งานประยุกต์ทาง AI - สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

Download Report

Transcript งานประยุกต์ทาง AI - สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

อาจารย์ กริช สมกันธา
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)
ประวัตผิ ู้สอน
 คุณวุฒิ
กำลังศึกษำต่อ ปริ ญญำเอก --> Phd. (Electrical Engineering)
ปริ ญญำโท --> วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
ปริ ญญำโท --> วิทยำศำสตร ์์ คอมพิวเตอร์
ปริ ญญำตรี --> วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
(CMU)
(KMITL)
(KMITL)
(RMUT)
 นักศึกษาทุนรัฐบาล (สกอ.) ระดับปริญญาเอก, นักศึกษาทุนมูลนิธิเพือ่ การศึกษา
คอมพิวเตอร์ ระดับปริญญาโท

อำจำรย์มหำวิทยำลัยรำชภัฏอุดรธำนี , หัวหน้ำสำขำวิชำวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มหำวิทยำลัยนอร์ ท-เชียงใหม่
, อำจำรย์พิเศษมหำวิทยำลัยแม่โจ้, อำจำรย์พิเศษมหำวิทยำลัยขอนแก่น, อำจำรย์พิเศษมหำวิทยำลัยรำชภัฏ
เชียงใหม่
 งานวิจัยทีเ่ กีย่ วข้ อง
Artificial Intelligence, Digital Image Processing, Pattern Recognition,
Information Technology, Genetic Algorithm
เกณฑ์ การให้ คะแนน
คะแนนเข้ าร่ วมกิจกรรมในการเรียนการสอน 10
คะแนนสอบ Midterm
20
คะแนนสอบย่ อย หรืองาน Homework
10
คะแนนงานที่ได้ รับมอบหมาย (Programming)
25
 คะแนนสอบ Final
30




