" หรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ" โดยนาย - DOC-EPPO

Download Report

Transcript " หรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ" โดยนาย - DOC-EPPO

สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
การแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บคุ คล
หรือนิ ติบุคคลเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
โดย
วิโรจน์ ฆ้องวงศ์
นักกฎหมาย ป.ป.ช. ชานาญการพิเศษ
ขอบเขตเนื้ อหาการบรรยาย
1. กฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง
2. เหตุผลความจาเป็ น
3. คาอธิบายศัพท์
4. การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
5. วิธีการและระยะเวลาการยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
6. การกรอกแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย ( บช.1 )
7. การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
8. การขึ้ นบัญชีรายชื่อผูข้ าดคุณสมบัติและการสัง่
เพิกถอน
9. มาตรการเพื่อให้หน่ วยงานของรัฐปฏิบตั ิ
กฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน
และปราบปรามดารทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2554 มาตรา 103/7
2. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาและแสดงบัญชี รายการ
รับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิ ติบุคคลเป็ นคู่สญ
ั ญากับ
หน่ วยงานของรัฐ พ.ศ. 2554
3. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาและแสดงบัญชี รายการ
รับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิ ติบุคคลเป็ นคู่สญ
ั ญากับ
หน่ วยงานของรัฐ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554
มาตรา 103/7 ให้หน่ วยงานของรัฐดาเนิ นการจัดทา
ข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะ
ราคากลางและการคานวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทาง
อิเล็กทรอนิ กส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้
เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ใน
กรณี ที่มีการทาสัญญาระหว่างหน่ วยงานของรัฐกับบุคคลหรือนิ ติ
บุคคลที่เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ ให้บุคคลหรือนิ ติบุคคล
ที่เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐนัน้ มีหน้าที่แสดงบัญชีรายการ
รับจ่ายของโครงการที่เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐต่อ
กรมสรรพากร นอกเหนื อจากบัญชีงบดุลปกติท่ีย่ืนประจาปี เพื่อให้
มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินและการคานวณภาษี เงินได้
ในโครงการที่เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐดังกล่าว ทัง้ นี้ ตาม
หลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กาหนด
นอกจากกรณี ตามวรรคหนึ่ งหรือวรรคสอง ในกรณี ท่ี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควร เพื่อดาเนิ นการอย่างใด
อย่างหนึ่ งอันเป็ นการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
เนื่ องจากการใช้อานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่ง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควรในการกาหนดมาตรการ
เพื่อให้หน่ วยงานของรัฐรับไปปฏิ บตั ิ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีอานาจสัง่ ให้หน่ วยงานของรัฐนัน้ ดาเนิ นการไปตามที่
คณะกรรมการ ป.ป.ช. กาหนดมาตรการในเรื่องนัน้ แล้ว
รายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบก็ได้ (วรรคสี่ )
มาตรการที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
1. การเปิ ดเผยราคากลางและการคานวณราคากลางไว้ในระบบ
ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิ กส์ (อยู่ระหว่างการพิจารณาของ
คณะรัฐมนตรี)
2. บุคคลหรือนิ ติบคุ คลซึ่งเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
ยื่ นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายของโครงการต่อกรมสรรพากร
(บังคับใช้วนั ที่ 1 เมษายน 2555)
เหตุผลและความจาเป็ นในการออกประกาศ
 การจัดหาพัสดุของหน่ วยงานรัฐใช้เงินของแผ่นดิน(งบประมาณ
เงินกู ้ เงินช่วยเหลือ หรือรายได้ของหน่ วยงานรัฐ)
 การดาเนิ นการที่ผ่านมามีการทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบทา
ให้รฐั เสียหาย
 มีการสมยอมในการเสนอราคา ไม่แข่งขันอย่างเป็ นธรรม จ่ายเงิ น
ให้เจ้าหน้าที่รฐั เพื่อให้ได้เป็ นคู่สญ
ั ญา
 นักการเมือง เจ้าหน้าที่รฐั มีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการทาความผิด
ละเว้นไม่ปฏิบตั ิหน้าที่

เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีเงินได้
คาอธิบายศัพท์
คู่สญ
ั ญา หมายถึง บุคคลหรือนิ ติบุคคลที่เป็ น
คู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
 บุคคลธรรมดา
 นิ ติบุคคล
หน่ วยงานของรัฐ
1. กระทรวง ทบวง กรม เป็ นการบริหารราชการส่วนกลาง
ตามพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545
และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
• สานักนายกรัฐมนตรี
• กระทรวง หรือทบวงซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากระทรวง
• กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็ น
กรม ซึ่งสังกัดหรือไม่สงั กัดสานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง
หรือทบวง
หน่ วยงานของรัฐ (ต่อ)
2. ราชการส่วนภูมิภาค
• จังหวัด อาเภอ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534
• ตาบล หมู่บา้ น ตามพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457
3. ราชการส่วนท้องถิ่ น
• กรุงเทพมหานคร
• เมืองพัทยา
• องค์การบริหารส่วนจังหวัด
• เทศบาล
• องค์การบริหารส่วนตาบล
หน่ วยงานของรัฐ (ต่อ)
4. รัฐวิสาหกิจ หมายถึง องค์การของรัฐบาลหรือหน่ วยงาน
ธุรกิจที่รฐั บาลเป็ นเจ้าของ หรือรัฐ มีทุนอยู่เกินกว่าร้อยละห้าสิบ
รวมทัง้ บริษทั จากัด และห้างหุน้ ส่วนนิ ติบุคคลที่ส่วนราชการหรือ
รัฐวิสาหกิจมีทุนอยู่ดว้ ยเกินร้อยละห้าสิบตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ
งบประมาณ
5. องค์การมหาชน หมายถึง หน่ วยงานของรัฐที่รบั ผิ ดชอบ
บริการสาธารณะทางสังคมและวัฒนธรรม เช่น การศึกษา การวิจยั การ
ฝึ กอบรม เป็ นต้น โดยไม่มีวตั ถุประสงค์ในการแสวงหากาไรซึ่งอาจ
จัดตัง้ ตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 หรือองค์การ
มหาชนที่มีพระราชบัญญัติจดั ตัง้ เป็ นการเฉพาะ
หน่ วยงานของรัฐ (ต่อ)
6. หน่ วยงานธุรการขององค์กรตามรัฐธรรมนู ญ
(1) หน่ วยงานธุรการขององค์กรอิ สระตามรัฐธรรมนูญ คื อ
•
•
•
•
สานักงานคณะกรรมการการเลือกตัง้
สานักงานผูต้ รวจการแผ่นดิน
สานักงาน ป.ป.ช.
สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(2) หน่ วยงานธุรการขององค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ
• สานักงานอัยการสูงสุด
• สานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
• สานักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
หน่ วยงานของรัฐ (ต่อ)
7. หน่ วยงานอื่นของรัฐ
ได้แก่ หน่ วยงานของรัฐซึ่งมิได้อยู่ในรูปแบบข้างต้นโดยอาจเป็ นส่วนราชการ
ซึ่งมิได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาหรือกากับดูแลของฝ่ ายบริหาร หรือเป็ นหน่ วยงานของ
รัฐที่จดั ตัง้ ขึ้ นตามกฎหมาย ตามมติ ค.ร.ม. เพื่อทาหน้าที่ในการควบคุมกากับดูแล
กิจกรรมของรัฐซึ่งจะมีฐานะเป็ นนิ ติบุคคลหรือไม่ก็ได้ ดังนี้
• สานักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสานักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร
• หน่ วยงานธุรการของศาล
• หน่ วยงานที่รฐั ธรรมนูญกาหนดให้มีการจัดตัง้ ขึ้ น เช่น สานักงาน
คณะกรรมการกิจการกระจายเสี ยงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติ สภาพัฒนาการเมือง สภาเกษตรกรแห่งชาติ สานักงานปฏิรปู กฎหมาย
• หน่ วยงานซึ่งเป็ นหน่ วยบริการรูปแบบพิเศษตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการบริหารงานของหน่ วยบริการรูปแบบพิเศษ ได้แก่ สถาบันส่งเสริ มการ
บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี สานักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา
• สถาบันอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยในกากับภาครัฐ
หน่ วยงานของรัฐ (ต่อ)
8. หน่ วยงานอื่นใดที่ดาเนิ นกิจการของรัฐตามกฎหมายและ
ได้รบั เงินอุดหนุนหรือทรัพย์สินลงทุนจากรัฐ
ได้แก่ กองทุนที่เป็ นนิ ติบคุ คล ที่จดั ตัง้ ขึ้ นโดยตราเป็ น
พระราชบัญญัติ โดยการดาเนิ นงานของกองทุนจะได้รบั เงิน
อุดหนุนจากรัฐบาล และเงินสมทบจากกลุ่มเป้าหมายนัน้ ๆ เช่น
พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ กองทุน
บาเหน็ จบานาญข้าราชการ เป็ นต้น
ไม่รวมถึงหน่ วยงานอื่นใดที่จดั ตัง้ ขึ้ นในลักษณะเป็ นองค์กร
วิชาชีพ เช่น สภาวิชาชีพบัญชี สภาทนายความ เป็ นต้น
บัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
หมายความว่า บัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงินของ
โครงการตามสัญญา ตามแบบ บช.๑ ที่บุคคลหรือนิ ติบุคคล
ซึ่งเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐต้องจัดทาและยื่ นต่อ
กรมสรรพากร
สัญญา
1. สัญญาที่เกี่ยวกับการจัดหาพัสดุหรือการพัสดุ (ไม่รวมถึงสัญญา
ทางธุรกิจ หรือเป็ นสัญญาที่เกี่ยวกับการแสวงหารายได้ของหน่ วยงานของรัฐที่
ไม่ได้ใช้ระเบียบ ข้อบังคับพัสดุ)
2. สัญญาสัมปทาน
(1) สัญญาที่รฐั อนุ ญาตให้เอกชนลงทุนในกิจการด้าน
สาธารณูปโภค หรือการบริการสาธารณะ อย่างหนึ่ งอย่างใดด้วยค่าใช้จ่ายของ
ตนเองและให้เอกชนคู่สญ
ั ญามีสิทธิเรียกเก็บค่าบริการจากประชาชนที่มาใช้
บริการนัน้ เป็ นค่าตอบแทนภายในกาหนดระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ ง และรัฐจะ
ได้รบั ค่าตอบแทนจากเอกชนที่มีรายได้จากการลงทุน เช่น สัญญาสัมปทานทาง
หลวง สัญญากิจการโทรคมนาคม สัญญาสัมปทานทางด่วนพิเศษ
สัญญา
(2) สัญญาที่รฐั ให้เอกชนร่วมลงทุนตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วย
การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดาเนิ นกิจการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535
ซึ่งเป็ นกรณีที่รฐั ร่วมลงทุนกับเอกชนไม่ว่าโดยวิธีใด หรือมอบให้เอกชน
ลงทุนในกิจการที่หน่ วยงานของรัฐต้องดาเนิ นการตามอานาจหน้าที่และ
ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติหรือทรัพย์สินของรัฐ
(3) สัญญาที่รฐั อนุญาตให้เอกชนคู่สญ
ั ญาแสวงประโยชน์จาก
ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น สัญญาสัมปทานปิ โตรเลียม สัญญาสัมปทานรัง
นกอีแอ่น สัญญาสัมปทานทรัพยากรแร่ เป็ นต้น
สัญญา
3. สัญญาให้ทุนสนับสนุนเพื่อการวิจยั
สัญญาที่หน่ วยงานของรัฐตกลงให้ทุนสนับสนุนเพื่อการค้นคว้าโดย
