Transcript 2-9
บทที่ 9 การวิจ ัยและพัฒนา ความหมายของการวิจยั และพัฒนา การวิจัยและพัฒนา มาจากคาว่า(research and development) เรียกย่อว่า R and D ซงึ่ หมายถึง ั กระบวนการวิจัย การสร ้างผลิตภัณฑ์ขน ึ้ มาโดยอาศย และดาเนินการประเมินผล ลักษณะการวิจ ัยและพัฒนา 1.เป็ นการวิจัยประยุกต์ ทีม ่ งุ่ นาผลการวิจัยไป ้ ฒนาหรือแก ้ปั ญหา ใชพั 2.เป็ นการวิจัยเชงิ ประจักษ์ มุง่ พิจรณาข ้อมูล เชงิ ประจักษ์เป็ นหลัก ั เจน 3.มีขน ั ้ ตอนการดาเนินงานทีช ่ ด 4.มีการดาเนินงานทีต ่ อ ่ เนือ ่ งกัน 5.มีลักษณะเป็ นการวิจัยเชงิ ทดลอง 6.มีการตรวจสอบประเมินผลผลิตภัณฑ์ เป็ นการวิจัยทีม ่ ก ี ระบวนการและ ื่ มโยงเป็ น ขัน ้ ตอนต่างๆ ทีม ่ ค ี วามเชอ ขัน ้ เป็ นตอนสอดคล ้องกันอย่าง ต่อเนือ ่ ง ซงึ่ แบ่งได ้ 5 ขัน ้ ตอน ได ้แก่ ขัน ้ ตอนที่ 1 การสารวจสภาพ ปั ญหา และความต ้องการ การดาเนินงานในขัน ้ ตอนนี้ สามารถกระทาการวิจัย และอืน ่ ๆ ปั ญหาต่างๆรวมทัง้ สารวจความ ้ ตภัณฑ์ทม ต ้องการในการใชผลิ ี่ อ ี ยู่ ึ ษาจาก นอกจากนีย ้ งั สามารถศก เอกสาร ตาราผลิตภัณฑ์ โดยพิจารณาประเด็นต่างๆดังนี้ 1.สารวจภาพปั ญหาว่ามีลักษณะ ของปั ญหาเป็ นอย่างไร ความ จาเป็ นทีจ ่ ะต ้องดาเนินการ แก ้ปั ญหา รวมทัง้ เครือ ่ งมือทีใ่ ช ้ สาหรับแก ้ปั ญหา 2.สารวจความต ้องการว่าในบริบททีเ่ ป็ นอยูม ่ ี ความต ้องการสงิ่ ใด มีความเร่งด่วนหรือไม่ ึ ษาแนวทางเพือ ศก ่ สนองความต ้องการใช ้ งาน อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ประเภทใดที่ จาเป็ นต ้องใช ้ ึ ษาเอกสาร เป็ นการศก ึ ษาถึงสภาพ 3.การศก ความเป็ นไปในอดีตและปั จจุบันว่ามีการ บันทึกสงิ่ ใดไว ้บ ้าง มีปัญหาหรือความ ต ้องการใด โดยทาการสงั เคราะห์จากเอกสาร หรือองค์กรต่างๆ 4.การสารวจความพร ้องของหน่วยงาน โดย พิจารณาถึงงบประมาณและทรัพยากรทีม ่ อ ี ยู่ ่ ฐานะการคลัง บุคลากร เป็ นต ้น เชน ดาเนินงานในขัน ้ ตอนนี้ ได ้แก่ จุดมุง่ หมายการดาเนินงาน ขอบเขต เนือ ้ หา เทคนิควิธก ี ารและการนาผล การดาเนินงานไปใช ้ 1.จุดมุง่ หมายการดาเนินงาน การดาเนินงานในขัน ้ ตอนนีข ้ น ึ้ อยูก ่ บ ั ข ้อมูลเดิมทีม ่ อ ี ยูม ่ เี พียพอทีจ ่ ะชใี้ ห ้เห็นถึง สภาพปั ญหาทีแ ่ ท ้จริงได ้หรือไม่ ถ ้ามี ข ้อมูลเพียงพอหรือมีความจาเป็ นของ หน่วยงานอยูแ ่ ล ้วก็ไม่มค ี วามจาเป็ น 1.เพือ ่ สารวจสภาพปั ญหาทีแ ่ ท ้จริงอันจะเป็ น ประโยชน์ตอ ่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให ้ ตอบสนองความต ้องการได ้อย่างคุ ้มค่า ้ ตภัณฑ์ ซงึ่ 2.เพือ ่ สารวจความต ้องการใชผลิ ความต ้องการนีม ้ รี ะดับความจาเป็ นแตกต่าง กันแล ้วแต่วา่ องค์กร หน่วยงานนัน ้ มีความ ต ้องการสงิ่ ใดก่อน สงิ่ ใดหลัง 3.เพือ ่ สารวจลักษณะของผลิตภัณฑ์ทต ี่ ้องใช ้ ให ้มีความเหมาะสม คุ ้มค่าและได ้ประโยชน์ แท ้จริง ซงึ่ ขึน ้ อยูก ่ บ ั ประเภทของผลิตภัณฑ์ ่ เครือ ต่างๆ เชน ่ งปรับอากาศยานพาหนะ ื่ การสอนหรืออืน สอ ่ ๆ ผลิตภัณฑ์ ซงึ่ มีข ้อควรพิจารณาได ้แก่ ึ กษารวบรวมข ้อมูลเกีย ศค ่ วกับบริบททีเ่ ป็ นปั ญหาใน ปั จจุบน ั ว่ามีลักษณะอย่างไรมีปรากฎการณ์อะไร มีปัญหา อุปสรรคในการดาเนินภาระกิจปั จจุบน ั หรือไม่ มากน ้อย เท่าใด ึ ษารวบรวมข ้อมูลเกีย ศก ่ วกับริบททีเ่ ป็ นความต ้องการใช ้ ผลิตภัณฑ์ เพือ ่ ทาให ้การดาเนินภารกิจต่างๆ ให ้เกิด ประโยชน์ และสาเร็จลุลว่ งด ้วยดี ซงึ่ การสารวจความ ้ ตภัณฑ์นม ต ้องการทีใ่ ชผลิ ี้ ค ี วามสาคัญอย่างยิง่ เนือ ่ งจากการสร ้างผลิตภัณฑ์ใดก็ตามทีไ่ ม่เป็ นไปตาม ้ ความต ้องการใชงานแล ้วโอกาสที่ ผลิตภัณฑ์นัน ้ จะถูก ้ น ้อยมาก ทาให ้เกิดความสูญเปล่าในการ นาไปใชจะมี ่ ผลิตเครือ ั ผ ้าไปให ้โรงเรียน สร ้างผลิตภัณฑ์ เชน ่ งซก ้ นต ้น มัธยมประจาจังหวัดใชเป็ ึ ษารวบรวมข ้อมูลเกีย ศก ่ วกบลักษณะผลิตภัณฑ์ท ี่ ต ้องการใช ้ เพ่อเป็ นข ้อมูลในการพัฒนาให ้เหมาะสมกับริ เทคนิควิธก ี าร ้ การใชเทคนิ ควิธก ี ารใดในการดาเนินงาน ต ้องพิจารณาถึงจุดมุง่ หมายทีจ ่ าเป็ นต่อการนาผลิตภัณฑ์ ไปใช ้ และต ้องตระหนักถึงแหล่งข ้อมูลต่างๆ รวมทัง้ ้ ้ เครือ ่ งมือทีใ่ ชในการวิ จัยด ้วย ดังนั น ้ การจะใชเทคนิ ค ้ ้าง วิธก ี ารใด ต ้องพิจารณาถึงระเบียบวิธวี จ ิ ัยทีใ่ ชสร ผลิตภัณฑ์ ซงึ่ สามารถเลือกใชวิ้ ธก ี ารวิจัยได ้ดังนี้ การวิจัยเชงิ สารวจ ึ ษาข ้อเท็จจริง เพือ เป็ นการศก ่ ทราบคุณลักษณะหรือ สภาพความเป็ นจริงในสภาพการณ์นัน ้ ๆ เป็ นการสารวจ ความคิดเห็นของกลุม ่ บุคคลทีเ่ กีย ่ วข ้อง ทีจ ่ ะนาไปสู่ การพัมนาผลิตภัณฑ์เพือ ่ ให ้ตอบสนองควมต ้องการของ ้ ตภัณฑ์ การดาเนินงานวิจัยมีขน ผู ้ใชผลิ ั ้ ตอนต่างๆ ดังนี้ การวิจัยเชงิ สงั เคราะห์ (synthesis research) ึ ษาจากงานวิจัยทีม เป็ นการวิจัยทีศ ่ ก ่ ผ ี ู ้ทาวิจัยไว ้แล ้ว โดย ึ ษางานวิจัยทีม ศก ่ ล ี ักษณะคล ้ายคลึงกัน หรือมีประเด็น ปั ญหาใกล ้เคียงกัน โดยวิเคราะห์ความสอดคล ้องกันและ ความขัดแย ้งกันของงานวิจัยเหล่านัน ้ การสงั เคราะห์ ้ ื่ เรียกเฉพาะว่า การ ลักษณะนีใ้ ชเทคนิ คการวิเคราะห์ทม ี่ ช ี อ วิเคราะห์อภิมาน (meta analysis) สาหรับขัน ้ ตอนการ ดานเนงานวิจัยเชงิ สงั เคราะห์มก ี ระบวนการ ขัน ้ ตอนต่างๆ ่ เดรยวกับการวิจัยเชงิ สารวจจะต่างกันเฉพาะขึน เชน ้ ตอน การเก็บรวบรวมข ้อมูล ซงึ่ แหล่งข ้อมูล 4. การนาผลการดาเนินการไปใช ้ เมือ ่ ดาเนินการตามเทคนิควิธก ี ารแล ้วนาผล ทีไ่ ด ้มาพิจารณาถึงความต ้องการความจาเปนใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขัน ้ ตอนที่ 2 การออกแบบผลิตภัณฑ์ การดาเนินงานในขัน ้ ตอนนี้ เป็ นการ ดาเนินงานต่อเนือ ่ งจากขัน ้ ตอนที่ 1 คือ การวิจัย เชงิ สารวจสภาพปั ญหาและความต ้องการ ส รับ ขัน ้ ตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์มข ี ้อควรพิจารณา ได ้แก่ 1.จุดมุง่ หมายการดาเนินงาน การออกผลิตภัณฑ์ มีจด ุ มุง่ หมายเพือ ่ ให ้ ้ ้ปั ญหา หรือนาไปใชพั ้ ฒนา สามารถนาไปใชแก ตามความต ้องการ ดังนัน ้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ต ้องมีความสอดคล ้องกับสภาพปั ญหา และความ ต ้องการทีส ่ ารวจได ้ในขัน ้ ตอนที่ 1 และตลอดจน มีจด ุ มุง่ หมายเพือ ่ ประเมินว่าผลิตภัณฑ์ทไี่ ด ้นัน ้ มี ิ ภ คุณภาพ และประสท ิ าพตามเกณฑ์ทก ี่ าหนดไว ้ 2.ขอบเขตเนือ ้ หา ขอบเขตทีส ่ าคัญของขัน ้ ตอนนี้ ประกอบด ้วยงานหลัก 3 ประการ คือ 3.เทคนิควิธก ี าร ้ เป็ นเทคนิคทีใ่ ชในการประเมิ นคุณภาพ ิ ธิภาพของผลิตภัณฑ์ท ี่ และประสท พัฒนาขึน ้ มามีสงิ่ ทีค ่ วรพิจรณาดังนี้ เทคนิคการประเมินความเหมาะสม มี เทคนิควิธก ี ารทีน ่ ย ิ มใช ้ 2 วีได ้แก่ การ ั นาวิพากษ์ และการใช ้ ประชุมสม แบบสอบถาม 4.การนาผลการดาเนินงานไปใช ้ ในขัน ้ ตอนการออกแบบและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ ซงึ่ มีขอบเขตเนือ ้ หาของการ ดาเนินงานประกอบด ้วย การออกแบบและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ การประเมินความเหมาะสมของ ิ ธิภาพของ ผลิตภัณฑ์ และการประเมินประสท ผลิตภัณฑ์ ผลการดาเนินงานแต่ละสว่ น จะ ้ อ นาไปใชเพื ่ ปรับปรุงแก ้ไขผลิตภัณฑ์ให ้มีคณ ุ ภาพ ตามเกณฑ์ทก ี่ าหนด และพัฒนาคุณภาพให ้ดี ี ต่อผู ้รับบริการ และ ยิง่ ขึน ้ โดยไม่ให ้เกิดผลเสย ้ ตภัณฑ์ หรือถ ้าเกิดผลเสย ี จะทาให ้เกิดผล ผู ้ใชผลิ ี น ้อยทีส เสย ่ ด ุ ขัน ้ ตอนที่ 3 การวิจัยเชงิ ทดลอง การดาเนินงานในขัน ้ ตอนนี้ ต่อเนือ ่ งจาก ขัน ้ ตอนที่ 2 ทีท ่ าการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซงึ่ ้ ต ้องนาผลิตภัณฑ์นัน ้ มาทาการทดลองใชงาน ื่ มั่นด ้ว่ามีคณ ิ ธิภาพในการ เพือ ่ ให ้เชอ ุ ภาพ ประสท ้ ใชงานได ้จริง มีข ้อควรพิจารณาได ้แก่ 1.จุดมุง่ หมายดาเนินงาน ้ ตภัณฑ์ภายใต ้สภาพการณ์ทเี่ ป็ น เป็ นการทดลองใชผลิ ิ ธิภาพ จริง เพือ ่ ตรวจสอบและยืนยันคุณภาพและประสท ของผลิตภัณฑ์วา่ เป็ นไปตามผลการออกแบบ ึ ษาถึงปั ญหาอุปสรรคทีอ ผลิตภัณฑ์ และการศก ่ าจ ้ เกิดขึน ้ ในระหว่างการใชงาน รวมทัง้ ตรวจสอบว่า ้ ้ตรงตามทีอ ผลิตภัณฑ์สามารถใชได ่ อกแบบพัมนาไว ้ ึ้ ตอนนี้ ต ้องตอบปั ญหาเหล่านี้ โดยการดาเนินงานในชน ได ้คือ ้ ้จริงจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ใน • ผลิตภัณฑ์สามารถใชได ขัน ้ ตอนที่ 2 • ปั ญหาและอุปสรรคมีอะไรบ ้าง ้ ตภัณฑ์ ผู ้ใชสามารถใช ้ ้ • วิธก ี ารใชผลิ งานได ้โดยง่าย ้ • ผู ้ใชบรรลุ ตามจุดมุง่ หมายการใช ้ ้ ม การดาเนินงานในขัน ้ ตอนนีร ้ใชกลุ ่ ผุ ้เข ้ารับ การทดลองในแต่ละครัง้ ไม่น ้อยกว่า 30 คน (Smit and Ragan, 1993, p. 402) และทา การทดลองตามขอบเขตเป้ าหมายอย่างทั่วถึง ่ ถ ้าใชภู้ มป เชน ิ ระเทศเป็ นเกณฑ์จะทาการทดลอง ้ ทัง้ ในเมืองและชนบท ถ ้าใชเพศเป็ นเกณฑ์จะทา การทดลองทัง้ เพศชาย และเพศหญิง เป็ นต ้น ทัง้ นีโ้ ดยทั่วไปขอบเขตเนือ ้ หานี้ ต ้องการ เปรียบเทียบภายในกลุม ่ เป้ าหมายผู ้รับการทดลอง โดยการเปรียบเทียบผลในระวห่างทดลองกับหลัง ้ ตภัณฑ์หรืออาจใชการ ้ การทดลองใชผลิ เปรียบเทียบกลุม ่ ทดลอง กับกลุม ่ ควบคุมก็ได ้ 3.