จุดประสงค์ ของการเรียนวิชาปัญญาประดิษฐ์
 นักศึกษำสำมำรถที่จะสร้ำงระบบปั ญญำประดิษฐ์ที่สำมำรถ
ทำงำนแทนมนุษย์ และนำไปประยุกต์ใช้กบั งำนต่ำงๆ ได้
อย่ำงมีประสิ ทธิ ภำพ ซึ่งจะเป็ นประโยชน์เป็ นอย่ำงสูงใน
กำรนำไปทำโครงงำน ทำวิทยำนิพนธ์ต่ำงๆ
กำรทำงำนของเครื่ องคอมพิวเตอร์
 เนื่ อ งจำกคอมพิ วเตอร์ ปั จ จุ บ ัน เป็ นคอมพิ วเตอร์ แ บบ von
Neumen’s
Machine หรื อเป็ น Stored-Program Computer กล่ำวคือเป็ นเครื่ องจักรที่
ทำงำนตำมขั้นตอนของคำสั่ งหรื อโปรแกรมที่มนุษย์ คิดไว้ และนำโปรแกรม
นั้นไปเก็บในรู ปแบบของไฟล์ในดิสก์ คอมพิวเตอร์ ก็อ่ำนโปรแกรมไปเก็บ
ไว้ในหน่วยควำมจำเพื่อให้หน่วยประมวลผลกลำงหรื อ CPU มำอ่ำนคำสั่ง
ไปทำงำนทีละคำสั่ง โดยเริ่ มตั้งแต่คำสั่งแรกไปจนจบโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ กับการคานวณ
 คอมพิวเตอร์ ในปั จจุบนั เป็ นคอมพิวเตอร์ ในยุคที่สี่ซ่ ึ งเลียนแบบกำรทำงำนของ
สมองมนุษย์เฉพำะในงำนของกำรคำนวณดังแสดงกำรเปรี ยบเทียบในรู ป
Data
หน่วยคำนวณ
หน่วยควำมจำ
สมองมนุษย์
กระดำษ
5+6=?
ผ่ำนตำและมือ
ก. กำรทำงำนของสมองมนุษย์
Instruction +
Data
Central
Memory
Procesing
Unit
Unit
Program
Data
Input/
Output Unit
ข. กำรคำนวณของคอมพิวเตอร์ ในปั จจุบนั เป็ น von Neumann’s Machine
โครงสร้ างของระบบคอมพิวเตอร์ ในยุคที่ 4
 ประกอบด้วย 4 ส่ วนหลักๆ ดังนี้
CPU
Data path
Memory
Unit
Input/Output
Interface Unit
Data bus
Address bus
Control bus
การทางานของการ
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
High-level
language
program
(in C)
swap(int v[], int k)
{int temp;
temp = v[k];
v[k] = v[k+1];
v[k+1] = temp;
}
C compiler
Assembly
language
program
(for MIPS)
swap:
muli $2, $5,4
add $2, $4,$2
lw $15, 0($2)
lw $16, 4($2)
sw $16, 0($2)
sw $15, 4($2)
jr $31
Assembler
Binary machine
language
program
(for MIPS)
00000000101000010000000000011000
00000000100011100001100000100001
10001100011000100000000000000000
10001100111100100000000000000100
10101100111100100000000000000000
10101100011000100000000000000100
00000011111000000000000000001000
ปํ ญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)
 เป็ นวิชำที่ว่ำด้วยกำรศึกษำเพื่อให้เข้ำใจถึงควำมฉลำดและ
สร้ำงระบบคอมพิวเตอร์ ทีชำญฉลำด และนำมำทำงำนแทน
หรื อช่วยมนุษย์ทำงำนที่ตอ้ งใช้ควำมฉลำดนั้นๆ
 กำรทำให้คอมพิวเตอร์ สำมำรถคิดหำเหตุผลได้ เรี ยนรู ้ ได้
ทำงำนได้เหมือนสมองมนุษย์ หรื อกำรพัฒนำให้ระบบ
คอมพิวเตอร์ตอบสนองกำรทำงำนต่ำงๆ ในสภำพแวดล้อม
ต่ำงๆ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สำมำรถปฏิบตั ิงำนได้แทนคน
เช่น Robot
AI
 ควำมพยำมในกำรพัฒนำระบบคอมพิวเตอร์ ให้มีพฤติกรรม
เรี ย นแบบคน ระบบต่ ำ งๆ จะต้อ งมี ค วำมสำมำรถเข้ำ ใจ
ภำษำมนุษย์
 รู ปแบบกำรค ำนวณทั่ ว ๆ ไปเช่ น กำรค ำนวณโดยใช้
