วิโรจน์ 7 มิย.55

Download Report

Transcript วิโรจน์ 7 มิย.55

๑. เหตุผลความจาเป็ น
๒. กฎหมาย/ระเบียบที่เกีย่ วข้ อง
๓. คาอธิบายศัพท์
๔. การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
๕. วิธีการและระยะเวลาการยืน่ บัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
๖ . การกรอกแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย ( บช.๑ )
๗. การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
๘. การขึน้ บัญชีรายชื่อผู้ขาดคุณสมบัตแิ ละการสั่ งเพิกถอน
๙. มาตรการเพือ่ ให้ หน่ วยงานของรัฐปฏิบัติ
2
 การจัดหาพัสดุของหน่ วยงานรัฐใช้ เงินของแผ่นดิน(งบประมาณ
เงินกู้ เงินช่ วยเหลือ หรือรายได้ ของหน่ วยงานรัฐ)
 การดาเนินการทีผ่ ่ านมามีการทุจริตแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบ
ทาให้ รัฐเสี ยหาย
 มีการสมยอมในการเสนอราคา ไม่ แข่ งขันอย่ างเป็ นธรรม จ่ ายเงิน
ให้ เจ้ าหน้ าทีร่ ัฐเพือ่ ให้ ได้ เป็ นคู่สัญญา
 นักการเมือง เจ้ าหน้ าทีร่ ัฐมีส่วนร่ วมหรือสนับสนุนการทา
ความผิด ละเว้ นไม่ ปฏิบัติหน้ าที่
 เพือ่ ประโยชน์ ในการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีเงินได้
3
๑. การเปิ ดเผยราคากลางและการค านวณราคากลางไว้ ใ น
ระบบข้ อมู ลทางอิเล็กทรอนิก ส์ (อยู่ ระหว่ างการพิจารณา
ของคณะรัฐมนตรี)
๒. บุคคลหรื อนิติบุคคลซึ่ งเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรั ฐ
ยืน่ บัญชีแสดงรายรับรายจ่ ายของโครงการต่ อกรมสรรพากร
(บังคับใช้ วนั ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕)
4
๑. พระราชบัญญัติประกอบรั ฐธรรมนู ญว่ าด้ วยการป้องกันและ
ปราบปรามดารทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔
มาตรา ๑๐๓/๗
๒. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ งชาติ
เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทาและแสดงบัญชี รายการรับจ่ ายของโครงการที่
บุคคลหรือนิติบุคคลเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๔
๓. ประกาศคณะกรรมการป้ องกัน และปราบปรามการทุจ ริ ต
แห่ งชาติ เรื่ อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทาและแสดงบัญชี รายการรั บจ่ าย
ของโครงการที่บุคคลหรื อนิติบุคคลเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรั ฐ (ฉบับ
ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔
5
มาตรา ๑๐๓/๗ ให้ หน่ วยงานของรัฐดาเนินการจัดทาข้ อมูลรายละเอียด
ค่ าใช้ จ่ายเกีย่ วกับการจัดซื้อจัดจ้ างโดยเฉพาะราคากลางและการคานวณราคากลาง
ไว้ ในระบบข้ อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพือ่ ให้ ประชาชนสามารถเข้ าตรวจดูได้
เพื่อประโยชน์ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในกรณีที่มีการ
ทาสั ญญาระหว่ างหน่ วยงานของรั ฐกับบุคคลหรื อนิติบุคคลที่เป็ นคู่สัญญากับ
หน่ วยงานของรั ฐ ให้ บุคคลหรื อนิติบุคคลที่เป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรั ฐ
นั้น มีหน้ าทีแ่ สดงบัญชีรายการรับจ่ ายของโครงการที่เป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงาน
ของรัฐต่ อกรมสรรพากร นอกเหนือจากบัญชี งบดุลปกติที่ยื่นประจาปี เพื่อให้ มี
การตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้ จ่ายเงินและการคานวณภาษีเงินได้ ในโครงการที่
เป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐดังกล่ าว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการ
ป.ป.ช. กาหนด
6
นอกจากกรณี ต ามวรรคหนึ่ ง หรื อ วรรคสอง ในกรณี ที่
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็ นสมควร เพื่อดาเนิ นการอย่ างใดอย่ าง
หนึ่งอันเป็ นการป้องกันและปราบปรามการทุจริ ต เนื่องจากการใช้
อ านาจหน้ า ที่ ข องเจ้ า หน้ า ที่ ข องรั ฐ ซึ่ ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.
