การบรรยาย "พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖"

Download Report

Transcript การบรรยาย "พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖"

โดย
สาโรช นักเบศร์
อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สานักงานอัยการสู งสด
พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
การคุ้มครองเด็ก
ความหมาย
เด็กที่ได้ รับ แนวทาง
การคุ้มครอง การคุ้มครอง
คุ้มครอง ส่ งเสริม
สงเคราะห์
สวัสดิภาพ ความประพฤติ
บทบาท
หน้ าที่
ผู้คุ้มครองเด็ก
เด็กยาก
ผู้ปกครอง เด็กเสี่ ยง
อายุต่ากว่ า
เด็กถูก
นักเรียน
ลาบาก
ไม่ สามารถ
ต่ อการ
18 ปี
ทารุ ณกรรม นักศึกษา
ขาดไร้ อุปการะ ไม่ เหมาะสม กระทาผิด
เด็กที่เสี่ ยงต่ อการกระทาผิด
ประกอบอาชีพ สมาคมกับบุคคล
อยู่ในสิ่ งแวดล้ อม
ประพฤติตน ที่จะชักนาไป
ที่อาจชักนาไป
ที่อาจนาไป
ไม่ สมควร ในทางผิดกฎหมาย ในทางผิดกฎหมาย
ในทางเสี ยหาย
ศีลธรรม
ศีลธรรม
เด็กทีถ่ ูกทารุณกรรม
ถูกใช้ ให้ ทา
ถูกทาให้
ถูกทาให้ เกิด
ถูกกระทาผิด
ในสิ่ งที่น่าเป็ น
เสื่ อมเสี ย
อันตรายแก่กาย
อันตรายแก่ กาย
ทางเพศ
เสรีภาพ
หรือจิตใจ
หรือจิตใจ
ถูกใช้ ให้ ทา
ในสิ่ งที่น่าขัด
ต่ อกฎหมาย
หรือศีลธรรม
แนวทางคุ้มครองเด็กโดยกฎหมาย
ข้ อห้ ามกระทา ข้ อห้ ามเด็ก
ผิดต่ อเด็ก
กระทาผิด
ฝ่ าฝื น
ฝ่ าฝื น
มีโทษอาญา
คุ้มครอง
สวัสดิภาพ
สงเคราะห์
ส่ งเสริม
คุ้มครอง
สวัสดิภาพ ความประพฤติ
แก้ ปัญหาเด็ก
ป้องกันเด็ก
แนวทางคุ้มครองเด็กโดยสั งคม
เด็กเรียนรู้
รัฐอุ้มชู
รู้ ได้ ด้วย
ตนเอง
IQ , EQ ,
MQ
คุณครู อบรม ชุ มชนดูแล พ่อแม่ ใกล้ ชิด
แนบสนิท
หลักธรรม
อบรม เฝ้ าระวังเด็ก ความรัก
สั่ งสอน สิ่ งแวดล้ อม ความเข้ าใจ หลักดาเนินชีวติ
ข้ อห้ ามกระทาผิดต่ อเด็ก
ทา
บังคับ ขู่เข็ญ จาหน่ าย ใช้ หรือยินยอม
ไม่
ใ
ห้
ส
่
ิ
ง
จ
าเป็
น
ทารุณกรรม
ให้ เด็กเล่นพนัน
ชั
ก
จู
ง
ส่
ง
เสริ
ม
แลกเปลี
ย
่
น
ดารงชีพ, รักษา
ยินยอมให้ เด็ก ให้ สุรา, บุหรี่ เข้ าไปในที่
โฆษณา
เด็กห้ ามเข้ า
ขอรับเด็ก
ยกเด็กให้
ข้ อมูลเด็ก
ประพฤติตน
ไม่ สมควร
แสดง
ทาขัดต่ อ
ขอทาน
เสี่ ยงต่ อ
เร่ ร่อน
การเจริญเติบโต ลามก
การทาผิด
ทาผิดกฎหมาย และพัฒนา อนาจาร
ข้ อห้ ามเด็กกระทาผิด
เข้ าไปในสถานที่
เพือ่ จาหน่ ายเสพ
สุ ราหรือบุหรี่
ซื้อ เสพ
สุ รา บุหรี่
ฝ่ าฝื น
ว่ ากล่ าว
ตักเตือน
ทาทัณฑ์ บน
ฝ่ าฝื นระเบียบ
โรงเรียนสถานศึกษา
ลงโทษตามระเบียบ,
