ความสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียน - E

Download Report

Transcript ความสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียน - E

การวิจยั ปฏิบต
ั ก
ิ ารใน
้
ชนเรี
ั ยน
1
้ั
ความสาคัญของการวิจ ัยในชน
เรียน
1. ให ้โอกาสครูในการสร ้างองค ์ความรู ้ ทักษะการทา
วิจยั
และการประยุกต ์ใช ้
2. เป็ นการสร ้างชุมชนแห่งการเรียนรู ้
3. เป็ นประโยชน์ตอ
่ ผูป้ ฏิบต
ั โิ ดยตรง
2
้ั
ความสาคัญของการวิจ ัยในชน
เรียน (ต่อ)
่ อเนื่ อง และเกิดการ
4. ทาให ้เกิดการพัฒนาทีต่
่
เปลียนแปลงผ่
านกระบวนการวิจยั นาไปสูก
่ าร
่
ปร ับปรุง เปลียนแปลงการปฏิ
บต
ั ิ และการแก ้ปัญหา
5. ทาให ้กระบวนการวิจยั มีความเป็ นประชาธิปไตย และ
เกิดยอมร ับใน ความรู ้ของผูป้ ฏิบต
ั ิ
6. ช่วยตรวจสอบวิธก
ี ารทางานของครูทมี
ี่ ประสิทธิผล
่
7. ทาให ้ครูเป็ นผูน้ าการเปลียนแปลง
3
้ั
ความหมายของการวิจ ัยในชน
เรียน
้ั ยน คือ การวิจยั ทีท
่ าโดย
การวิจยั ในชนเรี
้ั ยน
ครูผูส้ อนในชนเรี
่
่ ดขึนในช
้
้ั ยน และนาผลมาใช ้
เพือแก
้ไขปัญหาทีเกิ
นเรี
ในการปร ับปรุงการเรียนการสอนหรือส่งเสริม
พัฒนาการเรียนรู ้ของผู ้เรียนให ้ดียงขึ
ิ่ น้ นาผลไปใช ้
่
ในทันที และสะท ้อนข ้อมูลเกียวกั
บการปฏิบต
ั ต
ิ า่ ง ๆ
้
่
ให ้ทังตนเองและกลุ
ม
่ เพือนร่
วมงานในโรงเรียนได ้มี
่
โอกาสวิพากษ ์ อภิปราย แลกเปลียนเรี
ยนรู ้ใน
่ ้ปฏิบต
่ ดขึน้
แนวทางทีได
ั แิ ละผลทีเกิ
4
้ั
ลักษณะสาคัญของการวิจ ัยในชน
เรียน
ใคร
ทาอะไร
่
ทีไหน
้ ยน
ครูผูส้ อนในชันเรี
แสวงหาวิธก
ี ารแก ้ไขปัญหา
่ ดขึนในห
้
ทีเกิ
้องเรียน
่
เมือไร
่
ในขณะทีการเรี
ยนการสอนกาลังดาเนิ นอยู่
อย่างไร
่ วงจรการทางานต่อเนื่ อง
ด ้วยวิธก
ี ารวิจยั ทีมี
และสะท ้อนกลับการทางานของตนเอง โดย
้
ขันตอนหลั
ก คือ การทางานตามวงจร
PAOR
5
้ั
ลักษณะสาคัญของการวิจ ัยในชน
เรียน
่ ดประสงค ์ใด
เพือจุ
่ ฒนาการเรียนการสอนให ้
มีจด
ุ มุ่งหมายเพือพั
เกิดประโยชน์สงู สุดต่อผูเ้ รียน
ลักษณะเด่นการวิจยั
เป็ นกระบวนการวิจยั อย่างรวดเร็ว โดย
่
ครูผูส้ อนนาวิธก
ี ารแก ้ปัญหาทีตนเองคิ
ดขึน้
ไปทดลองใช ้กับผูเ้ รียนทันทีและสังเกตผล
การแก ้ปัญหานั้น มีการสะท ้อนผลและ
่
่
แลกเปลียนประสบการณ์
กบั เพือนครูใน