คอมพิวเตอร์ ไม่ถือเป็ น AI เพรำะ AI จะสำมำรถค้นพบวิธี
ในกำรแก้ปัญหำนั้นด้วยตนเอง
 วัตถุ ประสงค์ คื อให้สำมำรถทำงำนได้เที ยบเท่ ำกับ ระดับ
สติปัญญำของคน โดยสำมำรถแก้ปัญหำได้ดีหรื อใกล้เคียง
กันกับคน โดย
วัตถุประสงค์ ของปัญญาประดิษฐ์
 เพื่อจำลองปั ญญำของมนุษย์และทำงำนแทนมนุษย์
 เพื่อแก้ปัญหำที่ตอ้ งใช้ควำมรู ้จำนวนมำก
 เพื่อสร้ำงสื่ อสำรระหว่ำงคอมพิวเตอร์ กบั มนุษย์ให้เข้ำใจกัน
ปัญญาประดิษฐ์ มีพนื้ ฐานมาจากสาขาต่ างๆ ดังนี้
 Philosophy ปรัชญำ
 Logic ตรรกศำสตร์
 Computation กำรคำนวณ
 Psychology/Cognitive Science จิตวิทยำ
 Biology/Neuroscience, ชีววิทยำ/ประสำทวิทยำ
 Evolution วิวฒ
ั นำกำร
เราจะรู้ ได้ อย่ างไรว่ าระบบนีส้ ามารถเรียกได้ ว่าเป็ นระบบ AI?
กำรทดสอบทัวริ ง (Alan Turing) เรำจะทำกำรทดสอบระบบ
ว่ำเป็ น AI หรื อไม่โดยจะมีคนทำกำรทดสอบกับระบบ AI และคน
ถ้ำคนทดสอบไม่สำมำรถแยกแยะได้วำ่ ระบบไหนคือ AI ระบบไหน
คือคน แสดงว่ำระบบนั้นเป็ น AI
สิ่ งที่นำมำทดสอบ
คน
AI
ผูท้ ดสอบ
คน
ประโยชน์ ของปัญญาประดิษฐ์
5.
ช่วยให้กำรใช้งำนคอมพิวเตอร์ เป็ นเรื่ องที่ง่ำยขึ้นและช่วยให้มีกำร
ใช้องค์ควำมรู ้กนั มำกขึ้น
ช่วยให้กระบวนกำรในกำรแก้ไขปั ญหำมีควำมรวดเร็ วและมีควำม
สอดคล้องกันมำกขึ้น
ช่วยแก้ปัญหำที่ไม่สำมำรถแก้ไขเองได้ หรื อยำกต่อกำรแก้ไขด้วย
กำรใช้ระบบสนับสนุนกำรตัดสิ นใจได้
ช่วยค้นหำ วิเครำะห์ สรุ ปควำมหรื อแปลผลสำรสนเทศที่มีจำนวน
มำกได้
ช่วยเพิ่มผลิตผลในกำรทำงำนให้มำกขึ้น
6.
ช่วยทำงำนแทนมนุษย์ในสถำนกำรณ์ที่เสี่ ยงภัย
1.
2.
3.
4.
ข้ อดีและข้ อจํากัดของปัญญาประดิษฐ์
ความสามารถที่ใช้ เปรียบเทียบ
มนุษย์
ควำมคงทนถำวรขององค์
อำจสูญหำยไปตำม
ควำมรู้
กำลเวลำหรื อกำรตำยของ
ผูเ้ ป็ นเจ้ำขององค์ควำมรู้
กำรคัดลอกและกำรเผยแพร่ ทำได้ยำก ต้องเสี ย
องค์ควำมรู้
ค่ำใช้จ่ำยให้กบั
ผูเ้ ชี่ยวชำญสูงและใช้
เวลำนำน
กำรจัดทำเป็ นเอกสำรขององค์ ยุง่ ยำก ค่ำใช้จ่ำยสู ง
ควำมรู้
ควำมคิดริ เริ่ มสร้ำงสรรค์
มีควำมคิดริ เริ่ ม
สร้ำงสรรค์
ปัญญาประดิษฐ์
จัดเก็บเป็ นองค์
ควำมรู้ได้คงทน
ถำวร
ทำได้ง่ำย รวดเร็ ว
และเสี ยค่ำใช้จ่ำย
น้อย
ค่อนข้ำงง่ำยและ
ค่ำใช้จ่ำยไม่สูงนัก
ไม่มี
ข้ อดีและข้ อจํากัดของปัญญาประดิษฐ์
ความสามารถที่ใช้
เปรียบเทียบ
ต้นทุนขององค์ควำมรู้
ควำมละเอียดอ่อนและ
ยุติธรรม
ปัญญาธรรมชาติ
สู งมำกเมื่อคิดเป็ นช่วง
เวลำนำน เนื่องจำกต้องจ่ำย
ให้กบั ผูเ้ ชี่ยวชำญเป็ น
ประจำ
อำจมีควำมลำเอียงได้
เนื่องจำกเหตุผลทำง
อำรมณ์และบำงเวลำอำจ
เกิดควำมไม่รอบคอบได้
ปัญญาประดิษฐ์
ค่ำใช้จ่ำยต่ำกว่ำ
มีควำมละเอียด
รอบคอบและ
ยุติธรรมเสมอตำมที่
ถูกโปรแกรมไว้
กำรประยุกต์ใช้ปัญญำประดิษฐ์ในศำสตร์แขนงอื่น
พฤติกรรมทีแ่ สดงความฉลาด
 กำรเรี ยนรู ้และเข้ำใจจำกประสบกำรณ์
 กำรตอบสนองต่อข้อควำมที่คลุมเครื อหรื อขัดแย้งกัน
 ควำมสำมำรถในกำรที่จะตอบสนองต่อสถำนกำรณ์ใหม่ๆ ได้อย่ำง





