Present_PPT - ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
Download
Report
Transcript Present_PPT - ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ผู้วจิ ยั : นางสาวอรอุรา สุ ขแปดริ้ว รหัส 52257413
สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา
หัวข้ อการนาเสนอ
บทที่ 1 : บทนำ
บทที่ 2 : เอกสำรและงำนวิจยั ที่เกี่ยว้ออง
บทที่ 3 : วิธีดำเนินกำรวิจยั
บทที่ 4 : ผลกำรวิเครำะห์้ออ มูล
บทที่ 5 : สรุ ป อภิปรำยผล และ้ออเสนอแนะ
บทที่ 1 : บทนา
ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา
ปัญหา
ผู้เรียน
้ำดควำมรู อและทักษะ
(สมศ. ระดับปรับปรุ ง)
ผู้สอน
คณิ ตศำสตร์เป็ น
วิชำนำมธรรม
สื่ อการสอน
ไม่กระตุนอ ใหอเกิด
กำรเรี ยนรู อ
วัตถุประสงค์ การวิจัย
1. เพื่อเปรี ยบเทียบผลกำรเรี ยนรู อก่อนและหลังเรี ยนดอวย
บทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิค STAD
2. เพื่อศึกษำพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม้องนักเรี ยนที่เรี ยน
ดอว ยบทเรี ยนมัล ติ มี เ ดี ย ร่ ว มกับ กำรเรี ย นแบบร่ ว มมื อ เทคนิ ค
STAD
3. เพื่อศึกษำควำมพึงพอใจ้องนักเรี ยนที่มีต่อกำรจัดกำร
เรี ยนรูอดวอ ยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิค
STAD
สมมติฐานการวิจัย
ผลกำรเรี ย นรูอ วิ ช ำคณิ ต ศำสตร์ เรื่ อ งกำรบวกและกำรลบ
จำนวนเต็ม ้องนักเรี ยนหลังเรี ยนดอวยบทเรี ยนมัลติมีเ ดียร่ วมกับ
กำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิค STAD สูงกว่ำ ก่อนเรี ยน
ขอบเขตการวิจัย
ประชากร
ประชากร
ประชากร
นักเรี ยน
ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่1
โรงเรี ยนคงทองวิทยำ
จำนวน 10 หอองเรี ยน
รวม 396 คน
กลุ่มตัวอย่ าง
นักเรี ยน
ชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 1
โรงเรี ยนคงทองวิทยำ
จำนวน 1 หอองเรี ยน
รวม 36 คน
ขอบเขตการวิจัย (ต่ อ)
ตัวแปรต้ น
กำรจัดกำรเรี ยนรู อ
ดอวยบทเรี ยน
มัลติมีเดียร่ วมกับ
กำรเรี ยนแบบร่ วมมือ
เทคนิค STAD
ตัวแปรตาม
ผลกำรเรี ยนรู อวิชำคณิ ตศำสตร์
พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
ควำมพึงพอใจ้องนักเรี ยนที่มีต่อ
กำรจัดกำรเรี ยนรู อดวอ ยบทเรี ยนมัลติมีเดีย
ร่ วมกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิค STAD
ขอบเขตการวิจัย (ต่ อ)
เนือ้ หา
การบวกจานวนเต็ม
การลบจานวนเต็ม
จำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มบวก
จำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบ
จำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มบวก
เหตุผลกำรเลือกเรื่ องนี้ : หลักสู ตรแกนกลำง พ.ศ.2551 กำหนดไวอวำ่ เป็ นเนื้ อหำที่มีควำม
จำเป็ นตอองเรี ยน ก่อนที่จะเรี ยนเรื่ องอื่น และทัศนำ จรจวบโชค(2551 : 6) กล่ำวว่ำ กำรบวก
และกำรลบจำนวนเต็มเป็ นทักษะกำรคำนวณพื้นฐำนในกำรเรี ยนเนื้อหำอื่นๆ
นิยามศัพท์ เฉพาะ
1. บทเรี ยนมัลติมีเดีย สื่ อที่ใชอในกำรเรี ยนรูอดอวยตนเองซึ่ งอยู่
ในรู ปแบบบทเรี ยนคอมพิวเตอร์ เรื่ องกำรบวกและกำรลบจำนวน
เต็ม ซึ่ งประกอบดอวย้ออควำม ภำพนิ่ ง เสี ยงบรรยำย และดนตรี
ประกอบ อย่ำงมีควำมสัมพันธ์
2. การจัดการเรี ยนรู้ ด้วยบทเรียนมัลติมีเดียร่ วมกับการเรียน
แบบร่ วมมือเทคนิค STAD หมำยถึง กำรจัดกิจกรรมกำรเรี ยน
กำรสอนโดยกำรจัดกลุ่มคละควำมสำมำรถ กลุ่มละ 4 คน เป็ น
นักเรี ยนเก่ง 1 คน ปำนกลำง 2 คนและอ่อน 1 คน โดย
ประกอบดอวยกิจกรรม 6 กิจกรรม ดังนี้
นิยามศัพท์ เฉพาะ (ต่ อ)
2.1 กำรนำเ้อำสู่บทเรี ยนดอวยบทเรี ยนมัลติมีเดีย
2.2 กำรนำเสนอบทเรี ยนต่อทั้งชั้นโดยใชอบทเรี ยนมัลติมีเดีย
2.3 กำรเรี ยนกลุ่มย่อยซึ่ งเป็ นกำรร่ วมมื อกันเรี ยนรูอ ้อง
นักเรี ยน
2.4
กำรทดสอบย่อยโดยทดสอบควำมรูอ ค วำมเ้อำ ใจ
รำยบุคคล
2.5 กำรคิดคะแนนในกำรพัฒนำตนเองและ้องกลุ่ม
2.6 กำรยกย่องกลุ่มที่ ประสบควำมสำเร็ จ ซึ่ งเป็ นกลุ่มที่ มี
คะแนนสูงสุ ด
นิยามศัพท์ เฉพาะ (ต่ อ)
3. ผลการเรียนรู้ หมำยถึง คะแนน้องนักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษำ
ปี ที่ 1 ที่ ไดอจำกกำรทดสอบควำมรูอ ควำมเ้อำใจหลังเรี ยน เรื่ อง
กำรบวกและลบจำนวนเต็ม โดยใชอแบบทดสอบวัดผลกำรเรี ยนรูอ
4. พฤติกรรมการทางานกลุ่ม กำรแสดงออก้องนักเรี ยน
ใน้ณะท ำกิ จ กรรมกลุ่ ม เพื่ อ ใหอ ง ำนประสบควำมส ำเร็ จ ตำม
เปอ ำหมำยที่กำหนดไวอ ซึ่งพฤติกรรมที่ประเมินประกอบดอวย
4.1 ควำมรับผิดชอบ
4.2 กำรสรอำงบรรยำกำศในกำรทำงำนกลุ่ม
4.3 กำรใหอควำมช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม 4.4 กำรกลอำแสดงควำมคิดเห็น
4.5 กำรยอมรับควำมคิดเห็น้องสมำชิกภำยในกลุ่ม
นิยามศัพท์ เฉพาะ (ต่ อ)
5. ความพึงพอใจของผู้เรี ยน หมำยถึง ควำมรูอสึกนึ กคิ ด้อง
ผูเอ รี ยนที่มีต่อกำรจัดกำรเรี ยนรูอดวอ ยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับกำร
เรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิ ค STAD ในดอำนเนื้ อหำ , ดอำนกิจกรรม
กำรเรี ยนรูอ , ดอำนสื่ อกำรเรี ยนรูอ และดอำนกำรวัดและประเมินผล
6.
