วินัยรายข้อ - สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครสวรรค์

Download Report

Transcript วินัยรายข้อ - สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครสวรรค์

วินยั และการรักษาวินยั
สาหรับพนักงานส่ วนท้องถิ่น
ส่ วนมาตรฐานวินัย อุทธรณ์ และร้ องทุกข์
สำนักพัฒนำระบบกำรบริหำรงำนบุคคลส่วนท้องถิน่
กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถีน่
ข้อ ๑ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องรักษาวินยั ตามทีก่ าหนด
เป็ นข้อห้ามและข้อปฏิบตั ไิ ว้ในหมวดนี้โดยเคร่งครัดอยู่
เสมอ (มาตรา ๘๐)
ข้อ ๒ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องสนับสนุนการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็ น
ประมุขตามรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วย
ความบริสุทธิ์ใจ (มาตรา ๘๑)
ข้อ ๒ ลักษณะควำมผิด“ไม่สนับสนุนกำรปกครอง
ระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริยท์ รงเป็ น
ประมุขตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทยด้วย
ควำมบริสทุ ธิ์ใจ” (ไม่รำ้ ยแรง)
ตัวอย่ำงลักษณะควำมผิดตำมข้อ ๒
๒.๑ พนักงานส่ วนท้องถิ่นกล่าวปราศรัยในเวลาราชการโดยที่ยงั แต่ง
เครื่ องแบบข้าราชการอยู่ โจมตีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตาม
รัฐธรรมนูญว่าไม่สามารถแก้ปัญหาความสับสนวุน่ วายทางการเมืองได้
ตนเห็นว่าประเทศไทยต้องปกครองโดยรัฐบาลทหารเท่านั้น จึงจะ
แก้ปัญหาของบ้านเมืองได้
๒.๒ พนักงานส่วนท้องถิ่นใช้นามปากกาเขียนบทความลงในวารสารฉบับหนึ่ง
สนับสนุนให้ปกครองประเทศไทยโดยระบบสังคมนิยม
๒.๓ พนักงานส่วนท้องถิ่นเดินทางมาทางานตามปกติ เห็นป้ ายหาเสียงเลือกตัง้
นายก อปท.ผูกติดอยูก่ บั เสาไฟฟ้ า จึงกระชากป้ ายนัน้ ลงพร้อมกับตะโกนว่า
“เลือกไปก็เท่านัน้ เล่นเส้นทัง้ ปี เป็ นคอมมิวนิสต์ให้รูแ้ ล้วรูร้ อด จะได้ไปไถนา
เหมือน ๆ กัน”
ตัวอย่ำงกรณีไม่เป็ นควำมผิดตำมข้อ๒
๒.๑ พนักงานส่วนท้องถิ่นไม่ไปใช้สทิ ธิเลือกตัง้
๒.๒ การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล
ข้อ ๓ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการด้วย
ความซือ่ สัตย์สุจริตและเทีย่ งธรรม
ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผอู ้ นื่ อาศัยอานาจหน้าที่
ราชการของตนไม่วา่ จะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์
ให้แก่ตน เองหรือผูอ้ น่ื
กำรปฏิบตั หิ รือละเว้นกำรปฏิบตั หิ น้ำที่รำชกำรโดย
มิชอบ เพือ่ ให้ตนเองหรือผูอ้ น่ื ได้ประโยชน์ ทีม่ ิควรได้ เป็ นกำร
ทุจริตต่อหน้ำที่รำชกำรและเป็ นควำมผิดวินยั อย่ำงร้ำยแรง
(มาตรา ๘๒)
***
ข้ อ ๓ ลักษณะความผิด “ปฏิบัติหน้ าที่ราชการโดย
ไม่ ซื่อสั ตย์ สุจริตและเทีย่ งธรรม” (ไม่ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าที่ราชการ
(๒) ปฏิบตั ิหน้าที่น้ นั โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริ ต
และเที่ยงธรรม
ตัวอย่ างลักษณะความผิดตามข้ อ ๓ วรรคหนึ่ง
๓.๑ หัวหน้าฝ่ ายสัง่ ให้เจ้าหน้าที่จดั ทาหลักฐานการเบิกจ่าย เงิน
ค่าจ้างลูกจ้างชัว่ คราวเกินว่าจานวนวันที่ลูกจ้างมาทางานจริ ง แล้วนาเงิน
ส่ วนที่เกินไปจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และจัดทาสิ่ งต่าง ๆ ที่ไม่สามารถเบิกจ่าย
จากงบประมาณได้ เพื่อใช้ในสานักงานโดยไม่นาลงทะเบียนครุ ภณ
ั ฑ์
ของหน่วย (๕ % ๓ เดือน)
๓.๒ นายช่างโยธา ไปตรวจอาคารที่ขออนุญาตก่อสร้างไม่เป็ นไป
ตามลาดับที่รับเรื่ องไว้ โดยทาการตรวจลัดคิวให้แก่เจ้าของอาคาร ราย
หลังจนเกิดการร้องเรี ยน (๕ % ๑ เดือน)
๓.๓ เจ้าหน้าที่กองคลัง เอาข้าวกล่องที่ อปท.จัดไว้เลี้ยงดูชุมชนที่มา
ช่วยงานในตอนเย็นเพื่อนากลับบ้าน แต่ถูกผูบ้ งั คับบัญชาตรวจพบ
เสี ยก่อน (๕ % ๓ เดือน ลดหย่อนจากลดขั้น)
๓.๔ หน.ส่ วนโยธา ได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงของช่างโยธาคน หนึ่งที่ทาเรื่ องขอ
เบิกไว้ เป็ นเงิน ๒,๗๐๐ บาท แล้วไม่นาเงินไปจ่ายให้ผขู ้ อเบิกในทันที
แต่กลับเลื่อนการจ่ายเงินออกไป ๒ เดือน โดยหัวหน้าฝ่ ายโยธานาเงิน
ไป ซื้อวัสดุสร้างห้องน้ าสานักงาน (ส่ วนหนึ่ง) ก่อน และเบิกไม่ได้
เพราะสร้างผิดแบบจึง ไม่อาจนาเงินมาจ่ายคืนได้ แต่ต่อมาได้หาใช้จน
ครบถ้วนแล้ว (ลด ๑ ขั้น)
กรณีตวั อย่ำงต่อไปนี้ถอื เป็ นผูม้ ีหน้ำทีโ่ ดยพฤตินยั
พนักงานส่วนท้องถิ่นเบิกเครือ่ งมือเครือ่ งใช้ของ ทางราชการไปใช้ใน
การปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการจึงเห็นได้วา่ พนักงานส่วนท้องถิ่นผูน้ นั้ มีหน้าที่
ราชการทีจ่ ะต้องดูแลรักษาสิง่ ของนัน้ ด้วย การนาสิง่ ของนัน้ ไปจานาเอาเงิน
ไปใช้สว่ นตัว เป็ นการปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการโดยมิชอบ
ลักษณะควำมผิด “อำศัยหรือยอมให้ผูอ้ น่ื อำศัย
อำนำจหน้ำที่รำชกำรของตนหำประโยชน์ ให้แก่ตนเอง
หรือผูอ้ น่ื ” (ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) อาศัยหรือยอมให้ผอู ้ นื่ อาศัยอานาจหน้าทีน่ นั้
(๓) หาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผูอ้ น่ื
ตัวอย่ำงลักษณะควำมผิดตำมข้อ ๓ วรรคสอง
๓.๕ จนท.วนผ.๕ นารถยนต์ของทางราชการทีไ่ ด้รบั อนุมตั ใิ ห้ไปราชการ ไปทา
ธุระส่วนตัวในระหว่างนัน้ เสร็จราชการแล้วไม่ได้ควบคุมกากับการเก็บรถยนต์เข้าที่ เป็ น
เหตุให้ลูกจ้างประจาตาแหน่งพนักงานขับรถนารถยนต์คนั ดังกล่าวไปทาธุระส่วนตัว และ
ประสบอุบตั ิเหตุรถยนต์หลวง/รถยนต์ราษฎร์เสียหาย แต่เจ้าหน้าทีผ่ นู ้ ้ ีชดใช้คา่ เสียหาย
ครบถ้วนแล้ว (ภาคทัณฑ์)
๓.๖ เจ้าหน้าทีก่ ารเงินและบัญชี ๔ นาเงินส่วนตัวและของพรรคพวก จานวน
๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท มาให้พนักงานส่วนท้องถิ่นด้วยกันกูย้ ืม คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๓-๗ ต่อ
เดือน แล้วอาศัยโอกาสทีต่ นมีหน้าทีเ่ บิกจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานส่วนท้องถิ่น ทาการ
หักเงินจากเงินเดือนของผูก้ ูท้ ุกเดือน โดยไม่มีการมอบฉันทะ เพียงแต่พดู ด้วยวาจาเท่านัน้
(ภาคทัณฑ์/ลดจาก ๕ % ๓ เดือน)
๓.๗ พยาบาลวิชาชีพ ประจาศูนย์อนามัย สัง่ จ่ายยาที่ตนนามาจาก
คลินิกส่ วนตัว โดยใช้ใบสัง่ ยาของทางราชการ แล้วนาใบสัง่ ยาซึ่งเป็ น
การสัง่ ยาส่ วนตัวไปเรี ยกเก็บเงินจากแผนกการเงิน และนาไปเป็ น
ประโยชน์ส่วนตัว (ภาคทัณฑ์)
๓.๘ เจ้าพนักงานสาธารณสุ ข ทาการรักษาผูป้ ่ วยทั้งที่บา้ นพักของ
ตนเองและสถานีอนามัย ทั้งในและนอกเวลาราชการโดยใช้ยาและ
เวชภัณฑ์ที่ตนจัดหามา แล้วเรี ยกเก็บเงินไปเป็ นประโยชน์ส่วนตัวอัน
เป็ นการฝ่ าฝื นหนังสื อสัง่ การของทางราชการ (ภาคทัณฑ์)
๓.๙ นักการภารโรง ได้รับมอบหมายให้ปฏิบตั ิหน้าที่เลี้ยงสุ กรของ
โรงเรี ยน ได้นาเศษอาหารที่เหลือจากการเลี้ยงสุ กรไปเลี้ยงไก่ที่บา้ นพัก
ของตนในบางโอกาส (ภาคทัณฑ์)
๓.๑๐ หัวหน้าส่ วนผูห้ นึ่ง ได้นารถยนต์ของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
โดยขับไปเยีย่ มครอบครัวที่ต่างจังหวัดในวันศุกร์ แล้วขับกลับ อปท.ในวันจันทร์
เป็ นประจา (ภาคทัณฑ์)
๓.๑๑ พนักงานส่ วนท้องถิ่น ใช้โทรสารของทางราชการเวียนจดหมายของ หจก.