เห็นสมควรในการกาหนดมาตรการเพื่อให้ หน่ วยงานของรั ฐรั บไป
ปฏิบัติ ให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอานาจสั่ งให้ หน่ วยงานของรั ฐ
นั้นดาเนินการไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กาหนดมาตรการใน
เรื่องนั้นแล้ วรายงานให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบก็ได้ (วรรคสี่ )
7
คู่สญ
ั ญา หมายถึง บุคคลหรือนิ ติ
บุคคลที่เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
บุคคลธรรมดา
นิ ติบุคคล
8
๑. กระทรวง ทบวง กรม เป็ นการบริหารราชการส่ วนกลาง
ตามพระราชบัญญัตปิ รับปรุ ง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕
และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่ นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔
• สานักนายกรัฐมนตรี
• กระทรวง หรือทบวงซึ่งมีฐานะเทียบเท่ ากระทรวง
• กรม หรือส่ วนราชการทีเ่ รียกชื่ออย่ างอืน่ และมีฐานะเป็ น
กรม ซึ่งสั งกัดหรือไม่ สังกัดสานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง
หรือทบวง
9
๒. ราชการส่ วนภูมิภาค
• จังหวัด อาเภอ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่ นดิน พ.ศ.๒๕๓๔
• ตาบล หมู่บ้าน ตามพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้ องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗
๓. ราชการส่ วนท้ องถิ่น
• กรุงเทพมหานคร
• เมืองพัทยา
• องค์ การบริหารส่ วนจังหวัด
• เทศบาล
• องค์ การบริหารส่ วนตาบล
10
๔. รัฐวิสาหกิจ หมายถึง องค์ การของรัฐบาลหรือหน่ วยงานธุรกิจ
ที่รัฐบาลเป็ นเจ้ าของ หรือรัฐ มีทุนอยู่เกินกว่ าร้ อยละห้ าสิ บ รวมทั้งบริษัท
จากัด และห้ างหุ้ นส่ วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจมีทุนอยู่
ด้ วยเกินร้ อยละห้ าสิ บตามกฎหมายว่ าด้ วยวิธีการงบประมาณ
๕. องค์ การมหาชน หมายถึง หน่ วยงานของรัฐที่รับผิดชอบบริ การ
สาธารณะทางสั งคมและวัฒนธรรม เช่ น การศึกษา การวิจัย การฝึ กอบรม เป็ น
ต้ น โดยไม่ มี วั ต ถุ ป ระสงค์ ในการแสวงหาก าไรซึ่ งอาจจั ด ตั้ งตาม
พระราชบั ญญั ติ องค์ การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ หรื อองค์ การมหาชนที่ มี
พระราชบัญญัติจัดตั้งเป็ นการเฉพาะ
11
๖ . หน่ วยงานธุรการขององค์ กรตามรัฐธรรมนูญ
(๑) หน่ วยงานธุรการขององค์ กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ คือ
• สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
• สานักงานผู้ตรวจการแผ่ นดิน
• สานักงาน ป.ป.ช.
• สานักงานการตรวจเงินแผ่ นดิน
(๒) หน่ วยงานธุรการขององค์ กรอืน่ ตามรัฐธรรมนูญ
• สานักงานอัยการสู งสุ ด
• สานักงานคณะกรรมการสิ ทธิมนุษยชนแห่ งชาติ
• สานักงานสภาทีป่ รึกษาเศรษฐกิจและสั งคมแห่ งชาติ
12
๗. หน่ วยงานอืน่ ของรัฐ
ได้ แก่ หน่ วยงานของรัฐซึ่งมิได้ อยู่ในรู ปแบบข้ างต้ นโดยอาจเป็ นส่ วนราชการซึ่งมิได้ อยู่
ภายใต้ การบังคับบัญชาหรือกากับดูแลของฝ่ ายบริหาร หรือเป็ นหน่ วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึน้ ตาม
กฎหมาย ตามมติ ค.ร.ม. เพือ่ ทาหน้ าที่ในการควบคุมกากับดูแลกิจกรรมของรัฐซึ่งจะมีฐานะเป็ น
นิตบิ ุคคลหรือไม่ กไ็ ด้ ดังนี้
• สานักงานเลขาธิการวุฒสิ ภา และสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
• หน่ วยงานธุรการของศาล
• หน่ วยงานที่รัฐธรรมนูญกาหนดให้ มกี ารจัดตั้งขึน้ เช่ น สานักงานคณะกรรมการ
กิจการกระจายเสี ยงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่ งชาติ สภาพัฒนา
การเมือง สภาเกษตรกรแห่ งชาติ สานักงานปฏิรูปกฎหมาย
• หน่ วยงานซึ่งเป็ นหน่ วยบริการรู ปแบบพิเศษตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย
การบริหารงานของหน่ วยบริการรู ปแบบพิเศษ ได้ แก่ สถาบันส่ งเสริมการบริหาร
กิจการบ้ านเมืองที่ดี สานักพิมพ์ คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา
13
• สถาบันอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยในกากับภาครัฐ
๘. หน่ วยงานอืน่ ใดทีด่ าเนินกิจการของรัฐตามกฎหมายและได้ รับเงิน
อุดหนุนหรือทรัพย์ สินลงทุนจากรัฐ
ได้ แก่ กองทุนทีเ่ ป็ นนิติบุคคล ทีจ่ ัดตั้งขึน้ โดยตราเป็ นพระราชบัญญัติ
โดยการดาเนินงานของกองทุนจะได้ รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล และเงินสมทบ
จากกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ เช่ น พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่ งชาติ พ.ศ.
