Transcript ภาพนิ่ง 1
ความรุนแรงทีบ่ ุคลากรทางการพยาบาลต้ องเผชิญ
ในโรงพยาบาลแห่ งหนึ่ง
Workplace violence Faced by Nursing Personnel
in a Hospital
เฉลิมรัฐ คา้ ชูชาติ
หลักสู ตรอาชีวอนามัย ภาควิชาเวชศาสตร์ ชุมชน คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ความเป็ นมาและความสาคัญ
•ความรุ นแรงเป็ นปัญหาสั งคม
•เกิดได้ ทุกเวลา ทุกสถานที่ แม้ กระทัง่ ในทีท่ างาน
ความเป็ นมาและความสาคัญ
ความรุ นแรงในสถานทีท่ างานเพิม่ ขึน้ ในอัตราสู ง
ปรากฏตามสื่ อต่ าง หนังสื อพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์ เน็ต
เป็ นปัญหาทางด้ านสุ ขภาพ ส่ งผลต่ อร่ างกาย จิตใจและสั งคม
ทบวงยุติธรรม (USA. 1992-1996 ) ระบุว่า ประชากรมากกว่ า
2 ล้ านคน ตกเป็ นเหยือ่ ความรุนแรงในทีท่ างาน
ลักษณะงานของพยาบาล
บริการด้ านสุ ขภาพต่ อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
ปฏิบัตงิ านในภาวะไม่ ปกติสุขของผู้มารั บบริ การ
มีปฏิสัมพันธ์ กบ
ั คนรอบด้ าน
ความรุนแรงในโรงพยาบาล
Reported Number of Violence Incidents
4000
3000
3298
2000
1000
935
922
531
287
0 Harsh/ Verbal Attempts Sexual
Physical
Insulting threats of of physical harassment attack
language physical harm
harm
reported a total number of 5,932 violence incidents,Cruickshank,1995
ความเป็ นมาและความสาคัญ (ต่ อ)
ประเทศไทย การศึกษาเรื่องความรุ นแรงในสถานที่ทางานยัง
มีน้อย
ข้ อมูลการถูกกระทาความรุ นแรงในสถานที่ทางาน ส่ วนใหญ่
ไม่ ได้ รับการเปิ ดเผย
ผลการศึ กษาครั้ งนี้จะ ใช้ เป็ นข้ อมู ลพืน
้ ฐานเพื่อนามาสู่ การ
วิจยั และแก้ ปัญหาต่ อไป
กรอบแนวคิดการวิจัย
เงือ่ นไขสถาบัน
เงือ่ นไขในที่ทางาน
สภาพแวดล้อมเฉพาะกรณี
ผลกระทบต่ อบุคคล
ผู้กระทา, ผู้ถูกกระทา
ผลกระทบต่ อการทางาน
ผู้ประสบเหตุ
เพือ่ นร่ วมงาน / เพือ่ นร่ วมสถาบัน
หมายเหตุ ใช้ แบบสอบถาม สั มภาษณ์ เชิงลึก
ตัวแปรมีผลกระทบ
ผลโดยตรง
ผลเล็กน้ อย
วัตถุประสงค์ การวิจยั
1. ลักษณะของความรุนแรงและบุคคลทีก่ ระทาความรุนแรง
2. ปัจจัยสาเหตุตามการรั บรู้ ของผู้ถูกกระทาความรุ นแรงและ
ผู้เกีย่ วข้ อง
3. ผลของการถูกกระทาความรุ นแรง
4. กลุ่มเสี่ ยงในบุคลากรทางการพยาบาลทีม่ ีความเสี่ ยงต่ อ การ
ได้ รับความรุ นแรง
การออกแบบการวิจัย
การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive cross-sectional survey
