การบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ - สำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา

Download Report

Transcript การบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ - สำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา

หัวข ้อการบรรยาย
• ทีม
่ าและหล ักการ
•
การจัดทาคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการและการประเมินผลการ
ปฏิบต
ั ริ าชการ
2
ทีม
่ าและหลักการ
ั ราช 2550
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศก
มาตรา 78 (4) พัฒนาระบบงานภาครัฐ โดยมุง่ เน ้นการพัฒนาคุณภาพ คุณธรรม
และจริยธรรมของเจ ้าหน ้าทีข
่ องรัฐ ควบคูไ่ ปกับการปรับปรุงรูปแบบและวิธก
ี าร
ิ ธิภาพ และ
ทางาน เพือ
่ ให ้การบริหารราชการแผ่นดินเป็ นไปอย่างมีประสท
้ กการบริหารกิจการบ ้านเมืองทีด
สง่ เสริมให ้หน่วยงานของรัฐใชหลั
่ เี ป็ นแนวทาง
ในการปฏิบต
ั ริ าชการ
มาตรา 78 (5) จัดระบบงานราชการและงานของรัฐอย่างอืน
่ เพือ
่ ให ้การจัดทา
ิ ธิภาพ โปร่งใส และ
และการให ้บริการสาธารณะเป็ นไปอย่างรวดเร็ว มีประสท
ตรวจสอบได ้ โดยคานึงถึงการมีสว่ นร่วมของประชาชน
ิ ธิ
มาตรา 78 (8) ดาเนินการให ้ข ้าราชการและเจ ้าหน ้าทีข
่ องรัฐได ้รับสท
ประโยชน์อย่างเหมาะสม
3
ทีม
่ าและหลักการ
พระราชบัญญัตริ ะเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5)
พ.ศ. 2545
มาตรา 3/1 การบริหารราชการตามพระราชบัญญัตน
ิ ต
ี้ ้องเป็ นไปเพือ
่ ประโยชน์สข
ุ
ั ฤทธิต
ิ ธิภาพ ความคุ ้มค่า
ของประชาชน เกิดผลสม
์ อ
่ ภารกิจของรัฐ ความมีประสท
ในเชงิ ภารกิจแห่งรัฐ การลดขัน
้ ตอนการปฏิบต
ั งิ าน การลดภารกิจและยุบเลิก
หน่วยงานทีไ่ ม่จาเป็ น การกระจายภารกิจและทรัพยากรให ้แก่ท ้องถิน
่ การกระจาย
ิ ใจ การอานวยความสะดวก และการตอบสนองความต ้องการของ
อานาจตัดสน
ประชาชน ทัง้ นี้ โดยมีผู ้รับผิดชอบต่อผลของงาน
...
ในการปฏิบต
ั ห
ิ น ้าทีข
่ องสว่ นราชการ ต ้องใชวิ้ ธก
ี ารบริหารกิจการบ ้านเมืองทีด
่ ี
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ให ้คานึงถึงความรับผิดชอบของผู ้ปฏิบต
ั งิ าน การมีสว่ นร่วมของ
ประชาชน การเปิ ดเผยข ้อมูล การติดตามตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบต
ั งิ าน
ทัง้ นี้ ตามความเหมาะสมของแต่ละภารกิจ
4
ทีม
่ าและหลักการ
พระราชกฤษฎีกาว่าด ้วยหลักเกณฑ์และวิธก
ี ารบริหาร
กิจการบ ้านเมืองทีด
่ ี พ.ศ. 2546
มีการประเมินผล
การปฏิบต
ั ิ
ราชการอย่าง
สมา่ เสมอ
ประชาชนได ้รับ
การอานวยความ
สะดวกและได ้รับ
การตอบสนอง
ความต ้องการ
เกิดประโยชน์
สุขต่อ
ประชาชน
การบริหาร
กิจการ
บ ้านเมืองทีด
่ ี
มาตรา 6
มีการปรับปรุง
ภารกิจของสว่ น
ราชการให ้ทัน
ต่อสถานการณ์
มาตรา 9, 12, 45, 48, 49
เกิด
ั ฤทธิต
ผลสม
์ อ
่
ภารกิจของรัฐ
ิ ธิภาพ
มีประสท
และเกิดความ
คุ ้มค่าในเชงิ
ภารกิจของรัฐ
ไม่มข
ี น
ั ้ ตอน
การปฏิบต
ั งิ าน
เกินความ
จาเป็ น
5
ทีม
่ าและหลักการ
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย
(พ.ศ. 2551 – พ.ศ. 2555)
6
ทีม
่ าและหลักการ
จากเครือ
่ งมือในการควบคุมสูเ่ ครือ
่ งมือในการบริหาร
Four functions of management: planning, organizing,
leading, controlling
If you can’t measure, you can’t managed
If you can’t measure, you can’t improved
What gets measure, gets done
วัดหรือประเมินเฉพาะสงิ่ ทีม
่ ค
ี วามสาคัญเท่านัน
้
(Key Performance Indicators)
ปั จจุบน
ั มีเครือ
่ งมือใหม่ๆ ทีเ่ ข ้ามาชว่ ยในเรือ
่ งของการประเมินผลมากขึน
้
่ BSC, KPI, Benchmarking, Management Cockpit, BSC
เชน
Software
7
ทีม
่ าและหลักการ
การปรับปรุงและ
พัฒนาให ้ดียงิ่ ขึน
้
P
D
A
C
มาตรฐาน
PLAN
DO
CHECK
ACT
ั เจน (ต ้องการผลสม
ั ฤทธิอ
วัตถุประสงค์/เป้ าหมายชด
์ ะไร)
ั ฤทธิต
ปฏิบต
ั ม
ิ งุ่ ให ้เกิดผลสม
์ ามทีว่ างแผนไว ้
ั ฤทธิต
ั เจน)
วัดว่าปฏิบต
ั ไิ ด ้ผลสม
์ ามทีว่ างแผนหรือไม่ (KPI ชด
ปรับปรุงแก ้ไขให ้ได ้ตามทีว่ างแผนไว ้
8
ทีม
่ าและหลักการ
ั ฤทธิ์
ระบบการบริหารราชการแผ่นดินเชงิ กลยุทธ์แบบมุง่ ผลสม
Plan
การวางแผนปฏิบัตก
ิ าร
• แผนปฏิบัตริ าชการ
ประจาปี (คาขอ
งบประมาณประจาปี )
การวางยุทธศาสตร์
• แผนการบริหารราชการ
แผ่นดิน
• แผนปฏิบต
ั ริ าชการ 4 ปี
Do
Act
การวัดผลการดาเนินงาน
ตามคารับรองการปฏิบัต ิ
ราชการ
การติดตามประเมินผล
และ
การทบทวนยุทธศาสตร์
• เงินรางวัลตามผลงาน
Check
9
ทีม
่ าและหลักการ
Strategy Formulation
แผนการบริหารราชการแผ่ นดิน
แผนปฏิบัตริ าชการ 4 ปี
Strategic Control
S
W
O
T
Vision
Strategic Issue
Goal
(KPI / target)
Strategies
Strategic
Management
Process
Strategy Implementation
Action Plan
Risk Assessment & Management
Structure
Process/IT
Alignment
Rule &
Regulation
People/
Culture
Blueprint for Change
ทีม
่ าและหลักการ
ั ฤทธิ์
ระบบการบริหารราชการแผ่นดินเชงิ กลยุทธ์แบบมุง่ ผลสม
Planning
แผนการบริหาร
ราชการแผ่นดิน
(4 ปี )
Measurement
เป้ าประสงค์ ตัวชวี้ ด
ั
ค่าเป้ าหมาย กลยุทธ์
Corporate Scorecard
ยุทธศาสตร์รัฐบาล
แผนปฏิบัตริ าชการ (4 ปี )
• กระทรวง/กรม
• กลุม
่ จังหวัด/จังหวัด
เป้ าประสงค์ ตัวชวี้ ด
ั
ค่าเป้ าหมาย กลยุทธ์
Strategic Business Unit
Scorecard
• กระทรวง/กรม
• กลุม
่ จังหวัด/จังหวัด
ยุทธศาสตร์กระทรวง/กรม
ยุทธศาสตร์กลุม
่ จังหวัด/จังหวัด
แผนปฏิบัตริ าชการ (รายปี )
• กระทรวง กรม
• กลุม
่ จังหวัด/จังหวัด
Budgeting
Sub-unit Scorecard
Team & Individual
Scorecard
11
ทีม
่ าและหลักการ
ความสอดคล ้องจากแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
ถ่ายทอดมาสูร่ ะดับกระทรวงและระดับกรม
เป้าหมายตาม
แผนการบริหาร
ราชการแผ่นดิน
Z
y
1
เป้าหมาย
ระด ับกระทรวง
เป้าหมาย
ระด ับกรม
x
1
y
2
x
2
x
3
x
4
แผนบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. 2555 - 2558
นโยบายย่อยที่ 1.4
สง่ เสริมให ้มีการบริหารจัดการน้ า
อย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขต
พืน
้ ทีช
่ ลประทาน
เป้าประสงค์เชงิ นโยบาย 1
เกิดกลไกในการบริหารจัดการ
ทรัพยากรน้ าแบบบูรณาการทุก
ระดับโดยการมีสว่ นร่วมจากทุกภาค
สว่ น
เป้าหมาย / ต ัวชวี้ ัด
• จานวนแผนและกลไกการบริหาร
จัดการทรัพยากรน้ า
• จานวนกฎหมายทีผ
่ า่ นการ
ปรับปรุงและแก ้ไข
• จานวนกิจกรรมความร่วมมือ
ระหว่างประเทศ
• ร ้อยละของประชาชน
กลุม
่ เป้ าหมายทีม
่ ส
ี ว่ นร่วมใน
กิจกรรมมีความพึงพอใจ
• จานวนแหล่งน้ าทีด
่ าเนินการ
อนุรักษ์ พัฒนาและฟื้ นฟู
• จานวนแหล่งน้ าทีด
่ าเนินการ
พัฒนาเพิม
่ น้ าต ้นทุน
• จานวนหมูบ
่ ้านทีม
่ รี ะบบ
ฐานข ้อมูลเตือนภัยน้ าหลาก ดิน
ถล่ม
• จานวนแผน มาตรการ ในการ
บรรเทาภัยจากการเปลีย
