ขั้นที่ 1

Download Report

Transcript ขั้นที่ 1

การทดสอบสมมติฐานทีอ
่ ยูในรู
ปของความถี่
่
หรือ ขอมู
้ ลในรูปของสั ดส่วน หรือ ขอมู
้ ล
จาแนกประเภท
(Tests for Categorical Data)
1. การทดสอบสมมติฐานคาสั
่ ดส่วนของประชากร
กลุมเดี
่ ยว (Z-Test)
2. การทดสอบสมมติฐานคาสั
่ ดส่วนของประชากร
สองกลุม
่ (Z-Test)
3. การทดสอบสมมติฐานคาสั
่ ดส่วนของประชากร
k กลุม
่ ( k > 2)
(Chi-Square Test)
Tests for Categorical Data
ในบางครัง้ เราจะสนใจขอมู
้ ลในรูปของ
สั ดส่วน
หรือขอมู
้ ลทีเ่ ป็ นขอมู
้ ลเชิงคุณภาพ
เช่น
1. จานวนของเสี ยทีเ่ กิดขึน
้ ในการผลิตสิ นค้า
แตละครั
ง้
่
2. สั ดส่วนของลูกคาที
ษท
ั
้ ใ่ ช้สิ นคาของบริ
้
แหงหนึ
่ง
่
3. สั ดส่วนของคนไทยทีเ่ ห็ นดวยกั
บการปิ ด
้
ป่าคิดเป็ น 90% เป็ นตน
้
1. การทดสอบสมมติฐานคาสั
่ ดส่วน
ของประชากรกลุมเดี
่ ยว
ขัน
้ ตอนการทดสอบคาสั
่ ดส่วนของ
ประชากรกลุมเดี
่ ยว
ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติฐาน H0
และ H1
ขัน
้ ที่ 2 กาหนดระดับนัยสาคัญ () p  P
Z
ขัน
้ ที่ 3
กาหนดตัวทดสอบสถิตแ
ิ ละค
านวณ
pq
คาสถิ
ต ิ คือ
่
n

ขัน
้ ที่ 4
หาอาณาเขตวิกฤต หรือกาหนด
ขอบเขตในการปฏิเสธสมมติฐาน
ขัน
้ ที่ 5
ตัดสิ นใจปฏิเสธ/ยอมรับสมมติฐาน
ขัน
้ ที่ 6
สรุปผล
ตัวอยาง
่
โรงงานผลิตกลองพลาสติ
กแหงหนึ
่ง
่
่
ไดสุ
องที
ผ
่ ลิตออกมา 400
้ ่ มตัวอยางกล
่
่
กลอง
เมือ
่ ตรวจสอบดูแลว
่
้ พบวามี
่
จากผลการ
ไ่ มได
12 กลองที
้
่ มาตรฐาน
่
ตรวจสอบนี้จะสรุปไดหรื
้ อไมว่ า่ ระบบ
การผลิตให้สิ นคาที
้ ไ่ มได
่ มาตรฐาน
้
มากกวา่ 2% กาหนด  = 0.05
คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติฐาน
 ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  = 0.05
 ขัน
้ ที่ 3 เลือกและคานวณคาสถิ
ติ
่
คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
่ กฤต ได้ Z0.05 =
1.645
 ขัน
้ ที่ 5 ยอมรับ H0ปฏิเสธ H1
 ขัน
้ ที่ 6 สรุปไดว
ไ่ มได
้ า่ กลองที
่
่ ้
มาตรฐานมีไมมากกว
า่ 2% ทีร่ ะดับ
่
ตัวอยาง
่
ในการศึ กษาพฤติกรรมการสวมหมวกกันน็ อ
คขณะขับขีร่ ถจักรยานยนตของนั
กศึ กษา
์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โดยการสุ่ม
ตัวอยางนั
กศึ กษา 500 คน
สั งเกต
่
พฤติกรรมดังกลาว
ณ จุดหนึ่งบนถนน
่
ภายในมหาวิทยาลัย บันทึกวาใส
่ ่ หมวก
กันน็ อค/ไมใส
ปรากฏวามี
่ ่ หมวกกันน็ อค
่
นักศึ กษาใส่หมวกกันน็ อค จานวน 75 คน
จะสรุปทีร่ ะดับนัยสาคัญ 0.01 ไดหรื
้ อไมว่ า่
คาตอบ
H0ฐาน
: p  0.2
 ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติ
 ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  H1
= 0.01
: p < 0.2
Z
 ขัน
้ ที่ 3 เลือกและคานวณคาสถิ
ติ
่
pp
ˆ
Z =
n = 500
x = 75
x
n
75
500
ˆp
=
=
= 0.15
=
pq
n
0.15  0.20
.20  .80
500
= -2.80
คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
่ กฤต ได้ Z-0.01= -2.33
α
p
1- 
Z = -2.33
p
<

