Attach Files pptx - สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดสระบุรี
Download
Report
Transcript Attach Files pptx - สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดสระบุรี
้
โดย ภญ. อุษณี ย ์ อึงเจริ
ญ
สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค
หลักกำรให้ยำร ักษำวัณโรค
้ ่
ร ักษำด้วยสู ตรยำมำตรฐำนระยะสันที
ใช้ในปั จจุบน
ั
่ ร ับกำรยอมร ับใน
เป็ นระบบยำทีได้
ระดับสำกลว่ำมีประสิทธิภำพและ
ประสิทธิผลดีทสุ
ี่ ดในกำรร ักษำผู ป
้ ่ วย
วัณโรคให้หำยได้เกือบร ้อยละ 100
2
HRZE / 4HR
ถ้ำผู ป
้ ่ วยได้ร ับกำรดู แลโดยคำนึ งถึงสิง่
ต่อไปนี ้
NTP guildeline Thailand 2013
หลั
กำรให้ยยำร
ำร ักษำวัณโรค
ักษำวัณโรค
หลั
กกกำรให้
้
1.ให้ยำถู กต้องทังชนิ
ดและจำนวน ทัง้
initial phase/continuation phase
2.ให้ยำถู กต้องตำมขนำด
3. ระยะเวลำกำรร ักษำเพียงพอตำม
กำหนด
(6 หรือ 8 หรือ 9 เดือน)
4. ควำมต่อเนื่ องของกำรร ักษำ กำร
ร ักษำวัณโรคภำยใต้กำรกำกับกำรร ักษำ
(DOT)
NTP guildeline Thailand 2013
ยำและสู ตรยำร ักษำวัณโรค
แบ่งออกเป็ น 2 กลุ่ม ด ังนี ้
ยำวัณโรคแนวที่ 1 (First line drugs:
FLD) ได้แก่
๏ ไอโซไนอะซิด (Isoniazid: H, INH)
๏ ไรแฟมพิซน
ิ (Rifampicin: R, RMP)
๏ไพรำซินำไมด ์ (Pyrazinamide: Z, PZA)
๏ อีแธมบู ทอล (Ethambutol: E, EMB)
๏ สเตรปโตมัยซิน (Streptomycin: S, Sm)
NTP guildeline Thailand 2013
Fixed dose combinations
FDCs เป็ นยำรวมหลำยขนำนผสมในเม็ดหนึ่ งๆ เช่น HR หรือ
่
HRZ หรือ HRZE กำรใช้ FDCs จะช่วยเพิมควำมสะดวกใน
่
กำรจัด กินยำ และหลีกเลียงกำรเลื
อกกินยำบำงขนำนได้ ยำ
่
รวมเม็ดมีสว
่ นประกอบของขนำดยำทีเหมำะสม
สำหร ับผู ป
้ ่ วย
่ น้ ำหนักตัวระหว่ำง 30-70 กิโลกร ัม ถ้ำผู ป
วัณโรคผู ใ้ หญ่ ทีมี
้ ่ วย
มีน้ ำหนักนอกเหนื อจำกเกณฑ ์นี ้ แนะนำให้ใช้ยำแยกเม็ด
ยำและสู ตรยำร ักษำวัณโรค
ยำว ัณโรคแนวที่ 2 (Second line drugs: SLD)
เช่น
Kanamycin: K, Km
Ofloxacine: O, Ofx
Levofloxacin: Lfx
Moxifloxacin:Mfx
Ethionamide: Eto/Prothionamide:Pto
Para-aminosalicylic acid: P, PAS
Cycloserine: Cs
Capreomycin:Cm
่
สู ตรยำทีใช้ในกำรร ักษำ
ผู ป
้ ่ วยวัณโรค
1.สู ตรยำสำหร ับผู ป
้ ่ วยใหม่ (new patient regimen)
2HRZE / 4HR
้ วยยำว ัณโรคแนวที่ 1
2.สู ตรยำร ักษำซำด้
(re-treatment
regimen with first-line drugs)
2HRZES / 1HRZE / 5HRE
้
3. สู ตรยำว ัณโรคดือยำหลำยขนำน
(Empirical MDR
regimen)
> 6Km5LfxEtoCs+PAS / > 12LfxEtoCs+PAS
NTP guildeline Thailand 2013
ยาวัณโรคแนวที่
1
(First line drugs: FLDs)
์
กลไกกำรออกฤทธิของยำ
่
ชือยำ
กลุ่ม
ยำ
Isoniazid :
H, INH
Isonoico
tinic acid
hydrazide
กลไกกำร
ออกฤทธิ ์
INH ออกฤทธิ ์
้ ณโรค
ฆ่ำเชือวั
(bactericidal)
โดยเฉพำะเชือ้
่ ำลังแบ่งตัว
ทีก
ภำยในเซล โดย
เภสัช
อำกำรไม่
จลนศำส
พึง
ตร ์
ประสงค ์
-ระดับยำ
สู งสุดใน
เลือดใช้
เวลำ 1-2
่ั
ชวโมงหลั
ง
กำร
ร ับประทำน
ย ับยงการ
