โครงสร้างแบบลาดับชั้นของระบบปฏิบตั ิการ
เครือ
่ งเสมือน
(virtual machines)
 สำมำรถจำลองสภำพแวดล ้อมกำรทำงำนของ
เครือ
่ งหนึง่ ให ้สำมำรถปฏิบต
ั ก
ิ ำรบนโครงสร ้ำง
พืน
้ ฐำนของอีกเครือ
่ งหนึง่ ได ้โดยทีโ่ ปรแกรมผู ้ใช ้
หรือโปรแกรมประยุกต์เสมือนว่ำกำลังปฏิบต
ั ก
ิ ำร
อยูบ
่ นเครือ
่ งเดิม
 จำลองทรัพยำกรเชงิ กำยภำพของระบบให ้
่ ซพ
ี ย
สำมำรถถูกใชร่้ วมกันได ้แบบเสมือน เชน
ี ,ู
ระบบสพูลลิง, ระบบแฟ้ ม, ดิสก์ และอุปกรณ์ไอ/
โอ เป็ นต ้น
 กำรจำลอง monitor mode แบบเสมือน
ภาพที่ 12.5 แบบจาลองระบบ (a) ไม่มีเครื่ องเสมือน (b) เครื่ องเสมือน
virtual machines
(cont.)
 ข้อดี
้
้ อ
 ผู ้ใชสำมำรถเลื
อกใชเครื
่ งแบบเสมือนเพือ
่ ทีจ
่ ะได ้
หลำยสภำพแวดล ้อม
 เครือ
่ งเสมือนแต่ละเครือ
่ งจะมีควำมเป็ นเอกเทศอย่ำง
สมบูรณ์และได ้รับกำรปกป้ อง
 สำมำรถทำกำรทดลอง วิจัยและพัฒนำระบบปฏิบต
ั ก
ิ ำร
ใหม่ๆ และโปรแกรมประยุกต์ได ้หลำยแพลตฟอร์มโดย
ไม่จำเป็ นต ้องทดลองปฏิบต
ั ก
ิ ำรกับเครือ
่ งจริงๆทุกชนิด
 ข้อด้อย
ั่ จำลองหลำยชนิดอำจใชเวลำนำนในกำร
้
 คำสง
ปฏิบต
ั ก
ิ ำรกว่ำบนเครือ
่ งจริงๆ ได ้
้
 ระบบ I/O เสมือนอำจใชเวลำนำนขึ
น
้ ในกำรปฏิบต
ั ก
ิ ำร
เนือ
่ งจำกระบบ spooling