with supplementary qualitative study)
ประชากร
พยาบาลวิชาชีพ พยาบาลเทคนิค พนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้
จานวนทั้งหมด 594 คน (ศึกษาประชากรทั้งหมด)
เครื่องมือทีใ่ ช้ ในการเก็บรวบรวมข้ อมูล
เชิงปริมาณ เป็ นแบบสอบถามพัฒนามาจาก
ILO/ICN/WHO/PSI, 2003; Ontario Nurses ‘Association,
1995
เชิงคุณภาพ เป็ นแบบสั มภาษณ์ เชิงลึกทีก
่ าหนดแนวคาถามเอง
การเก็บรวบรวมข้ อมูล
1. ท าหนั ง สื อผ่ านหั วหน้ าหน่ วยร ะบาดวิ ท ยา คณะ
แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานคริ นทร์ ถึง ผู้อานวยการ
โรงพยาบาลของกลุ่มตัวอย่ าง
2. พบหัวหน้ ากลุ่มงานพยาบาลเพือ่ ชี้แจงวัตถุประสงค์ และ ขอ
ความอนุเคราะห์ ในการเก็บรวบรวมข้ อมูล
3. กาหนดระยะเวลาในการรั บแบบสอบถามคืนภายหลังแจก
แบบสอบถามแล้ ว 2 สั ปดาห์ กรณี ที่ ก ลุ่ มตั ว อย่ างส่ ง
แบบสอบถามช้ าหรือไม่ ได้ รับคืน ติดตามข้ อมูลอีกครั้ง
การเก็บรวบรวมข้ อมูล
4. สั มภาษณ์ เชิงลึก เลือกกลุ่มตัวอย่ างจากผู้ตอบแบบสอบถามที่
มีประสบการณ์ ความรุ นแรงและผู้ที่เกี่ยวข้ อง จานวน 30 ราย
(ด้ วยวิธีการ สั มภาษณ์ ตาม แนวคาถามที่เตรี ยมไว้ โดยผู้ วิจัย
จดบันทึกทุกคาพูดทีก่ ลุ่มตัวอย่ างให้ ข้อมูล)
5. ตรวจสอบความสมบูรณ์ ของข้ อมูลและวิเคราะห์ ข้อมูล ทาง
สถิติ
6. ได้ รับแบบสอบถามกลับ 545 ฉบับ คิดเป็ นร้ อยละ 91.7
การวิเคราะห์ ผล
โปรแกรมสาเร็จรู ป SPSS/PC และโปรแกรม Stata version 7
1. ข้ อ มู ล เชิ ง ปริ ม าณ ตัว แปรพื้น ฐานใช้ ส ถิติเ ชิ ง พรรณนา โดย
นามาหาค่ าร้ อยละ, ค่ าเฉลีย่ และส่ วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
2. การวิเคราะห์ หากลุ่มเสี่ ยงใช้ Chi square กาหนดนัยสาคัญทาง
สถิติที่ 0.05 เลือกตัวแปรที่มีค่า p-value น้ อยกว่ าหรื อเท่ ากับ 0.25
นาตัวแปรที่ได้ มาทดสอบหากลุ่มเสี่ ยงใช้ logistic regression
กาหนดนัยสาคัญทางสถิติที่ 0.05
3. ข้ อมูลเชิงคุณภาพ นาเสนอโดยอธิบายประเด็นสาคัญของความ
รุนแรง
ผลการวิจัย
ประเภทความรุนแรงทีไ่ ด้ รับ
ความรุนแรงที่ได้ รับ
(ร้ อยละ)
ความรุนแรงทางวาจา
เคย
ไม่ เคย
ความรุนแรงทางร่ างกาย
เคย
ไม่ เคย
การคุกคามทางเพศ
เคย
ไม่ เคย
ตั้งแต่ เริ่มปฏิบัติงาน
จานวน (N=545)
ระยะเวลา 1ปี ที่ผ่านมา
จานวน (N=545)
250 (45.9)
295 (54.1)
212 (38.9)
333 (61.1)
35 (6.4)
510 (93.6)
17 (3.1)
528 (96.9)
6 (1.1)
539 (98.9)
4 (0.7)