๒๕๕๔ กองทุนบาเหน็จบานาญข้ าราชการ เป็ นต้ น
ไม่ รวมถึงหน่ วยงานอืน่ ใดทีจ่ ัดตั้งขึน้ ในลักษณะเป็ นองค์ กรวิชาชีพ เช่ น
สภาวิชาชีพบัญชี สภาทนายความ เป็ นต้ น
14
หมายความว่ า บัญชีแสดงรายการรับจ่ ายเงินของ
โครงการตามสั ญญา ตามแบบ บช.๑ ที่บุคคลหรือนิตบิ ุคคล
ซึ่งเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐต้ องจัดทาและยืน่ ต่ อ
กรมสรรพากร
15
๑. สัญญาทีเ่ กีย่ วกับการจัดหาพัสดุหรือการพัสดุ (ไม่ รวมถึงสัญญา
ทางธุรกิจ หรือเป็ นสั ญญาทีเ่ กีย่ วกับการแสวงหารายได้ ของหน่ วยงานของรัฐที่
ไม่ ได้ ใช้ ระเบียบ ข้ อบังคับพัสดุ)
๒. สั ญญาสั มปทาน
(๑) สั ญญาทีร่ ัฐอนุญาตให้ เอกชนลงทุนในกิจการด้ านสาธารณูปโภค
หรือการบริการสาธารณะ อย่ างหนึ่งอย่ างใดด้ วยค่าใช้ จ่ายของตนเองและให้
เอกชนคู่สัญญามีสิทธิเรียกเก็บค่ าบริการจากประชาชนทีม่ าใช้ บริการนั้นเป็ น
ค่ าตอบแทนภายในกาหนดระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง และรัฐจะได้ รับ
ค่ าตอบแทนจากเอกชนทีม่ ีรายได้ จากการลงทุน เช่ น สั ญญาสั มปทานทางหลวง
สั ญญากิจการโทรคมนาคม สั ญญาสั มปทานทางด่ วนพิเศษ
16
(๒) สั ญญาทีร่ ัฐให้ เอกชนร่ วมลงทุนตามพระราชบัญญัติ ว่ าด้ วยการ
ให้ เอกชนเข้ าร่ วมงานหรือดาเนินกิจการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งเป็ น
กรณีทรี่ ัฐร่ วมลงทุนกับเอกชนไม่ ว่าโดยวิธีใด หรือมอบให้ เอกชนลงทุนใน
กิจการทีห่ น่ วยงานของรัฐต้ องดาเนินการตามอานาจหน้ าทีแ่ ละตามกฎหมายที่
เกีย่ วกับการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติหรือทรัพย์ สินของรัฐ
(๓) สั ญญาทีร่ ัฐอนุญาตให้ เอกชนคู่สัญญาแสวงประโยชน์ จาก
ทรัพยากรธรรมชาติ เช่ น สั ญญาสั มปทานปิ โตรเลียม สั ญญาสั มปทานรั งนก
อีแอ่น สั ญญาสั มปทานทรัพยากรแร่ เป็ นต้ น
17
๓. สั ญญาให้ ทุนสนับสนุนเพือ่ การวิจัย
สั ญญาที่หน่ วยงานของรั ฐตกลงให้ ทุนสนับสนุนเพื่อการค้ นคว้ า
โดยการทดลอง สารวจ หรื อการศึ กษาตามหลักวิชาการเพื่อให้ ได้ ข้ อมูล
ความรู้ รวมทั้งการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และกระบวนการต่ างๆ อันจะสามารถ
นามาใช้ เป็ นประโยชน์ ทาง เศรษฐกิจ สั งคม วิชาการ หรือเป็ นพื้นฐานของ
การพัฒนาประเทศในด้ านต่ างๆ ต่ อไป
18
๔. สั ญญาให้ ทุนสนับสนุนเพือ่ ดาเนินกิจกรรมอย่ างใดอย่ างหนึ่ง
คือ สั ญญาที่หน่ วยงานของรั ฐให้ ทุน สนั บสนุ น แก่ ผู้ รั บเงิ นหรื อ
คู่สัญญาโดยมีเงื่อนไขหรื อข้ อตกลงให้ ดาเนินกิจกรรมอย่ างใดอย่ างหนึ่ ง
เช่ น สานักงาน ป.ป.ช. ให้ เงินแก่ กลุ่มองค์ กรเอกชนเพื่อนาไปจัดกิจกรรม
ต่ อต้ านการทุจริต เป็ นต้ น
สั ญญาให้ ทุนสนับสนุนนี้ หมายความรวมถึง กรณีที่หน่ วยงานของ
รั ฐให้ เงิน หรื อทุนอัน มีลักษณะเป็ นการให้ เพื่อให้ บุคคลหรื อนิ ติบุคคลไป
ดาเนินกิจกรรมอย่ างใดอย่ างหนึ่งซึ่งเป็ นกิจกรรมของเอกชนนั้ นด้ วย เช่ น
กรณีรัฐวิสาหกิจให้ เงินสนับสนุนการแข่ งขันกีฬา การจัดแสดงดนตรี ฯ
*** ต้ องเป็ นสั ญญาทีจ่ ัดทาตั้งแต่ วนั ที่ ๑ เม.ย. ๕๕ เป็ นต้ นไป
19
จานวนเงินทีค่ ู่สัญญาได้ รับจากหน่ วยงานของรัฐ อันเนื่องจากการ
ได้ ปฏิบัติตามสั ญญาหรือเกีย่ วเนื่องกับสั ญญา หรือรายรับอื่นๆ ที่กาหนดไว้
ให้ คู่สัญญาได้ รับ เช่ น
กรณีสัญญาทีเ่ กีย่ วกับการจัดซื้อจัดจ้ าง รายรับนีไ้ ด้ แก่เงินทีค่ ู่สัญญา
ได้ รับตามสั ญญา
กรณีสัญญาสั มปทาน รายรับ เช่ น รายรับทีค่ ู่สัญญาได้ รับอันเกิดจาก
การประกอบกิจการทีไ่ ด้ รับสั มปทาน
20
จ านวนเงิ น ที่ คู่ สั ญ ญาได้ จ่ า ยไปทั้ ง สิ้ น เพื่ อ การ
ปฏิ บั ติ ใ ห้ เป็ นไปตามสั ญ ญาหรื อ เกี่ ย วเนื่ อ งกั บ สั ญ ญา
(ประเภทของรายจ่ ายปรากฏตามแบบแนบท้ า ยประกาศ
ตามแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑))
21
๑. ผู้มีหน้ าทีย่ นื่ บัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
คือ ผู้ทเี่ ป็ นคู่สัญญา
