Transcript - มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
หน่วยการเรียนรู ้
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
(Academic Leadership)
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
วิทยากร
รองศาสตราจารย์ธวัช วีระศิรวิ ฒ
ั น์
รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
อาจารย์ภาวิณี กระแสร์ญาณ
ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ สพป.กาแพงเพชร เขต 2
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
(Academic Leadership)
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับภาวะผูน้ าทาง
วิชาการ
2. เพื่อให้สามารถนาความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับภาวะ
ผูน้ า นาไปประยุกต์ใช้ในหน้าที่การงานรวมทั้ง
ชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
1. แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
2. ความมีประสิทธิผลของภาวะผูน้ า
3. คุณลักษณะและสมรรถนะของผูน้ า
4. แนวทางพัฒนาภาวะผูน้ า
5. การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
กิจกรรมการอบรม
1.การทดสอบภาวะผูน้ า จากแบบทดสอบ (10 นาที)
2.บรรยาย ความรูเ้ กี่ยวกับการเป็ นผูน้ าทางวิชาการ (30 นาที)
3.ปฏิบตั กิ ิจกรรมใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
4.ปฏิบตั กิ ิจกรรมใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครูเข้าสู่
ตาแหน่งทางวิชาการ (30 นาที)
5.สรุป (5 นาที)
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
กิจกรรมที่ 1 การทดสอบภาวะผูน้ า
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
การทดสอบภาวะผูน้ า
(Leadership Test)
คุณเป็ นผูน้ าหรือผูต้ ามกันแน่
คุณเหมาะจะเป็ นผูน้ าเพียงใด
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
รองศาสตราจารย์ธวัช วีระศิริวฒ
ั น์
รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
1. ผูน้ าคืออะไร
2. ผูต้ ามคืออะไร
3. ทาอย่างไรที่จะทาให้มีผตู ้ าม
4. จะพัฒนาตนอย่างไร ให้เป็ นผูน้ าที่มีผตู ้ าม
5. การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
ผูน้ า
(Leader)
ผูน้ า : Leader
• ผูน้ า คือ อะไร? เป็ นคาถามที่สามารถตอบได้ในหลายแง่มุม
• คือ ผูท้ ี่สามารถสั ่งการให้คนในองค์การหรือลูกน้องปฏิบตั ติ าม
• คือ ผูท้ ี่มีความสามารถหรือความเชี่ยวชาญเป็ นที่ยอมรับของผูอ้ ื่นและ
ได้รบั การยกย่องให้เป็ นผูน้ า ฯลฯ
• คือ ผูท้ ี่สามารถชักจูงหรือชี้นาบุคคลอื่น ให้ปฏิบตั งิ าน สาเร็จตาม
วัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
• คือ ผูท้ ี่สามารถใช้อิทธิพลชักนาคนอื่นให้ดาเนินกิจกรรมต่างๆ ตามที่ตน
ต้องการ”
ที่มาของผูน้ า
ได้มีผศู ้ ึกษาถึงลักษณะผูน้ าไปในหลายแนวทาง ทั้งในด้านคุณลักษณะ
บทบาท หน้าที่ ฯลฯ ซึ่งสามารถแบ่งผูน้ าออกเป็ น 2 ลักษณะคือ
1. ผูน้ าแบบเป็ นทางการ (Formal Leaders) หมายถึง
ผูบ้ งั คับบัญชาในหน่วยงาน เพราะว่าผูบ้ งั คับบัญชานั้นคือผูท้ ี่ได้รบั การ
แต่งตั้งอย่างเป็ นทางการให้ดารงตาแหน่งหัวหน้าหรือให้มีอานาจ หน้าที่ใน
การดาเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎระเบียบขององค์การ
2. ผูน้ าแบบไม่เป็ นทางการ (Informal Leaders) คือ ผูน้ าที่
ไม่ใช่ผบู ้ งั คับบัญชา เพราะไม่มีตาแหน่งเป็ นหัวหน้าในองค์การ แต่สมาชิก
ในหน่วยให้การยอมรับและยกย่องให้เป็ นผูน้ า เพราะเขามีคุณสมบัตบิ าง
ประการที่หน่วยงานหรือสมาชิกในองค์การ ต้องการ ให้การยอมรับ หรือ
ให้ความไว้วางใจ เช่น ประสบการณ์ ความรูค้ วามสามารถ มนุษย์สมั พันธ์
เป็ นต้น
ผูน้ า : Leader
• ผูน้ า คือบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่ม จะมาจากการเลือกตัง้ แต่งตัง้
หรือยกย่องจากกลุ่ม ให้เป็ นผูช้ ้ ีแนะ ช่วยเหลือให้กลุ่มปฏิบตั กิ ิจกรรมต่างๆ
สามารถใช้อิทธิพลชักนาคนอื่นให้ดาเนินกิจกรรมต่างๆ ตามที่ตนต้องการ
จนประสบความสาเร็จตามเป้าหมายที่ต้งั ไว้
คุณมีคุณลักษณะตามความหมายของผูน้ า
หรือไม่ผนู ้ า อย่างไร
ผูต้ าม
ผูน้ า...ต้องมีผตู ้ าม
ผูต้ าม : Follower
•
•
•
•
•
ผูต้ าม คือ ใคร
คือ ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาหรือลูกน้อง
คือ ผูท้ ี่นิยมชมชอบ ยกย่องและยอมรับผูน้ า
คือ ผูท้ ี่มีความยินดีในการปฏิบตั งิ านตามคาสั ่งหรือคาขอร้องของผูน้ า
คือ ผูท้ ี่ตอ่ ต้าน เพิกเฉย ที่จะไม่ปฏิบตั ติ ามคาสั ่งหรือคาขอร้องของผูน้ า
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานต ่า
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานสูง
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานต ่า
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานสูง
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
M1
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานต ่า
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
S1 : Telling แบบบอกให้ทา
มุ่งงานสูง ใช้คาสั ่งควบคุม นิเทศตรวจ
ตราอย่างใกล้ชิด
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
M2
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานสูง
S2 : Selling แบบขายความคิด
มุ่งความสัมพันธ์สูง มุ่งงานสูง ใช้
คาสั ่ง ควบคุม นิเทศ พร้อมกับการ
ให้กาลังใจ ให้คาแนะนา อานวย
ความสะดวก สนับสนุน คอยเป็ นพี่
เลี้ยง
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
M3
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานต ่า
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
S3 :Participation แบบมีส่วนร่วม
มุ่งความสัมพันธ์สูง ให้คาชม ให้
กาลังใจ รับฟั ง คอยช่วยสนันสนุ น
อานวยความสะดวกและร่วม
ตัดสินใจ
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
M4
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานสูง
S4 : Delegating แบบกระจาย
งาน ให้เกียรติ ให้ความเชื่อถือ
ไว้วางใจในความรูค้ วามสามารถ
และความรับผิดชอบ จึงกระจาย
งานให้ทาอย่างอิสระและให้
ตัดสินใจเองโดยไม่เข้าไปก้าวก่าย
ผูน้ า : ภาวะผูน้ า
ผูน้ าที่มีภาวะผูน้ า
VS
ผูน้ าที่ไม่มีภาวะผูน้ า
ผูน้ าที่ประสบความสาเร็จต้องมีภาวะผูน้ า
ภาวะผูน้ า
(Leadership)
ความหมายของภาวะผูน้ า
• ความสามารถในการนา
• ความสามารถที่จะชี้แนะ สั ่งการ หรืออานวยการ หรือ มีอิทธิพล
ต่อพฤติกรรมของผูอ้ ื่นเพื่อให้มุ่งไปสูจ่ ดุ หมายทีก่ าหนดไว้
• ศิลปะในการชี้แนะลูกน้อง หรือผูร้ ว่ มงานให้ปฏิบตั หิ น้าที่ดว้ ย
ความกระตือรือร้นและเต็มใจ
• ภาวะผูน้ า เป็ นกระบวนการที่บุคคลใช้อิทธิพลต่อกลุม่ เพื่อให้
บรรลุความต้องการของกลุม่ หรือจุดมุ่งหมายขององค์การ
ความมีประสิทธิผลของภาวะผูน้ า
• ผูน้ าที่มีประสิทธิผล ได้แก่ ผูท้ ี่สามารถทาให้ผตู ้ ามมี
ผลงานดี กระตือรือร้นและมีความพึงพอใจที่จะปฏิบตั ติ าม
• ผูน้ าที่ประสบผลสาเร็จ ได้แก่ ผูท้ ี่สนับสนุนให้ผตู ้ าม
เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
• ผลที่เกิดขึ้นของกลุม่ (Outcome)
• ทัศนคติของผูต้ าม (Attitude of Followers)
• คุณภาพของกระบวนการกลุม่ (Quality of Group Process
ผูน้ า : Leader
• คุณคิดว่าคุณมีภาวะผูน้ าหรือไม่
• ผูน้ าทางวิชาการต้องทาอะไรบ้าง
• คุณคิดถึงใคร...ที่คุณประทับใจ ในความเป็ นผูน้ า
ทางวิชาการ
ผูต้ าม...ทาตามเพราะอะไร
ทาอย่างไร...ที่จะทาให้มีผตู ้ าม
ผูน้ า
ภาวะผูน้ า
อานาจและอิทธิพล
ผูต้ ามเชื่อฟั งและปฏิบตั ิตามด้วยความ
กระตือรือร้นและเต็มใจ
ประเภทของอานาจ
•
•
•
•
•
อานาจจากการให้รางวัล (Reward Power)
อานาจจากการบังคับ (Coercive Power)
อานาจตามกฎหมาย (Legitimate Power)
อานาจจากความเชี่ยวชาญ (Expert Power)
อานาจจากการอ้างอิง (Referent Power)
แหล่งที่มาของอานาจ
• อานาจจากตาแหน่ง (Position Power)
• อานาจจากบุคคล (Personal Power)
• อานาจเชิงการเมือง (Political Power)
การใช้อานาจในองค์การ : ยุคล์( Yukl, 1997 )ได้สร้างแบบจาลอง ( model ) ขึ้ นเพื่อใช้
อธิบายปฏิสมั พันธ์ที่เกิดขึ้ นจากการใช้อานาจ ( power ) พฤติกรรมอิทธิพล( influence behavior ) และ
ทักษะการใช้อิทธิพล (influence skills ) ที่มีตอ่ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้ นในผูต้ าม ดังต่อไปนี้
คุณลักษณะผูน้ า
1
2
พฤติกรรมของผูน้ า
กลยุทธ์การใช้
4
อิทธิพลแบบต่างๆ
6
 เกลี้ยกล่อม
 แรงบันดาลใจ
 ปรึกษาหารือ
 เสนอแลกเปลี่ยน
 เอาใจ
3
 รวมกลุม่
 อิงกฎหมาย
 กดดัน
อานาจผูน้ า
7
10
8
ผลของอิทธิพลต่อผูต้ าม
 เกิดความผูกพัน
(Commitment)
 ยินยอมปฏิบตั ิตาม
(Compliance)
 ต่อต้าน
(Resistance)
5
ตัวแปรด้าน
สถานการณ์
9
ผลลัพธ์สดุ ท้าย
 ความสาเร็จหรือ
ความล้มเหลวของ
กลุม่ /งาน
คุณลักษณะสาคัญที่คาดว่าทาให้ผนู ้ ามีประสิทธิผล
• ด้านบุคลิกภาพ
• ด้านแรงจูงใจ
• ด้านความสามารถ
กองหน้า VS กองหลัง
บุคลิกคนที่ไม่เหมาะสมเป็ นกองหน้า
หน้าบูด ไม่พูดจา
อารมณ์ไม่ดี จูจ้ ้ ขี ้ ีบ่น
ไม่มองหน้าคน เอาแต่ใจตนเอง
อวดเบ่งวางท่า ไม่คบหาสมาคม
กองหน้า VS กองหลัง
บุคลิกคนที่ไม่เหมาะสมเป็ นกองหน้า
4ย
ยุ่งยาก
โยกโย้
ยืดยาด
หยุมหยิม
ยิ้มแย้ม
เยือกเย็น
ยืดหยุ่น
ยอดเยี่ยม
การพัฒนาภาวะผูน้ า...
สาหรับคนที่อยากเป็ นผูน้ า
...
