รัชต์พงษ์Present - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Download Report

Transcript รัชต์พงษ์Present - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หัวข ้อและโครงร่างการค ้นคว ้าแบบอิสระ
หลักสูตรการจัดการความรู ้ วิทยาศาสตร ์
มหาบัณฑิต
วิทยาลัยศิลปะ สือ่ และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
่
1. ชือและนามสกุ
ล
ว่าทีร่ ้อยตรีร ัชต ์พงษ ์
หอชัยร ัตน์ รหัส
542132031
Acting Sub Lt. Ratchapong Hochairat Code
542132031
่ องการค้
่
2. ชือเรื
นคว้าแบบอิสระ
2.1 ภาษาไทย
ชุมชน
: การพัฒนาระบบสารสนเทศ คลังความรู ้
่
่ บ ้านหลังนาลด
้
เพือการจั
ดการความรู ้ เรือง
ของจังหวัดเชียงใหม่
2.2 ภาษาอังกฤษ : Development of Information
Systems Knowledge
Community
Center for Knowledge Management
after the Flood of Chiangmai Province
3. หลักการ ทฤษฎี เหตุผล และ/หรือสมมติฐาน
้ วม ในพืนที
้ ภาคเหนื
่
-การเกิดอุทกภัย นาท่
อ
โดยเฉพาะระหว่างเดือนสิงหาคม – ตุลาคม จะเป็ นช่วงของฤดู
่ อให ้เกิดความ
มรสุมทีจะก่
้
เสียหาย ข ้อมูลศูนย ์อุทกวิทยาและบริหารนาภาคเหนื
อตอนบน
้ วมของจังหวัดเชียงใหม่ เกิดผลกระทบหลาย
-สถานการณ์นาท่
ด ้าน
โดยเฉพาะ บ ้านเรือนเสียหาย 1,557 หลัง ข ้อมูลสานักงาน
ป้ องกันและบรรเทา
สาธารณจังหวัดเชียงใหม่
้
่
-หลายหน่ วยงานทังภาคร
ฐั เอกชน ผูเ้ ชียวชาญ
อาสาสมัคร จิต
อาสา ต่างพยายาม
่
ทีจะสนั
บสนุ นให ้ความรู ้ความช่วยเหลือแตกต่างกันไป ตาม
ปัจจัยและความพร ้อม
3. หลักการ ทฤษฎี เหตุผล และ/หรือสมมติฐาน
3. หลักการ ทฤษฎี เหตุผล และ/หรือสมมติฐาน
-ความรู ห้ รือ การตอบปั ญ หาอาจจะไม่ ค รอบคลุ ม และระบบ
สารสนเทศความรู ้ปัจจุบน
ั
่
่
อาจจะมีขอ้ มูลทีหลากหลาย
ไม่มีศูนย ์กลางขอ้ มูลเฉพาะเรือง
และก็ยงั ไม่ได ้มีการจัดการ
่ ทาใหป้ ระชาชนอาจจะไดร้ บั ความรู ้ไม่ ถูกตอ้ งและ
ความรู ้ทีดี
เหมาะสมกับสถานการณ์
ของแต่บ ้าน อย่างแท ้จริง
่ นปัจจัยสี่ เป็ นสิงจ
่ อ
่ าเป็ นเร่งด่วน
่ าศัย ซึงเป็
-บ ้านเรือนหรือทีอยู
่ ้องการฟื ้ นฟูซอ่ มแซม
ทีต
่ อทีช่
่ วยให ้บรรลุเป้ าหมาย
-การจัดการความรู ้ จึงเป็ นเครืองมื
และระบบสารสนเทศ
มีความสาคัญในการสนับสนุ น ในการให ้ความรู ้แก ้ไขปัญหา
อย่างถูกวิธ ี
3. หลักการ ทฤษฎี เหตุผล และ/หรือสมมติฐาน
-คลัง ความรู ้ชุม ชน มีร ะบบสารสนเทศด า้ นการจัด การ
ความรู ้ แต่ไม่ สมบู รณ์จาเป็ นตอ้ งพัฒ นา เพื่อประโยชน์
่ กต ้อง
ต่อประชาชน ในการร ับความรู ้ทีถู
และเหมาะสม
3. หลักการ ทฤษฎี เหตุผล และ/หรือสมมติฐาน
3. หลักการ ทฤษฎี เหตุผล และ/หรือสมมติฐาน