ของญาติ ไปตามบริ ษทั ต่าง ๆ เพื่อให้เรี ยกใช้บริ การของ หจก. นั้น โดยให้ติดต่อ
กับตนเอง อันมีลกั ษณะเป็ นธุรกิจส่ วนตัว (๕ % ๒ เดือน)
๓.๑๒ เจ้าหน้าที่ธุรการในสานักปลัด ได้ขาดราชการไป ๑ วัน เมื่อกลับมาแล้ว
อาศัยโอกาสที่ตนเองมีหน้าที่ควบคุมดูแลสมุดลงเวลามาปฏิบตั ิราชการของ
พนักงานส่ วนท้องถิ่น ทาการลงลายมือชื่อย้อนหลัง โดยระบุในช่องหมายเหตุวา่
“ขออนุญาตไป จว.” ทั้งที่มิได้มีการขออนุญาตจากผูบ้ งั คับบัญชาแต่อย่างใด
(ภาคทัณฑ์)
๓.๑๓ เจ้าพนักงานสาธารณสุข ได้นายาอันตรายซึง่ เป็ นยาส่วนตัวทีจ่ ะใช้
แพทย์สง่ั เท่านัน้ มาเก็บไว้ทส่ี ถานีอนามัยแล้วฉีดรักษาให้กบั คนไข้และเรียก
เก็บเงินโดยไม่มีการออกใบเสร็จรับเงิน (๕ % ๓ เดือน)
ข้อสังเกต
ประโยชน์ในทีน่ ้ ี ไม่จาเป็ นต้องเป็ นทรัพย์สนิ เสมอไปอาจเป็ นการได้รบั
สิทธิหรือการบริการพิเศษ
เช่น
- จนท.สรรพากร มีอานาจหน้าทีเ่ รียกให้บริษทั ห้างร้านส่งสมุดบัญชี และเอกสาร
มาตรวจสอบภาษี แบบประเมินเรียกเก็บเงินภาษีเพิ่มได้ ในระหว่างเรียกตรวจ
ภัตตาคารแห่งหนึ่ง จนท.ผูน้ นั้ ได้ไปรับประทานอาหารทีภ่ ตั ตาคารแห่งนัน้ เป็ น
ประจาโดยทางภัตตาคารไม่คดิ เงิน เป็ นการอาศัยอานาจหน้าทีร่ าชการหา
ประโยชน์ เป็ นความผิดตามข้อ ๓ วรรค สองนี้ดว้ ย
ลักษณะควำมผิด “ปฏิบตั ิหรือละเว้นกำรปฏิบตั ิ
หน้ำที่รำชกำรโดยมิชอบ” (วรรคสาม/ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ปฏิบตั หิ รือละเว้นการปฏิบตั หิ น้าทีน่ นั้ โดยมิชอบ
(๓) เพื่อให้ตนเองหรือผูอ้ นื่ ได้ประโยชน์ทมี่ ิควรได้
(๔) มีเจตนาทุจริต
ตัวอย่ำงลักษณะควำมผิดตำมข้อ ๓ วรรคสำม
๓.๑๔ ผูอ้ านวยการกอง ทาบันทึกถึงนายก อปท.ขออนุมตั ิจดั ซื้อ วัสดุโดยวิธีตกลง
ราคา เป็ นเงิน ๕,๐๐๐ บาท และเสนอชือ่ ตนเองเป็ นกรรมการตรวจรับพัสดุ เมื่อ
ได้รบั อนุมตั ิให้ดาเนินการแล้วได้จดั ทาใบตรวจรับพัสดุเท็จว่าได้ทาการตรวจรับ
พัสดุครบถ้วนตามใบสัง่ ซื้อแล้ว อปท.จึงจัดทาฎีกาเบิกจ่ายเงินค่าวัสดุให้เป็ นเงิน
๕,๐๐๐ บาท จากนัน้ ผูห้ วั หน้าส่วนก็ได้นาเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์สว่ นตัว (ไล่
ออก)
๓.๑๕ นายก อปท.ได้รบั เรือ่ งร้องเรียนว่ามีเจ้าของอาคารสร้างบ้านผิดข้อบัญญัติ
อปท.จึงสัง่ ให้ชา่ งโยธาไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวผิด
ข้อบัญญัติ อปท.เพียงเล็กน้อย เจ้าของอาคารได้จา่ ยเงินให้กบั ช่างโยธา จานวน
๑,๐๐๐ บาท ช่างโยธากลับมารายงานนายก อปท.ว่าอาคารทีป่ ลูกสร้างไม่ ได้ผิด
ข้อบัญญัติ อปท.ตามทีร่ อ้ งเรียน จนเกิดการร้องเรียนซา้ อีก (ไล่ออก)
๓.๑๖ เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี รับเงินภาษีจากผูน้ ามาชาระแล้วเขียน
ใบเสร็ จไม่ตรงกับความจริ ง โดยเขียนต้นฉบับใบเสร็ จรับเงินตาม
จานวนที่รับ แต่ในสาเนาใบเสร็ จรับเงินกลับลงยอดเงินน้อยกว่าต้นฉบับ
แล้วนาเงินส่ วนที่ส่งไม่ครบนั้นไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว (ไล่ออก)
๓.๑๗ ปลัดอาเภอ ลงนามในฐานะนายทะเบียนผูต้ รวจสอบและ
พนักงานเจ้าหน้าที่ในคาขอมีบตั รประจาตัวประชาชน (แบบ บ.ป.๑) และ
ใบรับคาขอมีบตั รประจาตัวประชาชน (แบบ บ.ป.๒) ให้แก่บุคคลต่าง
ด้าวสัญชาติจีน ๒ ราย โดยไม่ได้ตรวจสอบทะเบียนบ้านและไม่ได้
สอบสวนบุคคลทั้งสอง ทั้งที่เป็ นการทาบัตรครั้งแรกที่เกินกาหนดเวลา
และยังยินยอมให้บุคคลอื่นเขียนแบบ บ.ป.๑ และ แบบ บ.ป.๒ โดยไม่มี
หน้าที่อีกด้วย (ไล่ออก)
*****ข้ อ ๔ พนักงานส่ วนท้องถิ่นต้องตั้งใจปฏิบตั ิ
หน้าที่ราชการให้เกิดผลดีหรื อความก้าวหน้าแก่
ราชการ (มาตรา ๘๓)
ข้ อ ๔ ลักษณะความผิด “ไม่ ต้งั ใจปฏิบัตหิ น้ าที่
ราชการให้ เกิดผลดีหรือความก้ าวหน้ าแก่ ราชการ”
(ไม่ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าที่ราชการ
(๒) ไม่ต้ งั ใจปฏิบตั ิหน้าที่ราชการ
ให้เกิดผลดีหรื อความก้าวหน้าแก่ราชการ
ตัวอย่ างลักษณะความผิดตามข้ อ ๔
๔.๑ พนักงานเก็บขยะของ อปท. ออกปฏิบตั ิหน้าที่เก็บขยะในเขต
รับผิดชอบและเก็บขยะไม่หมดเป็ นประจาจนถูกร้องเรี ยน (ภาคทัณฑ์)
๔.๒ เจ้าหน้าที่ปกครอง ได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบงานบัตรประจาตัว
ประชาชน โดยเป็ นผูต้ รวจสอบความถูกต้องและลงนามในฐานะ
เจ้าหน้าที่ ไม่ตรวจสอบแบบพิมพ์ บ.ป.๒ ว่ามีอยูถ่ ูกต้องครบถ้วน
หรื อไม่ เป็ นเหตุให้แบบพิมพ์ บ.ป.๒ ของ อปท.หายไป ๑ ฉบับ โดยไม่
ทราบสาเหตุ (ภาคทัณฑ์)
*****ข้อ
๕ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการ
ด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์
ของทางราชการ และต้องไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่
ราชการ
กำรประมำทเลินเล่อในหน้ำที่รำชกำรอันเป็ น
เหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิด
วินยั อย่ำงร้ำยแรง (มาตรา ๘๔)
ข้อ ๕ ลักษณะควำมผิด“ไม่ปฏิบตั หิ น้ำที่รำชกำรด้วยควำม
อุตสำหะ / ไม่เอำใจใส่ /ไม่ระมัดระวังรักษำประโยชน์ของทำง
รำชกำร” (ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ไม่ปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการด้วยความอุตสาหะ/ ไม่
เอาใจใส่ /ไม่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของราชการ
ตัวอย่ำงลักษณะควำมผิดตำมข้อ ๕ วรรคหนึง่
๕.๑ พนักงานส่วนท้องถิ่น เข้าห้องนา้ ใน อปท.ตอน ๖ โมงเย็นก่อนกลับบ้าน
เห็นวาล์วปิ ดนา้ เสียมีนา้ ไหลออกพอประมาณ ไม่ดาเนินการแก้ไข และไม่ได้
แจ้งให้ผเู ้ กี่ยวข้องทราบ จนกระทัง่ รุง่ เช้านา้ ทีไ่ หลทัง้ คืนล้นออกมาท่วมห้อง
ธุรการ ทาให้เอกสารชารุดเสียหาย (ภาคทัณฑ์)
๕.๒ ผอ.กองคลัง ไม่ควบคุมดูแลการปฏิบตั หิ น้าทีข่ องเจ้าหน้าทีจ่ ดั เก็บรายได้
เช่น ไม่ตรวจสอบการนาส่งเงินประจาวัน มอบใบเสร็จรับเงินให้โดยไม่มีการ
ตรวจนับ เป็ นเหตุให้เจ้าหน้าทีผ่ นู ้ นั้ ยักยอกเงินภาษีทรี่ าษฎรนามาชาระ
จานวน ๓,๔๕๐ บาท ไปเป็ นประโยชน์สว่ นตัว (ภาคทัณฑ์)
๕.๓ ผอ.กองคลัง ไม่ดาเนินการจ้างเหมาโครงการบูรณะถนน ลาดยางในเขต
อปท.ตามกาหนดเวลา จนไม่อาจขอกันเงินไว้เหลื่อมปี ได้ทนั (ตัดเงิน เดือน ๕
% ๓ เดือน)
ลักษณะควำมผิด “ประมำทเลินเล่อในหน้ำที่รำชกำร”
(ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ประมาทเลินเล่อในหน้าทีร่ าชการ
ตัวอย่ าง
๕.๔ นายช่างโยธา ๕ ขับรถยนต์ของทางราชการกลับจากจังหวัด
ระหว่างทางได้ขบั รถยนต์คนั ดังกล่าวแซงหน้ารถยนต์คนั อื่นแต่ไม่พน้
