ความรู้พนื้ ฐานทางวิศวกรรมไฟฟ้ า(252282) วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ(ตอน 2) กสิ ณ ประกอบไวทยกิจ ห้องวิจยั การออกแบบวงจรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CANDLE) ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Download
Report
Transcript ความรู้พนื้ ฐานทางวิศวกรรมไฟฟ้ า(252282) วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ(ตอน 2) กสิ ณ ประกอบไวทยกิจ ห้องวิจยั การออกแบบวงจรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CANDLE) ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความรู้พนื้ ฐานทางวิศวกรรมไฟฟ้ า(252282)
วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ(ตอน 2)
กสิ ณ ประกอบไวทยกิจ
ห้องวิจยั การออกแบบวงจรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CANDLE)
ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วัตถุประสงค์
ทบทวนความเข้าใจเรื่ องไฟฟ้ ากระแสสลับ
เข้ า ใจการวิ เ คราะห์ ผ ลตอบสนองสถานะอยู่ ต ั ว แบบ
ไซนูซอยด์
ทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับจานวนเชิงซ้อน
เข้า ใจความสั ม พัน ธ์ ร ะหว่ า งแรงดัน และกระแสไฟฟ้ าใน
อุปกรณ์ต่าง ๆ
เข้าใจการหาค่าอิมพีแดนซ์ในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลับ
ทบทวนความเข้ าใจเรื่องไฟฟ้ ากระแสสลับ
- รู ปสั ญญาณไซนูซอยด์ นาหน้ า t = 0 หมายถึง รู ป
สั ญญาณไซนูซอยด์ เริ่ มต้ น ทางด้ านซ้ ายมือหรื อ เกิดก่ อน
เมื่อพิจารณา t = 0 เป็ น หลักดังรู ป
v(t) Vm sin(ωt )
i(t) Im sin(ωt )
ทบทวนความเข้ าใจเรื่องไฟฟ้ ากระแสสลับ
- รู ปสั ญญาณไซนูซอยด์ ล้าหนัง t = 0 หมายถึง รู ป
สั ญญาณไซนู ซอยด์ เริ่ ม ต้ น ทางด้ านขวามื อหรื อเกิดที่
หลัง เมื่อพิจารณา t = 0 เป็ น หลักดังรู ป
v(t) Vm sin(ωt )
i(t) Im sin(ωt )
ตัวอย่ าง
จากรู ป จงเขี ย นสมการชั่ ว ขณะของแรงดั น และกระแส
ไฟฟ้า เมื่อค่ าพีคเป็ น 10[V] และ 10[A]
v(t) 10sin(ωt 30) [V]
i(t ) 10sin(t 30 75) [A]
10sin(t 45) [A]
สั ญญาณแรงดันและกระแสแบบไซนูซอยด์
v(t) Vm cos(t )
i(t) Im cos(t )
สัญญาณแบบไซนูซอยด์เป็ นฟังก์ชนั รายคาบซึ่งมีคุณสมบัติ
x(t T) x(t)
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวต้ านทาน
รู ปคลื่น แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่ อ มตัว ต้ านทานและกระแสที่
ไหลผ่ านตัวต้ านทานจะ inphase กัน
v (t)
i (t)
R
ตัวอย่ าง
ถ้าแรงดันไฟฟ้ าตกคร่ อมตัวต้านทาน 2.2 k มีค่าเป็ น
v(t) 3.96cos(2000t 50) [V]
จงหาค่ า กระแสไฟฟ้ าที่ ไ หลผ่า นตัว ต้า นทานในรู ป ของสมการ
ชัว่ ขณะ
v (t)
i (t)
R
3.96 cos(2000t 50)
i (t)
