Transcript ้ ่ ารวิจัยหน่วยจ่ายกลาง เสนทางสู ก ผศ.ดร.สุธก ี าญจน์ ไชยลาภ คณะพยาบาลศาสตร์เกือ ้ การุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช [email protected] บรรยากาศในการทางานของท่าน เป็ นแบบนีห ้ รือไม่ ? • มีสงิ่ ใหม่ๆเข ้ามา จะมีการต่อต ้าน • มองงานวิจัยเป็ นสงิ่ แปลกประหลาด • เวลาหมดไปกับงานประจา • ไม่มใี ครริเริม ่

้
่ ารวิจัยหน่วยจ่ายกลาง
เสนทางสู
ก
ผศ.ดร.สุธก
ี าญจน์ ไชยลาภ
คณะพยาบาลศาสตร์เกือ
้ การุณย์
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
[email protected]
บรรยากาศในการทางานของท่าน
เป็ นแบบนีห
้ รือไม่ ?
• มีสงิ่ ใหม่ๆเข ้ามา จะมีการต่อต ้าน
• มองงานวิจัยเป็ นสงิ่ แปลกประหลาด
• เวลาหมดไปกับงานประจา
• ไม่มใี ครริเริม
่ เพราะกลัวปล่อยไก่
• ไม่รู ้ว่าจะทาไปเพือ
่ ประโยชน์อน
ั ใด
้
่ ารวิจัย?
ทาไมต ้องมีเสนทางสู
ก
1.คนทางานจะเบือ
่
หน่าย เมือ
่ ทางาน
ั ระยะหนึง่
ไปสก
้
่ ารวิจย
ทาไมต ้องมีเสนทางสู
ก
ั ?
2.คนจะขัดแย ้งกันจากปั ญหาการทางาน
้
่ ารวิจย
ทาไมต ้องมีเสนทางสู
ก
ั ?
ิ ธิภาพลดลง
3.องค์กรไม่เกิดการพัฒนา ประสท
้
่ ารวิจย
ทาไมต ้องมีเสนทางสู
ก
ั ?
3.องค์กรเข ้าสูโ่ ลกของศตวรรษที่ 21
บริบทที่เปลี่ยนไปของโลก
• การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate change)
• การก่อการร้ายสากล (International terrorism) สงครามรูปแบบ
ใหม่
• เทคโนโลยีและไอซีที
• การหลอมหลวมกันของความรู้ (Convergence of DisciplinesTransdiciplinary)
• ความจาเป็ นของการวิจยั ต่อการพัฒนาด้านต่างๆของประเทศ
ปรับวิสยั ทัศน์ ต่อบทบาทการวิจยั
ภายใต้บริบทที่เปลี่ยนไป
สู่ 21st Century Skills
(Way of Thinking, Way of Working, Tools of Working
and Living in the World)
และ Higher Order of Thinking and Working Skills
And research - based learning
Sony Walkman
3 D Movie
Karaoke
Tamagotchi
การสร ้างแรงบันดาลใจก่อนเริม
่ วิจัย
•
•
•
•
เป็ นการขยายคุณค่างานประจา
ลดข ้อขัดแย ้งภายใน-ระหว่างหน่วยงาน
ิ ธิภาพในการพัฒนางาน
เพิม
่ ประสท
เกิดความพึงพอใจของทุกฝ่ าย
รางวัลผลงานวิจัยดีเด่น
๑. ผลงานเรือ
่ ง “เพิม
่ พล ังนึง่ หารสองสนองโลก
ร้อน” โดยนายสห ัส ตอสูงเนิน
โรงพยาบาลป่าติว้ จ ังหว ัดยโสธร
้ มอนขิดป่า
๒. ผลงานเรือ
่ ง “จากภูมป
ิ ญ
ั ญาไสห
ี ไม่ให้เปี ยกชน
ื้ ” โดยนางสาว
ติว้ ชว่ ยการนึง่ ซองซล
บ ังอร อินอ่อน โรงพยาบาลป่าติว้ จ ังหว ัดยโสธร
ดูท ี่ https://www.gotoknow.org/posts/446104
ื้ ใน
กิจกรรมสาค ัญในงานควบคุมการติดเชอ
โรงพยาบาล
้ื ในโรงพยาบาล
1. การเฝ้าระว ังการติดเชอ
2. การแยกผูป
้ ่ วย (Isolation precautions)
ื้ และการทาให้ปราศจากเชอ
ื้
3. การทาลายเชอ
(Disinfection & sterilization)
4. การดูแลสุขภาพบุคลากร (Employee Health )
5. การดูแลผูป
้ ่ วย (Patient Care)
ื้
กิจกรรมสาค ัญในงานควบคุมการติดเชอ
ในโรงพยาบาล
6. การตรวจทางห้องปฏิบ ัติการ
(Microbiological Service)
7. การให้ความรูแ
้ ก่บค
ุ ลากร
(Education & training)
8. การควบคุมสงิ่ แวดล้อม
(Environmental Control)
9. การประสานงานก ับหน่วยงานสาธารณสุข
ในชุมชน (Community coordination)
10.การวิจ ัย (Research)
ท่านเป็ นคนกลุม
่ ไหน ?