นั กเรี ยน หมำยถึ ง ผูเอ รี ย นที่ ก ำลังศึ ก ษำอยู่ใ นระดับ
ชั้นมัธยมศึ ก ษำปี ที่ 1
ภำคเรี ยนที่ 1
ปี กำรศึ กษำ 2554
โรงเรี ยนคงทองวิทยำ
กรอบแนวคิดการวิจัย
การจัดการเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD
1. การนาเข้ าสู่ บทเรียน
2. การนาเสนอบทเรียนต่ อทั้งชั้ น
3. การเรียนกลุ่มย่ อย
4. การทดสอบย่อย
5. การคิดคะแนนการพัฒนา
6. การยกย่ องกลุ่มทีค่ ะแนนสู งสุ ด
(วัชรา เล่าเรียนดี : 2547)
สื่ อมัลติมีเดีย
1. สื่ อมัลติมีเดีย คือ การใช้ คอมพิวเตอร์ สื่อความหมายกับผู้ใช้ โดย
วิธีการปฏิสัมพันธ์ ผสมผสานกับสื่ อหลายชนิดทั้งข้ อความ ภาพนิ่ง
ภาพเคลือ่ นไหว และเสี ยง
2. ขั้นตอนการออกแบบและสร้ าง
2.1 วิเคราะห์ เนือ้ หา
2.2 ออกแบบดาเนินเรื่อง
2.3 เขียนบทดาเนินเรื่อง 2.4 เลือกโปรแกรมในการสร้ าง
2.5 สร้ างสื่ อมัลติมีเดีย
(มนต์ ชัย เทียนทอง ; 2545 , ฤทธิชัย อ่อนมิ่ง : 2547)
การจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนมัลติมเี ดียร่ วมกับการเรียนแบบร่ วมมือ
เทคนิค STAD วิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1
ผลการเรียนรู้
พฤติกรรมการทางานกลุ่ม
ความพึงพอใจของผู้เรียน
บทที่ 2 : เอกสารและงานวิจัยที่เกีย่ วข้ อง
หลักสูตรแกนกลาง พุทธศักราช 2551
การสอนคณิ ตศาสตร์
สื่ อมัลติมีเดีย
การเรี ยนแบบร่ วมมือ
งานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 : วิธีดาเนินการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่ าง
ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 โรงเรียนคงทองวิทยา
จานวน 10 ห้ องเรียน รวม 396 คน
การสุ่ มอย่ างง่ ายโดยการจับฉลาก
กลุ่มตัวอย่ าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1
จานวน 1 ห้ องเรียน รวม 36 คน
แบบแผนการวิจัย
กำรวิจยั ครั้งนี้เป็ นกำรวิจยั เชิงทดลอง โดยมีแบบแผนกำรวิจยั แบบ
One Group Pretest - Posttest Design ดังแผนภำพ
เมื่อ
ทดสอบก่อนเรียน
ทดลอง
ทดสอบหลังเรียน
T1
X
T2
T1
T2
X
หมำยถึง กำรทดสอบก่อนเรี ยน (Pretest)
หมำยถึง กำรทดสอบหลังเรี ยน (Posttest)
หมำยถึง กำรเรี ยนดอวยบทเรี ยนมัลติมีเดีย + เทคนิค STAD
เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย
1.แผนกำรจัดกำรเรี ยนรูอ ดวอ ยบทเรี ยนมัลติมีเดี ยร่ วมกับกำรเรี ยน
แบบร่ วมมือเทคนิค STAD
2. บทเรี ยนมัลติมีเดีย เรื่ อง กำรบวกและลบจำนวนเต็ม
3. แบบทดสอบวัดผลกำรเรี ยนรูอวิชำคณิ ตศำสตร์ เรื่ องกำรบวก
และกำรลบจำนวนเต็ม
4. แบบประเมินพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
5. แบบสอบถำมควำมพึงพอใจที่มีต่อกำรเรี ยนดอวยบทเรี ยน
มัลติมีเดียร่ วมกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิค STAD
การสร้ างและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
1. กำรสรอำงแผนกำรจัดกำรเรี ยนรู อที่เรี ยนดอวยบทเรี ยนมัลติมีเดีย + STAD
2. กำรสรอำงบทเรี ยนมัลติมีเดียเรื่ อง กำรบวกและลบจำนวนเต็ม
3. กำรสรอำงแบบทดสอบวัดผลกำรเรี ยนรู อ
4. กำรสรอำงแบบประเมินพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
5. กำรสรอำงแบบสอบถำมควำมพึงพอใจ
1. การสร้ างแผนจัดการเรียนรู้ ด้วยมัลติมเี ดีย + STAD
ศึกษาเอกสารเกีย่ วกับหลักสู ตร บทเรียนมัลติมเี ดีย และเทคนิค STAD
กาหนดเนือ้ หา สาระการเรียนรู้ การวัดประเมินผล
ศึกษาวิธีการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้จากเอกสารและงานวิจัยต่ างๆ
สร้ างแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนมัลติมเี ดียร่ วมกับเทคนิค STAD
เสนอแผนการจัดการเรียนรู้ต่ออาจารย์ ทปี่ รึกษา
ให้ ผู้เชี่ยวชาญด้ านเนือ้ หาและการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ (รายชื่อหน้ า 109)
ตรวจสอบความสอดคล้ อง ซึ่งได้ ค่า IOC เท่ ากับ 1.00 (รายละเอียดหน้ า 112)
ได้ แผนการจัดการเรียนรู้ ไปใช้ จริง(หน้ า 137 - 167)
2. การสร้ างบทเรียนมัลติมีเดีย
ศึกษา หลักสู ตร เนือ้ หา และวิธีการสร้ างบทเรียนมัลติมเี ดียจากเอกสารต่ าง ๆ
เขียนบทบรรยาย(Script) และ บทภาพ(Storyboard) แล้ วนาไปเสนอต่ ออาจารย์ ที่ปรึกษา