0.2 < - 0.2
 ขัน
้ ที่ 5 Z = -2.80
2.33 ดังนั้น ปฏิเสธ
H0 ยอมรับ H1
 ขัน
้ ที่ 6 สรุปไดว
้ า่ โดยภาพรวม นักศึ กษา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใส่หมวกกันน็ อคขณะ
ขับขีร่ ถจักรยานยนต ์ น้อยกวา่ 20% ทีร่ ะดับ
ตัวอยาง
่
บริษท
ั ผลิตแชมพูชนิดหนึ่งโฆษณาวา่
หลังจากทีเ่ ขาไดโฆษณาแชมพู
ชนิด
้
ใหมเป็
จะมีผู้
่ นเวลา 2 เดือนแลว
้
นิยมใช้แชมพูชนิดนี้มากกวา่ 60%
เมือ
่ ไดโฆษณาตามเวลาที
ก
่ าหนดแลว
้
้
ไดแจกตั
วอยางแชมพู
ให้คน 300 คน
้
่
ปรากฏวามี
่ คาตอบกลับมาวาชอบใช
่
้
แชมพูนี้ถงึ 220 คน
ให้ทดสอบวา่
คาโฆษณาเป็ นจริงทีร่ ะดับนัยสาคัญ
ตัวอยาง
่
จากกลุมตั
กศึ กษามหาวิทยาลัย
่ วอยางนั
่
แหงหนึ
่ง
จานวน 90 คน
มีรถ
่
ส่วนตัวใช้ 28 คน
จงทดสอบวา่
อัตราส่วนของนักศึ กษามีรถส่วนตัว
มากกวา่ 25 % หรือไมที
่ ร่ ะดับ
นัยสาคัญ 0.05
2. การทดสอบสมมติฐานคาสั
่ ดส่วน
ของประชากรสองกลุม
่
ความแตกตางระหว
างสั
ดส่วนของ
่
่
ประชากร 2 กลุม
่
1. ขอสงสั
ยตอประเด็
นปัญหา
“สั ดส่วน
้
่
ของตัวอยางแตกต
างกั
นหรือไม”่
่
่
 H0 : p1 = p2
 H1 : p1  p2α/2
α/2
1- 
p1=p2
p1p2

Z
1

2
p1p2
Z
1

2
ความแตกตางระหว
างสั
ดส่วนของ
่
่
ประชากร 2 กลุม
่
2.
n1 n2
1 2
n1   (n1 > 30)
n2 (n2 > 30)
x1
x2
ˆp 1 = n
ˆp 2 = n
2
1
x1  x 2
qˆ = 1 - ˆp
ˆp =
n1  n 2
ความแตกตางระหว
างสั
ดส่วนของ
่
่
ประชากร 2 กลุม
่
n1 ˆp > 5 , n1 qˆ > 5 , n2 ˆp > 5
ˆp 1
Z =
ˆp
2
ˆp 1  ˆp 2
 1
1 
ˆp qˆ   
 n1 n 2 
n2 qˆ > 5
Z
ตัวอยาง
่
จากการสุ่มตัวอยางแม
บ
งเทพ ที่
่
่ านในกรุ
้
ตองท
างานนอกบานมา
100 คน พบวามี
้
้
่
เครือ
่ งซักผา้ 70 คน และทีไ่ มได
่ ท
้ างาน
นอกบาน
150 คน พบวามี
่ งซักผา้
้
่ เครือ
72 คน จงสรุปโดยการทดสอบสมมติฐาน
วาสั
่ งซักผาของแม
บ
่ ดส่วนการใช้เครือ
้
่ านใน
้
กรุงเทพทีท
่ างานนอกบานมากกว
าของ
้
่
แมบ
ไ่ มได
0.1
่ านที
้
่ ท
้ างานนอกบาน
้
ณ ระดับนัยสาคัญ 0.05
คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติฐาน
 ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  = 0.05
 ขัน
้ ที่ 3 เลือกและคานวณคาสถิ
ติ
่
 ขัน
้ ที่ 4
 ขัน
้ ที่ 5
 ขัน
้ ที่ 6
ตัวอยาง
่
เพือ
่ ศึ กษาเปรียบเทียบสั ดส่วนของประชาชน
ทีอ
่ ยูในกรุ
งเทพ และตางจั
งหวัดเรือ
่ งการ
่
่
ออมทรัพย ์ โดยทาการสุ่มตัวอยางจาก
่
กรุงเทพ 200 คน พบวามี
่ การออมทรัพย ์
120 คน และจากตางจั
งหวัด 500 คน
่
พบวามี
่ การออมทรัพย ์ 240 คน จากขอมู
้ ล
จงทดสอบวาสั
่ ดส่วนคนกรุงเทพ มีการออม
ทรัพยมากกว
าคนต
างจั
งหวัด ทีร่ ะดับ
่
่
์
นัยสาคัญ 0.025
คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติฐาน
 ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  = 0.025
 ขัน
้ ที่ 3 เลือกและคานวณคาสถิ
ติ
่
 ขัน
้ ที่ 4
 ขัน
้ ที่ 5
 ขัน
้ ที่ 6
ตัวอยาง
่
ในประเด็นปัญหาของตัวอยางก
อนหน
ดส่วน
่
่
้ า ถาสนใจสั
้
การสวมหมวกกันน็ อคขณะขับขีร่ ถจักรยานยนตของ
์
นักศึ กษาชายและหญิงของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี
ขอสงสั
ยวานั
้
่ กศึ กษาหญิงจะสวมหมวกกันน็ อค ดวย
้
สั ดส่วนมากกวาของนั
กศึ กษาชาย
่
เพศ จากผลการสารวจ
พฤติกจรรม
ตัวอยางนั
กศึ กษา
าแนกผลการศึ กษาของชายและหญิง
่
ชาย หญิง
ไดดั
้ งตาราง สวมหมวก
40
35
ไมสวมหมวก
่
260
165
รวม
300
200
คาตอบ
 ขอสงสั
ยตามประเด็นปัญหา คือ นักศึ กษา
้
หญิงสวมหมวกกันน็ อคดวยสั
ดส่วนมากกวา่
้
นักศึ กษาชาย
 ให้
p1 เป็ นสั ดส่วนของนักศึ กษาหญิงทีส
่ วม
หมวกกันน็ อค