่ นแปลง
สภาพภูมอ
ิ ากาศโลก
• จานวนแหล่งน้ าบาดาลทีไ่ ด ้รับ
การอนุรักษ์ พัฒนา และฟื้ นฟู
ี่ ี
แผนปฏิบ ัติราชการสป
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประเด็นยุทธศาสตร์ท ี่ 3
พัฒนาทรัพยากรการเกษตรอย่างมี
ิ ธิภาพ สมดุลและยั่งยืน
ประสท
เป้าประสงค์
• เพิม
่ พืน
้ ทีช
่ ลประทานได ้
ประมาณ 4.22 ล ้านไร่
• เพิม
่ ความอุดมสมบูรณ์ของ
ฐานทรัพยากรธรรมชาติด ้าน
การประมงและบริหารจัดการ
ให ้เกิดความสมดุลและยั่งยืน
• ดาเนินการกระจายการถือครอง
ทีด
่ น
ิ ทีเ่ ป็ นธรรมและการพัฒนา
ทีด
่ น
ิ อย่างยั่งยืน
เป้าหมาย / ต ัวชวี้ ัด
• เพิม
่ พืน
้ ทีช
่ ลประทานได ้
ประมาณ 4.22 ล ้านไร่
• พืน
้ ทีท
่ าการประมงทีไ่ ด ้รับการ
บริหารจัดการไม่น ้อยกว่าปี ละ
8.8 ล ้านไร่
ั ว์น้ าได ้รับการ
• แหล่งอาศัยสต
บริหารจัดการไม่น ้อยกว่าปี ละ
60 แห่ง
• ทรัพยากรทีด
่ น
ิ ได ้รับการ
บริหารจัดการไม่น ้อยกว่าปี ละ
2.15 ล ้านไร่
ี่ ี (กรม)
แผนปฏิบ ัติราชการสป
กรมพ ัฒนาทีด
่ น
ิ
พัฒนาพืน
้ ทีท
่ าการเกษตร
ทีม
่ ป
ี ั ญหาแห ้งแล ้ง
ซ้าซากให ้สามารถใช ้
ประโยชน์ได ้อย่างยัง่ ยืน
- การอนุรักษ์ ดน
ิ และน้ า
โดยการพัฒนาแหล่ง
น้ าชุมชน
• จานวนแหล่งน้ าชุมชนทีไ่ ด ้รับ
การพัฒนา 970 แห่ง
เร่งรัดขยายการก่อสร ้าง
แหล่งน้ าในไร่นานอกเขต
ชลประทานเพือ
่ ช่วยเหลือ
เกษตรกรในการแก ้ไข
ปั ญหาภัยแล ้ง
- การอนุรักษ์ ดน
ิ และน้ า
โดยการพัฒนาแหล่ง
น้ าในไร่นา
• จานวนแหล่งน้ าในไร่นาที่
ได ้รับการพัฒนา 689,628
บ่อ
สาน ักงานปล ัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
การพัฒนาและเพิม
่
ประสิทธิภาพการ
ปฏิบต
ั ก
ิ ารฝนหลวง
- พืน
้ ทีเ่ ป้ าหมายทีไ่ ด ้รับ
ประโยชน์จากการ
ปฏิบต
ั ก
ิ ารฝนหลวง
• จานวนพืน
้ ทีเ่ ป้ าหมายทีไ่ ด ้รับ
ประโยชน์จากการปฏิบต
ั ก
ิ าร
ฝนหลวง (160 ล ้านไร่)
13
แผนบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. 2555 - 2558
ี่ ี
แผนปฏิบ ัติราชการสป
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นโยบายย่อยที่ 1.4
สง่ เสริมให ้มีการบริหารจัดการน้ า
อย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขต
พืน
้ ทีช
่ ลประทาน
ประเด็นยุทธศาสตร์ท ี่ 3
พัฒนาทรัพยากรการเกษตรอย่างมี
ิ ธิภาพ สมดุลและยั่งยืน
ประสท
เป้าประสงค์เชงิ นโยบาย 2
เพิม
่ พืน
้ ทีช
่ ลประทานได ้ประมาณ
3.35 ล ้านไร่
เป้าหมาย / ต ัวชวี้ ัด
• จานวนพืน
้ ทีช
่ ลประทาน
เป้าประสงค์
• เพิม
่ พืน
้ ทีช
่ ลประทานได ้
ประมาณ 4.22 ล ้านไร่
• เพิม
่ ความอุดมสมบูรณ์ของ
ฐานทรัพยากรธรรมชาติด ้าน
การประมงและบริหารจัดการ
ให ้เกิดความสมดุลและยั่งยืน
• ดาเนินการกระจายการถือครอง
ทีด
่ น
ิ ทีเ่ ป็ นธรรมและการพัฒนา
ทีด
่ น
ิ อย่างยั่งยืน
เป้าหมาย / ต ัวชวี้ ัด
• เพิม
่ พืน
้ ทีช
่ ลประทานได ้
ประมาณ 4.22 ล ้านไร่
• พืน
้ ทีท
่ าการประมงทีไ่ ด ้รับการ
บริหารจัดการไม่น ้อยกว่าปี ละ
8.8 ล ้านไร่
ั ว์น้ าได ้รับการ
• แหล่งอาศัยสต
บริหารจัดการไม่น ้อยกว่าปี ละ
60 แห่ง
• ทรัพยากรทีด
่ น
ิ ได ้รับการ
บริหารจัดการไม่น ้อยกว่าปี ละ
2.15 ล ้านไร่
(ต่อ)
ี่ ี (กรม)
แผนปฏิบ ัติราชการสป
กรมชลประทาน
การพัฒนาแหล่งน้ า
- ปริมาณน้ าเก็บกัก
และพืน
้ ที่
ชลประทาน
เพิม
่ ขึน
้
- เพิม
่ ประสิทธิภาพ
การบริหารจัดการ
น้ าโดยการผันน้ า
และกระจายน้ า
• จานวนพืน
้ ทีช
่ ลประทานทีเ่ พิม
่ ขึน
้
(4,222,817 ไร่)
• จานวนปริมาณเก็บกักทีเ่ พิม
่ ขึน
้
(1,096.52 ล ้าน ลบ.ม.)
• จานวนปริมาณน้ าต ้นทุนทีเ่ พิม
่ ให ้
อ่างฯ (140.00 ล ้าน ลบ.ม./ปี )
• จานวนแหล่งน้ าชุมชน/ชนบทที่
เพิม
่ ขึน
้ (3,152 แห่ง)
การบริหารจัดการน้ า
- ทุกภาคส่วนได ้รับ
น้ าอย่างทั่วถึงและ
เป็ นธรรม
• จานวนพืน
้ ทีช
่ ลประทานทีบ
่ ริหาร
จัดการน้ า (25.10 ล ้านไร่)
• ร ้อยละของพืน
้ ทีช
่ ลประทานที่
ได ้รับน้ าต่อพืน
้ ทีเ่ ป้ าหมาย (ไม่
น ้อยกว่าร ้อยละ 100)
• จานวนศูนย์/โครงการทีด
่ าเนินการ
(335 แห่ง)
การป้ องกันและ
บรรเทาภัยอัน
เนือ
่ งจากน้ า
- ความสูญเสียที่
ลดลงอัน
เนือ
่ งจากภัยอัน
เกิดจากน้ า
• จานวนพืน
้ ทีท
่ ไี่ ด ้รับประโยชน์
(3.71 ล ้านไร่)
• จานวนพืน
้ ทีป
่ ้ องกันและบรรเทา
ปั ญหาน้ าท่วมพืน
้ ทีก
่ ารเกษตร
และพืน
้ ทีใ่ นเขตชุมชนเมือง
(52,000 ไร่)
14
หัวข ้อการบรรยาย
•
ทีม
่ าและหลักการ
• การจ ัดทาคาร ับรองการปฏิบ ัติราชการและ
การประเมินผลการปฏิบ ัติราชการ
•
การบูรณาการการทางานระหว่างกระทรวงในยุทธศาสตร์ทม
ี่ ี
เป้ าหมายร่วมกันและการจัดทาตัวชวี้ ด
ั ร่วมยุทธศาสตร์
(Joint KPIs)ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2555
•
การจัดสรรเงินรางวัลประจาปี
15
่ นราชการและ
การประเมินผลการปฏิบ ัติราชการของสว
หน่วยงานของร ัฐในกาก ับของฝ่ายบริหาร
กระทรวง
สถาบัน
ึ ษา
อุดมศก
จังหวัด
กลุม
่
ภารกิจ
มหาวิทยาลัย
ของรัฐ
สป.
กรม
กรม
กรม
องค์การ
มหาชน
มหาวิทยาลัย
ในกากับของรัฐ2
สาน ักงาน ก.พ.ร.
ร ับผิดชอบการติดตามประเมินผล
รัฐวิสาหกิจ1
1 กระทรวงการคล ัง
ร ับผิดชอบการติดตามประเมินผล
สกอ. และ สมศ. ร ับผิดชอบการติดตามประเมินผล
3 คณะกรรมการ ร ับผิดชอบการติดตามประเมินผล
หน่วยงานของร ัฐรูปแบบใหม่
หน่วยธุรการของ
องค์กรของรัฐ
ทีเ่ ป็ นอิสระ3
กองทุน
ทีเ่ ป็ น
นิตบ
ิ ค
ุ คล1
หน่วยบริการ
รูปแบบพิเศษ3
2
16
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
ขัน
้ ตอนการจัดทาคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
1.1 ก.พ.ร. เห็นชอบกรอบการประเมินผลการปฏิบัตริ าชการ
1
การจัดทาคารับรอง
การปฏิบต
ั ริ าชการ
2
การติดตามการปฏิบัตริ าชการ
ตามคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
3
การประเมินผลการปฏิบัตริ าชการ
ตามคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
1.2 เจรจาความเหมาะสมของตัวชวี้ ัด ค่าเป้ าหมาย น้ าหนัก และเกณฑ์
การให ้คะแนนตามคารับรองฯ ของแต่ละสว่ นราชการ
1.3 ลงนามคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
1.4 สว่ นราชการจัดสง่ รายละเอียดตัวชวี้ ัด (KPI Template) ไปยัง
สานักงาน ก.พ.ร. เพือ
่ ประกอบการประเมินผล
2.1 รอบ 6 เดือน (1 ต.ค. – 31 มี.ค.)
- สง่ รายงานการประเมินผลตนเอง (SAR) ไปยังสานักงาน ก.พ.ร.
(ภายในวันที่ 30 เมษายน)
- กรอกรายงานการประเมินผลตนเอง (e-SAR Card) เข ้าระบบใน
www.opdc.go.th (ภายในวันที่ 30 เมษายน)
- สง่ คาขอเปลีย
่ นแปลงรายละเอียดตัวชวี้ ด
ั น้ าหนัก และเกณฑ์การ
ให ้คะแนน (อุทธรณ์ครัง้ ที่ 1) (ภายในวันที่ 31 มีนาคม)
2.2 รอบ 9 เดือน (1 ต.ค. – 30 มิ.ย.)
- กรอกรายงานการประเมินผลตนเอง (e-SAR Card) เข ้าระบบใน
www.opdc.go.th (ภายในวันที่ 16 กรกฎาคม)
2.3 รอบ 12 เดือน (1 ต.ค. – 30 ก.ย.)
- สง่ รายงานการประเมินผลตนเอง (SAR) ไปยังสานักงาน ก.พ.ร.
