การเมืองกับการศึกษา โดย นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการ กศน. การเมือง คืออะไร  การเมือง เป็ นเรื่องของอานาจ ฝ่ ายการเมืองใช้ อานาจในการดาเนินการ ปกครองซึ่งจะอยู่ในรูปของกฎหมาย การกาหนดนโยบายและการจัดสรร ทรัพยากร  การเมือง เป็ นเรื่องของคุณธรรมหากนักการเมืองเป็ น ผู้มคี ุณธรรม มีความยุตธิ รรม ไม่ เห็นแก่ ประโยชน์ ส่ วนตัวมากกว่าส่

Download Report

Transcript การเมืองกับการศึกษา โดย นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการ กศน. การเมือง คืออะไร  การเมือง เป็ นเรื่องของอานาจ ฝ่ ายการเมืองใช้ อานาจในการดาเนินการ ปกครองซึ่งจะอยู่ในรูปของกฎหมาย การกาหนดนโยบายและการจัดสรร ทรัพยากร  การเมือง เป็ นเรื่องของคุณธรรมหากนักการเมืองเป็ น ผู้มคี ุณธรรม มีความยุตธิ รรม ไม่ เห็นแก่ ประโยชน์ ส่ วนตัวมากกว่าส่

การเมืองกับการศึกษา
โดย
นายประเสริฐ บุญเรือง
รองเลขาธิการ กศน.
การเมือง คืออะไร
 การเมือง
เป็ นเรื่องของอานาจ
ฝ่ ายการเมืองใช้ อานาจในการดาเนินการ
ปกครองซึ่งจะอยู่ในรูปของกฎหมาย
การกาหนดนโยบายและการจัดสรร
ทรัพยากร

การเมือง เป็ นเรื่องของคุณธรรมหากนักการเมืองเป็ น
ผู้มคี ุณธรรม มีความยุตธิ รรม ไม่ เห็นแก่ ประโยชน์
ส่ วนตัวมากกว่าส่ วนรวม ก็จะทาให้ บ้านเมือง
เจริญก้าวหน้ า โดยการกาหนดนโยบายทีด่ ี

การเมือง เป็ นเรื่องของผลประโยชน์ การเมืองจะเป็ น
ฝ่ ายจัดสรรทรัพยากรของชาติเพือ่ สาธารณะชน มุ่ง
ผลประโยชน์ เพือ่ ความสุ ขของประชาชน ไม่ ใช่ เป็ น
นักการเมืองเพือ่ ประโยชน์ ของตนเอง
การเมือง มีส่วนประกอบ 3 ประการ
การเมือง เป็ นกิจกรรมที่มจี ุดสนใจอยู่ที่การแสวงหา
ผลประโยชน์ ด้วยการแข่ งขันในระดับบุคคลกลุ่มคนและ
สั งคมต่ อสั งคม
 การเมือง เป็ นกิจกรรมซึ่ งเกิดขึน
้ ในสถานการณ์ ทมี่ ีการ
เปลีย่ นแปลง และเกิดขึน้ ในสถานที่ค่อนข้ างขาดแคลน
 การเมือง เป็ นกิจกรรมซึ่ งเกีย
่ วข้ องกับการแสวงหา
ผลประโยชน์

การเมือง จะมีสภาพเป็ นอย่ างไร มีสาเหตุ
ทีเ่ ป็ นพืน้ ฐานสาคัญอยู่ 2 ประการ คือ
 พื้นฐานการศึกษาของประชาชน
 ปั ญหาทางเศรษฐกิจของประชาชน
การปกครอง (Government)
ทางรัฐศาสตร์ หมายถึง การกากับ การบริ หาร การ
จัดการ การกาหนดนโยบาย ออกกฎหมายและการ
ปฏิบตั ิการต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายที่ต้ งั ว้้
 ทางการเมือง หมายถึง การบริ หารราชการแผ่นดิน
เพื่อให้ประชาชนโดยส่ ้นร้มมีค้ามสุ ข สงบ
ปลอดภัย มีชี้ติ ค้ามเป็ นอยูท่ ี่ดี เจริ ญก้า้หน้าใน
ทุกด้าน