การทดลอง สารวจ หรือการศึกษาตามหลักวิชาการเพื่อให้ได้ขอ้ มูล ความรู ้
รวมทัง้ การพัฒนา ผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่างๆ อันจะสามารถนามาใช้
เป็ นประโยชน์ทาง เศรษฐกิจ สังคม วิชาการ หรือเป็ นพื้นฐานของการ
พัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ต่อไป
สัญญา
4. สัญญาให้ทุนสนับสนุนเพื่อดาเนิ นกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ ง
คือ สัญญาที่หน่ วยงานของรัฐให้ทนุ สนับสนุนแก่ผูร้ บั เงินหรือ
คู่สญ
ั ญาโดยมีเงื่อนไขหรือข้อตกลงให้ดาเนิ นกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ ง
เช่น สานักงาน ป.ป.ช. ให้เงินแก่กลุ่มองค์กรเอกชนเพื่อนาไปจัด
กิจกรรมต่อต้านการทุจริต เป็ นต้น
สัญญาให้ทนุ สนับสนุนนี้ หมายความรวมถึง กรณีท่ีหน่ วยงานของ
รัฐให้เงินหรือทุนอันมีลกั ษณะเป็ นการให้เพื่อให้บุคคลหรือนิ ติบุคคลไป
ดาเนิ นกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ งซึ่งเป็ นกิจกรรมของเอกชนนัน้ ด้วย เช่น
กรณีรฐั วิสาหกิจให้เงินสนับสนุนการแข่งขันกีฬา การจัดแสดงดนตรี ฯ
*** ต้องเป็ นสัญญาที่จดั ทาตัง้ แต่วนั ที่ 1 เม.ย. 55 เป็ นต้นไป
รายรับ
จานวนเงินที่ค่สู ญ
ั ญาได้รบั จากหน่ วยงานของรัฐ อันเนื่ องจากการ
ได้ปฏิบตั ิตามสัญญาหรือเกี่ยวเนื่ องกับสัญญา หรือรายรับอื่นๆ ที่กาหนด
ไว้ให้ค่สู ญ
ั ญาได้รบั เช่น
กรณีสญ
ั ญาที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง รายรับนี้ ได้แก่เงินที่
คู่สญ
ั ญาได้รบั ตามสัญญา
กรณีสญ
ั ญาสัมปทาน รายรับ เช่น รายรับที่ค่สู ญ
ั ญาได้รบั อันเกิด
จากการประกอบกิจการที่ได้รบั สัมปทาน
รายจ่าย
จานวนเงินที่ค่สู ญ
ั ญาได้จ่ายไปทัง้ สิ้นเพื่อการปฏิบตั ิให้เป็ นไปตาม
สัญญาหรือเกี่ยวเนื่ องกับสัญญา (ประเภทของรายจ่ายปรากฏตามแบบ
แนบท้ายประกาศ ตามแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (บช.1))
การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
1. ผูม้ ีหน้าที่ย่ืนบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
คือ ผูท้ ี่เป็ นคู่สญ
ั ญา
(1) บุคคลธรรมดา
(2) นิ ติบุคคล
(3) กิจการร่วมค้า (Joint Venture)
(4) Consortium ให้แต่ละรายแยกยื่นแบบ บช.1 ตามสัดส่วนงาน
ของตน (แต่ใช้มูลค่าสัญญารวมว่าถึง 2 ล้านบาทหรือไม่)
(5) นิ ติบุคคลต่างประเทศ
(6) มูลนิ ธิ สมาคม
การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
มูลค่าของสัญญา
ใช้บงั คับกับสัญญาที่มูลค่าตัง้ แต่ 500,000 บาท (ห้าแสนบาท)
ขึ้นไป เว้นแต่ในช่วงระยะเวลาปี แรก คือ ตัง้ แต่วนั ที่ 1 เมษายน 2555 –
31 มีนาคม 2556 ใช้บงั คับกับสัญญาที่มีมูลค่าตัง้ แต่ 2,000,000 บาท
(สองล้านบาท) ขึ้นไป (ใช้บงั คับชัว่ คราวเป็ นเวลา 1 ปี )
การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
ข้อยกเว้นการจัดทาบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย
1. ไม่ใช้บงั คับกับสัญญาที่ได้ทาก่อนวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เว้นแต่
มีการแก้ไขสัญญาดังกล่าวภายหลังประกาศนี้ มีผลใช้บงั คับในส่วนที่เป็ น
สาระสาคัญ เช่น
(๑) ข้อตกลงเรื่องรูปแบบ ปริมาณ จานวนที่มีผลให้มีการเพิ่มวงเงิน
(๒) การขยายระยะเวลาสัมปทาน
(3) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการสัมปทาน
• สัญญาเดิม 2 ล้านบาท แก้ไขเพิ่มเป็ น 2.1 ล้านบาท
ยื่ น
• สัญญาเดิม 1.8 ล้านบาท แก้ไขเพิ่มเป็ น 1.9 ล้านบาท
ไม่ตอ้ งยื่ น
*** ให้ยื่นแบบ บช. 1 โดยแสดงรายรับรายจ่ายนับแต่วนั ที่มีการแก้ไขสัญญา ไม่ใช่เฉพาะ
วงเงินที่เพิ่ม
การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
ข้อยกเว้นการจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (ต่อ)
2. ไม่ใช้บงั คับกับกรณี ค่สู ญ
ั ญาที่เป็ นหน่ วยงานของรัฐ
เว้นแต่ค่สู ญ
ั ญานัน้ เป็ นหน่ วยงานของรัฐซึ่งมีหน้าที่ย่ื นแบบแสดง
รายการภาษี เงินได้นิติบุคคล เช่น บริษทั ปตท. จากัด (มหาชน)
บริษทั การบินไทย จากัด (มหาชน) เป็ นต้น
หลักเกณฑ์อื่นที่ค่สู ญ
ั ญาต้องปฏิ บตั ิประกอบ
การจัดทาบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
1. ให้ค่สู ญ
