ยาฆ่าเชื้อ • Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven) • Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ.

Download Report

Transcript ยาฆ่าเชื้อ • Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven) • Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ.

Slide 1

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 2

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 3

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 4

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 5

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 6

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 7

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 8

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 9

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 10

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 11

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 12

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 13

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 14

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 15

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 16

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 17

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 18

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 19

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 20

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 21

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 22

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 23

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 24

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 25

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 26

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 27

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 28

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 29

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 30

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 31

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 32

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 33

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 34

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 35

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 36

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 37

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 38

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 39

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 40

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 41

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 42

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 43

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 44

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 45

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 46

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 47

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 48

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 49

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 50

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 51

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ


Slide 52

ยาฆ่าเชื้อ

1

• Sterilization (การทาให้ ปราศจากเชื้อ) คือ การทาลายจุลชีพทุกชนิด
รวมทั้งสปอร์ ให้ หมดสิ้นไป เช่ น การต้ มนึ่ง การอบแห้ ง (hot air oven)
• Disinfection (การทาลายการติดเชื้อ) คือ การลด หรือการกาจัด
จุลชีพ ทั้งทาให้ เกิดโรค และ ทีไ่ ม่ ทาให้ เกิดโรค
การทาลายการติดเชื้อ
Disinfection

Sterilization
ต้ ม นึ่ง

อบแห้ ง

ความร้ อน แสง Antiseptic
ยาฆ่าเชื้อ

Disinfectant
2

ปัจจัยทางฟิ สิ กส์ ทสี่ ามารถทาลายเชื้อได้ คอื
ความร้ อน แบ่ งได้ เป็ นความร้ อนแห้ ง(dry heat) และความร้ อนเปี ยก (moist heat)
moist heat ใช้ ได้ ผลดีในการแทรกเข้ าภายในสารอินทรีย์ทสี่ ารเคมีเข้ าไปไม่ ถึง โดย
ทาให้ โปรตีนของเชื้อโรคแข็งตัว ส่ วน dry heat นั้นต้ องใช้ ความร้ อนสู งกว่ าและนาน
กว่ า
แสงที่สามารถใช้ ฆ่าเชื้อโรคได้ คอื แสง ultraviolet ซึ่งมีความยาวคลืน่ 2540-2800
angstorm สามารถใช้ ฆ่าแบคทีเรียกรัมลบ และแบคทีเรียที่ไม่ มีสปอร์

แต่ ใช้ ได้ ผลไม่ ดตี ่ อ Staphylococcus, Streptococcus และ virus
แสง UV ไม่ มอี านาจทะลุทะลวงผ่ านกระจกได้
ยาฆ่าเชื้อ

3

Antiseptics (ยาฆ่ าเชื้อ/ ยาระงับเชื้อ)
• คือ สารเคมีทที่ าลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพที่ทาให้
เกิดโรค (มีความจาเพาะต่ อชนิดของเชื้อ)
• ใช้ กบั ผิวหนังหรือเยื่อเมือกของสิ่ งมีชีวติ และใช้ กบั “ภายนอก” ร่ างกาย
โดยไม่ ทาอันตรายต่ อเนือ้ เยื่อบริเวณนั้น

Disinfectant (ยาทาให้ ปราศจากเชื้อ / ยาล้ างเชื้อ)
• คือสารเคมีทใี่ ช้ ฆ่าหรือทาลายจุลชีพและใช้ กบั สิ่ งไม่ มีชีวติ (การออก
ฤทธิ์ไม่ มีความจาเพาะต่ อเชื้อ)
• ใช้ กบั พืน้ ห้ อง เครื่องมือ เครื่องใช้ พืน้ ห้ อง เป็ นต้ น
ยาฆ่าเชื้อ

4

การใช้ยา antiseptic หรื อ disinfectant จะได้ผลหรื อไม่ ขึ้นอยูก่ บั







1. ความเข้ มข้ นของยา
2. ระยะเวลายาวนานที่ใช้ ยา
3. อุณหภูมิของยาซึ่งจะทาให้ ฤทธิ์ยาเพิม่ ขึน้
4. ความไวของแบคทีเรียต่ อยา
5. จานวนแบคทีเรียทีม่ ี
6. คุณสมบัติของ media บริเวณทีม่ ีเชื้อโรค เช่ น เป็ นโปรตีน กรด/
ด่ าง อินทรียสาร
ยาฆ่าเชื้อ

5

วิธีปฏิบัตใิ นการใช้ antiseptic และ disinfectant
1. ทาความสะอาดเอาสิ่ งสกปรกทีป่ กคลุมเชื้อออก เพือ่ ไม่ ให้ มีผลต่ อ
ประสิ ทธิภาพของยา โดยใช้ detergent

2. ล้างบริเวณนั้นด้ วยแอลกอฮอล์ อีเทอร์ หรือ gasoline ขาว เพือ่ เอา
นา้ มันตามผิวหนังและสิ่ งอืน่ ทีอ่ าจป้องกันไม่ ให้ ยาสัมผัสกับแบคทีเรีย
โดยตรง

ยาฆ่าเชื้อ

6

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ





1. มีฤทธิ์ทาลายจุลชีพได้ ทุกชนิด
2. ออกฤทธิ์ได้ รวดเร็วและมีฤทธิ์อยู่นาน
3. ละลายนา้ ได้ ง่ายและมีความคงตัวสู ง
4. ฤทธิ์ไม่ เสี ยไปเมื่อถูกกับสบู่ หรือ สารอินทรีย์ เช่ น เลือด หนอง
ฯลฯ
• 5. ไม่ เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย และไม่ ขัดขวางกลไกใน
การหายของแผล
ยาฆ่าเชื้อ