แนวคิดพืน้ ฐานทางการเมืองการปกครอง
 การปกครองสมัยใหม่
จะเน้นการกระจายอานาจหรื อแบ่งอานาจวปให้ประชาชนใน
ท้องถิ่นให้มีส่้นร่ ้มในการปกครองทาให้เกิดรู ปแบบการ
ปกครองหลายระดับ วด้แก่ การปกครองส่ ้นกลาง การ
ปกครองส่ ้นภูมิภาค และการปกครองส่ ้นท้องถิ่น
 โดยอาศัยการร้มศูนย์อานาจ การแบ่งอานาจ และการกระจาย
อานาจเป็ นแน้ทางในการจัดรู ปแบบการปกครอง

การศึกษา
การให้ ความรู้ ความสามารถ และ
ประสบการณ์ การพัฒนาทักษะนิสัย และ
ทัศนคติต่าง ๆ ให้ เกิดขึน้ ในตัวผู้เรียนเพือ่
ช่ วยให้ เขาได้ ดาเนินชีวติ อย่ างถูกต้ อง
เหมาะสมและควรค่ าแก่ สังคม
การเมืองกับนโยบายทางการศึกษา
 การเมืองมีบทบาทหน้ าทีใ่ นการกาหนดทิศทาง
เป้าหมายของการดาเนินการและพัฒนาส่ วนต่ าง ๆ
ของสั งคม การศึกษา ของประเทศ
 ผู้เกีย
่ วข้ องกับการศึกษาจึงจาเป็ นต้ องศึกษาทาความ
เข้ าใจนโยบายด้ านการศึกษาของฝ่ ายการเมืองให้
กระจ่ างชัด เพือ่ นานโยบายไปสู่ การปฏิบัตใิ ห้ บังเกิดผล
ตามเจตนารมณ์ ของฝ่ ายการเมือง
สภาพทางการเมืองการปกครอง
ที่เกีย่ วข้ องกับการศึกษา
 โครงสร้ างการปกครอง
 ระบอบการปกครองหรื ออุดมการณ์
ทางการเมือง
โครงสร้ างการปกครอง
 ต้ องสอดคล้องกับลักษณะของรูปแบบการแบ่ งส่ วน
ราชการบริหารของประเทศ
 การจัดการศึกษาจะต้ องกระจายไปให้ เหมาะสม
และสอดคล้องกับการแบ่ งส่ วนการปกครอง
 ข้ อมูลพืน้ ฐานของหน่ วยงานการศึกษา ต้ อง
นามาใช้ ในการวางแผนและบริหารการศึกษาด้ วย
ระบอบการปกครองหรืออุดมการณ์ ทางการเมือง
การศึกษามีหน้ าที่ปลูกฝังความเชื่อคุณค่ า และทัศนคติ
ที่สอดคล้ องกับสภาพการปกครองโรงเรียนในระบอบ
ประชาธิปไตย บทบาทของการศึกษาที่มีต่อสถาบันการ
ปกครองในส่ วนที่เกีย่ วกับระบอบการปกครองหรืออุดมการณ์
ทางการเมือง ดังนี้
1. การขัดเกลาทางการเมือง
2. การเลือกสรรทางการเมือง
3. การสร้ างบูรณาการทางการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมือง
ในปัจจุบันและอนาคตการเมืองจะเข้ ามา
มีส่วนเกีย่ วข้ องกับการศึกษามากยิ่งขึน้ อัน
เป็ นผลสื บเนื่องมาจากการเปลีย่ นแปลงทาง
เทคโนโลยี การศึกษาเป็ นสิ่ งสาคัญและ
จาเป็ นของทุกคนเพือ่ ปรับปรุงชีวติ ของทุก
คนให้ ดขี นึ้
นโยบายด้ านการศึกษาของฝ่ ายการเมืองปรากฏอยู่ในเอกสาร
ทีเ่ กีย่ วข้ องต่ าง ๆ ทีส่ าคัญ ได้ แก่
 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสั งคมแห่ งชาติ
 รั ฐธรรมนูญแห่ งราชอาณาจักรไทย
 แผนการศึกษาแห่ งชาติ
 พระราชบัญญัตก
ิ ารศึกษาแห่ งชาติ
 นโยบายของพรรคการเมือง
 นโยบายของรั ฐบาลที่แถลงต่ อรั ฐสภา
 กฎหมายข้ อบังคับ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ต่าง ๆ
กรอบความคิดเกีย่ วกับความสั มพันธ์ ระหว่ างการศึกษากับการเมือง
การศึกษาพัฒนาคนให้ มีคุณภาพ
คนมีคุณภาพเข้ าสู่ ระบบการเมือง
ระบบการเมืองมีคุณภาพ
ระบบการเมืองทาหน้ าทีอ่ ย่ างมีคุณภาพ
การศึกษามีคุณภาพ
ผลิตคนมีคุณภาพ
คนมีคุณภาพเข้ าสู่ ระบบต่ าง ๆ
คุณลักษณะของคนไทยทีพ่ งึ ประสงค์
เก่ ง
ดี
มีความสุ ข
คิดเป็ น
ทาเป็ น
แก้ ปัญหา
เป็ น
“คนไทยได้ เรียนร้ ู ตลอดชีวติ อย่ าง
มีคุณภาพ”
เป็ น้ิสยั ทัศน์ที่กาหนดว้้ในข้อเสนอการปฏิรูป
การศึกษาในทศ้รรษที่สอง
แหล่ งเรียนรู้ ราคาถูก : กศน.ตาบล
มีเป้ าหมายที่ตอ้ งการยกระดับ
ศูนย์การเรี ยนรู ้ในชุมชนให้เกิดขึ้น
ทุกตาบลพร้อมกันทั้่ ประเทศ
 แหล่งเรี ยนรู ้ราคาถูก : กศน.ตาบล
เป็ นศูนย์การเรี ยนรู้ระดับตาบล
ที่มีเครื่ องมือทันสมัย