p2 เป็ นสั ดส่วนของนั
ศึ ก<ษาชายที
ส
่ วมหมวก
H0 :กp1
p2
กันน็ อค
H1 : p1 > p2
 ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติฐาน
 ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  = 0.05
n1 = 200
x1 = 35
n2 = 300
x2 = 40
35
40
ˆp 2 =
200
300
35  40
ˆp = 200  300 = 0.15
qˆ = 1 - ˆp
= 0.85
ˆp 1 =
n1ˆp
n1 qˆ
n2ˆp
n2 qˆ
=
=
=
=
;
200 0.15
200 0.85
300 0.15
300 0.85
= 30 > 5
= 170 > 5
= 45 > 5
= 255 > 5
ˆp
ˆp 1
Z =
=
Z
2
pˆ 1  pˆ 2
 1
1 

pˆ qˆ 

n 2 
 n1
40
300
 1
0.15  0.85 
 200
= 1.28
35
200


1
300



คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
่ กฤต ได้ Z0.05= 1.645
0.95
p1 <
p2
0.05
p1>p2
Z = 1.645
 ขัน
้ ที่ 5 Z = 1.28 < 1.645 ดังนั้น ยอมรับ H0
ปฏิเสธ H1
 ขัน
้ ที่ 6 สรุปไดว
้ า่ โดยภาพรวมไมสามารถ
่
สรุปไดว
้ านั
่ กศึ กษาหญิงสวมหมวกกันน็ อคขณะ
ขับขีร่ ถจักรยานยนตมากกว
านั
์
่ กศึ กษาชาย ที่
ตัวอยาง
่
จากการฉี ดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอใน
โรงเรียนแหงหนึ
่งพบวาเด็
่
่ กผู้หญิง
100 คน
ทีฉ
่ ี ดวัคซีนแลวเป็
้ นโรค
่ ี ดวัคซีน 200
16 คน
เด็กผู้ชายทีฉ
คน
แลวเป็
จง
้ นโรค 20 คน
ทดสอบสั ดส่วนของเด็กผู้หญิงทีเ่ ป็ นโรค
จะมีมากกวาเด็
่ กผู้ชายทีเ่ ป็ นโรคมากกวา่
5% ทีร่ ะดับนัยสาคัญ 0.10
ตัวอยาง
่
บริษท
ั ผลิตรถยนต ์ 2 ยีห
่ ้อ
ตองการตรวจสอบดู
้
เปอรเซ็
างของคุ
ณภาพกระจก
่
์ นตของความแตกต
์
รถยนตที
่ ลิตโดยใช้เทคโนโลยีใหม่
ปรากฏวาใน
่
์ ผ
รอบ 1 ปี
มีผซื
ู อ
้ รถไปแลวกลั
บมารองเรี
ยน
้
้
้
ยีห
่ ้อ จานวนรถ (คัน) ที่
จานวนรถทีม
่ า
ดังนี้
1
2
ขายไป
120
150
รองเรี
ยน
้
16
15
ถาสั
องเรี
ยนน้อยก็ถอ
ื วาคุ
้ ดส่วนผูมาร
้
้
่ ณภาพ
กระจกรถยนตยี
่ ้อนั้นดี ให้ทดสอบวาคุ
่ ณภาพของ
์ ห
กระจกรถยนตทัง้ 2 ยีห
่ อ
มีคุณภาพแตกตางกัน
3. การทดสอบสมมติฐานคาสั
่ ดส่วน
ของประชากร k กลุม
่ ( k > 2)
(Chi-Square Test)
การทดสอบสั ดส่วนกรณี k
กลุม
่ ( k > 2)
ขอมู
จ
่ ะวัด
้ ลเชิงคุณภาพนั้น เราจะพบวา่ ไมสามารถที
่
คาสิ
่ นใจออกมาเป็ นตัวเลขหรือคาที
่ น่นอนได้
่ ่ งทีส
่ แ
เช่น
ความคิดเห็ น
ความชอบ
เพศ
และ
ศาสนา
เป็ นตน
แตสามารถที
จ
่ ะจาแนกขอมู
้
่
้ ล
เหลานี
ได้
เช่น
่ ้ออกเป็ นกลุมๆ
่
ความคิดเห็ นก็จาแนกออกเป็ น เห็ นดวยอย
างยิ
ง่
้
่
เห็ นดวย
และไมเห็
ความชอบก็จาแนก
้
่ นดวย
้
ออกเป็ น ชอบมาก ชอบปานกลาง ชอบน้อย และ
ไมชอบ
่
เพศก็
จาแนกออกเป็ น
ชาย และหญิง
2

ศาสนาก็จาแนกออกเป็ น
พุทธ
คริสต ์ และ
อิสลาม
เป็ นตน
้
การทดสอบสั ดส่วนกรณี k
กลุม
่ (k > 2)
การทดสอบแบบไคสแควรเป็
์ นการ
เปรียบเทียบความถีท
่ ส
ี่ ั งเกต (Oi) กับ
ความถีท
่ ค
ี่ าดวาควรจะเป็
นตามทฤษฎี
่
ท
่ ค
ี่ าสั
(Ei) ซึง่ ถาความถี
่ งเกตสอดคลอง
้
้
กับความถีต
่ ามทฤษฎีหรือขอก
้ าหนด
คา่ Oi และ Ei จะใกลเคี
้ ยงกันหรือ
เทากั
เมือ
่ คานวณคา่ จะไดค
่ น
้ า่
ใกลเคี
แตถ
้ ยงหรือเทากั
่ บศูนย ์
่ า้
ความถีท
่ ส
ี่ ั งเกตไมสอดคลองกับความถี่
ขอตกลงเบื
อ
้ งตนในการใช
้
้
้สถิต ิ
ทดสอบไคสแควร ์
ความถีท
่ ค
ี่ าดไวของแต
ละระดั
บ Ei ไมควรต
า่ กวา่
้
่
่
5
ถามี
5 ให้ทาการรวมขอมู
้ ระดับใดตา่ กวา่
้ ล
ความถีก
่ บ
ั ความถีท
่ อ
ี่ ยูในระดั
บทีต
่ ด
ิ กัน
่
 ไมสามารถใช
่
้ไดกั
้ บ Repeated Measures
Design