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
่
4.1 แนวคิดเกียวกั
บความรู ้และการจัดการความรู ้
-ความหมายความรู ้
-แหล่งเก็บความรู ้ในองค ์การ
-ประเภทของความรู ้
-ระดับความรู ้
-การสร ้างความรู ้ในองค ์การ
-ความหมายของการจัดการความรู ้
-กระบวนการจัดการความรู ้
-องค ์ประกอบหลักของการจัดการความรู ้
้ ท
่ าให ้การจัดการความรู ้ประสบความสาเร็จ
-ปัจจัยเอือที
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
่
4.1 แนวคิดเกียวกั
บความรู ้และการจัดการความรู ้
่
จากแนวคิดเกียวกั
บความรู ้และการจัดการความรู ้ ทาใหเ้ รา
สามารถรู ้ว่าความรู ้คืออะไร เราสามารถหาความรู ้ไดจ้ ากแหล่ง
่
ใดบ า้ ง มีค วามรู ้กีประเภท
แต่ล ะประเภทเป็ นอย่ า งไร การสร ้าง
ความรู ้ท าได อ้ ย่ า งไร แล ว้ เราสามารถน ามาจัด การความรู ้ไ ด ้
่
อย่างไร ซึงเราสามารถด
าเนิ นการตามกระบวนการจัดการความรู ้
่ า มาศึกษา องค ์ประกอบหลักของการจัดการ
7 กระบวนการทีจะน
่ เราจะท
่
ความรู ้ แบบจาลองปลาทู ทาให ้เราได ้ทราบว่า เรืองที
า ทา
่ ซึง่
KM ไปทาไมให ้เราได ้วิเคราะห ์ดู และอีกอย่างการแลกเปลียน
่ เราได
่
กันและกันก็เป็ นหัวใจสาคัญในการทา KM และสิงที
้จัดเก็บ
่
และแลกเปลียนความรู
้ เราสามารถนาเทคโนโลยีมาประยุกต ์ใช ้ใน
่
การถ่ายทอดและเผยแพร่องค ์ความรู ้และแลกเปลียนหมุ
นเวียนได ้
่ อ ยู่ ห ลายปั จ จัย ที่ท าให ก
เช่น กัน ซึงมี
้ ารจัด การความรู ้ประสบ
ความสาเร็จ
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
่
4.2 แนวคิดเกียวกั
บระบบสารสนเทศ
-ความหมายของระบบสารสนเทศ
-ประเภทของระบบสารสนเทศ
-ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศ
้
-ขันตอนการจั
ดทาระบบสารสนเทศ
-ประโยชน์ของการจัดทาระบบสารสนเทศ
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
่
4.2 แนวคิดเกียวกั
บระบบสารสนเทศ
่
จากแนวคิดเกียวกั
บระบบสารสนเทศ นั้นทาใหเ้ ราได ้
ทราบถึง ประเภทของระบบสารสนเทศ ที่เราจะสามารถ
่
่ เราได
้ศึกษานั้น เป็ นระบบสารสนเทศ
วิเคราะห ์ได ้ว่าเรืองที
ประเภทไหน ส่วนประกอบ ๆ ดว้ ยอะไรบ า้ ง ถา้ เราจะท า
่ น
่ นตอนอะไรมี
้
้
จะต อ้ งเริมต
้ ทีขั
กขั
ี่ นตอน
แล ว้ สิ่งที่เราจะ
พัฒนาระบบสารสนเทศสามารถช่วยก่อใหเ้ กิดประโยชน์
ดา้ นประสิทธิภาพและประสิทธิผลไดอ้ ย่างไรมากน้อยแค่
ไหน
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
่
4.3 แนวคิดเกียวกั
บอินเตอร ์เน็ ต
-ความหมายของอินเตอร ์เน็ ต
-การให ้บริการต่างๆ บนอินเตอร ์เน็ ต
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
่
่ ้ศึกษามา จะทา
จากแนวคิดเกียวกั
บอินเตอร ์เน็ ตทีได