สานักงาน กศน. จะต้องเร่ งรัดพัฒนาและเดินหน้า
วปสู่ ค้ามเป็ นศูนย์การเรี ยนรู ้การศึกษานอกระบบและ
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของชุมชน เพื่อให้
ประชาชนทั้่ ประเทศ
วด้มีพลังแห่งการเรี ยนรู ้
ตลอดชี้ติ วม่มีที่สิ้นสุ ด
ตามนโยบายของกระทร้ง
ศึกษาธิ การอย่างแท้จริ ง
สานักงาน กศน. ตั้งเป้ าว้้้า่ ในเดือนกันยายน
ปี พ.ศ.2553 แหล่งเรี ยนรู ้ราคาถูก : กศน.ตาบลจะ
เกิดครบถ้้นสมบูรณ์ทุกตาบล ทั้ง 7,409 ตาบล
แหล่ งเรียนรู้ ราคาถูก : กศน.ตาบล มีภารกิจสาคัญ ดังนี้

จัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กบั
ประชาชนกลุ่มเป้ าหมายในชุมชน อย่างน้อยปี งบประมาณละ 560 คน


การศึกษานอกระบบ 260 คน ประกอบด้้ย
 การศึกษาขั้นพื้นฐาน จาน้น 60 คน
 การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ จาน้น 20 คน
 การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชี้ิต จาน้น 20 คน
 การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน จาน้น 60 คน
 กระบ้นการเรี ยนรู ้ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จาน้น 100 คน
การศึกษาตามอัธยาศัย จาน้น 300 คน
แหล่ งเรียนรู้ ราคาถูก : กศน.ตาบล มีภารกิจสาคัญ (ต่ อ)







จัดเป็ นศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน ของสานักงานคณะกรรมการการอาชี้ศึกษา
จัดเป็ นศูนย์้ิทยาศาสตร์ โดยค้ามร่ ้มมือของ สส้ท. ร่ ้มกับ
โรงเรี ยนมหิ ดล้ิทยานุสรณ์
จัดเป็ นศูนย์ Tutor Channel
จัดบริ การ Internet เพื่อการเรี ยนรู ้
จัดกิจกรรมส่ งเสริ มการอ่าน
จัดกิจกรรมส่ งเสริ มประชาธิปวตย
ส่ งเสริ มภูมิปัญญาและ้ัฒนธรรมท้องถิ่น
แหล่ งเรียนรู้ ราคาถูก : กศน.ตาบล มีภารกิจสาคัญ (ต่ อ)