ั้
ั
สงเคราะห์
-กำรดู ดซึม
mycolic acid ยำดีทสุ
ี่ ด
่ น
ซึงเป็
จำกกำร
องค ์ประกอบที่ ร ับประทำน
้
สำคัญของผนัง เกิดขึน
เซลของเชือ้
ขณะท้อง
วัณโรค
ว่ำง
INH-induced
hepatitis
peripheral
neuropathy
่
ชือยำ
(Rifampicin:
R, RMP)
กลุ่มยำ
กลไกกำร
เภสัช
ออกฤทธิ ์ จลนศำส
ตร ์
อำกำรไม่
พึง
ประสงค ์
RifaMycin
Rifampici
์
n มีฤทธิใน
กำรฆ่ำเชือ้
วัณโรค
(bactericid
al) โดย
้
ยับยังกำร
สังเครำะห ์
RNA ซึง่
์ ่
ออกฤทธิที
-subunit
-ยำถู กดู ด
ซึมได้ดจ
ี ำก
ระบบ
ทำงเดิน
อำหำร ใช้
เวลำ 2-4
่ั
ชวโมง
จะ
ได้ระดับยำ
สู งสุดใน
เลือด
-แต่ถำ้ ให้
ยำพร ้อม
อำหำรจะ
ทำให้ระดับ
-อำกำรคัน
้ มี
่ ผน
ทังที
ื่
และไม่มผ
ี น
ื่
( Flu-like
syndrome)
-ทำให้ระดับ
bilirubin
ในเลือด
่ น
้
เพิมขึ
ของ
เอนไซม์
RNA
่
ชือยำ
กลุ่มยำ
Pyrazinamide
(Z,PZA)
เป็ นอนุ พน
ั ธ์
ของ
nicotinami
de
กลไกกำร
เภสัช
ออกฤทธิ ์ จลนศำส
ตร ์
์
มีฤทธิใน
กำรฆ่ำเชือ้
วัณโรค
(bactericid
al)ในภำวะ
่ นกรด
ทีเป็
กลไกกำร
์ ง
ออกฤทธิยั
ไม่ช ัดเจน
แต่อำจมีผล
่ ม
ต่อเยือหุ
้
เซลของ
้
เชือวัณโรค
ระดับยำ
สู งสุดใน
เลือด
ประมำณ 1่ั
4 ชวโมง
หลังกำร
ร ับประทำน
ถ้ำให้ยำทุก
วันจะได้
ระดับยำใน
เลือด
ประมำณ
20-40
อำกำรไม่
พึง
ประสงค ์
พิษต่อตบ
ั
พิษต่อระบบ
ทำงเดิน
อำหำร
พิษต่อข้อ
อำกำรปวด
ข้อ อำจ
ปวดหลำยๆ
ข้อพร ้อม
กัน
่
ชือยำ
Ethambutol
(E)
กลุ่มยำ
กลไกกำร
เภสัช
ออกฤทธิ ์ จลนศำสต
ร์
เป็ นสำร
สังเครำะห ์
ในกลุ่ม 1,2ethamedi
amine
จด
ั เป็ นยำที่
้
ยับยังกำร
เจริญเติบโต
ของเชือ้
(bacterio
static) โดย
กำรยับยัง้
กำร
สังเครำะห ์
ผนังเซลล ์
่
ซึงยำออก
ฤทธิต่์ อเชือ้
่ ำลัง
ทีก
แบ่งตัว
-กำรดู ดซึม
ของยำจำก
กำร
ร ับประทำน
ประมำณร ้อย
ละ 75-80
-ระดับยำใน
เลือดสู งสุด
หลัง
ร ับประทำน
ยำ 2-4
่ั
ชวโมง
-ขจัดยำ มีคำ
่
่ วต
ครึงชี
ิ ของ
อำกำรไม่
พึง
ประสงค ์
-optic
neuritis
่ น
ผืนค
ั กำร
แพ้รุนแรง
แบบ
-StevensJohnson
Syndrome
สำมำรถ
้
เกิดขึนได้
แต่พบได้
น้อย
่
ชือยำ
Streptomy
cin(S)
กลุ่มยำ
กลไกกำร
เภสัช
ออกฤทธิ ์ จลนศำส
ตร ์
Aminoจด
ั เป็ นยำที่
glycosides มีฤทธิฆ่
์ ำ
-ยำสำมำรถ
้ั
ให้ทงแทบ
้ ณโรค IV และ IM
เชือวั
(bactericid -กรณี ทให้
ี่
al) เป็ น
ยำแบบ IM
aminoglyc จะได้ระดับ
oside
ยำสู งสุดใน
antibiotic เลือดหลังให้
ออกฤทธิ ์
ยำ 1-2
่ั
โดยยับยัง้
ชวโมง
และ
กำร
ระดับยำ
สังเครำะห ์ สู งสุดใน
โปรตีน ซึง่
เลือด
ยำจะจับกัน ประมำณ
อำกำรไม่
พึง
ประสงค ์
พิษต่อหู
มีอำกำรหู
อือ้ มีเสียง
ก้องในหู
วิงเวียน
และหู หนวก
พิษต่อไต
่ คำนวณ
ขนำดยำร ักษำวัณโรคทีใช้
ตำมน้ ำหนักต ัว
และขนำดยำสู
ง
สุ
ด
่
ย ช่วงขนำด
เฉลีย
ำ ยำ มก./กก./ มก./กก./
วัน
วัน
4-6
5
H
8-12
10
R
20-30
25
Z
15-20
15
E
12-18
15
S
ขนำดยำสู งสุด
(maximum
dose)
300 มก./วัน
600 มก./วัน
2000 มก./วัน
1600 มก./วัน
1000 มก./วัน
Adverse Drug Reaction: ADR
อำกำรไม่พงึ ประสงค ์จำกกำรใช้ยำ
องค ์กำรอนำมัยโลก อำกำรไม่พงึ ประสงค ์จำกกำร