เทคนิควิธก ี าร ้ การดาเนินงานนีใ้ ชขั้ น ้ ตอนนีใ้ ชการ วิจัยเชงิ ทดลองเป็ นหลัก ซงึ่ มี 3 ประเภท ได ้แก่ การวิจัยคล ้ายธรรมชาติ การวิจัยกึง่ การทดลอง และการวิจัย ทดลองแท ้ 4. การนาผลการดาเนินการไปใช ้ ผลจากการดาเนินงานทีไ่ ด ้จากการวิจัยเชงิ ทดลองจะเป็ นการยืนยันได ้ว่าผลิตภัณฑ์ทส ี่ ร ้างขึน ้ ิ ธิภาพหรือไม่ อย่างไร นัน ้ มีคณ ุ ภาพและประสท ้ เมือ ่ นาผลิตภัณฑ์ไปใชในวงกว ้างตามสภาพการณ์ ต่างๆ ทีเ่ ป็ นจริงแล ้วเป็ นอย่างไร ปั ญหาและ ้ ้ตรงตามความต ้องการ อุปสรรคมีอะไรบ ้าง ใชได ของกลุม ่ เป้ าหมายเพียงใด ผลทีไ่ ด ้จากากรนา ้ บปรุง ผลิตภัณฑ์ไปใชนี้ จ ้ ะสามารถนาไปใชปรั แก ้ไขและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครัง้ ต่อๆ ไป ขัน ้ ตอนที่ 4 การวิจัยเชงิ ประเมิน ขัน ้ ตอนนีเ้ ป็ นขัน ้ ตอนต่อเนือ ่ งจากการ ้ ตภัณฑ์ในสภาพทีเ่ ป็ นจริง ซงึ่ งผุ ้วิจัย ทดลองใชผลิ ควรจะได ้ทราบถึงความเหมาะสมในการขยายผล ้ ได ้ โดยพิจารณาจากข ้อมูลทีป การใชที ่ ระเมินนัน ้ ิ ใจว่าจะยุตก ประกอบการตัดสน ิ ารวิจัย หรือจะ ปรับปรุงแก ้ไข หรือจะขยายผลต่อไป มีข ้อควร พิจารณาได ้แก่ 1.จุดมุง่ หมายของการดาเนินงาน ้ ตภัณฑ์ท ี่ การประเมินผลการทดลองใชผลิ ้ นตาม ต ้องพิจารณาต่อไปนี้ คือ การทดลองใชเป็ ิ ธิภาพะหรือไม่ จุดหมุง่ หมายหรือไม่ มีประสท เพียงใด สภาพการณืทดลองมีความพร ้อมหรือไม่ รวมทัง้ ประเมินผลกระทบอทืน ่ ๆ ทีเ่ กิดขึน ้ ตามมา ้ ตภัณฑ์ อันเนือ ่ งจากการทดลองใชผลิ 2.ขอบเขตเนือ ้ หา เป็ นการกาหนดขอบเขตในการประเมินให ้ ครอบคลุมภาพรวมทัง้ หมดทีเ่ กีย ่ วกับการพัฒนา ่ ความพร ้อมด ้านทรัพยากรทีใ่ ช ้ ผลิตภัณฑ์ เชน ในการทดลอง การนดาเนินงาสนในการใช ้ ผลิตภัณฑ์ ผลการดาเนินงาน และข ้อค ้นพบอืน ่ ๆ ้ ตภัณฑ์ อันเนือ ่ งมาจากการใชผลิ 3.เทคนิควิธก ี าร การวิจัยเชงิ ประเมิน เป็ นการประเมินผลการ ้ ตภัณฑ์ภายใต ้ขอบเขตเนือ ใชผลิ ้ หามีเทคนิควีการ ทีใ่ ชคื้ อ เทคนิคการประเมิน วึง่ มีหลายรูปแบบ ่ รูแบบเชงิ ระบบ (systematic model) เชน ิ ป์ (CIPP model) เป็ นต ้น รูปแบบซป 4.การนาผลการดาเนินงานไปใช ้ การประเมินผลผลิตภัณฑ์ในขัน ้ ตอนนี้ เป็ น การประเมินในภาพรวมทัง้ หมด เกีย ่ วกับ ้ ผลิตภัณฑ์ทไี่ ด ้พัฒนาขึน ้ มาเพือ ่ ใชประกอบการ ิ ใจปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือจะขยายการใช ้ ตัดสน ผลิตภัณฑ์สวู่ งกว ้างต่อไป ขัน ้ ตอนที่ 5 การเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ ขัน ้ ตอนที่ 5 การเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ ขัน ้ ตอนนีเ้ ป็ นขัน ้ ตอนสุดท ้าขจอง กระบวนการวิจัยและพัฒนา เป็ นการเผยแพร่ ผลิตภัณฑ์ทส ี่ ร ้างขึน ้ มา คือ ให ้สาธารณชน ได ้รับทราลเป็ นทีย ่ อมรับอย่างแพร่หลายตาม ้ ้เกิด แหล่งข่าวสารต่างๆ และสามารถนาไปใชให ประโยชน์ตอ ่ ไป บางผลิตภัณฑ์อาจเป็ นการบริการ ้ ้โดยไม่ต ้องเสย ี สงั คมเปิ ดให ้สามารถนาไปใชได ค่าใชจ่้ าย หรือบางผลิตภัณฑ์อาจต ้องจดทะเบียน ิ ธิ์ ซงึ่ ขัน ลิขสท ้ ตอนนีเ้ ป็ นหน ้าทีข ่ องหน่วยงาน หรือองค์กรเป็ นผู ้ดาเนินการ ตัวอย่างการวิจัยและพัฒนาทาง ึ ษา การศก ื่ เรือ ชอ ่ ง การพัฒนาบทเรียนบน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับ การวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย (สุมา มาลย์ ปานคา, 2547) บทนา ื่ วาเป็ นยุคของข ้อมูล โลกในยุคปั จจุบน ั นั น ้ ได ้ชอ ข่าวสาร หรือทีเ่ รียกกันว่า ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Techonogy It) เนือ ่ งจากการ ื่ สารข ้อมูลผ่าสนสอ ื่ ต่างๆ เป็ นไปอย่างรวดเร็ว ติดต่อสอ (สนั่น มาสกลาง, 2544 หน ้า 66) เทคโนโลยี สารสนเทศได ้เป็ นปั จจัยผลึกดันสาคัญทีท ่ าให ้โลก “ไร ้ ั พันธ์กน พรมแดน” แ ละทาให ้พลดลกมีการติดต่อสม ั ได ้ ่ ารผสมผสานความคิด ค่านิยม อย่างรวดเร็วยิง่ ขึน ้ นาปสุก ตลอดจนวิถช ี วี ต ิ ความเป็ นอยูร่ ะหว่างมวลมนุษยชาติ หรือ ่ ค ทีเ่ รียกว่า “กระแสโลกาภิวัตน์” ทีน ่ าโลกเข ้าสูย ุ แห่งการ จัดระเบียบทางเศรษฐกิจสงั คม และการเมืองระหว่าง ประเทศใหม่ ซงึ่ มีผลกระทบต่อทุกาติทก ุ ภาษารวมมทัง้ ึ ษาไทยในยุค ประเทศไทย (เอกสารการประชุม “การศก โลกาภิวัตน์สค ู่ วามก ้าวหน ้าและความมั่นคงของชาติใน ศตวรรษหน ้า”ม 2539. หน ้า 5) ึ ษามหาบัณฑิต มี เมือ ่ พิจาณามในหลักสูตรการศก ึ ษาที่ รายวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัยเป็ นวิชาพืน ้ ฐานทางการศก กาหนดให ้ผู ้เรียนในหลักสูตรทุกคนต ้องเรียนโดยมุง่ ให ้ ิ ได ้มีพน นิสต ื้ ฐานเกีย ่ วกับการทาวิจัยหลังจากทีไ่ ด ้เรียนใน รายวิชาต่างๆ ครบตามหลักสูตรแล ้ว และด ้วยเหตุท ี่ รายวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัยมีเนืห ้ าทีส ่ าคัญสว่ นหนึง่ คือ สถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัยซงึ่ มีธรรมชาติของ เนือ ้ หายากแก่การทาความเข ้าใจ มีลักษณะเป็ นนามธรรม ั ทักษะการคิดคานวณทางคณิตศาสตร์และสถิต ิ ต ้องอาศย อย่างมาก ประกอบกับเวลาในการเรียนเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับ การวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย รายวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัยมี น ้อย เพียง 3. ครัง้ หรือ 9 คาบ เท่านัน ้ ด ้วยเหตุนผ ี้ ู ้วิจัยจึงสนใจพัฒนาบทเรียนบทน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ ิ และผู ้ที่ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย เพือ ่ ให ้นิสต ึ ษา ค ้นคว ้า เพิม สนใจสามารถศก ่ เติม และ ทบทวนบทเรียนต่างๆ ได ้ด ้วยตนเอง โดยไม่ม ี ข ้อจากัดทีง้ ด ้านเวลา และสถานที่ ซงึ่ เป็ นการ ึ ษาและการเรียนการสอนที่ สนับสนุนระบบการศก เน ้นกระบวนการเรียนรู ้แบบพึง่ ตนเอง จุดมุง่ หมายของการวิจัย ในการวิจัยครัง้ นี้ ผู ้วิจัยมีจด ุ มุง่ หมายหลัก เพือ ่ พีฒนาบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย โดยมี จุดมุง่ หมายเฉพาะ ดังนี้ ิ ธิภาพของบทเรียนบน 1.เพือ ่ สร ้าง และหาประสท เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ้ 2.เพือ ่ ทดลองใชบทเรี ยนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ้ 3.เพือ ่ ประเมินบทเรียนพือ ่ ทดลองใชบทเรี ยน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ ารหับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย คามสาคัญของการวิจัย 1. การวิจัยครัง้ นีท ้ าให ้ได ้บทเรียนพือ ่ ทดลองใช ้ บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ ารหับ ิ ธิภาพ การวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัยทีม ่ ป ี ระสท ซงึ่ ทาให ้ผู ้เรียนสามารถเรียนรู ้ได ้ด ้วยตนเอง 2. เป็ นแนวทางในการสร ้าง และพัมนาบทเรียน ้ พือ ่ ทดลองใชบทเรี ยนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ใน รายวิชาอืน ่ ๆ ต่อไป ผู ้วิจัยได ้แบ่งการวิจัยออกเป็ น 3 ขัน ้ ตอน โดยกาหนดขอบเขตในแต่ละ ขัน ้ ตอน ออกเป็ น 3 ด ้านด ้วยกัน คือ ขอบเขตด ้านเนือ ้ หา ของเขตด ้าน แหล่งข ้อมูล และขอบเขตด ้านตัวแปร ซงึ่ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ขัน ้ ตอนที่ 1 การสร ้างและหา ิ ธิภาพของบทเรียนพือ ประสท ่ ทดลองใช ้ บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการ วิจัย ขอบเขตด ้านเนือ ้ หา ขัน ้ ตอนในการสร ้าง และหา ิ ธิภาพของบทเรียนบนเครือข่าย ประสท อินเทอร์เน็ ตนีผ ้ ู ้วิจัยได ้กาหนดขอบเขต ด ้านเนือ ้ หา เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ไว ้ดังนี้ 1.สถิตบ ิ รรยาย ่ ว่ นกลาง 1.1การวัดแนวโน ้มเข ้าสูส 1.2การกาหนดตาแหนงของข ้อมูล 1.3การวัดการกระจาย ั พันธ์อย่างง่าย 1.4สหสม 2.สถิตอ ิ ้างอิง 2.1การทดสอบสมมุตฐิ าน 2.2การทดสอบค่าเฉลีย ่ 2.3การวิเคราะห์ความแปรปรวน 2.4การทดสอบไคสแควร์ ขอบแขตด ้านแหล่งข ้อมูล ขอบเขตด ้านแหล่งข ้อมูลในการพัม นาบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ี่ วชาญด ้านเนือ 1.ผู ้เชย ้ หาสถิตส ิ าหรับ การวิจัย จานวน 3 ท่าน ี่ วชาญด ้านคอมพิวเตอรืเกีย 2.