เท่ห์กินผัก - มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา

Download Report

Transcript เท่ห์กินผัก - มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา

ประชุมชีแ้ จง การสมัครขอรับทุนโครงการ
ระหว่ างวันที่ 17-24 มิถุนายน 2556
งบ 50,000 บาทต่ อร.ร.
)
ระยะเวลาดาเนินการ 1 ส.ค.56 - 28 ก.พ.57
ความเป็ นมา
สถานการณ์ เด็กอีสานกินผักผลไม้ น้อยลง
เฉลี่ย 84.3 % ทานผักผลไม้ ไม่
เพียงพอ (<400กรัมต่อวัน)
ผักและผลไม้ 400 กรัมต่อวันช่วยชะลอความแก่
เพิ่มความจา ลดความเสี่ยงของโรคร้ ายแรง
• อ้ างอิงจากรายงานการสารวจสุขภาพประชาชนไทย ในปี 2551 -2552
โดยสานักงานพัฒนาระบบข้ อมูลข่าวสารสุขภาพและองค์การอนามัยโลก
การเลือกกินผักผลไม้ ตามหลัก 4 เลือก
•
•
•
•
1) เลือกกินผักผลไม้ ที่เหมาะสมกับปริมาณที่ควรบริโภคในแต่ ละวัน
2) เลือกกินผักผลไม้ จากแหล่ งผลิตที่น่าเชื่อถือ
3) เลือกกินผักผลไม้ ที่สะอาดและปลอดภัย
4) เลือกกินผักผลไม้ ที่มผี ลดีต่อสุขภาพ เป็ นต้ น
วัตถุประสงค์ โครงการ
1. เพื่อกระตุ้นให้ เด็กนักเรี ยนในโรงเรี ยนเป้าหมายกินผักผลไม้ วันละ 400 กรั ม/วัน
มากขึ ้น
2. เพื่อสร้ างสภาพแวดล้ อมในโรงเรี ยนที่เอื ้อต่อการกินผักผลไม้
3. เพื่อสร้ างทีมแกนนาผู้ทาโครงการ (ครู แม่ครัว เจ้ าของร้ านค้ า ผู้ปกครองหรื อ
ตัวแทนชุมชน และนักเรี ยนรุ่นพี่) ให้ เข้ มแข็ง
4. เพื่อส่ งเสริมกระบวนการเรี ยนรู้ และทักษะจากการทาโครงการจริง
(Project –Based Learning) เพื่อให้ เกิดความรู้ ความเข้ าใจ และตระหนักถึงประโยชน์ของ
การกินผักผลไม้ ที่จะช่วยให้ ร่างกายได้ รับสารอาหาร และหลีกเลี่ยงผักผลไม้ ที่มีสารพิษ
เป้าหมายโครงการ
ตัวชีว้ ัดความสาเร็จโครงการ
ร้ อยละ 80
• นร.ได้ รับความรู้ ความเข้ าใจประโยชน์
และตระหนักเรื่องการกินผักผลไม้ มาก
ขึ ้น โดยผ่านกระบวนการเรี ยนรู้จากการ
ลงมือทาด้ วยตนเอง
• นร.กินผักผลไม้ 400 กรัมต่อวัน
• มีแปลงเกษตรปลอดสารพิษในโรงเรี ยน
• กลุม่ แม่ครัวสามารถนาความรู้ที่ได้ ไป
ใช้ ในประกอบอาหารกลางวันที่
ปลอดภัยและถูกหลักโภชนาการ
ร้ อยละ 80
เป้าหมายอื่นๆ
• เกิดเป็ นโรงเรี ยนนาร่องของ
สานักงานเขตพื ้นที่ที่ดาเนิน
โครงการเรื่ องกินผักผลไม้ ของ
นักเรี ยน
• โรงเรี ยนมีรายงานผลการดาเนิน
โครงการในโรงเรี ยนนาร่องและ
ผ่านการประเมินตนเองระดับ
โรงเรี ยน
• โรงเรี ยนมีผลการดาเนินงานทา
ได้ ตามแผนกิจกรรม
• เกิดความรู้ปฏิบตั ิด้านการกินผัก
ผลไม้
• ร.ร.มีการบริ หารงบประมาณ
อย่างมีประสิทธิภาพ
• ร้ อยละ 100 เกิดทีมแกนนา 25
คน/ร.ร. ที่สามารถจัดกิจกรรม
รณรงค์การกินผักผลไม้ ใน
โรงเรี ยน 400 กรัมต่อวัน
• อย่างน้ อย 15 ครอบครัว มีแปลง
พืชผักสวนครัวในครัวเรื อน
• มีเมนูผกั ผลไม้ ที่ดงึ ดูดใจนักเรี ยน
ให้ กินผักผลไม้ มากขึ ้น
• บันทึกความร่วมมือในการทา
โครงการระหว่าง EDF กับ สพป.