รูปแบบของการวัดซา้ (repeated measures designs)
มักนิยมใช้เป็ น 2 ลักษณะ คือ
 ใช้การวัดซา
้ ไปในตัวแปรทีท
่ าการศึ กษา
้ ตัง้ แต่ 1 ครัง้ ขึน
(วัดซา้ โดยกาหนดช่วงเวลาในการวัด เช่น ศึ กษาผล
ของการให้ยา โดยวัดผลที่ ชม. ที่ 1, 2 และ 3
เป็ นตน)
้
ขอจ
้ ากัดของการใช้ไคสแควร ์
การทดสอบดวยไคสแควร
เหมาะสมกั
บ
้
์
ตัวอยางขนาดใหญ
ถาขนาดตั
วอยางเป็
น
่
่
้
่
4 หรือ 5 เทาของจ
านวนกลุมค
่
่ าไคสแควร
่
์
จะประมาณไดค
างดี
แมว
่
้ อนข
่
้
้ าค
่ าความถี
่
คาดวาจะเป็
นตามทฤษฎีจะน้อย
อยางไรก็
่
่
ดีไมควรน
ค
่ าดวาจะเป็
น
่
้ อยกวา่ 5 ถาความถี
้
่
ตามทฤษฎีของกลุมใดน
่
้ อยกวา่ 5 (Ei < 5)
จะแกโดยรวมกั
บกลุมที
่ ยูใกล
เคี
้
่ อ
่
้ ยง ซึง่ จะทา
ให้ดีกรีความเป็ นอิสระลดลง
ทางแกที
่ ก
ี ็
้ ด
ขอจ
้ ากัดของการใช้ไคสแควร ์
 ถาดี
้ กรีความเป็ นอิสระเทากั
่ บ 1 หรือระดับ
ขอมู
้ ลมีเพียง 2 ระดับ และจานวน
ความถีท
่ ง้ั หมดน้อยกวา่ 50 เพือ
่ ให้การ
ประยุกต ์
ไคสแควรใช
ึ้
Frank Yate ได
์ ้ไดดี
้ ขน
2 ้
k [ไ

E

0
.
5
]
เสนอให้ปรับตั2วแปรที
่ Oมiต
อเนื
่
อ
งเป็
นค
า่
i
่ ่
corrected
โดยนิ

ตอเนื
่
อ
ง
ยามไคสแควรดั
งนี้
่
์
E
i1
i
แตถ
วอยางมากกว
า่ 50 ก็ไม่
่ าขนาดตั
้
่
จาเป็ นตองปรั
บคาไคสแควร
้
่
์
สรุปการทดสอบดวยสถิ
ต ิ Chi้
Square
ชนิดการทดสอบ
ตัวสถิต ิ
การทดสอบภาวะเอก
2
k
O

E
 i i
2
df  k  1
พันธุ ์
 
Ei
i 1
(Test of
2
k
Homogeneity)
 Oi  E i 
2
 
df = k-1-m
1. การแจกแจงทาง
Ei
i 1
เดียว
2
r
c
 O ij  E ij 
ri c j
การทดสอบภาวะสารูป
2
 
E ij 
สนิทดี
E ij
j 1 i 1
N
(Test of Goodness of
df  ( r  1)( c  1)
Fit)
การทดสอบภาวะเอก
พารามิเตอรที
่ ดสอบดวยสถิ
ติ
้
์ ท
Chi-Square
การทดสอบสมมติฐานสาหรับขอมู
้ ล
จาแนกทางเดียว
การทดสอบลักษณะตางๆ
ของประชากร
่
เป็ นการทดสอบสั ดส่วนของลักษณะตางๆ
่
ของประชากรว
่ าดไวหรื
่ นไปตามทีค
้ อไม่
การตัง้ สมมติฐานาเป็
H 0 : Oi  E i
H 1 : Oi  E i
เมือ
่
Oi
แทน ความถีท
่ ไี่ ดจากการ
้
สั งเกตทีเ่ กิดขึน
้ ในระดับที่ i
E แทน ความถีท
่ ค
ี่ าดหวังทีจ
่ ะเกิดขึน
้
ในระดับที่ i
i
การทดสอบสมมติฐานสาหรับขอมู
้ ล
จาแนกทางเดียว
k
 
2

i 1
 Oi  E i 
Ei
2
df  k  1
เมือ
่
Oi
แทน ความถีท
่ ไี่ ดจากการ
้
สั งเกตทีเ่ กิดขึน
้ ในระดับที่ i
(Observed Frequency)
Ei แทน ความถีท
่ ค
ี่ าดหวังให้เกิดขึน
้
ในระดับที่ i
(Expected Frequency)
k แทน จานวนกลุมตัวแปร
การทดสอบสมมติฐานสาหรับขอมู
้ ล
จาแนกทางเดียว
เขตปฏิเสธ H0
Acceptance region
Rejection region
  ( df )
2
จะปฏิเสธ
อ
H0 เมื
่    ( df )
โดยคา่  ( d f )
2
2
2
ตัวอยาง
่
ในการสอบถามนักศึ กษาคณะศึ กษาศาสตร ์
ของวิทยาลัยแหงหนึ
่งจานวน 200 คน
่
เกีย
่ วกับพฤติกรรมการสอนของอาจารยพบว
า่
์
นักศึ กษาพอใจมาก 72 คน พอใจ 60
คน
เฉยๆ 22 คน ไมพอใจ
่
46 คน อยากทราบวาความคิ
ดเห็นของ
่
นักศึ กษาตอพฤติ
กรรมการสอนของอาจารยมี
่
์
สั ดส่วนเทากั
่ นหรือไม่ ระหวางพอใจมาก
่
พอใจ
เฉยๆ และไมพอใจ
ทีร่ ะดับ
่
นัยสาคัญ 0.01
คาตอบ
ขัน
้ ที่ 1 ตัง้ สมมติฐาน
H 0 : Oi  E i
H 1 : Oi  E i
ความคิดเห็ นของนักศึ กษาในระดับตางๆ
มี
่
H : ความคิ
ดเห็แตกต
ศึ กษาในระดับตางๆ
มี
จานวนไม
างกั
่
่ นของนั
่ กน
านวนแตกต
างกั
น = 0.01
่ 
ขัน
้ จที
่ 2 กาหนด
H0 :
1
คาตอบ
ขัน
้ ที่ 3 เลือกและคานวณคาสถิ
ติ
่
ทดสอบ
ความถี่
ความคิด
เห็ น
พอใจมาก
O
E
(O-E)
(O-E)2
(O-E)2/E
72
50
22
484
9.68
พอใจ
60
50
10
100
2
เฉยๆ
22
50
-28
784
15.68
ไมพอใจ
่
46
50
-4
16
0.32
รวม
200
200
k
 
