ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ

Download Report

Transcript ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ

ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบตั ิการ
โครงสร้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์
วิเชษฐ์ พลายมาศ
นงลักษณ์ พรมทอง
ว ัตถุประสงค์การเรียนรู ้
 เพือ
่ ให ้รู ้จักสาระสาคัญเกีย
่ วกับระบบ
คอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร วิวัฒนาการและ
ชนิดของคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
 เพือ
่ ให ้เข ้าใจหน ้าทีข
่ องระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารในการ
ติดต่อระหว่างอุปกรณ์รอบข ้างกับหน่วย
ประมวลผลกลาง
ึ ษาเกีย
 เพือ
่ ศก
่ วกับการเรียกระบบ และระบบ
ไมโครคอมพิวเตอร์
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 2
ห ัวข้อบรรยาย












Computer System Components
What is an Operating System?
Mainframe Systems
Desktop Systems
Multiprocessor Systems
Distributed Systems
Clustered System
Real -Time Systems
Handheld Systems
ี ย
การติดต่อระหว่างอุปกรณ์รอบข ้างกับซพ
ี ู
System Call
ไมโครคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 3
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 4
่ นประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
สว
Computer System Components
 ฮาร์ดแวร์ (h/w) ทาหน ้าทีจ
่ ัดหาทรัพยากรเพือ
่ การ
ี ย
คานวณพืน
้ ฐาน ได ้แก่ ซพ
ี ู หน่วยความจา i/o
devices เป็ นต ้น
 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร (Operating System) ควบคุมและ
้ ดแวร์เหล่านัน
้
ประสานงานการใชฮาร์
้ ทีถ
่ ก
ู เรียกใชโดย
ั โปรแกรม สาหรับผู ้ใชต่้ างๆ
หลายแอพพลิเคชน
ั โปรแกรม (application program)
 แอพพลิเคชน
้ อ
กรรมวิธท
ี ท
ี่ รัพยากรระบบจะถูกใชเพื
่ แก ้ปั ญหาในทาง
้
่ คอมไพเลอร์ ระบบ
คานวณของผู ้ใชงาน
เชน
ฐานข ้อมูล เกมสว์ ด
ี โิ อ ซอฟต์แวร์ธรุ กิจ เป็ นต ้น
 ผู ้ใช ้ (users) ได ้แก่ คน เครือ
่ งคอมพิวเตอร์ และ
คอมพิวเตอร์เครือ
่ งอืน
่ ๆ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 5
Abstract View of System Components
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 6
ระบบปฏิบ ัติการ
OS: Operating Systems
 คือ กลุม
่ โปรแกรมทีท
่ าหน ้าทีเ่ ป็ นตัวกลาง
ระหว่างผู ้ใช ้ กับเครือ
่ งคอมพิวเตอร์
 มีจด
ุ มุง่ หมายเพือ
่ จัดหาสภาพแวดล ้อมที่
้
เหมาะสมเพือ
่ ให ้ผู ้ใชกระท
าการกับโปรแกรม
(execute programs)
้
 โดยมีเป้ าหมายหลักเพือ
่ ให ้การใชระบบ
้ นไปอย่างสะดวก และ
คอมพิวเตอร์ของผู ้ใชเป็
้ ดแวร์เป็ นไปอย่างมีประสท
ิ ธิภาพ
การใชฮาร์
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 7
ั ้ ทีแ
แบบจาลองพืน
้ ผิวแต่ละชน
่ สดงปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู ้ใช,้ โปรแกรมประยุกต์,
ระบบปฏิบัตก
ิ าร และฮาร์ดแวร์
Operating System Concepts
1.8
Silberschatz, Galvin and Gagne 2002
Operating System Definitions
 ผู ้จัดสรรทรัพยากร (Resource allocator)
ทาหน ้าทีจ
่ ัดการและจัดสรรทรัพยากร
 โปรแกรมควบคุม (Control program)
ควบคุมการกระทาการ (execution) ของ
้
โปรแกรมผู ้ใชและปฏิ
บต
ั ต
ิ า่ งๆ
(operations) ของอุปกรณ์ i/o
 เคอร์แนล (Kernel) โปรแกรมชนิดหนึง
่ ที่
ั
รันอยูต
่ ลอดเวลา เพือ
่ ให ้แอพพลิคชน
โปรแกรมอืน
่ ๆ สามารถดารงอยูไ่ ด ้
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 9