โรงเรียน เป็ นการวิจยั แบบร่วมมือ
6
้ั
ลักษณะสาคัญของการวิจ ัยในชน
เรียน
1)
2)
3)
4)
มีการดาเนิ นงานตามวงจร PAOR คือ
การวางแผนหลังจากทีวิ่ เคราะห ์และกาหนดประเด็น
่ ้องการแก ้ไข (Plan)
ปัญหาทีต
่ าหนด (Act)
การปฏิบต
ั ต
ิ ามแผนทีก
่ ดขึนจากการปฏิ
้
การสังเกตผลทีเกิ
บต
ั งิ าน
(Observer)
การสะท ้อนผลหลังจากการปฏิบต
ั งิ านให ้ผูท้ มี
ี่ สว่ น
่ าไปสูก
ร่วมได ้วิพากษ ์วิจารณ์ ซึงน
่ ารปร ับปรุง
แก ้ไข การปฏิบต
ั งิ านต่อไป (Reflect)
7
แผนภาพ วงจร PAOR
Plan
Reflect
Plan
Act
Observe
Reflect
Act
Observe
8
้
้ั ยน
ขันตอนการท
าวิจ ัยในชนเรี
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
วิธด
ี าเนิ นการวิจย
ั
การเก็บรวบรวมข้อมู ล
การวิเคราะห ์ข้อมู ล
การแปลความหมายผลการ
วิเคราะห ์ข้อมู ล
• การสรุปผลการวิจย
ั
•
•
•
•
•
9
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
1. ปั ญหาวิจย
ั คืออะไร
2. ประเด็นในการวิเคราะห ์
สภาพปั ญหา
้ าถามวิจย
3. การตังค
ั
่
าวิจย
ั ใน
4. ปั ญหาทีสามารถท
้ั ยนได้
ชนเรี
10
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
1. ปั ญหาวิจย
ั คืออะไร
ปัญหาวิจยั คือ คาถามหรือโจทย ์ที่
่ ้องการคาตอบที่
ผู ้วิจยั กาหนดขึน้ ซึงต
่ อได ้
เชือถื
ปัญหาวิจยั ควรมีความหมายและเอือ้
่
ประโยชน์ตอ
่ การเรียนการสอนโดยตรง เมือ
่ ดประโยชน์
ครูทาวิจยั แล ้วจะได ้คาตอบทีเกิ
ทางปฏิบต
ั แิ ก่ครูผู ้ทาวิจยั หรือทาให ้เกิด
่ ขนน
ความเข ้าใจปัญหาทีดี
ึ ้ าไปสูก
่ ารปฏิบต
ั ิ
11
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
2. ประเด็นในการวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
่ ดขึนคื
้ ออะไร
1. ปัญหาทีเกิ
่ ดขึนเป็
้ นปัญหาของใคร
2. ปัญหาทีเกิ
่ ดขึนส่
้ งผลกระทบต่อใครและอะไรบ ้าง
3. ปัญหาทีเกิ
่ ดขึนมี
้ ความสาคัญในระดับใด เมือ
่
4. ปัญหาทีเกิ
่ ปัญหาใดสาคัญกว่ากัน
เทียบกับปัญหาอืน
่ ดขึนเกี
้ ยวข
่
5. ปัญหาทีเกิ
้องสัมพันธ ์กับปัญหาหรือ
เหตุการณ์อน
ื่ ๆ อะไรบ ้าง อย่างไร
6. ใครคือผูร้ ับผิดชอบหลักในการแก ้ไขปัญหา
่
ดังกล่าว และการแก ้ไขปัญหานั้นต ้องเกียวข
้องกับใคร
12
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
้ าถามวิจย
3. การตังค
ั มีเกณฑ ์การ
กาหนด ดังนี ้