(ภายในวันที่ 31 ตุลาคม)
- กรอกรายงานการประเมินผลตนเอง (e-SAR Card) เข ้าระบบใน
www.opdc.go.th (ภายในวันที่ 31 ตุลาคม)
- สง่ คาขอเปลีย
่ นแปลงรายละเอียดตัวชวี้ ด
ั น้ าหนัก และเกณฑ์การ
17
ให ้คะแนน (อุทธรณ์ครัง้ ที่ 2) (ภายในวันที่ 31 ตุลาคม)
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
ขัน
้ ตอนการจัดทาคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
3
การประเมินผลการปฏิบัตริ าชการ 3.1 สานักงาน ก.พ.ร. ติดตามประเมินผลการปฏิบัตริ าชการตาม
คารับรองฯ ณ สว่ นราชการ (Site Visit) รอบ 12 เดือน จากนัน
้
ตามคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
- แจ ้งผลการประเมินให ้สว่ นราชการทราบเพือ
่ ยืน
่ ยัน/ทักท ้วง
- ปรับปรุงคะแนนการประเมินผลให ้สมบูรณ์ครบถ ้วน
3.2 สานักงาน ก.พ.ร. จัดทาสรุปผลคะแนนตามคารับรองฯ ของ
สว่ นราชการ
ื่ มโยงผลการประเมินไปกับการจัดสรรสงิ่ จูงใจ
- เชอ
3.3 สานักงาน ก.พ.ร. นาผลการประเมินการปฏิบัตริ าชการตาม
คารับรองฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเพือ
่ ทราบ
18
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
การประเมินผลการปฏิบตั ิราชการตามคารับรองการปฏิบตั ิราชการ
ขัน
้ ตอนการจัดทาคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
สว่ นราชการจัดทา
แผนปฏิบต
ั ริ าชการ
• พัฒนาอะไร
• ผลงานวัดด ้วยตัวชวี้ ัดอะไร
• เป้ าหมายเท่าใด
สง่ แผนปฏิบต
ั ริ าชการ
ให ้สานั กงาน ก.พ.ร.
เจรจาความเหมาะสมของ
ตัวชวี้ ัด ค่าเป้ าหมาย และ
เกณฑ์การให ้คะแนน
ประกาศให ้
ประชาชนทราบ
จัดทาคารับรอง
การปฏิบต
ั ริ าชการ
ดาเนินการตามคารับรอง
การปฏิบต
ั ริ าชการและ
ประเมินผลตนเอง
ก.พ.ร. พิจารณาผล
การปฏิบต
ั ริ าชการตาม
คารับรองฯ
จัดสรรสงิ่ จูงใจตาม
ระดับของผลงาน
19
19
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
การประเมินผลการปฏิบตั ิราชการตามคารับรองการปฏิบตั ิราชการ
กลไกการจัดทาคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
คณะกรรมการกาก ับการจ ัดทาข้อตกลงและการประเมินผล
• กาหนดหลักเกณฑ์และกรอบการเจรจาข ้อตกลงผลงาน เป้ าหมาย วิธก
ี ารประเมินผล
และจัดสรรสงิ่ จูงใจ
• กากับให ้สว่ นราชการและคณะกรรมการเจรจาข ้อตกลงและประเมินผลดาเนินการตาม
หลักเกณฑ์อย่างมีมาตรฐาน
• แก ้ไขปั ญหาในการจัดทาข ้อตกลงและประเมินผล
คณะกรรมการเจรจาข้อตกลงและการประเมินผล
•
•
•
เจรจาความเหมาะสมของตัวชวี้ ัด น้ าหนั ก ค่าเป้ าหมาย และเกณฑ์การให ้คะแนน เพือ
่
้
ใชในการจั
ดทาคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
สาหรับสว่ นราชการเจรจาเฉพาะตัวชวี้ ัดตามแผนปฏิบัตริ าชการของสว่ นราชการทีอ
่ ยูใ่ น
ิ ธิผล
มิตภ
ิ ายนอก ประเด็นการประเมินประสท
สาหรับจังหวัดเจรจาเฉพาะตัวชวี้ ัดตามแผนปฏิบัตริ าชการของจังหวัดทีอ
่ ยูใ่ นมิตด
ิ ้าน
ิ ธิผล (ผลสาเร็จตามแผนปฏิบต
ประสท
ั ริ าชการ)
คณะกรรมการพิจารณาคาขอเปลีย
่ นแปลงรายละเอียดต ัวชวี้ ัด นา้ หน ัก
และเกณฑ์การให้คะแนน
• พิจารณาคาขอเปลีย่ นแปลงรายละเอียดตัวชวี้ ัด น้ าหนัก และเกณฑ์การให ้คะแนน
20
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
ระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ
(Government Evaluation System – GES)
หล ักการและแนวทาง:


Public Accountability
 แต่ละสว่ นราชการต ้องมีความพร ้อมต่อการตรวจสอบ โดยต ้องจัดให ้มีฐานข ้อมูล
สารสนเทศทีจ
่ าเป็ น (บูรณาการตัวชวี้ ัด) และเผยแพร่ตอ
่ สาธารณะ ผ่านทาง website
เพือ
่ แสดงความโปร่งใส (ไม่ต ้องจัดสง่ ข ้อมูลและรายงานต่างๆ ให ้แก่หน่วยงานกลาง)
 แต่ละสว่ นราชการต ้องทาการประเมินและรายงานผลด ้วยตนเอง (Self-assessment
ั ฤทธิใ์ นการปฏิบต
Report) ตามเกณฑ์ทก
ี่ าหนด เพือ
่ แสดงให ้เห็นถึงสถานะของผลสม
ั ิ
ั ยภาพของหน่วยงานในด ้านต่างๆ
ราชการ รวมถึงขีดสมรรถนะและศก
Public Trust & Confidence
 หน่วยงานกลางจะ access เข ้าไปในระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศ (อาจจัดให ้มี site
ิ ใจเชงิ นโยบาย
visit) เพือ
่ สอบทานความถูกต ้องและประเมินผล เพือ
่ ประกอบการตัดสน
่ การจัดสรรทรัพยากร การลงโทษและให ้รางวัลตอบแทน เป็ น
ในด ้านต่างๆ ต่อไป เชน
ต ้น
เงือ
่ นไข : แต่ละสว่ นราชการต ้องมอบหมาย CIO ทาหน ้าทีเ่ ป็ นผู ้สอบทานความถูกต ้องและ
ทันเวลาของข ้อมูลทีน
่ าเข ้าสูร่ ะบบดังกล่าวนี้
21
้
นาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชในการบริ
หารจัดการข ้อมูลอย่างเป็ นระบบ
้
ออกแบบระบบโปรแกรมการจัดการฐานข ้อมูลเพือ
่ ใชในการจั
ดการฐานข ้อมูลให ้หน่ วยงานต่าง ๆ
้
สามารถดึงข ้อมูลทีอ
่ ยูใ่ นฐานข ้อมูลไปใชงานได
้อย่างเหมาะสม
ฐานข ้อมูลกลาง
ของประเทศ
หน่วยงานกลางสามารถ
เข ้าถึงข ้อมูลสารสนเทศได ้
ฐานข ้อมูล
ของสว่ นราชการ
Accountability
Report
กรม
Database กลาง
่ GFMIS,
เชน
e-Budgeting
Database
ภายในอืน
่ ๆ
ระบบ
GES
กรม
Database อืน
่ ๆ
Database
ภายในอืน
่ ๆ
ระบบ GES
กรม
Database
ภายในอืน
่ ๆ
กรม
กรม
ระบบ
GES
ระบบ
GES
กรม
กรม
กรม
กรม
แต่ละส่วนราชการมีหน ้าทีท
่ จ
ี่ ะต ้องนาเข ้าข ้อมูล
พืน
้ ฐานของตนไว ้ในระบบ เพือ
่ พร ้อมต่อการรายงาน
และการตรวจสอบสาธารณะ (Public Accountability)
ประมวลผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ ต และระบบ StatXchange ของสานักงานสถิตแ
ิ ห่งชาติ
22
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
ข ้อดีของระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ
1
การทางานแบบ Work Collaboration
ระบบจะคานึงถึงการทางานจริงของ
้ นหลัก โดยผู ้ใชสามารถบั
้
ผู ้ใชเป็
นทึกผล
การดาเนินงาน ติดตามความก ้าวหน ้าของ
ื่ สารกัน
งาน ปั ญหาอุปสรรค และติดต่อสอ
ระหว่างผู ้ปฏิบัตงิ านและผู ้บริหาร
นอกจากนัน
้ ข ้อมูลทีบ
่ ันทึกในระบบจะ
สามารถแลกเปลีย
่ นแบบเว็บเซอร์วส
ิ ได ้
ซงึ่ จะชว่ ยให ้คอมพิวเตอร์สามารถ
แลกเปลีย
่ นข ้อมูลกับระบบงานของ
หน่วยงานอืน
่ ได ้อัตโนมัต ิ ดังนัน
้ ระบบที่
สร ้างขึน
้ จึงมิใชเ่ พียงเพือ
่ การรายงานให ้แก่
หน่วยงานกลางเท่านัน
้ แต่ผลผลิตหลัก
ของระบบ คือ ผลสาเร็จของงานต่าง ๆ ที่
้
เกิดขึน
้ จากการใชระบบงาน
2
้ นของการจ ัดทารายงาน
ลดความซา้ ซอ
เนือ
่ งจากระบบนีม
้ ฐ
ี านข ้อมูลเดียว ซงึ่
สามารถจัดเก็บข ้อมูลได ้ทัง้ ทีเ่ ป็ น
Structure (DBMS) และ Unstructure
(.doc, .xls, .ppt, .pdf) โดยระบบถูก
ื่ มโยงข ้อมูลใน
ออกแบบให ้สามารถเชอ
ฐานข ้อมูลกับ Item ต่าง ๆในรายงานที่
ต ้องการเพือ
่ สร ้างรูปแบบรายงานผลการ
ดาเนินงานตามตัวชวี้ ด
ั ทีเ่ ป็ นมาตรฐาน
เดียวกันโดยอัตโนมัตจิ ากฐานข ้อมูลทีผ
่ ู ้ใช ้
สร ้างไว ้ ซงึ่ เป็ นการชว่ ยลดภาระในการ
บันทึกข ้อมูลและการจัดทารายงานของ
เจ ้าหน ้าที่ และจะเป็ นประโยชน์ตอ
่ การ
่
บริหารราชการของหัวหน ้าสวนราชการ
และการรายงานผลต่อหน่วยงานกลาง
3
การตรวจสอบและประเมินผล
Online
หน่ ว ยงานกลางที่ท าหน า้ ที่ใ นการ
ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล ส า ม า ร ถ
ตรวจสอบรายงานและเอกสารประกอบ
ผ่านระบบก่อ นที่จ ะ Site Visit ส ่ว น
่ ผล
ราชการ หรือจะสง่ Feedback เชน
ก า ร ป ร ะ เ มิ น ห รื อ ข อ
้ ซั ก ถ า ม แ บ บ
ออนไลน์ได ้
23
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
ิ ายใน
มิตภ
ิ ายนอก
มิตภ
กรอบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการของสว่ นราชการ
การประเมินคุณภาพ (ร ้อยละ10)
ิ ธิผล (ร ้อยละ 60)
การประเมินประสท
ระดับความสาเร็จในการบรรลุเป้ าหมาย
• ระดับกระทรวง
• กลุม
่ ภารกิจ (ถ ้ามี)
• กรม
 การประเมินผลประโยชน์ตอ
่
ค่าใชจ่้ าย (Benefit-Cost Ratio)
ิ ธิผลต่อ
หรือการประเมินผระสท
ค่าใชจ่้ าย (Cost-Effectiveness)
 การประเมินผลกระทบ
• ร ้อยละของระดับความพึงพอใจของ
ผู ้รับบริการต่อกระบวนการให ้บริการ
• ร ้อยละของระดับความพึงพอใจของ
ผู ้กาหนดนโยบาย
มิตภ
ิ ายนอก
(ร้อยละ70 )
ิ ธิภาพ
การประเมินประสท
มิตภ
ิ ายใน
(ร ้อยละ15)
(ร้อยละ30 )
• ต ้นทุนต่อหน่วยผลผลิต
ั สว่ นค่าใชจ่้ ายจริงต่อค่าใชจ่้ าย
• สด
ตามแผน
• การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน
• การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย
ภาพรวม
• ปริมาณผลผลิตทีท
่ าได ้จริงเปรียบเทียบกับ
แผน
• การประหยัดพลังงาน
การพัฒนาองค์การ (ร ้อยละ15)
ขีดสมรรถนะของการบริหาร
จัดการ
ระดับความสาเร็จของการพัฒนา
สมรรถนะของบุคลากร
• ระดับความสาเร็จของการพัฒนา
ปรับปรุงสารสนเทศ
• ระดับความสาเร็จของการพัฒนา
ปรับปรุงวัฒนธรรมองค์การ24
•
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
กรอบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ
ประเด็นการประเมินผล
การปฏิบัตริ าชการ
มิตภ
ิ ายนอก
 การประเมิน
ิ ธิผล
ประสท
• การประเมิน
คุณภาพ
ตัวชวี้ ด
ั
น้ าหนัก
(ร ้อยละ)
70
ระดับความสาเร็จของร ้อยละเฉลีย
่ ถ่วงน้ าหนักในการบรรลุเป้ าหมายตาม
แผนปฏิบัตริ าชการของกระทรวงและนโยบายสาคัญ/พิเศษของรัฐบาล
20
1.1 ระดับความสาเร็จของร ้อยละเฉลีย
่ ถ่วงน้ าหนักในการบรรลุเป้ าหมาย
ตามแผนปฏิบัตริ าชการของกระทรวง
(15)
1.2 ระดับความสาเร็จในการขับเคลือ
่ นนโยบายสาคัญ/พิเศษของ
รัฐบาล
(5)
2.