7

คุณสมบัตขิ อง Antiseptics และ Disinfectant ในอุดมคติ (ต่ อ)
• 6. ถูกดูดซึมเข้ ากระแสเลือดได้ น้อย และไม่ ก่อให้ เกิดการแพ้
• 7. สามารถแทรกซึมเข้ าไปในสิ่ งของที่ต้องการ ทาให้ ปราศจากเชื้อได้
ดี และไม่ มีฤทธิ์กดั กร่ อนต่ อวัตถุทใี่ ช้
• 8. ไม่ มีสี และกลิน่ อันไม่ พงึ ประสงค์
• 9. ราคาถูก

ยาฆ่าเชื้อ

8

ส่ วนผสมของยาฆ่ าเชื้อทีถ่ ูกระบุว่าเป็ น disinfectant ก็ต้อง
ฆ่ าเชื้อในสิ่ งไม่ มีชีวติ เท่ านั้น เพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองต่ อ
เนือ้ เยือ่ ปกติ
การทาลายไวรัสจึงหมายถึงทาลายไวรัสทีป่ นเปื้ อนใน
สิ่ งแวดล้อมนอกร่ างกายสั ตว์ เท่ านั้น

ยาฆ่าเชื้อ

9

ความไวของเชื้อโรคต่อยาฆ่าเชื้อ
มาก

ความไว

เชือ้ โรค
retroviruses, ortho-paramyxoviruses, herpesviruses, coronaviruses

1

Other enveloped viruses;
gram-negative rods and some filamentous fungi; some gram-positive rod

น้ อย

2

Staphylococcus aureus , some diphasic and filamentous fungi, yeasts
and algae, some gram negative rods, hepatitis B

3

adenoviruses

4

Mycobacterium tuberculosis, rotaviruses, reoviruses, some mold
ascospores

5

picornaviruses, parvoviruses, hepatitis A

6

bacterial endospores; viroids

7

prion

ที่มา: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

10

• ชนิดของยาฆ่ าเชื้อและยาล้างเชื้อ แบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมี ได้ แก่

1. Alcohols
2. Aldehydes
3. Halogens
4. Heavy metals
5. Oxidizing agents
6. Phenols

7. Surface active agents
8. Acids
9. Nitrofurazone
10. Ethylene oxide
11. Miscellaneous

ยาฆ่าเชื้อ

11

กลไกการออกฤทธิ์ของยาฆ่าเชื้อและยาล้างเชื้อ
กลไก

ชนิดยาฆ่ าเชือ้

ทาให้โครงสร้ างโปรตีนและไขมันเสื่อมสภาพ
สร้ างหรื อทาลายแรงยึดเหนี่ยว
เพิ่มขัว้ บวกของ C S N (เป็ น oxidant)

quarternary ammonium compound, chlohexidine
phenolics, acids, bases, alcohols
aldehydes, enzymes
halogens, H2O2, ozone

ทีม่ า: Prince et al., 1991

ยาฆ่าเชื้อ

12

ALCOHOL
Alcohol ที่ใช้ มากมี 2 ชนิด คือ Ethanol และ Isopropanol

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยละลายไขมันทีอ่ ยู่ในเยือ่ หุ้มเซลล์ และทาให้ โปรตีนของ
จุลชีพตกตะกอน
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา และไวรัสบางชนิด แต่ ไม่ มีผลต่ อสปอร์
ยาฆ่าเชื้อ

13

Ethanol
• นิยมใช้ มากทีส่ ุ ด สามารถใช้ ได้ ทคี่ วามเข้ มข้ น 60-95%
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 70% (โดยนา้ หนัก) จะออกฤทธิ์ได้ เร็วทีส่ ุ ด
สามารถฆ่ าเชื้อได้ ดที สี่ ุ ด มีผลต่ อเชื้อทุกชนิด ยกเว้ น สปอร์ ออก
ฤทธิ์ในเวลา 1-2 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์
– ทาให้ ผวิ แห้ งและตกสะเก็ดเนื่องจากไขมันทีผ่ วิ หนังถูกทาลาย และการ
ทีโ่ ปรตีนถูกทาลายจะกลายเป็ นอาหารของเชื้อได้ ดี
– ห้ ามใช้ กบั แผลสดหรือแผลติดเชื้อที่เปิ ด เพราะทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

14

Ethanol (ต่ อ)
ประโยชน์
• ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อและยาล้ างเชื้อ เช่ น ทาความสะอาดที่ผวิ หนัง ใช้
แช่ เครื่องมือภายในเวลา 5 นาที
• ใช้ ผสมกับ 20% formalin จะฆ่ าสปอร์ ได้ ในเวลา 30 นาที
• ไม่ ใช้ แช่ เครื่ องมือ เพราะทาให้ เป็ นสนิม แต่ ถ้าเติม 0.2% โซเดียม
ไนไตรท์ จะช่ วยป้องกันไม่ ให้ โลหะเป็ นสนิมได้
• ออกฤทธิ์ synergism เมื่อใช้ ร่วมกับdisinfectant อืน่ เช่ น I, KI
ยาฆ่าเชื้อ

15

ALDEHYDE

ทีใ่ ช้ ในปัจจุบัน คือ Formaldehyde และ Glutaraldehyde

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยทาให้ โปรตีนตกตะกอนด้ วยวิธี alkylation
• ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัมบวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค
เชื้อรา ไวรัส และมีผลช้ าๆ ต่ อสปอร์ และเชื้อชนิด acid fast