ใช้ยำ หมำยถึง
่ ดขึนโดยไม่
้
้ั
"ปฏิก ิรย
ิ ำทีเกิ
ได้ตงใจ
และเป็ น
อ ันตรำยต่อร่ำงกำยมนุ ษย ์ อ ันเกิดจำกกำร
้
่
ใช้ยำ และเกิดขึนเมื
อใช้
ยำในขนำดปกติ
่ ป้ องกัน วินิจฉัย ร ักษำ หรือ
เพือ
่
เปลียนแปลงกำรท
ำงำนของร่ำงกำย โดยไม่
่ ดจำกกำรใช้ยำเกินขนำด
รวมปฏิก ิรย
ิ ำทีเกิ
้ งใจและไม่
้ั
้ั กำรใช้ยำในทำง
โดยทังต
ได้ตงใจ
อำกำรไม่พงึ ประสงค ์จำกยำร ักษำ
้ นฐำน
้
ว ัณโรคขันพื
่
อยจำกยำร ักษำวัณ
ผลข้ำงเคียงทีพบบ่
โรค แบ่งเป็ น 2 ชนิ ด คือ
่ น
major side effect ผลข้ำงเคียงทีเป็
่
อ ันตรำยต่อร่ำงกำย ซึงจะต้
องหยุดยำทันที ส่ง
ปรึกษำแพทย ์
่ ำให้
minor side effect ผลข้ำงเคียงทีท
ร่ำงกำยมีอำกำรผิดปกติบำ้ ง ไม่ตอ
้ งหยุดยำ
ให้กำรร ักษำตำมอำกำร และอธิบำยให้ผูป
้ ่ วย
เข้ำใจ
NTP guildeline Thailand 2013
่ นสำเหตุ
ผลข้ำงเคียง
ยำทีเป็
กำรดู แลร ักษำ
่ นสำเหตุ
หยุดยำทีเป็
ผลข้ำงเคียงทีรุ่ นแรง
่ วหนัง(รุนแรง)
ผืนผิ
ทุกตัว
S
หู หนวก
S
เวียนศีรษะ
(vertigo และ
nystagmus)
่ มี
ดีซำ่ น (ทีไม่
สำเหตุอน)
ื่ ตับ
อ ักเสบ
สับสน
กำรมองเห็นภำพ
ผิดปกติ
(ไม่มส
ี ำเหตุอน)
ื่
่
ช็อค, ผืน
purpura, ไตวำย
H, R, Z
purpura
ยำส่วนใหญ่
E
R
NTP guildeline Thailand 2013
่ รุนแรง
ผลข้ำงเคียงทีไม่
่
่
เบืออำหำร
คลืนไส้
อำเจียน ปวดท้อง
Z, R, H
ให้ยำต่อได้
ตรวจสอบขนำด
ยำ
ร ับประทำนยำ
พร ้อมหรือก่อน
อำหำร
ปวดข้อ
Z
ให้ Aspirin หรือ
NSAIDS หรือ
Paracetamol
ชำปลำยมือ ปลำย
เท้ำ
ง่ วง
H
ให้ Pyridoxine 5075 มก ต่อวน
ั
H
ให้ยำก่อนนอน
อำกำรคล้ำย
ไข้หว ัดใหญ่
่
Intermittent เปลียนเป็
นให้ยำ
dosing ของ R ทุกวัน
NTP guildeline Thailand 2013
Cutaneous Reaction
(ปฏิก ิรย
ิ ำทำงผิวหนัง)
ยำทุกชนิ ดเป็ นสำเหตุทำให้
เกิดปฏิก ิรย
ิ ำทำงผิวหนังได้ โดยแบ่ง
ควำมรุนแรงของอำกำรออกเป็ น 3
ระดับ ได้แก่
่ มผ
อำกำรคันทีไม่
ี นหรื
ื่
อมีผนแต่
ื่
ไม่มอ
ี ำกำร
ตำมระบบ
่ วหนังทีอำจมี
่
ผืนผิ
อำกำรตำมระบบ เช่น ไข้
ร่วมด้วย
่
่
่
่ มผ
1.อำกำรค ันทีไม่
ี นหรื
ื่
อมีผนแต่
ื่
ไม่มอ
ี ำกำรตำมระบบ
มีอำกำรคัน แต่ไม่มผ
ี น
ื่
ให้ยำ anti-histamine
(CPM,Atarax) ร ับประทำน
ยำต่อ
ได้ อำกำรจะค่อยๆดีขน
ึ้
ถ้ำมีผนลั
ื่ กษณะคล้ำยสิว
และอำจคันโดยไม่มอ
ี ำกำร
ตำมระบบ สำมำรถให้ยำ
ต่อเนื่องได้ เนื่องจำกไม่
่
่
2.ผืนผิวหนังทีอำจมีอำกำร
ตำมระบบ
่ ออ
่ น
แต่ไม่มก
ี ำรหลุดลอกของเยือบุ
่ วหนังทีอำจมี
่
ผืนผิ
อำกำรตำมระบบ เช่น
ไข้รว่ มด้วย หยุดยำทุกชนิ ด ให้ยำantihistamine และพิจำรณำให้
่
prednisolone ขนำดตำ
่ วหนังรุนแรงมำก
3.ผืนผิ
่ ตำ
โดยมีกำรอ ักเสบของเยือบุ
่ งๆ ร่วม
ด้
ว
ย
่ ตำ
่ รอยโรคในเยือบุ
่ วหนังรุนแรงมำกทีมี
ผืนผิ
่ งๆ
ร่วมด้วย หยุดยำทุกชนิ ด ให้ systemic steroid
ขนำดสู ง เช่น prednisolone 40-60 มก.ต่อว ัน
และค่อยๆ ลดขนำดยำลงตำมกำรตอบสนอง
้ ป รึกษำผู เ้ ชียวชำญเพื
่
่
กรณี นีให้
อวำงแผนกำร
ร ักษำ
่ กำรหยุดยำ ถ้ำว ัณโรคยังอยู ่ในระยะ
ในระหว่ำงทีมี
่
กรณี SJS and
รุนแรง ให้เลือWarning!!!
