Reinventing Government David Osborne & Ted Gaebler(1992)

Download Report

Transcript Reinventing Government David Osborne & Ted Gaebler(1992)

33711
ชุดวิชาแนวคิด ทฤษฎี และหล ักการ
ร ัฐประศาสนศาสตร์
หน่วยที่ 12
่ นร่วม
ร ัฐประศาสนศาสตร์ก ับการมีสว
ั ์ บุณยร ัตพ ันธุ ์
รศ.ดร.เทพศกดิ
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพ ัฒนาระบบงาน
มหาวิทยาล ัยสุโขท ัยธรรมาธิราช
การมีสว่ นร่วมของประชาชน
ิ ใจใน
หมายถึง การให้ประชาชนเป็นผูต
้ ัดสน
กระบวนการดาเนินงานทีม
่ ผ
ี ลกระทบต่อ
ประชาชน ในทุกขนตอนต
ั้
งแต่
ั้
• การวางแผน
• การดาเนินงาน
้ ระโยชน์
• การใชป
• การประเมินผล
่ นร่วมของประชาชน
ความสาค ัญของการมีสว

ความสาค ัญต่อประชาชน
- ประชาชนได้เรียนรู ้
- ประชาชนได้ร ับการพ ัฒนา
- ให้คนเป็นศูนย์กลางของการพ ัฒนา
ั
- ปร ับปรุงผลล ัพธ์ทางสงคม