เป็ นเหตุให้ชนกับรถยนต์ของเอกชนเสี ยหาย มีผไู ้ ด้รับบาดเจ็บ ๔ คน ผูน้ ้ ี
ได้ยอมชดใช้ค่าเสี ยหายแก่คู่กรณี จนเป็ นที่พอใจ และได้นารถยนต์ของ
ทางราชการไปซ่อมจนใช้การได้ตามปกติแล้ว (ภาคทัณฑ์)
๕.๕ พนักงานส่ วนท้องถิ่น ได้รับคาสัง่ ให้อยูเ่ วรรักษาสถานที่ราชการ
ได้อ่านหนังสื อนอกมุง้ และจุดยากันยุงไว้ ต่อมาเกิดอาการง่วงนอน จึง
เข้ามุง้ นอนและหลับไปโดยลืมดับยากันยุงที่จุดไว้เป็ นเหตุให้ไฟจากยา
กันยุงลุกไหม้มุง้ และที่นอนทั้งหมด และยังไหม้ทรัพย์สินอี่นด้วยแต่
เสี ยหายเพียงเล็กน้อย (ภาคทัณฑ์)
วรรคสอง ลักษณะควำมผิด “ประมำทเลินเล่อ
เป็ นเหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง” (ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ประมาทเลินเล่อในหน้าทีร่ าชการ
(๓) เป็ นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่าง
ร้ายแรง
ตัวอย่ำง
๕.๗ นายแพทย์ ได้ปฏิบตั หิ น้าทีแ่ พทย์เวรประจาวัน ปล่อยปละ ละเลยไม่ดูแล
รักษาผูป้ ่ วยซึง่ เป็ นโรคเบาหวานอาการหนักอย่างใกล้ชดิ โดยสัง่ การรักษาทาง
โทรศัพท์จากห้องแพทย์เวรทีอ่ ยูใ่ นบริเวณใกล้เคียง ไม่มาตรวจดูอาการของ
ผูป้ ่ วยด้วยตนเอง ทัง้ ทีพ่ ยาบาลได้รายงานอาการของผูป้ ่ วยหนักถึง ๔ ครัง้
เป็ นเหตุให้ผปู ้ ่ วยถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา แม้จะฟังได้วา่ สาเหตุการตาย
มิได้เป็ นผลโดยตรงทีน่ ายแพทย์ผนู ้ ้ ีมิได้มาตรวจรักษาผูป้ ่ วยด้วยตนเอง แต่
การกระทาดังกล่าวเป็ นการเสียภาพพจน์และเป็ นการเสียชือ่ เสียงของทาง
ราชการในการให้การดูแลผูป้ ่ วยอย่างร้ายแรง (ปลดออก)
*****ข้อ
๖ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการ
ให้เป็ นไปตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะ
รัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาลโดยไม่ให้เสียหายแก่
ราชการ
กำรปฏิบตั ิหน้ำที่รำชกำรโดยจงใจไม่ปฏิบตั ิ
ตำมกฎหมำย ระเบียบของทำงรำชกำร มติคณะรัฐมนตรี
หรือนโยบำยของรัฐบำล อันเป็ นเหตุให้เสียหำยแก่รำชกำร
อย่ำงร้ำยแรงเป็ น ควำมผิดวินยั อย่ำงร้ำยแรง (มาตรา
๘๕)
ข้อ ๖ ลักษณะควำมผิด “ไม่ปฏิบตั หิ น้ำที่รำชกำรตำม
กฎหมำย ระเบียบของทำงรำชกำร มติคณะรัฐมนตรี และ
นโยบำยของทำงรำชกำร” (ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ไม่ปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการตามกฎหมาย
ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี นโยบายของทาง
ราชการ และเกิดความเสียหายแก่ราชการ
ตัวอย่ำง
๖.๑ เจ้าพนักงานส่งเสริมสุขภาพ ได้รบั เงินค่ารักษาพยาบาลจากผูป้ ่ วย
แล้ว เขียนจานวนเงินในสาเนาใบเสร็จรับเงินน้อยกว่าต้นฉบับ ทาให้เงินขาด
บัญชี จานวน ๒,๖๕๐ บาท จากนัน้ ได้นาเงินไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อ
ใช้ในกิจการของทางราชการ เนื่องจากหน่วยไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์
ดังกล่าว และการกระทาไม่ปรากฏการทุจริต (ลดหย่อนเหลือตัด ๕ % ๒
เดือน รูเ้ ท่าไม่ถึงการณ์/มุง่ การให้บริการ)
๖.๒ ข้าราชการ อปท.ได้รบั แต่งตัง้ ให้เป็ นกรรมการเก็บรักษาเงิน โดย
ต้องเก็บรักษาลูกกุญแจกาปั่ น และดวงตราประจาครัง่ แต่ไม่เก็บด้วยตนเอง
กลับมอบให้จา้ หน้าทีก่ ารเงินซึง่ เป็ นกรรมการสารองเก็บรักษาไว้แทน เป็ นเหตุ
ให้เจ้าหน้าทีผ่ นู ้ นั้ ทุจริตเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ (ลด ๑ ขัน้ )
วรรคสอง ลักษณะควำมผิด “จงใจไม่ปฏิบตั ิตำมกฎหมำย
ระเบียบของทำงรำชกำร มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบำยของ
รัฐบำลอันเป็ นเหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง
เป็ นควำมผิดวินยั อย่ำงร้ำยแรง ” (ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) จงใจไม่ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย ระเบียบของ
ทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล
(๓) เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ตัวอย่ าง
๖.๓ ช่างรังวัด และเจ้าหน้าที่ที่ดิน ได้ร่วมกับที่ดินอาเภอ
ดาเนินการออกหนังสื อรับรองการทาประโยชน์ในที่ดิน (น.ส.๓ ก.) ใน
เขตป่ าสงวนแห่งชาติ โดยไม่แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบการออก น.ส. ๓
ก. ตามหนังสื อสัง่ การก่อน นอกจากนี้ยงั ให้ลูกจ้างชัว่ คราว ซึ่งไม่มี
อานาจเป็ นผูท้ าการรังวัดที่ดินแทน ไม่นาแผนที่ลงระวางภาพถ่ายทาง
อากาศให้ถูกต้อง เบิกจ่ายแบบพิมพ์ น.ส.๓ ก.เป็ นชื่อคนหนึ่งแต่นามา
เขียนให้กบั อีกคนหนึ่ง จัดทาทะเบียนคุมต่าง ๆ ไม่ตรงกันบางแปลงไม่มี
ในทะเบียน สารบบที่ดิน และ น.ส.๓ ก.ฉบับเจ้าพนักงานไม่มี ก่อให้เกิด
ปัญหาในการตรวจสอบ และทางราชการเสี ยหายอย่างร้ายแรง (ไล่ออก
ทุกคน)
ข้อ ๗ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องถือว่าเป็ นหน้าทีพ่ ิเศษ
ทีจ่ ะสนใจและรับทราบเหตุการณ์เคลื่อนไหวอันอาจเป็ น
ภยันตรายต่อประเทศชาติและต้องป้ องกันภยันตราย ซึง่
จะบังเกิดแก่ประเทศชาติจนเต็มความสามารถ (มาตรา
๘๖)
ข้อ ๗ ลักษณะควำมผิด “ไม่จะสนใจและรับ ทรำบ
เหตุกำรณ์เคลือ่ นไหวอันอำจเป็ นภยันตรำยต่อประเทศชำติ
และไม่ป้องกันภยันตรำยซึง่ จะบังเกิดแก่ประเทศชำติจนเต็ม
ควำมสำมำรถ” (ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) ไม่จะสนใจและรับทราบเหตุการณ์เคลื่อนไหว
อันอาจเป็ น ภยันตราย และ
(๒) ไม่ป้องกันภยันตรายซึง่ จะบังเกิดแก่
ประเทศชาติจนเต็มความสามารถ
ข้อ ๘ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องรักษาความลับ ของ
ทางราชการ
กำรเปิ ดเผยควำมลับของทำงรำชกำร อันเป็ น
เหตุให้เสีย หำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิด
วินยั อย่ำงร้ำยแรง (มาตรา ๘๗)
ข้อ ๘ ลักษณะควำมผิด “ไม่รกั ษำควำมลับ
ของ
ทำงรำชกำร” (ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีความลับของทางราชการ
(๒) นาความลับของทางราชการไปเปิ ดเผย
ตัวอย่ำง
๘.๑ เจ้าหน้าทีบ่ ริหารงานทัว่ ไป ๖ว ของ อปท. ได้นาความลับเกี่ยวกับ
การพิจารณาความดีความชอบกรณีพิเศษ ๒ ขัน้ ของพนักงานส่วนท้องถิ่นไป
เปิ ดเผยก่อนทีจ่ ะมีคาสัง่ เลื่อนขัน้ เงินเดือนประจาปี (๕ % ๓ เดือน)
วรรคสอง ลักษณะควำมผิด “เปิ ดเผยความลับของทาง
ราชการ เป็ นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ
อย่าง
ร้ายแรง” (ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีความลับของทางราชการ
(๒) นาความลับของทางราชการไปเปิ ดเผย
(๓) เป็ นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่าง
ร้ายแรง
*****ข้อ ๙ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องปฏิบตั ติ ามคาสัง่ ของผูบ้ งั คับบัญชา
ซึง่ สัง่ ในหน้าทีร่ าชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการโดย
ไม่ขดั ขืนหรือหลีกเลี่ยง แต่ถา้ เห็นว่าการปฏิบตั ติ ามคาสัง่ นัน้ จะทาให้เสียหาย
แก่ราชการหรือจะเป็ นการไม่รกั ษาประโยชน์ของทางราชการจะเสนอความเห็น
เป็ นหนังสือทันทีเพื่อให้ผบู ้ งั คับบัญชาทบทวนคาสัง่ นัน้ ก็ได้ และเมื่อได้เสนอ
ความเห็นแล้ว ถ้าผูบ้ งั คับบัญชายืนยันให้ปฏิบตั ติ ามคาสัง่ เดิม ผูอ้ ยูใ่ ต้บงั คับ
บัญชาต้องปฏิบตั ติ าม
กำรขัดคำสัง่ หรือหลีกเลีย่ งไม่ปฏิบตั ิตำมคำสัง่ ของ ผูบ้ งั คับบัญชำซึง่ สัง่
ในหน้ำที่รำชกำรโดยชอบด้วยกฎหมำยและระเบียบของทำงรำชกำร อันเป็ น
เหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิดวินยั อย่ำงร้ำยแรง
(มาตรา ๘๘)
ข้อ ๙ ลักษณะควำมผิด “ขัดคำสัง่ ผูบ้ งั คับบัญชำ”
(ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีคาสัง่ ของผูบ้ งั คับบัญชา
(๒) เป็ นการสัง่ การในหน้าทีร่ าชการ
(๓) เป็ นคาสัง่ ทีช่ อบด้วยกฎหมายและระเบียบของ
ทางราชการ
(๔) มีเจตนาขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงทีจ่ ะไม่ปฏิบตั ิ
ตามคาสัง่ ดังกล่าว
ตัวอย่ำง
๙.๑ เจ้าหน้าทีบ่ ริหารงานทะเบียน มีหน้าทีอ่ ยูเ่ วรรักษาสถานทีร่ าชการ แต่มาเข้า
รับเวรล่าช้า เป็ นเหตุให้ไม่มีผเู ้ ชิญธงลงจากยอดเสาเวลา ๑๘.๐๐ น. (ภาคทัณฑ์)
๙.๒ ลูกจ้างประจาทาหน้าทีเ่ วร ได้ชกั ชวนเพื่อนซึง่ เป็ นบุคคล ภายนอกมานัง่ ดืม่
สุราในสานักงาน เมื่อผูบ้ งั คับบัญชาห้ามปรามให้เลิก ก็ยงั ไม่เลิกการกระทาดังกล่าว และ
แสดงกิรยิ าวาจาไม่พอใจผูบ้ งั คับบัญชา (๕ % ๒ เดือน)
๙.๓ นิตกิ ร ๔ ไม่ปฏิบตั ติ ามคาสัง่ ของ อปท.ทีส่ ง่ั ให้นิตกิ รทุกคน
กรอกแบบแสดงผลงานประจาเดือนตามแบบและวิธกี รอกรายการที่
กาหนดเป็ นประจาทุกเดือน โดยอ้างว่าลืม (๕ % ๓ เดือน)
๙.๔ นักวิชาการศึกษา ๔ ไม่เข้าประชุม อปท.และไม่ไปร่วมกิจ กรรม
งานวันสงกรานต์ประจาปี ตามคาสัง่ ของผูบ้ งั คับบัญชา เนื่องจากป่ วย
เป็ นโรคทางจิตเวช และไม่ยนื่ ใบลาในเวลาอันสมควร เป็ นเหตุให้
ผูบ้ งั คับบัญชารายงานว่าละทิ้งหน้าทีร่ าชการติดต่อในคราวเดียวกัน
เป็ นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน (ลด ๑ ขัน้ )
วรรคสอง ลักษณะควำมผิด “ขัดคำสัง่ ของผูบ้ งั คับบัญชำ เป็ น
เหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง” (ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีคาสัง่ ของผูบ้ งั คับบัญชา
(๒) เป็ นการสัง่ การในหน้าทีร่ าชการ
(๓) เป็ นคาสัง่ ทีช่ อบด้วยกฎหมายและระเบียบของทาง
ราชการ
(๔) มีเจตนาขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงทีจ่ ะไม่ปฏิบตั ติ าม
คาสัง่ ดังกล่าว
(๕) เป็ นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
*****ข้อ ๑๐ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องปฏิบตั ิ
ราชการโดยมิให้เป็ นการกระทาการข้ามผูบ้ งั คับบัญชา
เหนือตน เว้นแต่ผบู ้ งั คับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็ นผูส้ งั่ ให้
กระทาหรือได้รบั อนุญาตเป็ นพิเศษชัว่ ครัง้ คราว
(มาตรา ๘๙)
ข้อ ๑๐ ลักษณะควำมผิด “ปฏิบตั ิรำชกำรอันเป็ นกำรกระทำ
กำรข้ำมผูบ้ งั คับบัญชำเหนือตน” (ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีการปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการ
(๒) การปฏิบตั ริ าชการนัน้ เป็ นการกระทาข้าม
ผูบ้ งั คับบัญชาเหนือตน เว้นแต่ (๑) ผูบ้ งั คับบัญชาเหนือขึ้นไป
สัง่ ให้ทา (๒) ได้รบั อนุญาตเป็ นพิเศษชัว่ ครัง้ คราว
*****ข้อ ๑๑ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องไม่รายงานเท็จต่อ
ผูบ้ งั คับบัญชา การรายงานโดยปกปิ ดข้อความซึง่ ควร
ต้องแจ้ง ถือว่าเป็ นการรายงานเท็จด้วย
กำรรำยงำนเท็จต่อผูบ้ งั คับบัญชำ อันเป็ นเหตุให้
เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิดวินยั
อย่ำงร้ำยแรง (มาตรา ๙๐)
ข้อ ๑๑ ลักษณะควำมผิด “รำยงำนเท็จต่อผูบ้ งั คับบัญชำ”
(ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) ต้องมีการรายงานต่อผูบ้ งั คับบัญชา
(๒) การรายงานนัน้ มีขอ้ ความอันเป็ นเท็จ หรือมี
ลักษณะปกปิ ดข้อความจริงซึง่ ควรต้องรายงานให้ทราบ
ตัวอย่ำง
๑๑.๑ เจ้าหน้าทีบ่ นั ทึกข้อมูล ๒ ได้ยน่ื ใบลาป่ วยต่อผูบ้ งั คับ
บัญชา ในปี งบประมาณ ๒๕๕๐ จานวน ๓๑ ครัง้ รวม ๖๙ วัน เนื่องจากมี
ปั ญหาทางครอบครัวและทางเศรษฐกิจ โดยมีภาระทีต่ อ้ งดูแลบุตรทีย่ งั เล็ก
อยูร่ ะหว่างการศึกษา ๓ คน กับยายอายุ ๙๕ อีก ๑ คน เมื่อบุตรป่ วยจึงต้อง
หยุดดูแลและบางวันไม่มีเงินไปทางานก็ตอ้ งหยุดงานและยืน่ ใบลาป่ วยเท็จ
(ภาคทัณฑ์)
๑๑.๒ เจ้าหน้าทีธ่ ุรการ ๓ รับอยูเ่ วรรักษาสถานทีร่ าชการ
แทนผูอ้ นื่ และได้ลงชือ่ รับเวรเวลา ๑๖.๓๐ น. ครัน้ เวลา ๑๗.๐๐ น ได้หาย
ตัวไปโดยไม่ได้กลับมาปฏิบตั หิ น้าทีอ่ ยูเ่ วรอีก แล้วรายงานผูบ้ งั คับบัญชาว่า
ท้องเสีย แต่ตอ่ มาอีก ๑ วัน ได้เขียนจดหมายชี้แจงหัวหน้าเวรว่า ไม่มีเงิน
รับประทานอาหารตัง้ แต่กลางวัน ตอนเย็นจึงกลับบ้านเพื่อหาเงิน (๕ % ๓
เดือน)
๑๑.๓ เจ้าพนักงานธุรการ ๔ ได้ละทิ้งหน้าทีร่ าชการไป ๒ วัน เมื่อ
กลับมาปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการก็ได้ยนื่ ใบลาป่ วยพร้อมทัง้ ใบรับรองแพทย์ตอ่
ผูบ้ งั คับบัญชา ซึง่ ในใบรับรองแพทย์ลงความเห็นว่า เห็นควรอยูร่ กั ษาเป็ น
เวลา ๑ วัน แต่พนักงานผูน้ ้ ีแก้เป็ น ๔ วัน โดยมีเจตนาจะได้มวี นั ลามากขึ้น
(ลด ๑ ขัน้ )
วรรคสอง ลักษณะควำมผิด “รำยงำนเท็จ เป็ นเหตุให้เสียหำย
แก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง” (ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) ต้องมีการรายงานต่อผูบ้ งั คับบัญชา
(๒) การรายงานนัน้ มีขอ้ ความอันเป็ นเท็จ หรือมี
ลักษณะปกปิ ดข้อความจริงซึง่ ควรต้องรายงานให้ทราบ
(๓) เป็ นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ตัวอย่ำง
