Transcript Powerpoint

การพัฒนาเครื่ องมือวัดเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์
หัวใจนักปราชญ์
ส. สุตะ อันหมายถึง ฟั งคาสัง่ สอน ทุกวรรค ทุกตอน ต้ องผ่านทางช่องหู ให้ หมัน่
เพียรศึกษาเป็ นประจา ดังที่วา่ “ฟั งคาครูไว้ จะรอบรู้เรื่ องราวที่เข้ ามา”
จิ. จินตะ อันหมายถึง หมัน่ คิด คอยเอาจิตตรองตรึกการศึกษา ขวนขวายค้ นคิด
ทุกมวลวิชา เกิดปั ญญาแจ่มกระจ่างสิ ้นคลางแคลง
ปุ. ปุจฉา อันหมายถึง หมัน่ ถาม อันซึง่ เนื ้อความที่สงสัยในทุกแห่ง ให้ คณ
ุ ครูร้ ูดี
ช่วยชี ้แจง จนรู้แจ้ งเห็นจริ งทุกสิง่ เอย
ลิ. ลิขิต อันหมายถึง หมัน่ เขียน เป็ นแบบ เป็ นบทเรี ยนทังมวล
้
ควรขยัน เอาใจใส่
จดจาเป็ นสาคัญ ทาให้ ครบครันทังสี
้ ่ หนทางเจริ ญ
หัวใจนักปราชญ์ : การอ่ าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน
การอ่ าน การคิดวิเคราะห์ และเขียน หมายถึงความสามารถ
ในความเป็ นนักปราชญ์ (ผู้ร้ ูผ้ มู ีปัญญา) แสดงผลงานการเขียนเพื่อการ
สะท้ อนความเป็ นผู้ร้ ู ผู้มีปัญญา ผลงานการเขียน(ลิขิต) เป็ นผลงานที่เกิด
จากการอ่าน การฟั ง และการถาม(ปุจฉา)จากผู้ร้ ู/จากการอ่านเอกสาร
ของผู้ร้ ูที่เขียนไว้ ดังนัน้ ความสามารถในการอ่ าน คิดวิเคราะห์ และ
เขียน จึงสมารถแสดงออกได้ ด้วยผลงาน การเขียน ซึ่งเป็ นการ
เขียนที่เกิดจากการใช้ ความคิดที่เป็ นผลจากการอ่ าน การฟั ง และ
การถาม ที่ผ่านการฝึ กฝนมาโดยตลอดอย่ างต่ อเนื่อง จึงนับว่ า
ความสามารถในการอ่ าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เป็ น
ความสามารถของผู้มีปัญญาหรือความสามารถในการเป็ น
นักปราชญ์ น่ ันเอง (พระยาอุปกิตศิลปะสาร. 2546)
การคิดวิเคราะห์
ความสามารถในการจาแนก แยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ของสิง่
ใดสิ่งหนึง่ ซึง่ อาจจะเป็ นวัตถุสงิ่ ของ เรื่ องราว หรื อเหตุการณ์ และหา
ความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ระหว่างองค์ประกอบเหล่านัน้ เพื่อค้ นหาสภาพ
ความเป็ นจริงหรื อสิง่ สาคัญของสิง่ ที่กาหนดให้
แบบฝึ กหัด “การวิเคราะห์องค์ประกอบ”
ดอกไม้
กิจกรรมปาเป้ า
คาชีแ้ จง ถ้ าให้ นกั เรี ยนใช้ ลกู ดอกปาเป้าได้ จานวน 4 ครัง้ (ปาเป้าถูกทุกครัง้ )
คาถาม 1. แต้ มสูงสุดคือ.............
2. แต้ มต่าสุดคือ.............
3. วิธีปาเป้าให้ ได้ แต้ มรวม 70 คะแนน มี......วิธี คือ...................
30
40
5
10
20
การคิดเปรี ยบเทียบ
การพิจารณาให้ เห็นลักษณะที่มีความเหมือนและ/หรื อความ
แตกต่างระหว่างส่วนหนึง่ กับสิง่ อื่น ๆ โดยมีเกณฑ์การตัดสินรวมทังการ
้
พิจารณาความเหมือนสิง่ หนึง่ ให้ เหมือนอีกสิง่ หนึง่ เพื่อสนองความ
ต้ องการที่กาหนดไว้
แบบฝึ กหัด “ลักษณะร่ วม”
พืช
1....................
2....................
3....................
ลักษณะที่เหมือนกัน
1............................
2............................
3............................
คน
1....................
2....................
3....................