ความสาค ัญต่อการบริหารงานภาคร ัฐ
้ า่ ยน้อย
ี ค่าใชจ
- งานสาเร็จมากเสย
ิ ประชาชน
- จนท.มีความใกล้ชด
้ บน
- เสริมแนวทางพ ัฒนาจากล่างขึน
- สร้างเครือข่ายการพ ัฒนาทีย
่ ง่ ั ยืน
ึ ร่วมเป็นเจ้าของ
- สร้างความรูส
้ ก
แนวคิดการมีสว่ นร่วมของประชาชน
่ นร่วมของประชาชน
Im เห็นว่าการมีสว
ต้องคานึงถึง
่ นร่วมเกิดทีใ่ ด
- การมีสว
่ นร่วม
- ใครมีสว
่ นร่วมเพียงใด
- มีสว
- ขนาดชุมชนเป็นอย่างไร
- อะไรคืออานาจหน้าทีข
่ องชุมชน
ระด ับการมีสว่ นร่วมของประชาชน
1. การมีสว่ นร่วมแบบเฉยเมย ( passive participation) ถูกบอกเล่าว่า
้ หรือจะเกิดขึน
้
มีอะไรเกิดขึน
2. การมีสว่ นร่วมในการให้ขา
่ วสาร ( participation in information
giving ) ประชาชนมีสว่ นร่วมโดยตอบคาถาม
3. การมีสว่ นร่วมโดยให้คาปรึกษา (participation by consultation )
ประชาชนมีสว่ นร่วมโดยถูกปรึกษาและบุคคลภายนอกฟังความเห็น
ต่าง
4. การมีสว่ นร่วมด้วยสงิ่ จูงใจทางว ัตถุ (participation for material
incentives) ประชาชนมีสว่ นร่วมโดยการให้ทร ัพยากรต่าง ๆ
5. การมีสว่ นร่วมเชงิ หน้าที่ (functional participation) ประชาชนมี
สว่ นร่วมโดยก่อตงกลุ
ั้
ม
่ ทีร่ เิ ริม
่ จากภายนอกเพือ
่ ให้เป็นไปตาม
ว ัตถุประสงค์ของโครงการ
ั ันธ์ (interactive participation)
6. การมีสว่ นร่วมเชงิ ปฏิสมพ
่ ผนปฏิบ ัติการและการ
ประชาชนมีสว่ นร่วมในการวิเคราะห์ซงึ่ นาไปสูแ
ก่อตงสถาบ
ั้
ันใหม่ ๆ ในท้องถิน
่
7. การระดมตน (self – mobilization) ประชาชนมีสว่ นร่วมโดยไม่
้ ก ับสถาบ ันภายนอก ประชาชนพ ัฒนาการติดต่อก ับภายนอกเพือ
ขึน
่
ทร ัพยากรต่าง ๆ และคาแนะนาทางวิชาการทีต
่ นจาเป็น
8. การเป็นต ัวเร่งการเปลีย
่ นแปลง ( catalyzing change) เป็นการมี
ิ ในชุมชนมีสว่ นผล ักด ันให้คนอืน
สว่ นร่วมของประชาชนทีส
่ มาชก
่ ๆ ใน
ชุมชนริเริม
่ การเปลีย
่ นแปลง
่ นร่วมของประชาชน
เงือ
่ นไขการมีสว
ในการบริหารภาคร ัฐ
Irvin and Stansbury
่ นร่วมของประชาชน
1. เงือ
่ นไขการมีสว
้ า่ ยตา่
- เครือ
่ งชวี้ ัดค่าใชจ
- เครือ
่ งชวี้ ัดผลประโยชน์สง
ู
่ นร่วมของประชาชน
2. เงือ
่ นไขการไม่มส
ี ว
้ า่ ยสูง
- เครือ
่ งชวี้ ัดค่าใชจ
- เครือ
่ งชวี้ ัดผลประโยชน์ตา
่
หล ัก 4’s ของการมีสว่ นร่วมของประชาชน
1. Starting Early
2. Stakeholders
3. Sincerity
4. Suitability
่ นร่วมของประชาชน
แนวทางการมีสว
1. แนวทางตามประเพณี/แนวทางดงเดิ
ั้ ม
- องค์กรประชาชน
- การพ ัฒนาชุมชน
(Community Development)
ี้ าโดยโครงการขนาดใหญ่
- ถูกชน
2. แนวทางยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
- เพิม
่ อานาจให้แก่ประชาชนและ
ผูด
้ อ
้ ยโอกาส
่ นร่วม
ต ัวแบบการมีสว
1. การวิจ ัยเชงิ ปฏิบ ัติการแบบมีสว่ นร่วม
(Participatory Action Research)
2. การมีสว่ นร่วมอย่างแข็งข ัน
(Methods for Active Participation)
3. การประเมินชนบทแบบมีสว่ นร่วม
(Participatory Rural Appraisal)
4. การฝึ กอบรมเพือ
่ การเปลีย
่ นแปลง
(Training for Transformation)
5. การวางแผนและการประเมินผลิตภาพ
(Productivity Systems Assessment and Planning)
6. การเรียนรูแ
้ ละการมีสว่ นร่วม
(Participation and Learning Method)
่ นร่วม
กระบวนการมีสว
1. ขนการออกแบบโครงการ
ั้
2. ขนการปฏิ
ั้
บ ัติตามโครงการ
3. ขนการประเมิ
ั้
นผลโครงการ
ื่ 14 ประการ
ความเชอ
่ นร่วมของประชาชน
ของการมีสว
(James Yen)
1. ไปหาประชาชน (Go to the people)
2. อยูร่ ว
่ มก ับประชาชน (Live among the people)
3. เรียนรูจ
้ ากประชาชน (Learn from the people)
4. วางแผนก ับประชาชน (Plan with the people)
5. ทางานก ับประชาชน (Work with the people)
6. เริม
่ จากสงิ่ ทีป
่ ระชาชนรู ้
(Start with what the people know)
7. สร้างจากสงิ่ ทีป
่ ระชาชนมี
(Build on what the people have)
8. สอนโดยการทาให้ดู (Teach by showing)
ื่ 14 ประการ
ความเชอ
่ นร่วมของประชาชน
ของการมีสว
(James Yen)
9. เรียนรูจ
้ ากการกระทา (Learning by doing)
่ สดงโอ้อวด แต่ทาเป็นแบบแผน
10. ไม่ใชแ
(Not a show case but a pattern)
่ าเล็กๆน้อยๆ แต่ทาเป็นระบบ
11. ไม่ใชท
(Not odds and ends but a system)
่ าทีละชน
ิ้ แต่ทาแบบผสมผสาน
12. ไม่ใชท
(Not piecemeal but integrated approach)
13. ไม่ยอมตาม แต่เปลีย
่ นแปลง
(Not a conform but to transform)
14. ไม่สงเคราะห์ แต่ปลดปล่อย
(Not relief but release)
้ ฐานของ
แนวคิดพืน
่ นร่วมในภาคร ัฐ
ระบบการมีสว
1. ตอบสนองความคาดหว ังกลุม
่ เป้าหมาย
2. ระบบเครือข่ายในการทางาน
่ นร่วม
3. สร้างกิจกรรมการมีสว
่ ยเหลือการทากิจกรรมใน
4. สน ับสนุนและชว
ด้านต่างๆ
่ นร่วม
5. กาหนดระด ับการมีสว
้ อานวย
6. สร้างสภาพแวดล้อมทีเ่ อือ
ยุทธศาสตร์การบริหารราชการแบบมีสว่ นร่วม
กาหนดไว้เป็นยุทธศาสตร์ท ี่ 7 ในแผนยุทธศาสตร์การพ ัฒนาระบบราชการไทย
(พ.ศ. 2546- 2550) :
ั ัศน์ สร้างระบบราชการทีก
1. วิสยท
่ ระบวนการบริหารราชการทีเ่ ป็น
ประชาธิปไตย ซงึ่ ยอมร ับและเปิ ดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีสว่ นร่วมใน
การเสนอแนะความคิดเห็น ร่วมปฏิบ ัติงานเป็นหุน
้ สว่ นเครือข่ายและร่วม
ตรวจสอบผลการดาเนินงาน
่ เสริมและกาหนดมาตรการเพือ
2. พ ันธกิจ สง
่ การปร ับเปลีย
่ นแนวทางการบริหาร
ราชการและปร ับกระบวนท ัศน์ให้เจ้าหน้าทีร่ ัฐให้ยอมร ับและเข้าใจระบบ
บริหารราชการในระบบเปิ ด เพือ
่ ทีก
่ ารบริหารราชการและการให้บริการ
่ ารบริหารราชการทีเ่ อ้อประโยขน์สข
สาธารณะจะนาไปสูก
ุ ของประชาชน
3. มาตรการการเปิ ดระบบราชการ
่ เสริม
-กาหนดเงือ
่ นไขและแนวทางเพือ
่ สง
-วางหล ักเกณฑ์ให้แต่ละสว่ นราชการจ ัดให้ม ี
ระบบปรึกษาหารือก ับประชาชน
-จ ัดตงคณะกรรมการที
ั้
ป
่ รึกษาภาคประชาชน (Citizen Advisory Board)
-จ ัดให้มอ
ี าสาสม ัครภาคประชาชน
-นาเสนอข้อมูลสารสนเทศให้ประชาชนทราบผลงาน
-กาหนดให้การมีสว่ นร่วมเป็นต ัวชวี้ ัดหนึง่