1.8cos(2000t 50) [ mA]
3
2.2 10
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
กระแสไฟฟ้ าที่ไ หลผ่ า นตัว เก็บ ประจุ ไม่ ไ ด้ ขึ้น กับ แรงดัน
ไฟฟ้าที่ตกคร่ อมตัวเก็บประจุเพียงอย่ างเดียวเท่ านั้น แต่ จะ
ขึน้ อยู่กบั ความถีข่ องแรงดันไฟฟ้าด้ วย
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
รู ปคลื่ นกระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านตัวเก็บประจุไฟฟ้ าจะนาหน้า
แรงดันไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมตัวเก็บประจุไฟฟ้ าอยู่ 90 องศา ซึ่ งใน
กรณี ที่ vC(t) และ iC(t) ไม่ได้เริ่ มต้นที่ t = 0 จะสามารถเขียน
สมการได้เป็ น
vC (t) Vm cos(ωt )
iC (t) Im cos(ωt 90)
ตัวอย่ าง
ถ้าตัวเก็บประจุขนาด 0.25 F มีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่าน
i(t) 40cos(2 10 t 20) [mA]
4
จงหาค่าแรงดันไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมในรู ปของสมการชัว่ ขณะ
dv(t)
1
i (t) C
v(t) i(t) dt
dt
C
103
40 103
4
4
v(t)
40cos(2
10
t
20
)
d
t
sin(2
10
t 20)
6
6
4
0.25 10
0.25 10 2 10
v(t) 0.8sin(2 104 t 20) [mV]
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเหนี่ยวนา
กระแสไฟฟ้ าที่ ไหลผ่านตัวเหนี่ ยวนา ไม่ได้ข้ ึ น กับแรงดัน
ไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมตัวเหนี่ ยวนาเพียงอย่างเดี ยวเท่านั้น แต่จะ
ขึ้นอยูก่ บั ความถี่ของแรงดันไฟฟ้ าด้วย
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
รู ปคลื่ น แรงดั น ไฟฟ้ าที่ ต กคร่ อมตั ว เหนี่ ย วน าจะน าหน้ า
กระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านตัวเหนี่ยวนาอยู่ 90 องศา ซึ่ งในกรณี ที่
vC(t) และ iC(t) ไม่ได้เริ่ มต้นที่ t = 0 จะสามารถเขียนสมการ
ได้เป็ น
iL (t) Im cos(ωt )
vL (t) Vm cos(ωt 90)
ตัวอย่ าง
ถ้าตัวเหนี่ยวนาขนาด 8 mH มีแรงดันไฟฟ้ าตกคร่ อม
i(t) 40sin(2 10 t 20) [mA]
4
จงหาค่าแรงดันที่ตกคร่ อมตัวเหนี่ยวนาในรู ปของสมการชัว่ ขณะ
di (t)
v(t) L
dt
d 40 103 sin(2 104 t 20)
v(t) 8 10
8 103 40 103 2 104 cos(2 104 t 20)
dt
3
v(t) 6.4cos(2 104 t 20) [V]
เฟสเซอร์ แรงดันและกระแสไฟฟ้ า
การแปลงเฟสเซอร์ (Phasor Transformation) เป็ นการแปลง
ฟังก์ชนั ไซนูซอยด์ในอาณาจักรเวลา (Time Domain) ให้เป็ น
จานวนเชิงซ้อนในอาณาจักรความถี่ (Frequency Domain)
จากเอกลักษณ์ของออยเลอร์
e
j
cos j sin
เฟสเซอร์ แรงดันและกระแสไฟฟ้ า
การแปลงเฟสเซอร์จากอาณาจักรเวลา -> อาณาจักรความถี่
Re{Vm cos(t )} Vme
j
ในทางกลับกันเราสามารถแปลงกลับเฟสเซอร์จากอาณาจักร
ความถี่ -> อาณาจักรเวลา
Re1{Vme j } Vm cos(t )
เฟสเซอร์ แรงดันและกระแสไฟฟ้ า