ตักเตือน ทัณฑ์ บน
ผู้ปกครอง
ทางาน
วางข้ อกาหนด
บริการสั งคม
ให้ ผู้ปกครอง
สาธารณประโยชน์
ปฏิบัติ
การใช้ พรบ.คุ้มครองเด็ก
แก้ ปัญหาเด็ก
การสงเคราะห์ เด็ก
การคุ้มครอง
สวัสดิภาพเด็ก
ป้องกันเด็ก
ส่ งเสริมความประพฤติ
เด็กถูก
ถูก
ยากลาบาก ผู้ปกครอง
เสี่ ยง สงเคราะห์ นักเรียน
ขาดไร้ ไม่ สามารถ, ทารุณกรรม ต่ อการ คุ้มครอง นักศึกษา
อุปการะ ไม่ เหมาะสม
กระทาผิด สวัสดิภาพ
แนวทางสงเคราะห์ เด็ก (มาตรา 33)
ช่ วยเหลือครอบครัวเด็ก
ให้ อุปการะเด็กเลีย้ งดูเด็กได้
ให้ เด็ก
ได้ เป็ น
บุตร
บุญธรรม
ครอบครัว
อุปถัมภ์
สถาน
รับเลีย้ งเด็ก
มอบเด็กให้ บุคคลอืน่
อุปการะชั่วคราว 1 เดือน
สถาน
แรกรับ
สถาน
สงเคราะห์
ศึกษา,
ฝึ กอาชีพ
สถานพัฒนา
ฟื้ นฟู
กล่ อมเกลา
จิตใจ
ทางศาสนา
แนวทางคุ้มครองสวัสดิภาพ
เด็กถูกทารุ ณกรรม (ม.41,42)
ตรวจค้ นและแยกเด็ก
ตรวจร่ างกายและจิตใจ
สื บเสาะพินิจเด็กและครอบครัว
กาหนดวิธีคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสม
สถานแรกรับ
สถานสงเคราะห์
สถานพัฒนาฟื้ นฟู
สถานคุ้มครอง
สวัสดิภาพ
คืน
ผู้ปกครอง
แนวทางคุ้มครองสวัสดิภาพ
เด็กเสี่ ยงต่ อการกระทาผิด (มาตรา 44)
สอบถามเด็กและสื บเสาะพินิจ
สงเคราะห์ – คุ้มครองสวัสดิภาพ
คืนผู้ปกครอง
สถาน สถานคุ้มครอง สถานพัฒนา
ตั้งผู้คุ้มครอง
วางข้ อกาหนด
สงเคราะห์ สวัสดิภาพ
และฟื้ นฟู
สวัสดิภาพ
ระวังไม่ ให้ เด็ก
จัดให้ เด็ก
เข้ าสถานทีจ่ ูงใจให้ เด็กเสี ย
ได้ รับการศึกษา
ออกนอกทีอ่ ยู่อาศัยในเวลากลางคืน
ประกอบอาชีพเหมาะสม
คบหาบุคคลทีช่ ักนาไปในทางเสื่ อมเสี ย ทากิจกรรมพัฒนาตนเอง ด้านคุณธรรม จริยธรรม
กระทาการใดในทางเสี ยหาย
บาเพ็ญประโยชน์ ต่อสั งคม
แนวทางส่ งเสริมความประพฤติ
เด็กที่ถูกสงเคราะห์
คุ้มครองสวัสดิภาพ (ม.44)
นักเรียน นักศึกษา
ผู้ปกครอง (ม.63)
กล่อมเกลา
รับการศึกษา
ทากิจกรรม แนะแนว ปรึกษา
จิตใจ
ฝึ กอาชีพ
พัฒนาตนเอง
ทางศาสนา
อบรม
บทบาทหน้ าทีค่ ุ้มครองเด็ก
ผู้ปกครอง (คุ้มครอง
อบรมเลีย้ งดู,พัฒนา)
เจ้ าหน้ าที่
หน่ วยงานรัฐ
ประชาชน
(เฝ้ าระวัง)
ครู อาจารย์
โรงเรียน สถานศึกษา
แพทย์ พยาบาล
ผู้มีหน้ าที่ ฝ่ ายปกครอง
พนักงาน
สั่ งสอน แนะแนว
สาธารณสุ ข
คุ้มครอง
ตารวจ
เจ้ าหน้ าที่
ปรึกษา อบรม
นักจิตวิทยา
สวัสดิภาพ
อัยการ
นักสั งคม
สงเคราะห์ ผวจ.,ผ.กทม
สงเคราะห์
คุ้มครอง นายอาเภอ,ผ.เขต
ดูแลสุ ขภาพ
ส่ งเสริม
นายกเทศมนตรี
อนามัย
คุ้มครองเด็ก
นายก อบจ.