ให เ้ ราได ร้ บ
ั รู ว้ ่ า อิ น เตอร เ์ น็ ตมี ค วามส าคัญใน การ
เผยแพร่แ ละการถ่ า ยทอดองค ค์ วามรู ้ที่เราได ร้ วบรวม
สังเคราะห ์ความรู ้ใหถ้ งึ ประชาชนไดอ้ ย่างสะดวกรวดเร็ว
แ ล ะ ทร า บ ถึ ง ว่ า มี ก า รใ ห ้บ ริก า ร บ ้า ง บ น เ ค รือ ข่ า ย
อิ น เ ต อ ร เ์ น็ ต แ ล ะ บ ริ ก า ร เ ห ล่ า นั้ น ส า ม า ร ถ น า ม า
้ ึ ก ษา มี อ ะไรบ า้ งที่ เป็ น
ประยุ ก ต ใ์ ช ก้ ับ งานที่ เราได ศ
ประโยชน์
่ ยวข้
่
4. แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจ ัยทีเกี
อง
่
ภายใต ้แนวคิดและทฤษฎีทเกี
ี่ ยวข
้อง ดังต่อไปนี ้
4.4 ทบทวนวรรณกรรม
่
-การนาระบบสารสนเทศมาใช ้เพือการจั
ดการความรู ้
-การจัดการความรู ้กับการพัฒนางาน และชุมชน
่ ยวข
่
จากการทบทวนวรรณกรรมทีเกี
อ้ งจะเห็ นไดว้ ่า มี
ผูท้ ศึ
ี่ กษาได ้นา หลัก การของการจัด การความรู ้ และ
ระบบสารสนเทศมาพัฒนาก่อใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด ใน
้
องค ์กร หน่ วยงาน หรือแม้กระทังการพั
ฒนาชุมชน ดว้ ย
้
่ ผูไ้ ด ้
เหตุนีเองผู
ศ้ ก
ึ ษาจึงได ้เห็นประโยชน์จากงานต่างๆ ทีมี
ศึกษามาแลว้ จึงได ้นาหลักการทฤษฎี ผลงานศึกษานามา
ประยุ ก ต ใ์ ช แ้ ละพัฒ นาต่ อ ยอดให ก
้ ่ อ เกิด ประโยชน์ต่ อ
้ั ้
ส่วนรวม ในการศึกษาวิจยั หัวข ้อในครงนี
5. วัตถุประสงค ์ของการศึกษา
่ ฒนาระบบสารสนเทศ คลังความรู ้ชุมชน สาหร ับการ
1. เพือพั
จัดการความรู ้
่ บ ้านหลังนาลด
้
เรือง
ของจังหวัดเชียงใหม่ ให ้ตอบสนอง
ความต ้องการ
ของประชาชน และเป็ นศูนย ์กลางความรู ้ ในการแก ้ปัญหา
้ วม
นาท่
่ บ ้านหลังนาลด
้
เรือง
อย่างถูกต ้องและเหมาะสมมากขึน้
่
2. เพือประเมิ
นผลของการใช ้ระบบสารสนเทศ คลังความรู ้
่ ฒนาขึน้
ชุมชน ทีพั
6. ประโยชน์ทจะได้
ี่
ร ับจากการศึกษาเชิงทฤษฎีและ/
่ การจัดการความรู ้
1. ได ้ระบบสารสนเทศ คลังความรู ้ชุมชน ทีมี
่ บ ้านหลังนาลด
้
เรือง
่
ทีประชาชน
สามารถ นาความรู ้ไปใช ้ได ้อย่างถูกต ้องและ
เหมาะสมมากขึน้
้
่ บ ้านหลังนาลด
สาหร ับการ
2. มีศน
ู ย ์กลางความรู ้ เรือง
ช่วยเหลือฟื ้ นฟู ผูป้ ระสบภัย
้ วมหลังนาลด
้
่ ยวข
่
นาท่
แก่ประชาชน หรือหน่ วยงานทีเกี
้อง ใน
การนาไปเรียนรู ้
และประยุกต ์ใช ้
6. ประโยชน์ทจะได้
ี่
ร ับจากการศึกษาเชิงทฤษฎีและ/
่
3. มีระบบการเก็บร ักษาองค ์ความรู ้เดิม แลกเปลียนองค
์ความรู ้
่ น
ใหม่ๆ และเพิมพู
องค ์ความรู ้ใหม่ๆ ในลักษณะของการร่วมมือทางวิชาการ
จากนักวิชาการ
่
และผูม้ ค
ี วามรู ้ ในความรู ้ สาหร ับการช่วยเหลือ
ผูเ้ ชียวชาญ
ฟื ้ นฟู ผูป้ ระสบภัย
้ วมหลังนาลด
้
นาท่
่
้
กต ์ใช ้เพือการ
4. สามารถนาแนวคิดและขันตอนไปประยุ