541 (99.3)
ผลการวิจัย
ลักษณะความรุ นแรงทางวาจา
ความรุนแรงทางวาจา*
จานวน (N=212)
การใช้ น้าเสี ยงตะคอก /ตะโกน
145
การตาหนิติเตียน/กล่ าวโทษ
141
การไม่ ให้ เกียรติ /ไม่ เคารพผู้ร่วมงาน
120
การใช้ คาพูดคุกคามวางตัวเหนือกว่ า
108
การด่ า/การใช้ คาหยาบ
90
การนินทาว่ าร้ าย
56
การใช้ วาจาดูถูกดูหมิ่น
50
การวิพากษ์ วจิ ารณ์ ให้ เสื่ อมเสี ย
50
ร้ อยละ
68.4
66.5
56.6
50.9
42.5
26.4
23.6
23.6
ผลการวิจัย
ลักษณะความรุนแรงทางร่ างกาย
ความรุนแรงทางร่ างกาย*
ผลัก ดึง ลาก กระชาก
เตะ
ตบ ตี กระแทก
การชกต่ อย
ขว้ างปาด้ วยวัตถุ
การใช้ อาวุธกรีด แทง
จานวน (N=17)
9
8
7
4
3
1
ผลการวิจยั
บุคคลทีก่ ระทาความรุนแรงต่ อบุคลากรทางการพยาบาล
ประเภทความรุนแรง จานวน (ร้ อยละ)
บุคคลที่กระทาความรุนแรง*
วาจา
ร่ างกาย
การคุกคามทางเพศ
(N=212)
(N=17)
(N=4)
ผู้ป่วย/ผู้มารับบริการ
111 (52.4)
15
0
ญาติผู้ป่วย/สมาชิกในครอบครัวผู้ป่วย 110 (51.9)
0
1
พยาบาล
76 (35.8)
2
3
แพทย์
74 (34.9)
0
0
ผู้บังคับบัญชา
53 (25.0)
2
0
บุคคลภายนอกผู้มาติดต่ องาน
23 (10.8)
0
0
เจ้ าหน้ าที่ต่างหน่ วยงาน
10 (4.7)
0
0
ผลการวิจัย
ปัจจัยสาเหตุนามาสู่ ความรุ นแรง
สาเหตุปัจจัยความรุนแรง*
ความบกพร่ องในการติดต่ อสื่ อสาร
ความโกรธ
สถานการณ์ ที่รีบเร่ ง
ความวิตกกังวล
อาการแสดงของความเจ็บป่ วย
การเมาสุ รา/ใช้ ยาหรือสารเสพติด
ไม่ ทราบสาเหตุ
โดนกลัน่ แกล้ ง
ตั้งใจกระทา
ประเภทความรุนแรง จานวน (ร้ อยละ)
วาจา (N=212) ร่ างกาย (N=17) การคุกคามทางเพศ
118 (55.7)
109 (51.4)
107 (50.5)
91 (42.9)
91 (42.9)
61 (28.8)
8 (3.8)
0
0
3
4
3
2
11
9
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
3
1
ผลการวิจัย
ผลของความรุ นแรงด้ านสั งคม
ผลด้ านสั งคม
ประเภทความรุนแรง จานวน (ร้ อยละ)
วาจา (N=212) ร่ างกาย (N=17) การคุกคามทางเพศ
สัมพันธภาพระหว่างเพือ่ นร่ วมงาน
ไม่ เปลีย่ นแปลง
106 (50.0)
13
4
เลวลง
91 (42.9)
4
0
ดีขนึ้
15 (7.1)
0
0
ไม่ เปลีย่ นแปลง
140 (66.0)
15
4
เลวลง
54 (25.5)
2
0
ดีขนึ้
18 (8.5)
0
0
171 (80.7)
16
4
เลวลง
26 (4.8)
1
0
ดีขนึ้
15 (7.1)
0
0
สัมพันธภาพระหว่างเพือ่ น
สัมพันธภาพระหว่างครอบครัว
ไม่ เปลีย่ นแปลง
ผลการวิจัย (ต่ อ)
Adjusted odds ratio การถูกกระทาความรุนแรงทางวาจา
ตัวแปรอิสระทีเ่ ป็ นปัจจัยเสี่ ยง Odds ratio 95 % Conf. Interval
วุฒิการศึกษา*
ต่ากว่ าปริญญาตรี