สัตว์
1....................
2....................
3....................
คาชี้แจง จงบอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการเรี ยนรู ้สาระ
คณิ ตศาสตร์ และสาระสุ ขศึกษาและพลศึกษา
ความเหมือน
1.
2.
3.
4.
5.
ความแตกต่ าง
1.
2.
3.
4.
5.
การคิดวิพากษ์
ความสามารถในการพิจารณา ประเมิน และตัดสินสิ่งต่าง ๆ หรื อ
เรื่ องราวที่เกิดขึ ้นที่มีข้อสงสัยหรื อข้ อโต้ แย้ ง โดยการพยายามแสวงหา
คาตอบที่มีความสมเหตุสมผล
คาชี้แจง จงเติมคาตรงกันข้างลงในช่องว่างที่กาหนดให้
กาหนดให้
1. ดา
2. ตารวจ
3. ใกล้
4. ลดลง
5. พิเศษ
คาตรงข้ าม
1.
2.
3.
4.
5.
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนอ่านบทกลอน คาประพันธ์ที่กาหนดให้แล้วตอบคาถาม
เด็กวันนีค้ ือผู้ใหญ่ ในวันหน้ า
ทาท่ าแม้ นละม้ ายคล้ ายแม่ พ่อ
ผู้ใหญ่ งามเด็กก็งามตามเหล่ ากอ
ผู้ใหญ่ บ้าเด็กก็บอพอพอกัน
นักเรี ยนเห็นด้ วยกับบทกลอนนี ้หรื อไม่ เพราะเหตุใด
...........................................................................................................
...........................................................................................................
การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
การคิดอย่างมีเหตุผล โดยผ่านการพิจารณาไตร่ตรองอย่าง
รอบคอบ มีหลักเกณฑ์ มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ เพื่อนาไปสูก่ ารสรุป และ
ตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพว่าสิง่ ใดถูกต้ อง สิง่ ใดควรเชือ่ สิง่ ใดควรเลือก
หรื อสิง่ ใดควรทา
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนหาความรู ้ที่มีแหล่งที่มาที่หน้าเชื่อถือ 3 แหล่ง เพื่อลง
ข้อสรุ ปอาการผูป้ ่ วยที่กาหดว่าเป็ นโรคอะไร
อาการ มีไข้ ท้ องเสีย เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศรี ษะ หนาว
และไม่มีเรี่ ยวแรง อ่อนล้ า บางคนมีอาการท้ องเสียร่วมกับอาเจียน
ความรู้
แหล่ งที่มา
1.
2.
3.
ข้ อสรุป............................................................................................
การคิดแก้ปัญหา
สภาวะหรื อสถานการณ์ที่ทาให้ บคุ คลไม่สบายกายไม่สบายใจไม่
สนองความต้ องการพื ้นฐานจาเป็ นของบุคคล
ดาวไม่สบายใจเลยที่เธอมีทงสิ
ั ้ วและฝ้าขึ ้นที่ใบหน้ า เธอพยายาม
หาครี มรักษาสิวฝ้าการแนะนาของเพื่อน ๆ อยูเ่ สมอ แต่ก็ไม่ได้ ผล วัน
หนึง่ เธอเดินไปซื ้อของที่ตลาด เห็นคนมุงดูสนิ ค้ าแผงลอยกันแน่นมาก
เธอจึงเข้ าไปดูเห็นหญิงสาวสวยคนหนึง่ โฆษณาครี มแก้ สวิ ฝ้า หญิงผู้นนั ้
อธิบายสรรพคุณพร้ อมสาธิตให้ ดทู ี่บริเวณหลังฝ่ ามือให้ ดลู กั ษณะการ
ทาครี ม แล้ วจะดูวา่ ผิวเธอดูเนียนสวยขึ ้น ดาวตัดสินใจซื ้อครี ม 1 ชุด
ทัง้ ๆ ที่ราคาค่อนข้ างแพง ดาวทดลองทาครี มอยู่ 3-4 วัน ปรากฏว่าผิว
ของเธอยิ่งเป็ นสิวฝ้ามากกว่าเดิม
คาถาม
1. ปั ญหาของดาวคืออะไร
2. สาเหตุจากอะไร
3. มีวิธีการแก้ ไขอย่างไร
4. เมื่อแก้ ไขตามวิธีในข้ อ 3 แล้ วคาดว่าผลที่ได้ รับจะเป็ นอย่างไร อธิบายเหตุผล
การคิดสังเคราะห์
ความสามารถในการรวบรวม ส่วนประกอบย่อยต่าง ๆ ของวัตถุ
สิง่ ของ หรื อความคิด มาหลอมรวมหรื อถักทอได้ อย่างผสมผสาน
กลมกลืนจนกลายเป็ นสิ่งใหม่ หรื อแนวคิดใหม่ภายใต้ โครงสร้ างใหม่
อย่างเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตงไว้
ั้
คาชีแ้ จง วันนี ้คุณแม่ของเด็กชายใจดีไม่อยูบ่ ้ าน เด็กชายใจดีต้องทาอาหารกินเอง ใน
ครัวมีเครื่ องปรุง ผักและเนื ้อสัตว์อยูห่ ลายอย่าง นักเรี ยนช่วยเด็กชายใจดีคิดหน่อยว่า
จากสิ่งที่มีอยู่ สามารถประกอบอาหารชนิดใดได้ บ้าง และแต่ละชนิดใช้ อะไรเป็ น
ส่วนผสมบ้ าง
เนื้อหมู
น้ ามันพืช
ไข่
ผักคะน้า
มะเขือเทศ
ซอสปรุ งรส/น้ าปลา
พริ กขี้หนู
ถัว่ ฝักยาว
แครอท
ชื่ออาหาร
1.
