Transcript PPT

“Au in the Next Decade (2009-2019) :
From Commitment to Sustainability ;
From Understanding to Action”
Au ในทศวรรษหน้ า
จาก ความผูกพัน สู่ ความยั่งยืน
จาก ความเข้าใจ สู่ การปฎิบัติ
กรอบความคิด
1.ทาไมต้ องมี “Commitment” (ความผูกพัน)
- สังคม/สิ่งแวดล้ อม – เปลี่ยนแปลง
- องค์การ/คน – ต้ องเปลี่ยน
- Talcotts Parsons/Jack Welch
2.ความสาคัญของ “ความผูกพัน”
3.ความหมาย
4.องค์ประกอบ/ปัจจัยของ “ความผูกพัน”
5.วิธกี ารสร้ างและพัฒนา “ความผูกพัน”
6.ทาอย่างไรจึงจะบรรลุถงึ ซึ่ง “ความผูกพัน”
ความสาคัญของความผูกพันต่อองค์การ
1. การขาดงาน
2. การตรงต่อเวลา และเพิ่มความสามารถในการทางาน
3. การเปลี่ยนงาน การลาออก (Turn over)
4. ลดการควบคุมจากภายนอก
5. ความรู้สึกเป็ นเจ้าของ (Sense of Belonging)
งานมีความน่ าสนใจและท้าทาย
6. ความมีประสิทธิภาพขององค์การ และพัฒนาผลผลิต
7. อยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์การสูง
8. ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอยู่กบั องค์การตลอดไป
9. ต้องการทาให้องค์การบรรลุเป้ าหมายที่กาหนดไว้
ทัง้ ในประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้านต้นทุน ผลกาไร
และชื่อเสียงเกียรติยศ
10. บุคลากรมีความสุขในการทางาน และทุ่มเทให้กบั งาน
และองค์การเป็ นพิเศษด้วยความเต็มใจ
โดยไม่คานึ งถึงเวลา และกรอบภาระหน้ าที่
11. บุคลากรช่วยเหลือเกือ้ กูลกันและร่วมกันแก้ปัญหา เป็ น
อันหนึ่ งอันเดียวกัน
12. บุคลากรมีความเครียดน้ อย ถึงแม้ว่าจะต้องทางานหนัก
เป็ นระยะเวลาที่ต่อเนื่ องยาวนาน
13. บุคลากรไม่มีอารมณ์ ฉุนเฉี ยว ท้อแท้ และเจ้าอารมณ์
14. เพิ่มศักยภาพความสามารถในการแข่งขัน
มีความรับผิดชอบสูง
15. งานสาเร็จ คนสาราญ ครอบครัวเป็ นสุข
ความหมาย: ความผูกพัน (Commitment)
1. Kantar (1968) : ความเต็มใจของสมาชิกทีย่ ิ นดี
จะทุ่มเทพลัง และยอมเสียสละในการทางาน
ให้แก่องค์การ อันเกิดจากการทีพ่ นักงานรับรูถ้ งึ
ความเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกันกับองค์การ มีความ
จงรักภักดีต่อองค์การ
2. Buchanan (1974): ความรู้สึกว่าเป็ นพวกเดียวกัน
เป็ นความผูกพันที่มีต่อเป้ าหมาย และค่านิยมขององค์การ
ซึง่ ประกอบด้วยลักษณะสาคัญ 3 ประการ คือ
(1) ความแนบแน่นเป็ นอันหนึ่ งอันเดียวกันกับองค์การ
(Identification) โดยเต็มใจทีปฏิบตั งิ าน ยอมรับค่านิยม
วัตถุประสงค์ขององค์การ และถือเสมือนว่าเป็ นของตน
(2) การเข้ามีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในองค์การ (Involvement)
โดยเข้าไปมีสว่ นร่วมในกิจกรรมขององค์การตามบทบาท