กยำสำรองกลุ
่มอืนไปก่
อน
TEN ไม่ควร rechallenge ยำ
SJS/TEN
Steven-Johnson Syndrome (SJS) จะมีผน
ื่ ตามเยือ
่ บุ
มากกว่า 1 แห่ง อาการนาก่อนเกิดผืน
่ ผู ้ป่ วยจะมีอาการคล ้าย
ไข ้หวัด คือมีไข ้ ออ
่ นเพลีย ปวดเมือ
่ ยตามเนือ
้ ตัว ปวดข ้อ
Toxic Epidermal Necrolysis (TEN หรือ LYELL’S
Syndrome) เป็ นผืน
่ แพ ้ยาทีพ
่ บค่อนข ้างน ้อย แต่มค
ี วำม
่ ด เพราะอาจทาให ้ผู ้ป่ วยเสย
ี ชวี ต
รุนแรงมำกทีสุ
ิ ได ้อย่างง่าย
และรวดเร็ว TEN มีความคล ้ายคลึงกับ Steven Johnsons
syndrome หลายประการ
SJS/TEN
มีอำกำรแสดงแบ่งได้ 3 ระดับตำมควำมรุนแรงคือ
อำกำรรุนแรงน้อย หรือเรียกว่ำ Erythema
้ ผิ
่ ว
Multiforme (มีอำกำร<10%ของพืนที
้
ร่ำงกำยทังหมด)
,
้ ผิ
่ ว
อำกำรหลัก ( มีอำกำร 10-30 % ของพืนที
้
ร่ำงกำยทังหมด)
และ อำกำรรุนแรงมำก หรือเรียกว่ำ Toxic
Epidermal Necrolysis (TEN)
่ ำคัญของ
อำกำรและอำกำรแสดงทีส
โรคนี ้ ประกอบด้วย
- อาการเตือน อาจจะมีอาการปวดเมือ
่ ยตามร่างกาย
2-3 วัน มีผน
ื่ ขึน
้ มีไข ้ ไอ ปวดกล ้ามเนือ
้ มีน้ ามูก
้
ี
ปวดศรี ษะ เบือ
่ อาหาร คลืน
่ ไสอาเจี
ยน หรือท ้องเสย
- มีผน
ื่ แดงในตอนเริม
่ ต ้น และเปลีย
่ นแปลงเป็ นผืน
่
แดงนูน,ตุม
่ น ้าใส ผืน
่ ทีม
่ ล
ี ักษณะจาเพาะจะเป็ น
เหมือนเป้ าธนู โดยตรงกลางเป็ นตุม
่ น้ าหรือมีสเี ข ้ม
หรือมีการตายหลุดลอกของผิวหนัง ล ้อมรอบด ้วย
ี ดง
ผืน
่ แดงเรียบสแ
- ผืน
่ อาจจะกลายเป็ นตุม
่ น ้าขนาดใหญ่
(Bullous)และเกิดการแตกออก เหลือผิวหนังทีไ่ ม่ม ี
ั ้ หนั งกาพร ้าปกคลุม เพิม
ี่ งต่อการติด
ชน
่ ความเสย
ื้ แทรกซอน
้
เชอ
่ ตำ
- มีกำรทำลำยหลุดลอกของเยือบุ
่ งๆภำยใน
่ ชอ
ร่ำงกำย เช่น ริมฝี ปำก, เยือบุ
่ งปำก, อว ัยวะ
เพศ, ตำ เป็ นต้น
่ เช่น
- อำจพบอำกำรในระบบอืนๆ
- ระบบทำงเดินหำยใจ มีรอยโรคใน brochus ,
trachea มีอำกำรหำยใจลำบำก ไอ มีเสมหะ
- ระบบหัวใจ มีอำกำรเจ็บหน้ำอก หัวใจเต้นผิด
่ ม
จังหวะ หรือ มีกำรอ ักเสบของเยือหุ
้ หัวใจ
- ระบบทำงเดินอำหำร มีอำกำรปวดท้อง
เลือดออกในทำงเดินอำหำร ลำไส้อ ักเสบ
- ระบบทำงเดินปั สสำวะ อำจเกิดท่อไตอ ักเสบ ไต
วำย
SJS/TEN
่
SJS มีสาเหตุสวนมากมาจากการแพ ้ยา มีรายงานว่า
มียาหลายชนิดทีเ่ ป็ นตัวกระตุ ้นให ้เกิดอาการได ้แก่
NSAIDs, especially ibuprofen (2003)
Anticonvulsants (phenytoin, valproic acid,
phenobarbital, carbamazepine)
Antibiotics (sulphonamides,
aminopenicillins, quinolones, cephalosporins,
tetracyclines, imidazole antifungal agents
(1995)
Allopurinol
Rechallenge
เมือ
่ ผืน
่ หายดี การพิจารณาให ้ยาใหม่ทล
ี ะตัว มี
แนวทางดังนี้
เริม
่ ให ้ยา H หรือ R ต่อด ้วย E หรือ Z เป็ นตัวสุดท ้าย
ยาแต่ละชนิด เริม
่ จากขนาด 1/3 ถึง 1/2 ของขนาด
สูงสุด แล ้วเพิม
่ จนถึงขนาดสูงสุดใน 2-3 วัน แล ้วเริม
่
ยาตัวถัดไปได ้เลย ถ ้ายาตัวก่อนหน ้านัน
้ ไม่เกิด
ปั ญหา
NTP guildeline Thailand 2013
ถ ้าเกิดผืน
่ ขณะได ้ยาตัวใด ให ้หยุดยาตัวดังกล่าว รอ
ให ้ผืน
่ ยุบหมด แล ้วเริม
่ ยาตัวถัดไป และปรับสูตรยา
ให ้เหมาะสม
Example of rechallenge
R
• 1=300 mg
• 2=450 mg
• 3=600 mg
INH
E
1=100 mg
1=400 mg
2=200 mg