ั ญาบันทึกรายรับรายจ่ายของสัญญาที่เกิดขึ้ นในแต่ละรอบ
ระยะเวลาบัญชี หรือรอบปี ภาษี เป็ นรายโครงการ แต่ไม่ตอ้ งยื่นต่อ
กรมสรรพากร และให้เก็บรักษาบัญชี พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบไว้
ณ สถานประกอบการ หรือที่อยู่อาศัยของคู่สญ
ั ญา เป็ นระยะเวลาไม่นอ้ ยกว่า
๕ ปี นับแต่วนั สิ้นสุดระยะเวลาสัญญา หรือการตรวจสอบหรือไต่สวนของ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสร็จสิ้น
2. ให้ค่สู ญ
ั ญารับจ่ายเงินผ่านบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน เว้นแต่รบั
จ่ายเงินแต่ละครัง้ ซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาท สามารถรับจ่ายเป็ นเงินสดก็
ได้
3. กรณี ท่ีหน่ วยงานของรัฐซึ่งได้ดาเนิ นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบ
อิเล็กทรอนิ กส์ (e-Government Procurement : e-GP) บุคคลหรือนิ ติบุคคลที่
จะเข้ามาเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐดังกล่าวต้องลงทะเบียนในระบบ
อิเล็กทรอนิ กส์ของเว็บไซต์ศูนย์ขอ้ มูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กรมบัญชี กลาง
วิธีการและระยะเวลาการยื่ นบัญชี
แสดงรายรับรายจ่าย
วิธีการยื่น
1. ยื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ ต
2. ยื่นเป็ นรายสัญญา
ระยะเวลาการยื่น
๑. กรณี บุคคลธรรมดาเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
(1) หากการรับจ่ายเงินตามสัญญาทัง้ หมดเสร็จสิ้นภายในปี เดี ยวกัน
ให้ย่ืนพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้บคุ คลธรรมดา
(2) หากการรับจ่ายเงินตามสัญญาทัง้ หมดมิได้เสร็จสิ้นภายในปี ภาษี
เดียวกัน ให้ย่ืนแบบแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) ที่เกิดขึ้ นในแต่ละปี
ภาษี พร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้บคุ คลธรรมดาของปี ภาษี นนั้
วิธีการและระยะเวลาการยื่ นบัญชี
แสดงรายรับรายจ่าย
2. กรณี นิติบุคคลเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
(1) กรณีการรับจ่ายเงินตามสัญญาทัง้ หมดเสร็จสิ้นภายในรอบ
ระยะเวลาบัญชีเดียวกันให้ยื่นแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย (บช.1)
เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงิน
ได้นิติบุคคลของรอบระยะเวลาบัญชีนนั้
(2) กรณีการรับการจ่ายเงินตามสัญญาทัง้ หมดมิได้เสร็จสิ้ น
ภายในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน ให้ย่ืนแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย
(บช.1) ซึ่งประกอบด้วยรายรับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบระยะเวลา
บัญชี พร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลของรอบ
ระยะเวลาบัญชีนนั้
วิธีการและระยะเวลาการยื่ นบัญชี
แสดงรายรับรายจ่าย
วิธีปฏิบตั ิ
1. ให้ย่ืนแบบแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) พร้อมกับการยื่น
แบบแสดงรายการภาษี เงินได้บคุ คลธรรมดา โดยไม่สามารถยื่นเฉพาะแบบ
แสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) ก่อนการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้
บุคคลธรรมดาหรือนิ ติบุคคลได้
2. หากไม่สามารถยื่นแบบแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) ให้ครบ
ตามจานวนของสัญญาในคราวเดียวกันได้ สามารถยื่นเพิ่มเติมให้ครบตาม
จานวนของสัญญาได้ภายในกาหนดเวลาการยื่นแบบภาษี เงินได้
3. หากสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นแบบภาษี เงินได้แล้ว คู่สญ
ั ญายื่นแบบ
บัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ไม่ครบถ้วนตามจานวนของสัญญา จะทา
ให้ขาดคุณสมบัติการเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
วิธีการและระยะเวลาการยื่ นบัญชี
แสดงรายรับรายจ่าย
วิธีปฏิบตั ิ
4. คู่สญ
ั ญาต้องยื่นแบบแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) จนกว่าจะ
สิ้นภาระผูกพันตามสัญญาหรือ ระยะเวลาประกันผลงานสิ้นสุดลง
5. หากคู่สญ
ั ญาเห็นว่าแบบแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) มี