2.
กระเทียม
ข้าว
มะนาว
ส่ วนผสม
การคิดประยุกต์
การนาความรู้หรื อสิ่งของบางสิ่งมาปรับใช้ ให้ เกิดประโยชน์อย่าง
เหมาะสมกับสภาวะการนัน้ ๆ
คาชี้แจง บอกประโยชน์ของสิ่ งที่กาหนดให้ และสิ่ งมานามาใช้งานทดแทนได้
สิ่งที่กาหนดให้
ประโยชน์
สิ่งที่ใช้ ทดแทน
1. ถ้ วย
1.
2.
3.
4.
5.
1.
2.
3.
4.
5.
2. มีด
1.
2.
3.
4.
5.
1.
2.
3.
4.
5.
การคิดสร้างสรรค์
กระบวนการทางปั ญญาที่สามารถขยายขอบเขตความคิดที่มีอยู่
เดิมสูค่ วามคิดที่แปลกใหม่แตกต่างไปจากความคิดเดิม และเป็ น
ความคิดที่ใช้ ประโยชน์ได้ อย่างเหมาะสม
คาชี้แจงให้นกั เรี ยนนาตัวอักษรดังต่อไปนี้คือ A B C D T R E S P I
มาผสมให้เป็ นคาที่มีความหมาย ให้ได้จานวนคามากที่สุด โดยในแต่ละคา
ไม่ใช้อกั ษรซ้ ากัน
1.
2.
3.
4.
5.
คาศัพท์
6.
7.
8.
9.
10.
การคิดเชิงมโนทัศน์
ความสามารถทางสมองในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้ อมูล
ทังหมดที
้
่เป็ นองค์ประกอบของสิง่ ใดสิง่ หนึง่ หรื อเรื่ องใดเรื่ องหนึง่ ได้
อย่างชัดเจน โดยมีการจัดระบบ จัดลาดับความสาคัญของข้ อมูล เพื่อ
สร้ างความคิดรวบยอดของสิง่ นันหรื
้ อเรื่ องนัน้
คาชี้แจงให้นกั เรี ยนคากริ ยาที่ข้ ึนต้นด้วยพยัญชนะที่กาหนดให้ ให้ได้มาก
ที่สุดในเวลา 10 นาที
พยัญชนะ
1. ม
2. บ
3. ด
4. ต
5. ฟ
คา
การคิดบูรณาการ
การนาหน่วยย่อยต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์อิงอาศัยซึง่ กันและกัน
มารวมเข้ าด้ วยกันอย่างกลมกลืนเป็ นองค์รวม มีความครบถ้ วนสมบูรณ์
คาชี้แจง ให้นกั เรี ยนนาคาที่กาหนดให้มาทากิจกรรมต่อไปนี้
แหล่ งท่ องเที่ยว สถาบันการศึกษา แม่ นา้ บุคคลสาคัญ อาชีพ วัด
OTOP ประเพณี
1. นาคาที่กาหนดให้ แต่ละคามาเป็ นประโยคที่สมบูรณ์
2. ให้ นกั เรี ยนเขียนแผนผังโครงเรื่ อง พร้ อมตังชื
้ ่อเรื่ อง
แม่น ้า
เรื่ อง..............