2

i 1
 Oi  E i 
Ei
27.68
2
 27.68
คาตอบ
ขัน
้ ที่
4
dfฤต
 k  1ได
หาคาวิ
ก
่
้
  , k 1   0.01, 4 1   0.01,3  1 1 .3 4
2
ขัน
้ ที่
5
2
2
เขตปฏิเสธสมมติฐาน  = 0.01
1 1 .3 4
จะปฏิเสธสมมติฐานหลักเมือ
่
    ,df
2
2
ขัน
้ ที่ 6 ปฏิเสธสมมติฐานหลักและสรุปผลไดว้ า่
ความคิดเห็ นของนักศึ กษาแตกตางกั
นหรือ
่
ตารางไคสแควร ์
ตัวอยาง
่
ในการทดสอบความรูของผู
้
้เขารั
้ บการอบรม
ในหลักสูตรการขายสิ นค้าของบริษท
ั แหงหนึ
่ง
่
จานวน 150 คน
ผู้จัดการอบรมคาดวา่
ผลการทดสอบของผูเข
้ ารั
้ บการอบรมแบงออก
่
ไดเป็
คือ
ดีมาก
ดี
้ น 3 ระดับ
และพอใจ
จะเป็ นไปในอัตราส่วน 2 : 1 :
2 แตภายหลั
งการทดสอบความรูปรากฏ
่
้
ไดผลระดั
บดีมาก
ดี
และพอใจ
เป็ น
้
70 คน
30 คน
และ 50 คน
ตามลาดับ
อัตราส่วนทีไ่ ดจากการทดสอบ
้
ตัวอยาง
่
เพือ
่ ยืนยันความเชือ
่ ของผูสั
าหน่าย
้ ่ งกาแฟเขามาจ
้
ในประเทศรายหนึ่ง วาสั
่ าศั ยอยู่
่ ดส่วนของลูกคาที
้ อ
ในเขตกรุงเทพฯทีซ
่ อ
ื้ กาแฟ 4 ชนิด
คือ A , B
, C และ D เทากั
จึงเลือกตัวอยางลู
กคา้
่ นหมด
่
ทีซ
่ อ
ื้ กาแฟเป็ นประจามา 500 คน
และสอบถาม
ถึงชนิดของกาแฟที
ซ
่ อ
ื้ เป็ นประจาจานวนลู
ปรากฏว
่
ชนิด
กค้า า
จานวนลูกคาที
่ อ
ื้ กาแฟแตละชนิ
ดเป็ นดังนี้
้Aซ
่
110
กาหนดระดับนัยสาคัญ 0.01
B
C
D
162
98
130
การทดสอบภาวะสารูปสนิทดี
(Goodness of Fit Test)
 เป็ นการทดสอบสมมติฐานสาหรับขอมู
้ ลจาแนกทาง
เดียวเกีย
่ วกับลักษณะหนึ่งของประชากร โดย
พิจารณาจากความถีใ่ นแตละระดั
บ เช่น
่
 ทดสอบลักษณะตาง
่
ๆ ของประชากร วาเป็
่ นไปตามที่
คาดไวหรื
้ อไม่
 สั ดส่วนเป็ นไปตามทีค
่ าดไวหรื
้ อไม่ เช่น เป็ น 5 : 3 : 2
หรือไม่
 ทดสอบการแจกแจงของประชากร วาเป็
่ าดไว้
่ นไปตามทีค
หรือไม่ เช่น เป็ นการแจกแจงแบบปกติหรือไม่ และ ทวิ
นามหรือไม่ เป็ นตน
้
การทดสอบแบบนี้เป็ นการศึ กษาขอมู
ยด
้ ลอยางละเอี
่
สถิตท
ิ ดสอบภาวะสารูปสนิทดี
(Goodness of Fit Test)
k
 