๑๑.๔ พนักงานส่วนท้องถิ่น ได้จดั ทาคาขอเบิกเงินค่าเช่าบ้าน
และใบเบิกเงินค่าเช่าบ้าน โดยปลอมลายมือชือ่ ผูร้ บั เงินในใบเสร็จรับเงินค่าเช่า
บ้าน และบ้านเช่าก็ไม่ได้ปรากฏว่ามีจริง เป็ นเพียงทะเบียนบ้านทีพ่ นักงานผูน้ ้ ี
ทาขึ้นเพื่อความสะดวกในการเบิกเงินค่าเช่าบ้าน และใช้เอกสารทีไ่ ด้จดั ทาขึ้น
เองดังกล่าวเบิกเงินค่าเช่าบ้านจากทางราชการ ทาให้อปท.หลงเชือ่ จ่ายเงินค่า
เช่าบ้านให้ไป เป็ นเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท (ไล่ออก)
*****ข้อ ๑๒ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องถือและปฏิบตั ิ
ตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของทางราชการ
(มาตรา ๙๑)
ข้อ ๑๒ ลักษณะควำมผิด “ไม่ถอื และปฏิบตั ิตำม
ระเบียบและแบบธรรมเนียมของทำงรำชกำร”
(ไม่
ร้ายแรง)
องค์ประกอบ
(๑) ต้องมีระเบียบและแบบธรรมเนียมของ
ทางราชการ
(๒) ไม่ถือและปฏิบตั ติ ามระเบียบนัน้
ตัวอย่ำง
๑๒.๑ พนักงานส่วนท้องถิ่น ได้รบั คาสัง่ ให้ไปช่วยราชการต่าง
อปท.ในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๐ แต่เดินทางไปรายงานตัวช้าถึง ๓ วัน ซึง่ เป็ น
การเดิน ทางทีใ่ ช้เวลาไม่เหมาะสม หรือเมื่อไม่สามารถเดินทางภายในกาหนด
ได้ควรรายงานให้ผบู ้ งั คับบัญชาทราบ แต่หาได้ทาไม่ (ภาคทัณฑ์)
๑๒.๒ เจ้าหน้าทีเ่ ทศกิจ ไม่ลงชือ่ และเวลามาปฏิบตั ริ าชการ
ในเดือนนัน้ รวม ๕ วัน และได้ลงชือ่ และลงเวลามาปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการ แต่ไม่
ลงเวลากลับ ในเดือนเดียวกันอีก ๑๓ วัน (ภาคทัณฑ์)
๑๒.๓ พนักงานส่วนท้องถิ่น ได้ถ่ายรูปประดับเหรียญพิทกั ษ์
เสรีชน แล้วนามาลงติดใน ก.พ.๗ ก่อน ทัง้ ทีอ่ ยูใ่ นระหว่างขอพระราชทาน
เหรียญดังกล่าวอยู่ (ภาคทัณฑ์)
๑๒.๔ บุคลากร อปท.ได้ลงชือ่ ในสมุดลงเวลามาปฏิบตั ริ าชการแทนเพื่อน
ซึง่ ไม่ได้มาปฏิบตั ริ าชการ (ภาคทัณฑ์)
๑๒.๕ เจ้าหน้าทีก่ ารเงินและบัญชี ไม่ได้เวลามาปฏิบตั งิ าน แต่ขอให้บุคคล
อืน่ ลงชือ่ แทนให้ รวม ๕ ครัง้ (๕ % ๓ เดือน)
*****ข้อ ๑๓ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องอุทศิ เวลาของตนให้แก่
ราชการจะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าทีร่ าชการมิได้
กำรละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้ำที่รำชกำรโดยไม่มีเหตุ ผลอัน
สมควร เป็ นเหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง หรือละ
ทิ้งหน้ำที่รำชกำรติดต่อในครำวเดียวกันเป็ นเวลำเกินกว่ำสิบ
ห้ำวันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือโดยมีพฤติกำรณ์อนั
แสดงถึงควำมจงใจไม่ปฏิบตั ิตำมระเบียบของทำงรำชกำร
เป็ นควำมผิดวินยั อย่ำงร้ำยแรง (มาตรา ๙๒)
ข้อ ๑๓ ลักษณะควำมผิด “ละทิ้งหน้ำที่รำชกำร”
(ไม่รา้ ยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าทีร่ าชการ
ตัวอย่ำง
๑๓.๑ พนักงานส่วนท้องถิ่น ได้ละทิ้งหน้าราชการไป ๕ วัน เมื่อ
กลับมาได้ทาบันทึกยอมรับว่าขาดราชการจริง เนื่องจากได้คา้ ประกันเงินกูใ้ ห้แก่เพื่อน
พนักงานส่วนท้องถิ่นไว้แล้วแต่ผนู ้ นั้ หลบหนี จึงออกติดตามหาตัว (ภาคทัณฑ์)
๑๓.๒ เจ้าหน้าทีพ่ ิมพ์ดดี ได้ลงชือ่ มาปฏิบตั ริ าชการตัง้ แต่เวลา ๐๖.๓๐
น.แล้วละทิ้งหน้าทีร่ าชการออกไปทาธุระนอกสานักงาน อปท.ทัง้ วัน โดยไม่ ได้ขออนุญาต
ต่อผูบ้ งั คับบัญชา (๕ % ๓ เดือน)
๑๓.๓ พนักงานส่วนท้องถิ่น ได้ลาไปศึกษาต่อปริญญาโทด้วยทุน
ส่วนตัว ขาดเรียนเป็ นเวลานานจนไม่มีสทิ ธิสอบ และถูกจาหน่ายชือ่ ออกจากการเป็ น
นักศึกษา แต่ไม่มารายงานตัวเพื่อเข้าปฏิบตั ิหน้าทีร่ าชการในวันทีร่ วู ้ า่ หมดสิทธิการเป็ น
นักศึกษา โดยมารายงานตัวหลังจากนัน้ อีก ๑๔ วัน (ลด ๑ ขัน้ )
ลักษณะสอง ลักษณะควำมผิด “ละทิ้งหน้ำที่รำชกำรเป็ น
เหตุให้เสียหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง” (ร้ำยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) มีหน้าทีร่ าชการ
(๒) ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าทีร่ าชการโดยไม่มีเหตุผล
อันสมควร
(๓) เป็ นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ตัวอย่ำง
๑๓.๔ พนักงานส่วนท้องถิ่นหญิงได้ละทิ้งหน้าราชการไปตัง้ แต่
วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๙ และไม่กลับมาปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการอีกเลย โดยไม่
ส่งใบลาหรือแจ้งเหตุผลให้ผบู ้ งั คับบัญชาทราบ จากการสืบสวนได้ความว่ามี
หนี้สนิ ล้นพ้นตัวและมีปัญหาครอบครัว จึงหนีไปมีสามีใหม่ (ไล่ออก)
๑๓.๕ วิศวกร อปท. ได้ลาไปศึกษาต่อ เมื่อครบกาหนด ๒ ปี
และพ้นจากสภาพนักศึกษาแล้ว ไม่รบี กลับมารายงานตัวเพื่อเข้าปฏิบตั หิ น้าที่
ราชการ ผูบ้ งั คับบัญชาสืบสวนก็ไม่ปรากฏว่าไปอยู่ ณ ทีใ่ ด (ไล่ออก)
ลักษณะสำม ลักษณะควำมผิด “ละทิ้งหน้ำที่รำชกำรติดต่อใน
ครำวเดียวกันเกินกว่ำสิบวัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ”
(ร้ำยแรง)
องค์ประกอบ
(๑) ละทิ้งหน้าทีร่ าชการ
(๒) เป็ นระยะเวลาติดต่อในคราวเดียวกันเกินกว่าสิบวัน
(๓) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือโดยมีพฤติการณ์อนั
แสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบตั ติ ามระเบียบของทางราชการ
******ข้อ ๑๔ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องสุภาพเรียบร้อย
รักษาความสามัคคี และไม่กระทาการอย่างใดทีเ่ ป็ นการ
กลัน่ แกล้งกัน และต้องช่วยเหลือกันในการปฏิบตั ริ าชการ
ระหว่างพนักงานส่วนท้องถิ่นด้วยกันและผูร้ ว่ มปฏิบตั ิ
ราชการ (มาตรา ๙๓)
ข้อ ๑๔ ลักษณะควำมผิด “ไม่สภุ ำพเรียบร้อย /ไม่รกั ษำ
ควำมสำมัคคี /กระทำกำรอย่ำงใดที่เป็ นกำรกลัน่ แกล้งกัน /
ไม่ช่วยเหลือกันในกำรปฏิบตั ิรำชกำรระหว่ำงพนักงำนส่วน
ท้องถิน่ ด้วยกันและผูร้ ่วมปฏิบตั ริ ำชกำร”
(ไม่รา้ ยแรง)
ลักษณะควำมผิด “ไม่รกั ษำควำมสำมัคคีระหว่ำงพนักงำน
ส่วนท้องถิน่ ด้วยกันและผูร้ ่วมปฏิบตั ริ ำชกำร”
ตัวอย่ำง
๑๔.๓ เจ้าพนักงานธุรการ ๓ ได้ใช้กาลังทาร้ายพนักงานส่วน
ท้องถิ่นด้วยกันโดยใช้กล่องเปล่าสาหรับใส่จานบันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตี
บริเวณหัวไหล่ซา้ ย ๑ ที ดึงผมแล้วกัดทีแ่ ขนซ้ายเป็ นรอยฟกซา้ โดยคูก่ รณี
ไม่ได้โต้ตอบ (๕ % ๓ เดือน)
ลักษณะควำมผิด “ไม่ช่วยเหลือกันในกำรปฏิบตั ิรำชกำร”
ตัวอย่ำง
๑๔.๔ ช่างโยธา มีเรือ่ งบาดหมางกับนายช่างโยธา ๕ อปท.