้ าถามทีดี
่ ไม่ควรใช ้คาถาม
1. การตังค
Yes/No
แต่ควรใช ้คาถาม “ทาไม อย่างไร อะไร”
2. มีความน่ าสนใจจะศึกษาหรือควร
่ วยนักเรียนทีมี
่ ปัญหา
นามาศึกษาเพือช่
้ อตัวครูผูส้ อนและ
3. มีความสาคัญทังต่
13
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
้ าถามวิจย
3. การตังค
ั (ต่อ) มีเกณฑ ์การ
กาหนด ดังนี ้
4. สามารถจัดการให ้อยู่ภายใต ้การควบคุมของ
ผูว้ จิ ยั ได ้และสามารถตัดสินใจทาอะไรก็ได ้ตามข ้อ
ค ้นพบ
5. มีความเป็ นไปได ้ในการทา เหมาะสมกับเวลา
ทร ัพยากร ในช่วงแรกควรคิดถึงการทาวิจยั ใน
่ ่ในวิสยั ทีสามารถด
่
ประเด็นเล็ก ๆ ซึงอยู
าเนิ นการ
จนสาเร็จ
่ ญหาวิจยั ทีครู
่ หรือผู ้เกียวข
่
6. หลีกเลียงปั
้องไม่
14
การวิเคราะห ์สภาพปั ญหา
่
้ั
4. ปั ญหาทีสามารถท
าวิจย
ั ในชน
เรียนได้
์
- ผลสัมฤทธิทางการเรี
ยนของ
นักเรียนบางคน
ในห ้องเรียนต่ากว่าปกติ
- นักเรียนทางานกลุม
่ ไม่เป็ น
- นักเรียนบางคนมีพฤติกรรม
ก ้าวร ้าว
- อ่านภาษาไทยไม่ออก เขียน
15
วิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย
1. ระเบียบวิธวี จ
ิ ัย
มิตท
ิ ใช
ี่ ้ในการจัดประเภทของการวิจยั มี 2 มิต ิ
มิต ิแ รก เรีย กว่ า การจัด ระเบีย บ/การควบคุ ม
ส ภ า พ ก า ร ณ์ ข อ ง ก า ร วิ จั ย (organization)
โดยเฉพาะผู เ้ รีย น ให อ้ ยู่ ใ นสภาวะที่ผู ว้ ิจ ย
ั ก าหนด
แบ่งเป็ นการจัดระเบียบ/ควบคุมระดับมาก และระดับ
น้อย
มิ ต ิ ท ี่ สอง คื อ การแทรกสิ่ งทดลองระหว่ า ง
กระบวนการเรียนรู ้ (intervention) แบ่งเป็ น การ
่
่
แทรกสิงทดลองกั
บการไม่ไดแ้ ทรกสิงทดลองระหว่
าง
16
วิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย (ต่อ)
ระดับการควบคุม (สู ง)
แผนแบบที่ 3
แบบการว ัด
-มีการควบคุม
่
- ไม่มก
ี ารแทรกสิงทดลองระหว่
าง
กระบวนการเรียนรู ้
แบบการวิจย
ั
- การวิจยั เชิงสารวจ
แผนแบบที่ 4
แบบเผ้าดู
แผนแบบที่ 1
แบบควบคุม
-มีการควบคุม
่
-มีการแทรกสิงทดลองระหว่
างกระบวนการ
เรียนรู ้
แบบการวิจย
ั
่
- การวิจยั เชิงทดลอง/กึงทดลอง
่
การแทรกสิงทดลอง
่2
แผนแบบที
(มาก)
-ไม่มก
ี ารควบคุม
แบบการถามและการทา
-ไม่มก
ี ารควบคุม
่
-ไม่มก
ี ารแทรกสิงทดลองระหว่
าง
กระบวนการเรียนรู ้
่
-มีการแทรกสิงทดลองระหว่
าง
กระบวนการเรียนรู ้
แบบการวิจย
ั
แบบการวิจย
