องค์ความรู้โรคซึมเศร้า ในการอบรมการดูแลเฝ้าดูแลเฝ้า

Download Report

Transcript องค์ความรู้โรคซึมเศร้า ในการอบรมการดูแลเฝ้าดูแลเฝ้า

ึ เศร้า
องค์ความรูโ้ รคซม
ึ เศร้า
ในการอบรมการดูแลเฝ้าดูแลเฝ้าระว ังโรคซม
้ ที่
สาหร ับผูป
้ ฏิบ ัติในพืน
สน ับสนุนโดย
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
ึ เศร้า
ภาวะซม
Depression
อารมณ์เศร้า
Sadness
เป็ นอารมณ์ด ้านลบซงึ่ ทาง
จิตวิทยาถือว่าเป็ นสภาวะ
อารมณ์ทเี่ กิดขึน
้ เป็ นครัง้
คราวกับบุคคลทั่วไปทุกเพศ
ทุกวัย
ิ กับ การสูญเสย
ี
เมือ
่ เผชญ
การพลาดในสงิ่ ทีห
่ วัง
การถูกปฏิเสธ
และมักเกิดขึน
้ ร่วมกับ
ึ สูญเสย
ี ผิดหวัง
ความรู ้สก
ึ อึดอัดทรมาน
หรือความรู ้สก
(Gotlib 1992)
7
- อาการเศร ้าทีม
่ ากเกินควร
และนานเกินไป
- ไม่ดข
ี น
ึ้ แม ้ได ้รับกาลังใจ
หรืออธิบายด ้วยเหตุผล
ึ ด ้อยค่า
- มักมีความรู ้สก
ึ ผิด อยากตาย
รู ้สก
-พบบ่อยว่ามีผลกระทบต่อ
หน ้าทีก
่ ารงาน กิจวัตร
ประจาวันและการสงั คม
ทั่วไป (Stifanis 2002)
ึ เศร้า
โรคซม
Depressive disorder
ึ เศร ้าทีเ่ ข ้าตามเกณฑ์การ
ภาวะซม
วินจ
ิ ฉั ย ICD-10
• depressive episode (F32)
• recurrent depressive
episode(F33
• dysthymia(F34.1)
หรือ เกณฑ์วน
ิ จ
ิ ฉั ย DSM-IV
• Major depressive disorder,
• Dysthymic disorder
Continuum of Depression
Depression
Depressive disorders
Sadness
8
Mild
Moderate
Severe
Psychotic
นิยาม
ึ เศร ้า หมายถึง ประชาชนทีเ่ จ็บป่ วยด ้วยโรคจิตเวชที่
ผู ้ป่ วยโรคซม
มีอาการสอดคล ้องกับ
 Depressive Disorders ตามมาตรฐานการจาแนกโรคระหว่าง
ประเทศขององค์กรอนามัยโลก ฉบับที1
่ 0 (ICD– 10) หมวด
F32, F33, F34.1, F38, F39
หรือ
 Major Depressive Disorder และ Dysthymic Disorder
ตามมาตรฐานการจาแนกโรคของสมาคมจิตแพทย์อเมริกน
ั
ฉบับที4
่ (DSM-IV)
เกณฑ์การวินจ
ิ ฉ ัย Major depressive episode (DSM-IV-TR
้ แทบทงว
มีอาการด ังต่อไปนี้ อย่างน้อย ๕ อาการ เกิดขึน
ั้ ัน เป็นเกือบทุกว ัน
ั
ั
ี หน้าทีก
ติดต่อก ันไม่ตา
่ กว่า ๒ สปดาห์
และทาให้เสย
่ ารงานการสงคม
ต ้องมีอาการเหล่านี้
อย่างน ้อย 1 อย่าง
3.
4.
5.
6.
1.
2.