ภาวะผูน้ าเรียนรูไ้ ด้
• ภาวะผูน้ า เป็ นศาสตร์และเป็ นศิลป์ ศึกษาเรียนรูไ้ ด้ แต่ตอ้ งนาไป
ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
• วิธีการเรียนรู ้ เช่น การจัดหลักสูตรฝึ กอบรม การแลกเปลี่ยน
เรียนรู ้ การฝึ กทักษะที่จาเป็ น ศึกษาเอกสารตารา
ผูน้ าชั้นยอด : นาผูอ้ ื่นเพื่อให้นาตนเอง
(Super Leadership : leading Others to Lead Themselves)
จะเปลี่ยนแปลงคน ต้องเปลี่ยนที่จติ ใจ
จะเปลี่ยนแปลงใคร ต้องเปลี่ยนแปลงตนเองก่อน
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
•
•
•
•
พัฒนาตนให้เก่ง ดี มีประโยชน์
เก่ง : เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เก่งจัดการชีวิต
ดี : เป็ นคนดี มีคณ
ุ ธรรมและจริยธรรม เคารพกฎ ระเบียบ
มีประโยชน์ : เป็ นคนที่ใช้ความเก่ง ความดีให้เป็ น
ประโยชน์ตอ่ ผูอ้ ื่น
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
•
•
•
•
เก่งงาน : พัฒนาทักษะทางวิชาการและวิชาชีพ
เก่งคน : พัฒนาทักษะทางสังคม
เก่งคิด : พัฒนาทักษะทางความคิด
เก่งจัดการชีวิต : พัฒนาทักษะทางการบริหารจัดการ
ความเก่งเป็ นที่มาแห่งการเชื่อถือศรัทรา
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะทางวิชาการและวิชาชีพ : เก่งงาน
• มีความสามารถในการทางาน ทางานเก่ง
• รับผิดชอบ รูบ้ ทบาทหน้าที่
• ทุ่มเทเสียสละ อดทน
• ลงมือปฏิบตั ไิ ด้ดว้ ยตนเอง มีฝีมือ
• เป็ นพื้นฐานสาคัญที่ทาให้เกิดการยอมรับ
พรสวรรค์ V.S. พรแสวง
การวิเคราะห์ตนเอง
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางวิชาการวิชาชีพ
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางสังคม
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางความคิด
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางการบริหารจัดการ
ด้านอื่นๆ
จุดเด่น
จุดด้อย
การวิเคราะห์ตนเอง
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางวิชาการวิชาชีพ
เรื่อง
การใช้เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์
การเขียนแผนจัดการเรียนรู ้
การจัดทาเอกสารประกอบการเรียนการสอน
การจัดทาสื่อและนวัตกรรม
การทาวิจยั เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
การเขียนบทความ
การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
การใช้ภาษาต่างประเทศ
ฯลฯ
จุดเด่น/จุดด้อย
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะทางสังคม : เก่งคน
• มีมนุษยสัมพันธ์ มีทกั ษะทางการเจรจา
• มีความสามารถในการเข้ากับคน
• มีทกั ษะทางการติดต่อประสานงาน
• ต้อนรับขับสู ้ หน้าตายิ้มแย้ม อารมณ์ดี มั ่นคง
• เป็ นพื้นฐานสาคัญในการเป็ นหัวหน้าหรือผูน้ า
อยูก่ บั ใคร เขาก็รกั มีความสุข
การวิเคราะห์ตนเอง
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางสังคม
เรื่อง
บุคลิกภาพและการแต่งกาย
การสื่อสารและเจรจา
มาตรฐานการปฏิบตั ติ นกับคนอื่น
การเข้ากับคน
การติดต่อประสานงาน
การต้อนรับขับสู ้ ทักทาย
การพูดในที่ชุมชน
การฟั ง
การเขียน
จุดเด่น/จุดด้อย
การพัฒนาตนสู่ความเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะและความสามารถในการคิด : เก่งคิด
• เป็ นนักคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ
• คิดแก้ไขสิ่งที่เป็ นปั ญหา คิดปรับปรุง พัฒนางาน
• คิดเป็ นระบบ คิดในสิ่งที่เป็ นไปได้
• เป็ นพื้นฐานสาคัญในการเป็ นเจ้านาย
คิดดี อารมณ์ดี แสดงออกดี มีความสุข
การวิเคราะห์ตนเอง
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางความคิด
เรื่อง
การคิดเชิงบวก
การคิดเชิงวิเคราะห์
การคิดเชิงสังเคราะห์
การคิดเชิงสร้างสรรค์
การคิดเชิงบูรณาการ
การคิดเชิงกลยุทธ์
การคิดเชิงประยุกต์
การคิดเชิงวิพากษ์ การคิดเชิงอนาคต
การคิดเชิงเปรียบเทียบ การคิดเชิงมโนทัศน์
จุดเด่น/จุดด้อย
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะทางการบริหารจัดการ : เก่งจัดการชีวิต
• ทักษะการบริหารจัดการงาน
• ทักษะการบริหารจัดการคน
• ทักษะการบริหารจัดการเงิน
• ทักษะการบริหารจัดการเวลา
การบริหารเวลา คือ การบริหารชีวิต
การวิเคราะห์ตนเอง
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางการบริหารจัดการ
เรื่อง
การบริหารเวลา
การบริหารงาน
การบริหารคน
การบริหารเงิน
การบริหารอุปกรณ์ สถานที่
ฯลฯ
จุดเด่น/จุดด้อย
เก่งงาน VS เก่งคน
Task Ability VS Social Ability
ความสามารถทั้ง ๒ อย่างนี้ต้องมีอยูใ่ นคนๆเดียว
จึงจะทาให้คนนั้นมีความก้าวหน้าได้เร็ว
ถ้าแยกกันอยู่ จะได้อย่างเสียอย่าง ไม่กา้ วหน้า
ทางานเก่ง มีฝีมือแต่ไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย
เก่งงาน VS เก่งคน
Task Ability VS Social Ability
เก่งแต่งาน ไม่เก่งคน ชอบกลนัก
คนไม่รกั ทาเก่งไป ไม่เข้าท่า
เก่งทั้งงาน เก่งทั้งคน ตามตารา
ต้องค้นหา เพื่อนไว้ ด้วยไมตรี
แนวทางสูค่ วามสาเร็จในการทางาน
• เก่งงาน เป็ น ลูกน้อง
• เก่งงาน เก่งคน เป็ นหัวหน้า
• เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เป็ นเจ้านาย
• เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เก่งจัดการชีวิตเป็ นคน
ที่ประสบความสาเร็จและมีความสุขที่สุด
ความสาเร็จ...เป็ นความปรารถนาของทุกคน
จุดเริ่มต้น...อยูท่ ี่ตนเอง
ต้องเชื่อว่า
คุณสามารถฝึ กตนให้สาเร็จได้
แต่
คุณต้องแสวงหาปั จจัยที่จะทาให้เกิดความสาเร็จได้
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
กิจกรรมที่ 3 ใบงานที่ 1
การวิเคราะห์ตนเอง
(15 นาที)
ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
วัตถุประสงค์
• วิเคราะห์จดุ เด่นและจุดด้อยเกี่ยวกับการเป็ นผูน้ าทางวิชาการของ
ตนเองได้
