ผลของการช่วยเสริมศักยภาพในการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็นหลักบนเว็บ ที่มีต่อ
Download
Report
Transcript ผลของการช่วยเสริมศักยภาพในการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็นหลักบนเว็บ ที่มีต่อ
ผลของการช่วยเสริมศักยภาพในการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักบนเว็บ
ที่มีตอ่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์
EFFECTSOF SCAFFOLDINGS IN PROBLEM-BASED LEARNING ON WEB
UPON SCIENCE SUBJECT LEARNING ACHIEVEMENT
โดย นางสาวศศิวรรณ ชานิยนต์
และอาจารย์ ดร.ปราวีณยา สุวรรณณัฐโชติ
บทนา
การศึกษาไทย
การเรียนโดยใช้ปัญหาเป็ นหลัก (Problem-based Learning ; PBL)
การช่วยเสริมศักยภาพ (Scaffolding)
การศึกษาไทย
ส่งเสริมให้ผเู้ รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
คิดเป็ น
ทาเป็ น
แก้ปัญหาเป็ น
การเรียนโดยใช้ปัญหาเป็ นหลัก
(Problem-based Learning ; PBL)
เกิดปฏิสมั พันธ์ระหว่างผูเ้ รียน
ยังคงรักษารูปแบบของการเรียนในชั้นเรียน
มีโอกาสได้เรียนรูด้ ว้ ยตนเอง
ได้เลือกปั ญหาวิธีการเรียนบนพื้ นฐาน
ของพัฒนาการและความสนใจ
ข้อดีของการเรียนโดยใช้ปัญหาเป็ นหลัก
ได้รบั ความรูใ้ นเนื้ อหาวิชาที่เป็ นการบูรณาการ
สามารถพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา ฝึ กทักษะในการแก้ปัญหา
เรียนรูด้ ว้ ยตนเอง
พัฒนากระบวนการทางานเป็ นทีม
การใช้เหตุผลในการคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจ
พัฒนาทักษะในการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง
ขั้นตอนของการเรียนโดยใช้ปัญหาเป็ นหลัก
ขั้นที่ 1 ขั้นการนาเสนอปั ญหา
ขั้นที่ 2 ขั้นการนาเสนอข้อเท็จจริง
ขั้นที่ 3 ขั้นการตั้งสมมุติฐาน
ขั้นที่ 4 ขั้นการค้นหาคาตอบ เสนอแนวทางแก้ไขปั ญหา
ขั้นที่ 5 ขั้นการนาความรูท้ ี่ได้นามาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาการ
ขั้นที่ 6 ขั้นการสรุปและประเมินผล
การช่วยเสริมศักยภาพ (Scaffolding)
การช่วยเสริมศักยภาพ (Scaffolding)
การช่วยเสริมศักยภาพ (Scaffolding)
การช่วยเสริมศักยภาพมีอยูด่ ว้ ยกัน 2 รูปแบบใหญ่ (Brush และ Saye, 2002)
การช่วยเสริมศักยภาพแบบปรับเปลี่ยน (Soft Scaffolding)
การช่วยเสริมศักยภาพ (Scaffolding)
การช่วยเสริมศักยภาพมีอยูด่ ว้ ยกัน 2 รูปแบบใหญ่ (Brush และ Saye, 2002)
การช่วยเสริมศักยภาพแบบคงที่ ( Hard Scaffolding)
วัตถุประสงค์การวิจยั
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผูเ้ รียนจากการเรียน
แบบใช้ปัญหาเป็ นหลักบนเว็บ ที่มีการช่วยเสริมศักยภาพที่แตกต่างกันในรายวิชา
วิทยาศาสตร์ช้นั มัธยมศึกษาปี ที่ 3
เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผูเ้ รียนที่มีต่อการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ น
หลักบนเว็บที่มีการช่วยเสริมศักยภาพที่แตกต่างกัน
สมมติฐานการวิจยั
ผูเ้ รียนที่ได้รบั การช่วยเสริมศักยภาพที่แตกต่างกัน ในการเรียนแบบ
ใช้ปัญหาเป็ นหลักบนเว็บมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .05
ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง
เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจยั
แผนการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลัก แบ่งออกเป็ น 2 รูปแบบดังนี้
• แผนการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักที่มีรปู แบบการช่วยเสริมศักยภาพ
แบบปรับเปลี่ยน
• แผนการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักที่มีรปู แบบการช่วยเสริมศักยภาพ
แบบคงที่
เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจยั
เว็บที่ใช้การเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักโดยแบ่งออกเป็ น 2 รูปแบบดังนี้
• เว็บที่ใช้การเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักที่มีรปู แบบการช่วยเสริม
ศักยภาพแบบเปลี่ยนปรับเปลี่ยน
• เว็บที่ใช้การเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักที่มีรปู แบบการช่วยเสริม
ศักยภาพแบบคงที่
เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจยั
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แบบสอบถามความคิดเห็นของผูเ้ รียน
วิธีดาเนินการวิจยั
การจัดกลุ่มตัวอย่างเข้ากลุ่มทดลอง
Soft Scaffold
Hard Scaffold
วิธีดาเนินการวิจยั
PBL 6 ขั้นการเรียน
ผลการวิจยั
ผลการวิจยั
ผลการวิจยั
คะแนนความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักทีม่ ีการช่วย
เสริมศักยภาพแบบปรับเปลี่ยน อยูใ่ นระดับมาก และค่าเฉลี่ยของคะแนน
ความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักที่มีการช่วยเสริม
ศักยภาพแบบคงที่ อยูใ่ นระดับมาก แต่มีความคิดเห็นต่อการใช้หอ้ งสนทนา
ซึ่งเป็ นเครื่องมือหนึ่ งของการช่วยเสริมศักยภาพ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05
อภิปรายผล
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนที่เรียนด้วยการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลัก
บนเว็บ ที่มีการช่วยเสริมศักยภาพที่แตกต่างกัน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่
แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
อภิปรายผล
นักเรียนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นต่อการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักบนเว็บที่
มีการช่วยเสริมศักยภาพไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
และ นักเรียนที่เรียนด้วยการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักบนเว็บที่มีการช่วย
เสริมศักยภาพที่แตกต่างกัน นักเรียนมีความความคิดเห็นต่อการเรียนแบบใช้
ปั ญหาเป็ นหลักบนเว็บและการช่วยเสริมศักยภาพในระดับมากทุกด้าน
ข้อเสนอแนะในการนาผลวิจยั ไปใช้
1. สามารถนาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
ของนักเรียนได้ ทั้งนี้ ผูส้ อนควรให้ความสาคัญกับการออกแบบรูปแบบการช่วยเสริม
ศักยภาพ
2. ในการศึกษาครั้งต่อไปอาจนารูปแบบการช่วยเสริมศักยภาพทั้ง 2 รูปแบบมา
ผสมผสานกันในการเรียน
3. สามารถนาไปเป็ นแนวทางในการออกแบบการเรียนแบบใช้ปัญหาเป็ นหลักบนเว็บที่
มีการช่วยเสริมศักยภาพ สาหรับการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระอื่นๆ ในช่วงชั้น
มัธยมศึกษาตอนต้นได้
ข้อเสนอแนะสาหรับการวิจยั ครั้งต่อไป
1. ควรมีการศึกษาถึงกระบวนการปั ญหาของนักเรียนในการเรียนแบบใช้ปัญหา
เป็ นหลักในการทาวิจยั ครั้งต่อไป
2. ควรพิจารณาความเหมาะสมให้สอดคล้องกับระดับการเรียนรู ้ และระดับ
ความสามารถของนักเรียนในการช่วยเสริมศักยภาพให้มากยิ่งขึ้ น
ขอบพระคุณค่ะ