กลุม
่ 1 เก็บ
ข ้อมูลเอาไว ้
บ ้างแล ้วแต่
ยังไม่รู ้ว่าจะ
ทาอะไร
ต่อไป
อย่างไร
กลุม
่ 2 มี
โครงการวิจัย
หรือมีหวั ข ้ออยู่
แล ้ว แต่ยังไม่ได ้
เริม
่ ทา
กลุม
่ 3 สนใจที่
จะทางานวิจัย
มาก แต่ยังไม่ม ี
โครงการ
แน่นอน
กลุม
่ 4 สนใจทีจ
่ ะทา
วิจัยพอควร แต่ไม่
ค่อยแน่ใจว่าจะทาได ้
หรือไม่
กลุม
่ 5 ไม่ต ้องการ
ทาวิจัยเลย คิดว่า
ยุง่ ยาก และไม่สนใจ
A
B
C
D
E
0
จุดเริม
่ ต ้นการทาวิจัย
• เรียนรู ้ทีจ
่ ะรู ้
• เรียนรู ้ทีจ
่ ะคิด
• แบ่งปั น
• วางแผน
• ลงมือทา
ทาอย่างไรให้วจ
ิ ัยเก่ง
• อ่านให ้เก่ง รู ้ให ้มากโดยเฉพาะ
งานวิจัยต ้องฝึ กหัดอ่านให ้มากๆ
ั
• หัดเป็ นคนขีส
้ งสย
• ชอบตัง้ คาถาม
• อยากเปลีย
่ นแปลง / พัฒนาให ้ดีขน
ึ้
ทาอย่างไรให ้วิจัยเก่ง
• ให ้ฝึ กลองทา เริม
่ ต ้นเดีย
๋ วนี้
ี่ วชาญ
• นักวิจัยมือใหม่ควรเรียนรู ้จากผู ้เชย
• การลงมือทา อย่าล ้มเลิกกลางคัน อย่าทิง้ ชว่ ง
ให ้ตะบันและตะลุยทา
• อาจชวนเพือ
่ นร่วมงาน พูดคุยปั ญหาในการ
ทางาน และสรุปปั ญหาตามความคิดของ
ตนเองออกมา
จุดเริม
่ ต ้นของการทาวิจัย
• แหล่งของปั ญหาวิจัยอาจได ้จากสงิ่ ใกล ้ตัว
่ การสง่ เวร การรายงานปั ญหาของผู ้ป่ วย
เชน
การอภิปรายปั ญหาในหน่วยงานและปั ญหา
จากแหล่งอืน
่ ๆในลักษณะต่างๆ ได ้แก่
ี่ ง
- รายงานสถานการณ์ความเสย
ื้ ในรพ.