วิว ัฒนาการและชนิดของระบบปฏิบ ัติการ
 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์มอ
ี ท
ิ ธิพล
ซงึ่ กันและกันอย่างมาก
 พบได ้จากวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ ตัง้ แต่อดีตจาก
หลอดสุญญากาศทีไ่ ม่มรี ะบบปฏิบต
ั ก
ิ าร ซงึ่ เป็ นสงิ่ ทีท
่ าให ้
ิ ธิภาพของระบบปฏิบต
ต ้องมีการเพิม
่ ประสท
ั ก
ิ ารให ้มี
้
โครงสร ้างทีท
่ ันสมัยเหมาะสาหรับการใชงาน
 ถูกพัฒนามาจากระบบเครือ
่ งเมนเฟรมทีต
่ ้องการเพียง
ั
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารอย่างง่ายๆ สาหรับทางานกับแอพพลิเคชน
้
เพียงอย่างเดียว จนกระทั่งถึงระบบแบ่งกันใชเวลาที
่
ั ซอน
้
ซบ
 จากนัน
้ จึงพัฒนาไปอยูบ
่ นระบบคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
อย่างคอมพิวเตอร์แบบตัง้ โต๊ะ มาเป็ นระบบคอมพิวเตอร์
แบบมือถือ และอุปกรณ์แบบเคลือ
่ นได ้ในปั จจุบน
ั
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 10
พ ัฒนาการทีส
่ าค ัญของระบบปฏิบ ัติการ
 Mainframe Systems
 Desktop Systems
 Multiprocessor Systems
 Distributed Systems
 Clustered System
 Real -Time Systems
 Handheld Systems
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 11
ระบบเชงิ กลุม
่
(Batch Systems)
 เป็ นระบบแบบง่ายๆ ตามสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ มี
หน ้าทีห
่ ลักคือสง่ การควบคุมโดยอัตโนมัตจ
ิ ากงานหนึง่
ไปยังงานถัดไป
 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารต ้องอยูใ่ นหน่วยความจาตลอดเวลา
 เพือ
่ ทาให ้การประมวลผลเร็วขึน
้ ผู ้ดูแลระบบทาการ
รวมกลุม
่ งานทีม
่ ค
ี วามต ้องการสงิ่ ทีเ่ หมือนกันเข ้า
ด ้วยกันและดาเนินงานงานเหล่านัน
้ ผ่านทาง
คอมพิวเตอร์เป็ นกลุม
่
 โปรแกรมเมอร์สามารถทิง้ โปรแกรมไว ้กับพนักงานคุม
เครือ
่ งได ้ และผู ้ดูแลระบบจะเรียงโปรแกรมไว ้เป็ นกลุม
่
ทีต
่ ้องการสงิ่ ทีเ่ หมือนกันและเมือ
่ คอมพิวเตอร์วา่ งก็จะ
ดาเนินงานแต่ละโปรแกรมตามลาดับ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 12
ภาพที่ 1.2 โครงร่างของหน่วยความจาสาหรับระบบเชิงกลุม่ อย่างง่าย
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 13
ระบบเชงิ กลุม
่ แบบอ ัตโนม ัติ
(Automatic Batch Systems)
 เป็ น os รุน
่ แรกใชกั้ บเครือ
่ ง IBM 701
 os รุน
่ นีเ้ ป็ นเพียงโปรแกรมฝั งตัวเล็กๆ (resident
monitor) ซงึ่ วิง่ อยูภ
่ ายในเครือ
่ งตลอดเวลา และทา
การสง่ มอบการควบคุมเครือ
่ งให ้กับโปรแกรมของผู ้ใช ้
ทีละโปรแกรมตามลาดับ
้
 ใชภาษาควบคุ
มงาน JCL (Job Control Language)
่ งเวลารอคอย (turnaround time) คือตัง้ แต่สง่ มอบ
 ชว
งานเข ้าเครือ
่ ง (job submission) จนกระทัง่ งานเสร็จ
สมบูรณ์ (job completion)
 ยังมีปัญหาในเรือ
่ งความแตกต่างของความเร็วระหว่าง
้
ี ย
i/o กับ cpu ทาให ้ประโยชน์ใชสอยของซ
พ
ี ู (cpu
utilization) ยังทาไม่เต็มที่
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 14
ระบบบ ัฟเฟอร์ (Buffering)
 มีหลักการทางานคือ ให ้ i/o ทางานขนานไป
พร ้อมกับ cpu ให ้มากทีส
่ ด
ุ เพือ
่ ลดเวลาที่ cpu รอ
i/o
 ในขณะที่ cpu กาลังประมวลผล i/o จะอ่านข ้อมูล
ถัดไปมาไว ้ทีห
่ น่วยความจา ทีเ่ รียกว่า บัฟเฟอร์
(buffer)
 บัฟเฟอร์ของ i/o ได ้แก่ เครือ
่ งอ่านบัตร (card
reader) และเครือ
่ งพิมพ์รายบรรทัด (line
printer)
 i/o จะทางานติดต่อกับ cpu โดยตรง เรียกว่า
ระบบต่อตรง (On-Line)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 15
ระบบบ ัฟเฟอร์ (Buffering) (cont.)