ยาฆ่าเชื้อ

16

FORMALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Formalin (Formaldehyde 37%)
• ยาทาปฏิกริยากับโปรตีนในเนือ้ เยือ่ ทาให้ ประสิ ทธิภาพลดลง
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ คือ เป็ นอันตรายต่ อผิวหนัง และไอ
ระเหยทาให้ ระคายเคืองเยือ่ บุจมูกและนัยน์ ตา
• ใช้ อบห้ อง อบตู้ฟักไข่
• เก็บในภาชนะปิ ดสนิท สี ชา และเก็บทีอ่ ุณหภูมิ > 15 C
ยาฆ่าเชื้อ

17

GLUTARALDEHYDE
• มีขายในท้ องตลาด ชื่อ Cidex (Glutaraldehyde 2% ใน
สารละลายทีเ่ ป็ นเบสผสมกับ 70% Isopropanol)
• ใช้ ฆ่าเชื้อทุกชนิดได้ ผลดีกว่ า formaldehyde ระเหยเป็ นไอ
น้ อยกว่ า รวมทั้ง กลิน่ ไอ มีความระคายเคืองน้ อยกว่ า
• สารละลายนีจ้ ะคงตัวในสภาวะที่เป็ นกรด
• การใช้ ยาฆ่ าเชื้อนีแ้ ช่ เครื่องมือจะไม่ มีผลกัดกร่ อนโลหะ ไม่ ว่า
จะอยู่ในสภาวะกรดหรือเบส
ยาฆ่าเชื้อ

18

HALOGENS

Halogens ที่ใช้ มาก คือ Iodine, chlorine และ อนุพนั ธ์ ของสารทั้งสอง

กลไกการออกฤทธิ์
• โดยการ ออกซิไดซ์ sulfhyhydryl (-SH) group ให้
กลายเป็ น S-S group ทาให้ โปรตีนถูกทาลายและ
ตกตะกอน

ยาฆ่าเชื้อ

19

IODINES

• เมื่อละลายนา้ จะปล่ อยไอโอดีนอิสระ ทาลายเชื้อแบคทีเรียทั้งกรัม
บวกและกรัมลบ รวมทั้งเชื้อวัณโรค เชื้อรา และไวรัส
• ทิงเจอร์ ไอโอดีน 2% ใช้ ทาแผลสด หรือ สารละลายลูกอลไอโอดีน
ใช้ ล้างมดลูกในกรณีทเี่ ป็ นหนอง
• ขนาด 1 : 20000 สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียได้ ภายใน 1 นาที และ
ฆ่ าสปอร์ ได้ ภายใน 15 นาที
• อาการไม่ พงึ ประสงค์ และอาการพิษ
– อาการระคายเคืองผิวหนัง ทาให้ เป็ นผืน่ บวม แดง ปวดแสบปวดร้ อน
ไม่ ควรใช้ กบั บาดแผลใหญ่ ไม่ ควรใช้ สาลีชุบทิงเจอร์ ไอโอดีนปิ ดแผล
เพราะทาให้ เนือ้ เยือ่ บริเวณนัยาฆ่
้ นตาย
าเชื้อ
20

IODOPHORES
• เป็ นสารประกอบเชิงซ้ อนของไอโอดีนกับโมเลกุลทีเ่ ป็ น carrier
• ชนิดทีร่ ู้ จกั กันดี คือ Povidone-Iodine (Betadine®, Isodine®)
• ประกอบด้ วย Iodine + Polyvinylpyrolidone ซึ่งเมื่อละลายนา้ จะ
ปล่ อยไอโอดีนอิสระออกมาอย่ างช้ าๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 10% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ
• ไม่ ระคายเคืองผิวหนัง และไม่ เปื้ อนเสื้อผ้ า และไม่ ค่อยทาให้ เกิด
การแพ้
ยาฆ่าเชื้อ

21

สารจาพวกคลอรีน
• คลอรีนเป็ นก๊ าซ แต่ มีพษิ มาก จึงใช้ ละลายนา้ ทาให้ เกิดกรดไฮโปร
คลอรัส (HOCl) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย โปรโตซัว และไวรัส
รวมทั้งมีฤทธิ์กดั สี ด้วย
• ส่ วนใหญ่ ใช้ ฆ่าเชื้อในนา้ ประปา และในสระว่ ายนา้ ในขนาด
เข้ มข้ น 1-3 ppm และใช้ ตามคอกโค โรงรีดนม รวมทั้งเช็ดเต้ านม
• ข้ อเสี ยคือคลอรีนทาปฏิกริยากับสารอินทรีย์ได้ เร็ว ทาให้ สูญเสี ย
ฤทธิ์ในการฆ่ าเชื้อได้ ง่าย
ยาฆ่าเชื้อ

22

SODIUM HYPOCHLORITE (NaOCl)
• รู้ จกั ทัว่ ไปใช้ เป็ นนา้ ยาซักผ้ าขาว “ไฮเตอร์ ”
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรีย สปอร์ เชื้อรา โปรโตซัว และไวรัส
โดยเฉพาะชนิดทีม่ ีไขมันเป็ นส่ วนประกอบของเปลือกหุ้ม เช่ น
เชื้อไวรัสไข้ หวัดนก
• ถ้ าอยู่ในสถานะของเหลวใช้ 2-3% แต่ ถ้าเป็ นผงใช้ 2-3 กรัมต่ อลิตร
• อาการเป็ นพิษคือปวดแสบปวดร้ อนบริเวณที่สัมผัส
ยาฆ่าเชื้อ