ซึ่งสัญลักษณ์เฟสเซอร์จะเขียนอยูใ่ นรู ปอักษรอังกฤษตัวพิมพ์
ใหญ่แบบหนา
V Vme
j
และเราสามารถเขียนเฟสเซอร์ในรู ปเชิงขั้ว (Polar Form)
หรื อพิกดั ฉาก (Rectangular Form)ได้ตามลาดับดังนี้
V Vm หรื อ V Vm cos jVm sin
เฟสเซอร์ แรงดันและกระแสไฟฟ้ า
สรุ ปเราสามารถแปลงเขียนแรงดัน(v(t))หรื อกระแส(i(t))ในอาณาจักร
เวลาให้เป็ นแรงดันเฟสเซอร์และกระแสเฟสเซอร์ได้ดงั ต่อไปนี้
v(t) Vm cos(ωt )
i(t) Im cos(ωt )
v(t) Re{Vme j (t+ ) }
i(t) Re{Ime j (ωt+ ) }
V Vme j
I Ime j
V Vm
I Im
เฟสเซอร์ แรงดันและกระแสไฟฟ้ า
v(t) 170cos(377t 40)
i(t) 0.05cos(ωt)
v(t) 10 cos(10 t 130)
3
6
V 17040
I 0.050
V 10 130
3
จานวนเชิงซ้ อน
จานวนเชิงซ้อนสามารถเขียน
แทนด้วย a+jb โดยที่
a, b แทนจานวนจริ งใด ๆ
Rectangular Form <-> Polar Form
- Rectangular Form
- Polar Form
a jb
c
Rectangular Form <-> Polar Form
a jb
c
C a 2 b2
1 b
tan
a
Rectangular Form <-> Polar Form
c
a jb
a C cos
b C sin
จานวนเชิงซ้ อน
- การบวกการลบจานวนเชิงซ้อน
(a jb) (c jd ) (a c) j (b d )
- การคูณจานวนเชิงซ้อน
(a jb) (c jd ) ac jad jbc j bd
2
(ac bd ) j (ad dc)
a1b2 ab1 2
จานวนเชิงซ้ อน
- การคอนจูเกตจานวนเชิงซ้อน
A a jb
A c
A a jb
*
A c
*
- การหารจานวนเชิงซ้อน
a jb a jb c jd
c jd c jd c jd
c1
c
1 2
d 2 d
จานวนเชิงซ้ อน
- การยกกาลังจานวนเชิงซ้อน
A c m
m
m
- การถอดรากจานวนเชิงซ้อน
k
A k c / k
การบวกและลบรูปคลืน่ ด้ วยสมการเฟสเซอร์
เปลี่ยนรู ปคลื่นในรู ปของ Polar Form ให้อยูใ่ นรู ปของ Rectangular
Form แล้วจึงนามาบวกกัน จากนั้นแปลงกลับให้อยูใ่ นรู ปเดิม
ตัวอย่ าง
v1 (t ) 10sin(t ) 100 [V]
v2 (t ) 20sin(t 60) 2060 [V]
ตัวอย่ าง
เปลี่ยนรู ปคลื่นในรู ปของ Polar Form ให้อยูใ่ นรู ปของ Rectangular
Form จะได้
v1 10(cos 0 j sin 0) 10 j 0
v2 20(cos 60 j sin 60) 10 j17.32
เพราะฉะนั้นเราจะได้วา่
v1 v2 10 j 0 10 j17.32 20 j17.32
ตัวอย่ าง
เปลี่ยนรู ปคลื่นกลับทาให้เราได้
17.32
26.4640.9
20
26.46sin(t 40.9) [V]
v1 v2 202 17.322 tan 1
อิมพีแดนซ์ และแอดมิตแทนซ์
เราสามารถกฎของโอห์มได้กบั อิมพีแดนซ์(Impedance) และแอด
มิตแทนซ์(Admittance) สาหรับวงจรในอาณาจักรความถี่
V Vm v Vm
Z
(v i )
I
Im i
Im
อย่างไรก็ตามอิมพีแดนซ์
ไม่ใช่เฟสเซอร์ แต่เป็ น
เลขเชิงซ้อนที่เป็ นผลหาร
ระหว่างแรงดันเฟสเซอร์
และกระแสเฟสเซอร์
อิมพีแดนซ์ และแอดมิตแทนซ์
ดังนั้นเราสามารถเขียนอิมพีแดนซ์ในรู ปแบบเชิงขั้วได้เป็ น
Z Z
และในพิกดั ฉากได้เป็ น
Z R jX
โดย
R
X
คือความต้านทาน (Resistance)
คือรี แอกแทนซ์ (Reactance)
อิมพีแดนซ์ และแอดมิตแทนซ์
ส่ วนกลับของอิมพีแดนซ์คือแอดมิตแทนซ์ (S) โดยมีสญ