้
 ถ ้าการอ่าน/เขียนสาหรับข ้อมูลแต่ละหน่วยใชเวลา
เท่ากับการประมวลผลแต่ละหน่วยพอดี i/o กับ
cpu จะไม่มก
ี ารรอคอยซงึ่ กันและกัน
 ปั ญหาสาคัญของระบบนีค
้ อ
ื ความเหลือ
่ มล้าด ้าน
เวลา
 cpu มีความเร็วสูงกว่า i/o มาก แม ้จะมีบฟ
ั เฟอร์เข ้ามา
ชว่ ย cpu ก็ต ้องรอi/o อยูด
่ ี
 หากเป็ นงานประเภทต ้องใช ้ i/o มาก (I/O bounded)
cpu ต ้องรอ i/o
 หากเป็ นงานประเภทต ้องใช ้ cpu มาก (CPU bounded)
ทาให ้ i/o ต ้องรอ cpu
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 16
การประมวลผลออฟไลน์
(Off-Line Processing)
ื่ มตรง แตกต่างจากระบบออนไลน์
 แบบไม่เชอ
้
 ระบบออฟไลน์จะใชเทปแม่
เหล็ก (magnetic
tape) แทนเครือ
่ งอ่านบัตรและเครือ
่ งพิมพ์ทม
ี่ ี
ความเร็วตา่ มาก โดยคัน
่ ระหว่าง input unit กับ
cpu และ cpu กับ output unit
 การถ่ายเทข ้อมูลผ่านเทปแม่สามารถทาได ้โดยใช ้
เครือ
่ งอ่านบัตรและเครือ
่ งพิมพ์ทไี่ ด ้รับการ
ออกแบบเป็ นพิเศษ ให ้สามารถถ่ายเทข ้อมูลโดย
ี ย
ไม่ต ้องผ่านซพ
ี ู หรือเพิม
่ หน่วยประมวลผลขนาด
เล็กทีท
่ าหน ้าทีเ่ ฉพาะด ้านนี้ เรียกว่า I/O
Processor
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 17
CPU
card reader
(a)
line printer
CPU
card reader
Tape drives
tape drives
line printer
(b)
ภาพที่ 1.3 การทางานของ i/o (a) แบบออนไลน์ (b) แบบออฟไลน์
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 18
Off-Line Processing (cont.)
 ระบบออฟไลน์ก็ยังมีข ้อจากัดดังนี้
 โปรแกรมต ้องผ่านขัน
้ ตอนมากขึน
้ จะมีคา่ ใชจ่้ าย
อืน
่ (overhead) สูง
ั ซอนมากขึ
้
 ต ้องการระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารทีซ
่ บ
น
้
 ในการเก็บข ้อมูลลงเทปจาเป็ นต ้องรอให ้มีหลายๆ
ี ก่อน จึงค่อยนาเข ้าสูเ่ ครือ
ี ที
โปรแกรมเสย
่ งใหญ่เสย
้
ี ย
หนึง่ แม ้จะทาให ้ประโยชน์ใชสอยของซ
พ
ี ด
ู ข
ี น
ึ้
แต่ผู ้ใชต้ ้องมีเวลารอคอย (turnaround time)
มากขึน
้
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 19
ระบบสพูลงิ (Spooling)
ื่ บันทึกได ้พัฒนาจากเทป
 ในยุคนีเ้ ทคโนโลยีสอ
่ ารเปลีย
แม่เหล็กเป็ นดิสก์ ซงึ่ ได ้นาไปสูก
่ นโฉมหน ้า
ั ใน
ของการออกแบบระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารและแอพพลิเคชน
เวลาต่อมา
้
 ระบบสพูลงิ หรือระบบการเก็บพักได ้ใชระบบดิ
สก์แทน
เทปแม่เหล็ก
 เทปไม่สามารถทาการประมวลผลข ้อมูลในเทปใน
ขณะทีก
่ าลังถ่ายเทข ้อมูลจากเครือ
่ งอ่านบัตรลงในเทป
ม ้วนเดียวกันได ้
้ สก์แทนอุปกรณ์รับและแสดงผล เรียกว่า
 หลักการใชดิ
การเก็บพักหรือสพูลงิ (spooling--Simultaneous
Peripheral Operating On-Line)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 20
Spooling (cont.)