- รายงานอุบต
ั ก
ิ ารณ์การติดเชอ
- ข ้อร ้องเรียนต่างๆ
กระบวนการทางานวิจัย : เรือ
่ งใกล ้ตัว
• หลักการทางวิทยาศาสตร์
ั ส ี่
• หลักอริยสจ
• หลักกระบวนการพยาบาล
• PDCA
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ั
 ตงค
ั้ าถามสงิ่ ทีส
่ งสย
 กาหนดสมมติฐาน
 ทดสอบสมมติฐาน
ค้นหาคาตอบ
กระบวนการแพทย์-พยาบาล
 การรวบรวมข้อมูลและประเมินปัญหา
 วินจ
ิ ฉ ัยโรค - วินจ
ิ ฉ ัยทางการพยาบาล

วางแผนการร ักษา – วางแผนทางการ
พยาบาล

ปฏิบ ัติตามแผน

ประเมินผลล ัพธ์
บริหารงานวิจัย.....ด้วย P-D-C-A
►Plan-การวางแผน
ั
 วางแผนการตงเป
ั้ ้ าหมายทีช
่ ดเจน
 เริม
่ คิดสงิ่ ใหม่ ๆ เพือ
่ ปร ับปรุงงานให้เกิด
ิ ธิภาพมากขึน
้
ประสท
 ตรวจสอบประเมินความเป็นไปได้
ร่างแผนงานคือโครงการทีเ่ ขียนเป็นลาย
ล ักษณ์อ ักษรเปรียบเสมือนเข็มทิศ
งานวิจ ัยเป็นกระบวนการ
การดาเนินการ
เป็นไปตามขนตอน
ั้
แต่ละขนตอนมี
ั้
กจ
ิ กรรมทีแ
่ ตกต่างก ัน
อรพรรณ โตสงิ ห์
ขนตอนการพ
ั้
ัฒนางาน
ขนตอนวิ
ั้
จ ัย
โอกาสพัฒนา/ประเด็นปัญหา
ตัง้ คาถามวิจัย
จัดทาแผนงาน/โครงการ
ทบทวนวรรณกรรม
เป้ าหมาย/ตัวชี้วดั ผลงาน
วัตถุประสงค์/สมมติฐาน
ดาเนินการ & เก็บข้อมูล
ดาเนินการ & เก็บข ้อมูล
วิเคราะห์ผลการดาเนินงาน เทียบ
กับเป้ าหมาย
วิเคราะห์ผลการวิจัย
เทียบกับสมมติฐาน
ขนตอนการท
ั้
าวิจ ัย
1.ระบุห ัวข้อหรือปัญหาการวิจ ัยและ
ทบทวนวรรณกรรม
2.กาหนดต ัวแปรของการวิจ ัย
และวิธวี ัดต ัวแปร
3.กาหนดระเบียบวิธวี จ
ิ ัย
4.กาหนดประชากรและ
กลุม
่ ต ัวอย่างในการวิจ ัย
5.ดาเนินการเก็บข้อมูล
6.วิเคราะห์ขอ
้ มูล
7.เขียนรายงานการวิจ ัย
8.เผยแพร่งานวิจ ัย
การคิด/เขียน
โครงร่าง
ลงมือทา
คิด วิเคราะห์
เขียน
คิดหัวข ้อการวิจัย ได ้มาอย่างไร ?
• เริ่ มจากการอยากพัฒนางานประจา
เริม
่ ต้นคิดห ัวข้อวิจ ัย
ก ันอย่างไร ?
คิดเอง
คิด คิด คิด วิจ ัย วิจ ัย
R 2 R, P 2 R…….
บอกต่อๆ
ดีเหมือนก ันนะ
้ เิ ธอ.......…
ทาเรือ
่ งนีซ
………….in trend ดีนะ
้ ในคลินก
วิเคราะห์ปญ
ั หาทีเ่ กิดขึน
ิ
ห ัวข้อวิจ ัยได้จาก
1.ความไม่พอใจในสงิ่ ทีป
่ ฏิบ ัติอยูใ่ นปัจจุบ ัน
-สารวจว่างานทีท
่ าอยูใ่ นปัจจุบ ัน
มีอะไรทีเ่ ป็นปัญหา
-ถ้าไม่มป
ี ญ
ั หาแล้ว การปฏิบ ัติแบบเดิมๆ
ทีท
่ า ปร ับให้ดข
ี น
ึ้ ได้หรือไม่
ึ ว่าดีแล้ว ทาให้ดก
-ถ้ารูส
้ ก
ี ว่านีไ้ ด้หรือไม่
ห ัวข้อวิจ ัยได้จาก
2.ความพอใจหรือเป้าหมายขององค์กร
ซงึ่ รวมถึงผูป
้ ่ วยและครอบคร ัว
- วิจ ัยทีด
่ ี ต้องมีคนต้องการ
- วิจ ัยทีด
่ ี ต้องแก้ปญ
ั หาให้คนทีเ่ กีย
่ วข้องได้
- การวิเคราะห์ความต้องการของผูเ้ กีย
่ วข้อง
จะทาให้ได้ร ับ support ทีด
่ ี (เงิน เวลา
นโยบายในการเปลีย
่ นแปลง)
ห ัวข้อวิจ ัยได้จาก
3.การอ่านวารสาร งานวิจ ัยทีต
่ พ
ี ม
ิ พ์
ึ ษางานของคนอืน
- ศก
่ ๆบ้าง เพราะปัจจุบ ัน
่ ตวรรษที่ 21 แล้ว
เราเข้าสูศ
ใครทาอะไร ?