สร้างและขยายภาคีเครื อข่ายเพื่อการมีส่้นร่ ้มในการจัดกิจกรรมการศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในชุมชน
จัดทาระบบข้อมูล สถิติ และสารสนเทศ เพื่อใช้ในการ้างแผนพัฒนาและ
แผนการจัดการศึกษา
จัดทาแผนงาน โครงการฯ เพื่อจัดกิจกรรม กศน. ให้กบั ประชาชน
กลุ่มเป้ าหมาย และชุมชน
พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา กศน.
รายงานผลการดาเนินงานการศึกษาฯ ต่อ กศน.อาเภอ
ปฏิบตั ิภารกิจอื่นๆ ที่วด้รับมอบหมาย จาก กศน.อาเภอ
คุณลักษณะผ้ ูบริหาร กศน. ยุคใหม่
แนวคิดพืน้ ฐานของตัวผู้นา
1.
2.
3.
4.
5.
ผู้นาสามารถสร้ างได้ ไม่ ได้ เป็ นมาแต่ กาเนิด
การเป็ นผู้นาสามารถเรียนรู้ และพัฒนาได้
มนุษย์ แต่ ละคนมีศักยภาพของการเป็ นผู้นา
การเป็ นผู้นา เป็ นความสั มพันธ์ ระหว่ างบุคคล
เกณฑ์ เฉลีย่ ของกลุ่มหรือปทัสถาน มีบทบาทต่ อ
ผู้นา
คือ บุคคลทีส่ ร้ างสรรค์ เปลีย่ นแปลงสั งคม
หน่ วยงาน ผู้นาทีจ่ ะพัฒนาคนและพัฒนางานได้
อย่ างน้ อยต้ องมีคุณสมบัติ 3 ประการ คือ
เก่งงานด้ านการวางแผน “เก่ งงาน”
เก่งด้ านการเข้ ากับคน สั งคม เรียกว่ า “เก่ งคน”
“เก่งคิด” รู้ จักคิดพัฒนา
คุณลักษณะทีผ่ ู้นาควรจะมี
1. ภูมฐิ าน หมายถึง ความสง่าผ่าเผย ความสะอาด
หมดจด ความเป็ นระเบียบ เรียบร้ อยและความพอเหมาะ
พอดีของรูปร่ าง เครื่องแต่ งกาย ท่ วงทีกริ ิยาวาจา
ความเป็ นผู้มีภูมิฐานนั้น แสดงถึงบุคลิกลักษณะ
แห่ งการเป็ นหัวหน้ าหรือผู้นา ทาให้ คนทั้งหลายมีความ
พึงใจ ยาเกรง และมีความศรัทธา
2. ภูมวิ ุฒิ
หมายถึง ความเป็ นผู้มีความรู้ เฉพาะ
วิชาการในหน้ าที่โดยตรงให้ แตกฉาน และจะต้ องมี
ความรู้ในวิชาการแขนงอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้ องกับงานในหน้ าที่
มีความรู้ทวั่ ไปดี ศึกษาค้ นคว้ าจากตารา และรู้ ทัน
เหตุการณ์ ของโลกทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปตลอดเวลา
ภูมิวุฒิ จะเป็ นตัวนาไปสู่ ความสามารถของผู้นา
เพราะความชานาญเฉพาะบุคคลทีแ่ สดงออกในการทา
กิจกรรมต่ าง ๆ
2.ภูมธิ รรม หมายถึง ผู้นาหรือผู้บังคับบัญชา
แม้ จะภูมฐิ าน และมีภูมวิ ุฒทิ ดี่ เี ลิศสู งส่ งเพียงใด
ถ้ าความประพฤติไม่ ดี ไม่ มีวนิ ัย จิตใจต่า
ไร้ ศีลธรรม จรรยา และวัฒนธรรมเสี ยแล้ว
ความรู้ หรือวิชาการทีม่ กี ห็ าประโยชน์ ไม่ ได้
คุณลักษณะของผู้นาทีม่ ภี ูมธิ รรม







ค้ามซื่ อสัตย์ ค้ามมัน่ คง
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามยุติธรรม
เป็ นผูท้ ี่มี้ินยั ในตนเอง
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามรับผิดชอบต่อการกระทาของตนเอง และต่อผลที่เกิดขึ้น
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามปรารถนาที่จะทาดี
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามเชื่อมัน่ ในตนเอง
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามสามารถในการตัดสิ นใจอย่างมีเหตุผล
คุณลักษณะของผู้นาทีม่ ภี ูมธิ รรม (ต่ อ)