ระดับความสาเร็จของร ้อยละเฉลีย
่ ถ่วงน้ าหนักในการดาเนินการ ตาม
แผนปฏิบัตริ าชการของกระทรวงทีม
่ เี ป้ าหมายร่วมกันระหว่างกระทรวง
10
3.
10
4.
ระดับความสาเร็จของร ้อยละเฉลีย
่ ถ่วงน้ าหนักในการบรรลุเป้ าหมายตาม
แผนปฏิบัตริ าชการของกลุม
่ ภารกิจ
ระดับความสาเร็จของร ้อยละเฉลีย
่ ถ่วงน้ าหนัก ในการบรรลุเป้ าหมาย
ตามแผนปฏิบัตริ าชการ/ภารกิจหลัก/เอกสารงบประมาณรายจ่ายฯ ของ
สว่ นราชการระดับกรมหรือเทียบเท่า
5.
ร ้อยละของระดับความพึงพอใจของผู ้รับบริการ
7
6.
ร ้อยละของระดับความพึงพอใจของผู ้กาหนดนโยบาย
3
1.
20
25
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
กรอบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ
ประเด็นการประเมินผล
การปฏิบัตริ าชการ
ตัวชวี้ ด
ั
30
มิตภ
ิ ายใน
• การประเมิน
ิ ธิภาพ
ประสท
• การพัฒนา
องค์การ
น้ าหนัก
(ร ้อยละ)
7.
ระดับความสาเร็จของการจัดทาต ้นทุนต่อหน่วยผลผลิต
3
8.
ระดับความสาเร็จของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามแผน
9.
ร ้อยละการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน
10.
ร ้อยละการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายภาพรวม
11.
ระดับความสาเร็จของปริมาณผลผลิตทีท
่ าได ้จริงเปรียบเทียบกับ
เป้ าหมายผลผลิตตามเอกสารงบประมาณรายจ่าย
5
12.
ระดับความสาเร็จของการดาเนินงานตามมาตรการประหยัดพลังงาน
13.
ระดับความสาเร็จของการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากร
2
5
14.
ระดับความสาเร็จของการพัฒนาปรับปรุงสารสนเทศ
5
15.
ระดับความสาเร็จของการพัฒนาปรับปรุงวัฒนธรรมองค์การ
5
2.5
1
1.5
26
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
กรอบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการของจังหวัด
แสดงผลงานทีบ
่ รรลุวต
ั ถุประสงค์และ
เป้ าหมายของแผนปฏิบต
ั ริ าชการ
ตามทีไ่ ด ้รับงบประมาณมา
มิตท
ิ ี่ 1 :
ดาเนินการเพือ
่ ให ้เกิด
มิตด
ิ า้ น
ประโยชน์สข
ุ ต่อประชาชน
ิ ธิผล
ประสท
มิตท
ิ ี่ 3 :
ิ ธิ
มิตด
ิ า้ นประสท
ภาพของการ
แสดงความสามารถในการ
่ การบริหาร
ปฏิบ ัติราชการ
ปฏิบต
ั ริ าชการ เชน
งบประมาณ การรักษามาตรฐาน
ระยะเวลาการให ้บริการ การประหยัด
พลังงาน
แสดงการให ้ความสาคัญกับผู ้รับบริการ
ในการให ้บริการทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพ
สร ้างความพึงพอใจแก่
มิตท
ิ ี่ 2 :
ผู ้รับบริการ
มิตด
ิ า้ น
คุณภาพการ
ให้บริการ
มิตท
ิ ี่ 4 :
มิตด
ิ า้ นการ
พ ัฒนา
องค์การ
แสดงความสามารถในการ
บริหารจัดการองค์การเพือ
่ สร ้าง
ความพร ้อมในการสนับสนุน
แผนปฏิบต
ั ริ าชการ
27
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
คารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
 คารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ เป็ นการแสดงความจานงของผู ้ทา
คารับรองเกีย
่ วกับการพัฒนาการปฏิบต
ั ริ าชการและผลการดาเนินการ
ของสว่ นราชการทีส
่ ว่ นราชการต ้องการบรรลุผล โดยมีตวั ชวี้ ด
ั
ั เจน ระหว่างผู ้ทาคารับรอง
เป้ าหมาย และเกณฑ์การให ้คะแนนทีช
่ ด
(หัวหน ้าสว่ นราชการ) กับผู ้รับคารับรอง (ผู ้บังคับบัญชาของหัวหน ้า
สว่ นราชการ)
 คารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการของสว่ นราชการ ถือเป็ นคารับรองของ
่ ญ
ั ญา และใชส้ าหรับระยะเวลา 1 ปี ซงึ่
สว่ นราชการฝ่ ายเดียว ไม่ใชส
ิ้ สุดสอดคล ้องกับปี งบประมาณ
เริม
่ ต ้นและสน
28
การจัดทาคารับรองการปฏิบัตริ าชการ
คารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ
29
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
ั ฤทธิ์
ขัน
้ ตอนการพัฒนาระบบการบริหารมุง่ ผลสม
ั ทัศน์
1. การวิเคราะห์วส
ิ ย
และพันธกิจ
6. การวิเคราะห์และ
รายงานผล
2. การกาหนดตัวชวี้ ด
ั
5. การรวบรวมข ้อมูล
3. การกาหนด
แหล่งข ้อมูล
4. การตัง้ ค่าเป้ าหมาย
30
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
ั ทัศน์และพันธกิจ
1. การวิเคราะห์วส
ิ ย
ั ทัศน์
วิสย
(Vision)
พันธกิจ
(Mission)
ประเด็นยุทธศาสตร์
(Strategic Issues/
Themes)
เป้ าประสงค์
(Strategic Goals)
กลยุทธ์ (Strategies)
แผนปฏิบัตก
ิ าร (Action Plan)
31
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
คานิยาม / คาจากัดความ
ั ัศน์
วิสยท
(Vision)
เป็ นข ้อความทีส
่ ะท ้อนถึงความมุง่ มั่นเกีย
่ วกับทิศทางและสถานะ
ทีส
่ ว่ นราชการต ้องการจะเป็ นในอนาคตตามห ้วงเวลาทีก
่ าหนด
เป็ นจุดมุง่ หมายปลายทางร่วมกันของคนในสว่ นราชการทีจ
่ ะ
ดาเนินการผลักดันให ้เกิดขึน
้
พ ันธกิจ
(Mission)
เป็ นข ้อความแสดงให ้เห็นหลักการพืน
้ ฐาน จุดมุง่ หมาย หรือ
วัตถุประสงค์ของการก่อตัง้ องค์กรและขอบข่ายการดาเนินงาน
ั ทัศน์ทก
ขององค์กร เพือ
่ ทาให ้องค์กรบรรลุวส
ิ ย
ี่ าหนดไว ้ ซงึ่ มี
ทีม
่ าจากอานาจหน ้าทีต
่ ามทีก
่ ฎหมายบัญญัตไิ ว ้หรือ
วัตถุประสงค์ของการจัดตัง้ องค์กรนัน
้ ๆ
ประเด็น
ยุทธศาสตร์
(Strategic
Issues/
Themes)
เป็ นการกาหนดประเด็นทีส
่ าคัญทีอ
่ งค์กรจาเป็ นต ้องดาเนินการ
ั ทัศน์ทต
พัฒนาเพือ
่ ให ้สามารถบรรลุวส
ิ ย
ี่ งั ้ ไว ้ได ้
ประเด็นยุทธศาสตร์มักจะมีทม
ี่ าจาก :
ั ทัศน์ขององค์กร
• แนวทางหลักในการบรรลุวส
ิ ย
• นโยบายหรือความจาเป็ นเร่งด่วนจากภายนอกทีม
่ ผ
ี ลกระทบ
ั ทัศน์ขององค์กร
ต่อการบบรลุวส
ิ ย
ี ทีส
• ความคาดหวังจากผู ้มีสว่ นได ้สว่ นเสย
่ าคัญ