3. นาคาในผังโครงเรื่ องในข้ อ 2 มาสร้ างเป็ นเรื่ อง พร้ อมขยายความให้
เชื่อมโยงกัน มีเหตุมีผล และมีความสมบูรณ์
การคิดอนาคต
ความสามารถในการคิดฉายภาพเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ ้นใน
เวลาที่จะมาถึงข้ างหน้ า โดยใช้ หลักการคาดการณ์ การทานาย
การพยากรณ์ หรื อการคาดคะเนที่สมเหตุสมผล
คาชี้แจง การเปลี่ยนอย่างรวดเร็ วของโลก ตั้งแต่อดีต ปัจจุบนั และอนาคต
ในช่วงอายุคน นักเรี ยนลองคิดว่าสิ่ งของในรายการต่อไปนี้ จะมีแนวโน้ม
ของการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
อดีต
บันได
เทียน ตะเกียง คบไฟ
พัด
เครื่ องพิมพ์ดีด
กล้ องถ่ายรูปใช้ ฟิล์ม
ปั จจุบัน
บันไดเลื่อน
หลอดไฟ
พัดลม และ
เครื่ องปรับอากาศ
เครื่ องคอมพิวเตอร์
กล้ องถ่ายรูปใช้
หน่วยความจา
อนาคต
การคิดเชิงกลยุทธ์
ความสามารถในการกาหนดวิธีการทางานที่ดีที่สดุ และมีความ
ยืดหยุน่ พลิกแพลงได้ ภายใต้ สภาวการณ์ตา่ ง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่
ต้ องการ
สถานการณ์ ป้ าต้องการเดินทางไปหาลุงป้ อม โดยนาแมว 1 ตัว ปลาทู 1 เข่ง
ใหญ่ และสุ นขั 1 ตัว การเดินทางไปบ้านลุงต้องเดินทางโดยเรื อลาเล็กข้าม
ฝาก ซึ่งบรรทุกได้ที่ละ 1 อย่างเท่านั้น นักเรี ยนคิดว่าป้ าควรเดินทางโดยนา
อะไรไปก่อนและไปหลังอย่างไร
1. ปัญหา..............................................................................................
2. เป้ าหมาย..........................................................................................
3. ข้อจากัด...........................................................................................
4. ทางเลือก..........................................................................................
5. คาตอบ.............................................................................................
การประเมินผลที่เป็ นการส่ งเสริ มการคิด
ระดับการวัด
• ความรู้ความจา
– บอกความหมาย บอกคาจากัดความให้ นิยาม
– บอกชื่อ เรี ยกชื่อ บอกสถานที่ บอกเหตุการณ์ บอกวันเวลา
– บอกแนวโน้ ม บอกวิธีการ บอกกฎ บอกสูตร บอกสัญลักษณ์
– จาแนก จัดประเภท บอกชนิด บอกประเภท
– ระบุเกณฑ์ บอกองค์ประกอบ บอกขอบเขต
– บอกเทคนิค วิธีปฏิบตั ิ บอกวิธีได้ ผลลัพธ์
– บอกหลักการ บอกข้ อเสนอ อ้ างข้ อสรุป
– บอกลักษณะโครงสร้ าง อ้ างอิงทฤษฎีที่เกี่ยวข้ อง
ระดับการวัด
• ความเข้ าใจ
– แปลความหมายของคาศัพท์ แปลวลี แปลความหมายของประโยค เปลี่ยนรู
ประโยค
– สรุป ตีความจากภาพ ตีความหมายของข้ อความ ตีความหมายจากกราฟ
สัญลักษณ์
– คาดคะเน ทานาย พยากรณ์ ขยาย ต่อเติม
ระดับการวัด
• การนาไปใช้
– นาเอาไปใช้ เปลี่ยนวิธีการ แก้ ปัญหา คานวณ
ระดับการวัด
• การวิเคราะห์
– บอกความสาคัญ วัตถุประสงค์ จุดมุง่ หมาย
– หาความสัมพันธ์ เปรี ยบเทียบหาสาเหตุ และผล
– หาโครงสร้ างและระบบ หาหลักการร่วม
ระดับการวัด
• สังเคราะห์
– เขียนบทความ เรี ยงความ เขียนโครงการ การจัดการแสดง
– การสร้ าง การผลิต การออกแบบ การวางแผน
– การรวบรวมเรื่ อง การสรุป การตังสมมติ
้
ฐาน
ระดับการวัด
• การประเมินค่า
– ตัดสิน พิจารณา ลงข้ อสรุป
– เปรี ยบเทียบมาตรฐาน เปรี ยบเทียบคุณค่า ประเมินค่า วินิจฉัยคุณค่า