Creating learning

Download Report

Transcript Creating learning

การสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู ้
สาหร ับผูเ้ รียนชาวไทย
Assistant Professor Dr. Christopher Johnson
วงจรการเรียนรู ้ 4 ขน
ั้
1. ขนเตรี
ั้
ยม(Preparation)
้ ้าความสนใจเรือ
ขัน
้ ตอนนีใ้ ชเร
่ งทีก
่ าลังจะ
ื่ การสอนทีม
ี น
ั วูบ
เรียน สามารถใชส้ อ
่ ส
ี ส
วาบได ้เพราะเป้ าหมายหลักอยูท
่ ก
ี่ ารดึง
ความสนใจ
2. ขนน
ั้ าเสนอ(Presentation)
การนาเสนอเนือ
้ หาสาระเป็ นครัง้ แรก
ผู ้เรียนอาจหมดความสนใจตัง้ แต่ขน
ั ้ นีห
้ าก
ผู ้สอนไม่ได ้มีการเตรียมตัวมาให ้ดีวา่ ต ้อง
สอนอย่างไร ถึงจะตรึงความสนใจและ
ั ของผู ้เรียนได ้โดยตลอด
ความความสงสย
3. ขนทดลองฝึ
ั้
ก(Practice)
เป็ นการบูรณาการทางความรู ้ ซงึ่ เป็ น
ขัน
้ ตอนทีไ่ ม่ควรข ้ามไปและควรฝึ กให ้เร็ว
ิ
ทีส
่ ด
ุ โดยผลจากการวิจัยชวี้ า่ ต ้องฝึ กสบ
ิ ธิภาพ
ครัง้ ขึน
้ ไป ถึงจะทาได ้อย่างมีประสท
4. ขนปฏิ
ั้
บ ัติ(Performance)
้
เป็ นการนาความรู ้และทักษะใหม่ไปใชใน
สถานการณ์จริง สมควรทาให ้เร็วทีส
่ ด
ุ
สาเหตุทท
ี่ าให้การเรียนน่าเบือ
่
• ไม่มก
ี ารเตรียมการทีด
่ ี
ื่ มโยงเข ้า
การเรียนกับความทุกข์ทรมานจึงถูกเชอ
ั
ด ้วยกันและพยายามหลีกเลีย
่ งการเรียน โดยมีนส
ิ ย
กลัวการตอบผิดหรือกลัวขายหน ้าเป็ นพืน
้ ฐาน คน
ไทยสว่ นใหญ่กลัวการเรียนเพราการเรียนมาพร ้อม
ความกดดันและอาจทาให ้อับอายได ้ เมือ
่ ไหร่ท ี่
ผู ้เรียนเครียดการเรียนย่อมไม่เกิดผล
• การนาเสนอไม่ด ี
การสอนแบบผู ้เรียนเป็ นฝ่ ายรับทีพ
่ บมากใน
ประเทศไทยให ้ผลดีน ้อยกว่าการสอนเชงิ รุก
เพราะความสนใจของผู ้เรียนลดตา่ ลงตัง้ แต่
่ ทเรียนและจะยังคงอยูใ่ นระดับตา่
นาเข ้าสูบ
่ นัน
ิ้ สุดการเรียน
เชน
้ ไปจนสน
ี จากการสอนแบบถ่าย
กลุม
่ ผู ้เรียนทีไ่ ด ้รับผลเสย
โอนข ้อมูลมากทีส
่ ด
ุ คือ กลุม
่ ทีเ่ รียนรู ้จากการ
เคลือ
่ นไหวและการลงมือกระทา เพราะเมือ
่ ขาด
ประสบการณ์จริงแล ้วพวกเขาก็โยงเอาไปใช ้
ไม่ได ้
• ทดลองฝึ กมากไม่พอ
หลังการเรียนการสอนไม่มก
ี ารบูรณาการกับ
ความรู ้เดิม สงิ่ ทีจ
่ ะหายไปได ้แก่ ระบบดัชนี
สาหรับดึงความรู ้ออกมาใช ้ ซงึ่ ถ ้าขาดหายไปจะ
้
ไม่สามารถเรียกใชความรู
้ใหม่ได ้
• ไม่ยอมปฏิบ ัติ
จากรูปปิ รามิดการเรียนรู ้ผู ้ทีน
่ าความรู ้มาปฏิบัต ิ
ทันทีสามารถจดจาเนือ
้ หาได ้ถึง 90% ซงึ่ การ
นาเสนอทีเ่ น ้นกันมากให ้ผลการเรียนรู ้แค่ 20%
