Transcript Slide 1

1
การจัดการด้ านการเงิน
เป็ นงานที่ ส าคั ญ ส่ วนหนึ่ ง ของกิ จ การเพื่ อ
นาเสนอข้ อมูลทางการเงินแก่ผู้ใช้
ช่ วยการวางแผนธุรกิจในอนาคต
ให้ ข้อมูลทางด้ านการเงินเพือ่ ใช้ เป็ นแนวทางในการ
ปฏิ บั ติ ง านรวมทั้ ง การควบคุ ม การด าเนิ น งานให้
เป็ นไปตามแผน
2
เป้าหมายของการจัดการที่ย่ งั ยืน คือ อะไร?
1. กาไร
2. เจ้ าของ
3. เจ้ าหนี้
4. ลูกค้ า
5. พนักงาน
6. สั งคม
3
ลักษณะของธุรกิจทีด่ ี

 ฐานะการเงินมั่นคง
 ผลการดาเนินงานมีกาไรสู ง 
สภาพคล่ องดี
ลูกค้ าพอใจ
การทาให้ มนั่ คงและกาไรสู ง
 รายได้เพิม่ ตามเป้าหมาย
สู ญเสี ย
 สู ญเสียน้ อย
: ทรั พยากรสูญเสียโดยเปล่ าประโยชน์
: เกิดหนีส้ ินโดยไม่ จาเป็ น
4
การบัญชี(Accounting)
• หมายถึง กระบวนการของการวัดมูลค่ า การบันทึก
รายการ จัดหมวดหมู่ การสรุปผลข้ อมูลทางการเงิน
ตลอดจนการวิเคราะห์ และตีความหมายและ การนาเสนอ
ข้ อมูลเหล่ านั้นอย่างมีหลักเกณฑ์ เพือ่ ให้ ผู้ที่เกีย่ วข้ อง
นาไปใช้ ประโยชน์ ต่อไปในการวางแผนแสะตัดสิ นใจ
• “ภาษาของธุรกิจ “LANGUAGE OF
BUSINESS
5
เริ่มวงจรบัญชี
ต้ นงวดบัญชี
วันต้ นงวด
เอกสารหลักฐาน
วิเคราะห์ รายการค้ า
วงจร
บัญชี
บันทึกเบือ้ งต้ นทีส่ มุดรายวัน
ระหว่ างงวด
ผ่านไปบัญชีแยกประเภท
ทางบทดลอง
บันทึกรายการปรับปรุ ง
บันทึกรายการปิ ดบัญชี
วันสิ้นงวด
หายอดดุลของบัญชีทไี่ ม่ ได้ ปิด
ทางบการเงิน
ทาซ้างวดต่ อไป
6
รายงาน :งบการเงิน
กิจการทาผลงานดีอย่ างไร
ระหว่ างงวดบัญชีหนึ่ง
งบกาไร
ขาดทุน
งบกระแส
เงินสด
ฐานะการเงินของกิจการ
ณ วันใดวันหนึ่ง
งบดุล
7
องค์ ประกอบของข้ อมูลการเงิน
1.สิ นทรัพย์
2.หนีส้ ิ น
3.ส่ วนทุน/
เจ้ าของ
4.รายได้
 กาไร
 ASSETS
 LIABILITIES
 CAPITAL หรือ
OWNERS’ EQUITY
 REVENUES
5.ค่ าใช้ จ่าย

 ขาดทุน
GAIN
EXPENSES
LOSS
วิเคราะห์ รายการค้ า
9
บัญชีแยกประเภท
THE LEDGER
• บัญชีแยกประเภทของแต่ ละกิจการคือบัญชีต่างๆใน 5 ประเภท
สิ นทรัพย์
หนีส้ ิ น
ส่ วนทุนเจ้ าชอง
Assets
Liabilities
Stockholders’ Equity
อุปกรณ์ Equipment
ที่ดิน Land
วัสดุ Supplies
เงินสด Cash
ดอกเบีย้ ค้ างจ่ าย
Salaries Payable
เจ้ าหนี้ Accounts Payable
เงินกู้ยมื loans Payable
ค่ าใช้ จ่าย เงินเดือน ค่ าเช่ า ค่ าไฟฟ้า
รายได้ ค่ าบริการ ค่ าขาย
ทุน หุ้น Common Stock
กาไรสะสม Retained Earnings
10
Types of Accounting
Information
Financial
Tax
Managerial
11
งบการเงิน
• ผลผลิตหนึ่งของกระบวนการหรือวงจรทางการบัญชี
จัดทาในรู ป
งบการเงิน (Financial Statements)
หรือ
รายงานการเงิน (Financial Reports)
12
รายงานหรืองบการเงิน
ให้ ข้อมูลเกีย่ วกับ
ผลการดาเนินงาน
ฐานะทางการเงิน
การเปลีย่ นแปลง
ฐานะการเงิน
สภาพคล่อง
งบกาไรขาดทุน
งบดุล
งบแสดงการเปลีย่ นแปลงของ
ส่ วนของเจ้ าของ
งบกระแสเงินสด
13
สมการบัญชี
Assets
Resources
=
Liabilities + Owners’ Equity
Creditor’s claims
against resources
สิ นทรัพย์ = หนีส้ ิ น +
ส่ วนทุน = สิ นทรัพย์ -
Owners’ claims
against resources
ส่ วนทุนเจ้ าของ
หนีส้ ิ น
14
สมการทางบัญชี:
สินทรั พย์ = หนีส้ ิน + ส่ วนของเจ้ าของ
สินทรัพย์ ท่ กี ิจการมีย่อมเท่ ากับผู้ท่ ลี งทุน
ในสินทรัพย์ หรือผู้มีสิทธิในสินทรั พย์ คือ
เจ้ าหนีแ้ ละเจ้ าของ
15
สมการบัญชี
แหล่งใช้ ไปของเงินทุน
= แหล่งทีม่ าของเงินทุน
สิ นทรัพย์ = ทุนของเจ้ าของ
สิ นทรัพย์ = เจ้ าหนี(้ หนีส้ ิ น)
สิ นทรัพย์
= เจ้ าหนี(้ หนีส้ ิ น) + ทุนของเจ้ าของ
และเมื่อดาเนินงานไปในช่ วงเวลาหนึ่ง(เดือน, ปี )
รายได้ - ค่ าใช้ จ่าย = กาไร (ขาดทุน)
กาไร(ขาดทุน) ส่ งผลให้ เจ้ าของเปลีย่ นแปลง
สิ นทรัพย์
= หนีส้ ิ น + {ทุนเจ้ าของ + กาไร (ขาดทุน)}
16
ความสั มพันธ์ ระหว่ างงบกาไรขาดทุนกับงบดุล
งบดุล
งบกาไรขาดทุน
สิ นทรัพย์ = หนีส้ ิ น + ส่ วนทุน
1 ตค.