วางแผนและกาหนด
แนวทางปฏิบต
ั ก
ิ าร ในการพัฒนาระบบสารสนเทศ คลัง
ความรู ้ชุมชน
่
่ นๆ
่ ต่อไป
เพือการจั
ดการความรู ้ในเรืองอื
7. ขอบเขตและวิธก
ี ารวิจ ัย
้ั เป็
้ นการวิจยั และพัฒนา (Research and
การวิจยั ครงนี
Development)
การพัฒ นาระบบสารสนเทศ คลัง ความรู ้ชุม ชน เพื่ อการจัด การ
่ บ า้ นหลัง น้ าลด ของจัง หวัด เชีย งใหม่ ให ถ
ความรู ้ เรือง
้ ูก ต อ้ งและ
้ั
เหมาะสม โดยการประยุกต ข
์ นตอน
ตามแนวคิดการจัดการความรู ้
และใช ้ระเบียบวิจยั แบบเชิง คุณภาพ(Qualitative research) และ
้
้
กระบวนการขันตอนตามแนวคิ
ด 7 ขันตอน
ของการจัดการความรู ้
้
ได ้แก่ การบ่งชีความรู
้ (Knowledge Identification) การสร ้าง
และแสวงหาความรู ้ (Knowledge Creation and Acquisition)
การจัดความรู ้ใหเ้ ป็ นระบบ (Knowledge Organization) การ
่
ประมวลและกลันกรองความรู
้ (Knowledge Codification and
Refinement) การเข ้าถึงความรู ้ (Knowledge Access) การ
่
แบ่งปั นแลกเปลียนความรู
้ (Knowledge Sharing) การเรียนรู ้
(Leaning)
7. ขอบเขตและวิธก
ี ารวิจ ัย
้
1. การบ่งชีความรู
้
2. การสร ้าง และแสวงหาความรู ้
3. การจัดความรู ้ให ้เป็ นระบบ
่
4. การประมวล และกลันกรองความรู
้
่
ดการ
5. การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศเพือการจั
ความรู ้
่
6. การประเมินคุณภาพสารสนเทศเพือการจั
ดการเรียนรู ้
7. การนา ISO 12207 มาเป็ นกรอบในการดาเนิ นกระบวนการ
ทางาน 15 กิจกรรม
่ ใช้
่ ในการดาเนิ นการวิจ ัยและรวบรวมข
8. สถานทีที
ห ้องคลังความรู ้ชุมชน สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสช
ู่ ม
ุ ชน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล ้านนา
้ เ่ ลขที่ 98 หมู่ที่ 8 ตาบลป่ าป้ อง อาเภอดอยสะเก็ด
ตังอยู
จังหวัดเชียงใหม่
9. ระยะเวลาในการดาเนิ นการวิจ ัย
เดือน มีนาคม – กรกฎาคม 2555
10. เอกสารอ้างอิง
Marquardt, M. (1996), Building the Learning Organization.
New York: McGrawHill,
Nonaka, kujiro and Takeuchi, Hirotaka. (2000), Classic work:
Theory of Organizational
Knowledge Creation. In Morey, D., Maybury, M.T. and
Thuraisingham, B.M. Knowledge
Management: Classic and Contemporary Work .Mass:
The MIT Press.
่
กรณ์ดนัย วิทยานุ การุณ. (2551). การออกแบบสารสนเทศเพือการ
่
จัดการความรู ้เรืองเรื
อนกาแล
่ ลปะและการออกแบบสือ)
่
วิทยานิ พนธ ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สือศิ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่.
่
่ ระบบสารสนเทศเพือ
่
คลังความรู ้สานักงานชลประทานที15.