(๑) บุคคลธรรมดา
(๒) นิติบุคคล
(๓) กิจการร่ วมค้ า (Joint Venture)
(๔) Consortium ให้ แต่ ละรายแยกยืน่ แบบ บช.๑
ตามสั ดส่ วนงานของตน (แต่ ใช้ มูลค่าสั ญญารวมว่ าถึง
๒ ล้านบาทหรือไม่ )
(๕) นิติบุคคลต่ างประเทศ
(๖ ) มูลนิธิ สมาคม
22
มูลค่ าของสั ญญา
ใช้ บั ง คับ กับสั ญ ญาที่ มู ล ค่ า ตั้ง แต่ ๕๐๐,๐๐๐ บาท
(ห้ าแสนบาท) ขึน้ ไป เว้ นแต่ ในช่ วงระยะเวลาปี แรก คือ ตั้ งแต่
วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ใช้ บังคับกับ
สั ญญา ที่มีมูลค่ าตั้งแต่ ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้ านบาท) ขึน้ ไป
(ใช้ บังคับชั่วคราวเป็ นเวลา ๑ ปี )
23
ข้ อยกเว้ นการจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
๑. ไม่ ใช้ บังคับกับสั ญญาที่ได้ ทาก่อนวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เว้ นแต่ มีการแก้ไข
สั ญญาดังกล่าวภายหลังประกาศนีม้ ีผลใช้ บังคับในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญ เช่ น
(๑) ข้ อตกลงเรื่องรู ปแบบ ปริมาณ จานวนทีม่ ผี ลให้ มกี ารเพิม่ วงเงิน
(๒) การขยายระยะเวลาสั มปทาน
(๓) การแก้ไขเปลีย่ นแปลงสิ ทธิประโยชน์ เกีย่ วกับการสั มปทาน
• สั ญญาเดิม ๒ ล้านบาท แก้ไขเพิม่ เป็ น ๒.๑ ล้านบาท
• สั ญญาเดิม ๑.๘ ล้านบาท แก้ไขเพิม่ เป็ น ๑.๙ ล้านบาท
*** ให้ ยนื่ แบบ บช. ๑ โดยแสดงรายรับรายจ่ ายนับแต่ วนั ที่มีการแก้ไขสั ญญา ไม่ ใช่ เฉพาะ
วงเงินทีเ่ พิม่
24
ข้ อยกเว้ นการจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
(ต่ อ)
๒. ไม่ ใช้ บังคับกับกรณีคู่สัญญาทีเ่ ป็ นหน่ วยงานของรัฐ เว้ นแต่
คู่สัญญานั้นเป็ นหน่ วยงานของรัฐซึ่งมีหน้ าทีย่ นื่ แบบแสดงรายการภาษี
เงินได้ นิติบุคคล เช่ น บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย
จากัด (มหาชน) เป็ นต้ น
25
ข้อยกเว้นการใช้บงั คับ (ต่อ)
๓. ไม่ใช้บงั คับกับคู่สญ
ั ญาที่เป็ นนิ ติบคุ คลที่ตงั้ ขึ้ น
ตามกฎหมายต่างประเทศ และไม่มีตวั แทนหรือผูแ้ ทนใน
ประเทศ แต่มีการส่งมอบหรือให้บริการในประเทศ และ
หน่ วยงานของรัฐได้ชาระเงินตามสัญญาให้แก่ค่สู ญ
ั ญา
ออกไปต่างประเทศโดยตรง
๑. ให้ คู่สัญญาบันทึกรายรับรายจ่ ายของสั ญญาที่เกิดขึน้ ในแต่ ละรอบระยะเวลา
บัญชี หรื อรอบปี ภาษี เป็ นรายโครงการ แต่ ไม่ ต้องยื่นต่ อกรมสรรพากร และให้ เก็บรั กษา
บัญชีพร้ อมเอกสารหลักฐานประกอบไว้ ณ สถานประกอบการ หรือที่อยู่อาศัยของคู่สัญญา
เป็ นระยะเวลาไม่ น้อยกว่ า ๕ ปี นับแต่ วันสิ้ นสุ ดระยะเวลาสั ญญา หรื อการตรวจสอบหรื อ
ไต่ สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสร็จสิ้น
๒. ให้ คู่สัญญารั บจ่ ายเงินผ่ านบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน เว้ นแต่ รับจ่ ายเงินแต่
ละครั้งซึ่งมีมูลค่ าไม่ เกินสามหมื่นบาท สามารถรับจ่ ายเป็ นเงินสดก็ได้
๓. กรณี ที่ ห น่ ว ยงานของรั ฐ ซึ่ ง ได้ ด าเนิ น การจั ด ซื้ อ จั ด จ้ า งด้ ว ยระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Procurement : e-GP) บุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้ ามาเป็ น
คู่สัญญากับหน่ วยงานของรั ฐดังกล่ าวต้ องลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของเว็บไซต์
ศูนย์ ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้ างภาครัฐ กรมบัญชีกลาง
27
วิธีการยืน่
๑. ยืน่ ผ่านทางอินเทอร์ เน็ต
๒. ยืน่ เป็ นรายสั ญญา
ระยะเวลาการยืน่
๑. กรณีบุคคลธรรมดาเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ
(๑) หากการรับจ่ ายเงินตามสั ญญาทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในปี เดียวกันให้
ยืน่ พร้ อมกับการยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา
(๒) หากการรับจ่ ายเงินตามสั ญญาทั้งหมดมิได้ เสร็จสิ้นภายในปี ภาษี