รวดเร็ วและประสบผลสำเร็ จ
ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรและแก้ไขปัญหำที่ซบั ซ้อนได้
ควำมสำมำรถที่จะเข้ำใจและทำงำนได้ในทิศทำงที่ถูกต้อง
ควำมสำมำรถที่จะใช้ควำมรู ้เพื่อจัดกำรกับสภำพแวดล้อมได้
ควำมสำมำรถที่จะหำควำมรู ้และใช้ควำมรู ้น้ นั ได้
ควำมสำมำรถที่จะคิดและใช้เหตุผล

ประวัติของปัญญาประดิษฐ์ AI
- ยุคก่อนกำเนิดปัญญำประดิษฐ์ (คศ. 1943-1955)
เป็ นยุคก่อนที่จะเกิดคำว่ำ AI
- ยุคกำเนิดปัญญำประดิษฐ์ (คศ. 1956)
เป็ นยุคที่เริ่ มกำหนดชื่อของสำขำวิชำนี้วำ่ “ปัญญำประดิษฐ์”
- ยุคตื่นตัว (คศ. 1952-1969)
ได้สร้ำงโปรแกรมภำษำ Lisp ซึ่งเป็ นโปรแกรมที่ใช้ในวงกำร
ปัญญำประดิษฐ์
ประวัติของปัญญาประดิษฐ์ AI
- ยุคเผชิญปัญหำจริ ง (คศ. 1966-1973)
เป็ นยุคที่ไม่มีโปรแกรมใดที่เก็บองค์ควำมรู ้ในรู ปประโยคต่ำงๆ ได้อย่ำงชัดเจน ไม่มี
เครื่ องจักรที่แปลภำษำทำง AI ได้ ข้อจำกัดด้ำนพื้นฐำนทำง Hardware ทำให้เกิดปั ญหำใน
กำรพัฒนำ AI
- ยุคระบบฐำนควำมรู้ (คศ. 1969-1979)
จำกยุคที่แล้ว วิธีกำรแก้ปัญหำยังไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะนำไปใช้งำน จึงหันมำหำควำมรู้
เฉพำะด้ำนซึ่งนำไปสู่ข้นั ตอนที่สมเหตุสมผล และนำไปสู่กำรแก้ปัญหำ
- ยุคปั ญญำประดิษฐ์เข้ำสู่ อุตสำกรรม (คศ. 1980-ปัจจุบนั )
เป็ นยุคที่นำเอำ AI ไปใช้ในงำนอุตสำกรรมต่ำงๆ
ข้ อเปรียบเทียบและข้ อจํากัดของปัญญาประดิษฐ์
 ระบบกำรคำนวณ
กำรคำนวณที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขจำนวนมำก จะซับซ้อนเกินกว่ำที่สมองของคนจะคำนวณ
ได้ แต่ AI สำมำรถคำนวณได้อย่ำงรวดเร็ ว
 ระบบกำรจัดเก็บข้อมูล
เมื่อระบบมีขอ้ มูลมำกขึ้น กำรจดจำด้วยสมองคนจะไม่ใช่ทำงเลือกที่ดีเนื่องจำกสมองคน
จะมีกำรลืม แต่เครื่ องจักรกลสำมำรถเก็บข้อมูลได้จำนวนมำกและนำไปใช้ได้โดยง่ำย
 ระบบกำรทำงำนแบบวนซ้ ำ
กำรทำงำนซ้ ำในกำรคำนวณ อำจจะส่ งผลต่อกำรตัดสิ นใจของมนุษย์ เนื่องจำกคนมี
ข้อจำกัดทำงร่ ำงกำย เมื่อทำงำนเดิมๆ แต่สำหรับ เครื่ องคอมพิวเตอร์ที่มี AI จะสำมำรถ
ทำงำนแบบวนซ้ ำได้อย่ำงไม่มีปัญหำ
ข้ อเปรียบเทียบระหว่ างคอมพิวเตอร์ AI และ
คอมพิวเตอร์ ทั่วไป
ข้อเปรี ยบเทียบ
กำรประมวลผล
ข้อมูลนำเข้ำ
วิธีกำรค้นหำ
จุดมุ่งหมำย
กำรให้เหตุผล
กำรตัดสิ นใจ
กำรวิเครำะห์ขอ้ มูล
กำรเรี ยนรู้
AI Computer
Computer ทัว่ ไป
ประมวลผลด้วยกำรวิเครำะรู ปแบบ
สัญลักษณ์
ข้อมูลนำเข้ำไม่จำเป็ นต้องสมบูรณ์
ประมวลผลตำม Algorithm ที่สร้ำง
ไว้
ข้อมูลนำเข้ำต้องมีควำมสมบูรณ์
ใช้วธิ ีที่ไม่อำศัยกฏเกณฑ์ตำยตัว
ใช้วกิ ำรตำมรู ปแบบ Algorithm
กำรได้มำซึ่งองค์ควำมรู้
กำรได้มำซึ่งข้อมูลและสำรสนเทศ
สำมำรถให้เหตุผลได้
ไม่สำมำรถให้เหตุผลได้
ตัดสิ นใจได้ดว้ ยตนเอง
ต้องให้มนุษย์ช่วย หำกอยูน่ อกวิธี
วิเครำะห์ขอ้ มูลอย่ำงสมเหตุผล
วิเครำะห์ตำม Algorithm
สำมำรถเรี ยนรู้ได้ดว้ ยตนเอง
ไม่สำมำรถเรี ยนรู้ดว้ ยตนเอง
AI ในปัจจุบัน
แม้ A.I. จะทำอะไรได้มำกมำยแต่หำกเที ยบกับจุ ดมุ่ งหมำยเดิ มที่ ตอ้ งกำรสร้ ำง
สิ่ งประดิษฐ์ที่มีควำมรู้ควำมคิดเท่ำทันมนุษย์แล้วนับได้วำ่ A.I. ในปั จจุบนั ยังห่ำงไกลกับ
ควำมซับ ซ้อ นของระบบควำมคิ ด ของมนุ ษ ย์พ อสมควร แต่ ใ ช่ ว่ำ จะเป็ นไปไม่ ไ ด้เ อำ
เสี ยเลย สิ่ งที่ A.I. ยังขำดไปคือ จินตนาการ และแรงบันดานใจ ที่มีอยูใ่ นตัวของมนุษย์เรำ
ทุกคนแล้วแต่จะมำกน้อยแตกต่ำงกันไปตำมวัยและประสบกำรณ์ รวมทั้งความรู้ จักคิด
รู้ จักตั้งคําถาม หรือการพัฒนาองค์ ความรู้ จากประสบการณ์ ก็เป็ นอีกหนึ่ งอย่ำงที่ A.I. ยัง
ไม่ สามารถมีได้ ทดั เทียมกับมนุษย์ เรา แต่หำกเปรี ยบเทียบกันในเรื่ อง ควำมว่องไวแม่นยำ
ในกำรคิดกำรประมวลผลแล้วแน่นอนว่ำ มนุษย์เรำไม่สำมำรถทำได้เร็ วเท่ำ ควำมว่องไว
แม่นยำเป็ นซึ่ งเป็ นจุดเด่นของ สมองกลอยูแ่ ล้ว แถมซ้ ำมนุษย์เรำยิง่ แก่ก็ยงิ่ หลงๆลืมๆ ไป
ตำมวัย

