Transcript presents en

แหล่งกำเนิด
บ่อรวมน้ำเสีย
ระบบสูบน้ำ/ระบำยน้ำ
บ่อตกตะกอน
บ่อผึง่
ระบบท่อรวมน้ำเสีย
บ่อปรับสภำพ
ตะกอนและน้ำทิ้ง
แหล่งน้ำธรรมชำติ
กำรนำมำใช้ประโยชน์
ตะกอน
สำรอนินทรีย์
สำรอินทรีย์
จุลินทรียใ์ นอำกำศ
ของเสีย ฯลฯ
ตะกอน+ก๊ำซ
พืชและกำรให้
ออกซิเจนของพืช
เทคโนโลยีกำร “หำ”
ออกซิเจนตำมแนว
พระรำชดำริ
O2
ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
“ “กระบวนการที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ซึ่ งผลิตอ็อกซิ เจนให้กบั
จุลินทรี ย ์ เพื่อใช้กบั กระบวนการย่อยสลายสารอินทรี ยใ์ ห้แปร
สภาพเป็ นสารอนินทรี ย/์ ธาตุอาหารพืช”
กระบวนการธรรมชาติที่มีศกั ยภาพผลิตอ็อกซิเจนในธรรมชาติ
ได้แก่ photosynthesis, thermo-siphon,
และthermo-osmosis processes
ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
• การสังเคราะห์แสง (photosynthesis) คือกระบวนการ
สร้างอาหารพวกคาร์โบไฮเดรตของพืชสี เขียว โดยอาศัยคลอโรฟิ ลล์
แสงสว่างเป็ นตัวช่วย กระบวนการสังเคราะห์แสงเป็ นกระบวนการ
เปลี่ยน สารอินทรี ย ์ เป็ น สารอนินทรี ย ์ ทาให้เกิดสารอาหารและได้
ออกซิเจนในการหายใจ
• กำรเคลื่อนลงสู่ที่ตำ่ ของน้ำที่มีอณ
ุ หภูมิตำ่ กว่ำ (thermosiphon) ซึง่ จะทำให้ออกซิเจนไหลลงสูท่ ต่ี ่ำด้วย กระบวนนี้จะเติม
ออกซิเจนผ่ำนกระบวนกำรไหล เมือ่ จุลนิ ทรียไ์ ด้รบั ออกซิเจนแล้วจะ
เปลีย่ นสำรอินทรียเ์ ป็ นสำรอนินทรียเ์ ป็ นอำหำรของพืชตระกูลหญ้ำ
ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
• กระบวนการเคลื่อนย้ายออกซิเจนสู่รากพืช (Thermo-osmosis
processes) อันเป็ นการเคลื่อนย้ายจากผลต่างของความกดอากาศ
ที่แตกต่างกันภายในรากพืชกับภายนอก ทาให้ออกซิเจนถูกดูดเข้าไปใน
รากพืช ออกซิเจนที่ได้มาจากการสังเคราะห์แสงของพืชและในอากาศ
เมื่อรากได้รับออกซิเจนก็จะปล่อยเติมพลังให้จุลินทรี ย ์ จุลินทรี ยก์ ท็ า
หน้าที่เปลี่ยนสารอินทรี ยใ์ นน้ าเสี ยเป็ นสารอนินทรี ย ์ กลายเป็ นอาหาร
ของพืช เมื่อสารอินทรี ยใ์ นน้ าถูกกัดกินน้ าเสี ยก็กลายเป็ นน้ าดี ด้วย
กระบวนการธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
9
น้ำเสีย
Free oxygen
ระหว่ำงโมเลกุลน้ำ
ออกซิเจน
สำรอินทรีย์
Photosynthesis
Thermo-Siphon
Thermo-Osmosis
จุลินทรีย์
สำรอนินทรีย์
สำหร่ำย
มนุษย์
ปลำกินพืช
โครงการพระราชดาริแหลมผักเบีย้
ระบบบ่อ
บาบัดน้ า
เสี ย
ระบบพืช
และหญ้า
กรองน้ าเสี ย
ระบบพื้นที่
ชุมน้ าเทียม
ระบบแปลง
ป่ าชายเลน
Photosynthesis process
กำรระเหยน้ำ
(583 gm-cal/gm-water)
กำรไหลเวียนของอำกำศ
ออกซิเจน
ออกซิเจน
น้ำเย็นกว่ำจะหนักกว่ำ และไหลลงตอนล่ำง ในขณะเดียวกัน
ออกซิเจนก็จะแทรกซึมจำกผิวน้ำลงไปด้วย
ปรำกฏกำรณ์ สะอำดตำมธรรมชำติโดยกระบวนกำรแทรกซึมออกซิเจนเข้ำใต้
ผิวน้ำ สนับสนุนให้แบคทีเรียได้รบั ออกซิเจนไปใช้ในกำรย่อยสลำยสำรอินทรียท์ ี่
ปนเปื้ อนในแหล่งน้ำ กำรย่อยสลำยจะหยุดก็ต่อเมื่อไม่มีสำรอินทรียป์ นเปื้ อน
หรือมีน้อยมำกๆ เท่ำนัน้
เกิดจำกกระบวนกำรสังเครำะห์แสงของสำหร่ำย และแพลงก์ตอนพืชในน้ำ
ที่ดึงก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ และธำตุอำหำรในน้ำ พร้อมทัง้ ได้รบั แสงจำก
ดวงอำทิตย์ แล้วคำยก๊ำซออกซิเจนแทรกซึมระหว่ำงโมเลกุลของน้ำ บักเตรีก็
นำไปใช้ในกำรย่อยสลำยสำรอินทรียท์ ี่ปนเปื้ อนในน้ำให้หมดหรือลดปริมำณ
ลงไป โดยมีปลำกินพืชควบคุมปริมำณของสำหร่ำย
แบคทีเรีย
สำรอินทรีย์
O2
กำรสังเครำะห์แสง
ออกซิเจน
คำร์บอนไดออกไซด์
กำรวำงระบบบำบัดน้ำเสียให้
เป็ นรูปแบบ “อนุกรม” ขนำด
ทุกบ่อเท่ำกัน แต่ลดหลัน่
ระดับน้ำ
L
W
น้ ำเสียเขำ
ขนำดของบ่อ
L = ควำมยำวที่ปำกบ่อ (ม), [L = 1.5 -10 W]
D = ควำมลึกของบ่อ(ม)
W = ควำมกว้ำงที่ปำกบ่อ (ม)
V = ปริมำตรของบ่อ
V = WDL
บ่อที่ 1
D
บ่อที่ 2
ปล่อยน้ำเสียชุมชนเข้ำบ่อที่ ณ ระดับกึ่งกลำงควำมสูง 1/3
จำกท้องบ่อ และกำรปล่อยน้ำเสี่ยให้ปล่อยจำกปำกบ่อสู่
ก้นบ่อต่อๆไปเช่นกันโดยปล่อยแบบผืนผ้ำ ถ้ำไม่จำเป็ น
ไม่ควรปล่อยตำมท่อกลม
บ่อที่ 3
น้ ำทีบ่ ำบัดแล้ว
V = WDL
V = DW (1.5W ถึง 10W)
หมำยถึงว่ำ L มีค่ำเท่ำกับ
1.5 ถึง10.0 เท่ำของ W
บ่อตกตะกอน
บ่อผึง่ บำบัด
บ่อปรับสภำพ
ลักษณะกำรระบำยน้ำของระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย
รายได้จากการเลี้ยงปลาในบ่อบาบัด ประมาณ 1.2 ล้านบาท