หน้าทีข่ องตนเองอย่างเต็มที่
(3) การมีความจงรักภักดี (Loyalty) ต่อองค์การอย่างจริงจัง
ชัดเจน
3. Mitchell and Larson (1974): เจตคติทบ่ี ุคลากรคนหนึ่ง
มีต่อองค์การ ต้องการทีจ่ ะมีสว่ นร่วมในองค์การตลอดไป
มีความรู้สึกว่าตนเองเป็ นส่วนหนึ่ งขององค์การ จึงแสดง
พฤติก รรมการเป็ นเจ้ า ขององค์ก ารนั ้น ความผูก พัน นี้
สามารถทานายพฤติก รรมในอนาคตที่บุ ค คลจะปฏิบ ตั ิต่ อ
องค์การ รวมถึงสามารถทานายการเปลีย่ นงานของลูกจ้างได้
4. Steers (1977): เป็ นความสัมพันธ์อย่างแรงกล้าในการเป็ น
สมาชิก และการมีสว่ นร่วมในองค์การ อย่างสาคัญ 3 ประการ
คือ
(1) มีความผูกพันอย่างแนบแน่ นกับองค์การทีต่ นเองทางานอยู่
(2) มีความเชือ่ อย่างแรงกล้าทีจ่ ะยอมรับเป้ าหมาย
และค่านิยมขององค์การ
(3) มีความเต็มใจทีจ่ ะทุ่มเทความพยายามอย่างถึงที่สดุ
เพือ่ ทาประโยชน์ให้กบั องค์การและปรารถนาอย่างแรงกล้า
ทีจ่ ะรักษาไว้ซง่ึ การเป็ นสมาชิกขององค์การ
5. O’Reilly (1981): ความเชื่อของคนที่ผกู พันกับองค์การ
ความรู้สึกผูกพันกับงาน ความจงรักภักดี และความเชื่อใน
ค่านิยมขององค์การ ซึง่ ประกอบด้วยการกระทา 3 ประการดังนี้
(1) การยินยอมทาตาม (Compliance) ความต้องการของ
องค์การบางอย่างตอบแทนจากองค์การ เช่น ค่าจ้าง
(2) การยึดมันในองค์
่
การ (Identification) คือ การทีบ่ ุคลากร
ยอมทาตามความต้องการขององค์การ และความรูส้ กึ ภูมใิ จ
ทีไ่ ด้เป็ นส่วนหนึ่งขององค์การ
(3) การซึมซับค่านิยมขององค์การ (Internalization) คือ
การทีบ่ ุคลากรรับเอาค่านิยมขององค์การมาเป็ นค่านิยมของ
ตนเอง
6. Mowday et al. (1982): การแสดงออกทีม่ ากกว่าความ
จงรักภักดีตามปกติ ความผูกพันเป็ นความสัมพันธ์ทเ่ี หนียว
แน่น และผลักดันให้บุคลากรเต็มใจทีจ่ ะอุทศิ ตัว เพื่อการ
สร้างสรรค์ให้องค์การอยูใ่ นสภาพทีด่ ขี น้ึ ความผูกพันต่อ
องค์การเป็ นความรู้สึกที่ดีของบุคลากรที่มีต่อองค์การ
อย่างเหนี ยวแน่ น และแสดงออกมาในรูปของการปฏิบตั ิ
ตนให้เกิดประโยชน์ สงู สุดแก่องค์การ
และสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การเสมอ
สรุป “ความผูกพัน” หมายถึง ลักษณะความสัมพันธ์ของบุคคล
ทีม่ ตี ่อองค์การ ทีแ่ สดงออกในลักษณะสาคัญ 3 ประการ คือ
(1) ความเชือ่ มันอย่
่ างแรงกล้าในองค์การด้วยการ
ยอมรับเป้าหมาย และค่านิยมขององค์การ
(2) ความเต็มใจทีพ่ ร้อมจะทุม่ เทความพยายามอย่างถึงทีส่ ดุ
เพือ่ องค์การ
(3) ความต้องการดารงความเป็ นสมาชิกในองค์การของตน
ตลอดไป
องค์ประกอบของความผูกพันต่อองค์การ
Meyer and Allen (1991) ความผูกพันต่อองค์การมี 3
องค์ประกอบคือ
1. ความผูกพันด้านจิตใจ (Affective Commitment)