คาชี้แจง
• ให้ผเู ้ ข้ารับการอบรมวิเคราะห์ตนเองและเขียนจุดเด่น จุดด้อย
เกี่ยวกับการเป็ นผูน้ าทางวิชาการของตนเองลงในตารางที่
กาหนดให้ ภายในเวลา 10 นาที
จุดเด่น จุดด้อย สู่การพัฒนาและแก้ไข
ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางวิชาการวิชาชีพ
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางสังคม
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางความคิด
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางการบริหารจัดการ
ด้านอื่นๆ
จุดเด่น
จุดด้อย
ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางวิชาการวิชาชีพ
เรื่อง
การใช้เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์
การเขียนแผนจัดการเรียนรู ้
การจัดทาเอกสารประกอบการเรียนการสอน
การจัดทาสื่อและนวัตกรรม
การทาวิจยั เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
การเขียนบทความ
การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
การใช้ภาษาต่างประเทศ
ฯลฯ
จุดเด่น/จุดด้อย
ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางสังคม
เรื่อง
บุคลิกภาพและการแต่งกาย
การสื่อสารและเจรจา
มาตรฐานการปฏิบตั ติ นกับคนอื่น
การเข้ากับคน
การติดต่อประสานงาน
การต้อนรับขับสู ้ ทักทาย
การพูดในที่ชุมชน
การฟั ง
การเขียน
จุดเด่น/จุดด้อย
ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางความคิด
เรื่อง
การคิดเชิงบวก
การคิดเชิงวิเคราะห์
การคิดเชิงสังเคราะห์
การคิดเชิงสร้างสรรค์
การคิดเชิงบูรณาการ
การคิดเชิงกลยุทธ์
การคิดเชิงประยุกต์
การคิดเชิงวิพากษ์ การคิดเชิงอนาคต
การคิดเชิงเปรียบเทียบ การคิดเชิงมโนทัศน์
จุดเด่น/จุดด้อย
ใบงานที่ 1 การวิเคราะห์ตนเอง (15 นาที)
ด้าน
ด้านความรูแ้ ละทักษะ
ทางการบริหารจัดการ
เรื่อง
การบริหารเวลา
การบริหารงาน
การบริหารคน
การบริหารเงิน
การบริหารอุปกรณ์ สถานที่
ฯลฯ
จุดเด่น/จุดด้อย
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
ภาวะผูน้ าทางวิชาการ
( Academic Leadership )
กิจกรรมที่ 45 ใบงานที่ 2 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือ
ครูเข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (30 นาที)
ใบงานที่ 2 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (30 นาที)
วัตถุประสงค์
• เพื่อเขียนแผนพัฒนาตนเองหรือพัฒนาครูเข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ
คาชี้แจง
• ให้ผเู ้ ข้ารับการอบรม ปฏิบตั กิ ิจกรรมการเขียนแผนพัฒนาตนเองหรือ
พัฒนาครูเข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ ตามแบบที่กาหนดให้
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (30 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
1
ทาใจ เปลี่ยนวิถีชีวิต จัดเวลา
จัดทาตารางเวลา จัดเวลาสาหรับการทา
ผลงานวิชาการและบริหารเวลาให้มี
ประสิทธิภาพ
2
วิเคราะห์ตนเองด้านการจัดทา
ผลงานวิชาการ
หาจุดเด่นเพื่อใช้ให้เป็ นประโยชน์ หา
จุดด้อยเพื่อการปรับปรุงแก้ไข
3
เขียนแผนพัฒนาทักษะในการจัดทา นาผลการวิเคราะห์ จุดเด่น จุดด้อย
ผลงานทางวิชาการ
นามาเขียนแผนพัฒนาทักษะที่ใช้
ประกอบการจัดทาผลงานวิชาการ
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
4
นาแผนพัฒนาทักษะในการจัดทา
เข้าร่วมศึกษา อบรม สัมมนา พัฒนา
ผลงานทางวิชาการสูก่ ารปฏิบตั ิ เช่น ทักษะในการจัดทาผลงานทาง
ทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ ทักษะใน วิชาการตามแผนที่กาหนด
การสืบค้นหาข้อมูล ฯลฯ
5
ศึกษาระเบียบ ข้อบังคับ ข้อที่ควร
ปฏิบตั ทิ ี่เกี่ยวข้อง
ศึกษาจากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย
6
ศึกษาหลักสูตร ขอบข่าย รายวิชา
มาตรฐานการเรียนรูท้ ี่เกี่ยวข้อง
ศึกษาจากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
7
ตัดสินใจเลือกผลงานที่จะนาเสนอขอผลงานทาง
วิชาการ
นาผลงานที่มีอยูห่ รือที่ตนเองมีความถนัด
ความเชี่ยวชาญ ปรึกษาหารือผูเ้ ชี่ยวชาญ
เพื่อนาไปสู่การเลือกชิ้ นงานที่จะนาเสนอ
ขอผลงานทางวิชาการ
8
วิเคราะห์ตนเองในการจัดทาผลงานทางวิชาการที่
ตัดสินใจเลือกเพื่อเสนอขอดารงตาแหน่ง เช่น
แผนจัดการเรียนรู/้ การจัดทาสื่อนวัตกรรม /การ
จัดทาเอกสารประกอบการสอน/การวิจยั /ฯลฯ
ศึกษารายละเอียดตามหลักการ ขั้นตอน
วิธีการ จากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย/กรณี
ตัวอย่าง/นามาวิเคราะห์หาแนวทางใน
การจัดทา
9
เขียนแผนปฏิบตั ิการจัดทาแผนจัดการเรียนรู ้
ศึกษารายละเอียดตามหลักการ ขั้นตอน
วิธีการ จากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย/กรณี
ตัวอย่าง/นามาวิเคราะห์หาแนวทางใน
การจัดทา
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
10
เขียนแผนปฏิบตั ิการจัดทาการจัดทาสื่อนวัตกรรม ศึกษารายละเอียดตามหลักการ ขั้นตอน
วิธีการ จากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย/กรณี
ตัวอย่าง/นามาวิเคราะห์หาแนวทางใน
การจัดทา
11
เขียนแผนปฏิบตั ิการจัดทาการจัดทาเอกสาร
ประกอบการสอน
ศึกษารายละเอียดตามหลักการ ขั้นตอน
วิธีการ จากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย/กรณี
ตัวอย่าง/นามาวิเคราะห์หาแนวทางใน
การจัดทา
12
เขียนแผนปฏิบตั ิการจัดทางานวิจยั
ศึกษารายละเอียดตามหลักการ ขั้นตอน
วิธีการ จากผูท้ ี่มีความรูแ้ ละ
ประสบการณ์/สืบค้นทางเครือข่าย/กรณี
ตัวอย่าง/นามาวิเคราะห์หาแนวทางใน
การจัดทา
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
13
ปฏิบตั ิการตามแผนการจัดทาแผนจัดการเรียนรู ้
ดาเนินการบริหารจัดการตามแผนที่วาง
ไว้อย่างเคร่งครัด ยืดหยุน่ บ้างตาม