ั
- การวิจยั เชิงธรรมชาติ
- การวิจยั ปฏิบต
ั ก
ิ าร
- การวิจยั รายกรณี
- การวิจยั แบบร่วมมือ
17
วิธด
ี าเนิ นการวิจ ัย (ต่อ)
2. ประชากร
่ ชวี ต
ประชากร หมายถึง ทุก ๆ หน่ วยของสิงมี
ิ
่ ว้ จิ ยั สนใจจะศึกษาทังหมด
้
หรือไม่มช
ี วี ต
ิ ทีผู
การ
่
่ กษานั้น
ได ้มาซึงประชากรที
จะศึ
3. กลุ่มตัวอย่าง
กลุม
่ ตัวอย่าง หมายถึง บางส่วนของประชากรที่
ผูว้ จิ ยั เลือกมาเป็ นตัวแทนในการศึกษาตัวแปรหรือ
่
่ ปอ ้างอิงไปยังประชากร
คุณลักษณะทีสนใจ
เพือสรุ
18
การเก็บรวบรวมข้อมู ล
1. จุดมุ่งหมายของการเก็บข้อมู ล
Miller (2000a) แนะนาว่าก่อนทาการเก็บข ้อมูลใหต้ ง้ั
่ นต
้ ้นด ้วยตัวอักษรคือ 5-W และ 1-H ดังต่อไปนี ้
คาถามทีขึ
•
Why ทาไมต้องเก็บรวบรวมข้อมู ล
ข ้อมูลสัมพันธ ์กับคาถามวิจยั อย่างไร ข ้อมูลบอกอะไร
่
่ ้ใน
เกียวกั
บวิธก
ี ารทีใช
การเรียนการสอน
• What เราต้องการเก็บข้อมู ลอะไร
เก็บข ้อมูลจากหลายแหล่ง หลายวิธ ี และหลายช่วงเวลา
่
• Where เราจะเก็บข้อมู ลจากทีไหน
้
กลุม
่ ตัวอย่างคือใคร นักเรียนชันไหน
วิชาใด
19
การเก็บรวบรวมข้อมู ล
1. จุดมุ่งหมายของการเก็บข้อมู ล (ต่อ)
Miller (2000a) แนะนาว่าก่อนทาการเก็บข ้อมูลใหต้ ง้ั
่ นต
้ ้นด ้วยตัวอักษรคือ 5-W และ 1-H ดังต่อไปนี ้
คาถามทีขึ
•
•
•
่
When เราจะเก็บข้อมู ลเมือไหร่
และนานแค่ไหน
ต ้องการข ้อมูลเท่าใด ช่วงเวลาการเก็บเป็ นอย่างไร
Who ใครเป็ นคนเก็บข ้อมูล
่
เก็บเองหรือให ้เพือนครู
ชว่ ยเก็บ
How จะรวบรวมและวิเคราะห ์ข้อมู ลอย่างไร และจะ
เผยแพร่ผลการวิจยั อย่างไร
่
กาหนดตารางเวลาทางาน จะเก็บข ้อมูลทีไหน
อย่างไร กาหนด
เกณฑ ์การตัดสินผลการวิเคราะห ์ข ้อมูล ระบบการเก็บข ้อมูล การ
นาเสนอผล และเผยแพร่ผลการวิจยั อย่างไร
20
การเก็บรวบรวมข้อมู ล (ต่อ)
2. แหล่งข้อมู ล
่ ้ในการวิจยั ปฏิบต
้ั ยนไว ้
ข ้อมูลทีใช
ั ก
ิ ารในชนเรี
หลายประการ ดังตัวอย่างต่อไปนี ้
2.1 ข ้อมูลจากนักเรียน
2.2 ข ้อมูลจากผูป้ กครอง
่
2.3 ข ้อมูลจากเพือนครู
2.4 ข ้อมูลจากตนเอง
21
การเก็บรวบรวมข้อมู ล (ต่อ)
่
่ ในการเก็บรวบรวมข้อมู ล
3. เครืองมื
อทีใช้
3.1 แบบทดสอบ
3.2 แบบสอบถาม / การสารวจ
3.3 การสัมภาษณ์
3.4 การสังเกต
3.5 การบันทึกเหตุการณ์ / การบันทึกภาคสนาม
3.6 การบันทึกภาพถ่าย เสียง