ดังนั้นพอจะอนุมำนได้วำ่ A.I. เป็ นตัวเสริ มควำมรู้ของมนุษย์เรำในด้ำนที่บกพร้อง
ต่ำงๆ เป็ นกำรเติมเต็มในบ้ำงสิ่ งที่มนุษย์เรำขำดหำยไป หรื อ หลงลืมไปในบำงรำยละเอียด
ทั้งกำรพัฒนำปัญญำประดิษฐ์ยงั เป็ นกำรพิสูจน์ศกั ยภำพของมนุษย์วำ่ จะสำมำรถพัฒนำ
สิ่ งไม่มีชีวติ ให้กลับมำ เป็ นสิ่ งซึ่งมีควำมรู ้สึกนึกคิดอย่ำงมนุษย์หรื อเข้ำใกล้มนุษย์ได้มำก
น้อย เพียงใด ล้วนเป็ นคำถำมที่น่ำสงสัยและรอกำรไขสู่คำตอบอยูท่ ุกเมื่อ

งานประยุกต์ ทาง AI
 กำรเล่นเกมส์
AI ชนิดถูกพัฒนำขึ้นมำเป็ นอย่ำงแรกๆของ AI เลยทีเดียว ในกำรวิจยั เกี่ยวกับเกม
ของ AI จะเน้นไปในกำรเล่นเกมกระดำน เพรำะเกมเหล่ำนี้ จะมีกฎกติกำที่ตำยตัว และไม่
มีควำมสลับซับช้อนมำกในกำรเขียนโปรแกรมเพื่อประมวลผล มำกนัก เช่นเกม หมำกรุ ก
,puzzle เป็ นต้น
 กำรเข้ำ ใจภำษำธรรมชำติ แ ละกำรสร้ ำ งรู ปแบบควำมหมำย
A.I. ชนิดนี้ เน้นไปที่กำรสร้ำงโปรแกรมที่สำมำรถเข้ำใจภำษำมนุษย์ได้ มีกำร
ตอบโต้กบั มนุษย์ได้ อำจจะเป็ นลักษณะกำรพูดตอบโต้หรื อกำรสื่ อควำมหมำยในรู ปแบบ
อื่น แม้จะมีกำรพัฒนำมำอย่ำงต่อเนื่ อง แต่ A.I. ในลักษณะนี้ก็ต้องถือว่ ายังไม่ ประสบ
ความสํ าเร็จเท่ าทีควร ตัวอย่ำงเช่นแปลไทยเป็ นอังกฤษ อังกฤษเป็ นไทย
งานประยุกต์ ทาง AI
 กำรวำงแผนและหุ่ นยนต์
เป็ นกำรสร้ำงและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อให้สำมำรถปฏิบตั ิงำนได้อย่ำงมีประสิ ทธิภำพ
อย่ำงมนุษย์เรำ หุ่นยนต์อำจจะถูกสัง่ ให้เดินหน้ำเลี้ยวซ้ำยเลี้ยวขวำได้แต่เมื่อเจอสิ่ งกีดขวำง
บำงทีมนั ก็ดนั ทุลงั ที่จะเดินหน้ำต่อไป เพรำะโปรแกรมเขียนมำอย่ำงนั้น แต่ในปั จจุบนั มี
หุ่นยนต์ที่ถูกสร้ำงมีพฒั นำกำรที่ดียงิ่ ขึ้น
 กำรทำเหมืองข้อมูล (Data Mining)
เป็ นกำรประยุกต์ใช้ปัญญำประดิษฐ์เพื่อค้นหำข้อมูลอย่ำงชำญฉลำดจำกฐำนข้อมูลขนำด
ใหญ่ ซึ่ งจะทำหน้ำที่ดึงข้อมูลที่เรำต้องกำรออกจำกฐำนข้อมูลขนำดใหญ่ เช่นข้อมูลกำร
ขออนุมตั ิบตั รเครดิตของลูกค้ำ
งานประยุกต์ ทาง AI
 ระบบผูเ้ ชี่ยวชำญ (Expert System)
เป็ นกำรสร้ำงระบบ AI ให้ทำหน้ำที่เหมือนผูเ้ ชี่ยวชำญเฉพำะด้ำน เช่นผูเ้ ชี่ยวชำญในกำร
รักษำโรค คือถ้ำเป็ นโรคนี้ควรจะให้คำแนะนำอะไรและให้ยำอะไร
 กำรพิสูจน์ทฤษฎี (Theorem Proving)
เป็ นกำรพิสูจน์ทฤษฎีต่ำงๆ เช่นทฤษฎีทำงคณิ ตศำสตร์ ทำงฟิ สิ ก
 กำรโปรแกรมอัตโนมัต (Automatic Programming)
เป็ นกำรเขียนโปรแกรมโดยอัตโนมัติเช่นป้ อน Input กับ Output เข้ำไป ระบบจะสำมำรถ
สร้ำงโปรแกรมให้โดยอัตโนมัติ
งานประยุกต์ ทาง AI
 ปั ญหำกำรจัดตำรำง (Scheduling Problem)
เทคนิคทำง AI ที่ใช้ในกำรจัดกำรตำรำงงำน ตำรำงเวลำต่ำงๆ เช่นกำรจัดตำรำงสอนของ
อำจำรย์ในมหำวิทยำลัยโดยใช้เทคโนโลยีทำงปัญญำประดิษฐ์ กำรจัดตำรำงเวลำใน
สำยกำรผลิตให้ได้ประสิ ทธิภำพสูงสุ ด หรื อกำรจัดตำรำงขึ้นลงของเครื่ องบิน
 ปั ญหำทำงมโนทรรศน์ (Perception Problem)
เทคนิคทำง AI ที่นำไปใช้ในกำรมองเห็น กำรฟัง กำรได้ยนิ เช่นเมื่อหุ่นยนต์มองจะทรำบ
ได้อย่ำงไรว่ำอันนี้เป็ นคนหรื อเป็ นสัตว์