สถานการณ์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้ น ใช้เวลา
อย่างมีประสิทธิภาพ
14
ปฏิบตั ิการตามแผนการจัดทาสื่อนวัตกรรม
ดาเนินการบริหารจัดการตามแผนที่วาง
ไว้อย่างเคร่งครัด ยืดหยุน่ บ้างตาม
สถานการณ์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้ น ใช้เวลา
อย่างมีประสิทธิภาพ
15
ปฏิบตั ิการตามแผนการการจัดทาเอกสาร
ประกอบการสอน
ดาเนินการบริหารจัดการตามแผนที่วาง
ไว้อย่างเคร่งครัด ยืดหยุน่ บ้างตาม
สถานการณ์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้ น ใช้เวลา
อย่างมีประสิทธิภาพ
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนพัฒนาตนเองหรือครู
เข้าสูต่ าแหน่งทางวิชาการ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
วิธีการพัฒนา
16
ปฏิบตั ิการตามแผนการจัดทางานวิจยั
ดาเนินการบริหารจัดการตามแผนที่วาง
ไว้อย่างเคร่งครัด ยืดหยุน่ บ้างตาม
สถานการณ์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้ น ใช้เวลา
อย่างมีประสิทธิภาพ
17
ตรวจสอบ รวบรวมผลงาน ตามระเบียบ
ข้อบังคับ แนวปฏิบตั ิ ในการจัดทาผลงานทาง
วิชาการ
ตนเองตรวจสอบเบื้ องต้น และขอความ
อนุเคราะห์ผูท้ ี่เกี่ยวข้อง ผูเ้ ชี่ยวชาญ หรือ
ผูท้ ี่มีประสบการณ์ช่วยตรวจสอบความ
สมบูรณ์ ถูกต้อง
18
จัดส่งด้วยความมั ่นใจ ฉลองความสาเร็จล่วงหน้า
ให้กบั ตนเอง ครอบครัวและผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
ติดตามความคืบหน้าจากหน่วยงานหรือ
บุคคลที่เกี่ยวข้อง
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนปฏิบตั กิ ารจัดทางานวิจยั เพื่อประกอบการ
เลื่อนตาแหน่งเป็ นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
1
ศึกษา หลักการ ขั้นตอน วิธีการ การจัดทา
ผลงานวิจยั เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
2
กาหนดเรื่องที่จะทาวิจยั และศึกษาข้อมูล ความ
เป็ นไปได้ ความสาเร็จของผลงาน
3
เขียนเค้าโครงการวิจยั 3 บท
วิธีการพัฒนา
ทบทวนความรู ้
เข้าร่วมศึกษา อบรม สัมมนา
ปรึกษานักวิชาการหรือผูเ้ ชี่ยวชาญ
ปรึกษาผูม้ ีประสบการณ์ในการจัดส่ง
ผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนปฏิบตั กิ ารจัดทางานวิจยั เพื่อประกอบการ
เลื่อนตาแหน่งเป็ นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
4
เขียนงานวิจยั
บทที่ 1 ความเป็ นมาและความสาคัญของปั ญหา
5
เขียนงานวิจยั
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
6
เขียนงานวิจยั
บทที่ 3 วิธีการดาเนินการวิจยั
วิธีการพัฒนา
ทบทวนความรู ้
เข้าร่วมศึกษา อบรม สัมมนา
ปรึกษานักวิชาการหรือผูเ้ ชี่ยวชาญ
ปรึกษาผูม้ ีประสบการณ์ในการจัดส่ง
ผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนปฏิบตั กิ ารจัดทางานวิจยั เพื่อประกอบการ
เลื่อนตาแหน่งเป็ นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
4
เขียนงานวิจยั
บทที่ 1 ความเป็ นมาและความสาคัญของ
ปั ญหา
5
เขียนงานวิจยั
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
6
เขียนงานวิจยั
บทที่ 3 วิธีการดาเนินการวิจยั
7
เก็บรวบรวมข้อมูลตามวิธีการดาเนินการวิจยั
ที่กาหนด
8
วิเคราะห์ขอ้ มูลและเขียนงานวิจยั
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
9
เขียนงานวิจยั
บทที่ 5 สรุปผลการวิจยั และอภิปรายผล
10
ตรวจสอบรูปแบบ ความสมบูรณ์ ถูกต้องของ
การอ้างอิง บรรณานุกรมและการพิมพ์
วิธีการพัฒนา
ทบทวนความรู ้
เข้าร่วมศึกษา อบรม สัมมนา
ปรึกษานักวิชาการหรือผูเ้ ชี่ยวชาญ
จานวนวัน
ใบงานที่ 3 เขียนแผนปฏิบตั กิ ารจัดทางานวิจยั เพื่อประกอบการ
เลื่อนตาแหน่งเป็ นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (25 นาที)
ลาดับที่
กิจกรรม
11
ตรวจสอบข้อมูลประกอบของ
ภาคผนวก
12
เขียนบทคัดย่อ
13
จัดทาสารบัญ
14
ตรวจสอบรูปแบบ ความสมบูรณ์
ถูกต้องตามหลักวิชาการตามรูปแบบ
ของการเขียน การพิมพ์ผลงานวิจยั
15
เขียนบทความทางการวิจยั
16
การเผยแพร่ผลงานการวิจยั
17
จัดส่งผลงานการวิจยั
วิธีการพัฒนา
จานวนวัน
อุดมการณ์ของผูน้ าที่ประสบความสาเร็จ
• เสียสละ
• สร้างศรัทธา
• รูป้ ั ญหาทุกด้าน
• มีผลงานให้เห็น
• ดีเด่นคุณธรรม
• กล้านาชุมชน
• อุทิศตนอย่างฉลาด
• ปราศจากอบายมุข
• ไม่เป็ นกบในกะลาน้ าชาล้นถ้วย
• ป่ วยไม่รูจ้ กั รักษา
ทุกนาทีมีค่ามหาศาล
วันเวลาล่วงลับมิกลับหลัง
วันเวลาทอนชีวิตอนิจจัง
อย่านอนนั ่งนิ่งเฉยผ่านเลยไป
ควรคานึงถึงเวลาค่าชีวิต
อย่าหลงผิดปล่อยเวลาพาไถล
ค่าของคนร่นถอยน้อยตามไป
มีสิ่งใดเป็ นประโยชน์โปรดรีบทา
เปลวเทียนละลายแท่ง
เพื่อเปล่งแสงอันอาไพ
ชีวิตมลายไปมีสิ่งใดไว้ทดแทน
ชีวิตไร้สาระขณะนี้
ยังไม่สายเกินที่จะแก้ไข
แม้ชีวิตเหลือน้อยลงเพียงใด
ก็ยงั ได้ทาดีทนั
หวังว่าทุกคนคงจะนาความรูค้ วามเข้าใจ
เรื่องภาวะผูน้ า
ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
.....สูค่ วามสาเร็จและความสุขในการทางาน
ขอให้ทุกท่านจงมีความสุข
มีพลังกาย พลังใจ ทางาน
อย่างมีความสุขสร้างชื่อเสียง
และความเจริญรุง่ เรือง
ให้แก่ตนและส่วนรวมยิง่ ๆขึ้นไป
คุณลักษณะของผูบ้ ริหารที่ฉลาดรูท้ างอารมณ์ของผูน้ า
4 ด้าน 18 สมรรถนะ
สมรรถนะที่เกี่ยวกับตนเอง
ด้านความสามารถตระหนักรูอ้ ารมณ์ของตนเอง
1. สมรรถนะในการตระหนักรูต้ นเอง
2. สมรรถนะในการประเมินตนเองได้ถูกต้อง
3. สมรรถนะด้านความมั ่นใจ
สมรรถนะที่เกี่ยวกับตนเอง
ด้านความสามารถบริหารจัดการตนเอง
4. สมรรถนะในการควบคุมอารมณ์ตนเอง
5. สมรรถนะด้านความโปร่งใส
6. สมรรถนะด้านความสามารถปรับตัว
7. สมรรถนะด้านมุ่งผลสัมฤทธิ์
8. สมรรถนะด้านริเริม่
9. สมรรถนะด้านการมองโลกในแง่ดี
สมรรถนะที่เกี่ยวกับสังคม
ด้านความตระหนักรูท้ างสังคม
