ซากฟอสซิล ปีกแมลงปอยักษ์เมกะนิวรา(Meganeura)

Download Report

Transcript ซากฟอสซิล ปีกแมลงปอยักษ์เมกะนิวรา(Meganeura)

วิ
ว
ฒ
ั
นาการ
แมลงปอ
จัดทาโดย
กันตชัย
3ข.
ชานาญค้า
นาย
ม.6/3 เลขที่
ชนะชล
เลขที่
6ข.
เจริญสุข
นาย
ม.6/3
โกวิท
เลขที่
อินมิทน
ิ
นาย
ม.6/3
7ข.
วิวัฒนาการแมลงปอ
แมลง พบกำเนิดขึ้นเมื่อ 400 ล้ำนปี ก่อน ในยุค Devonian แมลง
ชนิดแรกที่พบได้แก่
Rhyniella praecursor Hirst & Maulik เป็ นแมลงหำงดีด อยู่ ในอันดับ
Collembola
พบที่ Scotland ต่อมำยุค Carboniferous (350 ล้ำนปี ) เป็ นยุคที่เริ่ มพบแมลง
หลำกหลำย
ชนิดมำก ตัวอย่ำงเช่น แมลง Erasipteron larischi ซึ่ งเป็ นแมลงขนำดใหญ่
รู ปร่ ำงคล้ำยแมลงปอ
แมลงปอ เป็ นสัตว์ที่บรรพบุรุษเคยเป็ นสัตว์โลกล้ำนปี มำแล้ว แมลงปอ
เป็ นแมลงที่เรำรู ้จกั และคุน้ เคยมำตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพำะผูท้ ี่อยู่
ต่ำงจังหวัด ต่ำงอำเภอนะครับ
อดีตกำลของแมลงปอเป็ นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เกิดขึ้นมำบนโลกก่อนหน้ำ
ไดโนเสำร์ และก่อนยุคของผีเสื้ อ ฟอสซิลของแมลงปอที่ขดุ พบนั้น แสดง
ว่ำมันเคยอำศัยอยูใ่ นยุค Carboniferous
หรื อประมำณ 300 ล้ำนปี มำแล้ว บรรพบุรุษของแมลงปอมี
ประวัติศำสตร์อนั ยำวนำนควบคู่กบั บรรพบุรุษของแมลงสำบ แสดงว่ำแมลง
ทั้งสองชนิดนี้มีควำมสำมำรถในกำรปรับตัวให้เข้ำกับสิ่ งแวดล้อม และมี
วิวฒั นำกำรจนสำมำรถดำรงเผ่ำพันธุ์สืบต่อมำจนถึงทุกวันนี้
จำกซำกของ ฟอสซิ ลที่ขดุ พบทำให้สันนิฐำนว่ำแมลงปอเคยอยูใ่ น
ทะเลมำก่อน แล้วจึงมีววิ ฒั นำกำรขึ้นมำอำศัยอยูบ่ นบกและในน้ ำ
จืด แมลงปอในอดีตมีขนำดใหญ่โตมำก ขนำดควำมยำวของปี กทั้งสอง
ข้ำงรวมกันยำวประมำณ 29 นิ้ว เป็ นแมลงที่ใหญ่ที่สุดในบรรดำแมลงของ
ยุคนั้นทั้งหมดที่มนุษย์รู้จกั หลังจำกนั้นแมลงปอได้มีวิวฒั นำกำรของ
ขนำดและรู ปร่ ำง จนกระทัง่ ตัวเล็กลงมำเรื่ อย ๆ ปั จจุบนั
พันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดมีขนำดยำวจำกปลำยปี กทั้งสองข้ำงเหลือเพียง 7.5 นิ้ว
เท่ำนั้น ปี กของแมลงปอมีกำรพัฒนำเรื่ อยมำเป็ นเวลำนับล้ำน ๆ ปี เพื่อใช้
สำหรับกระโดดและบินไปในอำกำศ มีควำมบำงเบำและยืดหยุน่ มำก
ขึ้น จนกระทัง่ กลำยเป็ นปี กบำงใสที่มีเส้นปี กสำนกันอยูเ่ ป็ นโครงร่ ำงเช่น