สร้ างบทเรียนมัลติมเี ดียตามบทบรรยาย(Script) และ บทภาพ(Storyboard)
ให้ ผู้เชี่ยวชาญด้ านเนือ้ หาและด้ านสื่ อมัลติมเี ดียประเมินคุณภาพบทเรียน(รายชื่อหน้ า 109 - 110)
ด้ านเนือ้ หา ค่ าเฉลีย่ เท่ ากับ 4.44 ด้ านสื่ อมัลติมเี ดียค่ าเฉลีย่ เท่ ากับ 4.48 (รายละเอียดหน้ า 113)
นาบทเรียนไปหาประสิ ทธิภาพกับนักเรียนทีไ่ ม่ ใช่ กลุ่มตัวอย่ าง ครั้งที่ 1 จานวน 3 คน ได้ ค่า
ประสิ ทธิภาพ E1 / E2 เท่ ากับ 72.22 / 68.89 ซึ่งสู งกว่ าเกณฑ์ ทกี่ าหนด 65/65 (รายละเอียดหน้ า 117)
นาบทเรียนทีผ่ ่ านการแก้ ไขไปหาประสิ ทธิภาพกับนักเรียนทีไ่ ม่ ใช่ กลุ่มตัวอย่ าง ครั้งที่ 2 จานวน 9 คน ได้
ค่ าประสิ ทธิภาพ E1 / E2 เท่ ากับ 85.93 / 84.07 ซึ่งสู งกว่ าเกณฑ์ ทกี่ าหนด 75/75 (รายละเอียดหน้ า 118)
ได้ บทเรียนมัลติมเี ดียไปใช้ จริง(ตัวอย่ างหน้ า 183 – 186)
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย(ต่ อ)
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย(ต่ อ)
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย(ต่ อ)
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย(ต่ อ)
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย(ต่ อ)
ตัวอย่ างบทเรียนมัลติมีเดีย(ต่ อ)
3. การสร้ างแบบทดสอบวัดการเรียนรู้
ศึกษาวิธีการสร้ างและแนวคิดในการสร้ างข้ อสอบวัดผลการเรียนรู้ และวิเคราะห์ เนือ้ หา ตัวชี้วดั
สร้ างตารางวิเคราะห์ แบบทดสอบ และสร้ างแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้แบบปรนัย จานวน 60 ข้ อ
นาแบบทดสอบทีส่ ร้ างขึน้ ไปให้ ผู้เชี่ยวชาญด้ านเนือ้ หาและการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์
(รายชื่อหน้ า 109) ตรวจสอบความสอดคล้ องซึ่งได้ ค่า IOC เท่ ากับ 1.00 (รายละเอียดหน้ า 121)
นาแบบทดสอบไปทดลองใช้ กบั นักเรียนทีเ่ คยเรียน เรื่องการบวกและการลบจานวนเต็ม
นาผลมาวิเคราะห์ หาค่ าความยากง่ าย(p) และค่ าอานาจจาแนก (r) คัดเลือกข้ อสอบจานวน 30 ข้ อ
ซึ่งได้ ค่า p อยู่ระหว่ าง 0.25 – 0.60 และค่ า r อยู่ระหว่ าง 0.40 – 0.85 (หน้ า 124 - 125)
หาค่ าความเชื่อมัน่ ของแบบทดสอบ โดยใช้ สูตร KR – 20 ซึ่งได้ ค่าความเชื่อมัน่ เท่ ากับ 0.86
(รายละเอียดหน้ า 126 - 128)
ได้ แบบทดสอบไปใช้ จริงจานวน 30 ข้ อ(หน้ า 168 – 173)
4. การสร้ างแบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
ศึกษาหลักเกณฑ์ วิธีการสร้ างแบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มจากเอกสารต่ าง ๆ
สร้ างแบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มแบบมาตราส่ วนประมาณค่ า
นาแบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มไปเสนอต่ ออาจารย์ ทปี่ รึกษา
ตรวจสอบความเหมาะสมของคาถาม
นาแบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มไปให้ ผ้ ูเชี่ยวชาญด้ านพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
(รายชื่อหน้ า 109) ตรวจสอบความเหมาะสมของคาถาม
ซึ่งได้ ค่า IOC ของแบบประเมินทั้งฉบับเท่ ากับ 1.00 (รายละเอียดหน้ า 129 - 130)
ได้ แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่มไปใช้ จริง(หน้ า 174 – 177)
5. การสร้ างแบบสอบถามความพึงพอใจ
ศึกษาหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการสร้ างแบบสอบถามความพึงพอใจจากเอกสารต่ าง ๆ
สร้ างแบบสอบถามความพึงพอใจ
นาแบบสอบถามความความพึงพอใจไปให้ อาจารย์ ทปี่ รึกษา
ตรวจสอบความเหมาะสมของคาถาม
นาแบบสอบถามความพึงพอใจไปให้ ผู้เชี่ยวชาญด้ านการวัดและประเมินผล
(รายละเอียดหน้ า 110) ตรวจสอบความเหมาะสมของคาถาม
ซึ่งได้ ค่า IOC ของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ ากับ 0.92 (รายละเอียดหน้ า 131 - 132)
ได้ แบบสอบถามความพึงพอใจไปใช้ จริง(หน้ า 178 – 181)
วิธีดาเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้ อมูล
เตรียมความพร้ อมด้ านผู้เรียน : แบ่ งกลุ่มคละความสามารถ (รายละเอียดหน้ า 67 - 68)
และชี้แจงการเรียนด้ วยเทคนิค STAD