จานวน 7 แห่ง
• จานวนผู้นิเทศโครงการหรื อ
ผู้รับผิดชอบโครงการแต่งตังโดย
้
สพป. เพื่อสนับสนุนการทา
โครงการ จังหวัดละ 2 คน
• เกิดเป็ นนโยบายไปสูโ่ รงเรี ยนนา
ร่องเพื่อส่งเสริ มให้ นกั เรี ยนกินผัก
ผลไม้ 400 กรัม/วัน
พืน้ ที่ดาเนินการภาคอีสาน 7 จังหวัด
จานวน ร.ร.
จังหวัด
1.
15
อุดรธานี
2.
15
สกลนคร
3.
13
เลย
4.
13
ยโสธร
5.
14
6.
15
บุรีรัมย์
สุรินทร์
7.
15
อุบลราชธานี
100
7 จังหวัด
เป้าหมายและผู้รับผลประโยชน์
จังหวัดเป้าหมาย
โรงเรี ยน (ร.ร.)
คณะทางานแกนนาครู +แม่ ครั ว+
ผู้ท่ เี ข้ าร่ วมและรั บ
ร้ านค้ า+น.ร.รุ่ นพี่+ผู้ปกครองใน
ผลประโยชน์ จากโครงการ
โรงเรี ยน
(200 คนต่ อร.ร.)
(25 คนต่ อร.ร.)
1. อุดรธานี
15
375
3,000
2.สกลนคร
15
375
3,000
3.เลย
13
325
2,600
4.ยโสธร
13
325
2,600
5.บุรีรัมย์
14
350
2,800
6.อุบลราชธานี
15
375
3,000
7.สุรินทร์
15
375
3,000
รวม
100
2,500
9,200
รวมทังสิ
้ ้น 9,200 คน
คุณสมบัตโิ รงเรี ยนเป้าหมาย
1. ประถมศึกษาขยายโอกาส (อนุบาล – ม.3)
2. มีนกั เรี ยนที่มีพฤติกรรมกินผักผลไม้ ไม่ ถึง 400 กรั มต่ อวัน
3. ผู้บริหารโรงเรี ยน ครู นักเรี ยนและชุมชนเห็นความสาคัญของโครงการ เต็มใจและมี
ความพร้ อมที่จะดาเนินโครงการเพื่อให้ เกิดความสาเร็จ
4. มีความพร้ อมในระดับที่สามารถจัดการโครงการได้ เช่น กาลังคน
และทรัพยากร
คัดเลือกโรงเรี ยนเป้าหมายร่ วมกับ สสส.
กาหนดคุณสมบัติโรงเรี ยนเป้าหมาย
ประชาสัมพันธ์โครงการไปยังสานักงานเขตพื ้นที่การศึกษา
โรงเรี ยนที่สนใจสมัครและเสนอโครงการ
(จานวนประมาณ 150 โรงเรียน)
เวทีคดั กรองโดยสพป.และคณะกรรมการจาก EDF
ประชุมทีม EDF เพื่อนาเสนอข้ อมูลแต่ละโรงเรี ยนและ
คัดเลือกรอบแรก (130 ร.ร.)
เวทีพิจารณาโครงการตามแนวทางการสนับสนุนทุนของ สสส.
(คัดเลือกรอบสุดท้ าย (100 ร.ร.)
ภาพรวมการบริหารโครงการ
สสส.
EDF
1. หากลุ่มเป้าหมาย/คัดเลือก รร.
- เตรี ยมการคัดเลือกโรงเรี ยน
กลุ่มเป้าหมาย
- ประชาสัมพันธ์ โครงการ
- จัดประชุมเชิงปฏิบัตกิ าร
- โรงเรี ยนส่ งใบสมัครโครงการ
- คัดกรองรร.เป้าหมายโดย
สพป. EDF และ สสส.
- แจ้ งผลการคัดเลือกร.ร.