IQ,EQ
ทั้ง 3 วิธี
นายก อบต.
แนวคิดในการคุ้มครองเด็กให้ สัมฤทธิผลและยัง่ ยืน
# เด็กเรียนรู้ (SELF LEARNING)
* เด็กเป็ นศูนย์ กลาง ทุกภาคส่ วนร่ วมกันฝึ กเด็กให้ เรียนรู้ ได้ ด้วยตนเอง
# รัฐอุ้มชู (PROTECTION)
* รัฐต้ องปกป้ องคุ้มครองเด็กให้ พ้นจากภยันตรายโดยสร้ างภูมิคุ้มกันแต่ แรกเกิด
# คุณครู อบรม (TEACHING)
* โรงเรียน สถานศึกษา ครู อบรมสั่ งสอนเด็กทั้งทางวิทยาการและการดาเนินชีวติ ที่เหมาะสม
# ชุมชนดูแล (COMMUNITY EYES)
* ชุ มชนมีส่วนช่ วยเหลือเฝ้ าระวังดูแลเด็ก จัดสิ่ งแวดล้ อมให้ เหมาะสม
# พ่อแม่ ใกล้ชิด (LOVE)
* ธรรมชาติของพ่อแม่ ต้องเลีย้ งดูลูกอย่ างใกล้ ชิด ด้ วยความรักและความเข้ าใจ
# แนบสนิทหลักธรรม (MORAL)
* ทุกฝ่ ายนาหลักธรรมเป็ นแนวทางในการดาเนินชีวติ ของตนเองและเด็ก
อ.สาโรช
โครงสร้ างกระบวนการเรียนรู้ (วิทย์ )
คน
(สมอง)
กาย
จิต
ประสาทรับรู้
ตา
หู
จมูก
ปฏิกริยาโต้ ตอบ
ลิน้ กาย (สั มผัส)
ใจ(รู้ สึกเอง)
รู้ สึก จา คิด
ควบคุม
สติ
สั มปชัญญะ
แสดงปฏิกริยา
สิ่ งแวดล้ อมรอบกาย
ครอบครัว
เพือ่ น
ฮีโร่ , สื่ อ
โรงเรียน
ชุมชน
สั งคม
รับรู้
กาย
ทา
จิต
พูด
รู้สึก
ผล (ปัญหา)
ต้ นเหตุปัญหา
รู้ เหตุแก้ ไขได้
รู้ วธิ ีปัญหาหมด
นึกคิด
อ.สาโรช
โครงสร้ างกระบวนการเรียนรู้ (พุทธ)
คน (ขันธ์ ห้า)
*สมอง*
กาย (รู ป)
จิต (นาม)
ประสาทรับรู้ (อายตนะหก)
ตา
หู
จมูก
ลิน้ กาย (สั มผัส)
ปฏิกริยาโต้ ตอบ (อาการจิต) รับรู้ (วิญญาณ)
ใจ(รู้ สึกเอง)
แสดงปฏิกริ ิยา (กรรม)
สิ่ งแวดล้ อมรอบกาย
(อายตนะภายนอก)
อ.สาโรช
ครอบครัว
เพือ่ น
ฮีโร่ , สื่ อ
โรงเรียน
ชุมชน
สั งคม
รู้ สึก (เวทนา) จา (สั ญญา) คิด (สั งขาร)
กาย (รู ป)
ทา (กายกรรม)
จิต (นาม)
พูด (วจีกรรม) รู้ สึก (ทุกข์ -สุ ข)
ผล (ปัญหา)
ต้ นเหตุปัญหา
รู้เหตุแก้ ไขได้
รู้วธิ ีปัญหาหมด
ควบคุม
- สติ
- สมาธิ
- ปัญญา
นึกคิด (ปรุ งแต่ ง)
ทุกข์
สมุท ัย(อวิชชา)
นิโรธ
มรรค(วิชชา)
สู ญญตา
(หัวใจพุทธธรรม)
รู้ พร้ อมน้ อมดูจิต
กิเลสพลันดับลง
เห็นฐานคิดโลภโกรธหลง
ใจธารงสู ญญตา
สติปัฐฐานสี่
บาเพ็ญเป็ นวิชชา
มรรควิถีไตรสิ กขา
ทาขันธ์ ห้าว่ างไตรวัฏฏ์
ประจักษ์ แจ้ งสั จจะ
ตถาตานุวตั
ไตรลักษณ์ อะริยะสั จจ์
อิทัปปัจจยตา
ปฏิจจสมุปบาท
เพียรหมัน่ ดับสั ญญา
ไม่ ประมาทอวิชชา
ทุกผัสสาแค่ รับรู้
ไม่ มตี ูและสู