23

HEAVY METALS
ใช้ ในรู ปเกลือ เช่ น เกลือปรอท และเกลือเงิน

กลไกการออกฤทธิ์
• ทาให้ โปรตีนของจุลชีพตกตะกอนและยับยั้งการทางานของ
sulfhydryl group
• สามารถยับยั้งการทางานของเอนไซม์ ของแบคทีเรีย และ ของ
เนือ้ เยือ่
ยาฆ่าเชื้อ

24

เกลือปรอท
• เกลืออนินทรีย์เป็ นพิษมาก ทีย่ งั คงใช้ อยู่คอื ammonium mercury
ointment ซึ่งใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อแผลพุพอง
• ส่ วนเกลืออินทรีย์จะมีพษิ น้ อยกว่ า เช่ น MerthiolateR (thimerosal)
ซึ่งมีขายในรู ปทิงเจอร์ เมอไธโอเลท ใช้ ทาความสะอาดผิวหนังก่ อน
ผ่ าตัด และ ยาแดง (Mercurochrome)
• ใช้ ใส่ แผลสด แต่ ไม่ ควรให้ กบั แผลไฟไหม้ และแผลเรื้อรัง และ
ไม่ ควรใช้ ติดต่ อกันเป็ นเวลานาน
• สามารถฆ่ าเชื้อแบคทีเรียและเชื
ยาฆ่้อารา
เชื้อ
25

เกลือเงิน
• เกลืออนินทรีย์ที่ไม่ ระคายเคืองต่ อผิวหนังและยังคงใช้ กนั มากคือ
silver nitrate
• ที่ความเข้ มข้ น 0.1 % สามารถทาลายเชื้อเกือบทุกชนิด ส่ วนนา้ ยา
เข้ มข้ น 1% ใช้ หยอดตาทารกแรกเกิด เพือ่ ป้ องกันการติดเชื้อหนอง
ในทีเ่ ยือ่ บุลูกตา นอกจากนีค้ วามเข้ มข้ น 0.5% ใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ของบาดแผลไฟลวก ชนิดเป็ นแท่ งใช้ จแี้ ผลและกาจัดหูด
• อาการพิษอาจเกิดจากแบคทีเรียในแผลเปลีย่ นจากเกลือ ไนไตรท์ ให้
เป็ นเกลือไนเตรด ทาให้ เกิด methemoglobin เกิดเป็ นสี เทาถาวร
ยาฆ่าเชื้อ

26

OXIDIZING AGENTS
ใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ เหมาะกับจุลชีพ anaerobic หรือ
facultative anaerobic microorganism
เป็ นกลุ่มทีน่ ิยมใช้ อยู่ทวั่ ไป เช่ น
• ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์
• ด่ างทับทิม
• ฟี นอล
ได้ จากนา้ มันดินจากถ่ านหินและไม้
• ครีซอล
ยาฆ่าเชื้อ
27

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• ที่ความเข้ มข้ น 3% เมื่อสั มผัสกับเอนไซม์ catalase ในเนือ้ เยือ่ และ
เลือด จะทาให้ เกิดแตกตัวเป็ นนา้ และออกซิเจน
• H2O2 ทาลายแบคทีเรีย เนื่องจาก free radical จะมีผลต่ อไขมันที่
เยือ่ หุ้มเซลล์ และทีอ่ งค์ ประกอบอืน่ ของเซลล์
• ใช้ ล้างแผลทีเ่ ป็ นแอ่ งตืน้ ทาให้ เนือ้ เยือ่ ทีต่ ายหลุดออกมาได้
ไม่ เหมาะกับแผลทีเ่ ป็ นโพรงลึกและไม่ มที างเปิ ดสู่ ภายนอก
ยาฆ่าเชื้อ

28

HYDROGEN PEROXIDE (H2O2)
• นา้ ยานีไ้ ม่ คงตัว H2O2 จะเกิดปฏิกริยา oxidation ทาให้ ออกซิเจนถูก
ปล่ อยออกมาช้ าๆ มีผลให้ ประสิ ทธิภาพลดลง จึงต้ องเก็บในภาชนะปิ ด
สนิท ป้องกันแสง อุณหภูมิ 15-30 C
• ประสิ ทธิภาพในการออกฤทธิ์ยงั คงมีอยู่ตราบเท่ าทีม่ ีออกซิเจนทาให้
เกิดเป็ นฟอง
• ฤทธิ์จะเสื่ อมอย่ างรวดเร็วเมื่อมีสารอินทรีย์ หรือ ความร้ อน
ยาฆ่าเชื้อ

29

POTASSIUM PERMANGANATE (KMnO4)
• ออกฤทธิ์เป็ น oxidizing agent เช่ นกัน แต่ ไม่ ให้ ก๊าซออกซิเจนฤทธิ์
antiseptic หมดอย่ างรวดเร็วเมื่อสั มผัสกับเนือ้ เยือ่ ซึ่ งจะเห็นว่ า
นา้ ยาเปลีย่ นเป็ นสี นา้ ตาล
• ความเข้ มข้ นที่ใช้ คอื 1: 10000 ฆ่ าแบคทีเรียภายใน 1 ชม.
• ความเข้ มข้ น 1: 5000 จะระคายเคืองต่ อเนือ้ เยือ่

