ประวัติความเป็นมาของ

Download Report

Transcript ประวัติความเป็นมาของ

วิถีชุมชนวัด
Basic Ecclesial Community
ประวัตคิ วามเป็ นมา
เริ่มพูดถึงที่อเมริกาใต้ ภายใต้ คาว่ า เทวศาสตร์ แห่ งการ
ปลดปล่ อย เป็ นการตรึกตรองเทวศาสตร์ ในมิตขิ องสังคมและการเมือง
ภายหลังหลายกลุ่มพัฒนาเป็ นองค์ กรอิสระ โดยไม่ ขนึ ้ กับพระศาสนจักร
ท้ องถิ่น
ต่ อมาที่อัฟริกา มีการตรึกตรองเช่ นกัน โดยมีกระบวนการ
Lumgo
ในเอเชียที่อินโดนีเซีย เมือง Bundung 1990 มีการใช้ คาว่ า
The new way of being Church และมีการออกแบบหลักสูตร
เรียกว่ า AsIPA
2. เกิดอะไรขึน้ ที่บันดุง
BEC (Basic Ecclesial community)
The New Way of Being Church
the new way of being Church ถูกใช้ เป็ นครัง้ แรก ที่
Bundung Indonesiaเอกสารจากที่บันดุงพูดถึงเรื่องต่ อไปนี ้
• แนะนาให้ กลับไปใช้ จติ ตารมณ์ กลุ่มคริสตชนยุคแรกๆ
• การถูกเรียกมาสู่การประกาศพระวรสาร ในรูปแบบใหม่
• การสมานฉันท์ กับพี่น้องต่ างความเชื่อ ต่ างศาสนา ในรูปแบบใหม่
• การมีความรับผิดชอบต่ อสังคมส่ วนรวม
2. เกิดอะไรขึน้ ที่บันดุง
BEC (Basic Ecclesial community)
The New Way of Being Church
• การเอาใจใส่ คนยากจน
• the new movement มี พระวรสารเป็ นศูนย์ กลางของชีวิต
• the new way of being Church คือ การชุมนุมกันเป็ นสังคม
ที่มีรากฐานอยู่ท่ พ
ี ระคัมภีร์
• ตัง้ กลุ่มวิถีชุมชนวัดโดยใช้ กระบวนการAsIPA เพื่อสร้ าง Bec เพื่อ
พัฒนาพระศาสนจักรในทุกระดับ ทัง้ สภาภิบาล
3. เป้ าหมายของพระศาสนจักร
• The new way of being Church การเป็ นพระศาสน
จักรในรูปแบบใหม่ คือ
• การที่คริสตชนทุกคนมีส่วนร่ วมรับผิดชอบในงานพระศาสนจักร
• เพื่อที่จะเป็ น พระศาสนจักรรูปแบบใหม่ พระศาสนจักรแนะนา
ให้ ฟื้นฟูคริสตชนเป็ นกลุ่มย่ อย วิถีชุมชนวัดBec, Scc
• ในแต่ ละกลุ่มย่ อย ใช้ กระบวนการ AsIPA เป็ นเครื่องมือฝึ กฝน
อบรม หล่ อเลีย้ งลุ่มย่ อยด้ วยพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธ์
• AsIPA เป็ นหลักสูตรที่ประกอบด้ วยหนังสือ 4 ภาค ซึ่งหนึ่งใน
วิธีการที่มีช่ อื เสียงที่สุดคือการแบ่ งปั นพระวาจา 7 ขัน้ ตอน
4. AsIPA ย่ อมาจากอะไร
As = Asian โปรมแกรมนีไ้ ด้ รับการออกแบบในแวด
วงของชาวเอเชีย
I = Integral เป็ นการรวบรวมสรรพความรู้ มา
ร่ วมกัน
P = Pastoral เป็ นแง่ มุมเกี่ยวกับงานอภิบาล
A = Approach
เป็ นวิธีการที่เป็ นกระบวนการ
5. ใครเป็ นผู้สนับสนุน AsIPA
FABC
The Federation of Asian Bishops Conference
The Office of Laity
AsIPA desk
6. New way and Old way
• คาว่ า new และ old ไม่ ได้ มีอคติว่าสิ่งที่ผ่านมาไม่ ถกู ต้ องสู้แบบใหม่ ไม่ ได้