2=600 mg
3=300 mg
3=800 mg
R 600
R 600
H 300
N/V, Gastric pain and Hepatitis
่
คลืนไส้
/อำเจียน ปวดท้อง ตับอ ักเสบ
่ นสำเหตุทำให้เกิดต ับอ ักเสบได้แก่
ยำทีเป็
H, R และ Z
้
ส่วนกรณี ทมี
ี่ เฉพำะค่ำ bilirubin สู งขึน
โดยไม่มค
ี วำมผิดปกติของเอมไซม ์
aspartate transaminase (AST) หรือ
serum glutamic- oxaloacetic
transaminase (SGOT)/alanine
transaminase (ALT) หรือ serum
ประสำทตำอ ักเสบ (Optic neuritis,
retrobulbar neuritis)
่ ำให้เกิดผลข้ำงเคียงนี คื
้ อE
ยำทีท
่ ร ับ
โดยมีควำมสัมพันธ ์ก ับขนำดยำทีได้
อำกำรแรกสุดอำจเป็ นกำรมองเห็นสีผด
ิ ปกติ
(dyschromatopsia, สีแดง-เขียว หรือน้ ำเงินเหลือง)
่
อำกำรอืนของประสำทตำอ
ักเสบได้แก่ ตำมัว ภำพ
ตรงกลำงดำ มืด (central scotoma) มองเห็น
ภำพไม่ช ัดเจนในเวลำกลำงคืน
ผู ป
้ ่ วยมำกกว่ำร ้อยละ 50 หำยเป็ นปกติหลังจำก
หยุดยำ
คำแนะนำก่อนและระหว่ำง
ให้
ย
ำ
E
สอบถำมควำมผิดปกติของกำรมองเห็นก่อน
่
้ั มำติ
่
กครงที
เริมให้
ยำทุกรำย และทุ
ดตำมกำร
ร ักษำ
เลือกขนำดยำ E 15 มก./กก./วัน และ ไม่เกิน
20 มก./กก./วัน
ไม่จำเป็ นต้องตรวจกำรมองเห็นและภำวะตำ
บอดสีทุกครง้ั
Ishihara
test ตรวจ
ถ้ำมีควำมผิดปกติในกำรมองเห็
น ให้
กำรมองเห็น และภำวะตำบอดสี หยุดยำ
ปรึกษำจักษุแพทย ์
สู ตรยำทดแทน กรณี ไม่สำมำรถใช้
ยำบำงตัวได้
ยำที่
สู ตรยำทดแทน
จำเป็ นต้อง
หยุด
2RZE/10RE, 6RZE, 6-9RZE
R
2SHE/10 HE, 2HZEQ/1016HEQ,
2-3SHZEQ/9-10HEQ
2HRE/7HR, 2SHRE/6HR
H
Z
HR
HZ
HRZ
2SEQ/16-22EQ
SREQCs 12-18 เดือน
SEQ+oral SLD 18-24
เดือน
ยาวัณ
โรคแนวที
่
2
(Second line drugs :SLDs)
้
สู ตรยำว ัณโรคดือยำหลำยขนำน
(Empirical MDR
regimen)
> 6Km5LfxEtoCs+PAS / > 12LfxEtoCs+PAS
หมายเหตุ: สามารถเปลีย
่ นจาก K มาใช ้ S ได ้ เฉพาะถ ้ามีผลยืนยัน
กลับมาในภายหลังว่าไม่ดอ
ื้ ยา
ยำวัณโรคแนวที่ 2
(Second line drugs: SLD)
้
ยำและสู
ต
รยำร
ักษำวัณโรคดื
อยำ
่
่
้
ชือยำและขนำดยำทีใช้ร ักษำผู ป
้ ่ วยว ัณโรคดือยำ
่
่ ร ักษำผู ป
ชือยำและขนำดยำที
ใช้
้ ่ วยวัณโรคด
ขนาดยาตามชว่ งน้ าหนั กตัวผู ้ป่ วย
ยา
น ้อยกว่า
33 กก.
33 - 50
กก.
(มก./วัน)
Group 1: First-line oral anti-tuberculosis agents
Pyrazinamide (Z)
20-30
1,000
(500 มก.) ให ้วันละ 1 ครัง้
Ethambutol (E)
มก./กก./วัน
15 - 20
(400,500 มก.) ให ้วันละ 1 ครัง้
มก./กก./วัน
800
51 – 70 กก.
(มก./วัน)
มากกว่า 70
กก.
(มก./วัน)
1,500
2000
1000-1200
1,200
[ขนาด
สูงสุด
1,600
มก.]
Group 2: Injectable anti-tuberculosis agents
Streptomycin (S)
15 (12-18) มก./กก./วัน
ฉีดเข ้ากล ้ามวันละ1 ครัง้
[ขนาดสูงสุด 1,000 มก./วัน ]
Amikacin (Am)
15 (12-18) มก./กก./วัน
ฉีดCapreomycin
เข ้ากล ้ามวันละ(Cm)
1 ครัง้
Kanamycin (Km)
[ขนาดสู
งสุด 1,000
มก./วันน ]
15 (12-18)
มก./กก./วั
15 (12-18) มก./กก./วัน
ฉีดเข ้ากล ้ามวันละ 1 ครัง้
[ขนาดสูงสุด 1,000 มก./วัน ]
ฉีดเข ้ากล ้ามวันละ 1 ครัง้
[ขนาดสูงสุด 1,000 มก./วัน]
Group 3: Fluoroquinolones
Levofloxacin (Lfx)
( 250, 500 มก. ) วันละ 1
ครัง้
Moxifloxacin (Mfx)
7.5-10
500
500-750
750
400
[ขนาดสูงสุด
1,000 มก.]