ความต้องการเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกันกับองค์การ และมีส่วนร่วมใน
องค์การ รูว้ า่ ตนเองเป็ นส่วนหนึ่งขององค์การ ทางานด้วย
ความเต็มใจ ทุ่มเท และอุทิศตนให้กบั องค์การ
2. ความผูกพันด้านการคงอยู่อย่างต่อเนื่ อง (Continuance
Commitment) ความผูกพันที่ตระหนักดีว่าการเป็ นบุคลากร
ขององค์การจะได้รบั ผลประโยชน์ มากกว่าการที่จะลาออก
จากการเป็ นบุคลากรขององค์การ
3. ความผูกพันด้านบรรทัดฐาน (Normative Commitment)
ความผูกพันอันเกิดจากค่านิยม วัฒนธรรมหรือบรรทัดฐาน
เป็ นความผูกพันทีเ่ กิดจากตาแหน่ง หน้าที่ ความรับผิดชอบ
เพือ่ นร่วมงาน หรือความเป็ นหนี้บุญคุณทีท่ าให้ตอ้ งอยูใ่ นองค์การ
ต่อไป บุคลากรจะแสดงออกถึง ความจงรักภักดีต่อองค์การ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การ
Steers (1977) ได้ศกึ ษาและรวบรวมผลการวิจยั พบว่า
ปจั จัยทีเ่ ป็ นตัวกาหนด หรือมีอทิ ธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การ
มี 3 ปจั จัย คือ
1. ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ
ทางการสมรส ระยะเวลาในการปฏิบตั งิ านในองค์การ
(1) เพศ เพศหญิงมีความรักและผูกพันต่อองค์การมากกว่าเพศชาย
(2) อายุ คนทีม่ อี ายุมากจะมีความผูกพัน ต่อองค์การมากกว่า
คนทีม่ อี ายุน้อย
(3) ระดับการศึกษา คนทีม่ กี ารศึกษาสูงจะมีความผูกพันต่อ
องค์การน้อยกว่าคนทีม่ กี ารศึกษาต่า
(4) สถานภาพสมรส คนทีแ่ ต่งงานแล้วจะมีความผูกพัน
ต่อองค์การมากกว่าคนโสด
(5) ระยะเวลาที่ปฏิบตั ิ งานในองค์การ พบว่าผูท้ ป่ี ฏิบตั งิ าน
ในองค์การนานเท่าใดก็จะยิง่ ผูกพันต่อองค์การมากขึน้
2. ปัจจัยลักษณะงานและองค์การ
(1) ความก้าวหน้าในการทางาน และการประสบความ
สาเร็จในการทางาน
(2) การมีสว่ นร่วมในการบริหารงาน
(3) งานทีม่ โี อกาสปฏิสมั พันธ์กบั ผูอ้ ่นื
(4) ขนาดขององค์การ
3. ปัจจัยประสบการณ์ในการทางาน ประกอบด้วย
(1) ความมันคงและน่
่
าเชือ่ ถือขององค์การ
(2) ความยุตธิ รรมในการพิจารณาความดีความชอบ
(3) ความสัมพันธ์กบั เพือ่ นร่วมงาน
Gubman (1998): ปจั จัยทีก่ ่อให้เกิดความผูกพันต่อองค์การ
มี 7 ประการ คือ
1. การมีค่านิยมร่วม (Shared Values) ของบุคลากร
2. คุณภาพชีวิตในการทางาน (Quality of Work Life)
3. ลักษณะงาน (Job Tasks) ขอบเขตของงานทีม่ คี วามท้าทาย
และน่าสนใจ
4. ความสัมพันธ์ในงาน (Relationship) ระหว่างหัวหน้างาน
เพือ่ นร่วมงาน และผูใ้ ช้บริการ
5. ผลรวมค่าตอบแทน (Total Compensation) ได้แก่ ค่าจ้าง
สวัสดิการ และผลตอบแทนอื่นๆ
6. โอกาสก้าวหน้ าในงาน (Opportunities for Growth)
โอกาส ในการเรียนรู้ พัฒนาให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่ และ