เตรียมความพร้ อมด้ านห้ องเรียน คอมพิวเตอร์ หูฟัง และติดตั้งบทเรียนมัลติมเี ดีย
ในเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้ อมตรวจสอบการใช้ งาน
ทดสอบก่ อนเรียน
ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยดาเนินการตามแผนการจัดการเรียนรู้ ท้งั 3 แผน
ซึ่งประกอบด้ วยขั้นตอนของเทคนิค STAD ทั้ง 6 ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ 1 : ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน
- ครูแจ้ งคะแนนฐานของนักเรียนแต่ ละคน
- นักเรียนศึกษาจุดประสงค์ การเรียนรู้ และทบทวนความรู้เดิมจากบทเรียนมัลติมเี ดีย
วิธีดาเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้ อมูล(ต่ อ)
ขั้นที่ 1 : ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน
- ครูแจ้ งคะแนนฐานของนักเรียนแต่ ละคน
- นักเรียนศึกษาจุดประสงค์ การเรียนรู้ และทบทวนความรู้เดิมจากบทเรียนมัลติมเี ดีย
ขั้นที่ 2 : ขั้นการนาเสนอบทเรียนต่ อชั้น
- นักเรียนศึกษาเนือ้ หาจากบทเรียนมัลติมเี ดีย
ขั้นที่ 3 : ขั้นการเรียนกลุ่มย่ อย
- นักเรียนแต่ ละกลุ่มช่ วยเหลือเพือ่ นในกลุ่มทีไ่ ม่ เข้ าใจเนือ้ หา
- นักเรียนแต่ ละกลุ่มช่ วยกันทาใบงาน
- นักเรียนและครูช่วยกันตรวจใบงาน เพือ่ ตรวจสอบความเข้ าใจ
- นักเรียนแต่ ละกลุ่มช่ วยกันทบทวนความรู้ก่อนสอบรายบุคคล
ขั้นที่ 4 : ขั้นการทดสอบย่ อย
- นักเรียนทดสอบรายบุคคล
วิธีดาเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้ อมูล(ต่ อ)
ขั้นที่ 4 : ขั้นการทดสอบย่ อย
- นักเรียนทดสอบรายบุคคล
ขั้นที่ 5 : ขั้นการคิดคะแนนพัฒนาตนเองและของกลุ่ม
- นักเรียนและครู ร่วมกันคิดคะแนนพัฒนาตนเอง โดยหาผลต่ างของคะแนนฐานกับ
คะแนนทดสอบ เทียบกับเกณฑ์
- นักเรียนและครู ร่วมกันคิดคะแนนพัฒนาของกลุ่ม โดยนาคะแนนพัฒนาของสมาชิก
มาหาค่ าเฉลีย่
ขั้นที่ 6 : ขั้นการยกย่ องกลุ่มทีป่ ระสบความสาเร็จ
- นักเรียนและครู ร่วมกันสรุ ปบทเรียน
- ครูมอบรางวัลให้ กลุ่มทีม่ คี ะแนนพัฒนาสู งสุ ด
นักเรียนประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
วิธีดาเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้ อมูล(ต่ อ)
นักเรียนประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
ทดสอบหลังเรียน
นักเรียนทาแบบสอบถามความพึงพอใจ
รวบรวมข้ อมูล วิเคราะห์ และสรุปผล
สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ ข้อมูล
1. กำรหำค่ำเฉลี่ย ( X )
2. กำรหำค่ำส่ วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน (S.D.)
3. กำรหำค่ำควำมเที่ยงตรงเชิงเนื้อหำ (IOC)
4. กำรหำค่ำควำมยำกง่ำย้องแบบทดสอบ (p)
5. กำรหำค่ำอำนำจจำแนก้องแบบทดสอบ (r)
6. กำรหำค่ำควำมเชื่อมัน่ ใชอสูตร KR-20 ้องคูเดอร์ ริ ชำร์ ดสัน
7. กำรทดสอบควำมแตกต่ำง โดยใชอสถิติ t-test แบบ dependence
บทที่ 4 : ผลการวิเคราะห์ ข้อมูล
ตอนที่ 1 ผลการเปรี ยบเทียบผลการเรี ยนรู้วิชาคณิ ตศาสตร์ ก่อน
และหลังเรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ตอนที่ 2 ผลการศึกษาพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนักเรี ยนที่
เรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ตอนที่ 3 ผลการศึ กษาความพึงพอใจของนักเรี ยนที่ มีต่อ
การจัดการเรี ยนรู้ดว้ ยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
บทที่ 4 : ผลการวิเคราะห์ ข้อมูล
ตอนที่ 1 ผลการเปรี ยบเทียบผลการเรี ยนรู้วิชาคณิ ตศาสตร์ ก่อน
และหลังเรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ตอนที่ 2 ผลการศึกษาพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนักเรี ยนที่
เรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ตอนที่ 3 ผลการศึ กษาความพึงพอใจของนักเรี ยนที่ มีต่อ
การจัดการเรี ยนรู้ดว้ ยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ตอนที่ 1 ผลการเปรี ยบเทียบผลการเรี ยนรู้วิชาคณิ ตศาสตร์
ก่อนและหลังเรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
การทดสอบ
n
คะแนน
เต็ม
ก่อนเรี ยนรู อ
36
30
หลังเรี ยนรู อ
36
30
X
11.78
26.08
S.D.