 ภาษาธรรมชาติกบั การประยุกต์ ใช้ ภาษาไทยบนคอมพิวเตอร์
–
เป็ นการนําวิทยาการด้ านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีด้านการ
ประประมวลผลภาษาธรรมชาติ ม าพั ฒ นาโปรแกรมประมวลผลภาษาไทยบน
คอมพิวเตอร์ เพือ่ ให้ ใช้ งานได้ อย่ างมีประสิ ทธิภาพ ประกอบด้ วย การประมวลผลตัวอักษร
(Character) คํา (Word) ข้ อความ (Text) ภาพ (Image) และความรู้ ด้านภาษาศาสตร์
(Linguistics)
ตัวอย่ำงหุ่นยนต์ในปัจจุบนั
ตัวอย่ำงหุ่นยนต์ในปัจจุบนั
ตัวอย่ำงหุ่นยนต์ในปัจจุบนั
งานประยุกต์ ทาง AI
 ทำงด้ำนกำรแพทย์
มีกำรนำแขนกลเข้ำไปช่วยกำรผ่ำตัด ซึ่ ง สำมำรถทำงำนได้ละเอียดกว่ำ
มนุ ษย์มำก และข้อดีอีกประกำรคือกำรไม่มีควำมวิตกกังวล เกิดขึ้นในขณะ
ทำงำนอย่ำงเช่ นในมนุ ษย์ที่อ ำจจะก่ อให้เกิ ดควำมผิดพลำดในกำรท ำงำน
ได้ กำรใช้แขนกลช่วยในกำรผ่ำตัด เป็ นกำรทำงำนที่ มีควำมปลอดภัยสู ง
และอยูภ่ ำยใต้ควำมดูแลของแพทย์จึงเป็ นกำรร่ วมงำนกันอย่ำงดีเยีย่ มระหว่ำง
คนกับเครื่ องจักรกล
 ทางด้ านอุตสาหกรรม
เป็ นกำรช่วยลดภำระทำงต้นทุนกำรผลิตได้อย่ำงมำก ทั้งในงำนบำง
ประเภทที่อำจจะก่อให้เกิดอันตรำยหรื อมีควำมเสี่ ยงสู ง จนไม่ค่อยมีใครอยำก
ทำก็สำมำรถใช้ หุ่นยนต์หรื อปั ญญำประดิษฐ์มำทำงำนแทนได้
ตัวอย่ำงหุ่นยนต์ในด้ำนกำรแพทย์และอุตสำหกรรม
ตัวอย่ำงหุ่นยนต์ในด้ำนกำรแพทย์และอุตสำหกรรม
งานประยุกต์ ทาง AI
 ทางด้ านการบันเทิง
มีกำรสร้ำงหุ่นยนต์ที่สำมำรถตอบโต้กบั มนุษย์ได้ เป็ นสัตว์
เลี้ยงเป็ นเพื่อนเล่น
 ด้ านทางการทหาร
A.I หรื อปัญญำประดิษฐ์ในพวกนี้ถูกนำมำประยุกต์ใช้เป็ น
เครื่ องบินไร้คนขับ รถถังไร้คนขับ โดยมีจุดประสงค์หลักใน
ทำงด้ำนควำมมัน่ คง
ตัวอย่ำงหุ่นยนต์