ผลสาเร็จในงาน
7. ภาวะผูน้ า (Leadership) ความเชือ่ มันและนั
่
บถือ ในผูน้ า
ขององค์การ ความผูกพันต่อองค์การ เป็ นเครือ่ งมือทีท่ รงพลัง
อันจะทาให้บุคลากรมีความมุง่ มันในการบรรลุ
่
ถงึ เป้าหมาย และ
ค่านิยมขององค์การ (Mowday et al.,1982)
วิธีการสร้างความผูกพัน
1. สร้างความเป็ นอันหนึ่ งอันเดียวกัน บุคลากรมีคา่ นิยม
ความสามารถ ทักษะ และให้ความสาคัญกับค่านิยมและวัฒนธรรม
ขององค์การ ก็จะทาให้เกิดความผูกพันส่วนบุคคล และความผูกพัน
ต่อองค์การ
2. ทาให้งานมีความน่ าสนใจและท้าทาย งานทีม่ คี วามหลากหลาย
มีอสิ ระในการทางาน และตัดสินใจเองได้ มีวธิ กี าร ขัน้ ตอน
และการควบคุมทีม่ คี ุณภาพ
3. มีความชัดเจนในเป้ าหมาย บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจใน
นโยบาย เป้าหมาย และทิศทางขององค์การอย่างชัดแจ้ง
4. ความยุติธรรมและความเป็ นธรรม องค์การมีระบบการบริหาร
จัดการ และการปฏิบตั ติ ่อบุคลากรอย่างเท่าเทียมและเป็ นธรรม
5. การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่บคุ ลากร การมีระบบการติดต่อสือ่ สาร
ทีด่ มี คี ุณภาพ รวมถึงการแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่บุคลากรอย่างทัวถึ
่ ง
ตลอดเวลา
6. การมอบอานาจการตัดสินใจ เปิดโอกาสให้บุคลากรได้มสี ว่ นร่วม
ในการตัดสินใจ และร่วมรับผิดชอบในการบริหารจัดการ
7. การให้มีอิสรภาพในการทางาน เปิดโอกาสให้บุคลากรมีอสิ รภาพ
ในการกาหนดวิธกี าร ขัน้ ตอน และตารางทางานได้เอง
8. การสนับสนุนอย่างจริงจัง (Supporting) สนับสนุนการสร้างความ
ผูกพันให้เกิดขึน้ ในความคิด และจิตใจ (Minds and Hearts)
ของบุคลากรทุกคนอย่างจริงจัง
9. การพัฒนาระดับความผูกพัน (Improving) ความผูกพันเป็ น
ความตัง้ ใจอย่างมุง่ มันที
่ จ่ ะทาให้ดยี งิ่ ขึน้ (Look of a better) ในทุก
วิถที างตลอดเวลา ดังคากล่าวทีว่ า่ “good is never good enough”
จะฝึ ก / ปลูกฝังความผูกพันในเรื่องอะไร
1. ค่านิยม หลักการ หรือความเชื่อ (Values, Principle or Beliefs):
ความมีเอกภาพ และเป้าหมายหลักขององค์การ
2. ความซื่อสัตย์สจุ ริต และความเชื่อมันในตนเอง
่
(Personal Integrity and Self-Confidence): ซึง่ จะต้องมีการพัฒนา
ตนเองอยูต่ ลอดเวลา (Continual self-improvement)
3. ความผูกพันต่อตนเองต่อหลักการ (Self and Principle):
อันจะทาให้เกิดความผูกพันต่อลูกค้า หรือผูใ้ ช้บริการ ผลลัพธ์
เพือ่ นร่วมงาน และองค์การ
4. ความผูกพันต่อผลลัพธ์ (Results): รูว้ า่ ทาอะไร ทาอย่างไร
งานจึงประสบความสาเร็จ โดยไม่มคี วามเสีย่ ง ความเสียหาย
5. ความผูกพันต่อคนทัวไป
่ (People): การมีจติ สานึกถึงคุณภาพ