เดียวกัน ให้ ยนื่ แบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย (บช.๑) ทีเ่ กิดขึน้ ในแต่ ละปี ภาษี
พร้ อมกับการยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาของปี ภาษีน้ัน
28
๒. กรณี นิตบิ ุคคลเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ
(๑) กรณีการรับจ่ ายเงินตามสั ญญาทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในรอบ
ระยะเวลาบัญชีเดียวกันให้ ยนื่ แบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย (บช.๑) เมือ่ สิ้นสุ ด
รอบระยะเวลาบัญชีพร้ อมกับการยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ นิติบุคคล
ของรอบระยะเวลาบัญชีน้ัน
(๒) กรณีการรับการจ่ ายเงินตามสั ญญาทั้งหมดมิได้ เสร็จสิ้นภายใน
รอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน ให้ ยนื่ แบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย (บช.๑) ซึ่ง
ประกอบด้ วยรายรับรายจ่ ายทีเ่ กิดขึน้ ในแต่ ละรอบระยะเวลาบัญชี พร้ อมกับการ
ยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ นิตบิ ุคคลของรอบระยะเวลาบัญชีน้ัน
29
วิธีปฏิบัติ
๑. ให้ ยื่นแบบแสดงบัญชี รายรั บรายจ่ าย (บช.๑) พร้ อมกับการยื่นแบบ
แสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา โดยไม่ สามารถยื่นเฉพาะแบบแสดงบัญชี
รายรับรายจ่ าย (บช.๑) ก่ อนการยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา หรือ
นิตบิ ุคคลได้
๒. หากไม่ สามารถยื่นแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย (บช.๑) ให้ ครบตาม
จานวนของสั ญญาในคราวเดียวกันได้ สามารถยื่นเพิ่มเติมให้ ครบตามจานวนของ
สั ญญาได้ ภายในกาหนดเวลาการยืน่ แบบภาษีเงินได้
๓. หากสิ้นสุ ดระยะเวลาการยืน่ แบบภาษีเงินได้ แล้ ว คู่สัญญายืน่ แบบบัญชี
แสดงรายรั บ รายจ่ า ย (บช.๑) ไม่ ค รบถ้ ว นตามจ านวนของสั ญ ญา จะท าให้ ข าด
คุณสมบัตกิ ารเข้ าเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ
30
วิธีปฏิบัติ
๔. คู่สัญญาต้ องยื่นแบบแสดงบัญชี รายรั บรายจ่ าย (บช.๑) จนกว่ าจะสิ้น
ภาระผูกพันตามสั ญญา หรือระยะเวลาประกันผลงานสิ้นสุ ดลง
๕. หากคู่สัญญาเห็นว่ าแบบแสดงบัญชี รายรั บรายจ่ าย (บช.๑) มีรายการ
รายรั บรายจ่ ายไม่ ถูกต้ องครบถ้ ว น สามารถยื่นแก้ ไขปรั บปรุ งรายการแบบบั ญชี
แสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑) แต่ ละฉบับได้
๖ . หากคู่สัญญามิได้ ยนื่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ผ่านทางอินเทอร์ เน็ต
ให้ คู่สัญญากรอกรายละเอียดข้ อมูลเกี่ยวกับหลักฐานการยื่นแบบแสดงรายการภาษี
เงิ น ได้ บุ ค คลธรรมดาของปี ภาษี น้ั น ๆ พร้ อ มกับ การยื่นแบบแสดงบั ญ ชี ร ายรั บ
รายจ่ าย (บช.๑) ฉบับ “ยืน่ ปกติ” ด้ วย
31
วิธีปฏิบัติ
๗. กรณีที่คู่สัญญาเป็ นนิติบุคคลซึ่ งเป็ นมูลนิธิ หรื อสมาคม ที่รัฐมนตรี
ประกาศกาหนดให้ เป็ นองค์ การสาธารณกุศล ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่ งประมวล
รั ษฎากรและได้ รับยกเว้ นภาษีเงินได้ นิติบุคคลให้ ยื่นแบบบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ าย
(แบบ บช.๑) ภายใน ๑๕๐ วัน นับแต่ วนั สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
32
การยืน่ มี ๒ กรณี
๑. ยื่นปกติ เป็ นการยืน่ ตามรอบปี ปฏิทินหรือรอบระยะเวลาบั ญชีของ
แต่ ละปี โดยการกรอกครั้งที่ยนื่ ให้ นับจานวนครั้งต่ อเนื่องไปจนกว่ าสิ้นสุ ดระยะเวลา
การยืน่ แบบ บช.๑ ( แต่ ละสั ญญาให้ แยกการนับครั้งที่ยนื่ ออกจากกัน
๒. ยื่นแก้ ไข เป็ นการยื่นแก้ ไขแบบ บช.๑ ที่เคยยืน่ ไว้ แล้ ว โดยให้ ระบุ
ครั้ ง ที่ ยื่ น แก้ ไ ขของสั ญ ญาฉบั บ นั้ น โดยให้ นั บ จ านวนครั้ ง ต่ อ เนื่ อ งไปตามรอบ
ระยะเวลาบัญชี หรื อปี ปฏิทินที่ต้องการแก้ ไข และการนับจานวนครั้ งที่ แก้ ไขให้ เริ่ ม
นับหนึ่งใหม่ ทุกครั้งที่มีการขอแก้ ไขปรั บปรุ งรายการบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.