- ทา MOU กับร.ร.
- โอนเงิน
สพป.
โรงเรียน
(แกนนาทา
โครงการ)
ผู้รับผล
ประโยชน์
นร.ใน รร.
2. EDF จัดการปฐมนิเทศ
3. ขัน้ ดาเนินการตามแผน
4. ติดตาม จัดแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้
5. ประเมินผลโครงการ
6. เสนอรายงานต่ อ สสส.
บทบาท สพป.ใน โครงการเท่ ห์กนิ ผัก น่ ารั กกินผลไม้
PR /
ประชาสัมพันธ์
โครงการ
ร่วมกาหนด
นโยบาย กินผัก
ผลไม้ ในร.ร.
MOU
กับ EDF
แต่งตัง้
ผู้รับผิดชอบ
เป็ นพี่เลี ้ยงร.ร.
บทบาทสพป.
นิเทศติดตาม
แลกเปลี่ยน
เรี ยนรู้
(EDF น้ อย)
ร่วม
คัดเลือกร.ร
.
ปชส.เชิญ
ชวนร.ร.เข้ า
ร่วม
แผนการปฏิบตั ิงาน
กิจกรรม
เดือน
1. คัดเลือกโรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย
- ประชุมหารื อวางแผนการทาโครงการร่วมกับภาคีเครื อข่าย
สพป. ผู้นิเทศโครงการระดับจังหวัด
29 พ.ค.-3 มิ.ย.
- ประชาสัมพันธ์โครงการร่วมกับ สพป.และเครื อข่าย
- จัดประชุมเชิงปฏิบตั กิ ารเพื่อพัฒนาโครงการ
- โรงเรี ยนจัดทาข้ อเสนอโครงการย่อย
- คัดกรองรอบแรก โดยผู้นิเทศและ EDF
- เวทีพิจารณาคัดเลือกโดย สสส.
- อนุมตั โิ ครงการ ทา MOU/ แจ้ งเลขที่บ/ชโครงการ/ แต่งตัง้
กลุม่ แกนนา/ EDF โอนเงินงบประมาณให้ โรงเรี ยน
2. จัดปฐมนิเทศโครงการและอบรมกลุ่มแกนนาโครงการ
3-14 มิ.ย.
17-24 มิ.ย.
17-28 มิ.ย.
1-5 ก.ค.
กรกฎาคม
กรกฎาคม
3. โรงเรียนดาเนินการตามแผน
4. ติดตามโครงการ และจัดแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้
5. ประเมินผลโครงการ
6. รายงานสรุป นาเสนอ สสส.
24-26 กรกฎาคม
1 ส.ค.56 - 28 ก.พ.57
ก.ย./มค.
ก.พ/มี.ค.
ตามงวด
กลยุทธ์ ท่ ที าให้ เกิดการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมกินผักผลไม้
• สร้ างความรู้สึกเป็ นเจ้ าของ ให้ เด็กได้ ลงมือปลูกผักผลไม้ จัดหาแหล่งผักผลไม้ หรื อคิดเมนูผกั
ผลไม้ ด้วยตนเอง
• ให้ ความรู้ ชี ้ให้ เห็นความสาคัญ ประโยชน์ของการกินผักผลไม้
• จัดสภาพแวดล้ อมที่เอื ้อต่อการกินผักผลไม้ เช่น จัดแปลงปลูกผักผลไม้ ที่โรงเรี ยนและ
ครอบครัว พ่อแม่ผ้ ปู กครองกินผักผลไม้ ให้ เด็กเห็นเป็ นตัวอย่าง
• โรงเรี ยนจัดให้ มีเมนูผักผลไม้ คุณครูและทีมงานในโรงเรี ยนเป็ นผู้คอยช่วยกระตุ้นให้ เด็ก
นักเรี ยนกินผักผลไม้ แม่ครัวปรุงอาหารกลางวันที่มีเมนูผกั และผลไม้ ทกุ วัน เปลี่ยนรูปแบบเมนู
ผักให้ มีความหลาก หลายและน่ากิน ทาให้ เด็กรู้สกึ อร่อยกับกินผักผลไม้
• คอยกระตุ้นให้ นกั เรี ยนกินผักและผลไม้ อยู่เสมอ
• สร้ างค่ านิยมรักสุขภาพให้ เกิดขึ ้นในโรงเรี ยน