ทุกสิ่ งล้ วนเกิดอยู่
ไม่ ใช่ กแู ละของกู
เพียงชั่วครู่ แล้ วดับไป
ไม่ ยดึ ไม่ ถือมัน่
ธรรมะและกายใจ
เพราะรู้ ทันปล่ อยมันไป
ใช่ อนื่ ใดสู ญญตา
นิพพาน
มรรค
ผล
อ.สาโรช
การคุม้ ครองเด็ก
ได้ แก่
การสงเคราะห์เด็ก
การคุม
้ ครองสว ัสดิภาพเด็ก
่ เสริมความประพฤติเด็ก
การสง
เด็ก
“บคคลซึ่งมีอายตา่ กว่ าสิ บแปดปี บริบูรณ์
แต่ ไม่ รวมถึงผู้ทบี่ รรลนิตภิ าวะด้ วยการสมรส”
การค้ มครองเด็ก
การให้ ความช่ วยเหลือสงเคราะห์ ค้ มครองและส่ งเสริมให้ เด็กได้ รับการอปการะ
เลีย้ งดู อบรมสั่ งสอนและมีพฒ
ั นาการเพือ่ ให้ เด็ก มีความประพฤติเหมาะสม
ไม่ เสี่ ยงต่ อการกระทาผิด รับผิดชอบต่ อสั งคม และมีความปลอดภัย ไม่ ถูกทา
ทารณกรรม ไม่ ถูกเลือกปฎิบัตโิ ดยไม่ เป็ นธรรม
แนวทางในการคุ้มครองเด็ก
เด็กและครอบครัว
ที่จาต้องคุ้มครอง
นาเด็กสู่กระบวนการ
ยุติธรรม
ให้ความช่วยเหลือ
และสงเคราะห์
ตามมาตรา 33
แจ้งหรือรายงาน
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ให้ความคุ้มครองสวัสดิภาพ
ตามมาตรา 41,42,44,45
ส่งเสริมความประพฤติ
ตามมาตรา 63,66
การสงเคราะห์ เด็ก
การให้ ความช่ วยเหลือ แก่ เด็กและครอบครัว ซึ่งอยู่ในสภาวะที่
จะต้ องได้ รับการสงเคราะห์ เพือ่ ให้ เด็กได้ รับการเลีย้ งดู อบรมสั่ งสอน
และพัฒนาการตามมาตรฐานขั้นต่าที่กฎกระทรวงกาหนด
การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
การคุ้มครองให้ เด็กปลอดภัยจากอันตรายหรือไม่ ให้ ตกอยู่ใน
สภาวะเสี่ ยงต่ อการกระทาผิด
การส่ งเสริมความประพฤติเด็ก
งานหรือกิจกรรมทีส่ ่ งเสริมให้ เด็กมีความประพฤติ
ทีเ่ หมาะสม รับผิดชอบต่ อสั งคมและมีความปลอดภัย
เด็กที่พงึ ได้ รับการสงเคราะห์ (มาตรา 32)
เด็กเร่ ร่อน เด็กกาพร้ า เด็กถูกทอดทิง้ หรือพลัดหลง
เด็กทีผ่ ้ ูปกครองไม่ สามารถอุปการะเลีย้ งดูได้
เด็กทีถ่ ูกใช้ เป็ นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
เด็กทีถ่ ูกทารุณกรรม เด็กพิการ
เด็กทีม่ คี วามประพฤติเสื่ อมเสี ยในทางศีลธรรม
เด็กทีอ่ ยู่ในสภาพยากลาบาก
เด็กทีอ่ ยู่ในสภาพต้ องได้ รับการสงเคราะห์ ตามกฎกระทรวง
แนวทางช่ วยเหลือสงเคราะห์ เด็ก (มาตรา 33)
ช่ วยเหลือครอบครัวให้ สามารถเลีย้ งดูเด็กได้ มาตรฐานขั้นต่า
มอบเด็กให้ ผ้ ูเหมาะสมดูแลชั่วคราวไม่ เกิน 1 เดือน
ดาเนินการให้ เด็กได้ เป็ นบุตรบุญธรรม