เดียวกันเกี่ยวกับการยืมรถยนต์สว่ นตัวของนายช่างโยธาไปใช้แต่ถูกปฏิเสธ จึง
เป็ นเหตุให้เกิดผลกระทบถึงการปฏิบตั งิ านในหน้าทีซ่ งึ่ จะต้องช่วยเหลือกันใน
การปฏิบตั งิ านให้เป็ นไปตามนโยบายของ อปท.และช่างโยธาผูน้ ้ ียงั มีสว่ นร่วมรู ้
เห็นในการวางแผนกับชุมชนทีเ่ ดินขบวนเพื่อกดดันขอตาแหน่งให้กบั ตนเอง
(๑๐ % ๒ เดือน)
******ข้อ ๑๕ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องต้อนรับ ให้
ความสะดวก ให้ความเป็ นธรรม และให้การสงเคราะห์
แก่ประชาชนผูต้ ดิ ต่อราชการเกี่ยวกับหน้าทีข่ องตนโดยไม่
ชักช้า และด้วยความสุภาพเรียบร้อย ห้ามมิให้ดหู มิ่น
เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงประชาชนผูต้ ดิ ต่อราชการ
กำรดูหมิ่น เหยียดหยำม กดขีห่ รือข่มเหงประชำชนผู ้
ติดต่อรำชกำรอย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิดวินยั อย่ำง
ร้ำยแรง (มาตรา ๙๔)
ข้อ ๑๕ ลักษณะควำมผิด “ไม่ตอ้ นรับ /ไม่ให้ควำมสะดวก
/ไม่ให้ควำมเป็ นธรรม / ไม่ให้กำรสงเครำะห์ / ดูหมิ่น /
เหยียดหยำม / กดขี่ / หรือข่มเหง แก่ประชำชนผูต้ ิดต่อ
รำชกำรเกีย่ วกับหน้ำที่ของตน”
(ไม่รา้ ยแรง)
ตัวอย่ำง
๑๕.๑ เจ้าหน้าทีท่ ะเบียน มีหน้าทีร่ บั ผิดชอบการออกเลขบ้าน
ให้กบั ประชาชนผูม้ าติดต่อ แต่ไม่ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานทีป่ ระชาชน
นามาให้ละเอียด และไม่ให้คาแนะนาทีช่ ดั เจนเพียงพอ เป็ นเหตุให้ตอ้ งมาติดต่อ
หลายครัง้ (ภาคทัณฑ์)
๑๕.๒ เจ้าหน้าทีศ่ ูนย์บริการอนามัย ได้พูดกับผูน้ าชุมชนทีม่ า
ขอยาแก้ปวดไตว่า “โรคไตต้องไปพบแพทย์ทโ่ี รงพยาบาลเพื่อทาการตรวจ
และเอกซเรย์” พร้อมกับควักปื นแล้วพูดอีกว่า “ยารักษาโรคไม่มี มีแต่ยาแก้
ปวดอย่างนี้เอามัย้ ” (ลด ๑ ขัน้ )
ลักษณะควำมผิด “ดูหมิ่น เหยียดหยำม กดขี่ หรือข่มเหง
ประชำชนผูต้ ิดต่อรำชกำรอย่ำงร้ำยแรง” (ร้ายแรง)
ตัวอย่ำง
๑๕.๓ เจ้าหน้าทีท่ ะเบียน ตรวจสอบเอกสารทีป่ ระชาชนมา
ติดต่อขอทาบัตร เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ครบจึงตะโกนขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า
“ตาแตกหรือไง ไม่ยอมแหกตาดูเลย เขาเขียนติดไว้จนเต็ม อปท.ว่าให้เตรียม
อะไรมาบ้าง ควายดี ๆ นี้เอง” (ปลดออก)
*****ข้อ ๑๖ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องไม่กระทาการหรือ
ยอมให้ผอู ้ น่ื กระทาการหาผลประโยชน์อนั อาจทาให้เสีย
ความเทีย่ งธรรมหรือเสือ่ มเสียเกียรติศกั ดิข์ องตาแหน่ง
หน้าทีร่ าชการของตน (มาตรา ๙๕)
ข้อ ๑๖ ลักษณะควำมผิด “กระทำกำรหรือยอมให้ผูอ้ น่ื
กระทำกำรหำผลประโยชน์อนั อำจทำให้เสียควำมเที่ยงธรรม
หรือเสือ่ มเสียเกียรติศกั ดิข์ องตำแหน่งหน้ำที่รำชกำรของตน”
(ไม่รา้ ยแรง)
ตัวอย่ำง
๑๖.๑ พยาบาลเทคนิค ๓ ฝ่ ายศัลยกรรมกระดูก ได้แนะนา
ผูป้ ่ วยซึง่ รูจ้ กั คุน้ เคยกันให้มารับการรักษาโรคไตทีโ่ รงพยาบาล โดยช่วยเหลือ
อานวยความสะดวกทุกครัง้ ทีบ่ ุคคลผูน้ ้ ีมารักษาโดยทีต่ นเองไม่มีหน้าที่
เกี่ยวข้อง ซึง่ ผูป้ ่ วยจะให้เงินครัง้ ละไม่เกิน ๕๐๐ บาท (ลดขัน้ เงินเดือน)
ข้อ ๑๗ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องไม่เป็ นกรรมการ
ผูจ้ ดั การ หรือผูจ้ ดั การ หรือดารงตาแหน่งอืน่ ใดทีม่ ี
ลักษณะงานคล้ายคลึงกันนัน้ ในห้างหุน้ ส่วนหรือบริษทั
(มาตรา ๙๖)
ข้อ ๑๗ ลักษณะควำมผิด “เป็ นกรรมกำรผูจ้ ดั กำร หรือ
ผูจ้ ดั กำร หรือดำรงตำแหน่งอืน่ ใดที่มีลกั ษณะงำนคล้ำยคลึง
กันนัน้ ในห้ำงหุน้ ส่วนหรือบริษทั ” (ไม่รา้ ยแรง)
ข้อ ๑๘ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องวางตนเป็ นกลาง
ทางการเมืองในการปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการ และในการ
ปฏิบตั ิ การอืน่ ทีเ่ กี่ยวข้องกับประชาชน กับจะต้องปฏิบตั ิ
ตามระเบียบของทางราชการว่าด้วยมารยาททาง
การเมืองของข้าราชการโดยอนุโลม (มาตรา ๙๗)
ข้อ ๑๘ ลักษณะควำมผิด “ไม่วำงตนเป็ นกลำง
ทำงกำรเมืองในกำรปฏิบตั ิหน้ำที่รำชกำร และในกำร
ปฏิบตั ิกำรอืน่ ที่เกีย่ วข้องกับประชำชน กับไม่ปฏิบตั ิตำม
ระเบียบของทำงรำชกำรว่ำด้วยมำรยำททำงกำรเมืองของ
ข้ำรำชกำร” (ไม่รา้ ยแรง)
******ข้อ ๑๙ พนักงานส่วนท้องถิ่นต้องรักษาชือ่ เสียงของตน
และรักษาเกียรติศกั ดิข์ องตาแหน่งหน้าทีร่ าชการของตนมิให้
เสือ่ มเสีย โดยไม่กระทาการใด ๆ อันได้ชอ่ื ว่าเป็ นผูป้ ระพฤติชว่ั
กำรกระทำควำมผิดอำญำจนได้รบั โทษจำคุกหรือ
โทษที่หนักกว่ำจำคุกโดยคำพิพำกษำถึงที่สดุ ให้จำคุก หรือให้
รับโทษที่หนักกว่ำจำคุก เว้นแต่เป็ นโทษสำหรับควำมผิดที่ได้
กระทำโดยประมำทหรือควำมผิดลหุโทษ หรือกระทำกำรอืน่
ใดอันได้ชอ่ื ว่ำเป็ นผูป้ ระพฤติชว่ั อย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิด
วินยั อย่ำงร้ำยแรง (มาตรา ๙๘)
ข้อ ๑๙ ลักษณะควำมผิด “ไม่รกั ษำชือ่ เสียงของตน / ไม่
รักษำเกียรติศกั ดิข์ องตำแหน่งหน้ำที่รำชกำรของตนโดย
กระทำกำรอันได้ชอ่ื ว่ำเป็ นผูป้ ระพฤติชว่ั ” (ไม่รา้ ยแรง)
แนวทางพิจารณา
(๑) เกียรติของพนักงานส่วนท้องถิ่น
(๒) ความรูส้ กึ ของสังคม
(๓) เจตนาในการกระทา (มีจติ สานึกในการกระทา)
ลักษณะควำมผิด “ประพฤติชว่ั ไม่รำ้ ยแรง”
ตัวอย่ำง
๑๙.๑ นายช่างโยธา ๓ ได้รบั คาสัง่ จากศาลให้ชาระเงินค่าเลี้ยง
ดูบุตร ๒ คน เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท ตัง้ แต่วนั ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕ และ
เดือนต่อ ๆ ไปให้ชาระทุกวันที่ ๑ ของเดือน จนกว่าบุตรทัง้ สองจะบรรลุนิติ
ภาวะ ปรากฏว่า นายช่างผูน้ ้ ีชาระค่าเลี้ยงดูบุตรเพียง ๖ เดือนแรก หลังจาก
นัน้ ไม่ชาระเลยทัง้ ทีม่ ีทรัพย์สนิ เพียงพอ และอยูใ่ นวิสยั ทีจ่ ะชาระได้ ทาให้ภรรยา
เดิมและบุตรเดือดร้อน (ภาคทัณฑ์)
๑๙.๒ สถาปนิก ๔ ขับรถยนต์ดว้ ยความประมาทเฉี่ยวชน
รถจักรยานยนต์ของผูอ้ นื่ เป็ นเหตุให้ผอู ้ นื่ ถึงแก่ความตาย แล้วได้หลบหนีไป
ทันทีโดยไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร และไม่แสดงตัวต่อเจ้า
พนักงานศาลมีคาพิพากษาให้จาคุก ๒ ปี ปรับ ๖,๕๐๐ บาท โทษจาคุกให้รอ
ไว้มีกาหนด ๑ ปี (๕ % ๓ เดือน)
เสพสุรำ
๑๙.๓ พนักงานส่วนท้องถิ่น ดืม่ สุราในขณะพักรับประทานอาหาร
กลางวันจนมีอาการมึนเมา เมื่อเข้าทางานต่อในช่วงบ่ายได้สง่ เสียงดังรบกวนสมาธิผอู ้ น่ื
(ภาคทัณฑ์)
๑๙.๔ หัวหน้างานใน อปท.ประพฤติตนเสเพลเทีย่ วเตร่ในเวลากลางคืน
ดืม่ สุรา ติดพันหญิงอืน่ ทีม่ ิใช่ภรรยาตน โดยไม่กลับไปเยี่ยมภรรยาตามวิสยั ทีค่ วรปฏิบตั ิ
ต่อครอบครัว และมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกับภรรยาเป็ นประจา จนถูกภรรยาร้องเรียน
(๕ % ๒ เดือน)
๑๙.๕ เจ้าหน้าทีพ่ ฒ
ั นาชุมชน ดืม่ สุราในเวลากลางคืนจนมีอาการมึนเมา
แล้วไม่ใส่เสื้อผ้า ใช้ผา้ เช็ดตัวพาดบ่าไปยืนอยูข่ า้ งกาแพงหลังบ้านของหญิงสาวที่ตนหลง
รัก และชะโงกดูคนในบ้านจนมีผูผ้ า่ นมาพบเห็น (ลด ๑ ขัน้ )
ประพฤติตนในทำนองชูส้ ำว
๑๙.๘ เจ้าหน้าทีธ่ ุรการ มีภรรยาโดยชอบด้วย
กฎหมายอยูแ่ ล้วได้ไปมีสมั พันธ์ฉนั ชูส้ าวกับหญิงอืน่ จนถูกภรรยา
ร้องเรียน ต่อมาได้หย่ากับภรรยาแล้ว(ภาคทัณฑ์)
๑๙.๙ พนักงานส่วนท้องถิ่น ตาแหน่งหัวหน้าฝ่ าย ไป
มาหาสูแ่ ละคบหาสมาคมกันกับเพื่อนสาวร่วมงานทัง้ เวลากลางวันและ
กลางคืน เป็ นเหตุให้บุคคลอืน่ เข้าใจว่าทัง้ สองมีความสัมพันธ์กนั ในทางชู ้
สาว จนกระทัง่ ภรรยาของหัวหน้าฝ่ ายเกิดความหึงหวงและทะเลาะกัน
(๕% ๒ เดือน
ไม่ชำระหนี้
๑๙.๖ พนักงานส่วนท้องถิ่น ทาสัญญากูย้ ืมเงินจากบุคคล ภายนอก
จานวน ๖,๐๐๐ บาท แล้วไม่ชาระหนี้จนถูกร้องเรียน แม้ผบู ้ งั คับบัญชาจะสัง่ ให้ชาระหนี้ก็
ยังเพิกเฉย เจ้าหนี้จงึ ไปแจ้งความดาเนินคดี ต่อมาพี่สาวได้นาเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมา
ชาระแทน (ภาคทัณฑ์)
๑๙.๗ เจ้าหน้าทีก่ ารเงินและบัญชี ทาสัญญากูย้ ืมเงินจากบุคคล
ภายนอก จานวน ๑๒๖,๕๐๐ บาท แล้วไม่ชาระหนี้ จนถูกแจ้งความดาเนินคดี ทางแพ่ง
เจ้าหน้าทีผ่ นู ้ ้ ีได้ขอประนอมหนี้และศาลได้มีคาสัง่ ให้ประนอมหนี้โดยให้ผอ่ นชาระเป็ นราย
เดือน แต่หลังจากนัน้ เจ้าหน้าทีผ่ นู ้ ้ ีก็ไม่ปฏิบตั ติ ามคาพิพากษา (๕ % ๓ เดือน)
กระทำอนำจำร
๑๙.๑๐ เจ้าพนักงานสาธารณสุข ๔ จับมือถือแขนหญิงสาวขณะคุยกัน
สองต่อสองทีร่ ะเบียงบ้านของฝ่ ายหญิง เป็ นการกระทาผิดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี
ท้องถิ่น (ภาคทัณฑ์)
๑๙.๑๑ เจ้าหน้าทีบ่ นั ทึกข้อมูล ๓ เสพสุรามึนเมาจนไม่สามารถครอง
สติได้ กระทาการลวนลามน้องสาวเพื่อนด้วยการจับมือ โอบกอด ภายหลังตกลงกันได้
โดยเจ้าหน้าทีผ่ นู ้ ้ ียินยอมใช้คา่ เสียหายเป็ นเงิน ๗,๕๐๐ บาท (๕% ๓ เดือน)
ปลอมแปลงเอกสำร
๑๙.๑๒ เจ้าหน้าทีท่ ะเบียน ๓ ได้ปลอมแปลงลายมือชือ่ ของเพือ่ น
ร่วมงานในการรับมอบงานในหนังสือขออนุญาตลาพักผ่อน ๑ วัน เพื่อให้ผบู ้ งั คับบัญชา
อนุญาต (๕% ๓ เดือน)
วรรคสอง ลักษณะควำมผิดที่ ๑ “กระทำควำมผิด
อำญำจนได้รบั โทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่ำจำคุกโดย
คำพิพำกษำถึงที่สดุ ให้จำคุก หรือให้รบั โทษที่หนักกว่ำ
จำคุก เว้นแต่เป็ นโทษสำหรับควำมผิดที่ได้กระทำโดย
ประมำทหรือควำมผิดลหุโทษ” (ร้ายแรง)
วรรคสอง ลักษณะควำมผิดที่ ๒ “กระทำกำรอืน่ ใดอันได้ชอ่ื
ว่ำ เป็ นผูป้ ระพฤติชว่ั อย่ำงร้ำยแรง เป็ นควำมผิดวินยั อย่ำง
ร้ำยแรง”
ลักษณะควำมผิด “ประพฤติชว่ั อย่ำงร้ำยแรง”
ตัวอย่ำง
เสพสุรำ
๑๙.๑๓ พนักงานส่วนท้องถิ่น ดืม่ สุราในขณะปฏิบตั หิ น้าที่
ราชการจนมีอาการมึนเมาไม่สามารถครองสติได้ พร้อมทัง้ ส่งเสียงดังดุดา่
เพื่อนร่วมงานอย่างหยาบคาย แล้วนอนหลับบนโต๊ะทางานจนกระทัง่ หมดเวลา
ราชการ (ปลดออก)
ประพฤติตนในทำนองชูส้ ำว
๑๙.๑๔ หัวหน้างานการเงิน เป็ นชูก้ บั ชายซึง่ มีภรรยาถูกต้อง
ตามกฎหมายและมีบุตรด้วยกัน ๓ คน ทัง้ ทีร่ ูค้ วามจริงข้อนี้ เมื่อภรรยาของ
ชายนัน้ มาร้องขอ กลับเยาะเย้ยถากถางว่า ไม่มีนา้ ยาบ้าง บ่มไิ ก๊บา้ ง และ
บางครัง้ ได้ใช้กาลังทุบตี โดยทีไ่ ม่มีการโต้ตอบ และในทีส่ ดุ สามีและภรรยาคู่
ดังกล่าวก็แยกทางกัน (ไล่ออก)
กระทำอนำจำร
๑๙.๑๕ เจ้าหน้าทีจ่ ดั เก็บรายได้ ใช้อุบายหลอกลวงนักศึกษา
สาวทีเ่ คยฝึ กงานที่ อปท. หลังพบกันทีต่ ลาดว่า พี่ชายของนักศึกษาผูน้ ้ ีซงึ่ เป็ น
ผูบ้ งั คับบัญชาของตนให้ไปพบที่ อปท. นักศึกษาคนดังกล่าวจึงนัง่ ซ้อนท้ายรถ
จักร ยานยนต์ของเจ้าหน้าทีผ่ นู ้ ้ ีไป เมื่อถึงระหว่างทางได้จอดรถเพื่อปั สสาวะ
และได้ใช้จงั หวะทีน่ กั ศึกษาสาวเผลอ โอบกอดขอให้ยอมเป็ นภรรยา นักศึกษา
สาวไม่ยอม เจ้าหน้าทีผ่ นู ้ ้ ีจงึ ใช้กาลังปลุกปลา้ ซึง่ นักศึกษาสาวได้ตอ่ สูข้ ดั ขืนและ
วิง่ หนีหกล้มจนได้รบั บาดเจ็บ (ไล่ออก)
ปลอมแปลงเอกสำร
๑๙.๑๖ หัวหน้างานการเงิน ได้ปลอมแปลงลายมือชือ่ เจ้าหน้าทีใ่ น อปท.