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
การฝึ กอบรม
เคย
ไม่ เคย
* p –value for linear trend = 0.018
1
1.455
2.025
P-value
1.003 - 2.110
.776 - 5.281
0.04
0.14
1.100 - 2.274
0.01
1
1.581
สรุปผลการวิจยั
1. บุคลากรทางการพยาบาลเผชิ ญกับความรุ นแรงทางวาจา
มากที่ สุ ด ร้ อยละ 38.9 รองลงมาเป็ นความรุ น แรงทาง
ร่ างกายร้ อยละ 3.1
2. ลัก ษณะความรุ นแรงทางวาจาเป็ นการใช้ น้าเสี ยงตะคอก
ความรุ น แรงทางร่ างกายเป็ นการผลั ก ดึ ง กระชาก การ
คุกคามทางเพศเป็ นการใช้ มือสั มผัส
3. บุคคลทีก่ ระทาความรุ นแรงทางวาจาและร่ างกายเป็ นผู้ป่วย/
ผู้รับบริการมากทีส่ ุ ด การคุกคามทางเพศเป็ นเพือ่ นร่ วมงาน
สรุปผลการวิจยั
4. สาเหตุความรุ นแรงทางวาจามาจากความบกพร่ องในการ
ติ ด ต่ อ สื่ อ สารมากที่ สุ ด ความรุ น แรงทางร่ า งกายมาจาก
อาการแสดงความเจ็บป่ วย
5. ผลด้ านสั งคม พบว่ าความรุ นแรงทางวาจาเกิดผลเสี ยต่ อ
สั มพันธภาพระหว่ างเพือ่ นร่ วมงานมากทีส่ ุ ด
6. กลุ่มเสี่ ยงต่ อการเกิดความรุ นแรงทางวาจาคือกลุ่มที่ไม่ ได้
รับการฝึ กอบรมเรื่องการจัดการกับความรุนแรง
อภิปรายผล
งานพยาบาลมี ลัก ษณะเฉพาะ ต้ อ งเผชิ ญกับ ความเครี ย ดและ
ความกดดัน ในภาวะไม่ ปกติสุขของผู้ป่วย
ปฏิสัมพันธ์ กบ
ั บุคคลรอบด้ าน
ให้ บริ การต่ อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
อภิปรายผล
มีหลักฐานชี้ชัดว่ าบุคลากรทางการพยาบาลมีความเสี่ยงต่ อการ
ถูกคุกคามทางวาจามากกลุ่มอาชีพอืน่ ๆ 4 เท่ า และมีความเสี่ ยง
มากกว่ ากลุ่มอาชี พที่ดูแลด้ านสุ ขภาพอื่น ๆ 3.5 เท่ า (Home
Office 1999)
การใช้ น้ า เสี ย งตะคอกเป็ นการแสดงอารมณ์ โ กรธ เมื่ อ ไม่
สามารถควบคุมได้ จะเกิดความคุกคามของความรุ นแรง
อาชีพและแหล่ งทีม่ าของความรุ นแรง
ผู้ ป่ วย/ผู้ รั บ บริ ก ารเป็ นบุ ค คลที่ ใ กล้ ชิ ด กับ บุ ค ลากรมากที่ สุ ด
บทบาทการดูแลผู้ป่วยด้ านการพยาบาล ให้ บริการผู้ป่วยอาจเกิด
ความล่ าช้ าไม่ เป็ นที่พอใจของผู้รับบริ การ ส่ งผลให้ เกิดความ
โกรธ
สาเหตุความรุนแรง
ทางวาจา
ความบกพร่ องในการ
ติดต่ อสื่ อสาร การ
ประสานงานที่ไม่ ชัดเจน
การสื่ อสารไม่ ตรงกัน ทา
ให้ เกิดความขัดแย้ งพูดจา
โต้ เถียง ใช้ คาหยาบคาย
บางครั้งรุนแรงมาก (ทัด
ดาว นิยมาศ, 2545)
ทางร่ างกาย
อาการแสดงความเจ็บป่ วย
ของผู้ป่วย ภาวะวิตกกังวล
และอาการไข้ ปวดทาให้
ผู้ป่วยขาดสติและทาร้ าย