ส่ งเด็กเข้ ารับการอุปการะในสถานรับเลีย้ งเด็กหรือครอบครัว
อุปถัมภ์
ส่ งเด็กเข้ ารับการอุปการะในสถานแรกรับ
ส่ งเด็กเข้ ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์ , สถานพัฒนา
และฟื้ นฟู
ส่ งเด็กเข้ ารับการศึกษากล่ อมเกลาจิตใจทางศาสนา
เด็กทีพ่ งึ ได้ รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
(มาตรา 40)
เด็กทีถ่ ูกทารุณกรรม
เด็กที่เสี่ ยงต่ อการกระทาผิด
เด็กทีอ่ ยู่ในสภาพต้ องได้ รับการคุ้มครอง
สวัสดิภาพตามกฎกระทรวง
แนวทางในการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
(มาตรา 41,42,44)
ตรวจค้ นและแยกตัวเด็ก สื บเสาะพินิจ
ส่ งเด็กไปสถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
ไม่ เกิน 7 วัน ขยายได้ 30 วัน
กาหนดวิธีคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กทีเ่ หมาะสม
ส่ งสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
เด็กที่พงึ ได้ รับการส่ งเสริมความประพฤติ
เด็กที่พงึ ได้ รับการสงเคราะห์ ตามมาตรา 30
เด็กทีพ่ งึ ได้ รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ตามมาตรา 42,44
เด็กนักเรียน นักศึกษา (มาตรา 63)
แนวทางในการส่ งเสริมความประพฤติ
ส่ งเด็กเข้ ารับการศึกษา ฝึ กหัดอาชีพ (มาตรา 33 (7))
ส่ งเด็กเข้ าศึกษากล่ อมเกลาจิตใจตามหลักศาสนา
(มาตรา 33(7))
จัดให้ เด็กกระทากิจกรรมเพือ่ พัฒนาตนเองด้ าน
คุณธรรม จริยธรรม และบาเพ็ญประโยชน์ ต่อสั งคม
(มาตรา 44(7))
จัดให้ มีกจิ กรรมแนะแนวปรึกษาและฝึ กอบรมแก่
นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครอง (มาตรา 63)
“ทารุณกรรม”
 กระทาให้ เด็กเสื่ อมเสี ยเสรีภาพ
 กระทาให้ เด็กเป็ นอันตรายแก่ ร่างกายหรือจิตใจ
 กระทาผิดทางเพศต่ อเด็ก
 ใช้ เด็กกระทาในลักษณะเป็ นอันตรายแก่ ร่างกายหรือจิตใจ
ใช้ เด็กกระทาหรือประพฤติขัดต่ อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
** ไม่วา่ เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม **
“การเลีย้ งดโู ดยมิชอบ”
การไม่ อุปการะเลีย้ งดู อบรมสั่ งสอน พัฒนาเด็ก
ตามมาตรฐานขั้นต่าที่กาหนดในกฎกระทรวง
จนน่ าจะเกิดอันตรายแก่ ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
“เด็กที่เสี่ยงต่ อการกระทาผิด”
เด็กที่ประพฤติตนไม่ สมควร