และภรรยา ในฐานะผูค้ า้ ประกันและผูใ้ ห้ความยินยอม กับปลอมลายมือชือ่
เจ้าหน้าทีก่ ารเงินและบัญชี ๓ ในฐานะพยาน ในคาขอกูเ้ งินสามัญและหนังสือ
คา้ ประกันเงินกูส้ ามัญเพื่อใช้ประกอบการกูเ้ งินจากสหกรณ์ฯ และได้รบั เงินกู ้
ไป ๕๕,๐๐๐ บาท (ให้ออก)
ยำเสพติด
๑๙.๑๗ เจ้าหน้าทีจ่ ดั เก็บรายได้ ถูกตารวจตรวจค้นพบยาบ้าอยูใ่ น
กระเป๋ าเสื้อ จานวน ๒๕ เม็ด จึงถูกจับกุมตัวไว้ดาเนินคดีในข้อหามียาเสพติด
ประเภทยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจาหน่าย (ไล่ออก)
ทุจริตในกำรสอบ
๑๙.๑๘ หัวหน้างานพัสดุ เข้าสอบเพื่อเลื่อนระดับได้นาเอา
กระดาษทีโ่ น้ตย่อเนื้อหาวิชาทีส่ อบเข้าไปในห้องสอบและแอบเปิ ดดูจนถูกจับได้
(ไล่ออก)
ได้รบั โทษจำคุก
๑๙.๑๙ ลูกจ้างประจาของ อปท.ได้งดั ถอนบานเกล็ดหน้าต่าง
ห้องสานักงานแล้วแอบขนคอมพิวเตอร์ จานวน ๒ เครือ่ ง แต่กระทาการไม่
สาเร็จเนื่องจาก รปภ.พบเสียก่อน และถูกแจ้งความดาเนินคดีอาญา ศาลมีคา
พิพากษาให้ลงโทษจาคุก ๒ ปี (ไล่ออก)
ข้อ ๒๐ ให้ผบู ้ งั คับบัญชามีหน้าทีเ่ สริมสร้างและพัฒนาให้ผอู ้ ยูใ่ ต้
บังคับบัญชามีวนิ ยั ป้ องกันมิให้ผอู ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชากระทาผิดวินยั
และดาเนินการทางวินยั แก่ผอู ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชาซึง่ มีกรณีอนั มีมูลทีค่ วร
กล่าวหาว่ากระทาผิดวินยั
การเสริมสร้างและพัฒนาให้ผอู ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชามีวนิ ยั ให้กระทา
โดยการปฏิบตั ติ นเป็ นแบบอย่างทีด่ ี การฝึ กอบรม การ สร้างขวัญ
และกาลังใจ การจูงใจ หรือการอืน่ ใดในอันทีจ่ ะเสริม สร้าง และ
พัฒนาทัศนคติ จิตสานึก และพฤติกรรมของผูอ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชาให้
เป็ นไปในทางทีม่ ีวนิ ยั
การป้ องกันมิให้ผอู ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชากระทาผิดวินยั ให้กระทาโดย
การเอาใจใส่ สังเกตการณ์ และขจัดเหตุทอี่ าจก่อให้เกิด การกระทาผิด
วินยั ในเรือ่ งอันอยูใ่ นวิสยั ทีจ่ ะดาเนินการป้ องกันตามควรแก่กรณีได้
เมื่อปรากฏกรณีมีมูลทีค่ วรกล่าวหาว่าพนักงานส่วนท้องถิ่นผูใ้ ดกระทา
ผิดวินยั โดยมีพยานหลักฐานในเบื้องต้นอยูแ่ ล้ว ให้ผบู ้ งั คับบัญชาดาเนินการ
ทางวินยั ทันที
เมื่อมีการกล่าวหาโดยปรากฏตัวผูก้ ล่าวหา หรือมีกรณีเป็ นทีส่ งสัยว่า
พนักงานส่วนท้องถิ่นผูใ้ ดกระทาผิดวินยั โดยยังไม่มีพยานหลักฐาน ให้นายก
อปท.รีบดาเนินการสืบสวนหรือพิจารณา ในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลทีค่ วร
กล่าวหาว่าผูน้ นั้ กระทาผิดวินยั หรือไม่ ถ้าเห็นว่ากรณีไม่มีมูลทีค่ วรกล่าวหา
ว่ากระทาผิดวินยั จึงจะยุตเิ รือ่ งได้ ถ้าเห็นว่ากรณีมีมลู ทีค่ วรกล่าวหาว่า
กระทาผิดวินยั ก็ให้ดาเนินการทางวินยั ทันที
การดาเนินการทางวินยั แก่ผอู ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชาซึง่ มีกรณีอนั มีมูลทีค่ วร
กล่าวหาว่ากระทาผิดวินยั ให้ดาเนินการตามทีก่ าหนดในมาตรฐานทัว่ ไปนี้
ผูบ้ งั คับบัญชาผูใ้ ดละเลยไม่ปฏิบตั หิ น้าทีต่ ามข้อนี้ หรือปฏิบตั หิ น้าที่
ดังกล่าวโดยไม่สุจริต ให้ถือว่าผูน้ นั้ กระทาผิดวินยั (มาตรา ๙๙)
ข้อ ๒๑ พนักงานส่วนท้องถิ่นผูใ้ ดฝ่ าฝื นข้อห้ามหรือ ไม่ปฏิบตั ติ ามข้อปฏิบตั ิ
ทางวินยั ตามทีก่ าหนดในหมวดนี้ ผูน้ นั้ เป็ นผูก้ ระทาผิดวินยั จักต้องได้รบั
โทษทางวินยั เว้นแต่มีเหตุอนั ควรงดโทษตามทีก่ าหนดในหมวด ๒
โทษทางวินยั มี ๕ สถาน คือ
(๑) ภาคทัณฑ์
(๒) ตัดเงินเดือน
(๓) ลดขัน้ เงินเดือน
(๔) ปลดออก
(๕) ไล่ออก
ปั ญหำอุปสรรค
๑. มีองค์กรหลากหลาย / ขาดทิศทาง
๒. การมอบอานาจตามมาตรา ๑๕ วรรคสอง
๓. มีธงคาตอบทางวินยั
๔. การแต่งตัง้ กรรมการสอบสวน
(๑) วินยั อย่างไม่รา้ ยแรง
(๒) วินยั อย่างร้ายแรง
๕. มาตรฐานโทษของแต่ละ อปท.และ
ก.จังหวัดต่างกัน/ตา่ กว่า ก.พ.
๖. การอุทธรณ์โทษทางวินยั ต่อ ก.เดิม
๗. ก.พิจารณาโดยไม่ฟังเสียงอนุฯ
๘. การวิง่ เต้น (ล๊อบบี้) ทาได้งา่ ย
๙. ประธาน ก.ให้ความสาคัญน้อย