32
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
คานิยาม / คาจากัดความ
เป้าประสงค์
(Goal)
ั ทัศน์ โดยเขียนเป็ น
เป็ นการกาหนดเป้ าหมายในระดับวิสย
ข ้อความเพือ
่ แสดงเป้ าหมายความสาเร็จทีอ
่ งค์กรมุง่ มั่นให ้
ั ทัศน์ทไี่ ด ้ตัง้ ไว ้
เกิดผล เพือ
่ แสดงว่าองค์กรได ้บรรลุถงึ วิสย
หรือไม่
กลยุทธ์
(Strategy)
เป็ นแนวคิดหรือวิธก
ี ารทีแ
่ ยบคายอันบ่งบอกถึงลักษณะการ
เคลือ
่ นตัวขององค์กรว่าจะก ้าวไปสูเ่ ป้ าหมายทีต
่ ้องการใน
อนาคตได ้อย่างไร เป็ นการตอบคาถามทีว่ า่ “เราจะไปถึง
จุดหมายทีต
่ ้องการอย่างไร”
แผนงาน /
โครงการ /
กิจกรรม
่ ารปฏิบต
ื่ มโยง
เป็ นการนาแผนยุทธศาสตร์ไปสูก
ั ด
ิ ้วยการเชอ
่ ผนงาน/
ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้ าประสงค์ กลยุทธ์ ไปสูแ
โครงการ/กิจจกรมแบบบูรณาการ มีการกาหนดผู ้รับผิดชอบ
กิจกรรมหรือขัน
้ ตอน กาหนดระยะเวลาดาเนินการ ตัวชวี้ ด
ั และ
่
เป้ าหมายทีต
่ ้องการให ้เกิดขึน
้ ปั จจัยนาเข ้าทีต
่ ้องการ เชน
บุคลากร งบประมาณ เป็ นต ้น
33
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
คานิยาม / คาจากัดความ
ต ัวชว้ี ัด
(Key
Performance
Indicator KPI)
ค่าเป้าหมาย
(Target)
้
• เครือ
่ งมือหรือดัชนีทใี่ ชในการวั
ดความก ้าวหน ้าของการบรรลุ
แต่ละเป้ าประสงค์
• เป็ นค่าทีว่ ด
ั จากผลการปฏิบต
ั งิ านทีเ่ กิดขึน
้ จริง เพือ
่ แสดง
ั ฤทธิข
ความก ้าวหน ้าหรือผลสม
์ องการบรรลุตามเป้ าประสงค์
หรือกลยุทธ์ โดยเทียบกับเป้ าหมายทีไ่ ด ้ตัง้ ไว ้
ั ฤทธิท
เป็ นการแสดงระดับผลสม
์ ค
ี่ าดหวังของแต่ละตัวชวี้ ด
ั
34
ความรู ้ทั่วไปเกีย
่ วกับการติดตามและประเมินผล
ั ฤทธิข
การวัดผลสม
์ องการทางาน
ั ฤทธิ์ (Results)
ผลสม
วัตถุประสงค์
(Objectives)
ปั จจัยนาเข ้า
(Inputs)
กิจกรรมใน
การทางาน
(Processes)
ผลผลิต
(Outputs)
ผลลัพธ์
(Outcome)
ิ ธิภาพ
ความมีประสท
(Efficiency)
ความประหยัด
(Economy)
ิ ธิผล
ความมีประสท
(Effectiveness)
35
ความรู ้ทั่วไปเกีย
่ วกับการติดตามและประเมินผล
คานิยาม / คาจากัดความ
วัตถุประสงค์
(Objectives)
ั ฤทธิข
ั ้ กลาง
เป้ าหมายของผลสม
์ องงานทีต
่ ้องการทัง้ ในระยะสน
หรือระยะยาว
ปั จจัยนาเข ้า
(Inputs)
้
่
ทรัพยากรทีใ่ ชในการผลิ
ต การให ้บริการหรือการปฏิบต
ั งิ าน เชน
เงินทุน คน อาคาร เครือ
่ งมือ วัสดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยี เวลา
ิ ทางปั ญญา กฎ ระเบียบ เป็ นต ้น
ทรัพย์สน
กิจกรรม
(Processes)
• กระบวนการทางาน ได ้แก่ การนาปั จจัยนาเข ้าทัง้ หลายมา
ผ่านกระบวนการเพือ
่ ทาให ้เกิดมูลค่าเพิม
่ ตามมาตรฐาน
คุณภาพทีไ่ ด ้กาหนดไว ้
• กระบวนการแปลงทรัพยากรให ้เป็ นผลผลิตและผลลัพธ์
36
ความรู ้ทั่วไปเกีย
่ วกับการติดตามและประเมินผล
คานิยาม / คาจากัดความ
ผลผลิต
(Outputs)
• ผลงานหรือบริการทีห
่ น่วยงานจัดทาขึน
้ โดยกิจกรรมทีท
่ าให ้
เกิดผลงานนัน
้ จะอยูภ
่ ายใต ้การควบคุมของหน่วยงาน
• ผลผลิตเป็ นปริมาณงานทีห
่ น่วยงานทาได ้
่ ลลัพธ์ของงานตามที่
• ผลผลิตของโครงการอาจนาไปสูผ
ต ้องการ แต่ผลผลิตไม่ได ้แสดงถึงผลลัพธ์ของงานหรือ
คุณภาพของการทางาน
ผลลัพธ์
(Outcomes)
ผลกระทบทีเ่ กิดจากผลผลิตหรือผลงานทีไ่ ด ้ทาขึน
้ ซงึ่ ก่อให ้เกิด
การเปลีย
่ นแปลงต่อผู ้รับบริการอันเนือ
่ งมาจากการดาเนินการ
่ ประโยชน์หรือความพึงพอใจทีป
เชน
่ ระชาชนได ้รับ เป็ นต ้น
ั ฤทธิ์
ผลสม
(Results)
ผลรวมของผลผลิตและผลลัพธ์
37
ความรู ้ทั่วไปเกีย
่ วกับการติดตามและประเมินผล
คานิยาม / คาจากัดความ
ความประหยัด
(Economy)
้ พยากรน ้อยทีส
การใชทรั
่ ด
ุ ในการผลิตโดยการใชปั้ จจัยนาเข ้า
(Inputs) ซงึ่ ได ้แก่ทรัพยากรในการผลิตด ้วยราคาทีต
่ า่ ทีส
่ ด
ุ
เท่าทีจ
่ ะเป็ นไปได ้
ความมี
ิ ธิภาพ
ประสท
(Efficiency)
ั พันธ์ระหว่างปริมาณทรัพยากรทีใ่ ชกั้ บปริมาณ
• ความสม
ผลผลิตทีเ่ กิดจากกิจกรรมหรือโครงการ
• เป็ นการแสดงความสามารถในการผลิตและความคุ ้มค่าของ
การลงทุน
ความมี
ิ ธิผล
ประสท
(Effectiveness)
ั พันธ์ของผลลัพธ์ของการทางานกับเป้ าหมายหรือ
• ความสม
วัตถุประสงค์ทต
ี่ งั ้ ไว ้
• ระดับของการบรรลุวต
ั ถุประสงค์ทไี่ ด ้ตัง้ ไว ้ล่วงหน ้าของ
โครงการหนึง่ ๆ ว่าได ้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ทต
ี่ งั ้ ไว ้เพียงไร
38
ทดสอบความเข ้าใจ
ปัจจ ัย
นาเข้า
กระบวน
การ
ผลผลิต
ผลล ัพธ์
1. จานวนเงินงบประมาณ
2. จานวนเจ ้าหน ้าทีป
่ ฏิบต
ั งิ าน
ภาคสนาม
3. การฝึ กอบรมเชงิ ปฏิบต
ั ก
ิ าร
4. การทดสอบปริมาณสารพิษตกค ้าง
ในอาหาร
5. จานวนผู ้เข ้ารับการฝึ กอบรม
6. ร ้อยละของผู ้ผ่านการฝึ กอบรม
7. ร ้อยละของผู ้สอบไม่ผา่ นวิชา
ภาษาไทย
8. ร ้อยละของผู ้รับบริการทีม
่ ค
ี วามพึง
พอใจต่อการให ้บริการ
9. ร ้อยละของผู ้เข ้ารับการฝึ กอบรมที่
ิ ธิภาพ
สามารถปฏิบต
ั งิ านได ้มีประสท
มากขึน
้
39
ทดสอบความเข ้าใจ
ผลผลิต
ผลล ัพธ์
้ การ
1. ผู ้ใชบริ
้ การมีความพึงพอใจในบริการที่
1. ผู ้ใชบริ
ได ้รับ
่ มแซม
2. ความยาวของถนนทีไ่ ด ้รับการซอ
2. ………………………………………………..
3. ................................................
3. ผู ้เข ้ารับฝึ กอบรมมีความรู ้สามารถนาไป
ปฏิบต
ั งิ านได ้ถูกต ้องยิง่ ขึน
้
4. ผู ้เข ้าร่วมโครงการเลิกสูบบุหรี่
4. ………………………………………………..
5. ................................................
5. ..................................................