1 สค.
1 มค.
+
งวดบัญชี
รายได้ - ค่ าใช้ จ่าย
กาไร (ขาดทุน) สุ ทธิ
30 กย.
31 สค.
31 ธค.
18
การหมุนเวียนของกระแสเงินสดของกิจการ
กระแสเงินสดจากการลงทุน
ขายสิ นทรัพย์ หรือ
เงินลงทุน
กระแสเงินสดจากการดาเนินงาน
ซื้อสิ นทรัพย์ หรือ
เงินลงทุน
ขายเชื่อ
ลูกหนีก้ ารค้ า
ขายเงินสด
ผลตอบแทนเงินลงทุน
สิ นค้ าสาเร็จรู ป
เงินสด
กู้ยมื เงิน
ดอกเบีย้ จ่ าย
จ่ ายคืนเงินกู้
ค่ าใช้ จ่ายในการ
ขายและบริหาร
ซื้อเงินเชื่อ
เงินเพิม่ ทุน
เงินปันผล
กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน
กระแสเงินสดรับ
เจ้ าหนีก้ ารค้ า
กระบวนการผลิต
วัตถุดบิ
ค่ าแรงและค่ าใช้ จ่ายในการผลิต
ภาษีเงินได้
กระแสเงินสดจ่ าย
19
การตัดสิ นใจทางบริหาร
การลงทุน
การดาเนินงาน
สิ นทรัพย์
หมุนเวียน
รายได้ จากการ
ดาเนินงาน
สิ นทรัพย์
ถาวร
สิ นทรัพย์อื่นๆ
กาไร(ขาดทุน)
ตัดบัญชี
ค่ าใช้ จ่ายจาก
การดาเนินงาน
การจัดหาเงินทุน
ส่ วนทุนของ
เจ้ าของ
เจ้ าหนี้
ระยะสั้ น
เจ้าหนี้ระยะยาว
20
เมื่อเริ่มต้ นทาธุรกิจ จะต้ อง
พิจารณาว่ าควรลงทุนเท่ าใดดี
ต้ องเป็ นการลงทุนที่
 จาเป็ น
 เหมาะสม
 คุ้มค่ าและ
 ประหยัด
21
ตอนเริ่มกิจการควร จัดหา สินทรั พย์ (Assets) ที่จาเป็ น
ได้ แก่
• เงินสด
• สินค้ า
• ที่ดนิ
• อาคาร
• เครื่องมือหรืออุปกรณ์
• ยานพาหนะ
• ฯลฯ
22
สิ นทรัพย์ (Assets)
สิ นทรัพย์ คือ ทรัพยากร
1) อยู่ภายใต้ การควบคุมของกิจการ
2) อันเป็ นผลมาจากเหตุการณ์ ในอดีต
3) กิจการคาดว่ าจะได้ ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจใน
อนาคต
23
สิ นทรัพย์ (Assets)
เงินสด
ลูกหนีก้ ารค้ า
ยานพาหนะ
วัสดุสานักงาน
สิ นค้ าคงเหลือ
ทรัพยากรที่กจิ การ
เป็ นเจ้ าของหรือ
ควบคุมได้
เครื่องจักร อุปกรณ์
ที่ดิน
อาคาร
24
สิ นทรัพย์ แบ่ งเป็ น 2 ประเภท:
1. อายุน้อยกว่ า 1 ปี เรียกว่ า สิ นทรัพย์ หมุนเวียน
2. อายุมากกว่า 1 ปี เรียกว่าสิ นทรัพย์ไม่ หมุนเวียน
หรือสิ นทรัพย์ ถาวร
25
สิ นทรัพย์ ถาวร
.
Land
ทีดนิ
26
สิ นทรัพย์ ถาวร
Buildings
อาคาร สานักงาน
โรงงาน
อุปกรณ์ เครื่องจักร
Equipment
27
หนีส้ ิ น (Liabilities)
หนีส้ ิ น คือ ภาระผูกพัน
1) ทีม่ ีอยู่ในปัจจุบัน
2) อันเป็ นผลมาจากเหตุการณ์ ในอดีต
3) คาดว่ าการจ่ ายชาระภาระผูกพันนั้นจะทาให้ องค์ กร
เสี ยประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ
28
หนีส้ ิ น (Liabilities)
เงินกู้ยมื -สถาบัน
การเงิน/ บุคคล
เจ้ าหนีก้ ารค้ า
สิ ทธิของเจ้ าหนี้
ที่มีต่อสิ นทรัพย์
เจ้ าหนี้
ภาษี
ค่ าแรงค้ างจ่ าย
29
ส่ วนของเจ้ าของ
(OWNERS’ EQUITY)
คือ ส่ วนได้ เสี ยคงเหลือภายหลังหักหนีส้ ิ นออก
จากสิ นทรัพย์ แล้ ว
(สิ นทรัพย์ - หนี้สิน = ส่ วนทุนหรื อสิ นทรัพย์สุทธิ)
30
ส่ วนทุน (Equity) - บริษัท
ทุนทีน่ ามาลง:
หุ้นสามัญ
กาไรสะสม
สิ ทธิของเจ้ าของ
ที่มีต่อสิ นทรัพย์
เงินปันผลจ่ าย
31
ส่ วนทุน (Equity)
- เจ้ าของคนเดียว
ทุนทีน่ ามาลง
สิ ทธิของเจ้ าของ
กาไร(ขาด
ทุน)สุ ทธิ
ที่มีต่อสิ นทรัพย์
เบิกใช้
32
สัดส่วนหนีส้ ินต่ อส่ วนทุนของ
เจ้ าของควรเป็ น
40:60
หรื อ 50:50
หรื อ 60:40
33
กิจกรรม
รายการ
งบการเงินหรือ
ทางธุรกิจ
ทางบัญชี
รายงานการเงิน
รายการทางบัญชี แบ่ งเป็ น 5 หมวด
• หมวดรายได้
• หมวดค่ าใช้ จ่าย
• หมวดสิ นทรัพย์
• หมวดหนีส้ ิ น
• หมวดทุน
บันทึกในหลักบัญชีคู่ (Double Entry System) เดบิต , เครดิต
34
รายงาน :งบการเงิน
กิจการทาผลงานดีอย่ างไร
ระหว่ างงวดบัญชีหนึ่ง
งบกาไร
ขาดทุน
งบกระแส
เงินสด
ฐานะการเงินของกิจการ
ณ วันใดวันหนึ่ง
งบดุล
35
36
รายงานทางการเงินที่สาคัญ
งบกาไรขาดทุน
(Income Statement)
เป็ นงบที่แสดงผลการดาเนินงานว่าทาธุรกิจภายใน
รอบเวลาหนึ่ง เช่น 1 เดือนหรือ 1 ปี เป็ นต้น
37
งบกาไรขาดทุน
กาไร = รายได้ - ค่ าใช้ จ่าย
 กาไร (ขาดทุน) เป็ นส่ วนหนึ่งของทุน
 รายได้ และค่ าใช้ จ่ายบันทึกโดยใช้ เกณฑ์ คงค้ าง(Accrual
Basis)