3.7 การศึกษาเอกสารและการวิเคราะห ์
3.8 สังคมมิต ิ
22
การวิเคราะห ์ข้อมู ล
1. ลักษณะของข้อมู ล
1.1 ข้อมู ลเชิงปริมาณ
1.2 ข้อมู ลเชิงคุณภาพ
2. แนวทางการวิเคราะห ์ข้อมู ล
2.1 การวิเคราะห ์ข้อมู ลเชิงปริมาณ ส่วนใหญ่มี
การแจกแจงเป็ นความถี่ ร ้อยละ ค่าเฉลีย่
สหสัมพันธ ์ การเปรียบเทียบความแตกต่าง เป็ นต ้น
2.2 การวิเคราะห ์ข้อมู ลเชิงคุณภาพ ส่วนใหญ่
้
ใช ้การวิเคราะห ์เนื อหาเป็
นหลัก
23
การแปลความหมายผลการ
วิเคราะห ์ข้อมู ล
้
ผลที่ได จ้ ากขันของการวิ
เ คราะห ข
์ อ้ มู ล ท าให ้
่
ทราบว่าคาตอบของคาถามวิจยั คืออะไร แต่สงที
ิ่ จะมี
ประโยชน์มากกว่านั้น คือ การแปลความหมายว่าสิง่
่ ดขึนนั
้ ้น เกิดขึนได
้ ้อย่างไร ทาไมจึงเป็ นเช่นนั้น
ทีเกิ
้
ขันของความพยายามหาความหมายจะได
ผ
้ ลมาก
่
่
หากใหเ้ พือนร่
วมงานหรือผูม้ ส
ี ่วนเกียวข
้องได ้ช่วยกัน
อภิปราย
24
การสะท้อนผลกลับ
การสะท อ้ นผลกลับ สามารถท าได ้ 4 ระดับ
ดังนี ้
่ ดขึน้
1. ระดับการบรรยายสภาพทีเกิ
2. ระดับการประเมินข ้อค ้นพบ
3. ระดับการอธิบายข ้อค ้นพบ
่ ค
่ ้นพบ
4. ระดับการประยุกต ์ใช ้สิงที
25
การสรุปผลการวิจ ัย
ส่วนประกอบสุดท้ายของการวิจ ัย มี
รายละเอียดด ังนี ้
• สรุปผลการวิจยั ผูว้ จิ ยั ควรเขียนสรุปตาม
วัตถุประสงค ์ของการวิจยั และควรพิจารณาว่า
สามารถตอบคาถามการวิจยั ได ้หรือไม่
• การอภิปรายผล นาผลการวิจยั และข ้อค ้นพบ
่ มว่าสามารถตอบ
มาเขียนอภิปรายเพิมเติ
่ งไว
้ ้ได ้หรือไม่ อย่างไร และ
คาถามการวิจยั ทีตั
หากไม่สามารถตอบคาถามได ้ ควรอภิปรายว่า
เนื่ องมาจากสาเหตุใด
่ าผลการวิจยั
• ข ้อเสนอแนะ เป็ นการเขียนเพือน
26
การเขียนรายงาน
้ั
ผลการวิจย
ั ในชน
เรียน
27
การเขียนรายงานผลการวิจย
ั ใน
้ั ยน
ชนเรี
รู ปแบบการนาเสนอรายงานผลการวิจย
ั
มี 2 แบบ ดังนี ้
• แบบเป็ นทางการ
• แบบไม่เป็ นทางการ
28
รู ปแบบการรายงานผลการวิจย
ั
แบบไม่เป็ นทางการ
้
• มีเนื อหาสาระเหมื
อนรายงานผลการวิจ ัย
เชิงวิชาการ
้ ๆ
• นาเสนออย่างสัน
• ไม่ยด
ึ รู ปแบบตายตัว
่ ศึ
่ กษา
• แต่มส
ี าระครบถ้วน ทาให้เข้าใจสิงที
่ ค้
่ นพบ
และสิงที
29
รู ปแบบการรายงานผลการวิจย
ั
แบบเป็ นทางการ
้
่ าเสนอมี
โครงสร ้างของเนื อหาสาระที
น
รู ปแบบตายตัว มีหวั ข้อสาค ัญ
่ อง
่ นมาและความสาค ัญของปั ญหา
้ อเรื
1.