ยาฆ่าเชื้อ

30

PHENOLS
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อชนิดแรกทีใ่ ช้ ในวงการแพทย์
• ที่ความเข้ มข้ น 1-2% สามารถทาลายเชื้อได้ หลายชนิด สามารถซึม
ผ่ านผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ได้ ดี แต่ ทาให้ ผวิ หนังระคายเคืองได้ ง่าย
• ปัจจุบันเลิกใช้ เป็ นยาฆ่ าเชื้อ แต่ ใช้ ล้างเชื้อเท่ านั้น
– ที่ความเข้ มข้ น 1% ใช้ เป็ นยาล้างเชื้อ ทาความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 2% ใช้ เช็ดถูพนื้ โรงพยาบาล
– ทีค่ วามเข้ มข้ น 5% ใช้ ทาลายเชื้อในสิ่ งคัดหลัง่ ต่ างๆ (นอกตัว) ของ
ผู้ป่วย
าเชื้อ ์ เมื่อถูกอินทรี ยวัตถุ ข้ อเสี ย31
• ข้ อดีคอื ออกฤทธิ์ทนั ที ไม่ เสื่ อยาฆ่
มฤทธิ
คือ

CRESOLS
• ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น
• ออกฤทธิ์คล้ าย Phenol แต่ ดกี ว่ าและถูกกว่ า มีกลิน่ แรงคล้ ายกัน
• เป็ นส่ วนผสมระหว่ าง isomer ของอนุพนั ธ์ ของ Phenol 3 ชนิด ทา
ให้ เพิม่ ประสิ ทธิภาพในการฆ่ าเชื้อ ในขณะทีค่ วามเป็ นพิษลดลง
• ใช้ ผสมกับสบู่ ได้ สารละลายใหม่ เรียก Lysol ราคาถูก ใช้ ฆ่าเชื้อได้
หลายชนิด แต่ ไม่ ทาลายสปอร์ มักใช้ ในโรงพยาบาล
ยาฆ่าเชื้อ

32

HEXACHLOROPHENE
เช่ น CHLORHEXIDINE, CHLOROXYLENOL (Dettol)
• คือ xylenol ที่มี Cl เป็ นส่ วนประกอบ เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่ใช้ อย่ าง
แพร่ หลายในโรงพยาบาล มีพษิ น้ อย
• ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกมากกว่ ากรัมลบ โดยเฉพาะ
Staphylococcus aureus และไม่ ค่อยมีผลต่ อไวรัส หรือ สปอร์
• พบว่ าอาจเป็ นสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาล
• ใช้ ผสมกับสบู่ฟอกมือก่ อนผ่ าตัด หรือใช้ ป้องกันการติดเชื้อ
ยาฆ่าเชื้อ

33

DYES
• ชนิดทีร่ ้ ู จักกันดี คือ Acriflavin (ยาเหลือง)
และ Gentian violet (ยาม่ วง)

ยาฆ่าเชื้อ

34

ยาเหลือง (Acriflavin)
• ออกฤทธิ์ยบั ยั้งเชื้อกรัมบวกทีท่ าให้ เกิดหนอง และจะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูก
เลือดและหนอง
• เหมาะจะใช้ ทาแผลเรื้อรัง

ยาม่วง (Gentian violet)
• มีฤทธิ์ยบั ยั้งการเจริญของเชื้อรา ยีสต์ และ Dermatophytes เช่ น เชื้อ
Candida และมีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus แต่ ไม่ มีผล
ต่ อสปอร์
• ฤทธิ์ลดลงเมื่อมีนา้ เหลือง
ยาฆ่าเชื้อ

35

Brilliant Green
• เป็ นผลึกสี ทอง นา้ ยาทีเ่ ป็ นนา้ และเป็ นด่ างมีสีเขียว แต่ เมื่อออกฤทธิ์ฆ่า
เชื้อแล้วจะเปลีย่ นเป็ นกรดเกลือได้ สีเหลืองแดง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อกรัมบวก esp. Staphylococcus และเป็ น bacteriostatic
ต่ อ E.coli
• Brilliant Green + Gentian Violet ใช้ เป็ นยาป้ าย หรือใช้ ทาภายนอก ใช้
ใส่ แผลที่ติดเชื้อ หรือไฟไหม้

ยาฆ่าเชื้อ

36

SURFACE-ACTIVE AGENTS
สารทีอ่ ยู่เป็ นหนึ่งในกลุ่มนีแ้ ละรู้จักกันดีคอื detergent หรือ ผงซักฟอก
มีคุณสมบัติคอื
• ทาให้ เปี ยก โดยลดความตึงผิว ทาให้ เกิดการสั มผัสระหว่ างนา้ ยาและ
พืน้ ผิวสิ่ งของ
• ทาให้ กระจาย
• ทาให้ แทรกซึม
• ทาให้ เป็ นฟอง แต่ มีบางชนิดไม่ ทาให้ เกิดฟองแต่ ใช้ เป็ นตัวชาระล้าง
โดยใช้ ปลายหนึ่งซี่งเป็ นไฮโดรคาร์ บอนจับกับไขมัน และรวมตัวเป็ น
วงกลม อีปลายหนึ่งเกาะกับนยาฆ่
า้ อยูา่เชืด้า้อนนอก ทาให้ ดึงส่ วนไขมันที่ 37

SURFACE-ACTIVE AGENTS

Anionic
• สบู่
• เป็ น emulsifier ที่ดี ทาให้
เชื้อแบคทีเรียหลุดออกมา
พร้ อมกับไขมันและสิ่ ง
สกปรก

Cationic (ดีกว่ าAnionic)
• Quaternary ammonium
compound
• ออกฤทธิ์ในสภาพเบส (ตรง
ข้ ามกับ Anionic) มีผลฆ่ า
แบคทีเรีย esp. กรัมบวก

Emulsify = การสลายไขมัน เป็ นการแยกไขมันและนา้ เป็ นอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งจะถูก
ยาฆ่าเชื้อ
38
แขวนลอยในสารละลาย