2

i 1
 Oi  E i 
Ei
2
df = k-1-m
เมือ
่
Oi แทน ความถีท
่ ไี่ ดจากการสั
งเกตที่
้
เกิดขึน
้ ในระดับที่ i
(Observed Frequency)
Ei แทน ความถีท
่ ค
ี่ าดหวังให้เกิดขึน
้ ใน
ระดับที่ i
(Expected Frequency) มีคา่ Ei =
npi
โดยที่ n แทน ความถีร่ วม
การคานวณคาจ
่ านวนองศา
อิสระทีส
่ ญ
ู เสี ยไป
สมมติฐานทีต
่ องการทดสอบ
้
H0: ประชากรมีการแจกแจงปกติ
H0: ประชากรมีการแจกแจงปกติม ี
คาเฉลี
ย
่ μ=μ0
่
H0: ประชากรมีการแจกแจงปกติมค
ี า่
σ=σ0
H0: ประชากรมีการแจกแจงปกติม ี
μ=μ0 , σ=σ0
H0: ประชากรมีการแจกแจงปกติ
พารามิเตอ จานวนองศา
รที
่ ้อง
อิสระที่
์ ต
ประมาณ
สูญเสี ย
คา่
(m)
μ, σ
2
σ
1
μ
1
ไมมี
่
0
p
1
ตัวอยาง
่
สถาบันการเงินแหงหนึ
่งไดศึ
่
้ กษาลูกคาเงิ
้ นกูใน
้
อดีต พบวามี
80% ทีส
่ ามารถผอนได
หมด
่
่
้
ภายในเวลา 1 ปี 10% ผอนได
หมดภายใน
่
้
เวลา 2 ปี 6% ผอนได
หมดภายใน
3 ปี
่
้
และทีเ่ หลืออีก 4% ใช้เวลาในการผอน
่
มากกวา่ 3 ปี เพือ
่ ประโยชนในการวาง
์
แผนการดาเนินงานของบริษท
ั บริษท
ั ไดสุ
้ ่ม
ลูกค้าเงินกูของบริ
ษท
ั ในเดือนทีแ
่ ลวมา
400
้
้
คน พบวามี
287 คนทีผ
่ อนหมดในเวลา
1 ปี
่
่
49 คน ผอนหมดในเวลา
2 ปี 30 คน
่
ตัวอยาง
่
 ขัน
้ ที่ 1 ตัง้ สมมติฐาน
H0: พฤติกรรมของลูกค้าไมเปลี
่ นแปลง หรือ H0: p1 : p2
่ ย
: p3 : p4 = 0.8: 0.1: 0.06: 0.04
H0: พฤติกรรมของลูกค้าเปลีย
่ นแปลง หรือ H0: p1 : p2 :
p3 : p4 ≠ 0.8: 0.1: 0.06: 0.04
 ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  = 0.05
2
Oi  E i 

 ขัน
้ ที่ 3เลือ
กและคานวณค
ติ
่ = k-1-m
dfาสถิ
=
Ei
i 1
4-1-0
k
2
คาตอบ
เวลาจาย
่
คืน
1 ปี
2 ปี
3 ปี
> 3 ปี
รวม
Oi
Pi
287
49
30
34
400
.80
.10
.06
.04
1.00
Ei = npi Oi – Ei
320
40
24
16
400
-33
9
6
18
(Oi (Oi E i )2
Ei)2/Ei
1,089 3.403
81
2.025
36
1.500
324 20.250
27.178
2
 ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
ก
ฤต
ได
χ
่
้
cal = 27.178 >
χ20.05(3) = 7.81
 ขัน
้ ที่ 5
ปฏิเสธ H0 ยอมรับ H1
 ขัน
้ ที่ 6
สรุปผลไดว
กรรมการจายเงิ
นกู้
้ าพฤติ
่
่
ตารางไคสแควร ์
้
จาแนกสองทางและ
การทดสอบความเป็ นอิสระของตัวแปร
 การทดสอบสมมติฐานสาหรับขอมู
้ ลจาแนก
สองทาง และ การทดสอบความเป็ นอิสระ
ของตัวแปร จะเป็ นการทดสอบ
ความสั มพันธของลั
กษณะสองลักษณะ
์
เช่น ความสั มพันธระหว
างเพศกั
บความ
่
์
สนใจทางการเมือง
โดยลักษณะทีห
่ นึ่ง
คือ เพศ
และลักษณะทีส
่ องคือ ความ
สนใจทางการเมือง
้
จาแนกสองทางและ
การทดสอบความเป็ นอิสระของตัวแปร
ลักษณะของขอมู
่ นใจศึ กษาแบงออกได
้ ลทีส
่
้
เป็ นสองลักษณะคือ
แบงตามสดมภ
และ
่
์
แถว เช่น
สูง
ปาน
ตา่
รวม
ความสามารถ
เพศ
ชาย
หญิง
รวม
กลาง
O11
O21
C1
O12
O22
C2
O13
O23
C3
R1
R2
N
้
จาแนกสองทางและ
การทดสอบความเป็ นอิสระของตัวแปร
ซึง่ คาสั
่ งเกต Oij สามารถทราบไดจาก
้
ขอมู
่ อกมาให้
แตค
้ ลทีบ
่ า่ Eij นั้นจะตอง
้
R iC j
หาเองดังนี้
E ij 
E 11 
E 12 
E 13 
R 1C 1
N
R 1C 2
N
R 1C 3
N
N
E 21 
E 22 
E 23 
R 2C1
N
R 2C 2
N
R 2C3
N
้
จาแนกสองทางและ
การทดสอบความเป็ นอิสระของตัวแปร
ขัน
้ ที่ 1 กาหนดสมมติฐานสาหรับขอมู
้ ลจาแนก
สองทาง
H0: p1 = p2 = p3 = p4
H1: p1 ≠ p2 ≠ p3 ≠ p4
กาหนดสมมติฐานทดสอบความเป็ นอิสระของ
ตัวแปร
H0 : ตัวแปรทัง้ สองมีความเป็ นอิสระกัน
(ไมขึ
้ แกกั
่ น
่ น , ไมมี
่ ความสั มพันธกั
์ น)
H1 : ตัวแปรทัง้ สองไมมี
่ ความเป็ นอิสระกัน
(ขึน
้ แกกั
่ น , มีความสั มพันธกั
์ น)
้
จาแนกสองทางและ
การทดสอบความเป็ นอิสระของตัวแปร
ขัน
้ ที่ 3 คานวณคาตั
ิ ใี่ ช้ทดสอบ
่ วสถิตท
คือ
O  E 
2
r
 