• เปลี่ยนชื่อผัก เป็ นไอเดียให้ เด็กกินผักเพิ่มขึ ้น เป็ นต้ น
เชิญชมวีดีโอ 1 เรื่ อง เกี่ยวกับ ทักษะในศตวรรษที่ 21
ทักษะในศตวรรษที่ 21
• การเรี ยนรู้ในศตวรรษที่ 21 ควรเปลี่ยนเป้าหมาย
จากความรู้ ไปสู่ทักษะ เปลี่ยนจากการเน้ นครูเป็ น
หลักเป็ นนักเรี ยนเป็ นหลัก
• การเรี ยนแบบ Project Based
Learning (PBL) เป็ นการเน้ นให้
นักเรี ยนรู้ จักการทางานเป็ นทีม และครูทาหน้ าที่
เป็ นครู ฝึก
• ครูมีหน้ าที่กระตุ้นด้ านจิตใจ อารมณ์ และสร้ างแรง
บันดาลใจให้ เด็กมีพลัง มีชีวิตชีวา และสนุกกับการ
เรี ยนรู้
ขึ ้นตอนหรื อกระบวนการทางานแบบ PBL ควรจะเป็ น
•
•
•
•
•
•
•
•
ให้ เด็กตีโจทย์ตงแต่
ั ้ แรก
ค้ นหาข้ อมูลกันเอง
หัดตรวจสอบและนาสิง่ ที่เหมาะสมมาใช้ กบั โครงการ
ฝึ กปฏิบตั ิจริง
เพิ่มทักษะการสื่อสารระหว่างทีม
นาเสนออย่างสร้ างสรรค์
ทางานเป็ นทีม
แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ร่วมกันเพื่อต่อยอดความรู้ ตนเองต่อไป
การเขียนโครงการ
รายละเอียดโครงการย่ อย
“เท่ ห์กนิ ผัก น่ ารักกินผลไม้ ”
เป้าหมายโครงการ>>
1.ร้ อยละ 80 ของนักเรี ยนในโรงเรี ยนกินผักผลไม้ โดย
เน้ นในมื ้อกลางวันเพิ่มมากขึ ้น (400 กรัมต่อวัน)
2.ผู้ปกครอง/ตัวแทนชุมชนเห็นความสาคัญและเข้ ามามี
ส่วนร่วม
ผู้ดาเนินโครงการ แกนนาทีม 25 คน
>> แกนนาผอ.+ครู 5 คน
แกนนานักเรี ยนรุ่นพี่ 10 คน
แม่ครัว/ร้ านค้ า/ผู้ปกครองนักเรี ยน 10 คน
พืน้ ที่ดาเนินงาน>>ในโรงเรี ยนและขยายสู่ 15 ครอบครัว
ต่อโรงเรี ยน
ผู้เข้ าร่ วมโครงการและรั บผลประโยชน์ >>นักเรี ยน
ประมาณ 200 คนต่อโรงเรี ยน
 ระยะเวลาดาเนินงาน 1 สิงหาคม 56-28 กุมภาพันธ์ 57
 งบประมาณ 50,000 บาทต่อโรงเรี ยน
วัตถุประสงค์ (โครงการใหญ่ )
1. เพื่อกระตุ้นให้ เด็กนักเรี ยนในโรงเรี ยนกินผักผลไม้ วันละ
400 กรัม/วัน มากขึ ้น
2. เพื่อสร้ างสภาพแวดล้ อมในโรงเรี ยนที่เอื ้อต่อการกินผัก
ผลไม้
3. เพื่อสร้ างทีมแกนนาผู้ทาโครงการ (ครู แม่ครัว เจ้ าของ
ร้ านค้ า ผู้ปกครองหรื อตัวแทนชุมชน และนักเรี ยนรุ่นพี่)
ให้ เข้ มแข็ง
4. เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรี ยนรู้ และทักษะจากการทา
โครงการจริง (Project –Based Learning) เพื่อให้ เกิด
ความรู้ ความเข้ าใจ และตระหนักถึงประโยชน์ของการ
กินผักผลไม้ ที่จะช่วยให้ ร่างกายได้ รับสารอาหาร และ
หลีกเลี่ยงผักผลไม้ ที่มีสารพิษ
รายละเอียดโครงการย่อย
ตัวชีว้ ัดผลลัพธ์ (โครงการใหญ่ )
1. นักเรี ยนร้ อยละ 80 ได้ รับความรู้ ความเข้ าใจประโยชน์และตระหนักเรื่ องการกินผักผลไม้ มากขึ ้น โดยผ่าน