๑) ทีเ่ คยยืน่ ปกติไว้ ในแต่ ละครั้งออกจากกัน และต้ องยืน่ แก้ ไขปรับปรุ งรายการรายรับ
รายจ่ ายใหม่ ท้งั หมด
33
รายรับโดยตรงตามสั ญญา
ให้ กรอกจานวนเงินรายรับโดยตรงตามสั ญญา ไม่ ว่าจะเป็ นรายรั บ
จากการขายหรื อรายรั บจากการให้ บริ การตามสั ญญา โดยแยกรายละเอียด
ตามรายการทีป่ รากฏในแบบ บช.๑ ดังนี้
ช่ องเงินสด กรณีรับเป็ นตัวเงิน
ช่ องธนาคาร กรณีรับเป็ นเช็คหรือเงินโอนเข้ าบัญชี
ช่ องค้ างรับ กรณีเป็ นรายรับแต่ ยงั ไม่ ได้ รับเงิน หรื อ
ช่ องรายการอืน่ กรณีที่ไม่ เข้ าประเภทใดที่กล่าวมา
34
รายจ่ ายโดยตรงตามสั ญญา
ให้ กรอกจานวนเงินรายจ่ ายโดยไม่ รวมภาษีมูลค่าเพิม่ โดยการแยก
ประเภทของรายจ่ าย โดยแยกรายละเอียดตามรายการที่ปรากฏในแบบ บช.๑
ดังนี้
ช่ องเงินสด กรณีจ่ายเป็ นตัวเงิน
ช่ องธนาคาร กรณีจ่ายเป็ นเช็คหรือเงินโอนเข้ าบัญชี
ช่ องค้ างจ่ าย กรณีเป็ นรายจ่ ายแต่ ยงั ไม่ ได้ จ่ายเงิน หรื อ
ช่ องรายการอืน่ กรณีที่ไม่ เข้ าประเภทใดที่กล่าวมา
35
รายจ่ ายโดยตรงตามสั ญญา
๑. ไม่ ต้องกรอกรายการภาษีมูลค่ าเพิม่ และภาษีหัก ณ ที่จ่าย
๒.ไม่ ต้ อ งปั น ส่ วนค่ า ใช้ จ่ า ยของกิ จ การ เช่ น เงิ น เดื อ น
พนักงาน ค่ าไฟฟ้า ค่ าเสื่ อมราคาทรั พย์ สิน หรื อค่ าทาบั ญชี บริ ษัท
เป็ นต้ น เว้ นแต่ กรณีเป็ นสั ญญาจ้ างบริการ ที่มเี ฉพาะรายจ่ ายเกีย่ วกับ
เงินเดือนพนักงานของบริ ษัทให้ ปันส่ วนรายจ่ ายดังกล่ าวกับรายได้
ของกิจการที่ได้ รับในแต่ ละแห่ ง
36
วิธีการตรวจสอบ
๑. การตรวจสอบของกรมสรรพากร
(๑) ตรวจสอบเบือ้ งต้ นว่ า คู่สัญญาได้ ยนื่ แบบบัญชีแสดงรายรับ
รายจ่ าย (บช.๑) หรือไม่
(๒) กรมสรรพากรอาจนาบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ ายของ
โครงการไปพิจารณาประกอบการตรวจสอบบัญชี งบดุลประจาปี ของ
นิติบุคคลหรื อตรวจภาษีเงินได้ ของบุคคลหรื อนิติบุคคล แล้ วแต่ กรณี
ตามที่เห็นสมควร ก็ได้
37
๒. การตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(๑) ตรวจสอบความถูกต้ องของแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)
(๒) ตรวจสอบเนื่องจากมีการกล่าวว่ าเจ้ าหน้ าทีข่ องรัฐทุจริตเกีย่ วกับ
โครงการทีย่ นื่ แบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)
ผลการตรวจสอบ
๑. คู่สัญญาแสดงบัญชีรายรับรายจ่ ายไม่ ถูกต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญ
๒. คู่สัญญามีส่วนเกีย่ วข้ องกับการทุจริตของเจ้ าหน้ าทีข่ องรัฐ
38
การดาเนินการ
(๑) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประสานงานและสั่ งให้ หน่ วยงานของรัฐที่
เกีย่ วข้ องดาเนินการตามอานาจหน้ าทีเ่ พือ่ ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน หรือ
การชาระภาษีเงินได้ ของบุคคลหรือนิตบิ ุคคล
(๒) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้ อานาจการเข้ าถึงข้ อมูลตามระเบียบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่ าด้ วยการเข้ าถึงข้ อมูลของหน่ วยงานหรือสถาบัน
การเงิน
39
ผลของการไม่ ปฏิบัติตามประกาศฯ
๑. ขาดคุณสมบัติทจี่ ะเข้ าเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ
มี ๒ กรณี คือ
(๑) ไม่ แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช. ๑)
(๒) แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)
ไม่ ครบถ้ วนถูกต้ องในสาระสาคัญ
40
การมีผลของการขาดคุณสมบัติ
๑. กรณีคู่สัญญาไม่ แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย จะทาให้ ขาดคุณสมบัตทิ จี่ ะ
เป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ นับแต่ วนั พ้ นกาหนดการยืน่ แบบบัญชีแสดงรายรับ
รายจ่ าย (บช.๑) คือ
(๑) นับแต่ วนั ที่ ๑ เมษายน ของทุกปี สาหรับบุคคลธรรมดา เว้ นแต่ มีการ
ขยายเวลาการยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา หรือเมือ่ พ้ นกาหนด ๑๕๐
วันนับแต่ วนั สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี หรือพ้นกาหนดระยะเวลาการยืน่ แบบแสดงรายการ
ภาษีเงินได้ นิตบิ ุคคลสาหรับนิตบิ ุคคล
(๒) กรณีบุคคลหรือนิตบิ ุคคลทีเ่ ป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐแสดง
บัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑) ไม่ ถูกต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญ ให้ บุคคลหรือนิติ
บุคคลจะขาดคุณสมบัตทิ จี่ ะเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ นับแต่ วนั ที่คณะกรรมการ
ป.ป.ช. หรือผู้ทรี่ ับมอบอานาจมีมติ
41
หมายเหตุ
๑. การห้ ามเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐนั้น มีผลเป็ นการ