10. สมรรถนะในการเข้าใจคนอื่น
11. สมรรถนะความตระหนักรูด้ า้ นองค์การ
12. สมรรถนะด้านการบริการ
สมรรถนะที่เกี่ยวกับสังคม
ด้านความสามารถบริหารจัดการด้านความสัมพันธ์
13. สมรรถนะในการสร้างแรงดลใจ
14. สมรรถนะด้านอานาจอิทธิพล
15. สมรรถนะด้านการพัฒนาผูอ้ ื่น
16. สมรรถนะด้านการเป็ นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง
17. สมรรถนะด้านการบริหารความขัดแย้ง
18. สมรรถนะด้านการสร้างทีมงานและความร่วมมือ
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
การทดสอบภาวะผูน้ า
(Leadership Test)
อาจารย์ภาวิณี กระแสร์ญาณ
ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพป.กาแพงเพชร เขต 2
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานต ่า
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานสูง
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานต ่า
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานสูง
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
M1
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานต ่า
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
S1 : Telling แบบบอกให้ทา
มุ่งงานสูง ใช้คาสั ่งควบคุม นิเทศตรวจ
ตราอย่างใกล้ชิด
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
M2
ความสามารถต ่า
ความใส่ใจงานสูง
S2 : Selling แบบขายความคิด
มุ่งความสัมพันธ์สูง มุ่งงานสูง ใช้
คาสั ่ง ควบคุม นิเทศ พร้อมกับการ
ให้กาลังใจ ให้คาแนะนา อานวย
ความสะดวก สนับสนุน คอยเป็ นพี่
เลี้ยง
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
M3
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานต ่า
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
S3 :Participation แบบมีส่วนร่วม
มุ่งความสัมพันธ์สูง ให้คาชม ให้
กาลังใจ รับฟั ง คอยช่วยสนันสนุ น
อานวยความสะดวกและร่วม
ตัดสินใจ
ผูต้ าม : แบบผูน้ า
ผูต้ าม
แบบผูน้ าที่เหมาะสม
M4
ความสามารถสูง
ความใส่ใจงานสูง
S4 : แบบกระจายงาน
(Delegating) ให้เกียรติ ให้ความ
เชื่อถือ ไว้วางใจในความรู ้
ความสามารถและความรับผิดชอบ
จึงกระจายงานให้ทาอย่างอิสระและ
ให้ตดั สินใจเองโดยไม่เข้าไปก้าว
ก่าย
ขั้นตอนการพัฒนาระดับวุฒิภาวะของผูต้ าม
•
•
•
•
•
ขั้นที่ 1 : บอกให้รูว้ ่าต้องทาอะไร (To tell what to do) ได้แก่ การกาหนดเป้าหมาย
กิจกรรม ขั้นตอนของงานอย่างชัดเจนว่า ผูต้ ามต้องทาอะไรบ้าง
ขั้นที่ 2 : แสดงให้ดเู ป็ นตัวอย่างว่า เขาจะต้องทาอย่างไร (To show how to do)
ทั้งนี้เพื่อให้ผตู ้ ามรูว้ ิธีการ รวมทั้งรูถ้ ึงระดับคุณภาพและมาตรฐานของงานที่ผนู ้ าหรือ
องค์กรคาดหวัง
ขั้นที่ 3 : ให้ลองทาเอง (To let them try) ทั้งนี้เพื่อฝึ กทักษะและความชานาญ
ก่อให้เกิดความมั ่นใจว่าตนเองมีความสามารถและทาได้เหมือนกัน
ขั้นที่ 4 : คอยสังเกตห่างๆ ว่างานที่มอบหมายให้ทานั้น ได้คืบหน้าไปเพียงใด เป็ นไปใน
ทิศทางที่คาดหวังหรือไม่ (To observe performance)
ขั้นที่ 5 : ชมเชยให้กาลังใจเมื่องานคืบหน้าไปตามเป้าหมาย (To praise progress)
การประยุกต์ทฤษฎีแบบผูน้ ากับวุฒิภาวะของผูต้ าม
มีข้นั ตอนและกิจกรรมที่ผนู ้ าจะต้องดาเนินงานดังนี้
ขั้นที่ 1 : ผูน้ าจะต้องมีความสามารถในการเลือกงานที่จะมอบหมายให้ผตู ้ าม
ปฏิบตั ไิ ด้อย่างเหมาะสม จะต้องรูจ้ กั การกาหนดขอบข่ายตลอดจน
มาตรฐานของงานที่มอบหมายนั้น
ขั้นที่ 2 : ทาการวิเคราะห์ระดับวุฒิภาวะของผูต้ ามที่มีตอ่ งานที่มอบหมายให้
ทาว่าอยูใ่ นระดับใด (M1  M4)
ขั้นที่ 3 : เลือกใช้แบบผูน้ าแบบใดแบบหนึ่งให้เหมาะสมกับระดับวุฒิภาวะ
ของผูต้ ามเมื่อทางานนั้น
ขั้นที่ 4 : ต้องรูจ้ กั ปรับแบบผูน้ าใหม่ เมื่อประเมินพบว่าขณะนั้นผลงานของผู ้
ตามเป็ นไปในแง่ที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ โดยเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่
กาหนดไว้ในขั้นที่ 1
เก่ง ดี มีประโยชน์
เก่งงาน
คนเก่ง
เก่งคน
เก่งคิด
เก่งจัดการชีวติ
เก่ง ดี มีประโยชน์
ดี
เคารพกฎ ระเบียบกติกา
วัฒนธรรมประเพณี
ศีลธรรม สิทธิ หน้าที่
ความรับผิดชอบ
ซื่อสัตย์สจุ ริต
ฯลฯ
เก่ง ดี มีประโยชน์
มีประโยชน์
ทางานเต็มเวลา
ทางานเต็มความสามารถ
ทางานเต็มฝี มือ
ทางานเต็มความรู ้
มีคณ
ุ ค่าต่อเพือ่ นร่วมงานและองค์กร
มีผลงานเป็ นรูปธรรม มีคณ
ุ ค่าต่อเพือ่ นร่วมงานและองค์กร
เก่ง ดี มีประโยชน์
เก่งงาน
พื้นฐานสาคัญ
ที่ทาให้เกิด
การยอมรับ
มีความสามารถในการทางาน
ทางานเก่ง รับผิดชอบ รูบ้ ทบาทหน้าที่
ทุ่มเทเสียสละ อดทน
ลงมือปฏิบตั ไิ ด้ดว้ ยตนเอง
มีฝีมือ
พรสวรรค์ V.S. พรแสวง
เก่ง ดี มีประโยชน์
มีมนุ ษยสัมพันธ์
เก่งคน
มีทกั ษะทางด้านสังคม
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
มีความสามารถในการเข้ากับคน
มีทกั ษะทางการติดต่อประสานงาน
ต้อนรับขับสู ้ หน้าตายิ้มแย้ม อารมณ์ดี มัน่ คง
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
เก่ง ดี มีประโยชน์
มีมาตรฐานในการปฏิบตั ติ นต่อคนอืน่
เก่งคน
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
•
•
•
•
หัวหน้า เจ้านาย ผูบ้ งั คับบัญชา
เพือ่ น พีน่ อ้ ง เพือ่ นร่วมงาน
ครอบครัว สามี ภรรยา
ลูกค้า ผูร้ บั ริการ
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
เก่ง ดี มีประโยชน์
ทาให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้เร็ว
เก่งคน
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
• นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ขึ้นที่สูงไม่ได้
• อยากเจริญก้าวหน้า...ต้องทาตนให้มีคณ
ุ ลักษณะที่
คนอืน่ ยอมรับ....