ร่ างกายบุคลากรทางการ
พยาบาล (ทองศุกร์ บุญเกิด
และคณะ, 2543 )
ผลด้ านสั งคม
ผลเสี ยจากความรุนแรงทางวาจาอาจมีมากกว่ าทีค่ นทัว่ ไปรับรู้
Levin (1998) ผลระยะยาวเจ็บปวดเรื้อรัง ด้ านจิตใจมีความเครียด กังวล
นอนหลับฝันร้ าย สั มพันธภาพเลวลง
Anderson & ผลต่ อหน่ วยงาน ทาให้ ขาดงาน เปลี่ยนหรื อย้ ายตาแหน่ ง
Stamper
และบางครั้งลาออกจากงานและออกจากวิชาชีพ
(2001)
Cameron ผลต่ อการปฏิบัติง าน เป็ นสาเหตุ ค วามผิด พลาดในการ
(1998)
ปฏิบัติงาน คุณภาพการพยาบาลลดลง เพิม่ ภาระให้ เพือ่ น
ร่ วมงาน
การฝึ กอบรม
ผลการฝึ กอบรมเรื่ อ งการจัด การกับ ความรุ น แรงสามารถ
แก้ ไขและป้องกันความรุ นแรงในสถานทีท่ างาน
Rau-Foster(2000)
ช่ วยให้ มีความเข้ าใจในตัวผู้ป่วยและอารมณ์
บุคคล
Cook, et al (2001) การฝึ กอบรมท าให้ มี ก ารจั ด การกั บ ความ
รุนแรงที่เหมาะสม
Infantino & Musing พบว่ าพยาบาลที่ได้ รับการฝึ กอบรมเสี่ ยงต่ อ
(2001)
การถู กกระท าความรุ น แรงน้ อยกว่ ากลุ่ ม ที่
ไม่ ได้ รับการอบรม
ข้ อเสนอแนะ
1. ผู้ เกี่ยวข้ อ งทุ ก ฝ่ าย ผู้ บ ริ ห ารบุ คลากรทางการพยาบาลควร
รั บ ทราบข้ อ มู ล เหล่ า นี้ เพื่อ เข้ า ใจความเสี่ ย งของวิช าชี พ และ
หาทางป้ องกันแก้ ไขต่ อไป
2. สนับสนุ นและส่ งเสริ มให้ มีการฝึ กอบรมเรื่ องการจัดการกับ
ความรุนแรงในสถานทีท่ างาน
3. พัฒนาเทคนิคการสื่ อสาร
ข้ อเสนอแนะ (1)
ความรุนแรงในวิชาชีพพยาบาลพบบ่ อย
มีผลเสี ยมากกว่ าทีเ่ กิดขึน
้
เผยแพร่ ความเสี่ ยงให้ ผู้เกีย่ วข้ องรับทราบและหาทางป้องกัน
ข้ อเสนอแนะ (2)
พยาบาลทีม่ ีความเสี่ ยงคือกลุ่มทีไ่ ม่ ได้ รับการฝึ กอบรมเรื่องการ
จัดการกับความรุนแรง
งานวิจย
ั ทีผ่ ่ านมา พบว่ าการฝึ กอบรมสามารถลดความเสี่ยงต่ อ
การเกิดความรุ นแรงและลดระดับความรุนแรงได้
อบรมพยาบาลทุกคนเรื่องวิธีป้องกันและควบคุมความรุนแรง
ข้ อเสนอแนะ (3)
สาเหตุของความรุ นแรงทางวาจามาจากความบกพร่ องในการ
สื่ อสาร
ผลของความรุ น แรงมี ผ ลเสี ย ต่ อ สั ม พั น ธภาพระหว่ า งเพื่ อ น
ร่ วมงาน
อบรมทักษะการติดต่ อสื่ อสารและหาทางรักษาสั มพันธภาพ
ระหว่ างเพือ่ นร่ วมงาน
จุดเด่ นและจุดอ่ อนของงานวิจัย
จุดเด่ น
1. แบบสอบถามได้ รับการตอบกลับ ร้ อยละ 91.7
2. ศึกษาข้ อมูลเชิงคุณภาพสนับสนุนผลวิจยั
จุดอ่ อน
1. การรายงานอาจจะสู งกว่ าหรือตา่ กว่ าความเป็ นจริงได้
2. การรับรู้ ความรุนแรงแตกต่ างกัน อาจจะทาให้ แปลผลผิด