40
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
ิ ธิผล
ด ้านประสท
ิ ธิภาพ
ด ้านประสท
คุณภาพการให ้บริการ
Balanced Scorecard
ด ้านการพัฒนาองค์การ
41
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
42
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
คุณลักษณะของตัวชวี้ ัด
Specific
ั เจน มีความหมายมุง่ ไปยังสงิ่ ทีว่ ด
• มีความเฉพาะเจาะจง ชด
ั
Measurable
• ใชวั้ ดผลได ้จริง เปรียบเทียบได ้ ใชวิ้ เคราะห์ความหมาย
ทางสถิตไิ ด ้
Attainable
(Achievable)
• สามารถบรรลุผลสาเร็จได ้ มีความสมเหตุสมผล
Realistic
(Relevant)
• มีความสมจริง ไม่ใชต้ ้นทุนการวัดทีส
่ งู เกินไป
• มีความสอดคล ้องสะท ้อนถึงเป้ าประสงค์และวัตถุประสงค์
เชงิ ยุทธศาสตร์
Timely
• สามารถใชวั้ ดผลการปฏิบต
ั งิ านได ้ภายในเวลาทีก
่ าหนด
้
แสดงผลลัพธ์ได ้รวดเร็ว ทาให ้สามารถใชในการติ
ดตามและ
ปรับปรุงได ้ง่าย
43
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั ผลสาเร็จ/ไม่สาเร็จ (Pass/Fail)
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั ตามขัน
้ ตอนการดาเนินงาน
(Milestones)
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั เชงิ ผลผลิต (Output)
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั เชงิ ผลลัพธ์ (Outcome)
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั แบบผสมผสาน (Hybrid)
44
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั ผลสาเร็จ/ไม่สาเร็จ (Pass/Fail)
ึ ษาพัฒนาการท่องเทีย
ตัวอย่างตัวชวี้ ด
ั : ผลสาเร็จของการศก
่ วชายฝั่ งทะเลภาคใต ้
ระด ับ
คะแนน
ระด ับที่ 1
ขนตอนการด
ั้
าเนินงาน
ึ ษาพัฒนาการท่องเทีย
ไม่สามารถจัดทารายงานการศก
่ วชายฝั่ งทะเลภาคใต ้ได ้ หรือ
ึ ษาพัฒนาการท่องเทีย
จัดทารายงานการศก
่ วชายฝั่ งทะเลภาคใต ้ได ้หลังวันที่ 30
กันยายน 2554
ระด ับที่ 2
-
ระด ับที่ 3
-
ระด ับที่ 4
-
ระด ับที่ 5
ึ ษาพัฒนาการท่องเทีย
จัดทารายงานการศก
่ วชายฝั่ งทะเลภาคใต ้ได ้แล ้วเสร็จภายใน
วันที่ 30 กันยายน 2554
45
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั ตามขัน
้ ตอนการดาเนินงาน
(Milestones)
ตัวอย่างตัวชวี้ ด
ั : ระดับความสาเร็จของการจัดทาแผนปฏิบต
ั ก
ิ ารตามแผนพัฒนาสตรี
ระด ับ
คะแนน
ขนตอนการด
ั้
าเนินงาน
ระด ับที่ 1
จัดตัง้ คณะทางานจัดทาแผนปฏิบต
ั ก
ิ ารฯ ปี 2554-2556 ซงึ่ ประกอบด ้วย
หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรเอกชนทีเ่ กีย
่ วข ้อง
ระด ับที่ 2
จัดทาร่างแผนปฏิบต
ั ก
ิ ารฯ
ระด ับที่ 3
ี เพือ
ระดมความคิดเห็นจากผู ้มีสว่ นได ้เสย
่ ปรับปรุงร่างแผนปฏิบัตก
ิ ารฯ
ปรับปรุงร่างแผนปฏิบัตก
ิ ารฯเพือ
่ ให ้ได ้แผนปฏิบัตก
ิ ารฯฉบับสมบูรณ์
ระด ับที่ 4
ดาเนินการตามแผนปฏิบต
ั ก
ิ ารฯ สาหรับปี 2554 ได ้ร ้อยละ 80
ระด ับที่ 5
ดาเนินการตามแผนปฏิบต
ั ก
ิ ารฯ สาหรับ ปี 2554 ได ้ร ้อยละ 100 และมี
รายงานสรุปผลการดาเนินการตามแผนปฏิบัตก
ิ าร รวมทัง้ ปั ญหาอุปสรรค
และแนวทางการดาเนินงานในปี 2555
46
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั เชงิ ผลผลิต (Output)
ตัวอย่างตัวชวี้ ด
ั : ร ้อยละทีเ่ พิม
่ ขึน
้ ของผลผลิตต่อหน่วยของข ้าว
ต ัวชวี้ ัด
ข้าว
นา้ หน ัก
2
1
1
2
2
เกณฑ์การให้คะแนน
3
3
4
4
5
5
ตัวอย่างตัวชวี้ ด
ั : ร ้อยละทีเ่ พิม
่ ขึน
้ ของผลผลิตต่อหน่วยของพืชเศรษฐกิจทีส
่ าคัญ
ต ัวชวี้ ัด
นา้ หน ัก
เกณฑ์การให้คะแนน
1
2
3
4
5
ข้าว
1.5
5
10
15
20
25
ข้าวโพด
1.5
6
8
10
12
14
อ้อย
2
2
4
6
8
10
รวม
5
47
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั เชงิ ผลลัพธ์ (Outcome)
ตัวอย่างตัวชวี้ ด
ั : ระดับคุณภาพของการบริหารจัดการระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศ
ของสว่ นราชการ
ระด ับ
คะแนน
ระด ับที่ 1
ขนตอนการด
ั้
าเนินงาน
จัดทาแผนปฏิบัตก
ิ ารบริหารจัดการระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศของสว่ นราชการโดยมี
เนือ
้ หาและคุณภาพครอบคลุม 3 ประเด็นหลักและประเด็นย่อยไม่น ้อยกว่า 6 ประเด็น
ระด ับที่ 2
จัดทาแผนปฏิบัตก
ิ ารบริหารจัดการระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศของสว่ นราชการโดยมี
เนือ
้ หาและคุณภาพครอบคลุม 3 ประเด็นหลักและประเด็นย่อยไม่น ้อยกว่า 7 ประเด็น
ระด ับที่ 3
จัดทาแผนปฏิบัตก
ิ ารบริหารจัดการระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศของสว่ นราชการโดยมี
เนือ
้ หาและคุณภาพครอบคลุม 3 ประเด็นหลักและประเด็นย่อยไม่น ้อยกว่า 8 ประเด็น
ระด ับที่ 4
จัดทาแผนปฏิบัตก
ิ ารบริหารจัดการระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศของสว่ นราชการโดยมี
เนือ
้ หาและคุณภาพครอบคลุม 3 ประเด็นหลักและประเด็นย่อยไม่น ้อยกว่า 9 ประเด็น
ระด ับที่ 5
จัดทาแผนปฏิบัตก
ิ ารบริหารจัดการระบบฐานข ้อมูลสารสนเทศของสว่ นราชการโดยมี
เนือ
้ หาและคุณภาพครอบคลุม 3 ประเด็นหลักและประเด็นย่อยไม่น ้อยกว่า 10 ประเด็น
48
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
• การประเมินผลตัวชวี้ ด
ั แบบผสมผสาน (Hybrid)
์ ก่ผู ้สง่ ออก
ตัวอย่างตัวชวี้ ด
ั : ระดับความสาเร็จของการลดต ้นทุนด ้านโลจิสติกสแ
ระด ับ
คะแนน
ระด ับที่ 1
ขนตอนการด
ั้
าเนินงาน
ทบทวนการด าเนิน งานปี 2552 และจั ด ท าแผนส่ง เสริม และพั ฒ นาการให ้บริการโลจิ
์ ก่ผู ้สง่ ออกกาหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัตแ
สติกสแ
ิ ละคัดเลือก ผู ้สง่ ออกเข ้าร่วมโครงการ
(Milestone)
ระด ับที่ 2
์ ก่ผู ้ส่งออกได ้แล ้ว
ดาเนินการตามแผนการสง่ เสริมและพั ฒนาการให ้บริการโลจิสติกสแ
เสร็จร ้อยละ 100 (Output)
ระด ับที่ 3
มีก ารประเมิน ผลและติด ตามธุร กิจ ที่เ ข ้าร่ ว มโครงการทั ง้ หมดและน าข ้อเสนอแนะ ไป
ปฏิบัตห
ิ รือปรับปรุงกระบวนการต่างๆ (Outcome)
ระด ับที่ 4
จานวนธุรกิจที่เข ้าร่วมโครงการไม่น อ้ ยกว่า ร ้อยละ 50 ได ้น าข ้อเสนอแนะไปปรั บ ปรุง
กระบวนการหรือกาหนดแนวทางปฏิบัต ิ (Outcome)
ระด ับที่ 5
จานวนธุรกิจที่เข ้าร่วมโครงการไม่น อ้ ยกว่า ร ้อยละ 60 ได ้น าข ้อเสนอแนะไปปรั บปรุง
กระบวนการหรือกาหนดแนวทางปฏิบัต ิ (Outcome)
49
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
การทดสอบคุณภาพของต ัวชวี้ ัด
• ตัวชวี้ ด
ั นัน
้ มีความสอดคล ้องกับยุทธศาสตร์มากน ้อยเพียงใด
• ความพร ้อมของข ้อมูล (Data Availability) : มีข ้อมูลเพียงพอ
หรือไม่
• ความถูกต ้องของข ้อมูล (Data Accuracy) : ข ้อมูลทีม
่ อ
ี ยูม
่ ค
ี วาม
ถูกต ้องและแม่นยาเพียงใด
• ความทันสมัยของข ้อมูล (Timeliness of Data) : ข ้อมูลทีม
่ อ
ี ยูม
่ ี
ความทันสมัยหรือไม่
• ต ้นทุนในการจัดหาข ้อมูล (Cost of Data Collection) : ต ้นทุน
ในการจัดหามากหรือน ้อยเพียงใดและมีความคุ ้มค่าหรือไม่ทจ
ี่ ะ
หาข ้อมูลมาเพือ
่ ตัวชวี้ ด
ั นัน
้ ๆ
50
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
2. การกาหนดตัวชวี้ ัด
การทดสอบคุณภาพของต ัวชวี้ ัด (ต่อ)
ั เจนของตัวชวี้ ด
• ความชด
ั (Clarity of KPI) : ตัวชวี้ ด
ั นัน
้ มีความ
ั เจน เป็ นทีเ่ ข ้าใจร่วมกันของทุกๆ ฝ่ ายทีเ่ กีย
ชด
่ วข ้องหรือไม่
• ตัวชวี้ ด
ั นัน
้ สะท ้อนให ้เห็นถึงผลการดาเนินงานทีแ
่ ท ้จริงหรือไม่
(Validity of KPI) หรือแสดงให ้เห็นถึงสงิ่ ทีต
่ ้องการทีจ
่ ะวัดจริง
หรือไม่
้
• ตัวชวี้ ด
ั นัน
้ สามารถนาไปใชในการเปรี
ยบเทียบผลการดาเนินงาน
กับองค์กรหรือหน่วยงานอืน
่ หรือกับผลการดาเนินงานในอดีตได ้
หรือไม่ (Comparability of KPI)
ั พันธ์กบ
• ตัวชวี้ ด
ั นัน
้ มีความสม
ั ตัวชวี้ ด
ั อืน
่ ในเชงิ เหตุและผลหรือไม่
(Relationships with other KPIs)
51
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
3. การกาหนดแหล่งข ้อมูล
ื่ ต ัวชวี้ ัด ระบุชอ
ื่ ของตัวชวี้ ด
ั เจน
 ชอ
ั ให ้ชด
่ บาท ราย ร ้อยละ เป็ นต ้น
 หน่วยว ัด ระบุหน่วยนับของข ้อมูลตัวชวี้ ด
ั เชน
 สูตรการว ัด เป็ นวิธก
ี ารคานวณเพือ
่ ให ้ได ้ผลลัพธ์ของตัวชวี้ ด
ั
ั เจนเพือ
 คาอธิบาย เป็ นการอธิบายเกีย
่ วกับตัวชวี้ ด
ั ให ้ชด
่ ให ้ผู ้ใชตั้ วชวี้ ด
ั มีความ
เข ้าใจตรงกันถึงความมุง่ หมายของตัวชวี้ ด
ั และรายละเอียดอืน
่ ๆ ทีเ่ กีย
่ วข ้อง
่ วัตถุประสงค์/ทีม
เชน
่ าของตัวชวี้ ด
ั คาจากัดความ/นิยาม ขอบเขตของตัวชวี้ ด
ั
เป็ นต ้น
้ ฐานประกอบต ัวชวี้ ัด เป็ นการแสดงข ้อมูลย ้อนหลังของตัวชวี้ ด
 ข้อมูลพืน
ั
 วิธก
ี ารเก็บข้อมูล/ วแหล่งข้อมูล ระบุวา่ จะเก็บข ้อมูลผลการปฏิบัตงิ านได ้
อย่างไร หรือจะใชข้ ้อมูลจากแหล่งข ้อมูลใด
52
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