38
ผลการดาเนินงานของธุรกิจทัว่ ไป
กาไร (ขาดทุน) = รายได้ - ค่ าใช้ จ่าย
•
•
•
•
•
ขายสิ นค้ า
ขายบริการ
ค่ าเช่ า
ค่ าดอกเบีย้
เงินปันผล
•
•
•
•
ต้ นทุนสิ นค้ าขาย
ต้ นทุนการบริการ
ค่ าใช้ จ่ายทางการตลาด
ค่ าใช้ จ่ายในการบริหาร
39
กิจการให้ บริ การ
รายได้ บริการ
หัก
ค่ าใช้ จ่ายดาเนินงาน
เท่ ากับ
กาไรสุ ทธิ
กิจการขายสินค้ า
ขายสุ ทธิ
หัก
ต้ นทุนสิ นค้ าขาย
เท่ ากับ
กาไรขั้นต้ น
หัก
ค่ าใช้ จ่ายดาเนินงาน
เท่ ากับ
กาไรสุ ทธิ
40
งบกาไรขาดทุนแสดงให้ เห็นอะไร





กาไรขาดทุนสาหรับ “งวดบัญชี” หนึ่ง
ความสามารถในการทากาไรของบริษทั
รายได้ ขนาดไหน
ค่ าใช้ จ่ายขนาดไหน
ใช้ เงินไปกับอะไร ต้ นทุนขาย ค่ าใช้ จ่ายในการขาย ค่ าใช้ จ่ายใน
การบริหาร ดอกเบีย้ จ่ าย
41
งบกาไรขาดทุน
ค่าขาย
หัก ต้นทุนขาย
(หน่วย : บาท)
8,000
5,000
กาไรขั้นต้ น
3,000
หัก ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริ หาร
กาไรสุ ทธิ
2,000
1,000
42
บริษัทไตรอุโฆษ จากัด
งบกาไรขาดทุน
สิ้นสุด 31 ธันวาคม 25X_
รายได้สุทธิ
ต้นทุนสินค้าขาย
กาไรขั้นต้น
ค่าใช้จา่ ยในการขายและบริหาร
กาไรก่อนหักดอกเบี้ย
ดอกเบี้ ย
กาไรหลังหักดอกเบี้ย
ภาษี
กาไรสุทธิ
25X1
25X2
1,500,000
1,200,000
1,750,000
1,435,000
300,000
200,000
315,000
205,000
100,000
20,000
110,000
24,000
80,000
86,000
24,000
56,000
25,800
60,200
43
รายได้ REVENUE หมายถึง
• การเพิม่ ขึน้ ของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบัญชี
ในรู ปกระแสเข้ า หรื อ
• การเพิม่ ค่ าของสิ นทรัพย์หรื อการลดลงของหนี้สินอันส่ งผลให้ส่วน
ของเจ้ าของเพิม่ ขึน้
ไม่รวมถึงเงินทุนที่ได้รับจากผูม้ ีส่วนร่ วมในส่ วนของเจ้าของ
44
รายได้ ตามคานิยาม รวมถึง
- รายได้ ที่เกิดจากการดาเนินกิจกรรมตามปกติของ
กิจการ
- กาไร
– กาไรจากการขายสิ นทรัพย์ ระยะยาว
45
ค่ าใช้ จ่าย
EXPENSES หมายถึง
• การลดลงของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบัญชี
ในรู ปกระแสออก หรือ
• การลดค่ าของสิ นทรัพย์ หรือการเพิม่ ขึน้ ของหนีส้ ิ นอัน
ส่ งผลให้ ส่วนของเจ้ าของลดลง
ไม่ รวมถึงการแบ่ งปันส่ วนของเจ้ าของให้ กบั ผู้มสี ่ วนร่ วมใน
ส่ วนของเจ้ าของ
46
ค่ าใช้ จ่ายตามคานิยาม รวมถึง
- รายการขาดทุนและค่ าใช้ จ่ายทีเ่ กิดจากการดาเนินกิจกรรมตามปกติของกิจการ
(ในรูปกระแสออกหรือการเสื่ อมค่ าของสิ นทรัพย์ )
– รายการขาดทุน
• รายการขาดทุนทีเ่ กิดจากภัยธรรมชาติ
• รายการขาดทุนทีเ่ กิดจากการขายสิ นทรัพย์ ระยะยาว
47
• ค่ าใช้ จ่าย มี 2 ประเภทคือ
1. ต้ นทุนสิ นค้ าขาย (Cost of Goods Sold)
2. ค่ าใช้ จ่ายดาเนินงาน (Operating Expenses):
ค่ าใช้ จ่ายในการขาย(Selling Expenses)
ค่ าใช้ จ่ายการบริหาร(Administrative Exp.)
48
การรับรู้ - รายได้ และค่ าใช้ จ่าย
รายได้ (เพิม่ )
หัก ค่ าใช้ จ่าย (เพิม่ )
กาไร (ขาดทุน)สุ ทธิ
เรียกว่ า เกณฑ์ คงค้ าง (พึงรับพึงจ่ าย) หรือ
Accrual Basis
หลักการจับคู่ค่าใช้ จ่ายกับรายได้
Matching concept
49
เกณฑ์ คงค้ าง (Accrual Basis)
เกณฑ์ ในการวัดผลการดาเนินงานสาหรับแต่ ละงวดบัญชี ซึ่งจะ
พิจารณาถึงรายได้ และค่ าใช้ จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึน้ ในงวดนั้น โดยไม่
คานึงถึงว่ า รายการดังกล่ าวมีการรับหรือจ่ ายเงินสดหรือไม่
รายได้ = ผลจากการขายสิ นค้ าหรือบริการทีไ่ ด้ ให้ ลูกค้ าเสร็จ
เรียบร้ อยไปในงวดนั้น
ค่ าใช้ จ่าย = สินค้าหรือบริการที่ได้ ใช้ ประโยชน์ หมดสิ้นไปเพือ่
ก่ อให้ เกิดรายรายได้ ในงวดนั้น (เกณฑ์ การจับคู่รายได้ กบั ค่าใช้ จ่าย)
50
งวดเวลา : Time Period
การรับรู้รายได้
Revenue Recognition Principle
Companies recognize
revenue (รายได้) in the
accounting period in which
it is earned.
In a service enterprise,
revenue is considered to be
earned at the time the
service is performed.