ห้ ามเข้ าเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐทุกกรณี มิได้ ห้ามเฉพาะสั ญญา
ทีม่ ีมูลค่ า ๒ ล้านบาท หรือ ๕ แสนบาทเท่ านั้น
๒. ในกรณีทคี่ ู่สัญญาเป็ น กิจการร่ วมค้ า (joint venture) การขาด
คุณสมบัติทจี่ ะเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ มีผลใช้ บังคับกับบุคคล
หรือนิติบุคคลทีเ่ ข้ าร่ วมเป็ นกิจการร่ วมค้ าทั้งหมด
42
การสิ้นสุ ดการขาดคุณสมบัติ
๑. กรณีคู่สัญญาไม่ แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ ายของโครงการให้ การ
ขาดคุณสมบัติสิ้นสุ ดลงเมื่อคู่สัญญาได้ ยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑) และ
ได้ มีการเพิกถอนรายชื่อจากบัญชีผู้ไม่ ยนื่ บัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑) แล้ ว
๒. กรณีคู่สัญญาแสดงบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ าย (บช.๑) ไม่ ถูกต้ อง
ครบถ้ วนในสาระสาคัญ ให้ บุคคลหรื อนิติบุคคลพ้ นจากการขาดคุณสมบัติที่จะ
เป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรั ฐ เมื่อได้ มีการปรั บปรุ งแก้ ไขแบบบัญชี แสดง
รายรั บรายจ่ าย (บช.๑) ให้ ถูกต้ องและคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรื อผู้ได้ รับมอบ
อานาจได้ มีมติสั่งเพิกถอนรายชื่ อจากบัญชี ผู้ยื่นบัญชี แสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)
ไม่ ถูกต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญ
43
กรณีคู่สัญญาไม่ แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย
๑. การขึน้ บัญชีผ้ ขู าดคุณสมบัติ
เมือ่ พ้นกาหนดระยะเวลาการยืน่ แบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)
ระบบจะทาการแสดงว่ าคู่สัญญารายใดไม่ ได้ แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ ายโดย
อัตโนมัติ ซึ่งจะมีผลบังคับห้ ามมิให้ หน่ วยงานของรัฐก่ อนิติสัมพันธ์ ใดๆ กับบุคคล
และนิตบิ ุคคลดังกล่ าว
๒. การเพิกถอนรายชื่อการขาดคุณสมบัติ
เมือ่ คู่สัญญาได้ ยนื่ บัญชีแสดงรายรับรายจ่ ายทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้ว
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะลบรายชื่อคู่สัญญาดังกล่ าวออกจากบัญชีรายชื่อผู้ขาด
คุณสมบัตกิ ารเข้ าเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐ
44
กรณีคู่สัญญาแสดงบัญชีรายรับรายจ่ ายไม่ ถูกต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญ
(๑) การขึน้ บัญชีผู้ขาดคุณสมบัติ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ ตรวจสอบความถูกต้ องของแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)
แล้ วเห็นว่ า ไม่ ถูกต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญ เช่ น คู่ สัญญาได้ มีการจ่ ายเงินเป็ นค่ าตอบแทนให้ แก่
เจ้ าหน้ าที่ จ่ ายเป็ น ค่ ารับรอง หรือมีการพาเจ้ าหน้ าที่เดินทางไปต่ างประเทศ แต่ คู่สัญญามิได้ นารายการ
ดังกล่ าวมากรอกเป็ นรายจ่ ายของสั ญญา ในแบบ บช.๑ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผู้รับมอบอานาจก็จะแจ้ ง
ให้ คู่สัญญาชี้แจง หากคาชี้แจงดังกล่ าวฟังไม่ ขึน้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรื อผู้รับมอบอานาจ จะสั่ งให้ ขึน้
บัญชี ผู้ขาดคุณสมบัติพร้ อมแจ้ งให้ คู่ สัญญาทราบเพื่อใช้ สิทธิ อุทธรณ์ คาสั่ งภายในกาหนด หรื อให้ ยื่น
แก้ ไขแบบบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ าย (บช.๑) โดยให้ คู่สัญญายื่นอุทธรณ์ เป็ นหนังสื อต่ อคณะกรรมการ
ป.ป.ช. หรือผู้รับมอบอานาจ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผู้รับมอบอานาจ พิจารณาคาอุทธรณ์ หรือ
แบบบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ าย (บช.๑) ที่คู่ สัญญาได้ ยื่นแก้ ไขแล้ วเห็นว่ า คาอุทธรณ์ ฟังขึ้นหรื อแบบ
บัญชี แสดงรายรั บรายจ่ าย (บช.๑) ครบถ้ วนถูกต้ องแล้ วก็จะสั่ งเพิกถอนรายชื่ อผู้ขาดคุณสมบัติ แต่ ถ้า
เห็นว่ า คาอุทธรณ์ ฟังไม่ ขนึ้ หรือคู่สัญญาไม่ ได้ ยื่นแก้ ไขแบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑) หรือแบบ
ทีย่ นื่ แก้ ไขนั้นยังไม่ ถูกต้ องครบถ้ วนก็จะยืนยันตามมติทใี่ ห้ ขนึ้ บัญชีรายชื่อผู้ขาดคุณสมบัติไว้ เช่ นเดิม 45
(๒) การเพิกถอนรายชื่อการขาดคุณสมบัติ
เมื่อคู่สัญญาดังกล่ าวใช้ สิทธิอุทธรณ์ คาสั่ งเป็ นหนังสื อ หรือยื่นแก้ ไขแบบบัญชี
แสดงรายรับรายจ่ าย (บช.๑)ต่ อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ป.ป.ช. หรื อผู้รับมอบอานาจ หาก
คณะกรรมการ ป.ป.ช.หรื อผู้รับมอบอานาจพิจารณาคาอุทธรณ์ หรื อแบบบัญ ชี แสดง
