Transcript ภาพนิ่ง 1
การส่ งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย นายแพทย์ พนิต โล่ เสถียรกิจ โรงพยาบาลส่ งเสริมสุ ขภาพ ศูนย์ อนามัยที่ 3 โครงสร้างประชากรไทยอดีต ปั จจุบนั และอนาคต พ.ศ. 2553 ประเทศ ไทย 70+ 70+ 60-64 ชาย พ.ศ. 2568 ประเทศ ไทย ชาย หญิง หญิง 60-64 45-49 45-49 30-34 30-34 15-19 15-19 0-4 ร้อยละ 0-4 10 8 6 4 2 0 2 4 6 8 10 8 ร้อยละ 6 4 2 0 2 4 6 8 10 10 Aging Population Demographic Dividend ปริมาณนักเรียน ป1-ม6 จานวน 10.5 ล้านคน ทีม่ า : ปาณบดี เอกะจัมปกะ และ นิธิศ วัฒนมะโน 17 กันยายน 2551 IQ เด็กนักเรียนไทย แบ่ งตามระดับสติปัญญา - - - - - การกระจายปกติ 42.5% 14.9% 6.5% 7.0% IQ < 100 IQ = 100 IQ > 100 20.2% 5.5% 3.4% สติปัญญาบกพร่อง คาบเส้ น ต่ากว่าเกณฑ์เฉลี่ย เกณฑ์เฉลี่ย สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ฉลาด (Superior; IQ ฉลาดมาก (Very (Intellectual (BorderLine; IQ 70 (Low Average; IQ (Average; IQ 90 - (High Average; IQ 120 - 129) Superior; IQ 130 Deficient; IQ<70) - 79) 80 - 89) 109) 110 - 119) ขึ ้นไป) 6 ผลสารวจค่าเฉลี่ย IQ ทัวประเทศ ่ และแยกตามภาค 104.5 98.59 101.29 96.85 IQ < 100 7 100.11 IQ = 100 95.99 IQ > 100 แผนทีป ่ ระเทศไทย แสดงผลการสารวจ ระด ับสติปญ ั ญา เด็กน ักเรียนไทย 2554 จ ังหว ัดที่ IQ > 100 จ ังหว ัดที่ IQ = 100 จ ังหว ัดที่ IQ < 100 8 21 July 2015 อาหาร การเลีย้ งดู พันธุกรรม 40-50 % T สมอง สุขภาพ ไม่แข็งแรง พัฒนา การ เจ็บป่ วยบ่อย ยิ่งเรียนรู้ ย่ิ งมีการเชื่อมโยงมาก ยิ่งฉลาด ไม่มีการเรียนรู้ ไม่เกิดการเชื่อมโยงและยังเกิดการกาจัดทิ้ง ค่าเฉลีย ่ IQ เด็กน ักเรียนไทย 2554 IQ > 100 (18 จังหวัด) IQ = 100 (20 จังหวัด) IQ < 100 (38 จังหวัด) 11 ค่าม ัธยฐาน Maternal urine iodine 2553 Median of Urine Iodine ≥ 500 ug/i (0 จังหวัด) เกินขนาด 250-499 ug/I (7 จังหวัด) เกินพอ 150-249 ug/I (26 จังหวัด) เพียงพอ < 150 ug/I (42 จังหวัด) ขาดไอโอดีน ั ันธ์ของมาตรการสง ่ เสริม ความสมพ ่ งว ัย การพ ัฒนาเด็กปฐมว ัยในแต่ละชว ว ัยรุน ่ – ก่อนตงครรภ์ ั้ • มุมเพือ ่ นใจว ัยรุน ่ • บริการทีเ่ ป็นมิตรก ับว ัยรุน ่ • กิจกรรมสาธารณะในชุมชน 6 – 21 ปี ึ ษา • คุณภาพการศก ่ เสริมสุขภาพ • โรงเรียนสง ระด ับเพชร • เรียนฟรี 15 ปี 3 – 6 ปี ้ งดูของพ่อแม่ • การเลีย • ศูนย์เด็กเล็ กเรียนรู ้ • กิน กอด เล่น เล่า เรียนรู ้ ก่อนตงครรภ์ ั้ - คลอด • ลูกครบ 32 สมองดี • ควบคุมป้องก ัน การขาดสารไอโอดีน • โรงพยาบาลสายใยร ัก แห่งครอบคร ัว แรกเกิด – 3 ปี ้ งดูของพ่อแม่ • การเลีย ื เล่มแรก • หน ังสอ • กิน กอด เล่น เล่า เรียนรู ้ การเลี้ยงดูใน 3 ขวบปี แรก อาจทาให้เด็กมี IQ สูงขึ้นหรื อต่าลงได้กว่า 20 จุด - ภาวะขาดไอโอดีน ระดับ IQ ลดลง 13.5 จุด - ภาวะขาดธาตุเหล็ก ระดับ IQ ลดลง 5 - 10 จุด (โครงการเด็กไทยสมองดี ของกรมอนามัย) - เด็กกินนมแม่ สมองมีพฒ ั นาการ ดีกว่า 2-11 จุด พัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก • • • • หลักการพัฒนาการของมนุษย์ เป็ นกระบวนการเปลีย่ นแปลงทีต่ ่ อเนื่อง เป็ นลาดับขั้นตอน พัฒนาการด้ านต่ างๆ มีความเกีย่ วข้ องสั มพันธ์ กนั ระดับพัฒนาการของเด็กขึน้ กับระดับวุฒิภาวะของ สมองและระบบประสาท • เป็ นผลของปัจจัยด้ านพันธุกรรม และปัจจัยด้ าน สิ่ งแวดล้ อม หลักการพัฒนาการของมนุษย์ • ทิศทางพัฒนาการด้ านการเคลือ่ นไหว เป็ นจาก ศีรษะไปยังปลายเท้ า และจากส่ วนใกล้ตัวไป ส่ วนปลาย • จากปฏิกริ ิยาสะท้ อนที่ไม่ สามารถบังคับได้ เป็ น การเคลือ่ นไหวทีค่ วบคุมได้ หลักการพัฒนาการของมนุษย์ • พัฒนาการทางพฤติกรรม เริ่มจากการแสดง ออกแบบรวมๆ เป็ นพฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจง • สามารถส่ งเสริมโดยให้ เด็กมีโอกาสเรียนรู้ จาก การทางาน สารวจ ทดลอง การเล่น และมีผู้ใหญ่ ให้ การเอาใจใส่ ดูแล สนับสนุนให้ มกี ารเรียนรู้ เพิม่ เติม พัฒนาการด้ านต่ างๆ • ด้ านร่ างกาย (physical, psycho-motor development) – กล้ามเนือ้ มัดใหญ่ (gross motor) – การใช้ ตาและมือประสานกันในการทากิจกรรม (fine motoradaptive) • ด้ านสติปัญญา (cognitive development) – ด้ านภาษาและการสื่ อสาร (language and communication development) – การใช้ ตาและมือประสานกันในการทากิจกรรม – การรู้ คดิ การใช้ เหตุผล การแก้ ปัญหา • ด้ านจิตใจอารมณ์ (emotional development) • ด้ านสั งคม (personal-social development) • ด้ านจิตวิญญาณ คุณธรรม (spiritual, moral development) 1 เดือน: พัฒนาการ • เริ่มผงกศีรษะ • กามือแน่ น • ทาเสี ยงในคอ • จ้ องหน้ า 1 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • แนะนาท่ านอนหงาย เบาะไม่ นิ่มเกินไป • เริ่มมีวงจรหลับ-ตื่นที่สม่าเสมอ ควรพานอน ขณะที่ยงั ไม่ หลับลึก หัดให้ นอนได้ เอง • ตอบสนองอย่ างสม่าเสมอเมื่อเด็กร้ อง • เล่ นกับเด็กขณะตืน่ ดีด้วยท่ าควา่ เพือ่ เด็กเป็ น อิสระในการเคลือ่ นไหว (tummy time) 1 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • เด็กมักร้ องมากๆ ในช่ วงอายุ 6 สั ปดาห์ • สามารถช่ วยปลอบโยนโดยใช้ เสี ยงพูด การสั มผัส • พยายามระงับอารมณ์ อย่ าใช้ วธิ ีการสั่ นโยกตัวเด็กให้ หยุดร้ อง (เกิด shaking baby syndrome) • ถ้ ามีพคี่ วรให้ พมี่ สี ่ วนร่ วมทีเ่ หมาะสม พ่ อแม่ ให้ เวลา ส่ วนตัวกับพีด่ ้ วย 2 เดือน: พัฒนาการ • ชันคอได้ 45 องศา • กามือหลวมๆ มองตามข้ ามเส้ นกึง่ กลาง ตัว • ฟังเสี ยงพูดคุยด้ วย และหันหาเสี