3. การกาหนดแหล่งข ้อมูล
 ผูจ
้ ัดเก็บข้อมูล เป็ นผู ้รับผิดชอบ
ในการจัดเก็บและรวบรวมข ้อมูลผล
การปฏิบต
ั งิ านตามตัวชวี้ ด
ั หากมี
หน่วยงานผู ้รับผิดชอบผลงาน
มากกว่าหนึง่ แห่ง ให ้กาหนด
หน่วยงานจัดเก็บและรวบรวม
ข ้อมูลไว ้เป็ นหน่วยงานกลาง มี
หน ้าทีป
่ ระสานการจัดเก็บและ
รวบรวมข ้อมูล
 ผูก
้ าก ับดูแลต ัวชวี้ ัด เป็ น
ผู ้รับผิดชอบผลักดันการดาเนินงาน
ตามตัวชวี้ ด
ั ให ้บรรลุเป้ าหมายที่
กาหนดไว ้ รวมทัง้ มีหน ้าทีด
่ แ
ู ล
ตรวจสอบความถูกต ้องของการ
จัดเก็บและรวบรวมข ้อมูล
53
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
3. การกาหนดแหล่งข ้อมูล
แนวคิดเกีย
่ วก ับข้อมูล
ลักษณะของ
ข ้อมูลทีด
่ ี
ื่ ถือ สามารถ
ข ้อมูลควรมาจากแหล่งข ้อมูลมีความน่าเชอ
ตรวจสอบได ้ หากเป็ นข ้อมูลประมาณการหรือค่าคาดการณ์
้ ม
ทางสถิตโิ ดยใชกลุ
่ ตัวอย่าง ต ้องมีการดาเนินการตามระเบียบ
ื่ ถือ
วิธวี จิ ัยทีถ
่ ก
ู ต ้อง น่าเชอ
แหล่งข ้อมูล
ทีด
่ ี
เป็ นแหล่งข ้อมูลทีม
่ ข
ี ้อมูลพร ้อม ต ้นทุนตา่ สามารถเข ้าถึง
้ ้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว
ข ้อมูลได ้สะดวก นาข ้อมูลมาปรับใชได
ื่ ถือได ้
และเป็ นข ้อมูลทีเ่ ชอ
54
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
3. การกาหนดแหล่งข ้อมูล
แนวคิดเกีย
่ วก ับวิธเี ก็บข้อมูลหรือแหล่งข้อมูล
1) ข ้อมูลหลักฐานของหน่วยงานทีม
่ ก
ี ารเก็บรวบรวมไว ้ หรือทีจ
่ ะพัฒนาขึน
้ มาใหม่
่ การสม
ั ภาษณ์ หรือการสอบถามโดยใชแบบสอบถาม
้
2) การสารวจ เชน
3) การสงั เกต โดยผู ้สงั เกตการณ์ทไี่ ด ้รับการฝึ ก
่ เครือ
4) เครือ
่ งมือวัดเฉพาะด ้าน เชน
่ งมือวัดความสะอาดของน้ า เป็ นต ้น
แนวคิดเกีย
่ วก ับการเลือกใชว้ ธ
ิ เี ก็บข้อมูล
•
ความเป็ นไปได ้
•
ื่ ถือได ้ของวิธก
ความเทีย
่ งตรงและเชอ
ี ารเก็บข ้อมูล
•
้
การใชประโยชน์
จากเครือ
่ งมือเพือ
่ การบริหารโครงการและ
การรายงานผล
•
ต ้นทุนการเก็บข ้อมูล
55
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
3. การกาหนดแหล่งข ้อมูล
แนวคิดเกีย
่ วก ับข้อมูล
•
คานิยาม/คาจากัดความของข ้อมูลทีต
่ ้องการต ้องตรงกัน
•
ข ้อมูลจากเอกสารราชการมักเก็บเฉพาะสงิ่ ทีเ่ กิดขึน
้ จริง ไม่จัดเก็บสงิ่ ทีค
่ วรจะ
่ การแสดงจานวนรถยนต์ทม
เกิดขึน
้ แต่ไม่เกิดขึน
้ เชน
ี่ ก
ี ารประกันภัยรถยนต์ แต่
้
ไม่แสดงว่ามีเจ ้าของรถยนต์จานวนเท่าใดทีใ่ ชรถโดยไม่
ทาประกันภัย เป็ นต ้น
•
ข ้อร ้องเรียนอย่างเป็ นทางการทีอ
่ งค์กรบันทึกอาจไม่สะท ้อนถึงความพอใจที่
่ ผู ้ร ้องเรียนไม่ใช ่
แท ้จริงของผู ้รับบริการ เนือ
่ งจากเหตุผลหลายประการ เชน
่ วัฒนธรรมทีส
ตัวแทนของประชากรทัง้ หมด ปั จจัยบางอย่าง เชน
่ ง่ เสริมให ้
อดทน ความเกรงกลัวต่อผลทีจ
่ ะตามมาจากการร ้องเรียน กระบวนการร ้องเรียน
ยุง่ ยาก เป็ นต ้น
56
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
4. การตัง้ เป้ าหมาย
ั ฤทธิท
ค่าเป้ าหมาย เป็ นการแสดงระดับผลสม
์ ี่
คาดหวังของแต่ละตัวชวี้ ด
ั
้ อยูก
การตงเป
ั้ ้ าหมายขึน
่ ับว ัตถุประสงค์ของผูใ้ ช ้
 เป้ าหมายทีส
่ ะท ้อนถึงการปฏิบต
ั งิ านตามทีก
่ ฎหมายกาหนด
 เป้ าหมายทีต
่ งั ้ ตามระดับผลการปฏิบต
ั งิ านในปั จจุบน
ั แสดงว่า
ผลการปฏิบต
ั งิ านในปั จบ
ุ น
ั อยูใ่ นระดับทีน
่ ่าพึงพอใจและไม่ควร
ตา่ กว่านี้
 เป้ าหมายในระดับทีส
่ ามารถบรรลุผลได ้ เป็ นการตัง้ เป้ าหมายให ้
อยูเ่ หนือระดับผลการปฏิบต
ั งิ านในปั จบ
ุ น
ั แต่ไม่กาหนดให ้สูง
เกินไป กาหนดเพียงระดับทีส
่ ามารถบรรลุถงึ โดยไม่ต ้องทุม
่ เท
ทรัพยากรทางการบริหารมากนัก
 เป้ าหมายแบบท ้าทาย เป็ นการกาหนดเป้ าหมายในระดับสูงที่
ต ้องการให ้มีการปรับปรุงผลการปฏิบต
ั งิ านให ้เห็นการ
ั เจน
เปลีย
่ นแปลงอย่างชด
57
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
4. การตัง้ เป้ าหมาย
Lofty
Target
Stretch
Target
Realistic
Target
Always being better
เป้าหมาย (Target)
[แสดงถึงผลการดาเนินงานทีค
่ าดหว ังไว้]
ปัจจ ัยผล ักด ันจากภายใน
(Internal driven)
สมรรถนะ
(Capability)
ความคาดหว ัง
(Expectation)
ปัจจ ัยผล ักด ันจากภายนอก
(External driven)
่ นได้เสย
ี
ผูม
้ ส
ี ว
(Stakeholder)
มาตรฐาน
(Standard)
วิธป
ี ฏิบ ัติทด
ี่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ
(Best practice)
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
ตัวอย่างวิธก
ี ารตัง้ เป้ าหมาย
4. การตัง้ เป้ าหมาย
1. มีระเบียบ/กฎหมายกาหนดระดับของผลการปฏิบัตงิ านหรือไม่
มี
ไม่ม ี
้ บทีก
ใชระดั
่ าหนดไว ้ตามระเบียบ/
กฎหมายเป็ นเป้ าหมาย
2. พอใจระดับผลการปฏิบัตงิ านใน
ปั จจุบันหรือไม่
พอใจ
ไม่พอใจ
กาหนดเป้ าหมายตามระดับผลการ
ปฏิบัตงิ านในปั จจุบัน
3. จาเป็ นต ้องปรับปรุงผลการ
ปฏิบัตงิ านโดยรีบด่วนหรือไม่
จาเป็ น
กาหนดเป้ าหมายแบบท ้าทาย
ไม่จาเป็ น
กาหนดเป้ าหมายในระดับทีส
่ ามารถ
บรรลุผลได ้
59
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
4. การตัง้ เป้ าหมาย
ปัจจ ัยทีค
่ วรคานึงถึงในการตงเป
ั้ ้ าหมาย
 ผลการปฏิบต
ั งิ านขององค์การทีผ
่ า่ นๆ มา อุปสรรค/ความสาเร็จ
และค่าเฉลีย
่
 ผลการปฏิบต
ั งิ านขององค์การหรือหน่วยงานอืน
่ ทัง้ ในและ
ต่างประเทศทีม
่ ล
ี ก
ั ษณะงานสามารถเทียบเคียงกันได ้
 ความต ้องการ ความคาดหวังของผู ้รับบริการและผู ้มีสว่ นเกีย
่ วข ้อง
 แนวโน ้มทัว่ ไปและการปรับปรุงให ้ดีขน
ึ้ (Self Improvement)
 นโยบายของผู ้บริหารระดับสูงซงึ่ ต ้องการให ้ผลงานดีกว่าในอดีต
และคูเ่ ปรียบ โดยมีทรัพยากรหรือเทคโนโลยีสนับสนุนการบรรลุ
เป้ าหมาย
60
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
4. การตงเป
ั้ ้ าหมาย
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลการประเมิน
ระด ับคะแนน
ทีไ่ ด้ร ับ
มีผลการปฏิบ ัติราชการอยูใ่ นระด ับดีกว่าเป้าหมายมาก
เป็ นเกณฑ์ท ้าทายทีส
่ ว่ นราชการต ้องบริหารจัดการทรัพยกรทีม
่ อ
ี ยูใ่ ห ้ได ้ผล
ดีกว่าปกติอย่างมากถึงจะได ้คะแนนในระดับนี้ หรือเป็ นผลงานทีเ่ หนือความ
่
คาดหมาย หรือมีการเทียบกับมาตรฐาน (Benchmarking) ในระดับต่างๆ เชน
ระดับชาติ ระดับสากล หรือ Top 10
5
มีผลการปฏิบ ัติราชการอยูใ่ นระด ับดีกว่าเป้าหมายมาก
เป็ นเกณฑ์ทส
ี่ ว่ นราชการต ้องบริหารจัดการทรัพยกรทีม
่ อ
ี ยูใ่ ห ้ได ้ผลดีกว่าปกติ
ถึงจะทาสาเร็จได ้ โดยผลทีไ่ ด ้เกินกว่าเป้ าหมายพอสมควร แต่ไม่ถงึ ระดับ
เหนือความคาดหมาย
4
มีผลการปฏิบ ัติราชการอยูใ่ นระด ับเป็นไปตามเป้าหมาย
เป็ นเกณฑ์ทแ
ี่ สดงว่าสว่ นราชการสามารถปฏิบัตไิ ด ้ตามเป้ าหมายทีต
่ งั ้ ไว ้หรือ
สามารถรักษาระดับผลการดาเนินงานของปี ทผ
ี่ า่ นมาไว ้ได ้
3
มีผลการปฏิบ ัติราชการอยูใ่ นระด ับตา่ กว่าเป้าหมาย
2
มีผลการปฏิบ ัติราชการอยูใ่ นระด ับตา่ กว่าเป้าหมายมาก
1
61
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
4. การตัง้ เป้ าหมาย
แนวทางการกาหนดนา้ หน ัก
Validity & Reliability
ให้น้ำหนักมำก
KPI1
KPI2
KPI3
KPI4
KPI5
Impact
ให้น้ำหนักน้ อย
KPI = Key Performance Indicator
62
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
5. การรวบรวมข ้อมูล
หล ักเกณฑ์ในการเลือกวิธก
ี ารเก็บข้อมูล
•
ความเป็ นไปได ้ในการดาเนินการ
•
ความเทีย
่ งตรง ความถูกต ้องแม่นยา
•
ื่ ถือ
ความน่าเชอ
•
ความสมา่ เสมอของข ้อมูล
•
ระยะเวลาการเก็บข ้อมูล
•
ความมีประโยชน์
•
ต ้นทุนในการดาเนินการ
63
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
5. การวิเคราะห์และรายงานผล
การวิเคราะห์ผล เป็ นการพิจารณาผลการปฏิบต
ั งิ านทีเ่ กิดขึน
้ จริงเทียบ
กับเป้ าหมายทีก
่ าหนด และประเมินย ้อนกลับเข ้าไปในกระบวนการ
ทางานขององค์การเพือ
่ คาดหมายถึงสงิ่ ทีจ
่ ะเกิดขึน
้ ล่วงหน ้า
ิ ใจในเชงิ บริหาร
ผลกระทบทีอ
่ าจเกิดขึน
้ และแนวโน ้มการตัดสน
การจาแนกข ้อมูลผลลัพธ์ตามตัวชวี้ ัดแต่ละตัว จะชว่ ยทาให ้มองเห็น
ั เจนว่าจุดใดทีโ่ ครงการทาได ้ดี และจุดใดทีค
ชด
่ วรต ้องปรับปรุง
้
การเปรียบเทียบข ้อมูลของโครงการกับข ้อมูลหลักอืน
่ ๆ ทีจ
่ ะนามาใชใน
่ ผลการปฏิบต
การเปรียบเทียบ เชน
ั งิ านครัง้ ก่อนๆ มาตรฐานสากล
เป็ นต ้น
่ นั น
คาอธิบายว่าทาไมข ้อมูลผลการวัดจึงเป็ นเชน
้ โดยเฉพาะอย่างยิง่
เมือ
่ ข ้อมูลไม่เป็ นไปตามเป้ าหมายทีต
่ งั ้ ไว ้
ั เจน เข ้าใจได ้ และมีรป
การนาเสนอข ้อมูลในรูปแบบทีช
่ ด
ู แบบทีง่ า่ ยต่อ
้
การนาไปใชประโยชน์
64
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
ตัวอย่างการรายงานผล
5. การวิเคราะห์และรายงานผล
65
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
ข ้อจากัดของการวัด
1.