 เทปแม่เหล็ก
 เทปเป็ นอุปกรณ์ประเภททีม
่ ก
ี ารเข ้าถึงข ้อมูลแบบเรียงลาดับ
(sequential-access device)
ั เทปเป็ นแบบออฟไลน์
 การประมวลผลโดยอาศย
 ดิสก์
่ (random ดิสก์เป็ นอุปกรณ์ประเภททีม
่ ก
ี ารเข ้าถึงข ้อมูลแบบสุม
access device) สามารถเข ้าถึงข ้อมูลโดยตรง (direct access) ได ้
จึงทาให ้สามารถแยกงานออกจากกัน โดยสร ้างตารางบ่งบอกว่าข ้อมูล
หรือผลลัพธ์อยูท
่ ส
ี่ ว่ นใดของดิสก์
ื่ มโดยตรงกับซพ
ี ย
 การประมวลผลของดิสก์เป็ นแบบเชอ
ี ู (On-Line
้
system) ดังนั น
้ หน่วยทีใ่ ชในการถ่
ายเทข ้อมูลระหว่างดิสก์กบ
ั อุปกรณ์
้
ไอ/โอ จึงต ้องเป็ นตัวเดียวกับหน่วยทีใ่ ชประมวลผลงานของผู
้ใช ้
้
 ใชโปรแกรมพิ
เศษตัวหนึง่ เรียกว่า โปรแกรม spool วิง่ คูข
่ นานไปกับ
โปรแกรมของผู ้ใช ้ เพือ
่ ทาการถ่ายเทข ้อมูลกับดิสก์ จึงก่อให ้เกิดระบบ
หลาบโปรแกรม (Multiprogramming) ขัน
้ พืน
้ ฐาน
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 21
ภาพที่ 1.4 ระบบสพูลิง
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 22
ข้อแตกต่างระหว่างระบบบ ัฟเฟอร์ก ับสพูลงิ
 ระบบบัฟเฟอร์ เป็ นการเหลือ
่ มกันระหว่างการ
ประมวลผลกับหน่วยนาเข ้า/สง่ ออก ของโปรแกรม
เดียวกัน ซงึ่ ไม่อาจทาได ้มากนักด ้วยข ้อจากัดของ
ขัน
้ ตอนการทางานของโปรแกรมนัน
้ ๆ
 ระบบสพูลงิ เป็ นการเหลือ
่ มกันของการประมวลผล
กับการรับและแสดงผลของอีกงานหนึง่ โดยผ่าน
โปรแกรมสพูล (spool)
 ระบบสพูลงิ สามารถจัดการงานทีถ
่ ก
ู ป้ อนเข ้ามา
แบบเรียงลาดับได ้โดยอิสระ เกิดเป็ นกองกลาง
งาน (job pool) ซงึ่ ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารสามารถเลือก
งานเข ้าประมวลผลตามความเหมาะสมก่อให ้เกิด
ระบบการจัดลาดับงาน (job scheduling)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 23
ระบบหลายโปรแกรม
(Multiprogrammed Systems)
 ความสามารถของการทางานแบบหลายโปรแกรม




้ สามารถใช ้ cpu หรือ i/o แต่
(multiprogramming) ผู ้ใชไม่
เพียงผู ้เดียวตลอดเวลา
้
การทางานแบบหลายโปรแกรมเป็ นการเพิม
่ การใชงาน
cpu
โดยการจัดงานให ้กับ cpu ทาอยูต
่ ลอดเวลา
งานหลายๆ งานจะถูกเก็บไว ้ในหน่วยความจาพร ้อมๆ กันใน
งานกองกลาง (job pool)
os จะหยิบหนึง่ งานในหน่วยความจามาดาเนินการ
จนกระทั่งงานนัน
้ อาจต ้องรอให ้งานบางอย่างเสร็จสมบูรณ์
ั เปลีย
ในระบบแบบหลายโปรแกรม os ต ้องสบ
่ นไปทางาน
ี ย
อืน
่ เมือ
่ งานนัน
้ ต ้องหยุดรอบางอย่างอีก ซพ
ี ก
ู จ
็ ะสลับไป
่ นีต
ทางานอืน
่ อีกเป็ นเชน
้ อ
่ ไปเรือ
่ ยๆ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 24
ภาพที่ 1.5 โครงร่างหน่วยความจาสาหรับระบบหลายโปรแกรม จะมี
หลายงานเก็บอยูใ่ นหน่วยความจาหลักพร้ อมๆกัน และซีพียจู ะเลือกมา
หนึง่ งานเพื่อกระทาการ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 25
Multiprogrammed Systems (cont.)
้ วยความจา
 os ต ้องเลือกว่างานใดจะสามารถเข ้าใชหน่
ิ ใจนีเ้ รียกว่า การสบ
ั เปลีย
ได ้ก่อน การตัดสน
่ นงาน
(job scheduling)
 os ต ้องเลือกว่าจะ run งานใดทีพ
่ ร ้อมถูก run ก่อน
้ พ
ี ย
เรียกว่า การจัดลาดับการใชซ
ี ู (CPU scheduling)
 การทีม
่ ห
ี ลายๆ งานดาเนินไปพร ้อมๆ กัน
ความสามารถของแต่ละงานทีจ
่ ะมีผลกระทบต่องานอืน
่
ต ้องถูกจากัดในทุกขัน
้ ตอนของระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร ได ้แก่




การจัดลาดับกระบวนการ (process scheduling)
หน่วยเก็บข ้อมูลแบบจานบันทึก (disk storage)
การจัดการหน่วยความจา (memory management)
การจัดสรร i/o (i/o allocation)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 26
ภาพที่ 1.6 เปรี ยบเทียบการทางานระหว่างสภาพแวดล้ อมแบบโปรแกรม
เดียวและแบบหลายโปรแกรม
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 27
ระบบการแบ่งก ันใชเ้ วลา
(Time-Sharing Systems)
้
 เป็ นเทคนิคทีผ
่ ู ้ใชหลายคนสามารถแบ่
งปั นการใช ้




ทรัพยากรคอมพิวเตอร์รว่ มกันในเวลาเดียวกัน
ั ้ ๆ เรียกว่า เสย
ี้ วเวลา
os จะแบ่งเวลาออกเป็ นชว่ งสน
(time slice)
เวียนกระทาการกับโปรแกรมหรือกระบวนการของผู ้ใช ้
เป็ นลาดับไป
ชว่ ยให ้เวลาการตอบสนอง (response time) ต่อผู ้ใช ้
ี ย
ิ ธิภาพ
ทัง้ หมดดีขน
ึ้ และซพ
ี ท
ู างานได ้เต็มประสท
เวลาการตอบสนอง หมายถึง ชว่ งเวลาตัง้ แต่ผู ้ใชป้้ อน
คาสงั่ ให ้คอมพิวเตอร์จนกระทัง่ คอมพิวเตอร์ตอบรับมา
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 28
Time-Sharing Systems (cont.)