กระบวนการเรี ยนรู้จากการลงมือทาด้ วยตนเอง
2. นักเรี ยนร้ อยละ 80 กินผักผลไม้ 400 กรัมต่อวัน
3. เกิดทีมแกนนา 25 คน/ร.ร. ที่จดั กิจกรรมรณรงค์การกินผักผลไม้ ในโรงเรี ยน 400 กรัมต่อวัน
4. มีแปลงเกษตรปลอดสารพิษในโรงเรี ยน และอย่างน้ อย 15 ครอบครัว มีแปลงพืชผักสวนครัวในครัวเรื อน
5. กลุม่ แม่ครัวสามารถนาความรู้ที่ได้ ไปใช้ ในประกอบอาหารกลางวันที่ปลอดภัยและถูกหลักโภชนาการ
6. มีเมนูผกั ผลไม้ ที่ดงึ ดูดใจนักเรี ยนให้ กินผักผลไม้ มากขึ ้น
7. โรงเรี ยนมีผลการดาเนินงานทาได้ ตามแผนกิจกรรมที่วางไว้ และผ่านการประเมินตนเองระดับโรงเรี ยน
8. เกิดความรู้ปฏิบตั ิด้านการกินผัก ผลไม้ อย่างน้ อย 1 เรื่ อง/ร.ร.
กรอกใบสมัคร ข้ อเสนอโครงการย่อย
ศึกษา แนวทางการสนับสนุนทุนให้ เข้ าใจก่ อนกรอกใบสมัคร
ส่ วนที่ 1 : ข้ อมูลคณะทางาน 5 คน
 ชื่อโรงเรี ยน ที่อยู่ ชื่อผู้บริหารโรงเรี ยน
 ชื่อครูผ้ รู ับผิดชอบโครงการ จานวน 4 คน
กรอกใบสมัคร ข้ อเสนอโครงการย่อย
ส่ วนที่ 2 : ข้ อมูลโรงเรี ยน
 ประเภทโรงเรี ยน
 จานวนครู จานวนนร.แยกรายชันเรี
้ ยน
 สภาพพื ้นที่โรงเรี ยนที่เหมาะกับการเกษตร
 ความร่วมมือของหน่วยงานในชุมชน
 เมนูอาหารกลางวันเดือนมิถนุ ายน เป็ นต้ น
กรอกใบสมัคร ข้ อเสนอโครงการย่อย
ส่ วนที่ 3 : ข้ อมูลแผนงาน / โครงการ
1. ชื่อโครงการ เท่ ห์กินผัก น่ ารั กกินผลไม้
2. ความเป็ นมา
ให้ โรงเรี ยนอธิบายถึงสภาพปั ญหา สถานการณ์การกินผักผลไม้ กลุม่ เด็กในโรงเรี ยนและสภาพครอบครัวและชุมชน เป็ นต้ น
3. วัตถุประสงค์ โครงการ ตัวชีว้ ัด เขียนให้ สอดคล้ องกับเป้าหมาย วัตถุประสงค์และตัวชี ้วัดโครงการใหญ่
4. กลุ่มเป้าหมาย และพืน้ ที่ดาเนินการ
กลุ่มเป้าหมายหลัก
กลุ่มเป้าหมายรอง
1.กลุม่ แกนนาผู้ทาโครงการ จานวน 25 คน
ผู้ปกครองนักเรี ยน / คนในชุมชน จานวน................คน
2.นักเรี ยนทังหมดในโรงเรี
้
ยน จานวน............คน
3.ครู และบุคลากรทังหมดในโรงเรี
้
ยน จานวน .........คน
4.ผู้ปกครองนักเรี ยน จานวนอย่างน้ อย 15 ครอบครัว / โรงเรี ยน
พืน้ ที่ดาเนินการ ในโรงเรี ยนและขยายสู่ 15 ครอบครั ว ต่ อ โรงเรี ยน
5. ระยะเวลา (1 สิงหาคม 2556-28 กุมภาพันธ์ 2557)
6. ข้ อเสนอโครงการย่อย : กิจกรรมดาเนินการ
ชื่อกิจกรรม/รายละเอียด
ผลลัพธ์ /ผลผลิต
ช่ วงเวลาที่จัด
กิจกรรม
ข้ อเสนอโครงการย่อย
7. กรณีท่ มี ีการสนับสนุนทรัพยากรจากหน่ วยงานอื่น
8. องค์ กรภาคีท่ รี ่ วมดาเนินงาน
9. การติดตาม/การประเมินผล
ข้ อเสนอโครงการย่อย
10. งบประมาณโครงการ (ตัวอย่ าง)
ที่
1.