พี่ช่วย
ดึง น้องช่วยดัน เพื่อนช่วยประคอง ครอบครัวช่วย
เสริม
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
เก่ง ดี มีประโยชน์
ทาให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้เร็ว
เก่งคน
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
•
•
•
•
•
คุณทราบไหม.... คืออะไร
สิง่ ที่เจ้านายต้องการจากคุณ
สิง่ ที่ลูกน้องต้องการจากคุณ
สิง่ ที่เพื่อนต้องการจากคุณ
สิง่ ที่ผูร้ บั บริการต้องการจากคุณ
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
เก่ง ดี มีประโยชน์
มีมาตรฐานในการปฏิบตั ติ นต่อคนอืน่
เก่งคน
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
•
•
•
•
•
หัวหน้า เจ้านาย ผูบ้ งั คับบัญชา
ตรงต่อเวลา
เรียกหาได้เสมอ
เสนองานทันใจ ฝักใฝ่ มุ่งงาน
เรียกขานไม่ขดั
จัดงานเรียบร้อย
คอยปรับปรุงงาน ไม่คา้ นต่อหน้า
ทนคาบ่นว่า
อาสาการงาน
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
มาตรฐานการทางาน การปฏิบตั ติ น
ให้ชนะใจผูบ้ งั คับบัญชา
• ตรงต่อเวลา
• เสนองานทันใจ
• เรียกขานไม่ขดั
• คอยปรับปรุงงาน
• ทนคาบ่นว่า
เรียกหาได้เสมอ
ฝักใฝ่ มุ่งงาน
จัดงานเรียบร้อย
ไม่คา้ นต่อหน้า
อาสาการงาน
คนที่ไม่ให้เกียรติ ไม่ยอมรับเจ้านาย
คนที่ทะเลาะขัดแย้งกับเจ้านาย หัวหน้า
มักไม่เจริญก้าวหน้า
เก่ง ดี มีประโยชน์
มีมาตรฐานในการปฏิบตั ติ นต่อคนอืน่
เก่งคน
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
เพื่อน พี่ น้อง ร่วมงาน
ต้องให้เกียรติ
ต้องช่วยเหลือเกื้อกูล
ต้องจริงใจ ต้องให้กาลังใจ
ต้องรับฟังปัญหา เป็ นที่พ่งึ ทางความคิด
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
เก่ง ดี มีประโยชน์
เก่งคน
มีมาตรฐานในการปฏิบตั ติ นต่อคนอืน่
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
ครอบครัวที่มีความสุข นาไปสู…
่ ..
ความสาเร็จในการทางาน
ต้องทาหน้าที่ในครอบครัว
ให้ดีท่สี ุด
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
เก่ง ดี มีประโยชน์
มีมาตรฐานในการปฏิบตั ติ นต่อคนอืน่
เก่งคน
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
หัวหน้า
นกไม่มีขน คนไม่มีเพือ่ น
ขึ้นที่สูงไม่ได้
มีเพือ่ นห้าร้อยยังน้อย มีศตั รูคนเดียวแทบ
รับมือไม่ไหว
อยู่กบั ใครเขาก็รกั มีความสุข
กองหน้า VS กองหลัง
บุคลิกคนที่ไม่เหมาะสมเป็ นกองหน้า
หน้าบูด ไม่พูดจา
อารมณ์ไม่ดี จูจ้ ้ ขี ้ ีบ่น
ไม่มองหน้าคน เอาแต่ใจตนเอง
อวดเบ่งวางท่า ไม่คบหาสมาคม
กองหน้า VS กองหลัง
บุคลิกคนที่ไม่เหมาะสมเป็ นกองหน้า
4ย
ยุ่งยาก
โยกโย้
ยืดยาด
หยุมหยิม
ยิ้มแย้ม
เยือกเย็น
ยืดหยุ่น
ยอดเยี่ยม
เก่งงาน VS เก่งคน
Task Ability VS Social Ability
ความสามารถทัง้ ๒ อย่างนี้ ตอ้ งมีอยู่ในคนๆเดียว
จึงจะทาให้คนนั้นมีความก้าวหน้าได้เร็ว
ถ้าแยกกันอยู่ จะได้อย่างเสียอย่าง ไม่กา้ วหน้า
ทางานเก่ง มีฝีมือแต่ไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย
เก่ง ดี มีประโยชน์
เก่งคิด
มีความสามารถในการคิด
เป็ นนักคิดริเริ่มสิง่ ใหม่ๆ
พื้นฐานสาคัญ
ในการเป็ น
เจ้านาย
คิดแก้ไขสิง่ ที่เป็ นปัญหา
คิดปรับปรุง พัฒนางาน
คิดเป็ นระบบ คิดในสิง่ ที่เป็ นไปได้
คิดดี อารมณ์ดี แสดงออกดี มีความสุข
การตรวจสอบมาตรฐานทางความคิด
• มีความคิดก้าวหน้าต่องานที่ทาหรือไม่
• มีความคิดก้าวหน้าต่อครอบครัวหรือไม่
• มีความคิดก้าวหน้าต่อตนเองหรือไม่
• มีความคิดก้าวหน้าต่อชุมชนที่อยู่อาศัยหรือไม่
ผูน้ าต้องเป็ นนักคิด นักแก้ปญั หา
ปัญหา ทาให้ ชีวติ แข็งแกร่ง
ปัญหา ทาให้ ชีวติ เข้มแข็ง
ปัญหาสร้างคน
ปัญหาสร้างผูน้ า
ผูต้ ามต้องทามากกว่าพูด ผูน้ าต้องพูดมากกว่าทา
ผูน้ าต้องเป็ นนักคิด นักแก้ปญั หา
ต้องเชื่อว่า...กว่าที่เขาจะมาพูดให้คนอืน่ ทา
เขาผ่านการทาตามที่คนอืน่ พูดมาแล้วอย่างโชกโชน
จนถึงจุดถึงเวลาที่เขาได้รบั การยอมรับ
ให้เป็ นผูพ้ ดู ให้คนอืน่ ทา
ผูต้ ามต้องทามากกว่าพูด ผูน้ าต้องพูดมากกว่าทา
แนวทางสูค่ วามสาเร็จในการทางาน
• เก่งงาน เป็ น ลูกน้อง
• เก่งงาน เก่งคน เป็ นหัวหน้า
• เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เป็ นเจ้านาย
• เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด เก่งจัดการชีวติ เป็ นคน
ประสบความสาเร็จและมีความสุขที่สดุ
ที่
เก่ง ดี มีประโยชน์
เก่ง
จัดการชีวติ
พื้นฐานสาคัญ
ทาให้ชีวติ
มีความสุข
มีความสามารถในการบริหารเวลา
จัดการกับตนเอง
ครอบครัวและคนที่เกี่ยวข้อง
จัดการกับรายรับรายจ่าย
จัดการกับปัญหา
การบริหารเวลาคือการบริหารชีวติ
* มองเห็นคุณค่าของเวลา
* มองเห็นคุณค่าของชีวติ
* รูจ้ กั แบ่งเวลา ให้กบั งาน ให้กบั ชีวติ
และให้กบั ครอบครัว
* มีความพอดี ไม่หย่อนไป ไม่ตงึ ไป
ชีวติ ที่ดีตอ้ งมีการแบ่งเวลาให้กบั ชีวติ ….