 แบบหลายภารกิจ (multitasking)
 หมายถึงสมรรถนะการทางานแบบหลายโปรแกรมของ
้
่ ในคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารสาหรับผู ้ใชคนเดี
ยว อย่างเชน
้
สว่ นบุคคล โดยทีผ
่ ู ้ใชคนหนึ
ง่ สามารถดาเนินการ (run)
หลายโปรแกรมในเวลาเดียวกันบนเครือ
่ งเดียวกัน
 แบบม ัลติเธรด (multithreading)
 สามารถแบ่งโปรแกรมหรือกระจายกระบวนการออกเป็ น
กระบวนการย่อยๆ เรียกว่า เธรด (thread) ซงึ่ เป็ นหน่วยย่อยที่
เล็กทีส
่ ด
ุ ของกระบวนการทีส
่ ามารถกระทาการได ้ (execution
unit of process หรือ executable entity)
 ในระบบมัลติเธรด จะซอยโปรแกรม หรือกระบวนการ
ออกเป็ นหน่วยย่อยๆ แล ้วทางานคูข
่ นานกันไป ซงึ่ จะชว่ ยให ้
โปรแกรมทางานเสร็จเร็วขึน
้
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 29
Time-Sharing Systems (cont.)
 หน่วยเก็ บเสมือน (virtual storage)
 เป็ นเทคนิคในการแบ่งปั นหน่วยความจาเพือ
่ ให ้สามารถ
ิ ธิภาพ
กระทาการกับหลายโปรแกรมได ้อย่างมีประสท
บางทีเรียกว่าหน่วยความจาเสมือน (virtual memory)
 โดยวิธก
ี ารแบ่งสว่ นของโปรแกรมออกเป็ นสองสว่ น
สว่ นแรกจะเก็บเฉพาะสว่ นทีจ
่ าเป็ นสาหรับการกระทา
การไว ้ในหน่วยความจาหลักจึงเรียกสว่ นนีว้ า่ หน่วยเก็บ
จริง (real storage) และสว่ นทีเ่ หลือจะเก็บไว ้ในหน่วย
่ ดิสก์ จึงเรียกสว่ นนีว้ า่ หน่วยเก็บเสมือน
เก็บรอง เชน
(virtual storage)
 โดยทีโ
่ ปรแกรมประยุกต์จะถูกแบ่งออกเป็ นสว่ นๆ ลงใน
หน ้า (page) ซงึ่ มีขนาดคงที่ หรือ สว่ น (segment) ซงึ่
มีขนาดทีแ
่ ปรเปลีย
่ นได ้
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 30
ภาพที่ 1.7 หน่วยเก็บเสมือนเป็ นเทคนิคที่ช่วยขยายหน่วยความจาหลักของคอมพิวเตอร์
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 31
ระบบคอมพิวเตอร์แบบตงโต๊
ั้
ะ
(Desktop Systems)
่ นบุคคล (personal computer) ถูก
 คอมพิวเตอร์สว
้
้
ออกแบบมาเพือ
่ รองรับการใชงานส
าหรับผู ้ใชคนเดี
ยว
 อุปกรณ์ i/o ต่างๆ ได ้แก่ แป้ นพิมพ์ เมาส ์ เครือ
่ งพิมพ์
จอภาพ
 คุณลักษณะของระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารใหญ่ๆได ้ถูกลดขนาด
ลงให ้เหมาะกับพีซ ี มีความสามารถมากขึน
้ เร็วขึน
้ และ
ั ซอนมากขึ
้
ระบบฮาร์ดแวร์ทม
ี่ ค
ี วามซบ
น
้ ได ้ถูก
พัฒนาขึน
้ มา
้ นหลัก
 เน ้นความสะดวกและการตอบสนองต่อผู ้ใชเป็
้
ี ย
ไม่เน ้นการใชประโยชน์
จากซพ
ี แ
ู ละระบบป้ องกันทีม
่ ี
อยูบ
่ นระบบเมนแฟรม
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 32
ระบบหลายต ัวประมวลผล
(Multiprocessor Systems)
 ระบบในปั จจุบน
ั สว่ นมากเป็ นแบบตัวประมวลผล
เดีย
่ ว (single-processor systems) แต่สามารถ
่ dual
ขยายขีดความสามารถได ้หลายวิธ ี เชน
core, hyper threading, multi-core
 ระบบแบบหลายตัวประมวลผล (multiprocessor
systems) บางทีเรียกว่าระบบขนาน (parallel
systems) หรือระบบคูแ
่ น่น (tightly coupled
systems)
 เป็ นระบบทีม
่ ต
ี วั ประมวลผลมากกว่า 1 ตัวอยูใ่ น
ื่ สารแบบปิ ด มีการใชบั้ สคอมพิวเตอร์ และ
ระบบสอ
ิ วมกัน และบางครัง้ รวมถึงหน่วยความจา
นาฬการ่
และอุปกรณ์ตอ
่ พ่วงด ้วย
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 33
Multiprocessor Systems (cont.)