ั ลักษณ์
เป็ น
1
Y
Z
และสามารถเขียนในรู ปพิกดั เชิงมุม และพิกดั ฉาก ได้ตามสมการ
โดย
Y Y
G
B
Y G jB
คือความนา (Conductance)
คือซัสเซปแทนซ์ (Susceptance)
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวต้ านทาน
รู ปคลื่น แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่ อ มตัว ต้ านทานและกระแสที่
ไหลผ่ านตัวต้ านทานจะ inphase กัน
v(t)
i (t)
R
V RI
อิมพีแดนซ์ และแอดมิตแทนซ์
สาหรับอิมพีแดนซ์ของตัวต้านทานเราสามารถสรุ ปได้วา่
R R0 R j 0
ตัวอย่ าง
ถ้าแรงดันไฟฟ้ าตกคร่ อมตัวต้านทาน 2.2 k มีค่าเป็ น
v(t) 3.96cos(2000t 50) [V]
(ก) จงหาค่ากระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านตัวต้านทานในรู ปของ
สมการชัว่ ขณะโดยใช้สมการเฟสเซอร์ของ V และ R
(ข) จงเขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมของกระแสและแรงดันไฟฟ้ า
V 3.9650 [V]
R=2.2 10 0 []
3
ตัวอย่ าง
V
3.9650 [V]
-3
I
1.8
10
50 [A]
3
R 2.2 10 0 []
เพราะฉะนั้นสมการชัว่ ขณะคือ
i(t) 1.8cos(2000t 50) [mA]
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
กระแสไฟฟ้ าที่ ไหลผ่านตัวเก็บประจุ ไม่ ได้ข้ ึ นกับแรงดัน
ไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมตัวเก็บประจุเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะ
ขึ้นอยูก่ บั ความถี่ของแรงดันไฟฟ้ าด้วย
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
ดังนั้นเราจะได้ ว่า
1
V
I
jωC
รู ปคลื่นกระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านตัวเก็บประจุไฟฟ้ าจะนาหน้า
แรงดันไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมตัวเก็บประจุไฟฟ้ าอยู่ 90 องศา
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
ซึ่งในกรณี ที่ vC(t) และ iC(t) ไม่ได้เริ่ มต้นที่ t = 0 จะสามารถ
เขียนสมการได้เป็ น
vC (t) Vm cos(ωt )
iC (t) Im cos(ωt 90)
อิมพีแดนซ์ และแอดมิตแทนซ์
สาหรับอิมพีแดนซ์ของตัวเก็บประจุเราสามารถสรุ ปได้วา่
V
1
ZC
I
jωC
ถ้า
1
XC
ωC
1
1
ZC 0 j
90
ωC ωC
ตัวอย่ าง
ถ้าตัวเก็บประจุขนาด 0.25 F มีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่าน
i(t) 40cos(2 10 t 20) [mA]
4
(ก) จงหาค่าแรงดันไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมในรู ปของสมการชัว่ ขณะ
(ข) จงเขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมของกระแสและแรงดันไฟฟ้ า
1
1
j 200 [] 200 90 []
4
6
jωC j (2 10 )(0.25 10 )
I 4020 [mA]
ตัวอย่ าง
1
V
I (200 90 [])(4020 [mA]) 8 70 [V]
jωC
เพราะฉะนั้นสมการชัว่ ขณะคือ
v(t) 8cos(2 10 t 70) [V]
4
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเหนี่ยวนา