ด ังต่อไปนี
2. ชื
ความเป็
วิจ ัย
3. คาถามวิจ ัย
4. วัตถุประสงค ์ของการวิจ ัย
30
รู ปแบบการรายงานผลการวิจย
ั
แบบเป็ นทางการ(ต่อ)
5. ประโยชน์ทได้
ี่ ร ับจากการวิจ ัย
6. ตัวแปรในการวิจ ัย
7. วิธก
ี ารวิจ ัย
8. กลุ่มตัวอย่าง
่
่ ในการวิจ ัย
9. เครืองมื
อทีใช้
10. การเก็บรวบรวมข้อมู ล
11. การวิเคราะห ์ข้อมู ล
12. ผลการวิจ ัย
31
่ อง
่
1. ชือเรื
่ องมี
่
ส่วนประกอบของชือเรื
3 ส่วน คือ
(1) จุดมุ่งหมายของการวิจย
ั
(2) ตัวแปรในการวิจย
ั
่ ในการวิจย
(3) กลุ่มเป้ าหมายทีใช้
ั
32
ตัวอย่าง
การเปรียบเทียบความสนใจในการฟั งนิ ทานของ
้ั
นักเรียนชนประถมศึ
กษา
ปี ที่ 1 ระหว่างการใช้วธ
ิ ก
ี ารอ่านและวิธก
ี ารเล่าให้
ฟั งโดยครู
การเปรียบเทียบ (จุดมุ่งหมายของการวิจ ัย)
ความสนใจในการฟั งนิ ทาน (ตัวแปรในการวิจ ัย)
้ั
ของนักเรียนชนประถมศึ
กษาปี ที่ 1
(กลุ่มเป้ าหมาย)
33
ระหว่างการใช้วธ
ิ ก
ี ารอ่านและวิธก
ี ารเล่าให้ฟังโดย
2. ความเป็ นมาและความสาคัญ
ของปั ญหาวิจ ัย
่ งประสงค ์
1. หลักการและเหตุผล หรือสภาพทีพึ
่ นอยู ่ในปั จจุบน
2. สภาพทีเป็
ั
3. ความแตกต่างของ ข้อ 1 กับ ข้อ
่
่ ดขึนใน
้
4. ปั ญหาทีตามมาจากความแตกต่
างทีเกิ
ข้อ 3
5 . ป ร ะ เ ด็ น ที่ ต้ อ ง ก า ร ท า ก า ร วิ จ ัย เ พื่ อใ ห้ ไ ด้
แนวทางในการแก้ปัญหาในข้อ 4
6. ประโยชน์ท ี่ คิ ด ว่ า จะได้ร บ
ั หลัง จากได้แ นว
34
3. คาถาม
วิจ ัย
่ นประโยคคาถาม
1. ใช้ขอ
้ ความทีเป็
2. ประกอบด้วยตัวแปรในการวิจ ัย และ
่ องการศึกษา
กลุ่มเป้ าหมายทีต้
่ ดขึน
้
3. สอดคล้องกับสภาพปั ญหาทีเกิ
ตัวอย่าง
นักเรียนมีความสนใจในวิธก
ี ารเล่านิ ทานแบบใด
มากกว่ากันระหว่าง
วิธก
ี ารเล่าให้ฟังและวิธก
ี ารอ่านให้ฟัง
35
4. วัตถุประสงค ์ของการ
วิจ ัย
่ องการทา
1. ระบุกจ
ิ กรรมหรืองานทีต้
่ ต้
่ องการจะให้เกิดหรือ
2. อย่าเขียนสิงที
่ เป็
่ นประโยชน์ของการวิจ ัย
สิงที
3 . นิ ย ม เ ขี ย นใ น รู ป ป ร ะ โ ย ค บ อ ก เ ล่ า
มากกว่าประโยคคาถาม
36
ตัวอย่าง
่ กต้อง
ว ัตถุประสงค ์ของการวิจย
ั ทีถู
่
• เพือเปรี
ยบเทียบความสนใจในการฟั งของ
นักเรียนระหว่าง
วิธก
ี ารเล่าให้ฟัง และวิธก
ี ารอ่านให้ฟังโดย
ครู
่ ถูกต้อง
ว ัตถุประสงค ์ของการวิจย
ั ทีไม่
่ าให้นก
• เพือท
ั เรียนมีทก
ั ษะในการฟั งนิ ทาน
้
สู งขึน
37
5. ประโยชน์ทได้