แต่ มองในแง่ ความเหมาะสมกับสถานการณ์
• ความจาเป็ นในประวัตศิ าสตร์ ทาให้ พระศาสนจักรสอนให้ ระวังคนที่มคี วาม
เชื่อแตกต่ าง เพราะจะทาให้ พระศาสนจักรแตกแยก จึงเน้ นเอกสิทธิ์ของ
พระศาสนจักร ฐานานุกรม
• ทาให้ พระสงฆ์ ฆราวาสอยู่คนละชัน้ ในพระศาสนจักร
• New way มาจากพระสังคยานาวาติกันที่ 2 เน้ นการกลับไปสู่ชีวติ คริสต
ชนยุคแรกๆ ที่ทุกคนมีสานึกถึง ความเป็ นพี่น้องกัน และการมีส่วนร่ วม
อย่ างจริงจังในพระศาสนจักร
• เราถูกเรียกร้ องให้ แสดงความรักต่ อเพื่อนพี่น้อง โดยเฉพาะบรรดาคนยากจน
• การเจริญชีวติ ไม่ ใช่ เพียงเมื่อมีโอกาสที่จะทาความดี แต่ เป็ นการเจริญ
ชีวติ ประจาวันของเราตามพระวรสาร
6. New way and Old way
• การยอมรั บความเท่ าเทียมกันในศักดิ์ศรี ของสงฆ์ ท่ ที ุกคนมี ทัง้ ฆราวาส
เอง และพระสงฆ์ ต่ างต้ องการการตระหนักถึงบทบาทของตนใหม่
• การยอมรั บผู้ท่ นี ับถือศาสนาอื่นๆ
• เราจึงได้ รับการเชือ้ เชิญให้ เข้ าใจพิธีกรรมอย่ างลึกซึง้ เป็ นต้ นในวัน
ฉลองพระเจ้ า
7. วิถชี ุมชนวัด จาเป็ นต้ องชุมนุมกันในละแวกบ้ าน
• BEC เป็ นเซลล์ ย่อย เป็ นวัดย่ อย ของวัดของเรา
• เป็ นพระศาสนจักรที่กาลังทาพันธกิจของตนในละแวกบ้ านของเรา
• การรวมกลุ่มละแวกบ้ านจึงเป็ นการปรากฏอย่ างแท้ จริงของพระศาสนจักร
เพราะเราจะรู้ ปัญหาของละแวกบ้ านของเรา เป็ นหู เป็ นตา เป็ นเท้ า ฯ ของวัด
อย่ างแท้ จริง
• พระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่ วมเป็ นจริงเมื่อชุมนุมกันในละแวกบ้ าน
• การชุมนุมกันละแวกบ้ านจึงไม่ ใช่ กลุ่มศรั ทธา กลุ่มองค์ กรพิเศษ แต่ เป็ นวัด
ย่ อยของวัดของเรา
• การชุมนุมกันละแวกบ้ านเป็ นประจา จะมีอทิ ธิพลต่ อชีวติ ประจาวันของเรา
• ผู้รับศีลล้ างบาปทุกคนเป็ นสมาชิกของ BEC เหมือนเด็กที่เกิดมาใน
ครอบครั ว เราผูกพันกันร่ วมสุข ร่ วมทุกข์ รับผิดชอบทุกอย่ างในชุมชน
8. ความสั มพันธ์ กนั ระหว่ าง Bec กับสภาภิบาลวัด
• พระศาสนจักรพบความยากลาบากในการให้ คาสอนที่ถูกต้ อง ลึกซึง้ กับ
บรรดาสัตบุรุษ เป็ นต้ นเรื่ องเกี่ยวกับหน้ าที่ของตนซึ่งเป็ นผู้รับศีลล้ างบาป
• สภาภิบาลจึงเป็ นผู้มีบทบาทสาคัญในการให้ คาแนะนาถึงบทบาทหน้ าที่ของ
คริสตชน โดยอาศัยการชุมนุมกันใน BEC นี่เอง
• สภาภิบาลช่ วยให้ สมาชิกในชุมชนรั บใช้ กันและกัน และสร้ างสานึกเรื่ อง
พระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่ วม ไม่ ใช่ แค่ เพียงสมาชิกสภาภิบาลเพียงกลุ่ม
เดียวเท่ านัน้
• ที่สุดสภาภิบาลมาจากผู้นากลุ่ม Becs ต่ างๆ เขารู้ และเป็ นตัวแทนกลุ่ม
ละแวกบ้ านที่เขาเป็ นสมาชิกอยู่
• ดังนีเ้ องสภาภิบาลจึงเป็ นการแสดงออกถึงพระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่ วม