51
เกณฑ์ คงค้ าง (Accrual Basis)
 รับรู้เมือ่ เกิดรายการการค้ า
 ไม่ ใช่ เมือ่ มีการรับหรือจ่ ายเงินสดเท่ านั้น
 บันทึกบัญชีและแสดงในงบการเงินตามงวดที่เกีย่ วข้ อง
 รับรู้ค่าใช้ จ่าย ในงบกาไรขาดทุนตามเกณฑ์ ความสั มพันธ์ โดยตรง
ระหว่ างต้ นทุนทีเ่ กิดขึน้ กับรายได้ ทเี่ กิดจากต้ นทุนนั้น
52
เกณฑ์ คงค้ างแตกต่ างจากเกณฑ์ เงินสดซึ่งรับรู้ รายได้ และค่ าใช้ จ่าย
ตามการรับและจ่ ายเงินสดที่เกิดขึน้ จริง
ตัวอย่ าง บริษัท ก. มีห้องว่างให้ เช่ า บริษัท ข. เช่ า โดยคิดค่าเช่ า
เดือนละ 1,000 บาท เมื่อสิ้นงวดบัญชี บริษัทได้ รับค่ าเช่ ามา 15,000 บาท ซึ่ง
เป็ นค่ าเช่ าของงวดบัญชีนี้ 12,000 บาท และเป็ นค่ าเช่ าของงวดบัญชีถัดไปที่
รับมาก่อนล่วงหน้ าอีก 3,000 บาท
รายการเช่ นนีถ้ อื ว่าในงวดบัญชีนี้
ตามเกณฑ์ เงินสดมีรายได้ ค่าเช่ า
15,000 บาท
ตามเกณฑ์ คงค้ างมีรายได้ ค่าเช่ า
12,000 บาท
และมีรายได้ รับล่วงหน้ า(หนีส้ ิ น) 3,000 บาท
การปรับปรุงรายการ
• เพือ่ เปลีย่ นแปลงจานวนที่บันทึกไว้ ในบัญชีให้ ถูกต้ องตามเกณฑ์ คงค้ าง
ก่ อนจัดทางบการเงิน
• เพือ่ ให้ การวัดผลการดาเนินงานใกล้ เคียงความเป็ นจริงมากที่สุด
• สาเหตุ
–1. เป็ นรายการที่เกิดขึน้ ในงวดแล้ว และได้ บันทึกบัญชีไว้ แล้ว แต่ ได้
บันทึกไว้มากเกินไป เช่ น ค่ าใช้ จ่ายจ่ ายล่วงหน้ า รายได้ รับล่วงหน้ า
วัสดุสานักงาน (ใช้ ไป) ค่ าเสื่ อมราคา สิ นทรัพย์ ถาวร
–2. เป็ นรายการที่เกิดขึน้ แล้วในงวด แต่ ยงั ไม่ ได้ บันทึกบัญชี หรืออาจ
บันทึกไว้น้อยไปไม่ ครบถ้ วน เช่ น ค่ าใช้ จ่ายค้ างจ่ าย รายได้ ค้างรับ
54
รายการปรับปรุ ง
ADJUSTMENT
การวัดผลการดาเนินงาน
เกณฑ์ คงค้ าง (ACCRUAL)
รายการปรับปรุงบันทึกในวันสิ้นงวดบัญชี (END OF THE PERIOD)
ผล บัญชีทุกบัญชียอดคงเหลือถูกต้อง
รายการทีจ่ าเป็ นต้ องปรับปรุ ง ได้ แก่
บันทึก - สมุดรายวันทัว่ ไป
1. ค่ าใช้ จ่ายล่วงหน้ า
PREPAID EXPENSE
- ผ่านไปบัญชีแยกประเภท
2. รายได้ รับล่วงหน้ า
UNEARNED REVENUE
3. ค่ าเสื่ อมราคา
DEPRECIATION
4. วัสดุสานักงาน
SUPPLIES
5. ค่ าใช้ จ่ายค้ างรับ
ACCRUED REVENUE
6. รายได้ ค้างจ่ าย
ACCRUED EXPENSE
7. ค่ าเผือ่ หนีส้ งสั ยจะสู ญ ALLOWANCES FOR DOUBTFUL ACCOUNTS
55
ค่ าใช้ จ่ายล่ วงหน้ า
• 1 ส.ค.2551 จ่ ายค่ าประกันภัย 1 ปี 12,000 บาท
• 31 สิ งหาคม 2551
* ค่ าใช้ จ่าย (งบกาไรขาดทุน)
* ค่ าใช้ จ่ายจ่ ายล่ วงหน้ า (งบดุล)
56
งบกาไรขาดทุน
รายได้
หัก ต้นทุนสินค้าขาย
กาไรขั้นต้น
หักค่าใช้จา่ ยในการขายและ
บริหาร
กาไรจากการดาเนิ นงาน
หัก ดอกเบี้ ยจ่าย
กาไรก่อนหักภาษี
หัก ภาษี
กาไรสุทธิ
..........................
..........................
..........................
..........................
..........................
..........................
..........................
..........................
..........................