Quaternary Ammonium compound
• เป็ นยาฆ่ าเชื้อที่มีกลิน่ หอม ทาให้ น่าใช้
• ความเข้ มข้ น 0.1% มีฤทธิ์ลดแบคทีเรียที่ผวิ หนังน้ อยกว่ า Ethanol
70%
• เมื่อใช้ กบั บาดแผลจะอยู่ในลักษณะเป็ นแผ่ นบางๆ คลุมผิวหนังไว้
ในขณะทีย่ งั มีแบคทีเรียเหลืออยู่ และอาจก่ อให้ เกิดการระบาดได้
• การใช้ ยานีต้ ้ องระวังในเรื่องประสิ ทธิภาพเกีย่ วกับแบคทีเรียกรัมลบ
และฤทธิ์ของยาลดลงเมื่อรวมกับสบู่
ยาฆ่าเชื้อ

39

ACIDS






กรดอนินทรีย์
ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
กรดเกลือ กรดกามะถัน
เป็ นอันตรายต่ อเนือ้ เยือ่
ใช้ เป็ น disinfectant เท่ านั้น

กรดอินทรีย์
• ออกฤทธิ์ในสภาพ pH กรด
• ละลายไขมันได้ สามารถซึม
ผ่ านเข้ าเซลล์ แบคทีเรีย ทาให้
เยือ่ หุ้มเซลล์ ขาด
• ให้ ผลดีกว่ ากรดอนินทรีย์

Acetic
acid,
Benzoic
acid
ยาฆ่าเชื้อ
40

ACETIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 1% มีฤทธิ์ยบั ยัง้ แบคทีเรีย ใช้ ล้างแผล
• ที่ความเข้ มข้ น 5% มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หลายชนิด

SALICYLIC ACID
• ที่ความเข้ มข้ น 10-40% ใช้ จหี้ ูดและตาปลา
ยาฆ่าเชื้อ

41

BORIC ACID
• ยับยั้งการเจริญของเชื้อราและแบคทีเรียอย่ างอ่ อนๆ
• ทีค่ วามเข้ มข้ น 3% ใช้ เป็ นยาล้ างตา
• glycerine borax ใช้ ป้ายแผลทีป่ ากและหยอดหู

BENZOIC ACID
• Benzoic acid + Salicylic acid = Whitfield ointment ใช้ รักษาโรค
ผิวหนังทีเ่ กิดจากเชื้อรา
ยาฆ่าเชื้อ

42

ประสิ ทธิภาพของการทาให้ ปราศจากเชื้อ

การทาความสะอาดเบือ้ งต้ น

ชนิดของยาทีใ่ ช้

ความเข้ มข้ น

ระยะเวลา

จุลชีพ

กรด เบส อุณหภูมิ

คุณภาพ

ชนิดและจานวน

ยาฆ่าเชื้อ

Stage ของเชื้อโรค

43

เปรียบเทียบการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

ความเข้ มข้ นที่ใช้ ระยะเวลาฆ่ าเชือ้

สบู่และสารซักล้าง

10 นาที

ข้ อสังเกตในการใช้
ล้างทาความสะอาด ฆ่ าเชือ้ ไวรั สไม่ ได้ ยกเว้ นไวรั สกลุ่ม A
ใช้ ผสมกับสารละลายโซเดียมคาร์ บอเนต
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาระล้างและทาให้ผวิ สัมผัสเปี ยก

สาร oxidizing
NaOCl, Ca(OCl)2

ไวรั สทุกกลุ่ม เว้ นแต่ มีสารอินทรี ย์ปะปนจะลดประสิทธิภาพ
2-3%

10-30 นาที

และจะสลายตัวเมื่อมีความร้ อน

2 % w/v

10 นาที

โซดาซักผ้า

4-10 % w/v

10-30 นาที

กรดเกลือ

2 % v/v

10 นาที

ใช้ เมื่อหาสารเคมีอ่ ืนไม่ ได้ มีฤทธิ์กดั กร่ อนรุ นแรงต่ อโลหะ คอนกรี ต

กรดซิตริ ก

0.2% w/v

30 นาที

ใช้ ล้างเสือ้ ผ้า ร่ างกาย

glutaraldehyde

2 % w/v

10-30 นาที

ไวรั สทุกกลุ่ม ใช้ เข้ มข้ นแพง

formaldehyde

8 % v/v

10-30 นาที

ปล่อยก๊าซซึ่งเป็ นอันตราย

ด่ าง
โซดาไฟ

ไวรั สทุกกลุ่ม ไม่ ควรใช้ เมื่อมีอลูมิเนียมอัลลอยด์
ไวรั สทุกกลุ่ม แม้ เมื่อมีสารอินทรี ย์ปะปน

กรด

อัลดีไฮด์

ที่มา : AUSVETPLAN, 2000

ยาฆ่าเชื้อ

44

ปัจจัยทางสิ่ งแวดล้อมทีม่ ีผลต่ อการใช้ ยาฆ่ าเชื้อชนิดต่ างๆ
ยาฆ่ าเชือ้

สารอินทรี ย์

pH

Acids

+

+

-

-

+/-

Alcohols

+

-

-

-

-

Bases

+

+

-

-

+/-

Formalin

+/-

-

+

-

-

Formadehyde (g)