ทาไปถึงไหน ?
่ งว่างอยูต
ชอ
่ รงไหน ?
ห ัวข้อวิจ ัยได้จาก
4.การพบปะพูดคุย แลกเปลีย
่ นความคิดเห็ น
ประชุมหารือภายในหรือภายนอกหน่วยงาน
ั
่ อบรม สมมนา
ในรูปแบบต่างๆ เชน
ประชุม
วิชาการ
ห ัวข้อวิจ ัยได้จาก
5. การทาวิจ ัยซา้ หรือต่อยอดจากน ักวิจ ัย
่
ทีเ่ คยทาเรือ
่ งนนมาแล้
ั้
ว เชน
่ การทาซา้ ใน settings อืน
เชน
่ ๆ หรือดูจาก
ข้อเสนอแนะวิจ ัยท้ายเล่ม
6. จากทฤษฎี เพือ
่ เป็นการพิสจ
ู น์ทฤษฎี
่ Lean production
ต่างๆ เชน
ต ัวอย่างปัญหาการวิจ ัย :
ื้
การทาลายเชอ
• การล้างทาความสะอาดที่
กระจายอยูต
่ ามหอผูป
้ ่ วย ไม่
เป็นมาตรฐานเดียวก ัน
• ขาดการกาก ับดูแล ยกเป็น
หน้าทีข
่ องน้องพน ักงานผู ้
่ ยเหลือผูป
ชว
้ ่ วย
การทจาลายเชื
ต ัวอย่างปัญหาการวิ
ัย : ้อ
้ื
การทาลายเชอ
• บุคลากรทีเ่ กีย
่ วข้องไม่ทราบประเภท
ื้
คุณสมบ ัตินา้ ยาทีใ่ ช ้ ทาให้การทาลายเชอ
ิ ธิภาพ
ไม่มป
ี ระสท
ื้ อุปกรณ์ทเี่ ป็นพวก lumen
• การทาลายเชอ
ย ังเป็นปัญหาค่อนข้างมาก
• หน่วยงาน scope ต่างๆขาดการกาก ับจาก
ICN
การทาให้ ปราศจากเชื้อ
ต ัวอย่างปัญหาการวิจ ัย :
ื้
การทาลายเชอ
• โครงสร้างสถานทีบ
่ ริเวณ มีปญ
ั หาการ
่ บริเวณทาความ
แบ่ง zone เชน
สะอาด บริเวณห่ออุปกรณ์ บริเวณทา
้ื และบริเวณเก็บ
ให้ปราศจากเชอ
ื้
อุปกรณ์ปราศจากเชอ
้ื มีหลายที่
• หน่วยทีท
่ าให้ปราศจากเชอ
่ OR ท ันตกรรม จ่ายกลาง
เชน
ต ัวอย่างปัญหาการวิจ ัย :
ื้
การทาลายเชอ
• บุคลากรขาดความรู ้ ไม่เข้าใจวิธก
ี ารทาให้
ื้ ไม่ปฏิบ ัติตามขนตอนการท
ปราศจากเชอ
ั้
า
้ื
ให้ปราศจากเชอ
ื้
• การเตรียมอุปกรณ์ทจ
ี่ ะทาให้ปราศจากเชอ
ไม่ถก
ู ต้องไม่คานึงถึงขนาดและปริมาณ
่
ของอุปกรณ์ทบ
ี่ รรจุในแต่ละห่อทีจ
่ ะสง
ต ัวอย่างปัญหาการวิจ ัย :
ื้
การทาลายเชอ
ั
่ ซพพลายไม่
• การสง
ท ันก ับความต้องการใช ้
• การเตรียมอุปกรณ์ทบ
ี่ รรจุในแต่ละห่อทีจ
่ ะ
่ ใชเ้ วลาและขนตอนนานเกิ
สง
ั้
นไป
ต ัวอย่างการเริม
่ ต้นงานวิจ ัยง่ายๆ
่ ชุดทาแผลต่อ
ผลของการลดขนตอนการส
ั้
ง
ความพึงพอใจของเจ้าหน้าทีห
่ อผูป
้ ่ วย
You
can
Do
it !