 ข ้อดีสาคัญของระบบหลายตัวประมวลผล
 การเพิม
่ ปริมาณงาน (throughput)
 การประหยัดอันเนือ
่ งมาจากขนาด (economy of
scale)
ื่ ถือได ้ (increased reliability)
 เพิม
่ ความเชอ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 34
Multiprocessor Systems (cont.)
 ระบบมัลติโพรเซสเซอร์แบบสมมาตร หรือ
SMP (symmetric multiprocessing)
 ทุกตัวประมวลผลอยูใ่ นระดับเดียวกัน (peers) ไม่ม ี
ั พันธ์แบบหลัก-รอง ระหว่างตัวประมวลผล
ความสม
 แต่ละตัวประมวลผลจะดาเนินสาเนาของ
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารชุดเดียวกันไปพร ้อมๆ กัน
 ทุกตัวประมวลผลจะรันกระบวนการจานวนเท่าๆ กัน
 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารสว่ นใหญ่สนับสนุน SMP
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 35
Multiprocessor Systems (cont.)
 แบบระบบมัลติโพรเซสเซอร์แบบอสมมาตร
(asymmetric multiprocessing)
 ตัวประมวลผลแต่ละตัวจะถูกมอบหมายงานเฉพาะให ้ทา
 มีตว
ั ประมวลผลหลัก (master processor) คอยควบคุม
ระบบ
่ นตัวประมวลผลอืน
 สว
่ ๆ อาจเรียกว่าตัวประมวลผลร่วม
จะรอคาสงั่ จากตัวหลัก หรืออาจทางานทีก
่ าหนดไว ้
ล่วงหน ้า (predefined tasks)
ั พันธ์นเี้ รียกว่า ความสม
ั พันธ์แบบหลัก รูปแบบความสม
รอง (master-slave relationship)
 ตัวประมวลผลหลักจัดตารางและกาหนดงานให ้กับตัว
ประมวลผลร่วม
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 36
รูปที่ 1.7 สถาปั ตยกรรมมัลติโพรเซสเซอร์ แบบสมมาตร หรื อ SMP
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 37
ระบบทางานแบบท ันที
(Real-Time Systems)
 ระบบทางานแบบทันที การประมวลผลจะต ้องถูกดาเนินการ
ภายในเวลาทีก
่ าหนด มิฉะนัน
้ ระบบจะหยุดหรือล ้มเหลว
้ อ
 ถูกใชเมื
่ ต ้องการการตอบสนองแบบทันทีของการทางานของตัว
ประมวลผลหรือกลไกลของข ้อมูล
้ นอุปกรณ์ควบคุมในโปรแกรมประยุกต์เฉพาะงาน ตัว
 มักถูกใชเป็
รับรู ้ (sensors) นาข ้อมูลเข ้าสูเ่ ครือ
่ งคอมพิวเตอร์ และเครือ
่ ง
คอมพิวเตอร์ต ้องวิเคราะห์ข ้อมูลและอาจจะปรับการควบคุมเพือ
่
แก ้ไขการรับข ้อมูลเข ้าของตัวรับรู ้
 ประเภทของระบบทางานแบทันที
ระบบฮาร์ดเรียลไทม์ (hard real-time system) เป็ นระบบทีร่ ับรองว่า
ภารกิจวิกฤต (critical task) ต ้องเสร็จตามเวลาทีก
่ าหนด
 ระบบซอฟต์เรียลไทม์ (soft real-time system) ซงึ่ งานทีว่ ก
ิ ฤตจะได ้รับ
ลาดับความสาคัญ (priority) เหนือกว่างานอืน
่ ๆ และจะได ้รับลาดับ
ความสาคัญนัน
้ จนกระทัง่ งานเสร็จสมบูรณ์

วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 38
ระบบกระจาย
(Distributed Systems)
้