ิ ค ้าทีไ่ ด ้รับความ
หุน
่ ยนต์สน
ุ ั ข AIBO ของ SONY ก็เป็ นสน
นิยมทีเดียว เนือ
่ งจากเป็ นหุน
่ ยนต์ทม
ี่ ี AI เลียนแบบ
พฤติกรรมของสุนัขได ้เหมือน จนคิดว่าเป็ นสุนัขจริงๆ
ทีเดียว ข ้อดีคอ
ื ไม่ต ้องยุง่ กับการอาบน้ า ให ้อาหาร

Adidas_1 Intelligence Level 1.1
ื่ รุน
รองเท ้าวิง่ ของ Adidas ชอ
่ ว่า Adidas_1
Intelligence Level 1.1 ทีม
่ ี AI คอยปรับ
ความสามารถในการรับแรงกระแทกให ้
เหมาะสมกับ แรงกระแทกทีไ่ ด ้รับ โดยทีพ
่ น
ื้
รองเท ้าจะมีเซนเซอร์ทรี่ องรับแรงกระแทก
ิ (Chip) เพือ
จากนั น
้ ข ้อมูลจะถูกสง่ ไปยัง ชป
่
ประมวลผล และปรับความสามารถในการ
รองรับแรงกระแทกของรองเท ้า เทคโนโลยีนี้
จะชว่ ยให ้ รองเท ้าปรับสภาพเพือ
่ เหมาะกับแรง
กระแทกของแต่ละบุคคล ขณะวิง่
งานประยุกต์ ทาง AI
 ระบบประมวลผลภาพดิจติ อล(Digital image processing)
และ รู ปแบบการจดจํา (Pattern recognition)
เทคนิคทำง AI ได้ถูกนำไปใช้แก้ปัญหำเกี่ยวกับกำร
มองเห็นกำรฟัง กำรได้ยนิ เช่นเมื่อคนมองจะรู้ได้อย่ำงไรว่ำ
สิ่ งนั้นคืออะไร สิ่ งนี้เป็ นคน หรื อสิ่ งนี้เป็ นสัตว์

ส่ วนประกอบใหญ่ที่สำคัญทำง AI
1. การรับรู้ การนําข้ อมูลเข้ า (Perception = Input)
สิ่ งมีชีวติ ในระบบชีววิทยำ มีกำรรับรู ้ สภำพโดยรอบ ผ่ำนหู ตำ จมูก ปำก
(senses)
 รถยนต์ที่ขบ
ั เคลื่อนด้วยตนเอง มีกำรรับข้อมูลผ่ำนทำงกล้อง camera
images และข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทำง
 ระบบวิเครำะห์หำสมมติฐำนของโรค มีกำรรับข้อมูลจำกอำกำรของ
คนไข้ และผลกำรตรวจร่ ำงกำย
 Vision กำรรับรู ้จำกรู ปภำพ
 Speech processing กำรประมวลผลคำพูด
 Natural language processing กำรประมวลผลภำษำ
 Signal processing กำรประมวลผลจำกสัญญำนต่ำง ๆ เช่น เสี ยง แสง
ควำมร้อน ควำมเย็น ลม
ส่ วนประกอบใหญ่ที่สำคัญทำง AI
2. 
หลักการใช้ เหตุและผล (Reasoning = Computation)
กำรใช้หลักกำรและเหตุผลเป็ นหัวใจของปัญญำประดิษฐ์ เพรำะกำรกระทำทุ ก
อย่ำงที่มีควำมฉลำดต้องมีกำรวิเครำะห์ก่อน กำรดำเนินกำร ตัวอย่ำงเช่น กำรสรุ ป
จำกเหตุ (inference), กำรตัดสิ นใจ (decision-making), กำรจัดหมวดหมู่และ
ประเภท (classification) ซึ่ งกำรกระทำต้องได้มำจำกกำรรับรู้ และสถำนะใน
ปั จจุบนั ของระบบนั้น ๆ ตัวอย่ำงเช่น
 Neural network กำรใช้เครื่ องข่ำยประสำท
 Heuristic searching a problem space กำรหำคำตอบโดยกำรเลือกทำงที่ดู
เหมำะที่สุด
 Knn และ Bayes classification ระบบกำรจำแนกกลุ่มของข้อมูล
 Genetic algorithm ขั้นตอนวิธีทำงพันธุ กรรม
ส่ วนประกอบใหญ่ที่สำคัญทำง AI
3. การแสดงการกระทํา (Action = Output)