ของสินค้าและบริการทีค่ นทัวไปจะพึ
่
งได้รบั จากตน
6. การติดต่อสื่อสาร (Communication): ช่องทางการติดต่อสือ่ สาร
และการติดต่อสือ่ สารทีม่ คี ุณภาพ คือ กุญแจสาคัญของการสร้าง
ความผูกพัน
สรุป
ประเภทของความผูกพัน
1. ความผูกพันส่วนบุคคล (Individual Commitment)
“การมุ่งมั่นพัฒนา/ปรับปรุงตนเอง” (Self-Improvement)
ในด้ านต่างๆ ดังนี้
1.1 ด้ านสุขภาพอนามัย (promote health prevent ill)
1.2 ด้ านคุณธรรม
(1) อิทธิบาท 4: ฉันทะ : ความพึงพอใจ
จิตตะ : ความมุ่งมั่นแน่วแน่
วิริยะ : ความเพียรพยายาม
วิมังสา : ความใคร่ครวญไตร่ตรอง
(2) สังคหวัตถุ 4: ทาน : การให้ การเอื้อเฟื้ อเผื่อแผ่
ปิ ยะวาจา : วาทกรรมเชิงสร้ างสรรค์
อัตถจริยา : ประพฤติปฏิบัติแต่ส่งิ ที่เป็ น
ประโยชน์
สมานัตตา : อ่อนน้ อมถ่อมตน สัมมาคารวะ
(3) ฆราวาสธรรม 4: สัจจะ : ซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน
ทมะ : รู้จักข่ม/หักห้ ามใจตนเอง
ขันติ : อดทน อดกลั้น
จาคะ : แบ่งปัน เจือจานกัน
1.3 ด้ านความรู้
1.4 ด้ านประสบการณ์
1.5 ด้ านทัศนคติ
1.6 ด้ านทักษะ โดยเฉพาะทักษะด้ านการติดต่อสื่อสาร
1.7 ด้ านความรับผิดชอบ /Labor Omnia Vincit
1.8 ด้ านผลงาน – ประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล
2. ความผูกพันของทีมงาน (Team Commitment)
2.1 การทางานเป็ นทีม (Team Spirit) ร่วมมือร่วมใจ
(Collaborative)
2.2 การมีค่านิยมร่วม (Shared Values)
2.3 การให้ ความสาคัญกับทีม (Team comes first,
individual second)
2.4 การสร้ างความสามัคคีในหมู่คณะ(สุขขา สังฆัสสะ สามัคคี)
3. ความมุ่งมั่นต่อองค์การ (Organizational Commitment)
3.1 Labor Omnia Vincit
3.2 Turn Waste to Wealth
3.3 Find ways to Win
3.4 Esprit de Corp
“อุปสรรคในการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าของมนุ ษย์
คือ รูว้ ่าอะไรดี แล้วไม่รีบกระทา
รูว้ ่าอะไรชัว่ แล้วไม่รีบละเว้นกระทา”
ขอให้มีความสุข ความสวัสดี จงประสบแด่
ทุกท่านที่ต้ งั ใจฟัง และตั้งใจนาไปปฏิบตั ิ
โดยทัว่ ถึงกันเทอญ
ความผูกพันต่ อองค์ การด้ านจิตใจ
1. ท่านจะมีความสุ ขมาก ถ้าได้ใช้ชีวติ การทางานที่เหลือ
กับมหาวิทยาลัยที่ท่านทางานอยูข่ ณะนี้
2. ท่านรู ้สึกว่าปั ญหาของมหาวิทยาลัยคือ ปั ญหาของท่านด้วย
3. ท่านรู ้สึกว่าท่านเป็ นส่ วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยนี้
4. ท่านรู ้สึกผูกพันกับมหาวิทยาลัยนี้
5. มหาวิทยาลัยนี้มีความหมายต่อท่านอย่างมาก
6. ท่านรู ้สึกว่าท่านเป็ นเจ้าของมหาวิทยาลัยนี้
ความผูกพันต่ อองค์ การด้ านการคงอยู่อย่างต่ อเนื่องกับองค์ การ