+

-

+

-

-

Glutaraldehyde

+/-

+

-

-

+/-

Halogens

+

+

-

-

+/-

Oxidizing agents
Phenolic
compound
Quaternary
ammonium
compound

+

-

-

-

-

+/-

+

-

-

+/-

+/-

+

-

+

+/-

ที่มา : Quinn, 1991

ความชืน้ สัมพัทธ์ สบู่และการซักล้ าง นา้ กระด้ าง

ยาฆ่าเชื้อ

45

การ ล้ างฆ่ าเชื้อบุคคล esp. เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึน้ ในฟาร์ ม
• จัดบริเวณล้ างฆ่ าเชื้อไว้ ใกล้ จุดทีอ่ อกจากบริเวณปนเปื้ อน นา้ ล้างจะต้ องไม่ ไหล
ไปสู่ บริเวณทีส่ ะอาด
• ใช้ สบู่ในการล้ างหน้ า ผม ผิวหนัง มือ
• ใช้ ยาฆ่ าเชื้อทีเ่ หมาะสมกับเชื้อโรคทีม่ กี ารระบาด
• เตรียมนา้ ยาในถังนา้ และจุ่มรองเท้ าบู๊ทในถังนา้ ยา
• พ่นนา้ ยาที่ล้อรถ
• ออกจากบริเวณปนเปื้ อน อาบนา้ สระผม และเปลีย่ นเสื้อผ้ าชุ ดใหม่
• งดไปฟาร์ มอื่นทีไ่ ม่ ปนเปื้ อน อย่างน้ อย 1 สัปดาห์
ยาฆ่าเชื้อ

46

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน
• กาจัดเศษวัสดุ สิ่ งสกปรก สิ่ งปนเปื้ อน เพราะเศษอินทรียวัตถุทตี่ กค้างจะทาให้
ประสิ ทธิภาพของยาฆ่ าเชื้อลดลง ให้ ใช้ แปรงขัดสิ่ งสกปรกแล้วจึงฉีดนา้ ล้าง เมือ่ มีสัตว์
ป่ วยอยู่ในโรงเรือนให้ ล้างด้ วยความระมัดระวัง อย่าใช้ นา้ ที่มีแรงดันสู ง เนื่องจากจะเป็ น
การสร้ าง bioaerosols สาหรับไวรัส ทาให้ ไวรัสกระจายไปสู่ บริเวณใกล้ เคียง และทา
ให้ สิ่งสกปรกกระจายในวงกว้ าง สิ่ งสกปรกนั้นให้ ทาการฝังและราดนา้ ยาฆ่ าเชื้อ
• เล็งเป้ าหมายใช้ ยาฆ่ าเชื้อกับสิ่ งของหรือสิ่ งแวดล้ อมรอบตัวสั ตว์ เช่ น คอก ทางเดิน
รางอาหาร
• ปล่อยให้ ยาฆ่ าเชื้อมีเวลาสั มผัสกับเชื้อโรคอย่ างน้ อย 20-30 นาที
• โดยทัว่ ไปไม่ จาเป็ นต้ องล้างนา้ ซ้า เนื่องจากต้ องการให้ มีฤทธิ์ตกค้ างของยาฆ่ าเชื้อ เว้ น
แต่ เมือ่ นา้ ยาฆ่ าเชื้อเปรอะเปื้ อนตัวสั ตว์
ยาฆ่าเชื้อ

47

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
1. เมื่อไม่ มีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• ให้ พ่นนา้ ยาฆ่ าเชื้อจากบนเพดาน ฝา พืน้

2. เมื่อมีสัตว์ ป่วยอยู่ในโรงเรือน
• รดนา้ ยาฆ่ าเชื้อลงพืน้ ด้ วยฝักบัวรดนา้ ธรรมดาโดยรอบตัวสั ตว์ ป่วย ไม่ พ่นยาฆ่ าเชื้อ
ใส่ ตัวสั ตว์ โดยตรง และจะต้ องล้างฆ่ าเชื้อซ้าในตาแหน่ งนั้นเป็ นประจาวันละ 2 ครั้ง
เช้ า- เย็น จนกระทัง่ หมดสั ตว์ แสดงอาการป่ าย จึงลดความถี่ในการล้ าง ฆ่ าเชื้อเป็ นวัน
เว้ นวัน และอาจเจือจางสารละลายลงได้
• ถัดไปให้ ล้างฆ่ าเชื้อ ทางเดิน อุปกรณ์ การเลีย้ งสั ตว์ และต้ องล้ างวันละ 2 ครั้ง เช้ า-เย็น
• บริเวณใกล้เคียงทีม่ ีสัตว์ ปกติหรือยังไม่ แสดงอาการป่ วยในโรงเรือนเดียวกันให้ ล้างฆ่ า
เชื้ออย่างน้ อยวันเว้ นวัน
ยาฆ่าเชื้อ
48

การ ล้ าง ฆ่ าเชื้ออุปกรณ์ โรงเรือน (ต่ อ)
3. เมื่อสั ตว์ ป่วยอยู่นอกโรงเรือน เช่ น การกักโค กระบือ
• ใช้ ซองกักสั ตว์ ป่วยกลางแจ้ ง ให้ พ่นด้ วยนา้ ยาฆ่ าเชื้อโดยรอบซองกักวันละ 1 ครั้ง เมือ่
เลิกการกัก ให้ ทาการฆ่ าเชื้อบริเวณกัก โดยโรยปูนขาวหรือเผา