รายการรายรับรายจ่ายไม่ถกู ต้องครบถ้วน สามารถยื่นแก้ไขปรับปรุงรายการ
แบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) แต่ละฉบับได้
6. หากคู่สญ
ั ญามิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้ผ่านทาง
อินเทอร์เน็ ต ให้ค่สู ญ
ั ญากรอกรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานการยื่น
แบบแสดงรายการภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาของปี ภาษี นนั้ ๆ พร้อมกับการยื่น
แบบแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1) ฉบับ “ยื่นปกติ” ด้วย
วิธีการและระยะเวลาการยื่ นบัญชี
แสดงรายรับรายจ่าย
วิธีปฏิบตั ิ
7. กรณีที่ค่สู ญ
ั ญาเป็ นนิ ติบุคคลซึ่งเป็ นมูลนิ ธิ หรือสมาคม ที่
รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็ นองค์การสาธารณกุศล ตามมาตรา 47
(7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากรและได้รบั ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ย่ืน
แบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (แบบ บช.1) ภายใน ๑๕๐ วัน นับแต่วนั
สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
การกรอกแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย ( บช.1 )
การยื่นมี 2 กรณี
1. ยื่นปกติ
เป็ นการยื่นตามรอบปี ปฏิทินหรือรอบระยะเวลาบัญชี
ของแต่ละปี โดยการกรอกครัง้ ที่ยื่น ให้นบั จานวนครัง้ ต่อเนื่ องไปจนกว่าสิ้นสุด
ระยะเวลาการยื่นแบบ บช.๑ ( แต่ละสัญญาให้แยกการนับครัง้ ที่ยื่นออกจาก
กัน
2. ยื่นแก้ไข
เป็ นการยื่นแก้ไขแบบ บช.1 ที่เคยยื่นไว้แล้ว
โดยให้ระบุครัง้ ที่ยื่นแก้ไขของสัญญาฉบับนัน้ โดยให้นบั จานวนครัง้ ต่อเนื่ องไป
ตามรอบระยะเวลาบัญชี หรือปี ปฏิทินที่ตอ้ งการแก้ไข และการนับจานวนครัง้ ที่
แก้ไขให้เริ่มนับหนึ่ งใหม่ทกุ ครัง้ ที่มีการขอแก้ไขปรับปรุงรายการบัญชี แสดง
รายรับรายจ่าย (บช.1) ที่เคยยื่นปกติไว้ในแต่ละครัง้ ออกจากกัน และต้องยื่น
แก้ไขปรับปรุงรายการรายรับรายจ่ายใหม่ทงั้ หมด
การกรอกแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย ( บช.1 )
รายรับโดยตรงตามสัญญา
ให้กรอกจานวนเงินรายรับโดยตรงตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็ นรายรับ
จากการขายหรือรายรับจากการให้บริการตามสัญญา โดยแยก
รายละเอียดตามรายการที่ปรากฏในแบบ บช.1 ดังนี้
 ช่องเงินสด กรณี รบ
ั เป็ นตัวเงิน
 ช่องธนาคาร กรณีรบั เป็ นเช็คหรือเงินโอนเข้าบัญชี
 ช่องค้างรับ กรณีเป็ นรายรับแต่ยงั ไม่ได้รบั เงิน หรื อ
 ช่องรายการอื่น กรณีที่ไม่เข้าประเภทใดที่กล่าวมา
การกรอกแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย ( บช.1 )
รายจ่ายโดยตรงตามสัญญา
ให้กรอกจานวนเงินรายจ่ายโดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มโดยการ
แยกประเภทของรายจ่าย โดยแยกรายละเอียดตามรายการที่ปรากฏใน
แบบ บช.1 ดังนี้
 ช่องเงินสด กรณี จ่ายเป็ นตัวเงิน
 ช่องธนาคาร กรณีจ่ายเป็ นเช็คหรือเงินโอนเข้าบัญชี
 ช่องค้างจ่าย กรณีเป็ นรายจ่ายแต่ยงั ไม่ได้จ่ายเงิน หรือ
 ช่องรายการอื่น กรณีที่ไม่เข้าประเภทใดที่กล่าวมา
การกรอกแบบแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย ( บช.1 )
รายจ่ายโดยตรงตามสัญญา
1. ไม่ตอ้ งกรอกรายการภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีหกั ณ ที่จ่าย
2. ไม่ตอ้ งปั นส่วนค่าใช้จ่ายของกิจการ เช่น เงินเดือนพนักงาน
ค่าไฟฟ้า ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน หรือค่าทาบัญชีบริษทั เป็ นต้น เว้นแต่
กรณีเป็ นสัญญาจ้างบริการ ที่มีเฉพาะรายจ่ายเกี่ยวกับเงินเดือนพนักงาน
ของบริษทั ให้ปันส่วนรายจ่ายดังกล่าวกับรายได้ของกิจการที่ได้รบั ในแต่
ละแห่ง
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
วิธีการตรวจสอบ
1. การตรวจสอบของกรมสรรพากร
(1) ตรวจสอบเบื้องต้นว่า คู่สญ
ั ญาได้ยื่นแบบบัญชีแสดงรายรับ
รายจ่าย (บช.1) หรือไม่
(2) กรมสรรพากรอาจนาบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายของโครงการ
ไปพิจารณาประกอบการตรวจสอบบัญชีงบดุลประจาปี ของนิ ติบุคคลหรือ
ตรวจภาษีเงินได้ของบุคคลหรือนิ ติบุคคล แล้วแต่กรณีตามที่เห็นสมควร
ก็ได้