ผูร้ บั ผิดชอบ
ตลาด
ผลิต
ทุกคนใน
องค์กร
การเงิน
57
• รายได้
ผู้ทมี่ ีส่วนรับผิดชอบหลัก คือ ฝ่ ายการตลาด
ฝ่ ายตลาด จะต้องวางกลยุทธ์ การตลาดทีเ่ หมาะสม ไม่วา่ ด้านการกาหนดราคา การ
ส่ งเสริมการขาย การโฆษณาประชาสั มพันธ์ การหาช่ องทางการจาหน่ ายที่
เหมาะสม ด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอ้ งมีการให้ข้อมูลเกีย่ วกับผลิตภัณฑ์ ให้ ผ้ บู ริโภค
และผู้ซื้อให้ เพียงพอในการตัดสิ นใจ
ในบางประเทศมีกฎหมายว่ าด้ วย Product Liability
ถ้ าสิ นค้ า/ผลิตภัณฑ์ ใด ผู้บริโภคใช้ แล้ วเป็ นอันตราย อาจมีการฟ้องร้ องได้ ดังนั้น
ในการทาการตลาดต้ องรับผิดชอบต่ อกลยุทธ์ ทดี่ าเนินการ การโฆษณา
ประชาสั มพันธ์ ต้ องให้ ข้อมูลทีถ่ ูกต้ องไม่ หลอกลวงผู้ใช้ ถ้ าองค์ กรมีการดาเนินการ
ทีด่ มี คี วามรับผิดชอบต่ อสั งคมก็จะสร้ างภาพลักษณ์ ทดี่ ี (Corporate
Image) ทีจ่ ะส่ งผลต่ อองค์ กรในทีส่ ุ ด
58
• ต้ นทุนสิ นค้ าขาย
ด้านการผลิตมีบทบาทสาคัญที่ส่งผลต่อการจัดการที่ยงั่ ยืนทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้าน
เศรษฐกิจ ด้ านสั งคม และสิ่ งแวดล้ อม
กระบวนการผลิต ตั้งแต่ข้นั ตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์ การจัดหาวัตถุดิบ
การผลิต และการจัดส่ งและการเลิกใช้ จะส่ งผลต่อสิ่ งแวดล้อมตั้งแต่เกิดจนถึง
ตาย
ดังนั้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ ต้องคานึงถึงการใช้วสั ดุ วัตถุดิบ ที่ไม่มี
ผลกระทบต่อสิ่ งแวดล้อม
ต้องคานึงถึงการประหยัด ทรัพยากรธรรมชาติ
เช่นการนาวัสดุที่นามาใช้ ใหม่ (Recycle Material) เป็ นต้น
59
เมื่อทาการผลิตจะต้องดาเนินการที่ลดของเสี ยที่เกิดจากการผลิต
การผลิตต้องคานึงถึงสิ่ งแวดล้อมที่เกิดจากกระบวนการผลิต ได้แก่ ด้ าน
อากาศ (ฝุ่ นละออง กลิ่น) ด้ านน้ า มีการปล่อยน้ าที่มีสารเคมี หรื อปนเปื้ อน
ออกไป ต้องมีการจัดการกาจัดน้ าเสี ยก่อนไปสู่สาธารณะ
มลภาวะด้ านเสี ยงบางโรงงานจะมีเครื่ องจักรที่มีเสี ยงดังมาก มีผลต่อ
ประสาททางการได้ยนิ ดังนั้นต้องมีการป้ องกัน เช่น ให้พนักงานใส่ หู
ป้ องกันเสี ยง
มลภาวะทางสายตา เช่น ความสะอาด การจัดวางเครื่ องมืออุปกรณ์
เครื่ องจักร สิ นค้าที่ไม่ดูแลอาจเป็ นอันตราย เกิดขึ้นในโรงงานได้ และการ
เก็บรักษาไม่ถูกต้องอาจทาให้เกิดความเสี ยหาย
เมื่อผลิตแล้วการจัดส่ งต้องมีระบบการจัดส่ งทีด่ ี เพราะการขนส่ งจะส่ งผล
ต่อการใช้พลังงาน และมลภาวะทางอากาศ
60
การผลิต
ดังนั้นการผลิตทีด่ ี การใช้ พลังงานทีป่ ระหยัด ก็จะลดปัญหาการเกิดโลก
ร้ อนได้ ส่วนหนึ่ง
การจัดการการผลิตดีกจ็ ะได้ ผลิตภัณฑ์ ที่มีต้นทุนต่า มีคุณภาพและ
ตอบสนองผู้บริโภคได้
นอกจากนั้นการผลิตต้ องดูแลสุ ขอนามัยของพนักงานในโรงงาน ควรมี
การตรวจเช็ดสุ ขภาพของพนักงานเพือ่ ป้องกันและแก้ไข
61
• ค่ าใช้ จ่ายการขายและบริหาร
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นในองค์กร(นอกจากสายการผลิตในโรงงาน) จะ
บันทึกในค่ าใช้ จ่ายในการขายและบริหาร
ได้แก่ ค่าโฆษณา ค่าวัสดุสานักงาน ค่าเช่าสานักงาน
ค่าเสื่ อมราคา เงินเดือนค่าจ้างของบุคลากร ค่าพาหนะหรื อค่าขนส่ ง
ค่าน้ าค่าไฟ ฯลฯ
ดังนั้นทุกคนในองค์กรต้องมีการทางานทีม่ ีประสิ ทธิภาพ และประหยัด
การใช้ ทรัพยากรให้ เกิดประโยชน์ รวมทั้งดูแลเงินเดือนค่าจ้าง
สวัสดิการ ความปลอดภัยของพนักงานในองค์กรอย่างมัน่ คง
62
ดอกเบีย้ จ่ าย
เป็ นบทบาทผู้บริหารการเงินที่ต้องคานึงถึงแหล่งทีม่ าของเงินในการ
นามาลงทุน
ถ้ ากิจการมีการหาแหล่งเงินทุนจากเจ้ าหนี้ กิจการก็ต้องมีภาระผูกพันในการ
จ่ ายดอกเบีย้ และคืนเงินต้ น ถ้ ากิจการมีการกู้ยมื มากก็มีภาระทีต่ ้ องจ่ าย
ดอกเบีย้ สู ง จะเกิดความเสี่ ยงจากแหล่งทีม่ าของเงิน
ดังนั้นการจัดการทีย่ งั่ ยืน ต้ องคานึงถึงความเสี่ ยงทีเ่ กิดจากการบริหารทาง
การเงิน
63
ภาษี
เป็ นภาระผูกพันที่ธุรกิจต้องจ่ายภาษีให้ภาครัฐเพื่อไปใช้ในการ
บริ หารกิจการภาครัฐ การบริ หารจัดการที่ดีที่มคี วามรับผิดชอบต่ อ
สั งคมต้องมีการจ่ายภาษีที่ถูกต้องไม่ มีการตกแต่ งบัญชี เพื่อ
หลีกเลี่ยงภาษี
กาไร
กาไรเป็ นผลตอบแทนที่เกิดจากการบริ หารธุรกิจได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ มี
การบริ หารความเสี่ ยงที่เหมาะสมรวมทั้งที่ดูแลด้านสังคมสิ่งแวดล้อมอย่าง
สมดุลกัน
64
งบดุล
BALANCE SHEET
งบแสดงฐานะการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งว่ ามี
สินทรัพย์ และหนีส้ ินประเภทอะไร เป็ นมูลค่ าใด
และมีส่วนทุนเท่ าใด
สินทรัพย์
หนีส้ ิน
ส่ วนทุน
สมการงบดุล
หรือ
“ASSETS”
“LIABILITIES”
“OWNERS’ EQUITY”
สินทรัพย์
=
หนีส้ ิน
+
ส่ วนทุน
ส่ วนทุน
=
สินทรัพย์
-
หนีส้ ิน
65
งบดุล
งบดุลจะเป็ นงบที่แสดงฐานะการเงินของกิจการ ซึ่งการอ่านงบดุลจะ
ทาให้ทราบว่าแหล่งที่มา และใช้ไปของเงิน การบริหารทางการเงินที่
เหมาะสมจะทาให้มีความเสี่ยงที่มีเหตุผลและทนได้ (Risk) และมี
ผลตอบแทนที่เหมาะสม (Return)
หนี้สินและส่วนของเจ้าของ
สินทรัพย์
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสด
เงินลงทุน
ลูกหนี้
สินค้าคงเหลือ
..................