กิจกรรม
รายการ
สร้ างคณะทางาน วางแผนงานและประชุมสม่าเสมอ
หน่ วย
ราคาต่ อ
หน่ วย
เป็ นเงิน
xxxxx
ค่าอาหารและเครื่ องดื่ม
ค่าประสานงาน
ค่าเอกสาร
2.
สารวจข้ อมูลและเก็บข้ อมูลเพื่อประเมินตนเองด้ านการกินผัก
ผลไม้ ของนักเรียน
xxxxx
ค่าเก็บเอกสารและวิเคราะห์ข้อมูล
3.
จัดประชุมนักเรียน
xxxxx
ค่าอาหารและเครื่ องดื่ม
ค่าเอกสาร
4.
ประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ สร้ างการเรียนรู้เรื่องการกินผักผลไม้
เช่น เสียงตามสาย ป้ายนิเทศ นิทรรศการ แหล่งเรี ยนรู้
xxxxx
ค่าอาหารและเครื่ องดื่ม
ค่าประสานงาน
ค่าเอกสาร
ค่าวัสดุประชาสัมพันธ์
ค่าของรางวัล
ข้ อเสนอโครงการย่อย
10. งบประมาณโครงการ (ตัวอย่ าง)
ที่
10.
กิจกรรม
รายการ
หน่ วย
ราคาต่ อ
หน่ วย
เป็ นเงิน
xxxxx
ค่ าเดินทางไปร่ วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ระดับ
จังหวัด ครัง้ ที่ 2
ค่าน ้ามันรถ
11.
xxxxx
ค่ าจัดทารายงาน
ค่าจัดทาเอกสารรายงาน
ค่าภาพถ่ายกิจกรรม
12.
อื่นๆ (โปรดระบุกิจกรรมใหม่ ที่เขียนไว้ ในส่ วน
กิจกรรมโครงการข้ างต้ น)
รวมงบทัง้ สิน้ 50,000 บาท
การสนับสนุนโครงการ
1.กาหนดให้ ทกุ โรงเรี ยน ทาอย่างน้ อย 2 เรื่ อง
• การเกษตร (ปลูกผักผลไม้ ปลอดสารพิษ และเลี ้ยงสัตว์อย่างน้ อย 1 อย่าง) เพื่อเป็ นอาหารกลางวันของนักเรี ยน
• ให้ นกั เรี ยนชั ้นสูงสุดของแต่ละโรงเรี ยน ทา Project-based learning (PBL) เรื่ อง “ทาอย่างไรให้ นร.
กินผักผลไม้ มากขึ ้น (400 กรัมต่อวัน)” โดยมีเป้าหมายเป็ นนร.ทั ้งโรงเรี ยน และติดตามผลจนเห็นการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินผักผลไม้ ว่าเกิดขึ ้นได้ จริงหรื อไม่
2.กิจกรรมส่งเสริมการกินผักผลไม้ เป็ นกิจกรรมเปิ ดให้ โรงเรี ยนคิด ออกแบบกิจกรรมได้ เองอย่างอิสระ แต่กิจกรรม
เหล่านั ้นจะต้ องสามารถบรรลุถึงเป้าหมายโครงการ ก็คือ “นักเรี ยนกินผักผลไม้ มากขึ ้น 400 กรัมต่อวัน”
3. การคิดงบประมาณ 50,000 บาท นั ้น มีแนวทาง ดังนี ้
*แปลงเกษตร(พืช+สัตว์) ไม่เกิน 20,000 บาท ใช้ เป็ นค่าวัสดุอปุ กรณ์ ค่าพันธุ์พืช ค่าพันธุ์สตั ว์ เป็ นต้ น
*ส่วนที่เหลือ 30,000 บาท แบ่งเป็ นค่าใช้ จ่าย
-กิจกรรมส่งเสริมการกินผักผลไม้ ในโรงเรี ยนและครอบครัว
-ค่าใช้ จ่ายในการบริหารจัดการโครงการ เช่น ค่าจัดประชุม การเก็บข้ อมูลในโรงเรี ยน ติดตามประเมินผล
การเขียนรายงาน และถ่ายภาพกิจกรรมส่ง สพป./EDF
-ค่าเดินทาง (ค่าน ้ามันรถ) เข้ าร่วม 3 กิจกรรมกับสพป.และ EDF1. เข้ าร่วมปฐมนิเทศ (ก.ค.) 2.