ขนเริ
ั้ ม
่ ต้นการวิจ ัย
ั
1. เพือ
่ ยืนย ันว่าสงิ่ ทีส
่ งเกต
เป็นความจริง
ั
เจ้าหน้าทีห
่ น่วยจ่ายกลางเริม
่ สงเกต
และ
บ ันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ บ ันทึกขนตอน
ั้
่ แบบเดิม เป็นเวลา 3
และระยะเวลาการสง
่ ให้ตก
ว ัน โดยเก็บจากการสง
ึ ต่างๆจานวน
10 ตึก
ขนเริ
ั้ ม
่ ต้นการวิจ ัย
ผลล ัพธ์จากขนตอนที
ั้
่1
ได้งานวิจ ัยแบบสารวจ 1 เรือ
่ ง
ทีบ
่ อกถึงรูปแบบและระยะเวลาทีใ่ ชใ้ นการ
่ มอบเครือ
สง
่ งมือหรือชุดทาแผลได้ท ันก ับ
้ องตึกต่างๆ
ความต้องการใชข
่ งท้ายของขนตอนนี
้ ว
ชว
ั้
ผ
ู้ จ
ิ ัยได้ทบทวน
วรรณกรรมทีเ่ กีย
่ วข้องเพือ
่ confirm สงิ่ ที่
้ ภิปรายผลการศก
ึ ษา
ค้นพบและใชอ
เรียกว่าเป็น knowledge triggers
ขนกลางของการวิ
ั้
จ ัย
ตึก
1
2
่ มอบ
ว ันที่ เวลา วิธส
ี ง
1
เชา้
7 ขนตอน
ั้
บ่าย 6 ขนตอน
ั้
2
เชา้
6 ขนตอน
ั้
บ่าย 7 ขนตอน
ั้
1 เชา้
6 ขนตอน
ั้
บ่าย 7 ขนตอน
ั้
2 เชา้
7 ขนตอน
ั้
บ่าย 6 ขนตอน
ั้
เก็บข้อมูลระยะเวลา
่ มอบชุดทาแผล
การสง
แล้วเปรียบเทียบด้วยวิธก
ี าร 2 อย่าง
(6 ขนตอน
ั้
VS 7 ขนตอน)
ั้
้
ผลล ัพธ์ของขนตอนนี
ั้
ได้งานวิจ ัยเชงิ การทดลอง 1 เรือ
่ ง
ทีท
่ าแล้วแก้ปญ
ั หาให้ก ับผูป
้ ่ วยได้
่ ารเปลีย
โดยตรง และนาสูก
่ นแปลงการ
ปฏิบ ัติได้ท ันที เหมือนงานพ ัฒนา
คุณภาพการงานบริการ (QI)
ผลล ัพธ์ของขนตอนที
ั้
่3
ได้งานวิจ ัยวิจ ัยและพ ัฒนา (R&D) อีก
1 เรือ
่ ง
การคิดค้นวิธก
ี ารหรือพ ัฒนารูปแบบ
ใหม่ในการทางาน ทีไ่ ด้ร ับการยอมร ับ
และหน่วยงานอืน
่ สามารถนาไปปร ับ
ใชไ้ ด้ดว้ ย
ขนพ
ั้ ัฒนานว ัตกรรมงานบริการ
ด ังนนก่
ั้ อนจะสรุปโจทย์วจ
ิ ัย
การทบทวนวรรณกรรมจึงเป็นเรือ
่ งสาค ัญ
หล ักในการทบทวนวรรณกรรม
เพือ
่ หาห ัวข้อวิจ ัย
1.ใครทา ?