.
..................
.
..................
.
..................
.
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
ที่ดิน
หนี้สินหมุนเวียน
เจ้าหนี้การค้า
เงินเบิกเกินบัญชี
..................
.
..................
.
หนี้สินระยะยาว
เจ้าหนี้เงินกู ้
..................
.
ส่วนของผูถ้ ือหุน้
..................
หุน้ สามัญ
..................
66
งบดุล ...
สินทรั พย์
สิ นทรัพย์ หมุนเวียน
เงินสดและเงินฝากต่างๆ
เงินลงทุนระยะสั้น
ลูกหนี้และตัว๋ เงินรับ(สุ ทธิ )
สิ นค้าคงเหลือ
ค่าใช้จ่ายๆ ล่วงหน้า
สิ นทรัพย์ ไม่ หมุนเวียน
เงินลงทุนระยะยาว
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์สุทธิ
สิ นทรัพย์อื่น
รวมสิ นทรัพย์
หนีส้ นิ และส่ วนของผู้ถือหุ้น
X
X
X
X
X
X
X
X
XX
หนีส้ ิ นหมุนเวียน
เจ้าหนี้การค้า
ตัว๋ เงินจ่าย
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
หนีส้ ิ นไม่ หมุนเวียน
เจ้าหนี้เงินกู้
รวมหนี้สิน
ส่ วนของผู้ถือหุ้น
ทุนเรื อนหุน้
กาไรสะสม
รวมหนี้สินและส่ วนของผูถ้ ือหุ น้
X
X
X X
X
X
X
X X
XX
67
บริษทั ไตรอุโฆษ จากัด
งบดุล
สิ้นสุด 31 ธันวาคม 25x_
25X1
25X2
เงินสดและเงินฝากธนาคาร
ลูกหนี้
สินค้าคงเหลือ
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
70,000
120,000
150,000
340,000
60,000
180,000
180,000
420,000
โรงงาน และเครื่องจักร ที่ดิน
รวมสินทรัพย์
500,000
840,000
550,000
970,000
สินทรัพย์
สินทรัพย์หมุนเวียน
68
หนี้สินและส่วนผูถ้ ือหุน้
หนี้สินหมุนเวียน
เจ้าหนี้ การค้า
เจ้าหนี้ เงินกูร้ ะยะสั้น
รวมหนี้ สินหมุนเวียน
หนี้สินไม่หมุนเวียน
เงินกูร้ ะยะยาว
ส่วนของผูถ้ ือหุน้
ทุนหุน้ สามัญ
กาไรสะสม
รวมหนี้ สินและส่วนของเจ้าของ
25X1
25X2
260,000
100,000
360,000
269,800
110,000
379,800
150,000
200,000
200,000
130,000
840,000
200,000
190,000
970,000
69
งบดุลแสดงให้ เห็นอะไร
 ฐานะการเงินของบริษทั ณ วันทีใ่ นงบดุล
 มีสินทรัพย์ มากเพียงไหน หนีส้ ิ นมากเพียงไหน ส่ วนทุนมี
เท่ าไร
 เงินทุนหมุนเวียน และ การจัดการเงินทุน
 สิ นทรัพย์ ได้ มาจากไหนและต้ องจ่ ายให้ ใคร
 ใครมีสิทธิเรียกร้ องในสิ นทรัพย์
 โครงสร้ างเงินทุน (หนีส้ ิ นกับส่ วนทุน)
70
เจ้ าหนี้
+
สิ นทรัพย์
เจ้ าของ
- หุ้นสามัญ
- กาไรสะสม
รายได้ ค่าขาย (สิ นค้ า/บริการ)
ผลตอบแทน
ต่ อสิ นทรัพย์
หัก
=
ค่ าใช้ จ่ายในการดาเนินงาน
กาไรจากการดาเนินงาน
หัก
ดอกเบีย้ จ่ าย
=
กาไรก่ อนหักภาษี
หัก
ภาษีเงินได้
ผลตอบแทน
ต่ อเจ้ าของ
= กาไรสุทธิ
หัก
เงินปันผล
= กาไรสะสม
71
ความสาเร็จในการประกอบธุรกิจ
1. การลงทุนให้ พอเหมาะ
2. ขายเร็ว ขายมาก / การหมุนเวียนสิ นค้ าสู ง
3. เก็บเงินได้ เร็วมีสภาพคล่ องดี / มีความสามารถ
ชาระหนีไ้ ด้ ตามกาหนด
4. การทากาไรได้ ดี
การวิเคราะห์ทางการเงิน
• 1. การวิเคราะห์สภาพคล่อง
(Liquidity Ratio)
• 2. อัตราส่วนวัดกิจกรรม
(Activity Ratio)
• 3. ความสามารถด้านการทากาไร
(Profitability Ratio)
• 4. อัตราส่วนโครงสร้างของเงินทุน
(Leverage – Capital Structure Ratios)
73
1. การวิเคราะห์สภาพคล่อง
(Liquidity Ratio)
74
การบริหารเงินทุนหมุนเวียน
ลูกหนี้
ยอดขาย
สินค้า
พยากร
ณ์
ยอดขาย
เจ้าหนี้
สัง่ ซื้อ
สินค้า
เก็บเงิน
ลูกค้า
เงินสด
จ่าย
ชาระหนี้
75
1. การวิเคราะห์สภาพคล่อง
(Liquidity Ratio)
อัตราส่วนทุนหมุนเวียน
(Current Ratio)
สินทรัพย์ห มุนเวี ยน
หนี้ สนิ ระย ะสั้น
25x1
25x2
420,000
379,800
340,000
360,000
=
= 0.94 เท่า
= 1.11 เท่า
อัตราส่วนนี้ แสดงให้เห็นสภาพคล่องของธุรกิจ
จะเห็นว่า ปี 25X2 สภาพคล่องดีกว่าปี 25X1 เป็ นการ
เปรียบเทียบกับกิจการของตนเองในอดีต โดยปกติอตั ราส่วนนี้
ควรมากกว่า 1 เพื่อแสดงว่ามีสินทรัพย์หมุนเวียนเพียงพอชดใช้
ภาระผูกพันระยะสั้น
76
อัตราส่วนทุนหมุนเวียนอย่างถึงแก่น(เร็ว)สินทรัพย์ห มุนเวียน - สินค้าคงเห ลือ
=
หนี้ สนิ ระย ะสั้น
(Quick Ratio หรือ Acid Test)
240,000
379,800
= 0.53 เท่า
190,000
360,000
= 0.63 เท่า
อัตราส่วนนี้ แสดงถึงสภาพคล่องอย่างถึงแก่น (เร็ว)
จะเห็นว่า ปี 25X2 สภาพคล่องดีกว่าปี 25X1 เนื่ องจากสินค้า