การทางาน การพักผ่อน ครอบครัว
และสังคม อย่างครบถ้วน
คุณค่าของครอบครัว
เป็ นแก่นแท้ของการมีชีวติ อยู่
อย่าให้เวลาทัง้ ชีวติ หมดสิ้นไปกับการทางาน
ต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัวก่อนเสมอ
เวลาสาหรับดูแลสุขภาพ
มนุ ษย์ตอ้ งการช่วงเวลาแห่งการหยุดพัก
เพือ่ เติมความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
พร้อมที่จะกลับมาทางาน
อย่างมีประสิทธิภาพ
BM
SM
FM
การจัดแบ่งเวลา
•เป็ นไปอย่างสมดุล
•นาไปสูค่ วามสุข และความสาเร็จของชีวติ
จัดให้สมดุลเท่าที่จะเป็ นไปได้
* ไม่ตอ้ งลงตัวชัด
* พยายามให้สูสี
* ชดเชยกับกรณี จาเป็ น
ทาแต่งาน งาน งาน
มากเกินไปจนทาให้
สังคมและครอบครัวเสีย
***
*****
********
** โรคพิษทางานเรื้อรัง **
ไม่พบหน้าครอบครัว ทาแต่งาน
ออกสังคมมากเกินไป จนไม่มีเวลากลับบ้าน
ดึกๆ ดื่นๆ นัง่ ทางาน นัง่ ประชุมได้ทง้ั วัน
วิธีแก้โรคบ้างาน….เพือ่ ความสุขของชีวติ
*
*
*
*
*
รูจ้ กั แบ่งเวลาให้กบั ชีวติ
รูจ้ กั วางแผนการทางานล่วงหน้า
ทาทีละอย่างในขณะเดียวกัน
รูจ้ กั มอบหมายให้คนอืน่ ทาแทนบ้าง
พักผ่อน นันทนาการเสียบ้าง
ถ้ามุ่งแต่งานสังคมมากไป
งานก็เสีย ครอบครัวก็แย่
เอาเวลาไปให้ครอบครัวหมด
* งานก็ไม่ค่อยได้ทา
* เพือ่ นฝูงก็หายหน้าหมด
* หายใจเข้าออกมีแต่เรื่องเมีย เรื่องลูก
พาลูกไปว่ายน้ า ไปเรียนพิเศษ
พาเมียไปทาผม พาหมาที่บา้ นไปฉี ดยา
* ต้องหาคนอืน่ ทาแทนบ้าง
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
•
•
•
•
พัฒนาทักษะทางวิชาการและวิชาชีพ
พัฒนาทักษะทางสังคม
พัฒนาทักษะทางความคิด
พัฒนาทักษะทางการบริหารจัดการ
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะทางวิชาการและวิชาชีพ : เก่งงาน
• มีความสามารถในการทางาน ทางานเก่ง
• รับผิดชอบ รูบ้ ทบาทหน้าที่
• ทุ่มเทเสียสละ อดทน
• ลงมือปฏิบตั ไิ ด้ดว้ ยตนเอง มีฝีมือ
• เป็ นพื้นฐานสาคัญที่ทาให้เกิดการยอมรับ
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะทางสังคม : เก่งคน
• มีมนุ ษยสัมพันธ์ มีทกั ษะทางการเจรจา
• มีความสามารถในการเข้ากับคน
• มีทกั ษะทางการติดต่อประสานงาน
• ต้อนรับขับสู ้ หน้าตายิ้มแย้ม อารมณ์ดี มัน่ คง
• เป็ นพื้นฐานสาคัญในการเป็ นหัวหน้าหรือผูน้ า
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะและความสามารถในการคิด : เก่งคิด
• เป็ นนักคิดริเริ่มสิง่ ใหม่ๆ
• คิดแก้ไขสิง่ ที่เป็ นปัญหา คิดปรับปรุง พัฒนางาน
• คิดเป็ นระบบ คิดในสิง่ ที่เป็ นไปได้
• เป็ นพื้นฐานสาคัญในการเป็ นเจ้านาย
การพัฒนาตนสูค่ วามเป็ นผูน้ าทางวิชาการ
พัฒนาทักษะทางการบริหารจัดการ : เก่งจัดการชีวติ
• ทักษะการบริหารจัดการงาน
• ทักษะการบริหารจัดการคน
• ทักษะการบริหารจัดการเงิน
• ทักษะการบริหารจัดการเวลา
• ทักษะการบริหารจัดการชีวติ
ความสาเร็จ...เป็ นความปรารถนาของทุกคน
จุดเริ่มต้น...อยู่ท่ตี นเอง
ต้องเชื่อว่า
“คุณสามารถฝึ กตนให้สาเร็จได้”
แต่
“คุณต้องแสวงหาปัจจัยที่จะทาให้เกิดความสาเร็จได้”
อุดมการณ์ของผูน้ าที่ประสบความสาเร็จ
•
•
•
•
•
เสียสละ
สร้างศรัทธา
รูป้ ญั หาทุกด้าน
มีผลงานให้เห็น
ดีเด่นคุณธรรม
•
•
•
•
•
กล้านาชุมชน
อุทศิ ตนอย่างฉลาด
ปราศจากอบายมุข
ไม่เป็ นกบในกะลาน้ าชาล้นถ้วย
ป่ วยไม่รูจ้ กั รักษา
ทุกนาทีมีค่ามหาศาล
วันเวลาล่วงลับมิกลับหลัง
วันเวลาทอนชีวิตอนิจจัง
อย่านอนนั ่งนิ่งเฉยผ่านเลยไป
ควรคานึงถึงเวลาค่าชีวิต
อย่าหลงผิดปล่อยเวลาพาไถล
ค่าของคนร่นถอยน้อยตามไป
มีสิ่งใดเป็ นประโยชน์โปรดรีบทา
เปลวเทียนละลายแท่ง
เพื่อเปล่งแสงอันอาไพ
ชีวิตมลายไปมีสิ่งใดไว้ทดแทน
ชีวิตไร้สาระขณะนี้
ยังไม่สายเกินที่จะแก้ไข
แม้ชีวิตเหลือน้อยลงเพียงใด
ก็ยงั ได้ทาดีทนั
หวังว่าทุกคนคงจะนาความรูค้ วามเข้าใจ
เรื่องภาวะผูน้ า
ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
.....สูค่ วามสาเร็จและความสุขในการทางาน
ขอให้ทุกท่านจงมีความสุข
มีพลังกาย พลังใจ ทางาน
อย่างมีความสุขสร้างชื่อเสียง
และความเจริญรุง่ เรือง
ให้แก่ตนและส่วนรวมยิง่ ๆขึ้นไป
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
วิทยากร
รองศาสตราจารย์ธวัช วีระศิรวิ ฒ
ั น์
รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร
อาจารย์จนิ ดา เกษวงศ์รอต
ครูเชี่ยวชาญ สพป.ตากเขต 1