Maximum Hop Count

Download Report

Transcript Maximum Hop Count

แลกเส
้นทางระหว
้างกันอย
้างง
้ายด
้วย
Routing
Infomation
Protocol
 กลไกการอัพเดทเส้ นทาง
 ความแตกต่างระหว่าง RIPv1/v2
 วิธีป้องกันการวนลูปของเส้ นทาง





Maximum Hop Count
Poison Reverse
Trigger Update
Split Horizon
Holddown Timer
 การตังค่
้ า RIPv2 พื ้นฐาน
10-1
รายการเส
้นทาง:
อัพเดทเส
้นทางโดยบอกต
้อ
Network ID Cost
Routing by Rumour
 บอกต่อรายการเส้ นทางทังตาราง
้
(ที่อนุญาต) ให้ เพื่อนบ้ าน
 ใช้ Metric เป็ น “Hop Count” ซึง่ +1 เพิ่มทุกครัง้ ที่ข้ามเราท์เตอร์
 เรี ยกภาวะที่แลกเปลี่ยนเส้ นทางกันครบแล้ วทุกเราท์เตอร์ ว่า เข้ า 10-2
สูส่ ถานะ “Convergence”
Next Hop
ลักษณะเด
้น และจุ้อย
ดด
ลักษณะเด
้น:
 อยู่ในกลุม่ Distance Vector เหมือน IGRP
 ใช้ อลั กอริ ทมึ แบบ Bellman-Ford
 คาว่า “รู้จากบอกต่อ” (By Rumour) = แต่ละเราท์เตอร์ จะรู้
แต่สิ่งที่เราท์เตอร์ เพื่อนบ้ านบอกมันเท่านัน้
 อัพเดททังตารางเส้
้
นทาง ทุก 30 วินาที
ลักษณะด
้อย:
 เนื่องจากบอกต่อเส้ นทางทังตาราง
้
จากเราท์เตอร์
ตัวหนึง่ ไปยังอีกตัว (Hop-by-Hop) จึงใช้ ได้ เฉพาะ
กับเครื อข่ายเล็กๆ (ไม่ เกิน 16 เราท์ เตอร์ ;
Maximum Hop Count)
 มีปัญหาด้ านการป้องกันการวนลูปเส้ นทาง และใช้
เวลาที่ทาให้ Convergence ช้ าที่สดุ (ใช้ หลาย
10-3
กลไกเกิน Split Horizon, Poison Reverse,
Holddown Time เป็ นต้ น)
้าไมของ
ท
RIPv2
RIPv1:
 เป็ น Classful
 ส่งต่อเส้ นทางแบบบรอดคาสต์ (255.255.255.255)
 เพื่อให้ ไม่กระทบกับแบนด์วิธ และเสถียรภาพของเครื อข่าย
มาก และสามารถใช้ Classless ได้ จึงพัฒนาเป็ นเวอร์ ชนั่ 2
RIPv2:
 ทางานแบบ Classless
 ส่งต่อเส้ นทางแบบมัลติคาสต์แทน (224.0.0.9)
 รองรับการยืนยันตัวตนด้ วยพาสเวิร์ด (ได้ ทงแบบ
ั้
Clear
Text และ MD5)
10-4
การวนลูปของเส
้นทาง
Routing Loop & Count to Infinity
 เมื่อแลกเปลี่ยนตารางเส้ นทางจน Convergence ทังเครื
้ อข่ายแล้ ว
 ถ้ ามีเครื อข่ายใดเข้ าถึงไม่ได้ RIP จะส่งเส้ นทางแก้ ไข เพื่อปรับให้
Convergence ใหม่
 ซึง่ ด้ วยกลไกที่ไม่มีการกรองหรื อคานวณก่อนส่งให้ เราท์เตอร์ ใช้ จึงอาจเกิด
ปั ญหาวนลูปของเส้ นทางไม่ร้ ูจบได้
 Routing Loop: เส้ นทางทังเครื
้ อข่ายกลายเป็ นวนลูป หาทางออกไม่ได้
 Count-to-Infinity: ขณะที่วนลูป ก็จะบวก Hop Count เพิ่มไปเรื่ อยจน
ไม่มีที่สิ ้นสุด
10-5
การวนลูปของเส
้นทาง
Routing Loop & Count to Infinity
 หลังทุกเราท์เตอร์ มีเส้ นทางไปทุก
เครื อข่ายแล้ ว
 ถ้ าเราท์เตอร์ ใดไม่สามารถเข้ าถึง
เครื อข่ายที่อยู่ที่อินเตอร์ เฟสตนเอง
แล้ ว เส้ นทางแบบ Directly
Connected ก็จะหายไป
 ทาให้ เราท์เตอร์ เพื่อนบ้ าน ส่งเส้ นทาง
ของเครื อข่ายดังกล่าวที่ตนมีอยู่มาให้
ใหม่ พร้ อมบวก Hop Count แต่เป็ น
ทางอินเตอร์ เฟสตรงกันข้ าม
 จึงเกิด Routing Loop
Routing Loop
Des.IP
Net 10
RIP net 10
+1
10-6
Count-to-infinity
เพราะแต่ละเราท์เตอร์ หาเส้ นทางไปยัง Net 10 ไม่เจอ
จึงบอกต่อกันวนไปมาเรื่ อยๆ จนเข้ าสู่ infinity
กลไกป
้องกันการวนลูป