เป็ นผูท้ ี่รับฟังค้ามคิดเห็นของผูใ้ ต้บงั คับบัญชา
เป็ นผูท้ ี่เสี ยสละกาลังกาย กาลังใจและกาลังทรัพย์
เป็ นผูท้ ี่มีพรหม้ิหารสี่
ค้บคุมอารมณ์ตนเองวด้
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามหนักแน่น
เป็ นผูท้ ี่มีค้ามเปิ ดเผย ตรงวปตรงมา จริ งใจ
เป็ นผูท้ ี่มีศกั ดิ์ศรี
เป็ นผูท้ ี่วม่เห็นแก่ต้ั
คุณธรรม – จริยธรรมของผู้นา
และความคาดหวังของสั งคมไทย



มีคุณธรรมและจริยธรรมต่ อตนเอง (ครองตน)
มีคุณธรรมและจริยธรรมต่ อผู้อนื่ และสั งคม
(ครองคน)
มีคุณธรรมและจริยธรรมต่ อหน้ าทีก่ ารงาน
(ครองงาน)
คุณธรรมและจริ ยธรรมต่อตนเอง (ครองตน)
ดาเนินชีวติ ตามหลักธรรมของศาสนา
โดยอาศัยหลัก พรหมวิหาร 4 ได้ แก่
เมตตา = ความรักใคร่ ปรารถนา ให้ เป็ นสุ ข
กรุณา = มีความสงสารให้ ผ้ ูอนื่ พ้ นทุกข์
มุทติ า = มีความยินดีเมือ่ ผู้มอี นื่ เป็ นสุ ข ไม่ อจิ ฉาริษยาผู้อนื่
อุเบกขา = ความวางใจเป็ นกลาง มีจิตเที่ยงธรรม
นักบริหารควรมีคุณธรรมของผู้บริหาร
สั ปปุริสธรรม 7 ประการ
ซึ่งเป็ นธรรมอันเป็ นเครื่องนาไปสู่ ความสาเร็จในชีวติ
รู้เหตุ
 รู้ผล  รู้ตน
 รู้กาล
รู้ประมาณ
 รู้ประชุ มชน
 รู้บุคคล
หลักพระพุทธเจ้ า
หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้ านเมือง
1. ประสิ ทธิผล
(Effectiveness)
2. ประสิ ทธิภาพ
(Efficiency)
10. การมุ่งเน้ นฉันทามติ
(Consensus Oriented)
9. ความเสมอภาค/เทีย่ งธรรม
(Equity)
เพือ่ ประโยชน์ สุข
ของประชาชน
8. นิติธรรม
(Rule of law)
3. การตอบสนอง
(Responsiveness)
4. ภาระรับผิดชอบ
(Accountability)
5. ความโปร่ งใส
(Transparency)
7. การกระจายอานาจ
(Decentralization)
6. การมีส่วนร่ วม
(Participation)
คุณลักษณะของนักบริหารยุคใหม่
ว่ ากันว่ า “นักบริหารยุคใหม่ ” ต้ องเป็ น “นักบริหารมือ
อาชีพ” ต้ องพยายามเรียนรู้หลักการ แนวคิด ทฤษฏี
ทางการบริหารและฝึ กฝนจนเกิดความชานาญ มีทักษะ เก่ง
คิด เก่ งงาน และเก่ งคน ยังต้ องมีคุณลักษณะทีส่ าคัญ อีก
4 ประการ คือ
คิดกว้ าง
มองไกล
มุ่งสู่ ความสาเร็จ
ใฝ่ สู ง
กลยุทธ์ 7 ประการ ของผู้นายุคใหม่