 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทใี่ ชระบบแบบคู
ห
่ ลวม (loosely
coupled) หรือระบบแบบกระจาย
 ประกอบด ้วยกลุม
่ ของตัวประมวลผลซงึ่ ไม่ได ้แบ่งกันใช ้
ิ
หน่วยความจาหรือนาฬการะบบ
 แต่ละตัวประมวลผลมีหน่วยความจาของตัวเอง (local memory)
้
ื่ สารต่างๆ เชน
่ บัส
 ตัวประมวลผลติดต่อกับผู ้อืน
่ ผ่านเสนทางส
อ
ั ท์
ความเร็วสูง หรือสายโทรศพ
 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารเครือข่าย (network operating system-
NOS)
่ การแบ่งกันใช ้
 เป็ นระบบปฏิบัตก
ิ ารทีม
่ ค
ี ณ
ุ ลักษณะ เชน
ื่ สารซงึ่ อนุญาตให ้
แฟ้ มข ้อมูลข ้ามเครือข่าย รูปแบบการติดต่อสอ
กระบวนการต่างกันบนเครือ
่ งคอมพิวเตอร์ตา่ งเครือ
่ งกันได ้
แลกเปลีย
่ นข ้อมูลข่าวสารกัน
 เครือ
่ งคอมพิวเตอร์ทรี่ ัน NOS ปฏิบัตต
ิ วั อย่างเป็ นอิสระจาก
คอมพิวเตอร์เครือ
่ งอืน
่ บนเครือข่าย
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 39
Distributed Systems (cont.)
 ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารแบบกระจาย (distributed
operating system) มีสภาพแวดล ้อมทีเ่ ป็ น
อิสระน ้อยกว่าระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารเครือข่าย
 แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
 ระบบรับ-ให ้บริการ (client-server systems)
 ระบบเพียร์ทเู พียร์ (peer-to-peer systems)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 40
Distributed Systems (cont.)
ภาพที่ 1.8 โครงสร้ างทัว่ ไปของระบบ client/server
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 41
Distributed Systems (cont.)
 ต ้องการโครงสร ้างพืน
้ ฐานของเครือข่ายรองรับ
่ LAN หรือ WAN
เชน
้ นระบบ client/server หรือ peer-to อาจใชเป็
peer ก็ได ้
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 42
Distributed Systems (cont.)
 ข ้อดี
้ พยากรร่วมกัน (Resources Sharing)
 ใชทรั
 เพิม
่ ความเร็วในการคานวณ แบ่งปั นภาระงาน
(Computation speed up – load sharing)
ื่ ถือได ้ (Reliability)
 เพิม
่ ความเชอ
ื่ สาร (Communications)
 ระบบการสอ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 43
ระบบคล ัสเตอร์
(Clustered systems)
้
 ระบบคลัสเตอร์ยอมให ้หลายระบบสามารถใชระบบ
หน่วยเก็บชุดเดียวกันได ้
 คล ้ายกับระบบขนาน ซงึ่ รวมหลายหน่วยประมวลผล
กลางเข ้าประมวลผลร่วมกัน หรือชว่ ยกันประมวลผล
งานใหญ่ๆ ให ้เสร็จในเวลาทีร่ วดเร็ว และยอมรับการ
ิ มีความเชอ
ื่ ถือได ้สูงมาก
เข ้าถึงจากเครือ
่ งของสมาชก
 คลัสเตอร์แบบสมมาตร (Asymmetric clustering)
ั ในขณะที่ servers อืน
 1 server runs แอพพลิเคชน
่ ทาหน ้าที่
standby.