t
p
-38.32
0.00
2.72
2.10
*p < .01
จำกตำรำงสรุ ปไดอวำ่ ผลกำรเรี ยนรูอหลังเรี ยนสู งกว่ำก่อนเรี ยน
อย่ำงมีนยั สำคัญทำงสถิติที่ระดับ .01
ตอนที่ 1 ผลการเปรี ยบเทียบผลการเรี ยนรู้วิชาคณิ ตศาสตร์
ก่อนและหลังเรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD (ต่อ)
กำรจัดกำรเรี ยนรู อ แบบร่ วมมื อเทคนิ ค
STAD นั้น เป็ น
กำรจัดกำรเรี ยนรูอที่ศึกษำเกี่ยวกับคะแนนพัฒนำ้องนักเรี ยน ซึ่ ง
คะแนนพัฒ นำตนเองและระดับ กำรพัฒ นำเฉลี่ ย ระดับ กลุ่ ม
ที่ จัด กำรเรี ย นรูอ ดอว ยบทเรี ย นมัล ติ มี เ ดี ย ร่ ว มกับ เทคนิ ค STAD
ผลปรำกฏดังตำรำง (รำยละเอียดหนอำ 79 - 81)
ตอนที่ 2 ผลการศึกษาพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนักเรี ยน
ที่เรี ยนด้วยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ข้ อ
1
2
3
4
5
รายการประเมิน
ระดับพฤติกรรมในการทางานกลุ่ม
ค่ าเฉลีย่
S.D.
แปลผล
ดอำนกำรสรอำงบรรยำกำศ
ดอำนกำรใหอควำมช่วยเหลือเพื่อน
2.58
2.71
2.64
0.02
0.02
0.09
ปฎิบตั ิมำก
ปฎิบตั ิมำก
ปฎิบตั ิมำก
ดอำนกำรกลอำแสดงควำมคิดเห็น
ดอำนกำรยอมรับควำมคิดเห็น
คะแนนเฉลีย่ รวม
2.57
2.69
2.64
0.07
0.04
0.05
ปฎิบตั ิมำก
ปฎิบตั ิมำก
ปฎิบัติมาก
ดอำนควำมรับผิดชอบ
โดยภำพรวมทั้ง 5 ดอำน พบว่ำ มี กำรปฏิ บตั ิ อยู่ในระดับมำก
( X = 2.64 , S.D. = 0.05) รำยละเอียด หนอำ 83 , 133 - 135
ตอนที่ 3 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรี ยนที่มีต่อ
การจัดการเรี ยนรู้ดว้ ยบทเรี ยนมัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิค STAD
ข้ อ
1
2
3
4
รายการประเมิน
ระดับความพึงพอใจ
ค่ าเฉลีย่
S.D.
แปลผล
ดอำนกิจกรรมกำรเรี ยนรูอ
ดอำนสื่ อกำรเรี ยนรูอ
4.75
4.65
4.71
0.43
0.53
0.52
มำกที่สุด
มำกที่สุด
มำกที่สุด
ดอำนกำรวัดและประเมินผล
คะแนนเฉลีย่ รวม
4.77
4.72
0.45
0.48
มำกที่สุด
มากทีส่ ุ ด
ดอำนเนื้อหำ
โดยภำพรวมทั้ง 4 ดอำน นักเรี ยนมีควำมพึงพอใจอยูใ่ นระดับ
มำกที่สุด ( X = 4.72 , S.D. = 0.48) รำยละเอียด หนอำ 85 - 87
บทที่ 5 : สรุป อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ
สรุ ปผลการวิจยั
อภิปรายผล
ข้อเสนอแนะ
ผลกำรเรี ยนรู อ
ผลกำรเรี ยนรู อ
้ออเสนอแนะ
ทัว่ ไป
ผลกำรประเมิน
พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
ผลกำรศึกษำ
ควำมพึงพอใจ
ผลกำรประเมิน
พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
ผลกำรศึกษำ
ควำมพึงพอใจ
้ออเสนอแนะ
เพื่อกำรวิจยั
ครั้งต่อไป
บทที่ 5 : สรุป อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ
สรุ ปผลการวิจยั
อภิปรายผล
ข้อเสนอแนะ
ผลกำรเรี ยนรู อ
ผลกำรเรี ยนรู อ
้ออเสนอแนะ
ทัว่ ไป
ผลกำรประเมิน
พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
ผลกำรศึกษำ
ควำมพึงพอใจ
ผลกำรประเมิน
พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม
ผลกำรศึกษำ
ควำมพึงพอใจ
้ออเสนอแนะ
เพื่อกำรวิจยั
ครั้งต่อไป
สรุปผลการวิจยั : ผลการเรียนรู้
ผลกำรเรี ยนรูอ เรื่ อง กำรบวกและกำรลบจำนวนเต็ม้อง
นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 1 หลังเรี ยนดอวยบทเรี ยนมัลติมีเดีย
ร่ วมกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมื อเทคนิ คกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)
สู ง กว่ ำ ก่ อ นเรี ยน อย่ ำ งมี นั ย ส ำคั ญ ทำงสถิ ติ ที่ ร ะดั บ .01
ซึ่ งสอดคลอองกับสมมติ ฐำนกำรวิจยั ที่ต้ งั ไวอคือ ผลกำรเรี ยนรูอ
หลังเรี ยนสูงกว่ำก่อนเรี ยน
สรุปผลการวิจยั
ผลการประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
โดยภำพรวมมีกำรปฏิบตั ิอยูใ่ นระดับมำก ซึ่ งมีคะแนนเฉลี่ย
เท่ำกับ 2.64 และส่ วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนเท่ำกับ 0.05 เมื่อพิจำรณำ
เป็ นรำยดอำน พบว่ำ พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่มที่มีกำรปฏิบตั ิมำก
อันดับ
1 คื อ ดอำนกำรสรอ ำงบรรยำกำศ รองลงมำคื อ ดอำน
กำรยอมรั บ ควำมคิ ด เห็ น , ดอำ นกำรใหอค วำมช่ ว ยเหลื อ เพื่ อ น ,
ดอำนควำมรับผิดชอบ และดอำนกำรกลอำแสดงควำมคิดเห็น
สรุปผลการวิจยั
ผลการศึกษาความพึงพอใจ
โดยภำพรวมนั ก เรี ยนมี ค วำมพึ ง พอใจอยู่ ใ นระดั บ
มำกที่สุด ซึ่ งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ำกับ 4.72 และส่ วนเบี่ยงเบน
มำตรฐำนเท่ำกับ 0.48 เมื่อพิจำรณำเป็ นรำยดอำน พบว่ำ นักเรี ยน
มีควำมพึงพอใจมำกอันดับ 1 คือ ดอำนกำรวัดและประเมินผล
รองลงมำคือ ดอำนเนื้ อหำ , ดอำนสื่ อกำรเรี ยนรูอ และดอำนกิจกรรม
กำรเรี ยนรูอ
อภิปรายผล : ผลการเรียนรู้
ผลกำรเรี ยนรูอหลังเรี ยนสูงกว่ำก่อนเรี ยน
อย่ำงมีนยั สำคัญทำงสถิติที่ระดับ .01
บทเรี ยน
มัลติมีเดีย
กำรเรี ยนแบบ
เทคนิค STAD
บทเรี ยนมัลติมีเดีย
เรื่ องกำรบวกและกำรลบจำนวนเต็ม
เนื้อหำ
เรี ยงลำดับ
จำกง่ำยไปยำก
สำมำรถเรี ยนซ้ ำ
ไดอตำมควำมตอองกำร
้องนักเรี ยน
บทเรี ยนมีท้ งั ภำพ
และเสี ยง ทำใหอ
ตื่นเตอน ไม่น่ำเบื่อ
แนวคิด ยุพิน พิพธิ กุล
2545 : 48
แนวคิด สุ คนธ์ สิ นธพำนนท์
2553 : 78
แนวคิด สุ คนธ์ สิ นธพำนนท์
2553 : 78
สอดคลอองผลกำรวิจยั ้อง วิรำพร นพพิทกั ษ์ (2546 : บทคัดย่อ) และสทอำน เ้ตวิทย์
(2548 : บทคัดย่อ) ไดอศึกษำพบว่ำ ผลสัมฤทธิ์ ทำงกำรเรี ยนนักเรี ยนหลังไดอรับกำรสอนดอวย
บทเรี ยนมัลติมีเดียสู งกว่ำเกณฑ์ที่กำหนด
กำรเรี ยนแบบร่ วมมือ
เทคนิค STAD
นักเรี ยนมีอิสระใน
กำรคิดดอวยตนเอง
แนวคิด
ยุพิน พิพิธกุล 2545 : 11
เปิ ดโอกำสใหอนกั เรี ยน
รู อจกั กำรทำงำนกับผูออ ื่น
แนวคิด
วิชยั วงษ์ใหญ่ 2543 : 3
นักเรี ยนสรอำงควำมรูอ
ใหม่ดวอ ยตนเอง
แนวคิด
ธนำทิพ ฉัตรภูติ 2544 : 24
สอดคลอองผลกำรวิจยั ้อง วิสิทธิ ชยั ร่ วมจิตร (2545:บทคัดย่อ) พิพฒั น์ สอนพัลละ
(2545: บทคัดย่อ) พรชัย จันทไทย(2545 : บทคัดย่อ) และรุ่ งทิวำ ควรชม(2546 : บทคัดย่อ)
ไดอศึกษำผลกำรจัดกิจกรรมกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิ ค STAD พบว่ำ ผลสัมฤทธิ์ ทำงกำร
เรี ยนหลังเรี ยนสู งกว่ำเกณฑ์ที่กำหนด
อภิปรายผล : ผลการประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
พฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่มมีกำรปฏิบตั ิอยูใ่ นระดับมำก
( X = 2.64 , S.D. = 0.05)
ลำดับที่ 1. ดอำนกำรสรอำงบรรยำกำศในกำรทำงำนกลุ่ม( X = 2.71 , S.D. = 0.02)
ลำดับที่ 2. ดอำนกำรยอมรับควำมคิดเห็น้องสมำชิก ( X = 2.69 , S.D. = 0.04)
ลำดับที่ 3. ดอำนกำรใหอควำมช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม( X = 2.64 , S.D. = 0.09)
ลำดับที่ 4. ดอำนควำมรับผิดชอบในกำรทำงำนกลุ่ม( X = 2.58 , S.D. = 0.02)
ลำดับที่ 5. ดอำนกำรกลอำแสดงควำมคิดเห็น( X = 2.57 , S.D. = 0.07)
ลำดับที่ 1. ดอำนกำรสรอำงบรรยำกำศในกำรทำงำนกลุ่ม
นักเรี ยนศึกษำ
และปฏิบตั ิจริ ง
ดอวยตนเอง
นักเรี ยนรูอสึก
สนุกสนำนในกำรเรี ยน
นักเรี ยน
ช่วยเหลื่อ
ซึ่งกันและกัน
หำกมี้ออ สงสัย
สำมำรถซักถำม
ปัญหำอย่ำงอิสระ
บรรยำกำศกำรเรี ยนรูอ
เป็ นกันเองไม่คร่ งเครี ยด
สอดคลอองกับแนวคิด้องสุ รพล พยอมแยอม (2544 : 103) ที่วำ่ กำรเสริ มสรอำงสัมพันธภำพที่ดี