400
มก./กก./วัน
7.5-10
400
(400 มก.) ให ้วันละ 1 ครัง้
มก./กก./วัน
Group 4:Oral bacteriostatic second-line anti-tuberculosis agents
Ethionamide (Eto)
15-20
500
750
750-1,000
(250 มก.) วันละ 2ครัง้
มก./กก./วัน
Prothionamide (Pto)
15-20
500
750
750-1,000
(250 มก.) วันละ 2 ครัง้
มก./กก./วัน
Cycloserine (Cs)
15-20
500
(250 มก.) วันละ 2 ครัง้ (ทุก
มก./กก./วัน
12 ชม.)
Para-Amino Salicylic
150-200
6-8 กรัม
acid (PAS)
มก./กก./วัน
(1 กรัม) วันละ 3-4 ครัง้
Terizidone (Trd)
15-20
600
(300 มก.)
มก./กก./วัน
750
750-1,000
8-10 กรัม
10-12 กรัม
600
900
Group 5: Anti-tuberculosis agents with unclear efficacy
Clofazimine (Cfz)
(50,100 มก.)
Linezolid (Lzd)
100 มก.ต่อวัน
ขนาดยาปกติของผู ้ใหญ่ 600 มก.
(600 มก.)
Amoxycillin/Clavulana
te
(Amx/Clv)
Clarithromycin (Clr)
(500 มก.)
ขนาดยาปกติของผู ้ใหญ่ 875/125 มก. วันละ 2 ครัง้
หรือ 500/125 มก. วันละ 3 ครัง้
500 มก. วันละ 2 ครัง้
Imipenem/Cinlastatin
(Ipm/Cln)
ฉีดเข ้าหลอดเลือดดา 500-1,000 มก. ทุก 6 ชม.
High-dose Isoniazid
(High-dose H)
16-20 มก./กก./วัน
อำกำรไม่
พึง
ประสงค ์
Seizure
อำกำร
ช ัก
ยำต้ำนวัณ
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
Cycloserine
Isoniazid
Levofloxain
Moxifloxacin
Ofloxacin
แนวทำงแก้ไข
คำแนะนำ
1.หยุดยาทีเ่ ป็ น
สาเหตุ
2.เริม
่ การรักษา
ั เชน
่
ด ้วยยากันชก
phenytoin,
carbamazepine
เป็ นต ้น
3.เพิม
่ ขนาด
pyridoxine
ขนาดสูงสุด 200
mg/วัน
1.สามารถให ้ยา
ั
รักษาอาการชก
ร่วมกับการักษา
MDR-TB จะ
ิ้ หรือหยุด
เสร็จสน
ยาทีเ่ ป็ นสาเหตุ
2.ไม่มข
ี ้อห ้ามการ
้
ใชยาต
้านวัณโรค
ในผู ้ป่ วยทีม
่ ี
ั
ประวัตเิ ป็ นลมชก
หากผู ้ป่ วยคุม
อาการได ้ดีและ/
้ นชก
ั
หรือ ใชยากั
อยูเ่ ป็ นประจา
อำกำรไม่พงึ
ประสงค ์
ยำต้ำนวัณ
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
Peripheral Cycloseri
neuropathy ne
(ปลำย
Isoniazid
ประสำท
Linezolid
อ ักเสบ เหน็ บ Streptom
ชำ)
ycin
Kanamyci
n
Amikacin
Capreom
ycin
Ethionam
แนวทำงแก้ไข
คำแนะนำ
่
1.เพิมขนำด
pyridoxine
ขนำดสู งสุด 200
mg/วัน
่
2.เปลียนเป็
น
Capreomycin
หำกมีผลว่ำไว
ต่อเชือ้
3.ให้กำรร ักษำ
ด้วยกลุ่ม
Tricyclic
antidepressan
่
1.ผู ป
้ ่ วยทีมี
โรคร่วม เช่น
เบำหวำน
่
HIV ดืม
แอลกอฮอล ์
อำจมีควำม
่
่ น
้
เสียงเพิ
มขึ
ในกำรเกิด
Peripheral
neuropathy
อำกำรไม่พงึ
ประสงค ์
ยำต้ำนวณ
ั
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
Hearing loss Streptomycin
and
Kanamycin
vestibular
Amikacin
distribance Capreomycin
Clarithtomyc
in
แนวทำงแก้ไข
้
1.ตรวจการได
ยินเป็ น
คำแนะนำ
1.ตรวจการได ้
ยินเป็ น
baseline ก่อน baseline ก่อน
การได ้รับยา
การได ้รับยา
2.เปลีย
่ นเป็ น กลุม
่
Capreomycin amioglycosides
หากมีผลว่าไว 2.อาการไม่พงึ
ประสงค์นี้ เมือ
่
ื้
ต่อเชอ
3.ลดความถีใ่ น เป็ นแล ้วไม่
การบริการยา สามารถกลับสู่
เป็ น 3 ครัง้ ต่อ ภาวะปกติได ้