ั
ึ และคนอืน
มีอารมณ์เศร้า ทงที
ั้ ต
่ นเองรูส
้ ก
่ สงเกตเห็
น
ความสนใจหรือความเพลิดเพลินในกิจกรรมปกติทเี่ คยทา
ทงหมดหรื
ั้
อแทบทงหมดลดลงอย่
ั้
างมาก
้ (มากกว่าร้อย
นา้ หน ักลดลงหรือเพิม
่ ขึน
ละ ๕ ต่อเดือน)/เบือ
่ อาหารหรืออยาก
้
อาหารมากขึน
นอนไม่หล ับหรือหล ับมาก
ทาอะไรชา้ เคลือ
่ นไหวชา้ ลง หรือ
ั
กระสบกระส
า่ ย อยูไ่ ม่สข
ุ
เหนือ
่ ยอ่อนเพลียหรือไม่มแ
ี รง
10
7.
8.
9.
ึ ตนเองไร้คา่ หรือรูส
ึ ผิด
รูส
้ ก
้ ก
มากเกินควร
สมาธิหรือความคิดอ่านลดลง
คิดถึงเรือ
่ งการตายอยูซ
่ า้ ๆ
หรือคิดฆ่าต ัวตาย หรือ
พยายามฆ่าต ัวตายหรือมีแผน
DYSTHYMIC DISORDER
A.
ึ เศร ้าเป็ นสว่ นใหญ่ของวัน มีวน
มีอารมณ์ซม
ั ทีเ่ ป็ นมากกว่าวันทีป
่ กติ โดยทัง้ จาก
การบอกเล่าและการสงั เกตอาการของผู ้อืน
่ นานอย่างน ้อย 2 ปี
ึ เศร ้า มีอาการดังต่อไปนีอ
B. ในชว่ งทีซ
่ ม
้ ย่างน ้อย 2 อาการขึน
้ ไป
(1) เบือ
่ อาหารหรือกินจุ
(2) นอนไม่หลับหรือหลับมากไป
(3) เรีย
่ วแรงน ้อยหรืออ่อนเพลีย
(4) self-esteem ตา่
ิ ใจยาก
ึ หมดหวัง
(5) สมาธิไม่ด ี หรือตัดสน
(6) รู ้สก
C. ในชว่ ง 2 ปี ของความผิดปกติ ผู ้ป่ วยไม่มช
ี ว่ งเวลาทีป
่ ราศจากอาการตามเกณฑ์
A หรือ Bนานเกินกว่า 2 เดือนในแต่ละครัง้
การดาเนินโรค
 เรือ
้ รังและเป็ นซ้า: อาการเกิดเป็ นชว่ ง,
หาย/ทุเลาได ้, สามารถกลับเป็ นซ้า
และกลับเป็ นใหม่ได ้
 ระยะเวลาของการเกิดอาการทีไ่ ม่ได ้
รับการรักษาจะอยูป
่ ระมาณ 3-16
เดือน
 The median duration of episode
was 3 months (Spijker 2002)
Spijker J, at al (2002). Duration of major depressive episodes in the general population:
results from The Netherlands Mental Health Survey and Incidence Study(NEMESIS).
British journal of Psychiatry, 181:208-213.