รายรับรายจ่ าย (บช.๑) ทีค่ ู่สัญญาได้ ยนื่ แก้ ไขแล้ วเห็นว่ า คาอุทธรณ์ ฟังขึน้ หรือแบบบัญชี
แสดงรายรั บรายจ่ าย (บช.๑) ถู กต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญแล้ วแล้ วก็จะสั่ งเพิกถอน
รายชื่ อคู่ สัญญาดังกล่ าวออกจากบัญชี รายชื่ อผู้ขาดคุณสมบัติ แต่ ถ้าเห็นว่ าคาอุทธรณ์
ฟังไม่ ขึน้ หรื อคู่สัญญาไม่ ได้ ยื่นแก้ ไขแบบบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ าย (บช.๑) หรือแบบที่
ยื่นแก้ ไ ขนั้ นยังไม่ ถู กต้ องครบถ้ ว นในสาระส าคัญ ก็จ ะยืนยันตามคาสั่ งที่ให้ ขึ้นบัญชี
รายชื่อผู้ขาดคุณสมบัตไิ ว้ เช่ นเดิม
46
ขั้นตอนก่ อนทาสั ญญา
๑. ให้ หน่ วยงานของรัฐกาหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติของบุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้ า
เป็ นคู่สัญญา (ผู้เสนอราคา) ไว้ ในขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) หรือประกาศ
จัดซื้อจัดจ้ าง ดังนี้
* (๑) บุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้ าเป็ นคู่สัญญาต้ องไม่ อยู่ในฐานะซึ่งได้ มีการระบุชื่อไว้
ในบัญชีรายชื่อว่ าเป็ นคู่สัญญาที่ไม่ ได้ แสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ ายไม่
ถูกต้ องครบถ้ วนในสาระสาคัญ
* (๒) บุคคลหรื อนิติบุคคลที่จะเข้ าเป็ นคู่สัญญากับหน่ วยงานของรัฐซึ่ งได้ ดาเนินการ
จัดซื้อจัดจ้ างด้ วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Procurement : e-GP) ต้ องลงทะเบียนใน
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ ศูนย์ ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้ างภาครัฐ
* ใช้ บังคับกับการจัดซื้อจัดจ้ างทุกกรณีมิใช่ เฉพาะ ๒ ล้ านบาทเท่ านั้น
(๓) คู่สัญญาต้ องรั บจ่ ายเงินผ่ านบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน เว้ นแต่ การรั บจ่ ายเงิน
แต่ ละครั้งซึ่งมีมูลค่ าไม่ เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาอาจรับจ่ ายเป็ นเงินสดก็ได้ (เฉพาะ ๒ ล้ านบาท)
47
๒. ห้ ามมิให้ หน่ วยงานของรั ฐก่ อนิติสัมพันธ์ กับบุคคลหรื อนิติ
บุคคลซึ่ งได้ มีการระบุ ชื่อไว้ ในบัญชี รายชื่ อว่ าเป็ นคู่ สัญญาที่ไม่ ได้ แสดง
บัญชี แสดงรายรั บรายจ่ ายหรื อแสดงบัญชี แสดงรายรั บรายจ่ ายไม่ ถูกต้ อง
ครบถ้ วนในสาระสาคัญ เว้ นแต่ บุคคลหรื อนิติบุคคลนั้นจะได้ แสดงบัญชี
แสดงรายรั บรายจ่ ายตามประกาศนี้หรื อได้ มีการปรั บปรุ งแก้ ไขให้ ถูกต้ อง
และมีการสั่ งเพิกถอนรายชื่ อจากบัญชีดังกล่ าวแล้ ว ทั้งนี้ไ ม่ ว่าสั ญญานั้นจะ
มีมูลค่ าเท่ าใดก็ตาม
48
ขั้นตอนภายหลังทาสั ญญา
๑. ให้ หน่ วยงานของรัฐรายงานข้ อมูลของคู่สัญญาที่ต้องแสดงบัญชีแสดงรายรับ
รายจ่ าย (บช.๑) ให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรมสรรพากรทราบดังนี้
(๑) กรณีหน่ วยงานของรัฐซึ่งดาเนินการจัดซื้อจัดจ้ างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (eGovernment Procurement : e-GP) ของกรมบัญชีกลาง ให้ รายงานข้ อมูลของคู่สัญญาผ่าน
ระบบ (e-Government Procurement : e-GP) ของกรมบัญชีกลาง
(๒) กรณีหน่ วยงานของรัฐใดที่มิได้ ดาเนินการจัดซื้อจัดจ้ างด้ วยระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลาง (e-Government Procurement : e-GP) ให้ รายงานข้ อมูลของ
คู่สัญญาผ่ านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่สานักงาน ป.ป.ช. จัดทาขึน้ (ผ่ านเว็บไซต์ www.nacc.go.th)
การรายงานข้ อมูลของคู่สัญญาทีต่ ้ องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ าย (บช.๑) ตาม ๑ (๑)
และ (๒) ให้ หน่ วยงานของรัฐ รายงานกรณีที่มีการแก้ ไขสั ญญาในส่ วนที่เป็ นสาระสาคัญด้วย
49
การรายงานข้ อมูลของคู่สัญญาที่ต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ ายตาม (๑) และ
(๒) ให้ หน่ วยงานของรัฐรายงานภายใน ๓๐ วัน นับแต่ วนั ทาสั ญญาหรือข้ อตกลง
** หมายเหตุ ในระหว่ างที่การจัดทาระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลาง
(e-Government Procurement : e-GP) ยังไม่ แล้ วเสร็จครบถ้ วนสมบูรณ์ ให้ หน่ วยงาน
ของรัฐตาม ๑ (๑) รายงานข้ อมูลของคู่ สั ญญาผ่ านเว็บ ไซต์ ข องสานักงาน ป.ป.ช.ไป
พลางก่อน จนกว่ าระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลาง (e-Government Procurement
: e-GP) จะแล้ วเสร็ จครบถ้ วนสมบูรณ์
50
๑. Link จากหน้ า introduction เว็บไซต์ สานักงาน ป.ป.ช. คือ
www.nacc.go.th
๒. Banner ด้ านขวามือเว็บไซต์ สานักงาน ป.ป.ช.
๓. URL : http:// www.nacc.go.th/main.php?filename=index_parties
51
52