ผูสอ อนจะตอองทำใหอนกั เรี ยนแต่ละคนตระหนักถึงกำรอยูร่ ่ วมกันเป็ นกลุ่ม รู อจกั ที่จะช่วยเหลือ
เพื่อนดอำนกำรเรี ยน และจัดบรรยำกำศใหอผเู อ รี ยนไดอทำกิจกรรมมำกที่สุด
ลำดับที่ 2. ดอำนกำรยอมรับควำมคิดเห็น้องสมำชิกในกลุ่ม
ทำงำนร่ วมกันเพื่อใหอกลุ่มประสบควำมสำเร็ จ
นักเรี ยนตอองปรึ กษำหำรื อกันในกำรทำใบงำน จึงเป็ นกำรฝึ ก
ใหอรูอจกั กำรยอมรับควำมคิดเห็น้องสมำชิกในกลุ่ม
สอดคลอองกับงำนวิจยั ้องเดวิดสัน (Davidson 1989 : 84, ออำงถึงใน สำมำรถ สุ ้ำวงษ์
2537 : 67) พบว่ำ กำรจัดกลุ่มนักเรี ยนแบบร่ วมมือกันเรี ยนรู อ ทำใหอนกั เรี ยนมีระดับ
ควำมสัมพันธ์ภำยในกลุ่มดี้้ ึน นักเรี ยนกลอำพูด กลอำแสดงควำมคิดเห็นและฝึ กกำรยอมรับ
ควำมคิดเห็นและกำรตัดสิ นใจ้องเพื่อน
ลำดับที่ 3. ดอำนกำรใหอควำมช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม
คะแนนพัฒนำเฉลี่ย้องกลุ่มสูงสุ ด
นักเรี ยนเก่งจะตอองช่วยสอนสมำชิก
ใหอเ้อำใจเนื้อหำทั้งหมด
สอดคลอองกับแนวคิด้องจอยซ์และเวล (Joyce and Weil 1986 , ออำงถึงในวัชรำ เล่ำเรี ยนดี
2548 : 102) ที่ว่ำ กำรสอนแบบร่ วมมือกันเรี ยนรู อช่วยพัฒนำนักเรี ยนดอำนสติปัญญำ โดย
เพื่อนในกลุ่มจะช่วยเหลือและแนะนำเกี่ยวกับกำรเรี ยนซึ่ งกันและกัน เพรำะนักเรี ยนที่อยูใ่ น
วัยเดียวกันสำมำรถสื่ อสำรกันไดอง่ำยและเ้อำใจง่ำยกว่ำที่ครู สอน
ลำดับที่ 4. ดอำนควำมรับผิดชอบในกำรทำงำนกลุ่ม
กลุ่มจะตอองส่ งใบงำน
ตรงตำมเวลำที่กำหนด
นักเรี ยนเกิดควำมรับผิดชอบ
ในกำรทำใบงำนร่ วมกัน
สอดคลอองกับงำนวิจยั ้องพิพฒั น์ สอนพัลละ (2545: บทคัดย่อ) ที่พบว่ำ ผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรเรี ยน้องนักเรี ยนที่ เรี ยนโดยกำรสอนแบบร่ วมมื อกันร่ วมมื อเทคนิ ค STAD
สู งกว่ำเกณฑ์ที่กำหนด นักเรี ยนมี ทกั ษะทำงสังคมสู ง้ึ้น มี ควำมรั บผิดชอบต่อตนเอง
และกลุ่มมำก้ึ้น
ลำดับที่ 5. ดอำนกำรกลอำแสดงควำมคิดเห็น
งำนกลุ่มที่ไดอรับมอบหมำย
นักเรี ยนร่ วมกัน
แสดงควำมคิดเห็นในกำรทำใบงำน
สอดคลอองกับแนวคิด้องวัฒนำพร ระงับทุก้์ (2542 : 43) ที่กล่ำวว่ำ วิธีกำรที่ทำใหอ
เกิ ดกำรเรี ยนรู อ มำกที่สุดคือ กระบวนกำรกลุ่มที่ สมำชิ กในกลุ่มแลกเปลี่ยนและแบ่งปั น
ประสบกำรณ์ซ่ ึ งกันและกันมำกที่สุด ไดอพดู คุยและอภิปรำยร่ วมกัน และไดอร่วมกันสรุ ป
ควำมคิดรวบยอดเพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์ต้ งั ไวอ
อภิปรายผล : ผลการศึกษาความพึงพอใจ
นักเรี ยนมีควำมพึงพอใจอยูใ่ นระดับมำกที่สุด
( X = 4.72 , S.D. = 0.48)
ลำดับที่ 1. ดอำนกำรวัดและประเมินผล ( X = 4.77 , S.D. = 0.45)
ลำดับที่ 2. ดอำนเนื้อหำ ( X = 4.75 , S.D. = 0.43)
ลำดับที่ 3. ดอำนสื่ อกำรเรี ยนรูอ ( X = 4.71 , S.D. = 0.52)
ลำดับที่ 4. ดอำนกิจกรรมกำรเรี ยนรูอ ( X = 4.65 , S.D. = 0.53)
ลำดับที่ 1. ดอำนกำรวัดและประเมินผล
นักเรี ยนสำมำรถทรำบ
คะแนนพัฒนำตนเองและกลุ่มไดอทนั ที
นักเรี ยนเกิดแรงจูงใจที่จะพัฒนำ
ตนเองในหน่วยกำรเรี ยนรูอต่อไป
สอดคลอองกับงำนวิจยั ้องอินทวรรณ จันทศิริ (2549 : 175) ซึ่ งพบว่ำ ภำยในกลุ่มที่
ประกอบไปดอวยนักเรี ยน เก่ง ปำนกลำง และอ่อน นักเรี ยนจะมีกำรช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม
เพื่อควำมสำเร็ จ้องกลุ่ม โดยมีคะแนนควำมกอำวหนอำ้องกลุ่มเป็ นแรงจูงใจใหอสมำชิกใน
กลุ่มร่ วมมือกันเรี ยนรู อ
ลำดับที่ 2. ดอำนเนื้อหำ
เนื้อหำนำเสนอในรู ป้อง
บทเรี ยนมัลติมีเดีย
เนื้อหำเรี ยงลำดับจำกง่ำยไปยำก
มีคำอธิ บำย ตัวอย่ำงที่ชดั เจน เ้อำใจง่ำย