ผู ้เชย ่ วกับ การพัฒนาบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต จานวน 3 ท่าน ิ ทีล 3.นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัย ึ ษา (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี การศก 2547 จานวน 3 คน (One to one Testin) ซงึ่ ่ ตัวอย่างง่าย จากกลุม ิ ทีเ่ รียนเก่ง ได ้จากการสุม ่ นิสต ปานกลางและอ่อน อย่างละ 1 คน ิ ทีล 4. นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัย ึ ษา (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี การศก 2547 จานวน 9 คน (One to one Testin) ซงึ่ ่ ตัวอย่างง่าย จากกลุม ิ ทีเ่ รียนเก่ง ได ้จากการสุม ่ นิสต ปานกลางและอ่อน อย่างละ 3 คน ขอบเขตด ้านตัวแปร ี่ วชาญด ้านเนือ ความคิดเห็นของผู ้เชย ้ หาเรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย เกีย ่ วกับความสอดคล ้องระหว่างจุดประสงค์ เชงิ พฤติกรรมกับเนือ ้ หาทีจ ่ ะนามาสร ้าง บทเรียนบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ี่ วชาญด ้านคอมพิวเตอร์ ความคิดเห็นของผู ้เชย ในการพัฒนาบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตใน เรือ ่ งความเหมาะสมของการออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบการสอน และเทคนิคในการสร ้าง บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ้ ขัน ้ ตอนที่ 2 การทดลองใชบทเรี ยน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับ การวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ขอบเขตด ้านเนือ ้ หา ผู ้วิจัยนาบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลใน ้ ยบเทียบผลสม ั ฤทธิ์ การวิจัยไปใชเปรี ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน ิ ทีไ่ ด ้รับการสอนโดยใชบทเรี ้ ของนิสต ยน บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ขอบเขตด ้านแหล่งข ้อมูล ิ ระดับปริญญามหาบัณฑิต กลุม ่ ตัวอย่าง คือ นิสต ึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรที่ คณะศก ลงทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย (ระบบเอก ึ ษา 2547 ภาค) ในภาคเรียนที่ 1 1 ปี การศก จานวน 29 คน (Field Testing) ขอบเขตตัวแปร ึ ษา คือ การเรียนโดยใชบทเรี ้ ตัวแปรทีศ ่ ก ยน บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ั ฤทธิท ตัวแปรตาม คือ ผลสม ์ างการเรียน ขัน ้ ตอนที่ 3 การประเมินบทเรียน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับ การวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ขอบเขตด ้านเนือ ้ หา ึ ษาความคิดเห็นของนิสต ิ ผู ้วิจัยศก เกีย ่ วกับบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลใน ้ การวิจัย ซงึ่ ใชแบบประเมิ นทีส ่ ร ้างขึน ้ ตามกรอบการประเมินเว็บไซต์ทาง ึ ษาของเทคนิคโดยแบ่งออกเป็ น การศก 4 ด ้าน ดังนี้ 1.ด ้านการออกแบบเว็บไซต์ 2.ด ้านการออกแบบการสอน 3.ด ้านเนือ ้ หา 4.ด ้านเทคนิคในการพัฒนาเว็บไซต์ ขอบเขตด ้านแหล่งข ้อมูล ิ ระดับปริญญามหาบัณฑิต นิสต ึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะศก ทีท ่ ะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี ึ ษา 2547 จานวน 29 คน การศก (Field Testing) ขอบเขตตัวแปร ึ ษา คือ ความคิดเห็น ตัวแปรทีศ ่ ก เกีย ่ วกับบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถติสาหรับการวิเคราะห์ ั ท์เฉพาะ นิยามศพ เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ื่ มโยงเครือข่าย หมายถึง การเชอ คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์อน ื่ ทัง้ ใน ้ ประเทศ และต่างประเทศโดยใชระบบ ื่ สารโทรคมนาคมของ การสอ ึ ษา เพือ ื่ สาร สถาบันอุดมศก ่ ใชติ้ ดต่อสอ แลกเปลีย ่ นข ้อมูล และค ้นคว ้าหาความรู ้ รวมทัง้ ให ้บริการด ้านอืน ่ ๆ ้ อข่าย การเรียนการสอนทีใ่ ชเครื ื่ หรือตัวกลางในการ อินเตอร์เน็ ตเป็ นสอ เรียนการสอนร่วมกันระหว่างผู ้สอนกับผู ้ เรียในลักษณะของบทเรียนที่ ประกอบด ้วยเนือ ้ หา รูปภาพประกอบ ี ง และภาพเคลือ เสย ่ นไหว ผู ้สอนและ ผู ้เรียนสามารถใช ้ เว็บเพจ (Web Page) ในการอภิปรายแลกเปลีย ่ น ื ค ้น ตอบปั ญหา ทา ความคิดเห็น สบ แบบฝึ กหัด และกิจกรรมการเรียนการ สอนต่างๆ โดยผ่านเครือข่าย ทุกหน ้าเว็บของ บทเรียนเครือข่าย ื่ มโยงไปถึงกัน อินเตอร์เน็ ต สามารถเชอ ได ้หมด ทัง้ ภายในเนือ ้ หาของบทเรียน และเว็บภายนอกบทเรียน ิ ธิภาพของบทเรียนเครือข่าย ประสท อินเตอร์เน็ ต หมายถึง เกณฑ์ ้ ิ ธิภาพของบทเรียน ทีใ่ ชประเมิ นประสท เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถติสาหรับ การวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ซงึ่ ได ้กาหนด กฎเกณฑ์ 70/70 70 ตัวแรก หมายถึง คะแนนเฉลีย ่ ร ้อย ละ 70 ของคะแนนรวมทัง้ หมดทีไ่ ด ้ จากการทาแบบฝึ กหัดระหว่างเรียนจาก บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต 70 ตัวแรก หมายถึง คะแนนเฉลีย ่ ร ้อย ละ 70 ของคะแนนรวมทัง้ หมดทีไ่ ด ้ ั ฤ?ธิท จากการทาแบบวัดผลสม ์ างการ เรียนหลังเรียนจากบทเรียนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่ เกีย ่ วข ้อง การวิจัยเรือ ่ ง “เรือ ่ งสถติสาหรับการ วิเคราะห์ “การพัฒนาบทเรียนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ ึ ษา วิเคราะห์ ในการวิจัย “ผู ้วิจัยได ้ศก เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กีย ่ วข ้องตรม หัวข ้อ ดังนี้ 1.ความรู ้เกีย ่ วกับอินเตอร์เน็ ต 1.1ความหมายของอินเตอร์เน็ ต ึ ษา 1.2อินเตอร์เน็ ตกับการศก 1.3ประโยชน์ของเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ึ ษา ในการศก ้ การระบบ 1.4รูปแบบการใชบริ อินเตอร์เน็ ต 2.โครงสร ้างเว็ป 2.1โครงสร ้างแบบเรียงลาดับ (Sequential Structure) 2.2เว็บทีม ่ โี ครงสร ้างแบบลาดับขัน ้ (Hierarchical Stucture) 2.3เว็บทีม ่ โี ครงสร ้างแบบตาราง (Grid Structure) 2.4เว็บทีม ่ โี ครงสร ้างแบบใยแมงมุม (Web structure) ั พันธ์ 3.2การเรียนการสอนปฏิสม 3.3ลักษณะและประเภทของการเรียนการอ สอนผ่านเว็บ 3.4ข ้อดีและข ้อจากัดของการเรียนการสอน ผ่านเว็บ 3.5หลักการออกแบบและพัฒนานการเรียน การสอนผ่านเว็บ 3.6องค์ประกอบของการเรียนการสอนผ่าน เว็บ ิ ธิภาพบทเรียนบน 3.7การประเมินผลประสท เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต 3.8การประเมินบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต 4.การจัดการเรียนการสอนรายวิชา 366513 ระเบียบวิธวี จิ ัย ้ 5.ทฤษฎีการเรียนรู ้ทีใ่ ชบทเรี ยนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต 5.1ทฤฏณีการเรียนรู ้แบบค ้นพบของบรูนเนอร์ 5.2ทฤษฎีการเรียนแบบร่วมมือ 5.3ทฤษฎีการเรียนรู ้ด ้วยการนาตนเอง 5.4ทฤษฎีการสอนรายบุคคล 5.5รูปแบบการสอนของกาเย่ การวิจัยครัง้ นีด ้ าเนินการตามลักษณะของ กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Developmant) ซงึ่ มีขน ั ้ ตอนการดานเนินงานดังนี้ ิ ธิภาพ ขัน ้ ตอนที่ 1 การสร ้าง และหาประสท ของบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ้ ขัน ้ ตอนที่ 2 การทดลองใชบทเรี ยนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูล ในการวิจัย ขัน ้ ตอนที่ 3 กาประเมินบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูล ในการวิจัย ิ ธิภาพของ ขัน ้ ตอนที่ 1 การสร ้าง และหาประสท บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ในขัน ้ ตอนนีม ้ จ ี ด ุ มุง่ หมายเพื อสร ้าง และหาประ สธิ ภ ิ าพของ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย แหล่งข ้อมูล คือ ี่ วชาญด ้านเนือ 1. ผู ้เชย ้ หาสถิตส ิ าหรับการ วิจัยจานวน 3 ท่าน ี วชาญด ้านคอมพิวเตอร์เกีย 2. ผู ้เชย ่ วกับการ พัฒนาบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต จานวน 3 ท่าน ิ ทีล 3. นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย ึ ษา (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี การศก 2547 จานวน 3 คน (One to one Testing) ่ อย่างง่าย จากกลุม ิ ทีเ่ รียน ซงึ่ ได ้จากการสุม ่ นิสต เก่ง ปานกลาง และอ่อน อย่างละ 1 คน โดยใช ้ ระดับคะแนนเฉลีย ่ สะสมในภาคเรียนทีผ ่ า่ นมาเป็ น เกณฑ์ ิ ทีล 4. นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย ึ ษา (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี การศก 2547 จานวน 9 คน (Small Group Testing) ่ อย่างง่าย จากกลุม ิ ทีเ่ รียน ซงึ่ ได ้จากการสุม ่ นิสต เก่ง ปานกลาง และอ่อน อย่างละ 3 คน โดยใช ้ ระดับคะแนนเฉลีย ่ สะสมในภาคเรียนทีผ ่ า่ นมาเป็ น เกณฑ์ ้ ึ ษาค ้นคว ้า เครือ ่ งมือทีใ่ ชในการศ ก ้ น เครือ ่ งมือทีใ่ ชในขึ ้ ตอนนีไ ้ ด ้แก่ แบบประเมินความสอดคล ้องระหว่าง จุดประสงค์เชงิ พฟติกรรมกับเนือ ้ หาสถิต ิ แบบประเมินความเหมาะสมของบทเรียน บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลใน การวิจัย 1.