เป้าหมายของวงจรการเรียนรู ้
ขนตอนที
ั้
1
่ เตรียมการ
ึ ดีกบ
เพือ
่ ให ้ผู ้เรียนเกิดความสนใจ รู ้สก
ั การเรียน
การสอนทีจ
่ ะเกิดขึน
้ รวมทัง้ ชว่ ยเตรียมความ
พร ้อมและลดความกังวลก่อนเรียน
• สงิ่ ทีต
่ อ
้ งทา
บอกประโยชน์ทผ
ี่ ู ้เรียนจะได ้รับ
ั เจนและมีความหมาย
เป้ าหมายชด
ึ สงั คม
สร ้างบรรยากาศเชงิ บวกทัง้ กายภาพ อารมณ์ความรู ้สก
คลายความกลัวของผู ้เรียน
กาจัดอุปสรรค
ั ใคร่รู ้
เร ้าให ้ผู ้เรียนสงสย
ทาให ้ผู ้เรียนสบายใจทีจ
่ ะถาม
ขนตอนที
ั้
่ 2 นาเสนอ
เพือ
่ แนะนาเรือ
่ งทีก
่ าลังจะเรียนด ้วยวิธก
ี ารที่
สนุกสนานและจุดประกายความคิดโดยมีความ
เกีย
่ วข ้องอยูใ่ นความสนใจของผู ้เรียนอีกทัง้
สอดคล ้องต่อลีลาการเรียนรู ้ของพวกเขา โปรด
ระลึกไว ้เสมอว่า คนไทยชอบพูด ชอบฟั ง
และชอบดู แต่มักจะหลีกเลีย
่ งการเขียนและการ
อ่านเชงิ พินจ
ิ พิเคราะห์
• สงิ่ ทีต
่ อ
้ งทา
้ กษะการแก ้ปั ญหาด ้วย
งานคู่ /กลุม
่ กิจกรรมทีใ่ ชทั
การแลกเปลีย
่ นความรู ้
ึ ษา
สงั เกตและวิเคราะห์ปรากฏการณ์จริงว่านักศก
ชาวไทยกระตือรือร ้นเวลาได ้ถกถึงการนาความรู ้
้
ไปประยุกต์ใชในที
ท
่ างาน
ั พันธ์
สร ้างบรรยากาศเชงิ รุก นาเสนอแบบมีปฏิสม
คานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
การเรียนรู ้แบบค ้นพบผ่านบริบทจริง
ขนตอนที
ั้
่ 3 ทดลองฝึ ก
ขัน
้ ตอนนีส
้ าคัญมาก
เพราะผู ้เรียนจะเกิดการบูรณาการและสร ้างระบบ
ดรรชนีตามความเข ้าใจของตัวเองหรือไม่ก็อยูท
่ ี่
ขัน
้ ตอนนี้ โดยพวกเขาจะได ้เรียนรู ้ผ่านหลากหลาย
วิธก
ี าร ซงึ่ น่าสนใจ สนุกสนาน มีความเกีย
่ วข ้อง
และสอดคล ้องต่อลีลาการเรียนรู ้
• สงิ่ ทีต
่ อ
้ งทา
ทดลอง ฟั งผลป้ อนกลับ ไตร่ตรอง ทดลองซา้
้ กษะการแก ้ปั ญหาและการจาลอง
กิจกรรมทีใ่ ชทั
สถานการณ์จริง
ไตร่ตรองและสรุปเป็ นภาษาของตนเอง
การฝึ กปรือ
การสอนกลับ
ขนตอนที
ั้
่ 4 ปฏิบ ัติ
เพือ
่ ให ้ผู ้เรียนได ้นาทักษะและความรู ้ใหม่มาต่อ
้ ง ความรู ้จะได ้ติดตัว อีก
ยอดและประยุกต์ใชจริ
ทัง้ ยังเป็ นการพัฒนาฝี มือให ้ดียงิ่ ๆขึน
้
• สงิ่ ทีต
่ อ
้ งทา
้ งทันที
ประยุกต์ใชจริ
วางแผนและดาเนินตามแผน
สร ้างแรงจูงใจด ้วยการเสริมแรง
จับกลุม
่ ชว่ ยกันเรียนชว่ ยกันสอนในหมูเ่ พือ
่ นร่วมเรียน
รูปแบบการเรียนรูแ
้ บบ SAVI
S : Somatic
เรียนรูจ
้ ากการเคลือ
่ นไหวและการลงมือกระทา
A : Auditory
เรียนรูจ
้ ากการฟังและพูด
V : Visual
ั
เรียนรูจ
้ ากการสงเกตและสร้
างจินตภาพ
I : Intellectual