2
c

ij
ij
df  ( r  1)( c  1)
E ij
j 1 i 1
เมือ
่
Oij
แทน ความถีท
่ ไี่ ดจาก
้
การสั งเกตจากแถว i คอลัมน์ j
Eij แทน ความถี
่ ค
ี่ าดหวังของแถว
rc ท
E 
i คอลัมน์ j
N
r แทน จานวนแถว
c แทน จานว
i
ij
j
้
จาแนกสองทางและ
การทดสอบความเป็ นอิสระของตัวแปร
ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
่ กฤต
ขัน
้ ที่ 5 หาเขตปฏิเสธ Acceptanc
e region
H0
Rejection
region
  ( df )
2
จะปฏิเสธ H0
เมือ
่    ( df )
2
2
โดยคา่  ( d f )
สามารถหาไดโดยเปิ
ด
้
ขัน
้ตารางไคสแควร
ที่ 6 สรุปผล ์
2
ตัวอยางการทดสอบข
อมู
่
้ ล
จาแนกสองทาง
ในการวางแผนการรณรงคให
์ ้เลิกบุหรี่
คณะกรรมการตองการทดสอบดู
วาสั
้
่ ดส่วนของคนสูบ
บุหรีใ่ นอาชีพตางๆ
แตกตางกั
นหรือไม่ จึงสุ่ม
่
่
ตัวอยางคนอาชี
พตางๆ
กัน มาสอบถาม ไดข
่
่
้ อมู
้ ล
ดังตารางต
้ ไม
จงทดสอบว
า่ ติดสับุด
บบุวห
อาชีพ อไปนี
ติ
หส
รี่ วนการสู
ขนาดตั
อยรีาง
่
่ ดบุหรี่
่่
ของบุ
นหรือไม่ 300
วิศวกรคคลอาชีพตางๆ
่ 32 แตกตางกั
่ 268
นักการศึ กษา
นักบัญชี
นักวิทยาศาสตร ์
รวม
51
67
83
233
199
233
267
967
250
300
350
1,200
คาตอบ
 ขัน
้ ที่ 1 ตัง้ สมมติฐาน
H 0 : p1 = p 2 = p3 = p4
H1: p1 ≠ p2 ≠ p3 ≠ p4 (อยางน
่
้ อย 1 ตัว)
ขัน
้ ที่ 2 กาหนด  = 0.05
 ขัน
้ ที่ 3 เลือกและคานวณคาสถิ
ติ
่
r
 
2
c

j 1 i 1
E ij 
ri c j
N
O
ij
 E ij 
E ij
2
df  ( r  1)( c  1)
คาตอบ
 จาก
E ij 
ri c j
N
 E11 = (300*233)/1200 = 58.25
 E12 = (300*967)/1200 = 241.75
 E21 = (250*233)/1200 = 48.54
 E22 = (250*967)/1200 = 201.46
 E31 = (300*233)/1200 = 58.25
 E32 = (300*967)/1200 = 241.75
 E41 = (350*233)/1200 = 67.96
 E42 = (350*967)/1200 = 282.04
จะได้
แถว
นอน-ตัง้
1-1
1-2
2-1
2-2
3-1
3-2
4-1
4-2
Oij
Eij
Oij – Eij (Oij - Eij (Oij - Eij
)2
)2/Eij
32 58.2 -26.25 689.06
11.83
268
5
26.25
25
2.85
51 241. 2.46
689.06
0.12
199
75
-2.46
25
0.03
67 48.5 8.75
6.0516
1.31
233
4
-8.75 6.0516
0.32
83 201. 15.04 76.562
3.33
267
46 -15.04
5
0.80
58.2
76.562
5ฤต ได χ2 5= 20.59 >
 ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
ก
่
้
cal
226.20
χ20.05(3) = 7.81 241.
75
16
 ขัน
้ ที่ 5
ปฏิเ67.9
สธ H0 ยอมรับ226.20
H1
6
16 บบุหรีใ
 ขัน
้ ที่ 6
สรุปผลได
วาสั ดสวนคนสู
่ น
้ ่
่
ตัวอยาง
(Test of
่
Independence)
เพือ
่ ทีจ
่ ะตรวจสอบวามี
่ ความสั มพันธกั
์ น
บางหรื
อไม่ ระหวางผลสั
มฤทธิข
์ อง
้
่
พนักงานในขณะทีเ่ ขาโครงการฝึ
กอบรมกับ
้
ผลสั มฤทธิข
์ องพนักงานในการปฏิบต
ั ห
ิ น้าที่
ในองคกร
จึงไดมี
้ การเลือกตัวอยาง
่
์
พนักงานมา 400 คน แลวเก็
้ บขอมู
้ ลได้
ดังนี้
ตัวอยาง
่
ผลสั มฤทธิใ์ นโครงการ
ฝึ กอบรม
ตา่ กวา่
ปาน
สูงกวา่
รวม
มาตรฐาน กลาง มาตรฐา
ผลสั ม
น
พอใช้
23
60
39
112
ฤทธิ ์
ใน
ดี
28
79
60
167
หน้าที่
การ ดีมาก
9
49
63
121
งาน
รวม
60
188
152
400
คาตอบ
จงทดสอบสมมติฐานทีว่ าผลสั
มฤทธิข
์ องพนักงานใน
่
ขณะทีเ่ ขาโครงการฝึ
กอบรมกับผลสั มฤทธิข
์ องพนักงาน
้
ในการปฏิบต
ั ห
ิ น้าทีใ่ นองคกรนั
้นเป็ นอิสระตอกั
่ นทีร่ ะดับ
์
นัวิยธสท
ี าคั
า ญ 0.01
ขัน
้ ที่ 1 ตัง้ สมมติฐาน
H0 : ผลสั มฤทธิใ์ นโครงการฝึ กอบรมและในหน้าทีก
่ าร
งานไมมี
่ ความสั มพันธกั
์ น
Hขั1น
ใ์ นโครงการฝึ
่ าร
้ :ที่ผลสั
2 มกฤทธิ
าหนดระดั
บนัยสาคักอบรมและในหน
ญ  = 0.01 ้ าทีก
งานมี
มกและค
พันธกั
ขัน
้ ที่ความสั
3 เลือ
ิ ดสอบ
์ นานวณสถิตท
O  E 
2
r
 