2554. เรือง
การจัดการ [ระบบออนไลน์]
่ http://irrigation.rid.go.th/rid15/ (31 ธันวาคม
แหล่งทีมา
2554)
ดร.ณพศิษฏ ์ จักรพิทก
ั ษ ์. ทฤษฎีการจัดการความรู ้. วิทยาลัยศิลปะ สือ่
และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2552
ธันยพร วณิ ชฤทธา. (2550). การจัดการความรู ้ในชุมชน: กรณี ศก
ึ ษา
10. เอกสารอ้างอิง
บุญดี บุญญากิจ และคณะ. การจัดการความรู ้ จากทฤษฎีส่ก
ู ารปฏิบต
ั .ิ
่
สถาบันเพิมผลผลิ
ตแห่งชาติ,
่ ั จากัด (มหาชน), 2549.
บริษท
ั ซีเอ็ดยูเคชน
ปณิ ตา พ้นภัย. การบริหารความรู ้ (Knowledge Management) : แนวคิด
และกรณี ศก
ึ ษา.
เอกสารวิจยั ภาควิชาร ัฐประศาสนศาสตร ์ คณะร ัฐศาสตร ์ จุฬาลงกรณ์ลง
กรณ์มหาวิทยาลัย,2544
่
ประพนธ ์ ผาสุกยืด. การจัดการความรู ้. สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู ้เพือ
สังคม (สคส.)
บริษท
ั ใยไหม ครีเอทีฟกรุฟ
๊ จากัด, 2549.
่ อินเทอร ์เน็ ตคืออะไร.
ผูช
้ ว่ ยศาสตราจารย ์ ดร.ภาสกร เรืองรอง. 2550. เรือง
่
[ระบบออนไลน์] แหล่งทีมา
http://www.thaiwbi.com/course/internet/internet.html (31
ธันวาคม 2554)
้
พรธิดา วิเชียรปัญญา. การจัดการความรู ้ : พืนฐานและการประยุ
กตใช ้.
กรุงเทพฯ. ธรรกมลการพิมพ ์ ,2547
ภคณัฐ ฌายีเนตร. (2551). การพัฒนาระบบต ้นแบบการจัดการความรู ้สาหร ับ
ฝ่ ายบริหาร
โครงข่ายจังหวัดลาปาง บริษท
ั ทีทแี อนด ์ที จากัด (มหาชน) การค ้นคว ้า
แบบอิสระบริหารธุรกิจ
10. เอกสารอ้างอิง
่
วิชาระบบสารสนเทศเพือการจั
ดการ มหาวิทยาลัยนอร ์ท – เชียงใหม่. 2554.
่ ความรู ้เบืองต
้ ้นเกียวกั
่
เรือง
บ
่
ระบบสารสนเทศ [ระบบออนไลน์] แหล่งทีมา
http://elearning.northcm.ac.th (31 ธันวาคม 2554)
ศิริขวัญ ศรีทบ
ั ทิม. (2552). การพัฒนาระบบการรวบรวมความรู ้ ด ้านคหกรรม
ศาสตร ์ กรณี ศก
ึ ษา ภูมป
ิ ัญญา
่ งหวัดกาญจนบุร ี การค ้นคว ้าแบบอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
ท ้องถินจั
(เทคโนโลยีสารสนเทศ)
มหาวิทยาลัยศิลปากร
่ ลติมเี ดีย โรงเรียนบ ้านโนนกู่
สาระการเรียนรู ้ การงานอาชีพ และเทคโนโลยี สือมั
้ การศึ
่
สานักงานเขตพืนที
กษา
่ ข ้อมูลและสารสนเทศ [ระบบออนไลน์]
ขอนแก่น เขต 1. 2554. เรือง
่
แหล่งทีมา
http://school.obec.go.th (31 ธันวาคม 2554)
สุชาดา กีระนันทน์. (2541). เทคโนโลยีสารสนเทศสถิต:ิ ข ้อมูลในระบบ
สารสนเทศ. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรศักดิ ์ สันติสถิตพงศ ์ (2551). ระบบจัดการความรู สาหร ับโครงการ ศูนย
พัฒนาเด็กคริสตจักรเวียงทอง
การค ้นคว ้าแบบอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมซอฟต แวร )
10. เอกสารอ้างอิง
http://www.kaewpanya.rmutl.ac.th/m2554