เรียนรูจ
้ ากการไตร่ตรองและแก้ปญ
ั หา
การเรียนรูจ
้ ากการเคลือ
่ นไหว
และการลงมือกระทา
S: Somatic
• การเคลือ
่ นไหว ขยับร่างกาย การลงมือกระทา
• วิธก
ี ารเรียนในปั จจุบน
ั เน ้นความเป็ นองค์รวม
ระหว่างกายกับจิต
• แม ้ว่าบางเรือ
่ งสามารถเรียนรู ้ได ้โดยไม่
จาเป็ นต ้องทากิจกรรม แต่การสลับไปสลับมา
ระหว่างการเรียนรู ้เชงิ รุกและเชงิ รับ ก็ถอ
ื ว่าเป็ น
การกระตุ ้นผู ้เรียนแล ้ว
การเรียนรูจ
้ ากการฟังและพูด
A : Auditory
ื้ ชาติ
• เป็นการเรียนรูท
้ เี่ ก่าแก่ทส
ี่ ด
ุ ของคนทุกเชอ
ี งสนทนา การอ่านออกเสย
ี ง การ
• เรียนด้วยฟังเสย
เล่าถึงประสบการณ์ การคุยก ับตนเอง การจดจา
บทเพลง การท่องโคลงกลอน การท่องอาขยาน
การท่องในใจ
• สาหร ับผูเ้ รียนทีเ่ รียนรูไ้ ด้ด ี ผูส
้ อนต้องเปิ ดโอกาส
ให้พวกเขาได้พด
ู ออกมาระหว่างทีท
่ ากิจกรรม
่ งการแก้ปญ
ึ ษาแนวคิด
ต่างๆ ชว
ั หา ตอนศก
ระหว่างควบคุมข้อมูลหรือวางแผนปฏิบ ัติงาน
รวมทงฝึ
ั้ กฝนและทบทวนความรู ้ หรือโดยการให้
พวกเขาสรุปออกมาเป็นคาพูดของต ัวเองได้
ั
การเรียนรูจ
้ ากการสงเกต
และสร้างจินตภาพ
V :Visual
• ผู ้ทีส
่ ามารถสร ้างจินตภาพอย่างเป็ นระบบ
ระเบียบขณะมีการเรียนรู ้สามารถดึงสงิ่ ทีเ่ พิง่
เรียนได ้ไวกว่าคนทีไ่ ม่ทา 12 % และมีความ
ทรงจาระยะยาวดีกว่า 26%
• ผู ้เรียนทีเ่ รียนรู ้จากการสงั เกตและสร ้างจินตภาพ
จะเรียนได ้ดีทส
ี่ ด
ุ เมือ
่ ได ้เห็นตัวอย่างจริง
แผนภาพ ผังความคิด รูปภาพ รูปทุกประเภท
แผนทีค
่ วามคิด(Mind-Mapping)
การเรียนรูจ
้ ากการไตร่ตรอง
และแก้ปญ
ั หา
I :
Intellectual
• การเรียนรู ้โดยใชปั้ ญญา หมายถึง การสร ้าง
ื่ มโยง
ตรรกะหรือการทีม
่ นุษย์คด
ิ และเชอ
ประสบการณ์แล ้วสรุปเป็ นความรู ้ความเข ้าใจ
• ผู ้เรียนจะเกิดการเรียนรู ้ด ้วยวิธน
ี เี้ มือ
่ ได ้ทา
กิจกรรม แก ้ปั ญหา วิเคราะห์สงิ่ ทีเ่ กิดขึน
้
้
วางแผนกลยุทธ์ ใชความคิ
ดสร ้างสรรค์ ตี
โจทย์และตัง้ คาถาม สร ้างมโนภาพ สรุปเป็ น
้
ความเข ้าใจ หาวิธน
ี าความรู ้ใหม่ไปใชในงาน
บทสรุป
รูปแบบการเรียนการสอนนีเ้ สนอเพือ
่ เป็ น
ทางเลือกแทนการสอนแบบถ่ายโอนข ้อมูล
เราโตมาในระบบทีค
่ าตอบทีถ
่ ก
ู ต ้องเท่านั น
้ ที่
สาคัญ ขณะทีก
่ ารตัง้ คาถามให ้ถูกต ้องได ้รับการ
คานึงถึงเพียงเล็กน ้อย
ในการวางแผนจัดการเรียนการสอนโปรดหยุด
้
ถามตนเองว่าใชโจทย์
ถก
ู ต ้องหรือไม่จากนัน
้ ค่อย
วางแผนให ้สอดคล ้อง ไม่ใชว่ างตามคาตอบทีค
่ ด
ิ
ไปเองว่าถูกต ้อง