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
2. การตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(1) ตรวจสอบความถูกต้องของแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
(บช.1)
(2) ตรวจสอบเนื่ องจากมีการกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต
เกี่ยวกับโครงการที่ยื่นแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (บช.1)
ผลการตรวจสอบ
1. คู่สญ
ั ญาแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถกู ต้องครบถ้วนใน
สาระสาคัญ
2. คู่สญ
ั ญามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
การดาเนิ นการ
(1) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประสานงานและสัง่ ให้หน่ วยงานของ
รัฐที่เกี่ยวข้องดาเนิ นการตามอานาจหน้าที่เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการ
เงิน หรือการชาระภาษีเงินได้ของบุคคลหรือนิ ติบุคคล
(2) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้อานาจการเข้าถึงข้อมูลตาม
ระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูลของหน่ วยงานหรือ
สถาบันการเงิน
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
ผลของการไม่ปฏิบตั ิตามประกาศฯ
1. ขาดคุณสมบัติท่ีจะเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ มี 2
กรณี คือ
(1) ไม่แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (บช. 1)
(2) แสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ไม่ครบถ้วน
ถูกต้องในสาระสาคัญ
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
การมีผลของการขาดคุณสมบัติ
1. กรณี ค่สู ญ
ั ญาไม่แสดงบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย จะทาให้ขาด
คุณสมบัติท่ีจะเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ นับแต่วนั พ้นกาหนดการยื่น
แบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) คือ
(1) นับแต่วนั ที่ 1 เมษายน ของทุกปี สาหรับบุคคลธรรมดา เว้น
แต่มีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้บคุ คลธรรมดา หรือ
เมื่อพ้นกาหนด 150 วันนับแต่วนั สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี หรือพ้นกาหนด
ระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้นิติบคุ คลสาหรับนิ ติบคุ คล
(2) กรณี บคุ คลหรือนิ ติบคุ คลที่เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
แสดงบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ไม่ถกู ต้องครบถ้วนในสาระสาคัญ ให้
บุคคลหรือนิ ติบคุ คลจะขาดคุณสมบัติท่ีจะเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
นับแต่วนั ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผูท้ ี่รบั มอบอานาจมีมติ
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
หมายเหตุ
1. การห้ามเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐนัน้ มีผลเป็ นการ
ห้ามเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐทุกกรณี มิได้หา้ มเฉพาะสัญญา
ที่มีมูลค่า 2 ล้านบาท หรือ 5 แสนบาทเท่านัน้
2. ในกรณีที่ค่สู ญ
ั ญาเป็ น กิจการร่วมค้า (joint venture) การ
ขาดคุณสมบัติที่จะเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ มีผลใช้บงั คับกับ
บุคคลหรือนิ ติบุคคลที่เข้าร่วมเป็ นกิจการร่วมค้าทัง้ หมด
การตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
การสิ้นสุดการขาดคุณสมบัติ
1. กรณี ค่สู ญ
ั ญาไม่แสดงบัญชี แสดงรายรับรายจ่ายของโครงการ
ให้การขาดคุณสมบัติส้ ินสุดลงเมื่อคู่สญ
ั ญาได้ยื่นบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย
(บช.1) และได้มีการเพิกถอนรายชื่ อจากบัญชี ผูไ้ ม่ยื่นบัญชี แสดงรายรับ
รายจ่าย (บช.1) แล้ว
2. กรณี ค่สู ญ
ั ญาแสดงบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ไม่ถกู ต้อง
ครบถ้วนในสาระสาคัญ ให้บุคคลหรือนิ ติบุคคลพ้นจากการขาดคุณสมบัติที่จะ
เป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ เมื่อได้มีการปรับปรุงแก้ไขแบบบัญชี แสดง
รายรับรายจ่าย (บช.1) ให้ถกู ต้องและคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผูไ้ ด้รบั มอบ