ในปัจจุบนั
ลักษณะ ลักษณะโดยทัว่ ไปของแมลงปอ คือ มีลำตัวยำวเรี ยว ปี กสองข้ำงบำง
ใสมีเส้นปี กที่สำนกันถี่ละเอียดเป็ นโครงคล้ำยร่ ำงแห หัวใหญ่ มีตำรวม ทำ
ให้สำมำรถมองเห็นได้รอบตัว หนวดสั้น เล็กเหมือนเส้นขน ยำวประมำณ 5
– 8 ปล้อง โคนหนวดปล้องแรกจะใหญ่หนำและค่อย ๆ เรี ยวไปจนถึงปล้อง
สุ ดท้ำย ปำกเป็ นแบบกัดกิน ขำกรรไกรแข็งแรง ส่ วนอกมี 3 ปล้อง
ปั จจุบนั ในประเทศไทยมีกำรค้นพบแมลงปอมำกกว่ำ 295 ชนิด และมีกำร
ค้นพบพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอยูเ่ สมอ
การผสมพันธุ์
แมลงปอจะผสมพันธุ์กนั บนบก เมื่อตัวเมียวำงไข่ ตัวเมียจะใช้อวัยวะ
ส่ วนท้องแหย่ลงไปในน้ ำ แล้ววำงไข่ติดกับพืชน้ ำ เมื่อฟักเป็ นตัว จะมี
ลักษณะแตกต่ำงไปจำกตัวเต็มวัย คือ ไม่มีปีก อำศัยอยูใ่ นน้ ำ จับสัตว์น้ ำ
เล็ก ๆ กินเป็ นอำหำร เรำเรี ยกกันว่ำ ตัวโม่ง จะอยูใ่ นน้ ำรำว 1 ปี จึงคลำน
ขึ้นมำบนบก แล้วลอกครำบออกกลำยเป็ นตัวเต็มวัยออกบินหำกินและ
ผสมพันธุ์ต่อไป
วงจรชีวิตของแมลงปอ แมลงปอมักจะรวมกันเป็ นฝูงอยูบ่ ริ เวณที่มีแหล่ง
น้ ำ สระน้ ำ บึง ปกติแมลงปอที่โตเต็มที่จะมีชีวิตอยูไ่ ด้นำน 30 – 45 วัน
ในช่วงก่อนฤดูหนำว แมลงปอจะจับคู่ผสมพันธุ์กนั ต่อมำแมลงปอตัวเมีย
จะวำงไข่ลงในน้ ำ หรื อติดกับต้นพืชน้ ำ จะวำงไข่ครั้งละประมำณ 400 –
600 ใบ ไข่ใช้เวลำประมำณ 3 – 7 วัน ในกำรฟักเป็ นตัวอ่อน
ตัวอ่อนจะใช้ชีวติ อยูใ่ นน้ ำและลอกครำบไปเรื่ อย ๆ โดยจะลอกครำบ
ประมำณ 9 ครั้ง ใช้เวลำ 2 – 3 เดือน จึงลอกครำบครั้งสุ ดท้ำย แต่บำงชนิด
ใช้เวลำประมำณ 12 เดือน จึงลอกครำบครั้งสุ ดท้ำย โดยคลำนขึ้นมำพ้น
น้ ำ ตำมกิ่งไม้ ต้นไม้ เพื่อลอกครำบเป็ นตัวเต็มวัยต่อไป.
นอกจำกแมลงโบยบินด้วยลวดลำยสี สนั ของปี กที่สวยงำม
หลำกหลำยจำนวนนับหมื่นชนิดของผีเสื้ อ ยังมีพวกแมลงหกขำบินได้
ชนิดอื่นๆ อีกมำกมำยนับไม่ถว้ น จำกจำนวนชนิดทั้งหมด 1 ล้ำนชนิด
ในปัจจุบนั สิ่ งมีชีวิตหกขำที่เรี ยกว่ำ แมลง มีเรื่ องรำววิวฒั นำกำรมำ
นำนแสนนำนมำกกว่ำ สำมร้อยล้ำนปี เรำพ่อแม่ลูกสี่ คนขอย้อนเวลำ
กลับไปสู่ โลกโบรำณผ่ำนตัวหนังสื อและภำพจำกสื่ อสำรคดีหลำยๆ
แหล่ง เรำนึกถึงภำพในยุคก่อนที่จะมีผเี สื้ อมำดมตอมน้ ำหวำนจำก
ดอกไม้ ในยุคนั้นโลกยังเต็มไปด้วยต้นไม้ยกั ษ์ที่เรี ยกว่ำป่ ำถ่ำนหิ น
