ลำดับลู่เข้ ำ และลำดับลู่ออก (Convergent Sequences and Divergent Sequences) บทนิยำม 3.2.1 ให้ {  sn } n  1 (1) ถ้ำ lim s n = L.

Download Report

Transcript ลำดับลู่เข้ ำ และลำดับลู่ออก (Convergent Sequences and Divergent Sequences) บทนิยำม 3.2.1 ให้ {  sn } n  1 (1) ถ้ำ lim s n = L.

Slide 1


Slide 2

ลำดับลู่เข้ ำ และลำดับลู่ออก
(Convergent Sequences and Divergent Sequences)
บทนิยำม 3.2.1 ให้ {


sn } n  1

(1) ถ้ำ lim s n = L เรี ยก {
n 

เป็ นลำดับของจำนวนจริ ง

s n } n  1 ว่ำเป็ น ลำดับลู่เข้ ำ

(convergent sequence) และ {


sn } n  1

ลู่เข้ำสู่ค่ำ L


Slide 3


s n } n  1 ไม่มีลิมิต

(2) ถ้ำ {
เรี ยก {
ลำดับลู่ออก (divergentsequence)


sn } n  1

ว่ำเป็ น

1, 1 , 31 , 41 , 51 , . . . , n1 , . . . เป็ นลำดับที่ล่เู ข้ำสู่ 0
2

2, 2, 2, 2, …, 2, ...

เป็ นลำดับที่ล่เู ข้ำสู่ 2

2

2
n
{ 2
}n  1
n 4

เป็ นลำดับที่ล่เู ข้ำสู่ 2


Slide 4

{


2n }n1

ไม่มีลิมิต

0, 2, 0, 2, …, 1 + (–1)n, ... ไม่มีลิมิต
ทฤษฎีบท 3.2.2 ถ้ำ {
และ{


sn } n  1


s n } n  1 เป็ นลำดับลู่เข้ำ

หนึ่งค่ำเดียวเท่ำนั้น

เป็ นลำดับของจำนวนจริ ง
แล้ว { s n } n  1 จะลู่เข้ำสู่ ค่ำ


Slide 5

กำรพิสูจน์ สมมติให้ลำดับ {
ให้


s n } n  1 ลูเ่ ข้าสูจ่ านวนจริงมากกว่า

lim s n = L

n 

lim s n = M โดยที่ L  M
และ n 


ดังนั้น | M – L | > 0
ให้  = 21 | M – L |
lim s n = L จะมีจำนวนเต็มบวก k ที่ทำให้
เนื่องจำกn 

1

1
| sn – L | < 2

1 ค่า

| M – L | , n  k1


Slide 6

lim s n = M จะมีจำนวนเต็มบวก k ที่ทำให้
และเนื่องจำก n 
2


1
| sn – M | < 2 | M – L |

, n  k2

ให้ k = max { k1, k2 }
ดังนั้น | sn – L | <

1
2|M–L|

, n  k และ

| sn – M | < 21 | M – L | , n  k


Slide 7

แต่ | M – L | = | M – sn + sn – L |
 | sn – M | + | sn – L |
1
1
< 2|M–L|+ 2

|M–L| ,nk

ทำให้ | M – L | < | M – L | ซึ่งเป็ นไปไม่ได้
นัน่ คือ {


s n } n  1 ลู่เข้ำสู่ ค่ำหนึ่ งค่ำเดียวเท่ำนั้น




Slide 8

ทฤษฎีบท 3.2.3 ถ้ำ {


sn } n  1

เป็ นลำดับของจำนวนจริ ง และ

{ s n } n  1 ลู่เข้ำสู่ L แล้วลำดับย่อยใดๆของ

{ s n } n  1 จะลู่เข้ำสู่ L

กำรพิสูจน์ ให้ {


sn } i  1
i

เป็ นลำดับย่อยของ {


sn } n  1

โดยนิยำมของลำดับย่อย จะได้ n1 < n2 < n3 < … < ni <
… , ni , i
ทำให้ ni  i , i


Slide 9

lim s n = L
เนื่องจำก n 


ดังนั้นทุก  > 0 จะมีจำนวนเต็มบวก k ซึ่งทำให้
| sn – L | <  , n  k

เลือก k = nk  k
สำหรับ i  k , ni  nk
ทำให้ |s n i – L | <  เมื่อ i  k
นั้นคือ i lim s n i = L




Slide 10

บทแทรก 3.2.4 ลำดับย่อยของลำดับที่ล่เู ข้ำ ย่อมลู่เข้ำสู่ ค่ำเดียวกัน

sn } n  1

กำรพิสูจน์ จำกทฤษฎีบท 3.2.2 ลำดับ {
เป็ นลำดับลู่เข้ำ
ย่อมลู่เข้ำสู่ ค่ำหนึ่งค่ำเดียวเท่ำนั้นและจำกทฤษฎีบท 3.2.3
ลำดับย่อยของลำดับที่ล่เู ข้ำสู่ ค่ำ L เป็ นลำดับลู่เข้ำสู่ค่ำ L
นัน่ คือ ลำดับย่อยของลำดับที่ล่เู ข้ำ ย่อมลู่เข้ำสู่ค่ำเดียวกัน




Slide 11


sn } n  1

n 

ตัวอย่ ำง 1 {
=
มีลำดับย่อย คือ
ลำดับ 1, 1, 1, …
เป็ นลำดับลู่เข้ำสู่ 1
และ ลำดับ –1, –1, –1, … เป็ นลำดับลู่เข้ำสู่ –1
ดังนั้น {