อานาจได้มีมติสงั ่ เพิกถอนรายชื่ อจากบัญชี ผูย้ ่ืนบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย
(บช.1) ไม่ถกู ต้องครบถ้วนในสาระสาคัญ
การขึ้ นบัญชี รายชื่ อผูข้ าดคุณสมบัติ
และการสัง่ เพิกถอน
กรณี ค่สู ญ
ั ญาไม่แสดงบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย
1. การขึ้ นบัญชี ผูข้ าดคุณสมบัติ
เมื่อพ้นกาหนดระยะเวลาการยื่นแบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย
(บช.1) ระบบจะทาการแสดงว่าคู่สญ
ั ญารายใดไม่ได้แสดงบัญชี แสดงรายรับ
รายจ่ายโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีผลบังคับห้ามมิให้หน่ วยงานของรัฐก่อนิ ติสมั พันธ์
ใดๆ กับบุคคลและนิ ติบุคคลดังกล่าว
2. การเพิกถอนรายชื่ อการขาดคุณสมบัติ
เมื่อคู่สญ
ั ญาได้ย่ืนบัญชี แสดงรายรับรายจ่ายทางอิเล็กทรอนิ กส์แล้ว
ระบบอิเล็กทรอนิ กส์จะลบรายชื่ อคู่สญ
ั ญาดังกล่าวออกจากบัญชี รายชื่ อผูข้ าด
คุณสมบัติการเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐ
การขึ้ นบัญชี รายชื่ อผูข้ าดคุณสมบัติ
และการสัง่ เพิกถอน
กรณี ค่สู ญ
ั ญาแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถกู ต้องครบถ้วนในสาระสาคัญ
(1) การขึ้นบัญชีผูข้ าดคุณสมบัติ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบความถูกต้องของแบบบัญชี แสดงรายรับ
รายจ่าย (บช.1) แล้วเห็นว่า ไม่ถกู ต้องครบถ้วนในสาระสาคัญ เช่น คู่สญ
ั ญาได้มีการ
จ่ายเงินเป็ นค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ จ่ายเป็ น ค่ารับรอง หรือมีการพาเจ้าหน้าที่เดิ นทางไป
ต่างประเทศ แต่ค่สู ญ
ั ญามิได้นารายการดังกล่าวมากรอกเป็ นรายจ่ายของสัญญา ในแบบ บช.
๑ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผูร้ บั มอบอานาจก็จะแจ้งให้ค่สู ญ
ั ญาชี้ แจง หากคาชี้ แจงดังกล่าว
ฟั งไม่ข้ ึน คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผูร้ บั มอบอานาจ จะสัง่ ให้ข้ ึนบัญชีผูข้ าดคุณสมบัติพร้อม
แจ้งให้ค่สู ญ
ั ญาทราบเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์คาสัง่ ภายในกาหนด หรือให้ยื่นแก้ไขแบบบัญชีแสดง
รายรับรายจ่าย (บช.1) โดยให้ค่สู ญ
ั ญายื่นอุทธรณ์เป็ นหนังสื อต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือ
ผูร้ บั มอบอานาจ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผูร้ บั มอบอานาจ พิจารณาคาอุทธรณ์หรือแบบ
บัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ที่ค่สู ญ
ั ญาได้ยื่นแก้ไขแล้วเห็นว่า คาอุทธรณ์ฟังขึ้นหรือ
แบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ครบถ้วนถูกต้องแล้วก็จะสัง่ เพิกถอนรายชื่ อผูข้ าด
คุณสมบัติ แต่ถา้ เห็นว่า คาอุทธรณ์ฟังไม่ข้ ึนหรือคู่สญ
ั ญาไม่ได้ยื่นแก้ไขแบบบัญชี แสดงรายรับ
รายจ่าย (บช.1) หรือแบบที่ยื่นแก้ไขนัน้ ยังไม่ถกู ต้องครบถ้วนก็จะยื นยันตามมติที่ให้ข้ ึ นบัญชี
รายชื่อผูข้ าดคุณสมบัติไว้เช่นเดิม
การขึ้ นบัญชี รายชื่ อผูข้ าดคุณสมบัติ
และการสัง่ เพิกถอน
(2) การเพิกถอนรายชื่ อการขาดคุณสมบัติ
เมื่อคู่สญ
ั ญาดังกล่าวใช้สิทธิอุทธรณ์คาสัง่ เป็ นหนังสือ หรือยื่นแก้ไข
แบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1)ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ป.ป.ช. หรือ
ผูร้ บั มอบอานาจ หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรือผูร้ บั มอบอานาจพิจารณาคา
อุทธรณ์หรือแบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) ที่ค่สู ญ
ั ญาได้ยื่นแก้ไข
แล้วเห็นว่า คาอุทธรณ์ฟังขึ้ นหรือ แบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1)
ถูกต้องครบถ้วนในสาระสาคัญแล้วแล้วก็จะสัง่ เพิกถอนรายชื่ อคู่สญ
ั ญา
ดังกล่าวออกจากบัญชี รายชื่ อผูข้ าดคุณสมบัติ แต่ถา้ เห็นว่าคาอุทธรณ์ฟังไม่
ขึ้ นหรือคู่สญ
ั ญาไม่ได้ยื่นแก้ไขแบบบัญชี แสดงรายรับรายจ่าย (บช.1) หรือ
แบบที่ยื่นแก้ไขนัน้ ยังไม่ถกู ต้องครบถ้วนในสาระสาคัญ ก็จะยื นยันตามคาสัง่ ที่
ให้ข้ ึ นบัญชี รายชื่ อผูข้ าดคุณสมบัติไว้เช่นเดิม
มาตรการเพื่อให้หน่ วยงานของรัฐปฏิ บตั ิ