คงเหลือมีสภาพคล่องน้อยที่สุด
77
2. อัตราส่วนวัดกิจกรรม (Activity Ratio)
25x2
อัตราส่วนการหมุนเวียนของสินค้า =
(Inventory Turnover)
ต้นทุ นสินค่้า
สินค้าคงเห ลือโดยเฉลี ่่ย
1,435,000
(150,000  180,000) / 2
= 8.70 รอบ
อัตราส่วนนี้ แสดงให้เห็นการหมุนเวียนของสินค้า ถ้า
สินค้าหมุนเวียนหลายรอบก็จะแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของการ
บริหารสินค้า
78
ระยะเวลาการถือสินค้า =
(วัน)
สิ นค้าเฉลี่่ ย
ต้นทุนสิ นค่้ าขาย
/ 365
1800,000  150,000
3,931.50
= 41.97 วัน
ระยะเวลาการถือสินค้าในปี 25X2 กิจการถือสินค้า
จานวน 41.97 วัน ถ้าถือสินค้าน้อยวันเงินก็จมในสินค้า
ลดลง
79
ระยะเวลาเก็บหนี้
(วัน)
=
(Average Collection Period)
ลูกหนี้ โ ดยเฉลีย่
ยอดขาย(เเชือ่ ต่อวัน
180,000
47,945
= 37.5 วัน
ระยะเวลาการเก็บหนี้ แสดงให้เห็นว่ากิจการสามารถเก็บหนี้ ได้
เฉลี่ยกี่วนั ถ้าบริหารได้ดีก็จะเก็บหนี้ได้เร็ว
80
อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ =
(Asset Turnover)
ยอดขาย
สินทรัพย์ร วม
1,750,000
970,000
= 1.80 รอบ
อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์แสดงให้เห็น
ประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ที่จะสร้างยอดขายได้กี่รอบ
ถ้าจานวนรอบสูงก็แสดงถึงประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์สงู
81
3. ความสามารถด้านการทากาไร
(Profitabiltiy Ratio)
25X1
กาไรต่อยอดขาย
=
กาไรสุท ธิ  100
ยอดขาย
25X2
56,000100
1,500,000
60,200100
1,750,000
= 3.73%
= 3.44%
(Return On Sales : ROS)
กาไรต่อยอดขายแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทา
กาไรต่อรายได้ที่ขายสินค้า
ในปี 25X2 ROS = 3.44% แสดงว่าทุกร้อยบาทที่ขายสินค้าไปจะ
ทากาไรได้ 3.44 บาท
82
กาไรต่อสินทรัพย์
(Return On Assets : ROA)
=
กาไร  100
สินทรัพย์ร วม
56,000100
840,000
= 6.67%
60,200100
970,000
= 6.21%
กาไรต่อสินทรัพย์ แสดงให้เห็นประสิทธิภาพการบริหาร
สินทรัพย์
ในปี 25X2 ROA = 6.21% แสดงว่าทุก 100
บาทที่ลงทุนในสินทรัพย์ก่อให้เกิดกาไร 6.21 บาท
83
กาไรต่อส่วนของผูถ้ ือหุน้
=
(Return On Equity : ROE)
กาไร  100
ส่ วนของผูถื้ อหุ ้น
56,000100
330,000
60,200100
390,200
= 16.67% = 15.43%
กาไรต่อส่วนของผูถ้ ือหุน้ แสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนต่อ
ส่วนของเจ้าของ
ในปี 25X2 ROE = 15.43% แสดงให้เห็นว่าทุก 100 บาทที่
เป็ นเงินของผูถ้ ือหุน้ ทากาไรคืนได้ 15.43 บาท
84
 อัตราส่วนกาไรขั้นต้น =
(Gross Profit Margin)
ขาย - ต้นทุ นขาย)  100
ขาย
300,000100 315,000100
1,750,000
1,500,000
= 20%
= 18%
กาไรขั้นต้น คือผลต่างยอดขายหักด้วยต้นทุนขาย
อัตราส่วนกาไรขั้นต้นแสดงให้เห็นความสามารถทากาไรขั้นต้น
ในปี 25X2 อัตราผลตอบแทนขั้นต้นเท่ากับ 18% แสดงว่าทุก
100 บาทที่ขายสินค้าไปทากาไรขั้นต้นได้ 18 บาท
85
4. อัตราส่วนโครงสร้างของเงินทุน
(Leverage – Capital Structure Ratios)
25X1
Debt
=
to
Total
Assets
หนี้ สนิ รวม
สินทรัพย์ร วม
510,000
840,000
= 0.61
25X2
579,800
970,000
= 0.598
แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างการลงทุนในสินทรัพย์วา่ ใช้
แหล่งที่มาของเงินจากเจ้าหนี้ เป็ นสัดส่วนเท่าไร ตัวเลขสูงแสดง
ให้เห็นความเสี่ยงสูง
86
Debt to Equity Ratio
=
หนี้ สิน
ส่ วนของผูถื้ อหุ ้น
510,000
330,000
= 1.55
579,800
390,000
= 1.49
แสดงให้เห็นสัดส่วนระหว่างเจ้าหนี้กับเจ้าของว่า
อัตราส่วนเจ้าหนี้ ต่อเจ้าของเป็ นสัดส่วนเท่าไร
ปี 25X2 มีอตั ราส่วน 1.49 แสดงว่าใช้แหล่งเงินทุนจาก
เจ้าหนี้ เป็ น 1.49 เท่าของเจ้าของ
87
กาไรเป็ นกี่เท่าของดอกเบี้ย = กาไรก่อนหั กภาษีและดอ กเบี้ ย
ดอกเบี้ ย
(Times Interest Earned)
100,000
20,000
= 5.00 เท่า
110,000
24,000
= 4.58 เท่า
อัตราส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่ากิจการมีกาไรมากพอจ่ายดอกเบี้ย
หรือไม่
ในปี 25X2 มีกาไรเท่ากับ 4.58 เท่า ของภาระดอกเบี้ ยที่
ต้องจ่าย
88
อัตราส่วนอื่น
กาไรต่อหุน้ (Earning Per Share : EPS)
=
กาไร
จานวนหุ ้น