ยาฆ่าเชื้อ

49

ไวรัสทีม่ กี ารติดต่ อทางการหายใจ ไม่ มีความจาเป็ นต้ องฆ่ าเชื้อโดยการพ่นยาเป็ น
ละอองในอากาศ เนื่องจากระยะเวลาในการสั มผัสกับยาฆ่ าเชื้อน้ อยเกินไปและสั ตว์
มีการขับเชื้ออยู่ตลอดเวลาและยังทาให้ เกิด bioaerosol ทาให้ ไวรัสฟุ้ งกระจายได้ ดี
ยิง่ ขึน้
ในกรณีดงั กล่าว ให้ ทาการฆ่ าเชื้อด้ วยการใช้ ก๊าซจาก
formaldehyde รมในโรงเรือนปิ ด ซึ่งมักดาเนินการหลังจาก
ได้ ทาลายสั ตว์ ป่วยแล้ ว และไม่ มสี ั ตว์ เหลืออยู่ในโรงเรือน
เอกสารอ้ างอิงเรื่องการใช้ ยาล้ างฆ่ าเชื้อในสั ตว์ จาก
บรรจง จงรักษ์ วฒ
ั นา. 2546. คู่มอื ควบคุมโรคปากและเท้ าเปื่ อย สานักสุ ขศาสตร์ สัตว์ และ
สุ ขอนามัยที่ 9. สงขลา. 95 น.

ยาฆ่าเชื้อ

50

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อสาหรับโรคปากและเท้ าเปื่ อย
สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สิ่ งปนเปื้ อน

ยาฆ่ าเชื้อ/ วิธีการ

สั ตว์ มีชีวติ

ทาลาย (ถ้ าทาได้ )

นา้ ถังเก็บนา้

3

ซาก

ฝังหรือเผา, 3, 4

อาหารสั ตว์

ฝังหรือ 5.2

ขยะ

ฝัง หรือ 4

2, 4.2

โรงเรือนเลีย้ งสั ตว์ / อุปกรณ์

2, 3

สิ่ งแวดล้อม

3

บ้ านเรือน

คน

1, 4.2

เครื่องจักร ยานพาหนะ

อุปกรณ์ ไฟฟ้า

5.3

เสื้อผ้า

3, 4

2, 2.3, 3, 4.2

1 = สบู่และสารซักล้ าง; 2 = สารออกซิไดส์ : 2.1 = sodium hpochloride, 2.2 calcium
hypochloride; 3 = ด่ าง: 3.1 = sodium hydroxide, 3.2 = sodium carbonate; 4 = กรด: 4.1
hdrochloric acid, 4.2 citric acid; 5 = aldehyde: 5.1 glutaraldehyde, 5.2 formalin, 5.3
ยาฆ่าเชื้อ
51
formaldehyde gas

ตัวอย่ างวิธีการและยาฆ่ าเชื้อ
สาหรับโรคไข้ หวัดนก
ชนิด
มาตรการการทาลายเชื้อ
ซากสัตว์ที่ตายจากไข้หวัดนก
ฝังหรือเผา
พื้นคอก โรงเรือน วัสดุและอุปกรณ์ ในโรงเรือน
1, 2a, 2b, 3
ผู้ปฏิบตั ิ งาน
1
วัสดุ อุปกรณ์ ไฟฟ้ า
5
อ่างหรือถังเก็บน้า หรือคาดว่ามีการปนเปื้ อน
ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
แหล่งน้าผิดขนาดเล็กที่ใช้เลีย้ งสัตว์ปีกอย่างหนาแน่น ปล่อยน้าออกให้แห้งและตากทิ้งไว้
อาหารสัตว์ที่เหลือ
ฝัง
มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์ม
ฝังหรือเผาหรือ 3, 4
บ้านเรือนของเกษตรกรที่คาดว่ามีการติดเชือ้
1, 2a, 2b
เครื่องจักรกลใหญ่ในฟาร์มและยานพาหนะ
1, 3
เสือ้ ผ้าของผู้ปฏิบตั ิ งาน
1, 2a, 2b, 3
เครื่องบิน
1

ยาฆ่าเชื้อหลัก
รูปแบบและความเข้มข้น
1. สบู่และน้ำยาซักฟอก
2. น้ำยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Oxidizing agents

ระยะเวลาทีใ่ ช้
แช่ทิ้งไว้ 10 นาที

10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ของเหลวเจือจางให้ได้ความ
มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2a โซเดียมไฮโปคลอไรท์ เข้มข้นที่ 2-3%
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
10-30 นาที แต่ใช้ไม่ได้กรณีที่
ผงหรือของเหลวเจือจางที่ 2-3% มีสารอินทรียป์ นอยูม่ าก เช่น
2b แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (ใช้ผง 20 กรัม/ ลิตร)
ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์
3 ยาฆ่าเชื้อประเภทด่าง
3a โซเดียมไฮดรอกไซด์
10 นาที (ห้ามใช้บนพื้นผิวที่
(โซดาไฟ)
2% (20 กรัม/ ลิตร)
เป็ นอลูมิเนี ยม)
10 นาที ในกรณีที่มีสาร
3b โซเดียมคาร์บอเนต
อินทรียป์ ะปนมาก เช่น มูล
(โซดาชะล้าง)
สัตว์หรือซากสัตว์ให้ใช้ 30
(Na2CO3 10 H2O)
4% (40 กรัม/ ลิตร)
นาที
4 ยาฆ่าเชื้อประเภทกรด
มีฤทธิ์ กดั กร่อน ควรเลือกใช้
4a กรดไฮโดรคลอริค
2% (20 มิลลิลิตร/ ลิตร)
เมื่อไม่มีทางเลือกอืน่
30 นาที ปลอดภัยสำหรับเสื้อ
ผ้าและร่างกายผู้ปฏิ บตั ิ งานที่
4b กรดซิตริค
0.2% (2 กรัม/ ลิตร)
อาจปนเปื้ อน
15-24 ชม. ต้องระวังเป็นพิษ
5 ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์
ต่อทางเดิ นหายใจผู้ปฏิ บตั ิ