การดาเนินการสร ้างเครือ ่ งมือ ึ ษาคาอธิบายรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย ศก เอกสาร คาสอน และตาราอืน ่ ๆ ที่ เกีย ่ วข ้องกับเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิจัย ้ เพือ ่ ใชในการก าหนดเนือ ้ หาสถิตใิ ห ้ สอดคล ้องกับคาอธิบายรายวิชาระเบียบ วิธวี จิ ัย จากนัน ้ กาหนดจุดประสงค์การ เรียนรู ้ และจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 2.กาหนดเนือ ้ หาสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ดังนี้ สถิตบ ิ รรยาย ได ้แก่ เรือ ่ งการวัด ่ ว่ นกลาง, เรือ แนวโน ้มเข ้าสุส ่ งการ กาหนดตาแหน่งของข ้อมูล, เรือ ่ ง การวัดการกระจาย และเรือ ่ ง ั พันธ์อย่างง่าย สถิตอ สหสม ิ ้างอิง ได ้แก่ เรือ ่ งการทดสอบสมมุตฐิ าน, เรือ ่ งการทดสอบ ค่าเฉลีย ่ , เรือ ่ ง การวิเคราะห์ความแปรปรวน และ เรือ ่ งการทดสอบไคสแควร์ 3.นาเนือ ้ หาเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัยทีเ่ ขียน ื ขึน ้ มาจากการสงั เคราะห์หนังสอ เกีย ่ วกับสถิตส ิ าหรับการวิจัย เสนอ ต่อประธานทีป ่ รึกษาวิทยานิพนธ์ และกรรมการทีป ่ รึกษาวิทยานิพนธ์ เพือ ่ ขอคาแนะนา ในสว่ นทีย ่ งั บกพร่อง และนามาปรับปรุงแก ้ไข 4.นาเนือ ้ หาเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัยทีร่ ับการ ปรับปรุงแล ้วพร ้อมทัง้ แบบประเมิน ความสอดคล ้องทีผ ่ ู ้วิจัยสร ้างขึน ้ ี่ วชาญด ้านเนือ เสนอผู ้เชย ้ หาสถิต ิ สาหรับการวิจัยจานวน 3 ท่าน เพือ ่ ประเมินความสอดคล ้องระหว่าง จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับเนือ ้ หา สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลใน การวิจัย 5.นาผลการประเมินความสอดคล ้องที่ ี่ วชาญมาวิเคราะห์หา ได ้จากผู ้เชย ดัชนีความสอดคล ้อง (IOC) ซงึ่ ได ้ เท่ากับ 1.00 ทุกข ้อ และปรับปรุง ี ว แก ้ไขตามข ้อเสนอแนะของผู ้เชย ชาญในประเด็นดังนี้ ควรมีตวั อย่าง วิธค ี านวณค่าสถิต ิ และวิธแ ี ปลผล ั เจน เพิม ให ้ชด ่ ตารางการทดสอบ ค่าเฉลีย ่ ,การวิเคราะห์ความ แปรปรวนและการทดสอบไคสแควร์ ึ ษาเทคนิค และวิธการสร ้างบทเรียน 6.ศก ้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต โดยเลือกใชโปรแกรม และเครือ ่ งมือดังต่อไปนี้ 6.1โปรแกรมระบบปฏิบัตก ิ าร Windows 98 ้ การ 6.2เครือ ่ งคอมพิวเตอร์ทใี่ ชบริ อินเตอร์เน็ ตและโปรแกรมระบบปฏิบต ั ก ิ ารที่ ให ้บริการเครือข่าย Windows NT Server ่ 6.3เครือ ่ งมือในการสร ้างเว็บเพจ เชน Macromedia Dreamweaver MX. Macromedia Flash, Adobe Photoshop ้ 6.0 และ CGI โดยใชภาษา ASP โครงสร ้างเว็บแบบใยแมงมุม และองค์ประกอบของ บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตไว ้ดังนี้ (ปทีป เมธาคุณวุฒ.ิ 2540 หน ้า 75 7.1 ข ้อมูลเกีย ่ วกับรายวิชา ภาครวมรายวิชา (Course Overview) แสดงวัตถุประสงค์ของรายวิชา สงั เขป รายวิชาคาอธิบาย เกีย ่ วกับหัวข ้อการเรียน หรือหน่วย การเรียน 7.2การเตรียมตัวของผู ้เรียนหรือการปรับพืน ้ ฐานผู ้เรียน ื่ มโยงไปยังสอ ื่ 7.3เนือ ้ หาบทเรียนพร ้อมทัง้ การเชอ สนับสนุนต่างๆ ในเนือ ้ หาบทเรียนนัน ้ ๆ การเตรียมตัวของผู ้เรียนหรือการปรับพืน ้ ฐานผู ้เรียน ื่ มโยงไปยังสอ ื่ สนั บสนุน เนือ ้ หาบทเรียนพร ้อมทัง้ การเชอ ต่างๆ ในเนือ ้ หาบทเรียนนัน ้ ๆ 7.4กิจกรรมทีม ่ อบหมายพร ้อมทัง้ การประเมินผล การ กาหนดเวลาเรียนการสง่ งาน 7.5แบบฝึ กหัดทีผ ่ ู ้เรียนต ้องการฝึ กฝนตนเอง ึ ษาค ้นคว ้า การศก ตัวอย่างแบบทดสอบ ตัวอย่างรายงาน ข ้อมูลทั่วไป (Vital Information) แสดง ข ้อความทีจ ่ ะติดต่อผู ้สอน หรือผู ้ทีเ่ กีย ่ วข ้อง การลงทะเบียน ค่าใชจ่้ าย การได ้รับหน่วย ื่ มดยงไปยังสถานศก ึ ษาหรือ กิจ และการเชอ ื่ มโยงไปสู่ หน่วยงาน และมีการเชอ รายละเอียดของหน ้าทีเ่ กีย ่ วข ้อง สว่ นแสดงประวัตข ิ องผู ้สอน และผู ้ที เกีย ่ วข ้อง สว่ นของการประกาศข่าว (Bulletin Board) ห ้องสนทนา (Chat Room) ทีเ่ ป็ นการ สนทนาในกลุม ่ ผู ้เรียนและผู ้สอน 8.ดาเนินการสร ้าง และพัฒนาบทเรียนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต โดยนาเสนอในรูปของ เว็บเพจ และนาบทเรียนไปไว ้บนระบบ ให ้บริการเครือข่าย Windows Nt Server ของมหาวิทยาลัยนเรศวร URL http://www.edu.nu.ac.th/techno/wbi/stat/ index.htm และนาบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต ทีส ่ ร ้างขึน ้ สนอต่อปรานที่ ปรึกษาวิทยานิพนธ์ และกรรมการทีป ่ รึกษา วิทยานิพนธ์เพือ ่ ขอคาแนะนาในสว่ นที่ บกพร่องมาปรับปรุงแก ้ไข ได ้รับการปรับปรุงแล ้วพร ้อมทัง้ แบบประเมิน บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตทีผ ่ ู ้วิจัย ี่ วชาญด ้านคอมพิวเตอร์ สร ้างขึน ้ เสนอผู ้เชย เกีย ่ วกับการพัฒนาบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต จานวน 3 ท่าน เพือ ่ ประเมิน ความเหมาะสมของบทเรียนบทเรียนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ในเรือ ่ งความ เหมาะสมของบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต การนาเสนอเนือ ้ หา และการ ื่ มโยงเอกสาร (Links) ทัง้ ภายใน และ เชอ ภายนอกของบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตของ ี่ วชาญมาวิเคราะห์ผลได ้ค่า ผู ้เชย ความเหมาะสมของบทเรียนอยู่ ระหว่าง 3.3 ถึง 5.0 และมีคา่ สว่ น เบีย ่ งเบนมาตรฐานอยูร่ ะหว่าง 0 ถึง 2.08 จากนัน ้ จึงนาบทบทเรียน บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตมา ปรับปรุงแก ้ไขในสว่ นทีบ ่ กพร่อง เกีย ่ วกับความยาวของการนาเสนอ เนือ ้ หาแต่ละตอนเหมาะสม และ ื่ มโยง ความสามารถในการเชอ เอกสาร (Links) ภายในบทเรียน ิ ธิภาพกับนิสต ิ ทีล หาประสท ่ งทะเบียนเรียนรายวิชา ระเบียบวิธวี จิ ัย (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ึ ษา 2547 ดังนี้ ปี การศก ิ จานวน 3 คน เรียนด ้วยบทเรียน 11.1ให ้นิสต บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับ การวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย เพือ ่ หาข ้อบกพร่อง ทางด ้านภาษา รูปแบบของบทเรียนบทเรียน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต และการนาเสนอเนือ ้ หาแล ้ว ื่ มโยงภายในบทเรียน นามาแก ้ไขในเรือ ่ งการเชอ ื่ ชน ี้ าต่างๆ ให ้ชด ั เจน กาหนดการ โดยปรับปรุงสอ ื่ มโยงเกีย เชอ ่ วกับการติดต่อเพือ ่ ให ้แสดงผลอยูใ่ น ์ ละเพิม รูปของจดหมายอิเล็กทรอนิกสแ ่ ตารางสถิต ิ ิ จานวน 9 คน เรียนด ้วยบทเรียน 11.2ให ้นิสต เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสาหรับการวิเคราะห์ ิ ธิภาพตามเกณฑ์ ข ้อมูลในการวิจัย เพือ ่ หาประสท 70/70 ผู ้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข ้อมูล 1.วิเคราะห์คา่ ดัชนีคามสอดคล ้องระหว่างจุดประสงค์เชงิ ี่ วชาญด ้านเนือ พฤติกรรมกับเนือ ้ หาของผู ้เชย ้ หาสถิต ิ สาหรับการวิจัยทัง้ 3 ท่าน โดยพิจาณาค่าดัชนีความ สอดคล ้องทีม ่ ค ี า่ ตัง้ แต่ 0.50 ขึน ้ ไป 2.วิเคราะห์หาความเหมาะสมของบทเรียนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัยของ ี่ วชาญด ้านคอมพิวเตอร์ทงั ้ 3 ท่าน ด ้วยการหา ผู ้เชย ค่าเฉลีย ่ และสว่ นเบีย ่ งเบนมาตรฐาน จากนัน ้ นามา เปรียบเทียบกับเกณฑ์ ดังนี้ ค่าเฉลีย ่ 4.50-5.00 หมายถึง บทเรียนมีความ เหมาะสมมากทีส ่ ด ุ ค่าเฉลีย ่ 3.50-4.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะมาก ค่าเฉลีย ่ 2.50-3.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะปานกลาง ค่าเฉลีย ่ 1.50-2.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะน ้อย ค่าเฉลีย ่ 1.00-1.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะน ้อยทีส ่ ด ุ ได ้กาหนดเกณฑ์ขน ั ้ ตา่ ในการพิจารณาว่า บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ี่ วชาญมี ว่ามีความเหมาะสม คือ ความคิดเห็นของผู ้เชย ค่าเฉลีย ่ ต ้งแต่ 3.5 ขึน ้ ไป และมีคา่ เบีย ่ งเบนมาตรฐานไม่ เกิน 1.00 ิ ธิภาพของบทเรียนเครือข่าย 3.