การวัดไม่สามารถวัดได ้สมบูรณ์ ครอบคลุมทุกผลลัพธ์ของทุกกระบวนการ
ของการปฏิบต
ั งิ านได ้ และไม่อาจวัดผลการปฏิบต
ั งิ านได ้ครบถ ้วนทุกงาน
หรือทุกโครงการได ้
2.
ผลของการวัดอาจมีความคลาดเคลือ
่ นบ ้าง เนือ
่ งจากกระบวนการเก็บ
รวบรวมข ้อมูล และบางครัง้ อาจต ้องใชข้ ้อมูลจากการเก็บข ้อมูลจากกลุม
่
ตัวอย่าง
3.
ข ้อมูลทีไ่ ด ้จากการวัดผลการปฏิบต
ั งิ านมีประโยชน์ตอ
่ การติดตาม
ั ฤทธิข
ั ้ มากกว่าระยะยาว เพราะข ้อมูลไม่ได ้แสดง
ผลสม
์ องงานในระยะสน
จุดอ่อนในกิจกรรมของโครงการเสมอไป และไม่ได ้บอกว่าควรดาเนินการ
ปรับปรุงโครงการด ้วยวิธใี ด
4.
ผลลัพธ์ของงานอาจเป็ นผลมาจากงานหรือโครงการซงึ่ อยูน
่ อกเหนือความ
รับผิดชอบของหน่วยงาน
5.
ผลทีไ่ ด ้จากการวัดจะไม่บอกว่าอะไรคือสาเหตุทท
ี่ าให ้ผลของการวัดเป็ น
่ นัน
ึ ษาวิเคราะห์เพิม
เชน
้ การหาสาเหตุจะต ้องมีการศก
่ เติมเพือ
่ หาว่าอะไร
คือสาเหตุทท
ี่ าให ้เกิดผลนัน
้ ๆ ต่อไป
66
ขัน
้ ตอนการกาหนดตัวชวี้ ัด
เงือ
่ นไขความสาเร็จ
1. หน่วยงานต ้องให ้การสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ อย่างเพียงพอ
2. การยอมรับและมีสว่ นร่วมจากผู ้เกีย
่ วข ้อง ซงึ่ ได ้แก่ เจ ้าหน ้าที่
ทุกระดับและสาธารณชน
3. เจ ้าหน ้าทีท
่ ก
ุ ระดับในหน่วยงานต ้องเข ้าใจวัตถุประสงค์และ
เห็นประโยชน์ของการวัด ติดตาม และประเมินผลการ
ปฏิบต
ั งิ าน
4. เมือ
่ ได ้ผลจากการวัดแล ้ว ต ้องมีการนาผลทีว่ ด
ั ได ้และ
ึ ษาวิเคราะห์เพิม
พฤติกรรมทีเ่ ปลีย
่ นไป ไปศก
่ เติมเพือ
่ หา
สาเหตุและแนวทางในการปรับปรุงแก ้ไข
67
ตัวชวี้ ัดตามคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการและการติดตามประเมินผลการปฏิบต
ั ริ าชการ
การติดตามและประเมินผล
ึ ษาข ้อมูล เอกสาร หลักฐานต่างๆ
การศก
• รายงานผลการปฏิบต
ั ริ าชการตามคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการ (Self-Assessment
Report – SAR) รอบ 6 เดือน และ 12 เดือน
• รายงานการประเมินผลตนเองทางอิเล็กทรอนิกส ์ (e-SAR) รอบ 6 เดือน 9 เดือน
และ 12 เดือน)
่ รายงานการประชุม คาสงั่ แต่งตัง้ คณะทางาน
• เอกสารหลักฐานประกอบอืน
่ ๆ เชน
แผนการดาเนินงานทีไ่ ด ้รับความเห็นชอบจากผู ้มีอานาจ
• ภาพถ่าย
ั ภาษณ์บค
การสม
ุ คลทีเ่ กีย
่ วข ้อง
• ผู ้กากับดูแลตัวชวี้ ัด
• ผู ้จัดเก็บข ้อมูล
ี กับการดาเนินการของสว่ นราชการ
• ผู ้มีสว่ นได ้สว่ นเสย
68
ตัวชวี้ ัดตามคารับรองการปฏิบต
ั ริ าชการและการติดตามประเมินผลการปฏิบต
ั ริ าชการ
การติดตามและประเมินผล
การสงั เกตการณ์
• สภาพแวดล ้อมของสถานทีด
่ าเนินการตามกิจกรรมหรือโครงการหลัก
• การเก็บรักษาและดูแลเอกสาร/ข ้อมูล
• การมีสว่ นร่วมของผู ้บริหารระดับสูงของสว่ นราชการ
ื่ ถือ ความทันสมัย ความสามารถในการ
• ระบบฐานข ้อมูล : ความถูกต ้อง ความน่าเชอ
ตรวจสอบได ้
ี่ วชาญ (Expert panel)
การขอความเห็นจากคณะผู ้เชย
69
แบบฟอร์มรายงานสรุปผลการดาเนินงาน
รายงาน ณ วันที่.....เดือน.............พ.ศ. ....
ผู้รายงาน ................................. หน่วยงาน..................................................
ตาแหน่ง................................... โทรศัพท์..................................................
แบบฟอร์มรายงาน
ผลการดาเนินงาน
รายตัวชวี้ ัด
71
72
การติดตามและประเมินผลภาคราชการ
ประโยชน์ของการติดตามและประเมินผลภาคราชการ
ทาให ้ทราบว่า...
73
การติดตามและประเมินผลภาคราชการ
ประโยชน์ของการติดตามและประเมินผลภาคราชการ
ื่ สารภายในองค์การ
• ชว่ ยกระตุ ้นให ้มีการสอ
• ชว่ ยในการปรับปรุงการกาหนดนโยบาย โดยมีข ้อมูลผลการปฏิบต
ั งิ านเพือ
่
ิ ใจของผู ้บริหาร
ประกอบการตัดสน
• ชว่ ยให ้มีภาพรวมแสดงสถานภาพของโครงการหรือนโยบาย เพือ
่ ประเมิน
ความก ้าวหน ้า ปั ญหา และอุปสรรค ในการดาเนินงาน
ื่ ถือขององค์การและทาให ้ประชาชนเกิดความมั่นใจ
• ชว่ ยสง่ เสริมความน่าเชอ
ั ฤทธิข
โดยมีการรายงานให ้ทราบถึงผลสม
์ องโครงการ
• ชว่ ยในการจัดทาและแสดงเหตุผลในการของบประมาณ
ั ฤทธิท
ั เจนขึน
• ชว่ ยทาให ้ผลสม
์ ต
ี่ ้องการมีความชด
้ โดยนาความสนใจของ
่ ลสาเร็จของงานทีต
ผู ้ปฏิบต
ั งิ านให ้มุง่ ไปสูผ
่ ้องการโดยเฉพาะ
• ชว่ ยสนับสนุนการวิเคราะห์แนวโน ้มโดยการใชข้ ้อมูลการปฏิบต
ั งิ านและ
ั ฤทธิ์
ผลสม
74
การติดตามและประเมินผลภาคราชการ
ข้อคิดเกีย
่ วก ับการติดตามและประเมินผล
ี ในตัวของมันเอง
ทุกเรือ
่ งมีข ้อดีและข ้อเสย
ให ้ถือคติวา่ “ความเร็วดีกว่าความสมบูรณ์ (Speed
over perfection) และ มีดก
ี ว่าไม่ม ี (Something
better than nothing)” เอาไว ้เสมอ
ผู ้บริหารต ้องมีความเข ้าใจ ทัศนคติทด
ี่ ใี นการนา
ตัวชวี้ ด
ั มาใช ้ และต ้องรับเป็ นเจ ้าภาพในการพัฒนา
้
และนาตัวชวี้ ด
ั มาใชในองค์
กร โดยไม่ควรจะ
มอบหมายให ้ผู ้บริหารระดับรองเป็ นเจ ้าภาพแทน
75