ขัน้ ตอนก่อนทาสัญญา
1. ให้หน่ วยงานของรัฐกาหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติของบุคคลหรือนิ ติบุคคล
ที่จะเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญา (ผูเ้ สนอราคา) ไว้ในขอบเขตของงาน (Term of Reference :
TOR) หรือประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ดังนี้
* (1) บุคคลหรือนิ ติบุคคลที่จะเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญาต้องไม่อยู่ในฐานะซึ่งได้มีการ
ระบุชื่อไว้ในบัญชี รายชื่ อว่าเป็ นคู่สญ
ั ญาที่ไม่ได้แสดงบัญชี รายรับรายจ่าย หรือแสดง
บัญชี รายรับรายจ่ายไม่ถกู ต้องครบถ้วนในสาระสาคัญ
* (2) บุคคลหรือนิ ติบุคคลที่จะเข้าเป็ นคู่สญ
ั ญากับหน่ วยงานของรัฐซึ่งได้
ดาเนิ นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็ กทรอนิ กส์ (e-Government Procurement : eGP) ต้องลงทะเบียนในระบบอิเล็ กทรอนิ กส์ของกรมบัญชี กลางที่เว็บไซต์ศนู ย์ขอ้ มูล
จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
* ใช้บงั คับกับการจัดซื้อจัดจ้างทุกกรณี มิใช่เฉพาะ 2 ล้านบาทเท่านัน้
(3) คู่สญ
ั ญาต้องรับจ่ายเงินผ่านบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน เว้นแต่การรับ
จ่ายเงินแต่ละครัง้ ซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สญ
ั ญาอาจรับจ่ายเป็ นเงินสดก็ได้
(เฉพาะ 2 ล้านบาท)
มาตรการเพื่อให้หน่ วยงานของรัฐปฏิ บตั ิ
2. ห้ามมิให้หน่ วยงานของรัฐก่อนิ ติสมั พันธ์กบั บุคคลหรือนิ ติ
บุคคลซึ่งได้มีการระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อว่าเป็ นคู่สญ
ั ญาที่ไม่ได้แสดง
บัญชีแสดงรายรับรายจ่ายหรือแสดงบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้อง
ครบถ้วนในสาระสาคัญ เว้นแต่บุคคลหรือนิ ติบุคคลนัน้ จะได้แสดงบัญชี
แสดงรายรับรายจ่ายตามประกาศนี้ หรือได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้ถกู ต้อง
และมีการสัง่ เพิกถอนรายชื่อจากบัญชีดงั กล่าวแล้ว ทัง้ นี้ ไม่ว่าสัญญานัน้
จะมีมูลค่าเท่าใดก็ตาม
มาตรการเพื่อให้หน่ วยงานของรัฐปฏิ บตั ิ
ขัน้ ตอนภายหลังทาสัญญา
1. ให้หน่ วยงานของรัฐรายงานข้อมูลของคู่สญ
ั ญาที่ตอ้ งแสดงบัญชี แสดง
รายรับรายจ่าย (บช.1) ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรมสรรพากรทราบดังนี้
(1) กรณี หน่ วยงานของรัฐซึ่งดาเนิ นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบ
อิเล็ กทรอนิ กส์ (e-Government Procurement : e-GP) ของกรมบัญชีกลาง ให้รายงาน
ข้อมูลของคู่สญ
ั ญาผ่านระบบ (e-Government Procurement : e-GP) ของ
กรมบัญชี กลาง
(2) กรณี หน่ วยงานของรัฐใดที่มิได้ดาเนิ นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบ
อิเล็ กทรอนิ กส์ของกรมบัญชี กลาง (e-Government Procurement : e-GP) ให้รายงาน
ข้อมูลของคู่สญ
ั ญาผ่านระบบอิเล็ กทรอนิ กส์ท่ีสานักงาน ป.ป.ช. จัดทาขึ้ น (ผ่านเว็บไซต์
www.nacc.go.th)
การรายงานข้อมูลของคู่สญ
ั ญาที่ตอ้ งแสดงบัญชี รายรับรายจ่าย (บช.1)
ตาม 1 (1) (2) ให้หน่ วยงานของรัฐ รายงานกรณี ท่ีมีการแก้ไขสัญญาในส่วนที่เป็ น
สาระสาคัญด้วย
มาตรการเพื่อให้หน่ วยงานของรัฐปฏิ บตั ิ
การรายงานข้อมูลของคู่สญ
ั ญาที่ตอ้ งแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย
ตาม (๑) และ (๒) ให้หน่ วยงานของรัฐรายงานภายใน ๓๐ วัน นับแต่วนั
ทาสัญญาหรือข้อตกลง
** หมายเหตุ ในระหว่างที่การจัดทาระบบอิเล็กทรอนิ กส์ของ
กรมบัญชีกลาง (e-Government Procurement : e-GP) ยังไม่แล้วเสร็จ
ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้หน่ วยงานของรัฐตาม 1 (1) รายงานข้อมูลของ
คู่สญ
ั ญาผ่านเว็บไซต์ของสานักงาน ป.ป.ช.ไปพลางก่อน จนกว่าระบบ
อิเล็กทรอนิ กส์ของกรมบัญชีกลาง (e-Government Procurement : eGP) จะแล้วเสร็จครบถ้วนสมบูรณ์
มาตรการเพื่อให้หน่ วยงานของรัฐปฏิ บตั ิ
ทางเข้าการรายงานข้อมูลคู่สญ
ั ญา
1. Link จากหน้า introduction เว็บไซต์สานักงาน ป.ป.ช. คือ
www.nacc.go.th
2. Banner ด้านขวามือเว็บไซต์สานักงาน ป.ป.ช.
3. URL : http://
www.nacc.go.th/main.php?filename=index_parties