กระแสไฟฟ้ าที่ ไหลผ่านตัวเหนี่ ยวนา ไม่ได้ข้ ึ น กับแรงดัน
ไฟฟ้ าที่ตกคร่ อมตัวเหนี่ ยวนาเพียงอย่างเดี ยวเท่านั้น แต่จะ
ขึ้นอยูก่ บั ความถี่ของแรงดันไฟฟ้ าด้วย
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
ดังนั้นเราจะได้วา่
V jωLI
รู ป คลื่ น แรงดัน ไฟฟ้ าที่ ต กคร่ อ มตัว เหนี่ ย วน าจะน าหน้ า
กระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านตัวเหนี่ยวนาอยู่ 90 องศา
ความสั มพันธ์ ระหว่ างค่ าต่ าง ๆ ในตัวเก็บประจุ
ซึ่งในกรณี ที่ vC(t) และ iC(t) ไม่ได้เริ่ มต้นที่ t = 0 จะสามารถ
เขียนสมการได้เป็ น
iL (t) Im cos(ωt )
vL (t) Vm cos(ωt 90)
อิมพีแดนซ์ และแอดมิตแทนซ์
สาหรับอิมพีแดนซ์ของตัวเหนี่ยวนาเราสามารถสรุ ปได้วา่
V
ZL jωL
I
ถ้า
XL ωL
ZL jωL ωL 90
ตัวอย่ าง
ถ้าตัวเหนี่ยวนาขนาด 8 mH มีแรงดันไฟฟ้ าตกคร่ อม
v(t) 18cos(2 10 t 40) [V]
6
(ก) จงหาค่ากระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านในรู ปของสมการชัว่ ขณะ
(ข) จงเขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมของกระแสและแรงดันไฟฟ้ า
jωL j (2 106 )(8 103 ) j50.26 [k ] 50.2690 [k ]
V 1840 [V]
ตัวอย่ าง
V
1840 [V]
I
0.358 50 [mA]
3
jωL 50.26 10 90 []
เพราะฉะนั้นสมการชัว่ ขณะคือ
i(t) 0.358cos(2 106 t 50) [mA]
การต่ ออิมพีแดนซ์ แบบอนุกรม
V
Zeq Z1 Z2
I
ZN
อิมพีแดนซ์เป็ นเลขเชิงซ้อนเมื่อนามาบวกกัน จึง
ต้องทาในรู ป Rectangular Form
การต่ ออิมพีแดนซ์ แบบขนาน
1
I
1
1
Zeq V Z1 Z2
1
ZN
หรื อ
Yeq Y1 Y2
YN
ตัวอย่ าง
ZT (R j0) (0 jωL) R jXL
Polar Form
ZT R ( L)
2
tan
1
L
R
2
ตัวอย่ าง
เมื่อนาเอา ZT มาเขียนในเฟสเซอร์ไดอะแกรมเราจะได้
ดังรู ป
ตัวอย่ าง
จากวงจรดังรู ป จงหา Zin ถ้าวงจรนี้ทางานที่ 50 [rad/s]
1
1
Z1
j10 []
jωC j50 2 103
Z2 3
1
1
3
3 j 2 []
3
jωC
j50 10 10
Z3 8 jωL 8 j50 0.2 8 j10 []
ตัวอย่ าง
เพราะฉะนั้นจะได้ Zin
(3 j 2)(8 j10)
Zin Z1 (Z2 Z3 ) j10
11 j8
(44 j14)(11 j8)
j10
j10 3.22 j1.07 []
2
2
11 8
3.22 j11.07 []
ตัวอย่ าง
VR
VL
จากรู ป
(ก) จงหาค่ากระแสไฟฟ้ าในวงจร I
(ข) จงหาค่าแรงดันไฟฟ้ า V และ V
(ค) จงใช้กฎของเคิร์ชฮอฟฟ์ พิสูจน์วา่
T
R
L
Vs VR VL
ตัวอย่ าง
VR
VL
หาค่า ZT และ I
T
ZT R jX L 200 j100 []
100
200 100 tan
223.6126.56 []
200
2
2
1
ตัวอย่ าง
Vs
300
IT
0.134 26.56 [A]
ZT 223.6126.56
จากกฎของโอห์ม
VR I T R (0.134 26.56 [A])(2000 [])
26.8 26.56 [V]
VL I T jX L (0.134 26.56 [A])(10090 [])
13.463.44 [V]
ตัวอย่ าง
จาก
Vs 300 [V] 30 j0 [V]
VR 26.8 26.56 [V] 23.97 j11.98[V]
VL 13.463.44 [V] 5.99 j11.98[V]
เพราะฉะนั้นเราจะได้วา่
VR VL 23.97 j11.98 5.99 j11.98 29.96 j0[V] Vs