ยง • สบตา ยิม้ ตอบแสดงความสนใจ 2 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • เรียนรู้ เข้ าใจกับพืน้ อารมณ์ ของเด็ก • รู้ ว่าเด็กชอบ-ไม่ ชอบลักษณะใด • ทวนปัญหาพีน่ ้ อง 4 เดือน: พัฒนาการ • ชันคอได้ 90 องศา ใช้ แขนยกตัวชันขึน้ ได้ จับอยู่ท่า นั่งศีรษะตรง • มือสองข้ างประสานกันตรงกลาง เริ่มคว้ าของใกล้ตัว • ส่ งเสี ยงอ้ อแอ้ หัวเราะดัง เมื่อดีใจ • ยิม้ ตอบ ยิม้ ทัก ทาท่ าทางดีใจเมื่อเห็นอาหารหรือพ่อ แม่ 4 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • มีช่วงตื่นที่นานขึน้ ความสนใจยังเป็ นช่ วงสั้ นๆ • การเล่นโดยมีผู้ใหญ่ พูดคุย อ่านหนังสือ ร้ อง เพลง • ของเล่นสี สดใส กระจก • ไม่ ควรใช้ รถหัดเดิน 6 เดือน: พัฒนาการ • ควา่ หงายได้ นั่งเองได้ ชั่วครู่ • คว้ าของด้ วยฝ่ ามือ หยิบของมือเดียว เปลีย่ นมือ ถือของ • หันหาเสี ยงเรียก เล่นนา้ ลาย ส่ งเสี ยงหลายเสี ยง • รู้ จกั แปลกหน้ า กินอาหารทีป่ ้ อนด้ วยช้ อนได้ 6 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • ใช้ เก้าอีส้ ู ง เพือ่ ให้ เด็กฝึ กพัฒนาการการมอง และ การสื่ อสารได้ ดี • การเล่นแบบมีการตอบสนอง เช่ น จ๊ ะเอ๋ ตบแปะ • พูดคุย ใช้ นิทาน ร้ องเพลง • มีกจิ กรรมก่อนนอน เวลานอนที่สม่าเสมอ ฝึ กให้ หลับเมื่อตืน่ ได้ เอง 9 เดือน: พัฒนาการ • นั่งได้ มั่นคง คลาน เกาะยืน • ใช้ นิว้ หยิบของได้ เปิ ดหาของที่ซ่อนไว้ ได้ มองตาม ของที่ตกจากมือ • ฟังรู้ภาษา เข้ าใจสี หน้ าท่ าทาง เลียนเสี ยง • จ๊ ะเอ๋ ตามไปเก็บของตก ร้ องตามแม่ เมื่อแม่ จะออก จากห้ อง หยิบอาหารกินได้ 9 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • เริ่มเรียนรู้เหตุและผลของการกระทาง่ ายๆ เล่ น ของเล่ น cause-effect toys เช่ น เอา ก้ อนไม้ ใส่ กล่ อง เทออก • ฝึ กวินัย ผู้ใหญ่ ทาตัวอย่ างทีด่ ี • ความกังวลจากการแยกจาก กลัวคนแปลกหน้ า 12 เดือน: พัฒนาการ • เกาะเดิน ยืนเองได้ ชั่วครู่ • ใช้ นิว้ หัวแม่ มอื และนิว้ ชี้หยิบของเล็กๆได้ ถนัด หยิบ ของใส่ ถ้วย • เรียกพ่ อ แม่ พูดคาโดดทีม่ คี วามหมายได้ 1 คา ทาตาม บอกโดยมีท่าทางประกอบได้ • ตบมือ เลียนท่ าทางโบกมือ สาธุ ร่ วมมือเวลาแต่ งตัว ชอบสารวจ 12 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • ไม่ ควรใช้ การลงโทษโดยการตี ใช้ คาสั่ งห้ ามอย่ างชั ดเจนใน พฤติกรรมที่ไม่ ควรทา หรือใช้ วธิ ี time-out ช่ วย ป้องกันโดยการใช้ วธิ ีดงึ ความสนใจไปยังจุดอืน่ เมือ่ เริ่ม งอแง • จับหยุดเมือ่ มีพฤติกรรมรุนแรง • ชมเชยเมื่อมีพฤติกรรมที่ดี • มีกจิ กรรมครอบครัวร่ วมกัน เลีย่ งการดูโทรทัศน์ • มีกจิ วัตรการกิน นอน ขับถ่ ายทีส่ มา่ เสมอ 18 เดือน: พัฒนาการ • เดินคล่ อง วิง่ ยืนก้ มเก็บของแล้วลุกขึน้ ได้ จูงมือ เดียวขึน้ บันไดได้ • ขีดเขียนเส้ นยุ่งๆ วางก้ อนไม้ ซ้อนกันได้ 3 ชิ้น • ชี้ภาพ ชี้อวัยวะตามคาบอก พูดคาโดดได้ หลายคา ทาตามบอกโดยไม่ ต้องมีท่าทางประกอบได้ • ถือถ้ วยน้าดื่มเอง 18 เดือน: คาแนะนาล่ วงหน้ า • เป็ นช่ วงการศึกษา เรียนรู้สิ่งแวดล้ อมรอบตัว ให้ สั งเกตความสนใจของเด็ก • มีความกังวลต่ อสิ่ งแวดล้ อมใหม่ ๆ ควรให้ โอกาส และ เวลาต่ อการปรับตัว โดยเฉพาะเด็กที่ปรับตัวยาก • ฝึ กวินัยตามคาแนะนา 12 เดือน • เริ่มฝึ กการขับถ่ ายตามความพร้ อมของเด็ก 2 ปี : พัฒนาการ • เดินขึน้ บันไดเอง เตะบอล กระโดด 2 เท้ า • ขีดเส้ นตรง เปิ ดหนังสื อทีละหน้ า วางก้ อนไม้ ซ้อนกัน ได้ 6 ชิ้น • พูด 2-3 คาต่ อกันได้ อย่ างมีความหมาย บอกชื่อตัวเอง คนคุ้นเคยได้ • เลียนแบบผู้ใหญ่ ใช้ ช้อนตักอาหารกินเอง บอกเวลาจะ ถ่ ายอุจจาระ 2 ปี : คาแนะนาล่ วงหน้ า • เป็ นช่ วงที่ภาษามีพฒ ั นาการมาก ส่ งเสริมโดยการ พูดคุยในสิ่ งทีเ่ ด็กสนใน การอ่ านนิทานร่ วมกันแบบมี การตอบสนอง (interactive reading) • ฝึ กวินัย กิจวัตรสม่าเสมอ • ให้ โอกาสการเลือกทา-กิน โดยให้ ตัวเลือก สนับสนุน ให้ เด็กมีความรู้สึกว่ าได้ ทาเอง ควบคุมกิจกรรม นั้นเอง 3 ปี : พัฒนาการ • ขึน้ บันไดสลับเท้ า ขี่สามล้อ • วาดวงกลมตามแบบ • เล่าเรื่องพอเข้ าใจได้ ประมาณร้ อยละ 50 • ถอดรองเท้ า ใส่ เสื้อได้ รู้ จกั เพศตัวเอง แบ่ ง ของให้ คนอืน่ ได้ บ้าง คุมการขับถ่ ายอุจจาระ ได้ 3 ปี : คาแนะนาล่ วงหน้ า • ส่ งเสริมพัฒนาการทางภาษาอย่ างต่ อเนื่อง การเล่ นกับเสี ยง เช่ นคาพ้องในภาษาโดย ผ่ านนิทาน การเล่ นในชีวติ ประจาวัน • ส่ งเสริมการเล่ นกับเพือ่ นในวัยเดียวกัน • การรู้ จกั รอคอย 4 ปี : พัฒนาการ • กระโดดเท้ าเดียว เดินลงบันไดสลับเท้ าได้ • วาดสี่ เหลีย่ มตามแบบได้ วาดคนได้ 3 ส่ วน • ร้ องเพลง ถามคาถาม เล่ าเรื่องให้ ผู้อนื่ เข้ าใจได้ ทั้งหมด รู้ จกั 4 สี • เล่ นร่ วมกับคนอืน่ ได้ คุมการถ่ ายปัสสาวะเวลา กลางวันได้ 4 ปี : คาแนะนาล่ วงหน้ า • เตรียมความพร้ อมสาหรับการเข้ าโรงเรียน • ให้ โอกาสเด็กได้ เรียนรู้ ประสบการณ์ มากขึน้ เช่ นไปเทีย่ ว สวนสั ตว์ • การอ่ านหนังสื อแบบ interactive reading • ฝึ กทักษะทางสั งคม โดยเป็ นตัวอย่ างทีบ่ ้ าน เช่ นการขอโทษ ขอบคุณ การเชิญชวน • ตอบคาถามของเด็กด้ วยคาง่ ายๆ ชัดเจน 5 ปี : พัฒนาการ • กระโดดสลับเท้ า กระโดดข้ ามสิ่ งกีดขวางเตีย้ ๆ เดินต่ อเท้ าเป็ น เส้ นตรงได้ โดยไม่ ล้ม • จับดินสอได้ ถูกต้ อง วาดสามเหลีย่ มตามแบบได้ วาดคน 6 ส่ วน • ถามตอบเกีย่ วกับความหมายและเหตุผล เริ่มจาตัวอักษรได้ นับสิ่ งของได้ 5 ชิ้น นับเลขได้ ถึง 20 • เล่ นอย่ างมีกติกา แต่ งตัวเอง เล่ นสมมุตใิ ช้ จินตนาการได้ ดี ไม่ ปัสสาวะรดทีน่ อนกลางคืน 5 ปี : คาแนะนาล่ วงหน้ า • การปรับตัวทีโ่ รงเรียน กับเพือ่ น และครู • ความสั มพันธ์ ทดี่ รี ะหว่ างผู้ปกครอง ด้ วยกัน และครู • ฝึ กเด็กให้ รู้ จกั รับมืออย่ างถูกต้ องถ้ ามีคนอืน่ มารังแก ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรม ปัจจัยสาคัญที่มีอิทธิพลต่อการดูแลเด็ก ภูมิหลังของพ่อแม่ จิตวิทยาการเลีย้ งดู พ่อแม่ ความผูกพันและวิธี การดูแลทีเ่ หมาะสม ความรู้เกีย่ วกับ วิธีการดูแลเด็ก เด็ก การเลีย้ งดูเด็ก ที่ผดิ ปกติ หลักสั งเกตว่ าพฤติกรรมใดเป็ นปัญหา พิจารณาจาก • • • • • อายุและเกณฑ์ ปกติของพัฒนาการ ชนิดของพฤติกรรม ความบ่ อยหรือความถี่ของพฤติกรรม ความรุนแรงทีแ่ สดงออก ขีดความอดทนของ พ่ อ แม่ ครู ผู้ดูแลเด็ก การร้องอาละวาด • พบบ่ อยในช่ วงอายุ 2-5 ปี ลักษณะการแสดงออก เด็กเมื่อโกรธจะทาลายของ หรือ กระทืบเท้ า นอนดิน้ กรีดร้ อง เพือ่ ให้ ได้ ในสิ่ งที่ ตน ต้ องการ การร้องอาละวาด สาเหตุ • ขั้นตอนของพัฒนาการเป็ นช่วงที่เด็กมีความ ดื้อรั้นเอาแต่ใจ • มักเกิดในช่วงที่มีพฒ ั นาการของความเป็ น ตัวเอง คือช่วง autonomy ของเด็ก การร้องอาละวาด สาเหตุ(ต่ อ) • การควบคุมตัวเองและทักษะการแก้ไขความคับข้อง ใจมีอยูจ่ ากัด • เลียนแบบการกระทาของผูใ้ หญ่ • พ่อ แม่มีทศ ั นคติในการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม การร้องอาละวาด การดูแลแก้ ไข ่ แม่เข้าใจว่าเป็ นพัฒนาการด้านอารมณ์ • อธิ บายให้พอ ที่ปกติหายได้ดว้ ยการช่วยเหลือที่เหมาะสม • หลีกเลี่ยงการยัว่ ให้โกรธ หรื อขัดใจ • ให้รู้จก ั ระบายความโกรธด้วยการพูด การร้องอาละวาด การดูแลแก้ ไข • เมื่อเด็กมีอาการใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจในเด็กเล็ก ในเด็กโตใช้วธิ ีอธิบายสั้นๆ • เมื่อมีอาการควรทาการแยกเด็ก ให้อยูค่ นเดียว ควร พูดชี้แจงให้เด็กเข้าใจเมื่อหายโกรธแล้ว การร้องอาละวาด การดูแลแก้ ไข (ต่ อ) • ไม่ยอมตามใจในสิ่ งที่เด็กเรี ยกร้อง • ไม่ทาเป็ นตัวอย่างเวลาโกรธ • ชื่นชมและสนใจเมื่อเด็กมีพฤติกรรมดี การดูดนิ้ว • • • • เป็ นเรื่องปกติของเด็กเล็ก มักหายไปในช่ วงอายุ 3-4 ปี ดูดนิว้ มากขึน้ ถ้ าเผชิญกับความเครียด การทัก ตาหนิ ดึงมือออก จะทาให้ เด็กดูดนิว้ มากขึน้ เด็กดูดนิ้ว • การดูดนิ้ว เป็ นพฤติกรรมที่พบบ่อยในเด็กเล็ก และถือว่า เป็ นเรื่ องปกติ ในเด็กทารก พบได้ถึง 80% วัยอนุบาล พบได้ถึง 30-90% พบใน เพศหญิงมากกว่าเพศชาย เด็กดูดนิ้ว • คาถามที่พบได้เสมอ -อายุ -ผลเสี ย ที่เกิดจากการดูดนิ้ว -การแก้ไข เด็กดูดนิ้ว • อายุ ถ้ายังดูดนิ้วหลังจากอายุ 4 ปี จะมีผลเสี ยที่แก้ไขได้ยาก เด็กดูดนิ้ว • ผลเสี ยจากการดูดนิ้ว ปัญหาทางฟัน - การสบฟันผิดปกติ - เพดานปากผิดรู ป (แคบ,สูง) - การพัฒนาของกระดูกหน้าผิดรู ป เด็กดูดนิ้ว เด็กดูดนิ้ว • ผลเสี ยที่เกิดจากการดูดนิ้ว