มีวสิ ั ยทัศน์ กว้ างไกล
สร้ างนวัตกรรม
ทางานอย่ างประหยัด
วัดความพอใจลูกค้ า
พัฒนาคนและระบบ
จบทีช่ ุ มชน
วนสู่ ความเป็ นเลิศ
นักบริหารที่ดี ควร
ตัดสิ นใจโดยอ้ างอิง
ยิงให้ ถูกเป้า
เย้ าให้ ถูกที่
ชี้ให้ ถูกคน
สนการสื่ อสาร
ประสานอย่ าให้ ขลุก
ตัดสิ นใจ
รักษาเป้าหมาย
มนุษยสั มพันธ์
ใช้ คนเป็ น
สื่ อสารดี
ประสานงานคล่ อง
ลักษณะผู้นาทีพ่ งึ ปรารถนาใน กศน.
หน้ ายิม้
ใจพัฒนา
สนใจทาจริง
ฟังความคิดผู้อนื่
เป็ นผู้นาในองค์ การ
ไม่ ถูกชัก(นา)ด้ วยสอพลอ
มือไหว้
แสวงหาความคิดใหม่
ไม่ วงิ่ หาแต่ อามิส
เริงรื่นกับงานที่ทา
อาจหาญต่ อปัญหาอุปสรรค
นี่แหละหนอผู้นา กศน.
ลักษณะผู้นาทีไ่ ม่ พงึ ปรารถนาใน กศน.
หน้ ายิม้
ใจอันธพาล
ริษยาเป็ นประจา
เริงสาราญอยู่แต่ อามิส
ชมชื่นคาสอพลอ
มือไหว้
งานไม่ พฒ
ั นา
คิดแต่ ควา่ องค์ กร
แสวงหาความผิดผู้อนื่
นี่แหละหนอผู้นา กศน.(บางคน)
พฤติกรรมทีไ่ ม่ สมควรดารงอยู่ในตัวของผู้นา คือ
 พึง่ ดวง  หวงอานาจ  ญาติอุปถัมภ์
 ทาคนเดียว  เขีย้ วลากดิน
 กินไก่ วดั  งัดข้ อ
 จ้ อทั้งวัน  ขยันโง่
 อวดโตวางท่ า  ซ่ าส์ จนหยดสุ ดท้ าย
ความล้มเหลวขององค์ กร เกิดจาก
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
ผู้นาขาดการวางแผน
ผู้นาขาดการจัดองค์ การ
ผู้นาขาดการจัดอัตรากาลัง
ผู้นาขาดการอานวยการ
ผู้นาขาดการประสานงาน
ผู้นาขาดการรายงาน
ผู้นาขาดการงบประมาณทีด่ ี
ปัญหา
เวลา
สถานการณ์
การตัดสิ นใจ
ความคิด
ทาให้ นักบริหาร
ทาให้ นักบริหาร
ทาให้ นักบริหาร
ทาให้ นักบริหาร
ทาให้ นักบริหาร
เข้ มแข็ง
เชี่ยวชาญ
รู้ จักแก้ ปัญหา แก้ ไข
รู้ ถูกรู้ ผดิ
เลิศทางปัญญา
เตือนใจนักบริหาร
กระจกมีไว้ ส่องหน้ า
 ปัญญามีไว้ ส่องหัว
 ความชั่วมีไว้ ส่องคุณธรรม
 ผู้นามีไว้ ส่ององค์ กร
นักบริหารมีผลงานเป็ นกระจก
ความสาเร็จต้ องอาศัย
การฝ่ าฟัน
การต่ อสู้
ความเชี่ยวชาญ
การฝึ กฝน
ความสามารถ
พรแสวง
มิใช่ ฟลุค
มิใช่ นั่งดู
มิใช่ โชคช่ วย
มิใช่ บุญหล่นทับ
มิใช่ วาสนา
มิใช่ พรสวรรค์
 สรุ ป ผู้บริ หารทุกระดับ จะต้ องครองตน ครองคน และ
ครองงานให้ ได้ การครองตนนั้น ควรยึดมั่นในเบญจศีล
และเบญจธรรม นอกนีแ้ ล้ว จะต้ องมีสติสัมปชัญญะ
กากับอยู่เสมอ การครองคน ควรนาสั งคหวัตถุ ๔ มา
เป็ นแนวปฏิบัติงาน การครองงาน ควรยึดหลัก อิทธิ
บาท ๔ โดยเฉพาะการมีความรักในงานที่ทา มีความ
เพียรในการทางาน เอาใจใส่ ในงานที่ทา และหมั่น
ปรับปรุ งงานทีท่ าให้ ดขี นึ้ อยู่เสมอ นีแ้ หละจึงจะได้ ชื่อ
ว่ าครองงานได้