อย่ างเด่ นชัดที่สุด
9. ความสาคัญของ Bec และกลุ่มอืน่ ๆ
• ในอดีต เมื่อคริสตชนคนหนึ่งอยากจะช่ วยงานวัด ก็จะสมัครเข้ าเป็ นสมาชิก
องค์ กรหนึ่งในวัด
• องค์ กรต่ างๆ ในวัดมีจติ ตารมณ์ เฉพาะตามแต่ ผ้ ูก่อตัง้ กาหนด เป็ นกระแสเรี ยก
พิเศษที่ช่วยทาให้ วัดทางานได้ มีประสิทธิภาพมากขึน้
• โดยพืน้ ฐานคริสตชนทุกคนเป็ นสมาชิก BEC รวมทัง้ ผู้ท่ เี ป็ นสมาชิกในองค์ กร
ต่ างๆ ด้ วย
• คริสตชนบางคนไม่ สามารถเข้ ากลุ่มองค์ กรได้ แต่ เขายังไม่ ถูกตัดขาดจากชุมชน
เนื่องจาก
• แม้ แต่ คนที่รับศีลมหาสนิทไม่ ได้ ด้ วยเหตุใดก็ตามก็เป็ นสมาชิก BEC
• ใน BEC ทุกคนสามารถมีสทิ ธิ์และมีส่วนร่ วมทางานให้ วัดได้
• BEC จึงเป็ นตัวเชื่อมระหว่ างวัด-ครอบครั ว กับชุมชนในวัดนัน้ ๆ
9. ความสาคัญของ Bec และกลุ่มอืน่ ๆ
• ทุกคนที่รับศีลล้ างบาปเป็ นวิถีชุมชนวัด บางคนได้ รับพระพร
พิเศษจึงเข้ าเป็ นสมาชิกองค์ กรพิเศษ
• วิถีชุมชนวัดไม่ ใช่ องค์ กรพิเศษ
• วิถีชุมชนวัดแตกต่ างจากชุมชนเข้ มแข็งของภาครัฐ
• วิถีชุมชนวัดเป็ นจิตวิญญาณของคริสตชนทุกคนทัง้ ฆราวาส
และพระสงฆ์ นักบวช
10. ตัวอย่ างหลักสู ตรอบรมของ AsIPA
หลักสูตรของ AsIPA มีไว้ เพื่อความสะดวกในการฝึ กอบรม
ทัง้ ตัวผู้ให้ การอบรมเอง และแก่ ผ้ ูท่ สี นใจทั่วไป
โดยแยกเป็ นส่ วนๆ ดังต่ อไปนี ้
หลักสูตร
• ก (A) :
การแบ่ งปั นพระวรสาร
• ข (B) : ชุมชนคริสตชนย่ อย
• ค (C) : พระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่ วม
• ง (D) : การฝึ กทีมงานอภิบาลของวัด
11. ลักษณะที่สาคัญของ BEC
1. ทุกคนที่รับศีลล้ างบาปเป็ นสมาชิกของ BEC
2. เป็ นชุมชนที่มีพระคริสตเจ้ า เป็ นศูนย์ กลางในการดาเนิน
ชีวติ ประจาวันผ่ านทางพระวาจา และศีลศักดิ์สิทธิ์
3. เป็ นชุมชนที่มีความเป็ นพี่น้องกัน และทุกคนมีส่วนร่ วม
เท่ าเทียมกันตามหน้ าที่ของตน
4. เป็ นชุมชนที่สัมพันธ์ แนบแน่ นกับวัด
คุณลักษณะ 4 ประกำรของวิถีชุมชนคริ สตชน
BECs สามารถเป็ น
ฐานในชีวติ จริง และ
ตอบสนองร่ วมกันใน
ชีวติ จริงของชุมชน
ละแวกบ้ าน
ประชุมกันใน
ละแวกบ้ำน
ร่ วมทำกิจกรรม
จำกควำมเชื่อ รับ
ใช้ผอู้ ื่น
BECs ไม่ ใช่ เป็ นเพียงกลุ่มกิจกรรม หรือเป็ นกลุ่ม
แบ่ งปันพระคัมภีร์ แต่ ในชุมชนย่ อยนีก้ ารแบ่ งปันพระ
วาจากับการปฏิบัตพิ ระวาจาเป็ นพืน้ ฐานที่สัมพันธ์ อย่ าง
แนบแน่ น สู่ ภาคปฏิบัติ
แบ่งปันพระ
วำจำ
การแบ่ งปันพระวาจาเป็ นเหมือนการ
บิปังและเหล้าองุ่น การแบ่ งปันพระ
วาจาเป็ นพืน้ ฐานและเป็ นการทาให้
ยัง่ ยืน
ผูกพันกับ
พระศำสนจักร
สำกล
ทุกชุ มชนย่ อยเป็ นหนึ่งเดียวกับ
พระศาสนจักรสากล
1. ชุมนุมกันในละแวกบ้ าน
1. เป็ นการชุมนุมของคนที่อยู่ในพืน้ ฐานเดียวกัน มีปัญหา