Relapse (การกล ับเป็นซา้ ) Recurrent (การกล ับเป็นใหม่)
 RELAPSE: หมายถึง หลังอาการ
ึ เศร ้าทุเลาหรือหายไปแล ้ว เกิด
ซม
ึ เศร ้าขึน
อาการซม
้ อีกภายใน 6
เดือน
 พบอัตรา Relapse ประมาณ
19-22 % (Keller 1981,1983)
 RECURRENT : หมายถึงการเกิด new
ึ เศร ้าครัง้
episode หลังอาการโรคซม
ก่อนหายไปนานกว่า 6 เดือน
 ณ 6 เดือน พบอัตราการเกิด recurrent
19% (Shapiro and Keller,1981)
 ณ 1 ปี พบอัตราการเกิด recurrent
37% (Lin et al.,1998)
ี่ งสูงทีส
 ชว่ งเวลาทีม่ ค
ี วามเสย
่ ด
ุ คือ
3-6 เดือนแรก หลังอาการทุเลา
(Remission)
16
 ณ 2 ปี พบอัตราการเกิด recurrent
25%-40% (Keller and
Boland,1998)
สาเหตุ การเกิดโรค
ั ซอน
้ เกิดจาก
 การเกิดโรคซมึ เศร ้ามีความซบ
Interaction ของหลายๆปั จจัย (Bio-psychosocial)
 การเปลีย่ นแปลงของชวี เคมีในสมอง (Serotonin,
Nor-epinephrine) ทาให ้เกิดอาการ Depression
และพบบ่อยว่าปั จจัยทางสงั คมจิตใจ เป็ น
ตัวกระตุ ้นให ้เกิดการเปลีย
่ นแปลงดังกล่าว
 ปั จจัยทางพันธุกรรมจะเอือ้ อานวยให ้บุคคลมี
ึ เศร ้า
แนวโน ้มทีจ
่ ะเกิดโรคซม
แต่ ณ.ปั จจุบน
ั
ยังไม่ทราบยีนเฉพาะทีก
่ อ
่ โรคนี้
17
ั า
ปัจจ ัยชกน
ี่ ง
ปัจจ ัยเสย
ปัจจ ัยด้านชวี เคมี
และกายวิภาคของสมอง
พ ันธุกรรม
Neuroticism;
บุคลิกภาพ
้ ล ัว
เครียดง่าย ขีก
เจ้าอารมณ์ ก้าวร้าว
เพศหญิง
มองโลกในแง่ลบ
แก ้ไขปั ญหาแบบหลีกหนี
ยากจน, ไร ้งาน
การทะเลาะในครอบครัว
ถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก
การตัง้ ครรภ์
พ่อแม่ป่วย/
ขาดทักษะ
เจ็บป่ วยโรคเรือ
้ รัง
ปัจจ ัยป้องก ัน
ปัจจ ัยกระตุน
้
- ความคิดทางบวก
ั
่ ย
-มีสงคมที
ช
่ ว
เหลือก ันดี
- ประสบความ
ึ ษา
สาเร็ จในการศก
- ครอบคร ัวอบอุน
่
-ได้ร ับการร ักษา
โรคจิตเวชทีม
่ อ
ี ยู่
-บุคลิกภาพทีผ
่ ด
ิ
ปกติได้ร ับการแก้ไข
- มีท ักษะชวี ต
ิ ทีด
่ ี
ชวี เคมีในสมอง
เปลีย
่ นแปลง
Substance use disorder
Conduct disorder
ื่ มโยงปัจจ ัยต่างๆทีน
่ ารฆ่าต ัวตาย
แสดงความเชอ
่ าไปสูก
ั า
ปัจจ ัยชกน
ี่ ง
ปัจจ ัยเสย
ปัจจ ัยด้านชวี วิทยา
พ ันธุกรรมและ
ประว ัติครอบคร ัว
บุคลิกภาพ
1. โรคจิตเวช
ได้แก่
ึ เศร้า
-โรคซม
-ติดสุรา/
สารเสพติด
-โรคจิตเภท
-ปร ับต ัวผิดปกติ
2. โรคทางกาย
้ ร ัง
เรือ
3. เกิดวิกฤติ
ในชวี ต
ิ
หุนห ันผล ันแล่น, impulsive
19
ปัจจ ัยป้องก ัน
-ความคิดยืดหยุน
่
ั
่ ยเหลือดี
-สงคมช
ว
-ไม่มเี หตุกระตุน
้
ี
-ไม่มก
ี ารสูญเสย
- มีความหว ัง
- ได้ร ับการร ักษา
โรคจิตเวช
- บุคลิกภาพได้ร ับ
การแก้ไข
ปัจจ ัยกระตุน
้
ึ เศร ้าในแต่ละภาคของไทย
การกระจายของโรคซม
Major depressive disorder:Thailand2003
8.00
7.18
7.00
6.00
5.50
5.00
4.32
%
4.30
M
F
4.00
3.00
2.58
2.57
2.03