ั ดาห์ หรือ หากเป็ นแล ้ว
สป
อำกำรไม่พงึ
ประสงค ์
ยำต้ำนวัณ
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
แนว
ทำงแก้ไข
คำแนะนำ
่ น
1.หยุดยำทีเป็
สำเหตุ 1-4
สัปดำห ์หำก
อำกำรทำงจิตไม่
ดีขน
ึ้
2.ร ักษำด้วยยำ
กลุ่ม
Antipsychotic
s ได้แก่
haloperidol
หรือ
risperidone
3.ลดขนำดยำ
หรือหยุดยำที่
เป็ นสำเหตุ
1.ผู ป
้ ่ วยบำงรำย
อำจต้องใช้ยำ
กลุ่ม
Antipsychotic
s ควบคู ต
่ ลอด
กำรร ักษำ
2.ไม่มข
ี อ
้ ห้ำมใน
่ น
กำรใช้ยำทีเป็
สำเหตุของ
Psychosis กับ
่ ยำ
ผู ป
้ ่ วยทีใช้
ร ักษำวัณโรค
เพียงแต่จะ
ควบคุมอำกำร
ไม่ได้
Psychosi Cycloseri
s(อำกำร
ne
ทำงจิตเภท) Isoniazid
Levofloxa
in
Moxifloxa
cin
Ofloxacin
Ethionami
de
Prothiona
อำกำรไม่พงึ
ประสงค ์
ยำต้ำนวัณ
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
Depression Cycloserine
(ภำวะ
Ethionamid
ซึมเศร ้ำ)
e
Prothionami
de
แนว
ทำงแก้ไข
คำแนะนำ
1..ให้
คำแนะนำ
ปรึกษำ
่
2.เริมให้
ยำ
antidepress
ants เช่น
fluoxetine
และ
sertraline
2.lลดขนำด
หรือหยุดยำที่
1.อำจจะมี
อำกำรมำก
้
ขึนในขณะ
กำรร ักษำแต่
้
่
จะขึนเมื
อหยุ
ด
ยำ
อำกำรไม่พงึ
ประสงค ์
Hypothyriodism
ยำต้ำนวัณ
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
PAS
Ethionamid
e
Prothionami
de
แนว
ทำงแก้ไข
่
1.เริมกำร
ร ักษำด้วย
Thyroxine
(Levothyrox
ine)
คำแนะนำ
1.อำกำรจะดี
้
่
ขึนเมื
อหยุ
ด
่ น
ยำทีเป็
สำเหตุ
2.อำจจะ
้
เกิดขึนได้
ใน
กรณี ทให้
ี่
ร่วมกัน(PAS,
Ethionamid
e)มำกกว่ำ
อำกำรไม่พงึ
ประสงค ์
Arthragia
ยำต้ำนวัณ
่ น
โรคทีเป็
สำเหตุ
Pyrazinamid
e
Levofloxaci
n
Moxifloxaci
n
Ofloxacin
แนว
ทำงแก้ไข
1.ร ักษำ
คำแนะนำ
1.อำกำรจะดี
้
่ ักษำ
อำกำรด้วย
ขึนเมื
อร
กลุ่มยำ
ไประยะหนึ่ง
NSAIDs
2. ควรทำ
2. ลดยำหรือ ตรวจ uric
่ น acid ในเลือด
หยุดยำทีเป็
่
สำเหตุ
เมือให้
pyrazinamid
e สำหร ับกำร
ใช้
allopurinol
ไม่สำมำรถลด
้
ยำร ักษำวัณโรคดือยำหลำยขนำน(MDR่ ดขึน
้
TB,XDR-TB) และผลข้ำงเคียงทีเกิ
่
ชือยำ
1.Pyrazinamide(ไพราซ ิ
นาไมด์)
2.Ethambutol
(แอธแธม
บูทอล)
อำกำรข้ำงเคียงจำกยำร ักษำว ัณ
่ ำคัญ
โรคทีส
ปวดข ้อ คลืน
่ ไส ้ อาเจียน ผืน
่ คัน ตับ
อักเสบ
่
การมองเห็นภาพผิดปกติ
เชน
ตามัว
ั เห็นสผ
ี ด
มองเห็นไม่ชด
ิ ปกติ ไม่สามารถ
ี ดงได ้ ผืน
แยกสเี ขียวและสแ
่ คัน
ี ปวดศรี ษะ มึนงง
3.Ofloxacin (โอฟล็อกซา คลืน
่ ไส ้ อาเจียน ท ้องเสย
ิ )
ซน
มีผน
ื่
4.Levofloxacin (ลีโวฟล็อก ปวดศรี ษะ มึนงง นอนไม่หลับ ปวดข ้อ
ิ )
่
ซาซน
ปวดตามตัว ปลายประสาทอักเสบ เชน
ชา
้ นอักเสบ
5.Moxifloxacin
(ม็อกซ ิ ปลายประสาทอักเสบ เสนเอ็
ยารักษาวัณโรคดือ
้ ยาหลายขนาน(MDRTB,XDR-TB) และผลข ้างเคียงทีเ่ กิดขึน
้
่
ชือยำ
อำกำรข้ำงเคียงจำกยำร ักษำวัณโรคที่
สำคัญ
ั สน มึนงง นอนไม่หลับกระสบ
ั กระสา่ ย
สบ
ั
กล ้ามเนือ
้ กระตุก ชก
้
ี ตัว
คลืน
่ ไสอาเจี
ยน ปวดมวนท ้อง ท ้องเสย
เหลือง ตาเหลือง กล ้ามเนือ
้ แขนขาอ่อนแรง
8.Cycloserine(ไซโคล
เซอรีน)
9.Para-amino salicylic
acid (P.A.S.)