เฉพาะหน้ า ปั ญหาส่ วนรวมเดียวกัน
2. พวกเขาชุมนุมกันในบ้ านของสมาชิก สับเปลี่ยนกันเพื่อ
ตอกยา้ ความเป็ นเจ้ าของชุมชนซึ่งมีพนื ้ ฐานและศักดิ์ศรี
เท่ าเทียมกัน เป็ น civilization of love
2. การแบ่ งปันพระวาจา
1. พระวาจาของพระเจ้ าเป็ นศูนย์ กลางในการประชุม และ
ดาเนินชีวติ
2. ใช้ วธิ ี 7 steps และวิธีการอื่นๆ ในการแบ่ งปั นพระ
วาจา เช่ น Lectio Divina, Group Response,
Amos Programme
3. โดยการแบ่ งปั นพระวาจา สมาชิกได้ รับการหล่ อเลีย้ งจาก
พระเจ้ า เติบโตฝ่ ายจิต และเข้ าใจบทบาทหน้ าที่ของตน
ในฐานะคริสตชนที่แท้ จริง
3. ร่ วมกันทากิจกรรมจากความเชื่อเพือ่ รับใช้ ผู้อนื่
1. ในขัน้ ที่ 6 ของการแบ่ งปั นพระวาจา จะมีคาถามว่ า “เรา
จะทากิจกรรมอะไรในสัปดาห์ นี”้
2. เป็ นการนาพระวาจาของพระมาปฏิบัติ ในฐานะที่เราเป็ น
สมาชิกในวัด ในละแวกบ้ านที่เราอยู่
3. เป็ นกิจการที่เราร่ วมงานกับพระในการเปลี่ยนแปลง
สังคมที่เราอยู่ให้ เป็ นพระอาณาจักรของพระเจ้ า
4. สั มพันธ์ กบั พระศาสนจักรเสมอ
1. ผ่ านทางบูชามิสซา และพระวาจา ชุมชนย่ อย ต่ างก็สัมพันธ์ กัน
โดยเฉพาะในวัดของตน จึงเป็ น Communion of
communities
2. เป็ นสายสัมพันธ์ ทมี ่ ันคงระหว่ าง ชุมชนวัด และพระศาสนจักร
สากล ที่มีความเชื่อเดียวกัน รับศีลล้ างบาปเดียวกัน
3. ไม่ สามารถตัดขาดจากทางวัด ชุมชนพืน้ ฐานของตน
คุณลักษณะ 4 ประกำรของวิถีชุมชนคริ สตชน
BECs สามารถเป็ น
ฐานในชีวติ จริง และ
ตอบสนองร่ วมกันใน
ชีวติ จริงของชุมชน
ละแวกบ้ าน
ประชุมกันใน
ละแวกบ้ำน
แบ่งปันพระ
วำจำ
ร่ วมทำกิจกรรม
จำกควำมเชื่อ รับ
ใช้ผอู้ ื่น
ผูกพันกับ
พระศำสนจักร
สำกล
BECs ไม่ ใช่ เป็ นเพียงกลุ่มกิจกรรม หรือเป็ นกลุ่ม
แบ่ งปันพระคัมภีร์ แต่ ในชุมชนย่ อยนีก้ ารแบ่ งปันพระ
วาจากับการปฏิบัตพิ ระวาจาเป็ นพืน้ ฐานที่สัมพันธ์ อย่ าง
แนบแน่ น
การแบ่ งปันพระวาจาเป็ นเหมือนการ
บิปังและเหล้าองุ่น การแบ่ งปันพระ
วาจาเป็ นพืน้ ฐานและเป็ นการทาให้
ยัง่ ยืน
ทุกชุ มชนย่ อยเป็ นหนึ่งเดียวกับ
พระศาสนจักรสากล
ตอกยำ้ เรื่ องกำรเป็ นชุมชนทีท่ ุกคนมีส่วนร่ วมในทุกระดับ
ของพระศำสนจักร
• Synod of Bishops was instituted. พระสันตะปำปำ
• Participatory structures in the Church. นครวำติกนั
from universal Church to the local church
• From triumphant Church to Pilgrim Church
• From One catholic Church to Many Christian
Churches. คริ สตศำสนสัมพันธ์
• From one and the Only True Religious to Plurality
of Religions. ศำสนสัมพันธ์
•
ขอขอบคุณทุกท่ านทีศ่ ึกษาเรียนรู้ร่วมกัน
•
ติดต่ อสอบถาม ให้ คาแนะนาที่ www.thaibec.com
•
หรือ คพ.ปิ ยะชาติ มะกรครรภ์ [email protected]