2.00
1.75
1.00
ภาคกลาง
ภาคหนือ
ภาตต/น
พรเทพ ศริ วิ นารังสรรค์และคณะ (2547) ความชุกของโรคจิตเวชในประเทศไทย:
การสารวจระดับชาติ ปี 2546 .วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย,12(3); 177-188
ภาคใต ้
ึ เศร้าจาแนกตามเพศ อายุ ปี 2547
ความชุกของโรคซม
พรเทพ ศริ วิ นาร ังสรรค์และคณะ (2547) ความชุกของโรคจิตเวชในประเทศไทย:
depressive disorder:Thailand2003
การสารวจระด ับชาติMajor
ปี 2546
.วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย,12(3); 177-188
8.00
7.12
6.92
7.00
6.00
5.00
%
4.23
3.98
4.00
3.48
3.14
3.00
3.02
2.79
2.47
2.16
2.00
1.85
1.79
1.00
15-24
25-34
35-44
45-54
Age
22
55-59
Total
Male
Female
23
ึ เศร้าทีเ่ ป็นมาตรฐานในปัจจุบ ัน
วิธก
ี ารร ักษาโรคซม
 Psychotherapy (จิตบาบัด)
- Cognitive Behavioral Therapy
- Interpersonal Psychotherapy
 Pharmacotherapy (การรักษาด ้วยยาต ้านเศร ้า)
- TCAs, SSRIs, SSRE, atypical drugs
 ECT (การรักษาด ้วยไฟฟ้ า)
ั ดาห์
การออกกาลังกายแบบแอโรบิค 3ครัง้ /สป
ั ดาห์
ติดต่อกันนาน 16 สป
ึ เศร ้า ลดการกลับซ้าของโรค
พบว่าสามารถลดอาการซม
ได ้พอๆกับการรักษาด ้วยยา (Babyak2000)
ึ เศร้า
การร ักษาด้วยยาต้านซม
 ผลการ systemic review พบว่ายาในกลุม
่ TCA และ SSRIs ชว่ ย
ึ เศร ้าทุกชนิดเมือ
ลดอาการในโรคซม
่ เปรียบเทียบกับยาหลอก
ิ ธิผลการ
 ผลการทา meta analysis พบว่า TCA และ SSRI มีประสท
รักษาไม่แตกต่างกัน แต่ SSRI มีผลข ้างเคียงตา่ กว่ามาก
้
่ amitryptyline หรือ
 หากต ้องการใชยาในกลุ
ม
่ TCA เชน
้
imipramine ต ้องใชในขนาดอย่
างน ้อย 75-100 mg จึงจะมี
ิ ธิภาพในการรักษาโรคซม
ึ เศร ้า
ประสท
่ diazepam ไม่มผ
 ยาในกลุม
่ Benzodiazepines เชน
ี ลการรักษา
ึ เศร ้า
ซม
การร ักษาด้วยจิตบาบ ัด
ิ ธิผลกว่าการ
 Mild to Moderate depression: การให ้จิตบาบัดพบว่ามีประสท
ไม่ได ้รับการบาบัดใด ๆ เลย
่ Cognitive behavior therapy (CBT) หรือ
 การรักษาด ้วยจิตบาบัด เชน
ิ ธิผลในการรักษาเหมือนการ
Interpersonal Therapy (ITP) พบว่ามีประสท
้
รักษาด ้วยยา แต่ใชเวลามากและนาน
 การทาจิตบาบัด ควรจะทาในทีท
่ ม
ี่ ผ
ี ู ้มีความชานาญและประสบการณ์เท่านัน
้
ิ ธิผลในการรักษา
จึงจะมีประสท
 Severe depression: การบาบัดด ้วยยาร่วมกับ ITP หรือ CT
ึ เศร ้าดีขน
ซม
ึ้ กว่าการให ้จิตบาบัดอย่างเดียว
ทาให ้อาการ
After care and relapse prevention
1.
รักษาด ้วยขนาดยาทีเ่ หมาะสมและนานพอในระยะ Acute-phase
2.
ึ เศร ้าหายดี ไม่มอ
รักษาจนอาการซม
ี าการตกค ้างหลงเหลือ
3.
หลังจากทีท
่ เุ ลาดีแล ้วต ้องให ้ยาต่อเนือ
่ ง 4-6 month (Forshall1999)
4.
มีโปรแกรมป้ องกันการกลับซ้า
ขอบคุณและสวัสดี