ี่ ร ับจากการ
วิจ ัย
1.ควรเขียนเป็ นข ้อ ๆ เรียงลาดับความสาคัญ
2.เขีย นให ส้ อดคล อ้ งกับ วัต ถุป ระสงค ์ เมื่อได ผ
้ ล
แล ้วจะนาไปใช ้อย่างไร
3.ระบุ ว่ า การได ท
้ ราบข อ
้ เท็ จจริง หรือ ข อ
้ มู ล
สารสนเทศนั้นจะเกิดประโยชน์อะไรบ ้าง
38
ตัวอย่างทีถู่ กต้อง
้ าให ้ได ้ข ้อมูลทีช่
่ วยให ้ครูได ้ค ้นพบ
การวิจยั นี ท
วิธก
ี ารเล่านิ ทาน
่
ทีเหมาะสมกั
บนักเรียน ข ้อค ้นพบดังกล่าวจะเป็ น
ประโยชน์ตอ
่ การพัฒนาทักษะการฟังของ
นักเรียนให ้ก ้าวหน้าขึน้
่ ถูกต้อง
ตัวอย่างทีไม่
้ าให ้รู ้ว่าวิธก
การวิจยั นี ท
ี ารเล่านิ ทานแบบใดดีกว่า
กัน (แค่รู ้อย่างเดียวยังมีประโยชน์ไม่พอ ต ้อง
้
ขยายต่อว่าความรู ้นี จะเกิ
ดประโยชน์อะไรบ ้าง)
39
6. ตัวแปรในการวิจ ัย
่ ผู
่ ว้ จ
ตัว แปรในการวิจ ย
ั คือ สิงที
ิ ย
ั สนใจ
จะศึกษา
่
ซึงสามารถแปร
ค่าได้มากกว่า 1 ค่า
หรือ มากกว่ า 1
คุณลักษณะ
40
ตัวอย่าง
วิธก
ี ารเล่านิ ทาน เป็ นตัวแปร 1 ตัว โดยแปรค่า
ได ้เป็ น 2 ค่า คือ
(1) วิธเี ล่าให ้ฟัง และ (2) วิธอี า่ นให ้ฟัง
การให้แรงเสริม เป็ นตัวแปร 1 ตัวแปร โดยแปร
ค่าได ้ 2 ค่า คือ
(1) การให ้แรงเสริมทางบวก และ (2) การให ้แรง
เสริมทางลบ
์
ผลสัมฤทธิทางการเรี
ยน เป็ นตัวแปร 1 ตัว
41
7. วิธก
ี ารวิจย
ั
ระบุแผนแบบการวิจย
ั
» การวิจย
ั เชิงทดลอง
่
» การวิจย
ั เชิงกึงทดลอง
» การวิจย
ั เชิงสารวจ
» การวิจย
ั รายกรณี
» ฯลฯ
42
8. กลุ่ม
ตัวอย่าง
้ั
ส่วนใหญ่เป็ นนักเรียนในชน
่ าวิจย
เรียนทีท
ั
43
่
่ ใน
9. เครืองมื
อทีใช้
การวิจ ัย
่ ในการเก็บข้อมู ลที่
ระบุสงที
ิ่ ใช้
ต้องการ ได้แก่
» แบบทดสอบ
» แบบสอบถาม
» แบบสัมภาษณ์
» แบบสังเกต
» ฯลฯ
44
10. การเก็บรวบรวม
ข้อมู ล
ว่า
่ ในการเก็บข้อมู ล
ระบุวธ
ิ ก
ี ารทีใช้
» เก็บในช่วงใด
» ใครเป็ นคนเก็บ
» เก็บอย่างไร
» ใช้เวลานานเท่าใด
45
11. การวิเคราะห ์ข้อมู ล
่ ในการวิเคราะห ์
• ระบุวธ
ิ ก
ี ารทีใช้
ข้อมู ลให้เห็นภาพรวม
ข้อ มู ล เชิง คุ ณ ภาพ ใช ้การวิเ คราะห ์
้
เนื อหา
ข้อมู ลเชิงปริมาณ ใช ้ความถี่ ร ้อยละ
46
12. ผลการวิจ ัย
• กล่าวถึงผลการศึกษาค้นคว้า
• อาจแสดงด้วยตาราง แผนภู ม ิ กราฟ
่ วยให้เข้าใจดีขน
เพือช่
ึ้
่ ตาม
• ควรนาเสนอตามลาดับเรือง
วัตถุประสงค ์ของการวิจย
ั
• ตอบตามวัตถุประสงค ์ของการวิจย
ั ทุก
47
จบการ
นาเสนอ
48