ปั ญหาที่นิ้ว - เกิดภาวะผิดรู ปของนิ้ว - เกิดการติดเชื้อ เด็กดูดนิ้ว เด็กดูดนิ้ว • ผลเสี ยที่เกิดการดูดนิ้ว ปัญหาอื่นๆ - ถูกตาหนิ หรื อถูกล้อเลียน การช่วยเหลือ • ใช้ การเบี่ยงเบนความสนใจ • ควรมองหาทีส่ าเหตุมากกว่ าพฤติกรรมการดูดนิว้ • ชมเชยถ้ าเด็กไม่ ดูดนิว้ เด็กขี้อิจฉา เด็กขี้อิจฉา อายุที่พบบ่ อย ในช่วง 2-4 ปี การแสดงออก เด็กจะแสดงท่าทางไม่พอใจเมื่อผูเ้ ลี้ยงดู ให้ความสนใจ เด็กอื่น โดยแสดงด้วยสี หน้าท่าทาง วาจาหรื อ การ . กระทา หรื อมีพฤติกรรมถดถอยเพื่อ เรี ยกร้องความ สนใจจากผูใ้ หญ่ เด็กขี้อิจฉา • อารมณ์อิจฉาเป็ นอารมณ์พ้นื ฐานปกติที่พบได้ทวั่ ไป • การที่เด็ก 2 อยูร่ ่ วมกันจะต้องมีความขัดแย้ง ทะเลาะ มี ความเห็นไม่ตรงกัน ถือว่าเป็ นเรื่ องธรรมดา เด็กขี้อิจฉา สาเหตุ • สู ญเสี ยความรู ้สึกเป็ นเจ้าของ เช่น การมีนอ ้ งใหม่ • ท่าทีลาเอียงของผูเ้ ลี้ยงดู เด็กขี้อิจฉา การดแู ลแก้ ไขและป้ องกัน เตรี ยมพี่ต้ งั แต่แม่เริ่ มตั้งครรภ์ • ให้เด็กมีส่วนรับรู ้วา่ จะมีนอ ้ งใหม่ • ผูใ้ หญ่ไม่ควรล้อเลียนเด็ก ว่า ตกอันดับ หรื อ อื่นๆ เด็กจะยิง่ เป็ นทุกข์และกังวลมากขึ้น • ฝึ กฝนให้ช่วยเหลือตัวเอง เด็กขีอ้ จิ ฉา การดูแลแก้ ไขและป้ องกัน(ต่ อ) ่ ่ วมกับแม่และน้อง • ให้โอกาสเด็กอยูร • ไม่มีท่าทีลาเอียงกับลูกคนใด คนหนึ่ ง ควรปฏิบต ั ิต่อ ลูกเท่าเทียมกัน เมื่อเกิดปัญหาไม่ควรดุวา่ ลงโทษ ควรพูดชี้แจง และให้เวลากับเด็กบ้าง เด็กพูดปด การแสดงออก เด็กอายุ< 4 ปี ยังแยกแยะความจริ ง จาก ความคิดไม่ได้ เด็กอายุ 5 ปี เริ่ มที่จะแยกแยะความจริ ง และ ความคิดฝัน หรื อ นิยายได้บา้ ง เด็กอายุ 6 ปี เริ่ มเข้าใจ แยกแยะความเป็ นจริ ง และความ เพ้อฝันได้ดี เด็กพูดปด • การพูดปดในเด็กบางครั้งเกิดจากพัฒนาการ ปกติ ในเด็กที่ยงั ไม่เข้าใจสิ่ งต่างๆ ทีเ่ ป็ นจริ ง.แต่ ถ้าเป็ นเด็กโตเกิน 6 - 7 ปี ควรสอนให้รับผิดชอบ คาพูดของตนเอง เด็กพูดปด การแก้ ไขและการป้ องกัน • พ่อ แม่ควรทาตัวเป็ นตัวอย่างที่ดี • ควรเข้าใจพัฒนาการตามวัย • ชี้ แนะแก้ไขความเข้าใจผิด เด็กเล่ นอวัยวะเพศ การแสดงออก มีการจับอวัยวะเพศเล่นในช่วงเวลา บางเวลา เช่น ก่อนนอน เวลาเหงา บางครั้งใช้การ ถูไถอวัยวะเพศ กับพื้น หรื อหนีบขาเข้าหากัน พบ บ่ อยในช่ วงอายุ 3-5 ปี เด็กเล่ นอวัยวะเพศ สาเหตุ เหงา ว้าเหว่ กังวล ว่างเกินไป มีการเสี ยดสี เฉพาะที่เช่นกางเกงฟิ ต มีพยาธิ เด็กเล่ นอวัยวะเพศ การดูแลแก้ ไข ่ แม่เข้าไม่เป็ นอันตรายและไม่ใช่ความ • อธิ บายให้พอ ผิดปกติทางเพศ • ถ้าพบขณะที่เด็กกาลังเล่นอยูใ่ ห้เบี่ยงเบนความสนใจ • ไม่ดุวา่ ข่มขู่ เด็กเล่ นอวัยวะเพศ การดูแลแก้ ไข(ต่ อ) • แก้ไขที่สาเหตุหลีกเลี่ยงส่ งกระตุน ้ ต่างๆ • ต้องถือว่าถ้าเด็กมีการกระทานี้ เป็ นสัญญาณว่าเด็ก