2
c

j 1 i 1
ij
ij
E ij
df  ( r  1)( c  1)
คาตอบ
แถว
นอน-ตัง้
1-1
1-2
1-3
2-1
2-2
2-3
3-1
3-2
3-3
Oij
Eij =ricj/N
23
60
39
28
79
60
9
49
63
112*60/400=1
6.80
112*188/400=
52.64
112*152/400=
42.56
167*60/400=2
5.05
167*188/400=
78.49
167*152/400=
Oij – (Oij - Eij )2
Eij
6.20
38.44
7.36
54.17
-3.56
12.67
2.95
8.70
0.51
0.26
-3.46
11.97
-9.15
83.72
-7.87
61.94
17.02 289.68
(Oij - Eij
)2/Eij
2.288
1.029
0.298
0.347
0.003
0.187
4.613
1.089
6.300
คาตอบ
ขัน
้ ที่ 4 หาคาวิ
่ กฤต ได้
ขัน
้ ที่ 5 สรางเขตปฏิ
เสธสมมติฐาน
H
้
02
2
ตท
>ดสอบ
 0.01, 4
โดยจะปฏิเสธ H0 เมือ
่ คาสถิ
ิ
่
ขัน
้ ที่ 6 สรุปจะไดว้ า่ ผลสั มฤทธิข
์ อง
พนักงานในขณะทีเ่ ขาโครงการฝึ
กอบรมกับ
้
ผลสั มฤทธิข
์ องพนักงานในการปฏิบต
ั ห
ิ น้าที่
ในองคกรนั
้นมีความสั มพันธกั
์ น หรือไมเป็
่ น
์
ตารางไคสแควร ์
ตัวอยาง
่
ผูจั
่งเชือ
่ วาประสิ
ทธิภาพของ
้ ดการโรงงานแหงหนึ
่
่
คนงานขึน
้ กับระยะเวลาทีท
่ างานในโรงงานแหงนี
่ ้
จึงทาการทดลองโดยสุ่มสิ นค้าตัวอยางมา
100 ชิน
้
่
แลวตรวจสอบคุ
ณภาพไดข
้
้ อมู
้ ลดังนี้ จงทดสอบความ
เชื
่ ณของผู
จั
งนี
ทีร่ (ปีะดั
บนัยสาคัรวม
ญ
้ ดการโรงงานแห
่ ้
คุอ
ภาพของ
ประสบการณ
)
์
0.05 สิ นค้า
ดี
ชารุดเล็กน้อย
ชารุดมาก
รวม
1
6
9
7
22
2–5
9
19
8
36
6 – 10
9
23
10
42
24
51
25
100
ตัวอยาง
่
บริษท
ั ผลิตยาสี ฟันแหงหนึ
่งตองการทราบว
าสี
่
้
่ ของยาสี
ฟันมีความสั มพันธกั
จึงได้
้ ้หรือไม่
์ บเพศของผูใช
เลือกตัวอยางชายและหญิ
งทีม
่ อ
ี ายุตง้ั แต่ 20 ปี ขน
ึ้ ไป
่
มาเพศละ 500 คน
จากการสอบถามถึงสี ของยาสี
ฟันทีช
่ อบใช้จากตัวอยางชายหญิ
งทัง้ หมดปรากฏผล
่
เพศ
ั 0.01
รวม
ดังนี
้
กาหนดระดัสีบขนัองยาสี
ยสาคัฟ
ญน
ชาย
หญิง
รวม
ขาว
อืน
่ ๆ
328
138
466
172
362
534
500
500
1000
อ
้ งตน
้
การทดสอบสมมติข1.ฐ้อตกลงเบื
าน
ความถีท
่ ค
ี่ าดไว้ของแตละระดั
บ E ไมควรต
า่
่
่
กวา่ 5
ถามี
้ ระดับใดตา่ กวา่ 5 ให้ทาการ
คาสั
ด
ส
วน
รวมขอมู
่ บ
ั ความถีท
่ อ
ี่ ยูในระดั
บที่
่
่
้ ลความถีก
่
i
1 กลุ่ม
2 กลุ่ม
p1-p2=0
p1-p2 0
≠
ติดกัน
2. ไมสามารถใช
่
้ไดกั
้ บ Repeated Measures
k กลุ่ม
Design
ข้อมูล
 บทที่ 12 การทดสอบสมมติฐาน (Tests of
Hypothesis),
http://eu.lib.kmutt.ac.th/elearning/lms/filemanager
/uploadedfiles/815/handout/328/video27512.ppt
 อ.ดร.กมลพร สอนศรี, สถิตเิ พือ
่ ใช้ในการวิจย
ั ,
www.nubkk.nu.ac.th
 บทที่ 9 การวิเคราะหความแปรปรวน,
์
tulip.bu.ac.th/~bootsara.p/BC428/BC428_Chapte
r9.ppt
 การทดสอบไคสแควร,์
pirun.ku.ac.th/~b5003142/ki.ppt
 บทที่ 5. การวิเคราะหความแปรปรวน (Analysis of