ปกคลุมไว้ท้ งั โลก สิ่ งมีชีวิตเพิ่งจะวิวฒั นำกำรขึ้นมำหำกินบนบก ใน
บรรดำสัตว์มีปล้องหกขำ ก็มี แมลงปอยักษ์นี่แหละที่บินว่อนล่ำหำ
เหยือ่ จนมีวิวฒั นำกำรอยูร่ อดมำถึงแมลงปอยุคปัจจุบนั แถมมีหลักฐำน
หลงเหลือให้เรำได้ศึกษำเป็ นซำกฟอสซิล
ซากฟอสซิล ปี กแมลงปอยักษ์ เมกะนิวรา(Meganeura)
ปี กแมลงปอยักษ์เมกะนิวรำ(Meganeura) หำกคำนวณจำกซำกปี กรวมแล้ว
แผ่กว้ำงถึงสองฟุต เป็ นแมลงนักล่ำพวกแรกที่บินไล่ล่ำเหยือ่ ในป่ ำถ่ำนหิ น
สมัยโบรำณ(carboniferous) ซำกฟอสซิ ลแมลงปอตัวนี้ยงั คงติดตำติดใจเด็ก
สองคน จนถึงกลุ่มแมลงปอในโลกปั จจุบนั ที่มีมำกมำยหลำยชนิด
Meganeuropsis permiana เป็ นแมลงปอ ที่ตวั ใหญ่ที่สุดที่เคยอุบตั ิข้ ึนมำบนโดย
ด้วยช่วงปี กที่กว้ำงกว่ำ 72 เซ็นติเมตร และคำดว่ำจะเป็ นสิ่ งมีชีวิตชนิดแรกที่บิน
บนท้องฟ้ ำได้ โดยซำกฟอสซิ ลที่ Permian rocks รัฐ Kansas ประเทศ
สหรัฐอเมริ กำ
John VandenBrooks และทีมวิจยั ฯ กำลังค้นหำคำตอบของผลกระทบจำกก๊ำซ
ออกซิ เจนที่มีต่อขนำดของแมลง พวกเขำคิดว่ำ ในอดีตแมลงบำงชนิ ดอำจจะมี
ขนำดเท่ำกับสัตว์ทวั่ ไปที่เรำเห็นในวันนี้ ตัวอย่ำงเช่น "แมลงปอยักษ์" ที่
สำมำรถมีขนำดของปี กกว้ำงมำกกว่ำ 2 ฟุต หรื อเกือบ 10 เท่ำของแมลงปอที่
พบเห็นกันทุกวันนี้
"ประเด็นที่เรำให้ควำมสนใจเป็ นหลักก็คือ ระดับของ paleo-oxygen มี
อิทธิ พลต่อวิวฒั นำกำรของแมลงต่ำงๆ อย่ำงไร?" VandenBrooks กล่ำว ซึ่ ง
ในกำรศึกษำครั้งนี้ทำงทีมวิจยั ได้ทดลองกับแมลงชนิ ดต่ำงๆ ตั้งแต่"
แมลงปอ"ไปจนถึง"แมลงสำบ" โดยทีมวิจยั พบว่ำ แมลง 10 ใน 12 ชนิด
สำมำรถเพิ่มขนำดได้ เมื่อพวกมันอยูใ่ นสภำพแวดล้อมทีมีก๊ำซออกซิ เจน
ค่อนข้ำงมำก
สำหรับแมลงสำบ ทำงทีมวิจยั เชื่อว่ำ พวกมันสำมำรถมีขนำดใหญ่ได้กว่ำนี้
โดยจำกซำกฟอสซิ ลที่คน้ พบเมื่อสองสำมปี ที่ผำ่ นมำ พวกมันมีขนำดใหญ่กว่ำ
ที่พบเห็นในปัจจุบนั ถึง 2 เท่ำตัวเลยทีเดียว เอ่อ...แค่ขนำดที่พบเห็นกันทุกวันนี้
ก็น่ำสะพรึ งจะแย่อยูแ่ ล้ว ว่ำแต่กำรศึกษำนี้จะให้ประโยชน์อะไรกับเรำ หรื อ
พวกเขำกำลังคิดจะเปิ ด"สวนแมลงยักษ์โลกล้ำนปี "กันล่ะเนี่ย? แล้วแมลงปอตัว
ใหญ่ขนำดนั้นจะส่ งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วทิ ยำในอนำคตอย่ำงไร? หำก
ไม่มีกำรควบคุม และอีกหลำยๆ ประเด็นที่น่ำขบคิดอยูไ่ ม่นอ้ ย