7. ท่านรู ้สึกลาบากใจที่จะลาออกจากมหาวิทยาลัยนี้
แม้วา่ ท่านต้องการที่จะลาออกก็ตาม
8. ท่านจะพบปั ญหามากมายในชีวติ ถ้าท่านตัดสิ นใจลาออก
จากมหาวิทยาลัยในขณะนี้
9. ท่านมีความจาเป็ นและต้องการที่จะทางานในมหาวิทยาลัยนี้ต่อไป
10. ท่านรู ้สึกว่าท่านมีทางเลือกน้อย ที่จะต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยนี้
11. หากท่านลาออกจากมหาวิทยาลัยนี้ ท่านจะหางานใหม่ยาก
12. ถ้าท่านไม่ได้ทางานในมหาวิทยาลัยนี้มาเป็ นระยะเวลานาน
ท่านอาจจะคิดเปลี่ยนงานใหม่
ความผูกพันต่ อองค์ การด้ านบรรทัดฐาน
13. ท่านรู ้สึกว่าเป็ นความรับผิดชอบที่จะต้องทางานอยูก่ บั
มหาวิทยาลัยนี้ต่อไป
14. ท่านรู ้สึกว่าการลาออกจากมหาวิทยาลัยนี้เป็ นสิ่ งที่ไม่ถูกต้อง
แม้ท่านจะได้รับผลประโยชน์มากกว่า
15. ท่านจะรู ้สึกผิดถ้าต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยในขณะนี้
16. ท่านควรจะมีความจงรักภักดีต่อมหาวิทยาลัย
17. ท่านจะไม่ลาออกจากมหาวิทยาลัยในขณะนี้ เพราะท่าน
มีความผูกพันกับผูร้ ่ วมงานทุกคน
18. ท่านเป็ นหนี้บุญคุณต่อมหาวิทยาลัยนี้เป็ นอย่างมาก
1. ท่านเต็มใจที่จะใช้ความรู ้ความสามารถและประสบการณ์
เพื่อให้งานของมหาวิทยาลัยประสบความสาเร็ จ
2. ท่านมักจะบอกแก่เพื่อนฝูงอยูเ่ สมอว่า มหาวิทยาลัยนี้เป็ น
มหาวิทยาลัยที่ดีเยีย่ มมาก
3. ท่านเต็มใจที่จะทางานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย เพื่อท่าน
จะได้ทางานอยูก่ บั มหาวิทยาลัยนี้ตลอดไป
4. ท่านรู ้สึกว่าค่านิยมในการทางานของท่านกับค่านิยมในการ
ทางานของมหาวิทยาลัยมีความเหมือนกัน
5. มหาวิทยาลัยนี้ช่วยกระตุน้ ให้ท่านได้ใช้ความรู ้ความสามารถ
ในการทางานอย่างแท้จริ ง
6. ท่านดีใจเป็ นอย่างมากที่ได้เลือกทางานในมหาวิทยาลัยนี้ และ
เห็นว่ามหาวิทยาลัยนี้เป็ นมหาวิทยาลัยที่ดีกว่ามหาวิทยาลัยอื่น
7. ท่านไม่สามารถทางานกับมหาวิทยาลัยอื่นได้เช่นกัน
หากงานนั้นมีลกั ษณะคล้ายคลึงกัน
8. หากสภาพการทางานของท่านเปลี่ยนไปก็จะไม่เป็ นสาเหตุ
ให้ท่านลาออกจากมหาวิทยาลัยนี้
9. ท่านเห็นด้วยกับนโยบายของมหาวิทยาลัย ในการแก้ปัญหา
ที่สาคัญๆเกี่ยวกับพนักงาน
10. ท่านรู ้สึกภูมิใจที่ท่านเลือกทางานกับมหาวิทยาลัยนี้
ถึงแม้ท่านจะมีโอกาสเลือกที่อื่น
11. ท่านมีความรู ้สึกห่วงใยอย่างยิง่ กับปั ญหาที่เกิดขึ้น
กับมหาวิทยาลัย
12. ท่านรู ้สึกเห็นด้วยกับวิธีการปฏิบตั ิงานของมหาวิทยาลัย
13. ท่านรู ้สึกว่ามหาวิทยาลัยนี้ เป็ นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด
ที่ท่านอยากทางานด้วย
14. การที่ท่านตัดสิ นใจเข้าทางานกับมหาวิทยาลัยนี้นบั เป็ น
การตัดสิ นที่ถูกต้อง
15. ท่านรู ้สึกผูกพันต่อมหาวิทยาลัยนี้