พาราอะมิโน ซาลิไซลิก
ิ (พี เอ เอส)
แอซด
ี ล้า แห ้งผมร่วง(ยาตัวนีต
10.Clofazimin (คลอฟาไซ ผิวหนังมีสค
้ ้องอยู่
มิน)
ในดุลยพินจ
ิ ของแพทย์ทรี่ ักษา)
11.Linezolid(ไลนีโซลิด) กดไขกระดูก โลหิตจาง ปลายประสาท
่ เหน็บชา (ยาตัวนีต
อักเสบ เชน
้ ้องอยูใ่ น
ดุลยพินจ
ิ ของแพทย์ทรี่ ักษา)
่ ป
เมือผู
้ ่ วยเกิดผลข้ำงเคียง
จำกกำรใช้ยำ
ำงไร
จะทำอย่
ควรแจ้งให้แพทย ์ พยำบำล หรือ เภสัชกร
ทรำบทันทีวำ
่ เกิดอำกำรไม่พงึ ประสงค ์
้ น
้ เพือที
่ จะได้
่
เหล่ำนี ขึ
ทำกำรวินิจฉัย และ
แก้ไขได้ทน
ั ท่วงที
ไม่ควรหยุดยำร ักษำวัณโรคเอง
้
ไม่ควรซือมำร
ักษำอำกำรด ังกล่ำวเอง
จดบันทึกกำรทำนยำร ักษำวัณโรคทุกครง้ั
รวมทัง้ อาการไม่พงึ ประสงค์จากการใช ้
้ั
้
่
ยา เพรำะบำงครงอำกำรเกิ
ดขึนตอนที
ไม่
่
กำรเก็บร ักษำยำร ักษำวัณ
โรค
ยำร ักษำวัณโรค ควรเก็บให้พน
้ แสง ไม่ถูก
่ องกำรเสือมของยำ
่
แดด เพือป้
เช่น
Ethambutol แอธแธมบู ทอล
อุณหภู มไิ ม่เกิน 25 องศำเซลเซียส หรือ
ใกล้เคียง โดยเฉพำะยำCycloserine(ไซ
โคลเซอรีน,
( Ethoionamide( เอธิโอนำไมด ์,
) Prothionamide(โปรธิโอนำไมด ์
่ ง ไม่เปี ยกชืน
้
เก็บไว้ในทีแห้
่
กำรปฏิบต
ั ต
ิ วั เมือพบว่
ำ
เป็ นวัณโรค
ควรทำให้ใจสบำยเพรำะยังมีโอกำสหำยได้ไม่
เครียด ไม่คด
ิ มำก
พักผ่อนให้เพียงพอ ร ับประทำนอำหำรให้ครบ 5
่
หมู ่ เพือให้
รำ่ งกำยแข็งแรง
งด เหล้ำ บุหรี่ ยำต้มสมุนไพรต่ำงๆ เพรำะอำจจะมี
่
่
ผลก ับร ักษำว ัณโรคทีทำนอยู
่ และอำจเพิมควำม
่
่ ำให้ตบ
เสียงที
ท
ั อ ักเสบได้
่
สวมหน้ำกำกอนำมัยทุกครง้ั เมือออกจำกบ้
ำน ไอ
จำม ควรปิ ดปำกปิ ดจมู ก
่ เสมหะ หรือน้ ำลำย ควรทำลำยโดยกำรกลบ
เมือมี
่ ำเชือ้
ฝั ง หรือใช้น้ ำยำทำควำมสะอำดล้ำง เพือฆ่
Case 1
Pt. ชำย โสด อำยุ 38 ปี มำด้วยอำกำร นน.ลด 3กก. ภำยใน 3
เดือน ไอ เจ็บหน้ำอก มีไข้ เหนื่ อย หอบ
ประวัตก
ิ ำรร ักษำวัณโรคมำก่อน: –
่ : HIV เริมยำ
่
ประวัตโิ รค อืนๆ
ARVs 8/1/57 ด้วยสู ตร
Lamivudine 1*2
Stavudine 1*2
EFV 1*1 hs
Bactrim 2*1
Fluconazole 2*1 weekly
12/12/56 Start anti-TB drug ด้วย สู ตร kit-A(Rimstar)
3tab/day
17/12/56 off kit-A เนื่ องจำก มีอำกำรตับอก
ั เสบก่อนหน้ำ ผล
วันที่ 12/12/56
Time line
Start
ยา kitA
AST/
ALT
H
0ff ยา
kit-A
Start
SOE
20 วัน
Start
ยา
ARVs
Rechallenge Rifam
R300
R450
มีไข ้
ตา่ ๆ
R450
มีผน
ื่
แดง
ทัง้ ตั
ว
R450
Recha
llenge
INH
Off TB
CPM,pred
ARV cont’
Liver
Ref- range
function test
Result
12/12/56
AST(SGOT)
Result
6/1/57
Result
20/1/57
5-34
184 (5.4)
44
74
ALT(SGPT)
0-55
63
32
37
Alkaline
phosphatase
40-150
512
80
115
Tot.bilirubin
0.2-1.2
0.9
0.3
0.4
dir.bilirubin
0.0-0.5
0.4
0.3
0.2
%CD4
31-60
2.61
Total protein 6.0-8.3
8.8
9.0
Albumin
3.5-5.0
3.2 L
3.3
Globulin
2.1-3.3
5.7
5.7
Result
17/12/56
Questions
1. Case นี ้ เกิดผลข้ำงเคียงจำกยำหรือเกิด
ควำมผิดปกติทำงระบบใดบ้ำง
Hepatitis(ตับอักเสบ)
Cutaneous Reaction
(ปฏิกริ ย
ิ าทางผิวหนัง)
Questions
้ั ้ แล้ว
2. ท่ำนคิดว่ำ Rechallenge ยำ ครงนี
่ เป็ นไข้ กลับขึนมำอี
้
เกิดผืน
ก น่ ำจะเกิดจำก
ยำใด
Ans: R
Case 2
Pt. ได ้รับยา 2HRZE/4HR อยากทราบว่า
ลักษณะผืน
่ แบบนี(้ acneform) น่าจะเกิดจากยาใด
1.H
2.R
3.Z
4.E
Case 3
Pt. Female ได ้รับยา 2HRZE/4HR ทานยาได ้
ประมาณ
1 เดือน และทานยาคุมกาเนิดอยู่ ประจาเดือนไม่มา
น่าจะเกิดจากยาใด
1.H
2.R
3.Z
4.E