สิ่ งมีชีวติ โต้ตอบกับสภำพรอบตัวโดย กำรเคลื่อนไหว เสี ยง
 รถยนต์ที่ขบ
ั เคลื่อนด้วยตนเอง มีกำรแสดงกำรกระทำคือ กำร
หมุนพวงมำลัย กำรปรับระดับเครื่ องยนต์
 ระบบวิเครำะห์หำสมมติฐำนของโรค มีกำรแสดงตัวยำที่สำมำรถ
ช่วยบรรเทำอำกำร หรื อแนะนำ กำรทดสอบเพิม่ เติมในกรณี ที่
จำเป็ น
 Robot actuation กำรเคลื่อนไหวของหุ่ นยนต์
 Natural language generation กำรส่ งภำษำ
 Computer graphics กำรแสดงรู ปภำพ
 Sound synthesis อุปกรณ์สังเครำะห์เสี ยง
ตัวอย่ างการสร้ างระบบ AI ที่สามารถบ่ งบอกว่าคนไหน
ร่ างกายปกติและไม่ ปกติ(ชาย)
1. หำลักษณะเด่น (Feature Extraction)
- Feature 1 คือ ส่ วนสู ง
- Feature 2 คือ น้ ำหนัก
2. ข้อมูลที่ใช้สำหรับกำรฝึ ก (Train)
- คือข้อมูลของคนปกติ 10 คน และ คนไม่ปกติ 10 คน
3. ข้อมูลที่ใช้สำหรับกำรทดสอบ (Test)
- ข้อมูลที่ไม่รู้วำ่ ปกติหรื อไม่ปกติ
4. ทำกำรจำแนกกลุ่มของข้อมูล (Classification) โดยใช้ รู ปแบบกำรจดจำ
(Pattern Recognition)
- สร้ำงสมกำรสำหรับกำรตัดสิ นใจ ซึ่ งอำจจะใช้ทฤษฎี AI ที่มีอยูเ่ ช่น Bay,
Knn, Neural Network, SVM, Fuzzy
F2 (Weight)
90
I
80
I
I
I
70
I
I
60
I
50
I
I
I
Train
I
40
Test
30
F1 (Tall)
120
130
140
150
160
170
180
190

แนวโน้มของกำรพัฒนำ ปั ญญำประดิษฐ์ที่เป็ นรู ปธรรมมีเพิ่มมำกขึ้น
เรื่ อยๆ ในระยะเวลำอันใกล้เรำอำจจะเห็ นปั ญญำประดิ ษฐ์รูปแบบใหม่ ๆที่ คล้ำย
มนุ ษย์มำกขึ้ นทุ กวัน เพรำะนับจำกกำรปฎิ วตั ิ อุตสำหกรรม วิทยำศำสตร์ ก็พฒั นำ
แบบก้ำวกระโดดเรื่ อยมำ
แต่ในขณะเดี ยวกันหำกเรำใช้วิถีชีวิตที่ ยึดติ ดกับ
เทคโนโลยีมำกเกินไป มนุษย์เรำก็อำจจะถูกลดทอนควำมสำคัญลงเพรำะคนไม่ตอ้ ง
สนใจในผูค้ นรอบข้ำงมำกนักไม่ตอ้ งกังวลว่ำจะกลำยเป็ นคนไม่มีเพื่อนเมื่ อเหงำก็
สำมำรถพูดคุยกับ หุ่ นยนต์ได้ เหมื อนอย่ำงเช่นเทคโนโลยีหลำยๆอย่ำงที่ ทำให้คน
ห่ ำงไกลกัน แต่ถึงกระนั้นหำกมนุ ษย์รู้จกั ใช้ประโยชน์จำกเทคโนโลยีที่ตวั เองสร้ำง
อย่ำงเท่ำทันก็คงไม่ใช่เรื่ องแปลกที่ เรำจะมีสิ่งประดิษฐ์ที่มีควำมคล้ำยคลึงกับมนุ ษย์
และมีควำมฉลำดที่เกือบจะทัดเทียมกัน ..ปัญญาประดิษฐ์ นับได้ ว่าศาสตร์ แห่ งชีวติ
คําถาม
1. ปัญญำประดิษฐ์คืออะไร ?
2. บอกประโยชน์ของปัญญำประดิษฐ์มำ 3 ข้อ ?
3. บอกข้อจำกัดของปัญญำประดิษฐ์ในปั จจุบนั 3 ข้อ ?
4. จงบอกถึงพฤติกรรมที่แสดงควำมฉลำดของปัญญำประดิษฐ์มำ 5 ข้อ (ห้ำมซ้ ำกับที่สอน) ?
5. จงบอกตัวอย่ำงของกำรประยุกต์งำนทำงปัญญำประดิษฐ์มำ 5 ข้อ ที่นกั ศึกษำสังเกตเห็นใน
ปัจจุบนั (ห้ำมซ้ ำกับที่สอน) ?
6. อธิบำยควำมแตกต่ำงระหว่ำงระบบที่มีปัญญำประดิษฐ์ กับระบบที่ไม่มีปัญญำประดิษฐ์มำ 3
ข้อ ?
7. ถ้ำต้องกำรสร้ำงระบบปัญญำประดิษฐ์ที่ทำกำรแยกว่ำอันไหนคือ ส้ม อันไหนคือ มะพร้ำว จะ
สร้ำงระบบยังไง ?