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ครัง้ ที่ 1(ก.ย.) 3. กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ครัง้ ที่ 2 (ม.ค.) (จะจัดในพื ้นที่จงั หวัดนั ้นๆ)
เชิญชมวีดีโอ 1 เรื่ อง
เกี่ยวกับ การประยุกต์ PBL
Workshop (1/2)
• แบ่งเป็ นกลุม่ ย่อย
• นาเข้ าสู่ workshop
ทาให้ สนใจและเกิดความตระหนักว่าทุกวันนี ้เด็กๆ กินผักผลไม้ น้อย เช่น นักเรี ยนชอบกินผักไหม
ใครชอบบ้ าง ชอบผักอะไร ทาไมจึงชอบอาหารเย็นมีอะไรบ้ าง มีผกั ไหม รวมแล้ วทังวั
้ นกินผักผลไม้ มาก
น้ อยเท่าไร รู้ไหมว่าเราควรกินผักผลไม้ วนั ละแค่ไหนจึงจะดีต่อสุขภาพ
**สรุปแล้ วพวกเรากินผักผลไม้ ไม่เพียงพอ ด้ วยเหตุผลแล้ วเราควรจะกินผัก
และผลไม้ เพิ่มขึ ้นไหม เล่าสถานการณ์การกินผักผลไม้ น้อยลง ทาให้ เกิดโรคร้ ายแรงถึงชีวิตอะไรบ้ าง
• Brainstorm เพื่อกรอกในส่วนที่ 3 การนาเสนอโครงการ
พูดคุยกันในกลุม่ ย่อยตามโจทย์
- วิเคราะห์สถานการณ์ความเป็ นจริ งในเรื่ องการกินผักผลไม้ ของเด็กในโรงเรี ยน
- ช่วยกันมองหาว่า “ทาไมเด็กๆ ถึงไม่ชอบกินผักผลไม้ ”
- ช่วยกันหา “วิธีทาอย่างไรให้ เด็กกินผักผลไม้ มากขึ ้น 400 กรัมต่อวัน”
Workshop (2/2)
• ทดลองเขียนโครงการตามแบบเสนอโครงการ
• ทดลองทา งบประมาณ ทังหมด
้
50,000 บาทต่อโครงการ
• ส่งตัวแทนออกมานาเสนอต่อกลุม่ ใหญ่เพื่อแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ซึงึ่ กันและกัน
• ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันพัฒนาข้ อเสนอโครงการให้ ดีขึ ้น
การประยุกต์ใช้ PBL (1/3)
 การนาเข้ าสู่บทเรียน
ทาให้ เด็กสนใจและเกิดความตระหนักว่าทุกวันนี ้เด็กๆ กินผักผลไม้ น้อย
นาไปสู่ ความอยากรู้ (Need to Know) เช่นนักเรี ยนชอบกินผักไหม
ใครชอบบ้ าง ชอบผักอะไร ทาไมจึงชอบอาหารเย็นมี
อะไรบ้ าง มีผกั ไหม อะไรบ้ างที่เป็ นผัก กินผักมากน้ อยแค่ไหน กี่คา
รวมแล้ วทังวั
้ นกินผักผลไม้ มากน้ อยเท่าไร
รู้ไหมว่าเราควรกินผักผลไม้ วนั ละแค่ไหนจึงจะดีต่อสุขภาพ
• สรุปแล้ วพวกเรากินผักผลไม้ ไม่เพียงพอ ด้ วยเหตุผลแล้ วเราควรจะกินผัก
และผลไม้ เพิ่มขึ ้นไหม เล่าสถานการณ์การกินผักผลไม้ น้อยลง ทาให้ เกิดโรค
ร้ ายแรงถึงชีวิตอะไรบ้ าง
 ให้ เด็กตีโจทย์ ตัง้ แต่ แรก
“ทาอย่างไรให้ นกั เรี ยนกินผักผลไม้ เพิ่มมากขึ ้น (400 กรัมต่อวัน)”
การประยุกต์ใช้ PBL (2/3)
 แบ่ งนักเรียนในชัน้ เรียนเป็ นกลุ่มเพื่อค้ นหาข้ อมูลกันเองแบบเจาะลึก