 คลัสเตอร์แบบอสมมาตร (Symmetric clustering)
่ ยกันรันแอพพลิเคชน
ั (all N hosts are running
 ทุกโฮสต์ชว
the application)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 44
ระบบคอมพิวเตอร์มอ
ื ถือ
(Handheld systems)
 บางทีเรียกว่า ระบบเคลือ
่ นทีไ่ ด ้ (Mobile system) รวมไป
่ พาล์ม
ถึงพีดเี อ (PDA: personal digital assistants) เชน
(Palm), พ็อกเก็ตพีซ ี (Pocket PC) หรือโทรศัพท์แบบ
เซลลูลาร์ (cellular telephone) สมาร์ทโฟน iPod,
iPhone Tablet และอุปกรณ์แบบเคลือ
่ นทีไ่ ด ้อืน
่ ๆ ซงึ่
ื่ มต่อเป็ นเครือข่าย ผ่านระบบ Wi-Fi, Bluetooth เป็ นต ้น
เชอ
 ฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ประเภทพกพาได ้รับการพัฒนาให ้มี
ขีดความสามารถทีเ่ พิม
่ มากขึน
้ เรือ
่ ยๆ
 ประเด็นทีพ
่ งึ พิจารณา




ข ้อจากัดของหน่วยความจา
หน่วยประมวลผลความเร็วตา่
ขนาดของหน่วยแสดงผล
การบริโภคพลังงาน
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 45
หน้าทีข
่ องระบบปฏิบ ัติการ
 การจัดการกระบวนการ (process management)
 การจัดการหน่วยความจาหลัก (main memory






management)
การจัดการแฟ้ ม (file management)
การจัดการระบบไอ/โอ (I/O system management)
การจัดการหน่วยเก็บรอง (secondary-storage
management)
เครือข่าย (networking)
ระบบการป้ องกัน (protection system)
ระบบตัวแปลคาสงั่ (command interpreter
system)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 46
Migration of Operating-System Concepts and
Features
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 47
Computing Environments
 Traditional computing
 Web-Based Computing
 Embedded Computing
 Mobile Computing
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 48
ี ย
การติดต่อระหว่างอุปกรณ์รอบข้างก ับซพ
ี ู
ั ญาณ หรือพอลลิง (polling)
 การหยั่งสญ
 การขัดจังหวะ หรืออินเทอร์รัพต์ (interrupt)
 ตู ้ไปรษณีย ์ หรือเมลบ็อกซ ์ (mailbox)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 49
ี ย
การติดต่อระหว่างอุปกรณ์รอบข้างก ับซพ
ี ู
 การพอลลิง

ี ย
เป็ นการติดต่อทีช
่ ว่ งเวลาหนึง่ ๆ ซพ
ี ู จะหยุดงานทีท
่ าอยูช
่ วั่ คราวเพือ
่
เข ้าไปตรวจอุปกรณ์ไอ/โอแต่ละอุปกรณ์วา่ มีการขอบริการอะไรจาก
ี ย
ซพ
ี ู บ ้างจนครบทุกอุปกรณ์ แล ้วจึงจะกลับไปทางานทีค
่ ้างไว ้ต่อ
 การขัดจังหวะ
ั ญาณการขัดจังหวะไปยัง
จะเป็ นลักษณะการติดต่อโดยการสง่ สญ
ี ย
interrupt driven โดยฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เพือ
่ บอกซพ
ี ู
ี ย
 เมือ
่ ซพ
ี รู ับรู ้ก็จะหยุดทางานรอจนกระทั่งการสง่ ข ้อมูลจากอุปกรณ์นัน
้
ิ้ ลง จึงกลับไปทางานต่อ
เสร็จสน

 ตู ้ไปรษณีย ์
ระบบจะกันเนือ
้ ทีบ
่ างสว่ นไว ้ในหน่วยความจาเพือ
่ ให ้ i/o สามารถสง่
ข ้อมูลเข ้าไปเก็บในหน่วยความจาสว่ นนี้
ี ย
 ในชว่ งเวลาหนึง
่ ซพ
ี จ
ู ะหยุดงานทีท
่ า เมือ
่ พบว่ามีข ้อมูลก็จะโหลด
ข ้อมูลเหล่านัน
้
ี ย
 จากนั น
้ ซพ
ี จ
ู ะกลับไปทางานทีค
่ ้างอยูต
่ อ
่
 ซงึ่ วิธน
ี เี้ ป็ นการผสมผสานวิธแ
ี บบพอลลิงและการขัดจังหวะเข ้าด ้วยกัน

วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 50
การเรียกระบบ
(System Calls)
 ทาหน ้าทีจ
่ ัดเตรียมสว่ นต่อประสานระหว่าง
กระบวนการหนึง่ กับระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
ั่ ภาษาเอสแซมบลี
 การเรียกระบบมักเป็ นคาสง
หรืออาจเขียนด ้วยภาษาระดับสูงก็ได ้ เรียกว่า
การเรียกระบบย่อย (subroutine call)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 51
ภาพที่ 1.9 การส่งผ่านพารามิเตอร์ โดยตารางในหน่วยความจา
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 52
System Calls (cont.)
 ประเภทของ system call
 การควบคุมกระบวนการ (process control)
 การจัดการแฟ้ ม (file management)
 การจัดการอุปกรณ์ (device management)
้
 การใชงานข
้อมูลของระบบ (information
maintenance)
ื่ สาร (communication)
 การสอ
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 53
ระบบปฏิบ ัติการสาหร ับไมโครคอมพิวเตอร์
 การบูต (booting)
 ภารกิจดูแลทั่วไปหรืองานแม่บ ้าน
(housekeeping tasks)
่ นต่อประสานกับผู ้ใช ้ (user interface)
 สว
 การจัดการทรัพยากรคอมพิวเตอร์ (managing
computer resources)
 การจัดการภารกิจ (managing tasks)
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 54
สรุป
 คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
 วิวัฒนาการและชนิดของระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
 หน ้าทีข
่ องระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
ี ย
 การติดต่อระหว่างอุปกรณ์รอบข ้างกับซพ
ี ู
 การเรียกระบบ
 ไมโครคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 55
วิเชษฐ ์ พลายมาศ | โครงสร ้างระบบและสถาปั ตยกรรมคอมพิวเตอร์ | ระบบคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร | 56