Book Value Per Share
=
ส่ วนของผูถื้ อหุ ้น
จานวนหุ ้น
=
Dividendsper share
Price per share
(M/B)
Price per share
Book valueper share
Dividend Yield
Market-to-Book
=
Value
89
การวิเคราะห์จุดคุม้ ทุน
(Break-even point Analysis)
จุดคุม้ ทุน คือ จุดที่รายได้เท่ากับค่าใช้จา่ ยพอดี
รายได้
=
ค่าใช้จา่ ย
รายได้
=
ค่าใช้จา่ ยคงที่ + ค่าใช้จา่ ยผันแปร
PQ
=
PQ – VQ =
Q (P-V)
=
Q =
F
P- V
F + VQ
F
F โดยที่ P
=
=
=
=
ราคาขายต่อหน่ วย
Q
ปริมาณที่ผลิต
F
ค่าใช้จา่ ยคงที่
V
ค่าใช้จา่ ยผันแปรต่อหน่ วย
P-V = กาไรผันแปรต่อหน่ วย
90
จุดคุม้ ทุน =
หรือ
=
ค่าใช้จ่าย คงที่
ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย
=
ค่าใช้จ่าย คงที่
กาไรผันแปร ต่อหน่ วย
ค่าใช้จ่ายคงที่
ร้อยละของก ่าไรผันแปร
ข้อมูลปี 25X1 สมมติค่าใช้จา่ ยบริหารและขาย
และดอกเบี้ยเป็ นค่าใช้จา่ ยคงที
ตัวอย่าง
จุดคุม้ ทุน =
220 ,000
20 %
= 1,100,000 บาท
91
การวางแผนกาไร
กิจการสามารถตั้งเป้ากาไรได้ โดยกาหนดกาไรที่ตอ้ งการหาปริมาณที่ขายที่ได้กาไรตามที่ตอ้ งการ
กาไร
E
=
=
รายได้ – ค่าใช้จา่ ย
PQ – F – VQ
FE
Q 
P-V
ตัวอย่าง ถ้าต้องการกาไร 120,000 บาท จะต้องขายเท่าไร
ปริมาณที่ขาย =
=
220 ,000  120 ,000
20%
1,700,000 บาท
ดังนั้นกิจการต้องขายให้ได้ 1,700,000 บาท เพื่อให้ได้กาไรเท่ากับ 120,000 บาท
92
การประเมินการลงทุน
การประเมินการลงทุนด้านการเงิน เราจะพิจารณาจาก
• ระยะเวลาคืนทุน (PAY BACK PERIOD)
• ค่าปั จจุบนั สุทธิ (NET PRESENT VALUE = NPV)
• อัตราผลตอบแทนภายใน (INTERNAL RATE OF
RETURN = IRR)
ตัวอย่าง
สมมติวางแผนลงทุนเปิ ดสาขาที่ 2 มีสถานที่ที่เลือก 2 แห่ ง คือ ทีม่ ีนบุรีกบั ทีป่ าก
ท่ อ ใช้ เงินลงทุนเท่ ากันคือ 25 ล้านบาท มีกาไรหลังหักภาษี และค่ าเสื่ อมราคา
ในแต่ ละปี ดังนี้
93
ปี ที่
1
2
3
4
สาขา 1 (มีนบุรี)
(ล้านบาท)
สาขา 2 (ปากท่อ)
(ล้านบาท)
12
10
8
5.4
35.4
5.4
8
10
12
35.4
94
ระยะเวลาคืนทุน
สาขา 1 มีนบุรี ระยะเวลาคืนทุน ได้เงินคืนมาครบเท่ากับเงินที่ลงไป 25
ล้าน
ปี ที่ 1 ได้คืน
= 12 ล้าน
ปี ที่ 2 ได้คืน
= 10 ล้าน (รวม 22 ล้าน ขาด 3 ล้าน)
ปี ที่ 3 ได้คืน เดือนละ 8/12 = 0.67
3 ล้าน ล้าน
3 ล้านบาท ได้คืน
=0.67
= 4.5 เดือน
รวมเวลาคืนทุน
=2 ปี กับ 4.5 เดือน
คาถาม โครงการสาขา 2 ปากท่อได้คืนภายใน
=
? ปี
95
ค่าปั จจุบนั สุทธิ
หาค่าปั จจุบนั ของกระแสเงินสดสุทธิ
สาขามีนบุรี
ปี ที่
กระแสเงินสด
1
12.0
2
10.0
3
8.0
4
5.4
รวมกระแสเงินสดเข้า
หัก กระแสเงินสดออก
ค่าปั จจุบนั สุทธิ
(NPV)
12 %
0.8929
0.7972
0.7118
0.6355
ค่าปั จจุบนั
10.715
7.972
5.694
3.432
27.813
25.000
1.813 ล้าน
บาท
96
สาขาปากท่อ
ปี ที่
กระแสเงินสด
1
2
3
4
รวมกระแสเงินสดเข้า
หัก กระแสเงินสดออก
ค่าปั จจุบนั สุทธิ (NPV)
5.4
8.0
10.0
12.0
12 %
0.8929
0.7972
0.7118
0.6355
ค่าปั จจุบนั
4.822
6.378
7.118
7.626
25.944
25.000
0.944
ล้านบาท
97
ค่าปั จจุบนั สุทธิ
• การพิจารณาลงทุนถ้ ามีโครงการเดียว จะตัดสิ นใจเพือ่ ค่าปัจจุบัน
สุ ทธิมีค่ามากกว่ า 0 (กระแสเงินสดสุ ทธิเป็ นบวก) แต่ ถ้ามี
มากกว่ า 1 โครงการ และต้ องการเลือกเพียงโครงการเดียวก็เลือก
โครงการทีม่ ีค่าปัจจุบันสุ ทธิสูงสุ ด จากตัวอย่ างข้ างต้ นเปิ ดสาขา
มีนบุรีจะดีกว่ า
98
อัตราผลตอบแทนภายใน
เป็ นการหาอัตราส่วนลดที่ทาให้เงินสดเข้าเท่ากับเงินสดออก
กระแส
ค่า
ปี ที่
12 %
14 %
เงินสด
ปั จจุบนั
4.822 0.8772
1
5.4
0.8929
6.378 0.7695
2
8.0
0.7929
0.7118
7.118 0.6750
3
10.0
0.6355
7.626 0.5921
4
12.0
=
25.944
กระแสเงินสดเข้า
=
25.000
กระแสเงินสดออก
=
0.944
กระแสเงินสดสุทธิ
0.944 ที่ 12 %
ค่าปั จจุบนั สุทธิ
-0.252 ที่ 14 %
ค่าปั จจุบนั สุทธิ
=
อัตราผลตอบแทนภายใน
=
ค่า
ปั จจุบนั
4.737
6.156
6.750
7.105
24.748
25,000
-0.252
12% + 0.944 X (14% - 12%)
(25.944 – 24.748)
13.58 %
99
อัตราผลตอบแทนภายใน
• การตัดสิ นใจลงทุนดูจากอัตราผลตอบแทนภายในกับ
อัตราผลตอบแทนทีน่ ักลงทุนต้ องการ
• ถ้ าอัตราผลตอบแทนภายในสู งกว่ าอัตราผลตอบแทนที่
ต้ องการจึงควรตัดสิ นใจลงทุน
100