{ (  1) } n  1

n 
(  1) } n  1

เป็ นลำดับลู่ออก




Slide 12


sn } n  1

sn } n  1

บทนิยำม 3.2.5 ให้ {
เป็ นลำดับของจำนวนจริ ง
จะเรี ยกลำดับ {
ลู่ออกไปยังบวกอนันต์
(diverges to infinity ) เมื่อ n เข้ำสู่  ก็ต่อเมื่อ
สำหรับจำนวนจริ งบวก M จะมีจำนวนเต็มบวก k
ซึ่งทำให้ sn > M สำหรับ n  k

ลำดับ{ s n } n  1 ลู่ออกสู่  อำจเขียนแทนด้วย
lim s n =  (หรื อ s   เมื่อ n  )
n
n 


Slide 13

ตัวอย่ ำง 2 กำหนด {


sn } n  1

=


{ n }n1

ให้ M > 0 โดยสมบัติอำร์คีมิเดียน สำมำรถหำจำนวนเต็มบวก
k ซึ่ง k > M
ทำให้ n > M , n  k
นัน่ คือ lim n = 
n 




Slide 14


s n } n  1 เป็ นลำดับของจำนวนจริ ง

บทนิยำม 3.2.6 ให้ {

จะเรี ยกลำดับ { s n } n  1 ลู่ออกไปยังค่ ำลบอนันต์ (diverges to
minus infinity –) เมื่อ n เข้ำสู่  ก็ต่อเมื่อ สำหรับ
จำนวนจริ งบวก M จะมีจำนวนเต็มบวก k ซึ่ง sn < –M
สำหรับ n  k

{ s n } n  1 ลู่ออกสู่ – อำจเขียนแทนด้วย
lim s n

n 

= – (หรื อsn – เมื่อ n  )


Slide 15


sn } n  1

ตัวอย่ ำง 3 กำหนด {
= {  n }n  1
ให้ M > 0 จำกสมบัติอำร์คีมิเดียน สำมำรถหำ
จำนวนเต็มบวก k ซึ่ง k > M

ดังนั้น –n  –k < –M , n  k
lim n = –
นั้นคือ n 





Slide 16


s n } n  1 เป็ นลำดับของจำนวนจริ ง

บทนิยำม 3.2.7 ถ้ำ {
ลำดับ

{ s n } n  1 เป็ นลำดับลู่ออก แต่ไม่ใช่ลำดับลู่ออกสู่ ค่ำ

อนันต์ หรื อ ค่ำลบอนันต์ จะเรี ยก { s n } n  1 ว่ำเป็ น
ลำดับแกว่ งกวัด (oscillating sequence)


Slide 17


sn } n  1

n 
(  1) } n  1

ตัวอย่ ำง 4 (1) {
={
–1, 1,–1, 1,–1, … เป็ นลำดับแกว่งกวัด
เพรำะเป็ นลำดับลู่ออก แต่ไม่ล่เู ข้ำสู่ อนันต์ หรื อลบอนันต์
(2) ลำดับ 1, 2, 1, 4, 1, 6, … เป็ นลำดับแกว่งกวัด
เพรำะเป็ นลำดับลู่ออก แต่ไม่ล่เู ขำสู่อนันต์ หรื อลบอนันต์ 


Slide 18

ลำดับที่มีขอบเขต

บทนิยำม 3.2.8 ให้ { s n } n  1 เป็ นลำดับจำนวนจริ ง

(1) ลำดับ { s n } n  1 มี ขอบเขตบน เมื่อเรนจ์ของลำดับ

{ s n } n  1 มีขอบเขตบน


sn } n  1

(2) ลำดับ {
มี ขอบเขตบน เมื่อเรนจ์ของลำดับ

{ s n } n  1 มีขอบเขตล่ำง

sn } n  1

(3) ลำดับ {
มี ขอบเขต ถ้ำมีจำนวนจริ งบวก
M ซึ่งทำให้ | sn|  M, n


Slide 19


sn } n  1

หรื อ ลำดับ {
มีขอบเขต เมื่อเรนจ์ของลำดับ {
มีขอบเขตบน และขอบเขตล่ำง


sn } n  1


Slide 20

ทฤษฎีบท 3.2.9 ถ้ำ {


sn } n  1

เป็ นลำดับที่มีขอบเขต


sn } n  1

เป็ นลำดับที่ล่เู ข้ำ แล้ว{


sn } n  1

lim s n = L
กำรพิสูจน์ เนื่องจำก {
เป็ นลำดับลู่เข้ำ ให้n 

ถ้ำให้  = 1 จะมีจำนวนเต็มบวก k ซึ่งทำให้
| sn – L | < 1
, nk
| | sn| – | L | |  | sn – L | < 1
, nk
| sn | < | L | + 1
, nk


Slide 21

ให้ M = max { | s1 |, | s2 |, | s3 |, …, | sk–1 | }
ทำให้ | sn | < M + | L | + 1 , n\
นั้นคือ {


sn } n  1

เป็ นลำดับที่มีขอบเขต




Slide 22

บทกลับของทฤษฎีบท 3.2.9 ไม่จริ ง เพรำะลำดับที่มีขอบเขต
ไม่จำเป็ นต้องเป็ นลำดับลู่เข้ำ เช่น 1, –1, 1, –1, ..., (–1)n+1, ...