วิเคราะห์หาประสท อินเทอร์เน็ ต รือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ซงึ่ ผู ้วิจัยได ้ดาเนินการ ดังนี้ 3.1หากคะแนนเฉลีย ่ ร ้อยละของคะแนนที่ ิ ทาได ้จากการทาแบบฝึ กหัดระหว่าง นิสต บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ิ 3.2หาคะแนนเฉลีย ่ ร ้อยละ ของคะแนนทีน ่ ส ิ ต ั ฤทธิ์ ทาได ้จากการทาแบบทดสอบ วัดผลสม ทางการเรียนหลังเรียนด ้วยบทเรียนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต ้ ขัน ้ ตอนที่ 2 การทดลองใชบทเรี ยนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ วิจัย ขัน ้ ตอนการทดลองใช ้ มีจด ุ มุง่ หมายดังนี้ ั ฤทธิท เพือ ่ เปรียบเทียบผลสม ์ างการเรียนก่อนเรียน และ ิ ทีไ่ ด ้รับการสอนโดยใชบทเรี ้ หลังเรียนของนิสต ยน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต แหล่งข ้อมูล ิ ทีล ฃกลุม ่ ตัวอย่าง คือ นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชา ระเบียบวิธวี จิ ัย (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี ึ ษา 2547 จานวน 9 คน (Field Testing) การศก ้ ผู ้วิจัยทาการทดลองโดยใชแบบแผนการทดลอง กลุม ่ เดียวทดสอบก่อน-หลัง (One Group Pretest – Posttest Only) ( รัตนะ บัวสนธิ,์ 2544. หน ้า 62) ดังภาพ 7 O1 T O2 ภาพ 7 แสดงแบบแผนการทดลองกลุม ่ เดียวทดสอบ ก่อน-หลัง O1 คือ ทดสอบก่อนเรียนด ้วยบทเรียนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ้ T คือ การเรียนโดยใชบทเรี ยนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต O2 คือ ทดสอบหลังเรียนด ้วยบทเรียนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ้ เครือ ่ งมือทีใ่ ชในการทดลอง คือ ั ฤทธิท แบบทดสอบวัดผลสม ์ างการเรียน เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัยสร ้างขึน ้ วิธด ี าเนินการสร ้างเครือข่าย ึ ษา และ วิเคราะห์เนือ ศก ้ หารายวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัย เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัยและกาหนด จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม สร ้างแบบทดสอบตามตามจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เป็ น ข ้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือก จานวน 50 ข ้อ ี่ วชาญ 3.นาแบบทดสอบทีส ่ ร ้างขึน ้ เสนอให ้ผู ้เชย ด ้านเนือ ้ หาจานวน 3 ท่าน เพือ ่ พิจาณาค่าดัชนี ความสอดคล ้องระหว่างจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม กับแบบทดสอบจากนัน ้ นามาหาค่าดัชนีความ สอดคล ้อง (IOC) ซงึ่ ได ้ค่า IOC อยูร่ ะหว่าง 0.67-1.00 และปรับปรุงบางข ้อตามคาแนะนาของ ี่ วชาญ ผู ้เชย 4.นาแบบทดสอบทีป ่ รับปรุงแก ้ไขแล ้วไปทดลองใช ้ ิ ทีไ่ ด ้เรียนในรายวิชาระเบียบวิธ ี (Try Out) กับนิสต วิจัย เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ วิจัยมาก่อนแล ้ว จานวน 30 คน เพือ ่ หา ิ ธิภาพของแบบทดสอบ ประสท คะแนน สาหรับข ้อทีต ่ อบผิด หรือตอบมากกว่า 1 คาตอบ หรือไม่ตอบ 6.7.รวมคะแนนของแต่ละคนแล ้วทาการวิเคราะห์ข ้อสอบ เป็ นรายข ้อ เพือ ่ หาค่าอานาจจาแนก (B) ตามวิธข ี องเบ รนนอน (Brennan) โดยคัดเลือกข ้อสอบทีม ่ ค ี า่ อานาจ จาแนกตัง้ แต่ 0.2 ขึน ้ ไป และค่าความยาก (P) ทีอ ่ ยู่ ระหว่าง 0.2 ถึง 0.8 จากแบบทดสอบทีส ่ ร ้างขึน ้ ทัง้ หมด 50 ข ้อ นามา คัดเลือกไว ้ 30 ข ้อ ซงึ่ ได ้ค่าอานาจจาแนก (B) อยู่ ระหว่าง 0.20 ถึง 0.90 และค่าความยาก (P) ทีอ ่ ยู่ ระหว่าง 0.22 ถึง 0.76 จากนัน ้ นาแบบทดสอบทัง้ 30 ข ้อมาหาความเทีย ่ งของแบบทดสอบทัง้ ฉบับตามวิธข ี อง โลเวต (Lovett) ได ้ค่าความเทีย ่ งเท่ากับ 0.82 ้ 8.จัดพิมพ์แบบทดสอบฉบับจริง เพ่อใชในการเก็ บ รวบรวมข ้อมูล ้ ทาการทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใชแบบทดสอบวั ดผล ั ฤธิท สม ์ างการเรียน ้ ดาเนินการทดลองใชบทเรี ยนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ผู ้วิจัยเป็ น ้ ผู ้ชว่ ยสอนและ แนะนาเว็บไซต์ทใี่ ชในบทเรี ยนบนเครือข่าย ้ อินเตอร์เน็ต ซงึ่ ใชเวลาในการเรี ยนทัง้ หมด 3 ครัง้ ครัง้ ละ 3 ชวั่ โมง ดังนี้ ้ 2.1 ผู ้วิจัยอธิบายวิธใี ชบทเรี ยนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ิ เข ้าโฮมเพจของบทเรียนบนเครือข่าย ในเบือ ้ งต ้น โดยให ้นิสต ิ สมัครเรียน กาหนด Usename อินเตอร์เน็ต พร ้อมกับให ้นิสต ิ เพือ และ Password พร ้อมกรอกข ้อมูลทัว่ ไปเกีย ่ วกับตัวนิสต ่ ้ นรหัสผ่านสว่ นตัวในการทีจ ใชเป็ ่ ะเข ้าเรียนในบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ตทุกครัง้ และออกจากบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ิ อ่านคาแนะนาการใชบทเรี ้ โดยให ้นิสต ยนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ิ ไม่เข ้าใจในสว่ นต่างๆ ของเว็บ ทีผ ่ ู ้วิจัยสร ้างขึน ้ ในกรณีทน ี่ ส ิ ต สามารถสอบถามมายังผู ้วิจัยซงึ่ เป็ นผู ้ดูแลเว็บสอบถามอาจารย์ ผู ้สอน หรือสนทนากับผู ้เรียนด ้วยกันผ่านทางสว่ นประกอบต่างๆ ของเว็บได ้แก่ (Webboard0ม ห ้องสนทนา (Chat Room), จดหมายอิเล็กทรอนิกส ์ (E-maail) ิ เรียนรู ้ด ้วยตนเองโดยใชบทเรี ้ 2.2 ให ้นิสต ยนบทเรียนบน ้ ตาราง 2 แสดงรายละเอียดเก่ยวกับการเรียนการสอนดดยใชบทเรี ยนบ ครัง้ เนือ ้ หาวิชา 1 เรียนเกีย ่ วกับ สถิตบ ิ รรยาย จานวน 1 เรือ ่ ง ได ้แก่ ่ ว่ นกลาง 1.การวัดแนวโน ้มเข ้าสูส 2.การกาหดนตาแหน่งของข ้อมูล 3.การวัดการกระจาย ั พันธ์อย่างง่ายและทาแบบฝึ กหัด 4.สหสม ทุกเรือ ่ ง 2 เรียนเกีย ่ วกับ สถิตอ ิ ้างอิง จานวน 2 เรือ ่ ง ได ้แก่ 1.การทดสอบสมมุตฐ ิ าน 2.การดทสอบค่าเฉลีย ่ และทาแบบฝึ กหัด ทุกเรือ ่ ง 3 เรียนเกีย ่ วกับ สถิตอ ิ ้างอิง จานวน 2 เรือ ่ ง ได ้แก่ 3. เมือ ่ เรียนจบบทเรียนแล ้วทาการ ทดสอบหลังเรียน (Posttest) ทันที โดยใช ้ ั ฤทธิท แบบทดสอบวัดผลสม ์ างการเรียน เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย การวิเคราะห์ข ้อมูล สาหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในขัน ้ ตอนการทดลอง ้ ใชบทเรี ยนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ผู ้วิจัยทา การวิเคราะห์ข ้อมูล ดังนี้ 1.นากระดาษคาตอบของนิสตมาตรวจให ้ ้ คะแนน โดยใชคะแนน 1 คะแนนสาหรับข ้อ ทีต ่ อบถูก และให ้ 0 คะแนน สาหรับข ้อที่ ตอบผิด หรือตอบมากกว่า 1 คาตอบ หรือไม่ตอบ ิ ทัง้ หมดมาหาค่าเฉลีย 2.นาคะแนนของนิสต ่ และค่าเบีย ่ งเบนมาตรฐาน ั ฤทธิท 3.เปรียบเทียบผลสม ์ างการเรียนด ้วย การทดสอบความมีนัยสาคัญของความ แตกต่างระหว่างค่าเฉลีย ่ ทีไ่ ด ้จากการ ทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียยด ้วยบทเรียน ้ ต ิ Tบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต โดยใชสถิ test dependent เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย 1.การประเมินบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ้ มีจด ุ มุง่ หมายเพื อประเมินผลการใชบทเรี ยนบน ้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต โดยผู ้วิจัยใชแบบประเมิ นที่ สร ้างขึน ้ ตามกรอบแนวคิดในการระเมินเว็บไซต์ ึ ษาของเนคเทค ซงึ่ แบ่งออกเป็ น 4 ด ้าน การศก ดังนี้ ประเมินด ้านการออกแบบเว็บไซต์ ประเมิน เกีย ่ วกับการออกแบบโฮมเพจความเหมาะสมของ ี วั อักษร สพ ี น ตัวอักษรทีใ่ ช ้ สต ื้ หลัง ขนาด ั เจนของภาพและ ตัวอักษร ภาพกราฟฟิ ก ควมชด ี งประกอบ ภาษาทีใ่ ชส้ อ ื่ ความหมาย สย 2.ประเมินด ้านการออกแบบการสอน ประเมิน เกีย ่ วกับ สามารถเรียนรู ้ได ้ด ้วยตนเอง อุปกรณ์ ่ ห ้องสนทนา เป็ นต ้น เวลา สนับสนุนการเรียน เชน ้ ทีใ่ ชในการเรี ยน แบบฝึ กหัดการเฉลยคาตอบ และ ึ ษาค ้นคว ้าจากเว็บไซต์อน การศก ื่ ๆ 3.ประเมินด ้านเนือ ้ หา ประเมินเกีย ่ วกับความถุกต ้อง ตามหลักวิชาของเนือ ้ หาความเหมาะสมของการ นาเสนอเนือ ้ หาในแต่ละเรือ ่ ง การออกแบบเนือ ้ หา ง่านต่อการเรียนรู ้และเนือ ้ หามีความเหมาะสมกับ ผู ้เรียน 4.ประเมินด ้านเทคนิคในการพัฒนาเว็บไซต์ ั เจน สะดวกต่อการใช ้ ประเมินเกีย ่ วกับปุ่ มต่างๆ ชด ื่ มโยงเกสาร (Link) ความสามารถในการเชอ ภายในบทเรียน และภาพนอกบทเรียนให ้ข ้อมูลได ้ รวดเร็ว แหล่งข ้อมูล คือ ิ ทีล นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย ึ ษา 2547 (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ปี การศก (ระบบเอกภาพ) จานวน 29 คน ้ ึ ษาค ้นคว ้า คือ เครือ ่ งมือทีใ่ ชในการศ ก แบบประเมินบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย วิธด ี าเนินการสร ้างเครือ ่ งมือ ึ ษาเอกสาร งานวิจัยทีเ่ กีย ศก ่ วข ้อง และกรอบแนวคิดการ ึ ษาของเนคเทค ประเมินเว็บไซต์ทางการศก ้ 2.