ตามคาถามย่อยที่ได้ รับ เช่น
 จริงหรื อที่วา่ นักเรี ยนกินผักผลไม้ น้อยไป
 กินผักผลไม้ แค่ไหนจึงจะ “พอดี”
 ทาไมจึงต้ องกินผักให้ มากพอ
 ทาไมเด็กๆ ถึงไม่ชอบกินผักผลไม้
 มีวิธีอย่างไรที่จะช่วยให้ เด็กกินผักผลไม้
การประยุกต์ใช้ PBL (3/3)

ฝึ กปฏิบตั ิจริงในกลุ่มย่อย มีการเพิม่ ทักษะการสื่อสารระหว่างทีม การทางานเป็ นทีมเพื่อค้ นหา
คาตอบอย่างมีเหตุมีผล

นาเสนอกลุ่มใหญ่ถึงผลงานที่ได้ จากการคิดและทางานร่วมกันกับทีมอย่างสร้ างสรรค์ การนาเสนอ
และรับฟั งความคิดเห็นที่สะท้ อนกลับจากเพื่อนร่วมห้ องและครูจะทาให้ ได้ คิดทบทวนและพัฒนาให้
งานดีขึ ้น โดยครูมีบทบาทหน้ าที่ดแู ลไม่ให้ ออกไปไกลจากขอบเขตที่วางไว้ และทาหน้ าที่คอยกระตุ้น
ให้ เกิดการเรี ยนรู้

แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้และหารื อร่วมกันเพื่อพิจารณาเลือกวิธีการหรื อกิจกรรมที่จะทาเพื่อทาให้ เด็กกิน
ผักผลไม้ เพิม่ มากขึ ้นในโรงเรี ยน

นาเสนอผลงานต่อสาธารณะ ได้ แก่ นาเสนอในชันเรี
้ ยน และนาเสนอให้ ทกุ คนในโรงเรี ยนรับทราบถึง
โครงการที่จะทา
ระยะเวลาของการส่ งโครงการและการพิจารณา
ดาวน์โหลดใบสมัครโครงการได้ ที่ www.edfthai.org
กิจกรรม
จัดประชุมชี ้แจงรายละเอียดโครงการให้ แก่โรงเรี ยนที่สนใจเพื่อสมัครขอรับทุน
โครงการ
โรงเรี ยนที่สนใจกรอกใบสมัครพร้ อมแนบเอกสารประกอบการสมัคร
คณะกรรมการจากสพป. และ EDF พิจารณาคัดเลือกโรงเรี ยน
ระยะเวลา
วันที่ 17 - 19 มิถนุ ายน 2556
คณะกรรมการ EDF ตรวจดูความเรี ยบร้ อยของเอกสารที่ผ่านการคัดเลือกรอบ
แรกและส่งให้ สสส.
เวทีพจิ ารณาคัดเลือกโดย สสส.(คัดเลือกรอบสุดท้ าย)
วันที่ 8 - 9 กรกฎาคม 2556
ประกาศผลโครงการเท่ห์กินผัก น่ารักกินผลไม้
ผ่านทางสานักงานเขตพื ้นที่การศึกษา 7 จังหวัด และทาง www.edfthai.org
กรกฎาคม 2556
วันที่ 17 - 28 มิถนุ ายน 2556
วันที่ 1 - 5 กรกฎาคม 2556
กรกฎาคม 2556
ปฐมนิเทศโครงการ โดยเชิญตัวแทนกลุ่มแกนนาหรื อคณะทางานของโรงเรี ยน วันที่ 24-26 กรกฎาคม 2556
ได้ แก่ แกนนาครู แกนนานักเรี ยนรุ่นพี่ แกนนาผู้ปกครอง แม่ครัว ตัวแทนร้ านค้ า
การส่ งโครงการ ส่ งที่
• ส่งที่ คุณ
• Email
ใบสมัคร “เกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาวะ”
สาหรับชุมชน ส่ งให้ สสส.โดยตรง
• กรอกตามแบบเสนอโครงการ
• ติดต่อขอรับไฟล์ได้ ที่ สพป.ของท่าน
ขอเชิญมาร่ วมโครงการด้ วยกันนะคะ
ขอบคุณค่ ะ