Maximum Hop Count: นิยามว่า Hop Count = 16 = เครื อข่ายที่เข้ าถึงไม่ได้
Route Poisoning: ให้ เราท์เตอร์ ต้นกาเนิดเครื อข่ายที่เสีย ส่ง Hop Count 16 บอก
Trigger Update: บังคับให้ เราท์เตอร์ แจ้ งบอกทันที ไม่ต้องรอเวลา 30 วินาทีปกติ
Split Horizon: ไม่ให้ เราท์เตอร์ สง่ อัพเดทเส้ นทางของเครื อข่ายเดิม ย้ อนออกมาทาง
อินเตอร์ เฟสเดิมที่รับเส้ นทางนี ้เข้ ามา
 Holddown Timer: ดีเลย์ไม่ให้ เราท์เตอร์ อื่นส่งอัพเดทเส้ นทางของเครื อข่ายที่เพิ่ง
เข้ าถึงไม่ได้ ทนั ที เพื่อรอการ Route Poisoning ให้ เกิดขึ ้นทังเครื
้ อข่ายก่อน (180
วินาที) เนื่องจากกรณีมีเส้ นทางลัดทีท่ าให้ Split Horizon ป้องกันการอัพเดท
เส้ นทางทับไม่ ได้
10-7
้านวน
จ
Hop สูงสุดที่อนุญาต
Maximum Hop Count




นามาใช้ เพื่อป้องกันปั ญหา “Count-to-Infinity” โดยเฉพาะ
กาหนดให้ Hop Count อนุญาตมากที่สดุ คือ 15 Hop
และกาหนดว่า Hop Count = 16 = เครื อข่ายที่เข้ าถึงไม่ได้
ด้ วยเหตุนี ้ จึงใช้ RIP ได้ แต่เครื อข่ายขนาดเล็ก
10-8
บอกต
้อเครื้ายที
อข ้าถึ
่เข ง้ได
ไม้ด
้วย
Poison Reverse
 ใช้ ประโยชน์จาก Hop Count = 16 = เครื อข่ายที่เข้ าถึงไม่ได้
 โดยให้ เราท์เตอร์ สง่ บอกเครื อข่ายตนเองที่ตายด้ วยเส้ นทางที่ใช้
Hop Count = 16
 นาไปใช้ ร่วมกับการส่งอัพเดททันที (Trigger Update)
10-9
อัพเดทเครื้ายที
อข ่เสียแบบทันที
Trigger Update
 สัง่ ให้ เราท์เตอร์ เจ้ าของเครื อข่ายอัพเดททันที เพื่อป้องกัน
เราท์เตอร์ อื่นมาอัพเดทเส้ นทางทับ และเกิดวนลูป
10-10
้องกั
ป นการส
้งเส
้นทางย
้อนกลับ
Split Horizon
 ห้ ามส่งเส้ นทางของ “เครื อข่ ายเดิม” ออกทาง
“อินเตอร์ เฟสที่รับเส้ นทางนีเ้ ข้ ามา”
 เป็ นวิธีสากลของ “ทุกเราท์ ตงิ ้ โปรโตคอล” เพื่อป้องกัน
การ วนลูปของเส้ นทาง
10-11
้องกั
ป นการส
้งเส
้นทางย
้อนกลับ
Split Horizon
 แต่ถ้าเป็ นการอัพเดทเส้ นทางที่ Hop Count = 16 (Route
Poisoning) ฟี เจอร์ Split Horizon จะเปิ ดให้ บอกต่ อ
เครื อข่ ายที่เข้ าถึงไม่ ได้ โดยย้ อนกลับทางเดิมได้ เพื่อให้
ไปทัว่ ถึงเครื อข่ายโดยเร็วที่สดุ
10-12
้วงเวลาเพื
ถ
่อลบเครื้ายที
อข ่เสีย
Holddown Timer
 กรณีที่มีเส้ นทางลัดดังภาพ จะไม่สามารถใช้ คณ
ุ สมบัติ Split
Horizon มาป้องกันการอัพเดทเส้ นทางทับได้
 จึงตังค่
้ า Holddown Timer ที่ไม่ให้ อพั เดทเส้ นทางใหม่ทนั ที
 โดยรอ 180 วินาที เพื่อให้ แน่ใจว่า Poison Reverse ทางานเสร็ จแล้ ว
 จึงทาให้ เวลา Convergence ใหม่ ของ RIP ช้ ามาก
10-13