2.ทาอะไร ?
3.ได้อะไร ?
4.ควรทาอะไรต่อ?
ตัวอย่างงานวิจัยทีอ
่ ยากชวนทา
งานวิจ ัย
• การใช ้ lean ในการลดขัน
้ ตอนการสง่ อุปกรณ์เครือ
่ งมือได ้อย่าง
สะดวกและรวดเร็ว
ิ ธิผลของการมอบ-สง่ และจัดเก็บชุดทาแผล
• การเพิม
่ ประสท
• CQI กับการลดความผิดพลาดในการทางาน
• การพัฒนาคูม
่ อ
ื ในการทางานของหน่วยจ่ายกลาง
ิ ธิภาพของการนึง่ ของเพือ
ื่ ม
• การพัฒนาประสท
่ ลดอัตราการเสอ
ของวัสดุอป
ุ กรณ์
นวัตกรรม
้
• การใชขวดพลาสติ
กในการประดิษฐ์ภาชนะสาหรับหน่วยจ่าย
กลาง
• การสร ้างรางเลือ
่ นในการจัดเก็บ ล ้างและห่อเครือ
่ งมือ
ปั จจัยสาเร็จ (Key success)
มีหวั หน้า/พีเ่ ลี้ ยง ในหน่วยงาน
•
ต้นทุน : ด้านเนื้ อหา ความสัมพันธ์
•
ทัศนคติ ทักษะ ความสามารถด้านวิจยั
•
การดูแล เอาใจใส่ กาลังใจ
 มีวิธีคิดทีเ่ ห็นประโยชน์ผูป้ ่ วย เป็ นทีต่ ้ งั
 Win-Win ผลประโยชน์ร่วม งาน + ตัวเอง + องค์กร
Key success
ผูบ
้ ริหารด้านการวิจ ัยขององค์กร
1.เข้าใจธรรมชาติงานวิจ ัยทางคลินก
ิ ของ
พยาบาลน ักปฏิบ ัติ
้ ให้
2.น ักปฏิบ ัติอยูก
่ ับการปฏิบ ัติ ต้องเอือ
้ ารปฏิบ ัติ และการแก้ปญ
สามารถใชก
ั หา
การปฏิบ ัติประจาว ันพ ัฒนาไปเป็นการวิจ ัย
Key success
ผูบ
้ ริหารด้านการวิจ ัยขององค์กร
3.ต้องเข้าใจว่าน ักปฏิบ ัติทย
ี่ ังไม่เคยทาวิจ ัย
้ ถิตใิ น
เอง อาจไม่คล่องต ัว เรือ
่ งการใชส
กระบวนการวิจ ัย
“ควรจ ัดหาทีป
่ รึกษา”
Key success
ผูบ
้ ริหารด้านการวิจ ัยขององค์กร
4.ต้องเปิ ดไฟเขียวให้ทก
ุ ๆเรือ
่ ง ไม่จจ
ู ้ เี้ กินไป
และต้องยอมร ับความไม่สมบูรณ์บางอย่าง
ได้
5.ตระหน ักเสมอว่า ถ้าไม่มก
ี ารเริม
่ ต้นงานที่ 1
จะไม่มงี านที่ 2,3,4……
สร้ างคุณค่ าของงาน เริ่ มที่ตัวเรา
Which step have you reached today?
ิ ใจเริม
เมือ
่ ต ัดสน
่ ต้น
Think
pair
share
เริม
่ จาก
วิจ ัย
แบบทีม
PROMPT MODEL
•
•
•
•
•
•
P = PROBLEM ORIENTED
R = RESEARCH QUESTION
O = OBJECTIVES
M = MEANS
P = PRACTICE
T = TIME FRAME
คุณทาได ้ !
ื่ มพลังเครือข่ายหน่วยจ่ายกลาง
เชอ
เพือ
่ ขยายคุณค่างานประจา
ร่วมมือกันนะคะ
คนจ่ายกลาง.....สู ้ สู ้
“ทอได
...แต
ต
ถอย
ถอยได....แต
่ องไม
้
่
่
้
้
้
ตองไม
ท
้
่ อ
้
ทอได
ถอยได้ แต..่ ตองไม
ยอม
้
้
้
่
แพ้”