สอดคลอองกับแนวควำมคิด้องยุพิน พิพิธกุล (2545 : 48) ที่กล่ำวว่ำ วิชำคณิ ตศำสตร์
เป็ นวิชำที่ มีลกั ษณะเป็ นนำมธรรมยำกต่อกำรเ้อำใจ ในกำรเรี ยนกำรสอนควรยึดหลัก
กำรสอนโดยสอนจำกง่ ำยไปสู่ ย ำกและใหอนักเรี ยนเรี ย นรู อ จ ำกรู ปธรรมไปสู่ นำมธรรม
โดยใชอสื่อกำรเรี ยนกำรสอนรู ปธรรมประกอบ
ลำดับที่ 3. ดอำนสื่ อกำรเรี ยนรูอ
บทเรี ยนมัลติมีเดีย
นักเรี ยนสำมำรเรี ยน
ซ้ ำแลอวซ้ ำอีกไดอ
นักเรี ยนไม่เกิดควำมกดดัน
เมื่อเรี ยนไม่ทนั เพื่อน
สอดคลอองกับงำนวิจยั ้องสมบัติ ประทีปเกรี ยงไกร (2550 : 57) ซึ่ งพบว่ำ บทเรี ยน
มัลติมีเดีย เป็ นกำรเรี ยนที่สอดคลอองกับทฤษฎีควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ทำใหอบทเรี ยน
นี้จะช่วยใหอนกั เรี ยนรู อสึกพอใจกับกำรเรี ยนและไม่เกิดควำมกดดัน้ณะเรี ยน เมื่อนักเรี ยน
เรี ยนไม่ ท ัน ผู ออื่ น ท ำใหอ นั ก เรี ยนไม่ เ ครี ยดในระหว่ ำ งเรี ยน จึ ง ส่ ง ผลใหอ นั ก เรี ยนมี
ประสิ ทธิ ภำพในกำรเรี ยนรู อที่สูง้ึ้น
ลำดับที่ 4. ดอำนกิจกรรมกำรเรี ยนรูอ
นักเรี ยนปฏิบตั ิกิจกรรมดอวยตนเอง
และร่ วมกับเพื่อนในกลุ่มอย่ำงอิสระ
นักเรี ยนมีควำมสุ ้ และ
ไม่รูอสึกเบื่อหน่ำยในกำรเรี ยนรูอ
สอดคลอองกับงำนวิจยั ้องอังคณำ ปำนนก(2546:128) ซึ่ งพบว่ำ นักเรี ยนส่ วนใหญ่
ชอบกำรท ำงำนเป็ นกลุ่ ม ทั้ง นี้ เพรำะเพื่ อ นร่ ว มวัย สำมำรถสรอ ำ งควำมสั ม พัน ธ์ ที่ ดี
ภำยในกลุ่ม และสรอำงควำมสุ ้ในกำรเรี ยนรู อ
ข้ อเสนอแนะทั่วไป
1. ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรี ยนรูอควรมีกำรกระตุนอ ใหอนกั เรี ยน
เกิดกำรทำงำนร่ วมกันภำยในกลุ่มอย่ำงต่อเนื่อง
2. ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรี ยนรูอ ครู ควรสนับสนุนและกระตุนอ
ใหอนกั เรี ยนแสดงควำมคิดเห็นดอวยตนเองบ่อยๆ เพื่อใหอนกั เรี ยนเกิด
ควำมมัน่ ใจและมีควำมกลอำที่จะแสดงควำมคิดเห็นมำก้ึ้น
3. ก่ อ นกำรจัด กิ จ กรรมกำรเรี ย นรูอ
ควรมี ก ำรเตรี ย ม
ควำมพรอ อ มดอำ นนัก เรี ย น เพื่ อ ใหอ นัก เรี ย นคุ อน เคยกับ กำรใชอง ำน
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ก่อนเริ่ มกิจกรรมกำรเรี ยนรูอ
ข้ อเสนอแนะเพือ่ การวิจัยครั้งต่ อไป
1. ควรมีกำรศึกษำวิจยั เกี่ยวกับกำรจัดกำรเรี ยนรู อดวอ ยบทเรี ยน
มัลติมีเดียร่ วมกับเทคนิ คอื่นๆ เช่น เทคนิ ค TGT , เทคนิ ค TAI ,
เทคนิค Jigsaw เป็ นตอน
2. ควรมีกำรศึกษำวิจยั เกี่ ยวกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิ ค
STAD ร่ วมกับสื่ ออื่นๆ เช่น CAI , e-learning เป็ นตอน
3. ควรมี ก ำรศึ ก ษำวิ จั ย กำรจั ด กำรเรี ยนรูอ ดอ ว ยบทเรี ยน
มัลติมีเดียร่ วมกับกำรเรี ยนแบบร่ วมมือเทคนิ ค STAD เกี่ ยวกับ
ตัว แปรตำมอื่ น ๆ เช่ น ควำมคงทนในกำรจ ำ , ควำมสำมำรถใน
กำรแกอปัญหำทำงคณิ ตศำสตร์ เป็ นตอน
ภาพกิจกรรมการเรียนรู้ : ขั้นการนาเข้ าสู่ บทเรียน
ภาพกิจกรรมการเรียนรู้ : ขั้นการนาเสนอบทเรียน
ภาพกิจกรรมการเรียนรู้ : ขั้นการเรียนกลุ่มย่ อย
ภาพกิจกรรมการเรียนรู้ : ขั้นการทดสอบย่ อย
ภาพกิจกรรมการเรียนรู้ : ขั้นการคิดคะแนนพัฒนา
ภาพกิจกรรมการเรียนรู้ : ขั้นยกย่ องกลุ่มทีป่ ระสบความสาเร็จ
...ขอขอบคุณ...
ผศ.ดร.ฐาปนีย์
ดร.อนิรุทธ์
รศ.สมหญิง
ผศ.ดร.ไชยยศ
ผศ.ดร.สุ รพล
ธรรมเมธา
สติมั่น
เจริญจิตรกรรม
ไพวิทยศิริธรรม
บุญลือ
ประธานสอบวิทยานิพนธ์
ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ หลัก
ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ร่วม
ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ร่วม
ผู้ทรงคุณวุฒิ