ต้องการการดูแลมากขึ้น การช่วยเหลือ • • • • ไม่ ทาให้ เกิดอันตรายหรือเกิดความผิดปกติทางเพศ ไม่ ควรดุว่า ลงโทษ เอาใจใส่ หาวิธีการเล่ นกับเด็ก ในกรณีทมี่ พี ฤติกรรมนั้นบ่ อยมาก อาจนึกถึงการถูกทารุณกรรมทางเพศ คาหยาบ ลูกยังเล็ก - ทาความเข้ าใจกับความต้ องการ - เพิกเฉยเมือ่ ลูกพูดหยาบและไม่ แสดงปฏิกริ ิยา - ถ้ าลูกอารมณ์ ดี ควรนั่งคุยกับลูกอย่ างจริงจัง เด็กดือ้ วินิจฉัยเมื่อเด็กไม่ เชื่อฟัง ไม่ ทาตามทีบ่ อก โต้ เถียง ยัว่ โมโห เด็กดือ้ สาเหตุ • • ขั้นตอนของพัฒนาการเป็ นช่วงที่เด็กมีความดื้อรั้น เอาแต่ใจ พัฒนาความเป็ นตัวเอง การสื่ อสารไม่ชดั เจน เด็กดือ้ สาเหตุ การเลี้ยงดูไม่เหมาะสม • กฎระเบียบมากเกินไป,ขาดความสม่าเสมอ ในการเลี้ยงดู , ถูกละเลยขาดการเอาใจใส่ ดูแล ถูกตามใจมาก เด็กดือ้ การดูแลแก้ ไข • ยอมรับลักษณะเด็กตามวัย ให้เด็กทาสิ่ งต่างๆ ด้วย ตนเอง • พูดกับเด็กให้ชดั เจนสั้น เข้าใจง่าย ไม่บ่นพร่ าเพรื่ อ เด็กดือ้ การดูแลแก้ ไข • พยายามสร้างสัมพันธ์ที่ดีกบั เด็ก • ไม่ใช้อารมณ์เอาชนะ ใช้เทคนิคการจูงใจ • หลีกเลี่ยงการโต้เถียงและใช้กาลัง เด็กดือ้ การดแู ลแก้ ไข • ปรับพฤติกรรมการเลี้ยงดูให้เหมาะสม ไม่เข้มงวดหรื อ ปล่อยปละละเลยเกินไป • เมื่อเด็กว่าง่ายและเชื่อฟัง ควรกล่าวคาชมเชยและให้ กาลังใจเด็ก เด็กก้ าวร้ าว ลักษณะเด็ก มีการล่วงละเมิดสิ ทธิผอู้ ื่นทาให้เกิดการ เสี ยหาย ต่อจิตใจ ทรัพย์สิน ร่ างกาย โดยมีการ แสดงออกด้วยวาจา หรื อ การกระทา เด็กก้ าวร้ าว พฤติกรรมก้าวร้าวพบได้เสมอในเด็กอนุบาล เพราะ ความสามารถในการควบคุมตัวเองและทักษะการแก้ไข ความคับข้องใจมีอยูจ่ ากัด เด็กก้ าวร้ าว สาเหตุ ปั จจัยทางชี วภาพ กรรมพันธุ์ สมอง ครอบครั ว การเลีย้ งดู การเลี้ยงดูไม่เหมาะสม • กฎระเบียบมากเกินไป ,ขาดความสม่าเสมอในการเลี้ยงดู , ถูกละเลยขาดการเอาใจใส่ ดูแล ,ถูกตามใจมาก เด็กก้ าวร้ าว สาเหตุ.(ต่ อ) • สังคมและสิ่ งแวดล้ อม มีตวั อย่างในสังคม เช่น หนังสื อพิมพ์ สื่ อโทรทัศน์ การ์ ตูน ภาพยนตร์ ที่ เสนอความรุ นแรงในรู ปแบบต่างๆ เด็กก้ าวร้ าว การดูแลแก้ ไข • สังเกตและแก้ไขตั้งแต่เริ่ มเป็ น • หาทางออกให้เด็กเวลาโมโห เบี่ยงเบนไม่ให้ทาร้าย คน สัตว์ สิ่ งของ เช่นให้เล่น หรื อพูดระบาย ความรู้สึก เด็กก้ าวร้ าว การดูแลแก้ ไข(ต่ อ) • ฝึ กฝนให้เด็กรู ้จกั ควบคุมตนเอง โดย การแยกเด็ก ให้อยูค่ นเดียวเวลาโมโห • ไม่ลงโทษด้วยการตี เด็กก้ าวร้ าว การดูแลแก้ ไข(ต่ อ) • ไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวให้เด็กเห็น • ระมัดระวังในการให้เด็กอ่าน หรื อ ดู สื่ อต่างๆ ที่ เหมาะสมกับวัย การช่วยเหลือ • • • • พ่อแม่ ต้องจัดการด้ วยความสงบและจริงจัง สอนให้ เด็กมีทกั ษะกับการจัดการอารมณ์ ของตนเอง ห้ ามเด็กทุกครั้งทีม่ พี ฤติกรรมก้ าวร้ าว พ่อแม่ ต้องไม่ ใช้ ความก้ าวร้ าวกับเด็ก ไม่ ลงโทษด้ วยวิธี รุนแรง • ให้ คาชมเชยและแรงเสริมทางบวกทันที เมือ่ มีพฤติกรรมที่ เหมาะสม • พ่อแม่ ต้องเป็ นแบบอย่ างทีด่ ี ทะเลาะกันเล็ก ๆ น้ อย ๆ ถ้ าต่ อสู้ กนั ให้ เด็กแก้ปัญหาเอง แยกเด็กออก จับแยกกันจนต่ างฝ่ ายต่ างสงบ ไม่ ต้องสนใจว่ าใครเป็ นคนเริ่มเรื่องก่อน บอกให้ ชัดเจนว่ า “ทาร้ ายกันไม่ ได้ ” ให้ “พูดบอก” แทนการใช้ กาลัง บอกเด็กให้ ชัดเจน หนักแน่ น เช่ น • พูดคาหยาบไม่ ได้ • ถุยนา้ ลายไม่ ได้ • หยิก เตะ ไม่ ได้ ทาสม่าเสมอทุกครั้ง ปัญหาการกินในเด็ก เด็กเบื่ออาหาร โดยทัว่ ไปการไม่ยอมรับประทานอาหารจะเป็ น พฤติกรรมที่เด็กปฏิเสธอาหารเป็ นส่ วนใหญ่ พบบ่อยในช่วงอายุ 1-3 ปี ปัญหาการกินในเด็ก เด็กเบื่ออาหาร โดยมีสาเหตุจากเด็ก • การเปลีย ่ นแปลงทางสรีระของเด็ก เมือ่ เด็กอายุ มากกว่ า 1 ปี อัตราการเจริญเติบโตจะลดลง ความ ต้ องการอาหารลด ตามไปด้ วย • พัฒนาการด้ านสั งคมและความคิดอยู่ในช่ วงดือ ้ ดึง ต่ อต้ าน พัฒนาความเป็ นตัวของตัวเอง Autonomy การพัฒนาการเป็ นตัวของตัวเอง การที่เด็กรู้สึกพึ่งพาตนเองได้ ทาอะไรเองได้ตามชอบใจ เด็กต้องการทดสอบ กฏระเบียบและความอดทนของผูใ้ หญ่ ปัญหาการกินในเด็ก เด็กเบื่ออาหาร โดยมีสาเหตุจากเด็ก • ลักษณะโครงร่ างของเด็กแต่ ละคนแตกต่ างกัน • เด็กแต่ ละคนมีความชอบหรือไม่ ชอบแตกต่ างกัน • เด็กแต่ ละคนเจริญอาหารแตกต่ างกัน ปัญหาพัฒนาการเด็กที่พบบ่ อย เด็กพูดช้ า หมายถึง เด็กที่มีพฒั นาการทางภาษาล่าช้า เมื่อ เทียบกับพัฒนาการตามปกติของเด็กในวัยนั้น เกณฑ์ บ่งชี้ว่าเด็กพูดช้ ากว่ าปกติ ตั้งแต่แรกเกิด: ไม่หนั หาเสี ยงหรื อไม่มีปฏิสมั พันธ์ กับบุคคลรอบข้าง 18 เดือน : ไม่พดู คาเดี่ยวที่มีความหมาย 24 เดือน : พูดคาเดียวที่มีความหมายได้นอ้ ยกว่า 10 คา สาเหตุ 1. 2. 3. 4. 5. การได้ยนิ ผิดปกติ ปั ญญาอ่อน ออทิซึม สมองพิการ พัฒนาการทางภาษาผิดปกติ แนวทางในการดูแลเด็กทีม่ พี ฒ ั นาการทาง ภาษาล่ าช้ า 1. 2. 3. 4. 5. 6. ออกเสี ยงพูดให้ชดั เจน พูดในสิ่ งที่เด็กสนใจอยูใ่ นเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวัน สร้างโอกาสให้เด็กได้เรี ยนรู้ภาษาเพื่อผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งคาถามกับเด็กอย่างเหมาะสม เป็ นผูฟ้ ังที่ดี ขยายความในคาตอบของเด็ก สิ่ งทีค่ าดหวังจาก อสม. • • • • • แนะนาการกระตุน้ พัฒนาการเด็กตามวัยให้ผปู้ กครอง สังเกตความผิดปกติของเด็ก กระตุน้ การฝากครรภ์ก่อน12สัปดาห์ ส่ งเสริ มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็ นที่ปรึ กษาผูป้ กครอง ขอขอบคุณ • รศ.พญ.จันท์ ฑิตา พฤกษานานนท์ • พญ. เปรมวดี เด่ นศิริอกั ษร • พญ.รมร แย้ มประทุม THANKS FOR YOUR ATTENTIONS