ผู ้วิจัยสร ้างแบบประเมินขึน ้ เองโดยใชมาตราส ว่ น ประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ และการ ้ สร ้างข ้อคาถามในแต่ละข ้อ ผู ้วิจัยใขชกรอบแนวคิ ด ึ ษาของเนคเทค ซงึ่ การประเมินเว็บไซต์ทางการศก มีทงั ้ หมด 4 ด ้านคือ ด ้านการออกแบบเว็บไซต์ ด ้านการออกแบบ การสอน ด ้านเนือ ้ หา และด ้าน เทคนิคในการพัฒนาเว็บไซต์ 3.นาแบบประเมินทีส ่ ร ้างเสร็จแล ้วให ้ทีป ่ ระธานที่ ปรึกษาวิทยนิพนธ์ และกรรมการทีป ่ รึกษา วิทยานิพนธ์ พิจารณาตรวจสอบแล ้วนามาปรับปรุง แก ้ไข ้ นเครือ 4.จัดพิมพ์แบบประเมิน แล ้วนาไปใชเป็ ่ งมือ ในการเก็บรวบรวมข ้อมูล การเก็บรวบรวมข ้อมูล ิ้ การทดลอง ผู ้วิจัย 1.หลังจากเสร็จสน ิ ทีเ่ รียนด ้วย แจกแบบประเมินให ้กับนิสต บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต 2.นาแบบประเมินบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต มาตรวจให ้คะแนน และ วิเคราะห์ข ้อมูล 1. นาแบบประเมินมาตรวจให ้คะแนน โดยมีการให ้ คะแนน ดังนี้ ความคิดเห็นอยูใ่ นระดับมากทีส ่ ด ุ ให ้ คะแนน 5 ความคิดเห็นอยูใ่ นระดับมาก ให ้ คะแนน 4 ความคิดเห็นอยูใ่ นระดับปานกลาง ให ้ คะแนน 3 ความคิดเห็นอยูใ่ นระดับน ้อย ให ้ คะแนน 2 ความคิดเห็นอยูใ่ นระดับน ้อยทีส ่ ด ุ ให ้ คะแนน 1 2. นาแบบประเมินมาวิเคราะห์หาค่าเฉลีย ่ และสว่ น เบีย ่ งเบนมาตรฐาน แล ้วนามา เปรียบเทียบกับเกรพ์ดงั นี (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2533. หน ้า 138) ค่าเฉลีย ่ 4.50-5.00 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะสมมากทีส ่ ด ุ ค่าเฉลีย ่ 3.50-4.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะมาก ค่าเฉลีย ่ 2.50-3.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะปานกลาง ค่าเฉลีย ่ 1.50-2.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะน ้อย ค่าเฉลีย ่ 1.00-1.49 หมายถึง บทเรียนมีความเหมาะน ้อยทีส ่ ด ุ ้ สถิตท ิ ใี่ ชในการหาคุ รภาพเครือ ่ งม 1.1 ตรวจสอบความสอดคล ้องของ ั ฤทธิท แบบทดสอบผลสม ์ างการเรียน เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลใน การวิจัย โดยหาค่าดัชนีความสอดคล ้อง ระหว่างจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับ แบบทดสอบ (Index fo Congruence) ซงึ่ มีสต ุ รดังนี้ (เทียม จันท์ พานิชย์ผลิตไชยฐ 2539. หน ้า 181) เมือ IOC คือ ค่าความสอดคล ้องของ ั ฤทธิท แบบทดสอบผลสม ์ างการเรียน ี่ วชาญ ∑R คือ ผลรวมความคิดเห็นของผู ้เชย ี่ วชาญ N คือ จานวนผู ้เชย โดยกาหนดเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ + 1 เมือ ่ แน่ใจว่าจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับ แบบทดสอบมีความเหมาะสม 0 เมือ ่ ไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม กับแบบทดสอบมีความเหมาะสม -1 เมือ ่ แน่ใจว่าจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับ แบบทดสอบมีความเหมาะสม 1.2 ตรวจสอบความสอดคล ้องของเนือ ้ หา เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย โดยหาค่าดัชนี ความสอดคล ้องระหว่างจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับ เนือ ้ หา (Index of Congruence) ซงึ่ มีสต ู รดังนี้ (เทียม จันทร์ พานิชย์ผลินไชย, 2539, หน ้า 181) IOC = ∑R N เมือง IOC คือ ค่าความสอดคล ้องของเนือ ้ หา เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ข ้อมูลในการวิจัย ี่ วชาญ ∑R คือ ผลรวมความคิดเห็นของผู ้เชย ี่ วชาญ N คือ จานวนผู ้เชย โดยกาหนดเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ + 1 เมือ ่ แน่ใจว่าจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับแบบทดสอบมีความ เหมาะสม 0 เมือ ่ ไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ เชงิ พฤติกรรมกับแบบทดสอบมีความ เหมาะสม -1 เมือ ่ แน่ใจว่าจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับแบบทดสอบมีความ เหมาะสม ิ ธิภาพของบทเรียนบน หาประสท เครือข่ายอินเตอรืเน็ ต E1/E2 (ชยั ยงค์ พรหมวงศ,์ 2532 หน ้า 495) ซงึ่ มีสต ู รดังนี้ ∑x E1 = N x100 A ∑F E2 = N x100 B เมือ ่ E1 คือ ร ้อยละ ของคะแนนเฉลีย ่ การทา แบบฝึ กหัดของบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต E2 คือ ร ้อยละของคะแนนเฉลีย ่ ของการ ทดสอบหลังเรียนทีเ่ รียนด ้วยบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต ∑x คือ คะแนนรวมจากการทาแบบฝึ กหัด ของบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ∑F คือ คะแนนรวมจากการสอบหลังเรียนที่ เรียนด ้วยบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต A คือ คะแนนเต็มการทาแบบฝึ กหัด ทบทวน B คือ คะแนนเต็มจากการทดสอบหลัง เรียน N คือ จานวนผู ้เรียน ั ฤทธิ์ 1.4 การหาค่าความยากของแบบทดสอบผลสม ทางการเรียนวิชาระเบียบวิธวี จ ิ ัยเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ซงึ่ มีสต ู ร ดังนี้ (ล ้วน สายยศ และอังคณา สายยศ, 2538. หน ้า 182-185) เมือ ่ P คือ ค่าความยาก R คือ จานวนผู ้ทีต ่ อบถูก N คือ จานวนผู ้เข ้าสอบทัง้ หมด บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข ้อมูล ในการวิจัยครัง้ น ้มีจด ุ มุง่ หมาย หลัก เพือ ่ พัฒนาบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัยได ้นาเสนอ ผลการวิเคราะห์ข ้อมูลตามขัน ้ ตอนดังนี้ ขัน ้ ตอนที่ 1 ผลการสร ้างและหา ิ ธิภาพของบทเรียนบนเครือข่าย ประสท อินเตอร์เน็ ตเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ในการวิจัยครัง้ นีผ ้ ู ้วิจัยได ้สร ้างบทเรียน บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย บรรยายจานวน 4 เรือ ่ ง และอ ้างอิง จานวน 4 เรือ ่ งดังนี้ 1.สถิตบ ิ รรยาย ่ ว่ นกลาง 1.1การวัดแนวโน ้มเข ้าสูส 1.2การกาหนดตาแหน่งของข ้อมูล 1.3การวัดการกระจาย ั พันธ์อย่างง่าย 1.4สหสม 2.สถิตอ ิ ้างอิง 2.1การทดสอบสมมุตฐิ าน 2.2การทดสอบค่าเฉลีย ่ 2.3การวิเคราห์ควาแปรปรวน 2.4การทดสอบไคสแควร์ โดยในแต่ละเรือ ่ งจะมีองค์ประกอบดังนี้ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เนือ ้ หา ตัวอย่าง แบบฝึ กหัด ิ ธิภาพของบทเรียนบน ในการสร ้าง และหาประสท เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ผู ้วิจัยนาเสนอผลการวิเคราะห์ ข ้อมูล ดังนี้ ิ จานสย 3 คน ตรวจสอบภาษา ผลจากการทีน ่ ส ิ ต รูปแบบของบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต และการ นาเสนอเนือ ้ หาพบว่า ภาษาทีใ่ ช ้ รูปแบบของบทเรียนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต และการนาเสนอเนือ ้ หา มีความ เหมาะสม ิ ธิภาพของบทเรียนบนเครือข่าย ผลการหาประสท อินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ ิ เรียนจานวน 9 คน ด ้วยบทเรียนบน วิจัย โดยให ้นิสต เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ้ ขัน ้ ตอนที่ 2 ผลการทดลองใชบทเรี ยน บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ วิจัย ในการวิเคราะห์ผลการทดลองใช ้ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ วิจัย ผู ้วิจัยได ้นาเสนอผลการวิเคราะห์ ในรูปตารางวิเคราะห์ข ้อมูล ผลการประเมินเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ้ ผู ้วิจัยใชกรอบการประเมิ นเว็บไซต์ทาง ึ ษาของเนคเทค ซงึ่ ได ้แบ่ง การศก ออกเป็ น 4 ด ้าน ได ้แก่ ด ้านการ ออกแบบเว็บไซต์ ด ้านการออกแบบการ สอน ด ้านเนือ ้ หา และด ้านเทคนิคใน การพัฒนาเว็บไซต์ โดยผู ้วิจัยได ้ นาเสนอผลการวิเคราะห์ในรูปตารางการ วิเคราะห์ข ้อมูล บทที่ 5 บทสรุป การพัฒนาเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูล ในการวิจัยมีขน ั ้ ตอนในการวิจัย 3 ขัน ้ ตอน คือ ขัน ้ ตอนที่ ิ ธิภาพของบทเรียน เรือ 1 การสร ้าง และหาประสท ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ซงึ่ ตรวจสอบความ ี ยวชาญด ้านเนือ ตรงเชงิ เนือ ้ หา โดยให ้ผุ ้เชย ้ หาสถิต ิ สาหรับการวิจัย จานวน 3 ท่าน ป ระเมินความสอดคล ้อง ี ว ระหว่างจุดประสงคืเชงิ พฤติกรรมกับเนือ ้หา และผู ้เชย ชาญด ้านคอมพิวเตอร์ จานวน 3 ท่าน ประเมินนค ิ จานวน 3 คน วามหมาะสมของบทเรียน และให ้นิสต เรียนด ้วย เพือ ่ ตรวจสอบความชเั จนของภาษา รูปแบบของ บทเรียนเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลใน การวิจัย และการนาเสนอเนือ ้หา ต่อจากนัน ้ ให ้ ิ จานวน 9 คนเรียนด ้วยเรือ นิสต ่ งสถิตส ิ าหรับการ ิ ธิภาพ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย เพือ ่ หาประสท ของเรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ ้ วิจัยตามเกณฑ์ 70/70 โดยมีเครือ ่ งมือทีใ่ ชในการ วิจัย ได ้แก่ แบบประเมินสอดคล ้องระวห่าง จุดประสงค์ เชงิ พฤติกรรมกับเนือ ้หาและแบบ ประเมินความเหมาะสมของบทเรียนเรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย สถิตท ิ ใี่ ช ้ ในการวิเคราะห์ข ้อมูล คือ ร ้อยละ ค่าลีย ่ และ สว่ นเบีย ่ งเบนมาตรฐาน สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ วิจัย เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย หลุม ่ ตัวอย่าง ได ้แก่ ิ ทีล นิสต ่ งทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบ วิธวี จิ ัย (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ ึ ษา 2547 จานวน 29 คน 1 ปี การศก ้ เครือ ่ มือทีใ่ ชในการวิ จัย คือ ั ฤทธิท แบบทดสอบวัดผลสม ์ างการเรียน ้ และสถิตท ิ ใี่ ชในการวิ เคราะห์ข ้อมูล คือ ร ้อยละ ค่าลีย ่ สว่ นเบีย ่ งเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test dependent) เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ ิ ทีเ่ รียน ด ้วย วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย นิสต บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต จานวน 29 คน ้ ึ ษา โดยใชกรอบการประเมิ นเว็บไซต์ทางการศก ของเนคเทค ทัง้ 4 ด ้าน ได ้แก่ ด ้านการออกแบบ เว็บไซต์ ด ้านการออกแบบการสอน ด ้านเนือ ้ หา และด ้านเทคนิคในการพัฒนาเว็บไซต์ เครือ ่ งมือที่ ้ ใชในการประเมิ น ได ้แก่ แบบประเมินความ ิ ทีม คิดเห็นของนิสต ่ ต ี อ ่ บทเรียนบทเรียนบน ้ เครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เครือ ่ งมือทีใ่ ชในการ ิ ประเมิน ได ้แก่ แบบประเมินคามคิดเห็นของนิสต ้ ทีม ่ บ ี ทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต สถิตท ิ ใี่ ชใน การวิเคราะห์ข ้อมูล คือ ค่าเฉลีย ่ และค่า เบีย ่ งเบนมาตรฐาน สรุปผลการวิจัย การพัมนาบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการ วิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย สรุป ผลการวิจัยได ้ดังนี้ ิ ธิภาพของ ผลการสร ้างและหาประสท บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการ วิจัย ี่ วชาญด ้าน ผลการพิจาณาความสอดคล ้องของผู ้เชย เนือ ้ หาสถิตส ิ าหรับการวิจัยจานวน 3 ท่าน ดดยพิจารณา ความสอดล ้องระหว่างจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมกับเนือ ้ า หาได ้ค่าดัชนีความสอดคล ้อง (IOC) เท่ากับ 1.00 และ เมือ ่ พิจารณาความสอดคล ้องระหว่างจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม กับแบบทดสอบ ได ้ค่าดัชนีค ้ วามสอดคล ้อง (IOC) อยูร่ ะหว่าง 0.67 ถึง 1.00 และเมือ ่ พิจาณณา ผลการประเมินความเหมาะสมของบทเรียนบนเครือข่าย ี่ วชาญด ้านคอมพิวเตอร์ จานวน อินเตอร์เน็ ต ของผู ้เชย 3 ท่าน พบว่า บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ความเหมาะสม ิ ทีล อยูใ่ นระดับมาก จากนัน ้ ให ้ นิสต ่ งทะเบียนเรียน รายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย (ระบบเอกภาค) ในภาคเรียนที่ 1 ึ ษา 2547 จานวน 3 คน บทเรียนบนเครือข่าย ปี การศก ั เจนของ อินเตอร์เน็ ต เรียงด ้วย เพือ ่ ตรวจสอบความชด ภาษา รูปแบบของ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ิ ที่ และการนาเสนอเนือ ้ หา หลังจากนัน ้ ให ้ นิสต ลงทะเบียนเรียนรายวิชาระเบียบวิธวี จิ ัย (ระบบเอกภาค) ึ ษา 2547 จานวน 9 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปี การศก เรียนด ้วย บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เพือ ่ หา ิ ธิภาพ ประสท ของ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต 2. การทดลองใช ้ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ั ฤทธ์ทางการเรียนของนิสต ิ ที่ 2.1 ผลสม เรียนด ้วย บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต มีคะแนนการ ทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียนอย่างมี นั ยสาคัญทางสถิตท ิ รี่ ะดับ 0.1 2.2 บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ิ จานวน 29 คน เรียน พบว่ ได ้ค่า เมือ ่ นไปให ้นิสต ิ ธิภาพเท่ากับ 74.50 /70.57 ซงึ่ สูงกว่าเกณฑ์ท ี่ ประสท กาหนดไว ้ 3. การประเมิน บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ิ ทีเ่ รียนด ้วย บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต มี นิสต ความคิดเห็นเกีย ่ วกับ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต ว่ามีความเหมาะสมอยูใ่ นระดับมาก และเมือ ่ พิจษราราย ด ้านปรากฎผลดังนี้ ด ้วยการออกแบบเว ้บไซต์ พบว่า รากยาปร ั เจน ระเมินความเหมาะสมสุงสุด คือ ภาพมีคความชด ี น และสพ ื้ หลังกับภาพ ตัวอักษรมีรความเหมาะสม รองลงมา คือ ความเหมาะสมของตัวอักษรทีช ่ ้ และ ี วั อักษรมีความชด ั เจนอ่านง่าย ขนาด สต ด ้านการออกแบบการสอน พบว่า รายการประเมินความเหมาะสม คือ การ เรียนด ้วยการประเมินวิชานีอ ้ านวยความ ึ าค ้นคว ้าข ้อมูลจาก สะดวกต่อการศก เว็บไซต์อน ื่ ๆ และข ้อมูลป้ อนกับแบบ เฉลยคาตอบเมือ ่ ทาเสร็จมีความรวดเร็ว และทาให ้ทราบผลการตอบว่าถูกหรือ ผิดได ้ทันทีรองลงมา คือ การเรียนด ้วย การประเมิน เรือ ่ งนีผ ้ ุ ้เรียนสามารถเรียนรู ้ ด ้วยตนเอง ด ้วยเนือ ้ หา พบว่า รายการประเมินความเหมาะสม สูงสุด คือ เนือ ้ หามีความสอดคล ้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู ้ รองลงมา คือ การนาเสนอ เนือ ้ หาแต่ละเรือ ่ ง / ตอนเหมาะสม ด ้านเทคนิคในการพัฒนาเว็บไซต์ พบว่ รายการประเมินความเหมาะสมสูงสุดคือ ความเร็วในการแสดงผลมีความเหมาะสมสามารถ ให ้ข ้อมูลได ้รวดเร็ว และความสามารถในการ ื่ มโยงเกสาร ภายในบทเรียนรองลงมาคือ เชอ ื่ โยงไปยังเว็บทีเ่ กีย ความสามารถในการเชอ ่ วข ้อง การวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย สามารถอภิปราย ผลการวิจัยได ้ดังนี้ ิ ธิภาพของ เรือ 1.การสร ้างและหาประสท ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย เรือ ่ งสถิต ิ สาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย พบว่า ิ ธิภาพของบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตที่ ประสท ิ ธิภาพ เท่ากับ 78.90/72.97 ผู ้วิจัยสร ้างขึน ้ มีคา่ ประสท ่ นีเ้ นือ ซงึ่ สุงกว่าเกรฑืทก ี่ าหนดไว ้ทีป ่ รากฎผลเชน ่ งมาจาก การมีหลักออกแบบและพัมนาบทเรียนบนเครือข่าย ิ ธิภาพ ประกอบกับการนาเข ้า อินเตอร์เน็ ตทีม ่ ป ี ระสท ้ ย ี งดนตรีนาเข ้าสุ่ บทเรียนมีความน่าสนใจ โดยใชเส บทเรียนเพือ ่ ดึงดุดให ้ผู ้เรียนให ้เกิดความสนใจในการเข ้า ึ ษาบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตอีกทัง้ การ ไปศก ออกแบบ หน ้าจอมีความสวยงาม อ่านง่าย โดยมีการออกแบบเมนู ั สนดดยจัดวางเมนูทใี่ ชบ่้ อยๆ อยู่ ทีเ่ ข ้าใจง่ายไม่สบ บริเวณสว่ นกลางของหน ้าจอ ทาให ้สามารถมองเห็นได ้ ั เจน และเมือ ชด ่ เข ้าไปในสว่ นของเนือ ้ หาของบทเรียนใน ้ อของผู ้เรียน แต่ละเรือ ่ งจะมีเมนูหลักอยูท ่ างด ้านซายมื ซงึ่ สามารถเลือกไป ในสว่ นต่างๆ ของบทเรีน และ ผู ้เรียนสามารควบคุมได ้ตลอดเวลา โดยเป็ นไปตาม หลักการออกแบบการนาเสนอทีเ่ หมาะสม, ความ ี ด ั เจน งาย เหมาะสมของตัวอักษรเกีย ่ วกับ ชนิด ขนาด สช ต่อการอ่าน ประกอเบกับบทเรียนยังมี อุปกรณ์ตา่ งๆ ที่ สนับสนุนการเรียนได ้แก่ Weboard, Chat Room, Eื่ มโยง (Links) ต่างๆ mail และการเชอ ึ ษาหาข ้อมูล และแลกเปลีย ต่างๆ เพือ ่ ให ้ผู ้เรีนได ้ศก ่ น ั พันธ์ระหว่างผู ้สอน ความคิดเห็น ซงึ่ ทาให ้เกิดการมีปฏิสม กับผู ้เรียน และผู ้เรียนกับ ผู ้เรียนด ้วยกันเอง ซงึ่ สอดคล ้องกับแนวคิดของโดเฮอร์ต ี้ (Doherty, 1998 อ ้างอิงจาก สรรรัชห์ ห่อไพศาล, 2544 หน ้า 28) ทีก ่ ล่า ั คุณลักษณะของ อินเท ว่าการเรียนผ่านเว็บจะต ้องอาศย อรเน็ ต 3 ประการคือ (1) การนาเสนอ (Presentation) ในลักษณะของเว็บไซต์ทป ี่ ระกอบไปด ้วยข ้อความ ื่ สาร (Dynamic interaction) และ กราฟฟิ ก (2) การสอ ิ ธิภาพของบทเรียนบนเครือข่าย ผลของประสท อินเตอร์เน็ ตทีผ ่ ู ้วิจัยสร ้างขึน ้ ยังสอดคล ้องกับผลการวิจัย ของคชากฤษ เหลีย ่ มไธสง (2546) ทีพ ่ บว่า บทเรียนโปรแรกมการเรียนการสอนผ่าน เว็บทีม ่ โี ครงสร ้างแบบลาดับขัน ้ มี ิ ธิภาพ เท่ากับ 87.50/80.12 ซงึ่ ประสท สูงกว่าเกณฑ์ทก ี่ าหนดไว ้ และบทเรียน โปรแกรมการเรียนการสอนผ่านเว็บทีม ่ ี ิ ธิภาพ โครงสร ้างแบบใยแมงมุมป ี ระสท เท่ากับ 86.80/80.20 ซงึ่ สูงกว่าเกรฑื? ่ เดียวกับผลการวิจัยของจิ กาหนด เชน ราภรณ์ กรกกระโทก ๖2546) พบว่า ิ ธิภาพ เท่ากับ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต มีประสท ่ กัน 89.26/80.03 สูงกว่าเกณฑ์ทก ี่ าหนดไว ้เชน ้ การทดลองใชบทเรี ยนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ ง สถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย พบว่า ั ฤทธิท ิ ทีเ่ รียนด ้วยบทเรียนบน ผลสม ์ างการเรียนของนิสต เครือข่ายอินเทอรืเน็ ตมีคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่า คะแนนการทดสอบก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิต ิ ่ นีเ้ นือ ทีร่ ะดับ .01 ทีร่ ากฎผลเชน ่ งมาจากบทเรียนผู ้ทีว่ จ ิ ัย สร ้างขึน ้ ้ ผู ้วิจัยใชโครงสร ้างเว็บแบบเครือข่ายใยแมงมุม และกาหด นองค์ประกอบของบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตตาม แนวคิดปทีป เมธาคุณวุฒ ิ (2540. หน ้า 75) ว่าควร ประกอบด ้วย ผ1) ข ้อมูลเกีย ่ วกับรายวิชาภาพรวม รายวิชา (Course Overview) แสดงวัตถุประสงค์ของ รายวิชา สงั เขปรายวิชา คาอธิบายเกีย ่ วกับหัวข ้อการ เรียนหรือหน่วยการเรียน (2) การเตรียมตัวของผู ้เรียน หรือการปรับพืน ้ ฐานผู ้เรียน (3) เนือ ้ หาบทเรียนพร ้อมทัง้ ื่ มโยงไปยังสอ ื่ สนั บสนุนต่างๆ ในเนือ การเชอ ้ หาบทเรียน นัน ้ ๆ (4) กิจกรรมทีม ่ อบหมายพร ้อมทัง้ การประเมินผล การกาหนดเวลาเรียนการสงงาน (5) แบบฝึ กหัดทีผ ่ ู ้เรียน ต ้องการฝึ กฝนตนเอง ึ ษา ค ้นคว ้า (7) ตัวอย่างแบบทดสอบ ตัวอย่าง การศก รายงาน (8) ข ้อมูลทั่วไป (Vital Information) แสดง ข ้อความทีจ ่ ะติดต่อผุ ้สอน หรือผู ้ทีเ่ ก่ยวข ้อง การ ลงทะเบียน ค่าใชจ่้ าย การได ้รับหน่วยกิจและการ ื่ มโยงไปยังสถานศก ึ ษาหรือหน่วยงาน และมีการ เชอ ื่ มโยงไปสูร่ ายละเอียดของหน่าทีเ่ กีย เชอ ่ วข ้อง (9) สว่ น ทีแ ่ สดงประวัตข ิ อง ผู ้สอนและ ผู ้ทีเ่ ก่ยวข ้อง (10) สว่ น ของการประกาศข่าว (11) ห ้องสนทนา ทีเ่ ป็ นการ สนทนาในกลุม ่ ผุ ้เรียน และผู ้สอน ประกอบกับบทเรียนบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตเป็ นมิตใิ หม่ ในการจัดการสอนทีผ ่ ุ้ เข ้าเรียนเป็ นศูนย์กลางการเรียนรู ้โดยตรง อ ้างอิง จาก สรรรัช ต์ ห่อไพศาล. 2544ม หน ้า 28-29) แลยังชว่ ย ื ค ้น สารสนเทศได ้ในลักษณะสอ ื่ ให ้ผู ้เรียนสามารถสบ ี งทาให ้เกิดความ หลายมิตท ิ เี่ ป็ นทัง้ ตัวอักษร ภาพ ละเสย เพลิดเพลินมากกว่าการอ่านแต่เพียงข ้อมูล ตัวอักษระ ื่ มโยงหลายมิตท เพียงอย่างเดียว และการเชอ ิ าให ้ผู ้เรียน เฉพาะแต่เพียงเอกสารในเครือข่ายทีท ื่ มโยง ทางานอยูเ่ ท่านัน ้ แต่สามารถเชอ ไปยังเอกสารในเครือข่ายอืน ่ ๆ ทั่วโลก ได ้ด ้วยความสะดวกรวดเร็ว (กิดานันท์ มลิทอง, 2543. หน ้า 336) และ นอกจากนี้ บุญเลิศ อรุณพิบล ู ย์ (2546ใ เว็บไซต์) ยังได ้กล่าวว่า การเรียนด ้วยบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ตจะชว่ ยให ้ผู ้เรียนทีไ่ ม่มค ี วามมั่นใจ กลัวการ ตอบคาถามตัง้ คาถาม ตัง้ ประเด ้นการเรียนรู ้ในห ้องเรียน มีความกล ้ามากกว่าเดิม เนือ ่ งจากไม่ต ้องแสดงตนต่อหน ้า ั เครือ ่ Eผู ้สอน และเพือ ่ ร่วมห ้องโดยอาศย ่ งเมือ เชน mail, Webboard, Chat Room แสดงความคิดเห็นได ้ ิ ทีเ่ รียนด ้วยบทเรียนบน อย่างอิสระ ซงึ่ จะทาให ้นิสต ั ฤทธิท เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตมีผลสม ์ างการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน ซงึ่ สอดคล ้องกับงานวิจัยของเอนก ประดิษฐพงษ์ (2545) พบว่า นักเรียนทีเ่ รียนด ้วยบทเรียน บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตชว่ ยสอนผ่านเครือข่าย ั ฤทธิ์ อินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งชวี ต ิ และวิวัฒนาการ มีผลสม ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิตท ิ รี่ ะดับ .01 ่ เดียวกับงานวิจัยของจุพารัตน์ ศรา เชน ึ ษา วะณะวงศ ์ (2543) ได ้วิจัยเพือ ่ ศก ั ฤทธิท ผลสม ์ างการเรียนบนเครือข่าย ้ อ เรือ ่ งการใชเครื ่ งมือค ้นสารสนเทศบน ั ฤทธิท อินเตอร์เน็ ต พบว่า ผลสม ์ างการ เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยสาคัญทางสถิตท ิ รี่ ะดับ .01 3. การประเมินบทเยนบทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ในการ ิ ทีม วิจัยตามความคิดเห็นของนิสต ่ ต ี อ ่ บทเรียนบนเครือข่าย ิ มีความคิดเห็นต่อบทเรียนบน อินเตอร์เน็ ต พบว่า นิสต เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตว่ามีความเหมาะสมอยูใ่ นระดับมากที่ ่ นีเ้ นือ ปรากฎผลเชน ่ งจากบทเรียนบทเรียนบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ ตออกแบบเหมาะสม กับระดับและความสนใจ ของ ผู ้เรียนรวมทัง้ สามารถให ้ข ้อมูลย ้อนกลับได ้ทันทีทา ิ สามารถเรียนรู ้ได ้ ให ้นิสต ด ้วยตนเอง ท ้าทายความสามารถของ ผู ้เรียนทาให ้ผุ ้เรียนเกิดความสนุกสนาน ในการเรียน ซงึ่ สอดคล ้องกับสรุปผล ของ ข ้อคาถามในการประเมินตามกรอบ ึ ษาของ การประเมินเว็บไซต์ทางการศก เนคเทค ทัง้ 4 ด ้าน ประกอบด ้วย ด ้านการออกแบบเว็บไซต์ ประเมิน ั เจน พืน เกีย ่ วกับภาพมีความชด ้ หลีงกับ ภาพและขนาด ส ี ตัวอักษรมีความ ั เจนอ่านง่าย ด ้านการ เหมาะสม ชด ออกแบบการสอน ประเมินเกีย ่ วกับ บทเรียนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ ตสามารถอานวยความ ึ ษาค ้นคว ้าข ้อมูลจากเว็บไซต์อน สะดวกต่อการศก ื่ ๆ และ ข ้อมูลป้ อนกับแบบเฉลยคาตอบเมือ ่ ทาเสร็จมีความ รวดเร็วทาให ้ทราบผล การตอบว่าถูกหรือผิดได ้ทันที ด ้านเนือ ้หา ประเมินเกีย ่ วกับเนือ ้ หามีความสอดคล ้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู ้ และกานาเสนอเนือ ้ หาในแต่ละ เรือ ่ ง/ตอนมีความเหมาะสม ด ้านเทคนิคในการพัฒนา เว็บไซต์ ประเมินเกีย ่ วกับการแสดงผลให ้ข ้อมูลได ้รวดเร็ว ื่ มโยง (Links) ภายในบทเรียน และการ และการเชอ ื่ มโยง (Links) ไปยังเว็บทีเ่ กีย เชอ ่ วข ้องมีความรวดเร็ว เหมาะสม ซงึ่ ผลการประเมินบทเรียน สอดคล ้องกับงานวิจัยของ จุฑารัตน์ ศราวณะวงศ ์ (2543) และพูลศรี เวสย์อฬ ุ าร (2543. หน ้า 106) เนือ ่ งจากการจัดการเรียนการสอน สามารถเรีนได ้อย่างอิสระไม่มใี ครบังคับ เรียนไปตาม ความสามารถของแต่ละคน อีกทัง้ บทเรียน การประเมินบทเรียน บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ก็ม ี ื่ มโยง ไปยัง การออกแบบให ้มีความสนใจ มีการเชอ เนือ ้ หาภายในบทเรียน และภายนอกบทเรียน ทาให ้ผุ ้ เรียนเกิดความสนุกสนาอีกทัง้ ผู ้เรียนกาลังอยุใ่ นความ สนใจ และกระตือรืร ้นต่อการใช ้ บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ในการเรียนการสอนด ้วย ทาให ้สงผล ิ ทีมต ต่อความคิดเห็นของนิสต ี อ ่ การเรียน โดยใช ้ บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ในการ เรียนการสอนด ้วย ทาให ้สง่ ผลต่อความ ิ ทีม คิดเห็นของนิสต ่ ต ี อ ่ การเรียนโดยใช ้ บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ว่ามี ความเหมาะสมมาก ข ้อเสนอแนะ ผลการพัฒนา บทเรียนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต เรือ ่ งสถิตส ิ าหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัย ผู ้วิจัยมีข ้อเสนอแนะดังนี้ ข ้อเสนอแนะสาหรับการนาบทเรียนเครือข่าย อินเทอร์เน็ ต ึ ษาควรมีการเตรียมอุปกรณืคอมพิวเตอร์ สถานศก ื่ มต่ออินเตอร์เน็ ตให ้มีศก ั ยภาพในการ ระบบการเชอ ้ ใชงาน และติดตัง้ โปรแกรม Windows Media Player เพือ ่ ทาให ้การรียนด ้วยบทเรียนบน ิ ธิภาพ เครือข่ายนัน ้ เกิดความสะดวก และมีประสท บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตทีส ่ ร ้างขึน ้ นัน ้ ใช ้ การเขียนโปรแกรมด ้วยภาษา ASP ซงึ่ ภาษา ื่ ต่อ ASP สามารถทางานได ้ดีกบ ั ระบบการเชอ เครือข่าย Window Sever NT ถ ้าเป็ นระบบอืน ่ ค่อนข ้างจะมีปัญหาในการแสดงออก ้ เวลาทีใ่ ชในการเรี ยนการสอนด ้วยบทเรียน เครือข่ายอินเทอร์เน็ ต สามารถกาหดนให ้เพือ ่ มาก ขึน ้ ได ้ เพราะเนือ ้ หาสถติสาหรับการวิเคราะห์ ข ้อมูลในการวิจัยนัน ้ มีคอ ่ น ข ้อเสนอแนะสาหรับการวิจัยครัง้ ต่อไป ควรมีการวิจัยคุณลักษระของผู ้เรียนทีเ่ หมาะสมกับ การเรียนด ้วยบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตในด ้าน ่ ความกล ้าแสดงออก ความเป็ นนา อืน ่ ๆ เชน ื่ มั่นในตนเอง และ ความรับผิดชอบ ควมเชอ ั ฤทธิ์ เป็ นต ้น แรงจูงใจใฝ่ สม ควรมีการวิจัยถึงปั ยหาและผลกระทบทีม ่ ต ี อ ่ ผู ้เรียน ึ ษาทีก ผู ้สอน และสถานศก ่ าหนดให ้มีการเรียนการ สอนด ้วยบทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต ั พันธ์เชงิ สาเหตุ ทีส ควรมีการวิจัยถึงความสม ่ ง่ ผล ิ ธิภาพในการจัดการเรียนการสอนด ้วย ต่อประสท บทเรียนเครือข่ายอินเทอร์เน็ ต