้าสั
ค ่งที้ตั
่ใช ้า
้งค
เปิ ดการใช้ งานเราท์ติ ้งโปรโตคอล RIP ด้ วยคาสัง่ router rip ในโหมดโกลบัลคอนฟิ ก
 Router(config)# router rip
สัง่ ให้ เลือกใช้ เวอร์ ชนั่ 2 (เพื่อให้ รองรับ Classless)
 Router(config-router)# version 2
กาหนดวงของเครื อข่ายที่เราอนุญาตให้ นาไปบอกต่อเส้ นทางได้ (เครื อข่ายที่อยู่บน
เราท์เตอร์ ตวั นี ้; Directly Connected)
 Router(config-router)# network 10.0.0.0
 Router(config-router)# network 192.168.0.0
 (สังเกตว่า แม้เราจะพิ มพ์ NetworkID เป็ น Classless มันก็จะขึ้นเป็ น
Classful อยู่ดี)
คาสั่ง Network คือการอนุญาตอินเตอร์ เฟสที่จะใช้ เราท์ ตงิ ้
โปรโตคอล ไม่ ใช่ บอกว่ าให้ ส่งเน็ตเวิร์กใดออกไป
10-14
้าสั
ค ่งที้ทวนสอบ
่ใช
 Router# show ip protocol

ให้ แสดงข้ อมูลเราท์ติ ้งโปรโตคอลที่เราท์เตอร์ ปัจจุบนั ใช้ งาน
 Router# show ip route

ให้ แสดงตารางเส้ นทาง (Routing Table)
 Router# debug ip rip

ให้ แสดงข้ อมูลการทางานของ RIP เช่น การอัพเดทเส้ นทาง
10-15
ตัวอย
้างการตั้า
้งค
172.31.1.0/24
fa0
172.31.1.1/24
S0
A
10.1.1.1/30
192.168.10.0/24
fa0
S1
10.1.1.2/30
B
192.168.10.1/24
Router A:
Router B:
Interface fastethernet 0
ip address 172.31.1.1 255.255.255.0
!
Interface serial 0
ip address 10.1.1.1 255.255.255.252
!
router rip
version 2
network 172.31.0.0
network 10.0.0.0
no auto-summary
Interface fastethernet 0
ip address 192.168.10.1 255.255.255.0
!
Interface serial 1
ip address 10.1.1.2 255.255.255.252
!
router rip
version 2
network 192.168.10.0
network 10.0.0.0
10-12
no auto-summary
ตัวอย
้างการทวนสอบ
RouterA# show ip protocols
Routing Protocol is "rip"
Sending updates every 30 seconds, next due in 6 seconds
Invalid after 180 seconds, hold down 180, flushed after 240
Outgoing update filter list for all interfaces is not set
Incoming update filter list for all interfaces is not set
Redistributing: rip
Default version control: send version 2, receive version 2
Interface
Send Recv Triggered RIP Key-chain
FastEthernet0/0
2
2
Serial0/0/2
2
2
Automatic network summarization is in effect
Maximum path: 4
Routing for Networks:
10.0.0.0
172.16.0.0
Routing Information Sources:
Gateway
Distance
Last Update
10.1.1.2
120
00:00:25
Distance: (default is 120)
RouterA#
10-17
ตัวอย
้างการทวนสอบ
RouterA# show ip route
Codes: C - connected, S - static, I - IGRP R - RIP , M - mobile, B - BGP
D - EIGRP, EX - EIGRP external, O - OSPF, IA - OSPF inter area
N1 - OSPF NSSA external type 1, N2 - OSPF NSSA external type 2
E1 - OSPF external type 1, E2 - OSPF external type 2, E - EGP
i - IS-IS, L1 - IS-IS level-1, L2 - IS-IS level-2, * - candidate default
U - per-user static route, o - ODR
T - traffic engineered route
Gateway of last resort is not set
C
R
C
R
172.16.0.0/24 is subnetted, 1 subnets
172.16.1.0 is directly connected, fastethernet0/0
10.0.0.0/24 is subnetted, 2 subnets
10.2.2.0 [120/1] via 10.1.1.2, 00:00:07, Serial0/0/2
10.1.1.0 is directly connected, Serial0/0/2
192.168.1.0/24 [120/2] via 10.1.1.2, 00:00:07, Serial0/0/2
10-18
ตัวอย
้างการทวนสอบ
RouterA# debug ip rip
RIP protocol debugging is on
RouterA#
00:06:24: RIP: received v1 update from 10.1.1.2 on Serial0/0/2
00:06:24:
10.2.2.0 in 1 hops
00:06:24:
192.168.1.0 in 2 hops
00:06:33: RIP: sending v1 update to 255.255.255.255 via FastEthernet0/0 (172.16.1.1)
00:06:34:
network 10.0.0.0, metric 1
00:06:34:
network 192.168.1.0, metric 3
00:06:34: RIP: sending v1 update to 255.255.255.255 via Serial0/0/2 (10.1.1.1)
00:06:34:
network 172.16.0.0, metric 1
10-19