เด็กทีป่ ระกอบอาชีพหรือคบหาสมาคมกับบุคคล
ที่น่าจะชักนาไปในทางกระทาผิดกฎหมายหรือขัด
ศีลธรรมอันดี
เด็กทีอ่ ยู่ในสภาพแวดล้ อมหรือสถานทีอ่ นั อาจ ชัก
นาไปในทางเสี ยหาย
“ผ้ ปู กครอง”
บิดา มารดาของเด็กไม่ ว่าจะจดทะเบียนสมรสหรือไม่
ผู้อนบาล , ผู้รับบตรบญธรรม
ผู้ปกครองทีศ่ าลแต่ งตั้ง
พ่อเลีย้ ง แม่ เลีย้ ง , นายจ้ าง
ผู้ปกครองสวัสดิภาพ
บคคลทีร่ ับเด็กไว้ อปการะเลีย้ งดูหรือเด็กอาศัยอยู่ด้วย
ข้ อห้ ามกระทาต่ อเด็ก (มาตรา 26,27)
ทาทารุณกรรมต่ อร่ างกายหรือจิตใจของเด็ก
ไม่ ให้ สิ่งจาเป็ นแก่การดารงชีวติ แก่เด็กทีอ่ ยู่ในความดูแล , รักษาพยาบาล
บังคับขู่เข็ญ ชักชวน ส่ งเสริม ยินยอมให้ เด็กประพฤติตนไม่ สมควร
บังคับขู่เข็ญ ชักชวน ส่ งเสริม ยินยอมให้ เด็กมีความประพฤติเสี่ ยงต่ อการ
กระทาผิด
บังคับขู่เข็ญ ชักชวน ส่ งเสริม ยินยอมให้ เด็กไปเป็ นขอทาน เด็กเร่ ร่อน
บังคับขู่เข็ญ ชักชวน ส่ งเสริม ยินยอมให้ เด็กเล่นกีฬาหรือกระทาการใด
เพือ่ ประโยชน์ ทางการค้ า , เล่นการพนัน
บังคับขู่เข็ญ ชักชวน ส่ งเสริม ยินยอมให้ เด็กแสดง - กระทาลามกอนาจาร
ใช้ หรือยินยอมให้ เด็กเข้ าไปในสถานทีเ่ ล่นการพนัน สถานค้ าประเวณี หรือ
สถานที่ห้ามเด็กเข้ า
ใช้ จ้ าง วาน เด็กให้ ทางานหรือกระทาการเป็ นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
ใช้ เด็กเป็ นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบ, กระทาผิด , ขอทาน
โฆษณาเผยแพร่ ทางสื่ อมวลชนเพือ่ ขอรับเด็กหรือยกเด็กให้ แก่ผู้อนื่
จาหน่ าย แลกเปลีย่ นหรือให้ สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก
โฆษณาเผยแพร่ ทางสื่ อมวลชนหรือสื่ อสารสารสนเทศอืน่ ซึ่งข้ อมูลเกีย่ วกับ
ตัวเด็ก หรือผู้ปกครองให้ เกิดความเสี ยหายแก่เด็ก (มาตรา 27)
ฝ่าฝื นมาตรา 26 จาคุก 3 เดือน ปร ับไม่เกิน 30,000 บาท
ฝ่าฝื นมาตรา 27 จาคุก 6 เดือน ปร ับไม่เกิน 60,000 บาท
ข้ อห้ ามเด็ก นักเรียน นักศึกษากระทา
(มาตรา 45,65)
ห้ ามซื้อหรือเสพสุ ราหรือบุหรี่
ห้ ามเข้ าไปในสถานที่เฉพาะเพือ่ การจาหน่ ายหรือ
เสพสุ ราหรือบุหรี่
ห้ ามนักเรียน นักศึกษา ฝ่ าฝื นระเบียบของ
โรงเรียน สถานศึกษา
ถ้ าฝ่ าฝื นผลที่ได้ รับ
เด็ก * ถูกว่ากล่าวตักเตือน * ทาทัณฑ์ บน
* ทางานบริการสั งคมหรืองานสาธารณะประโยชน์
ผู้ปกครอง * ปฏิบัติตามข้ อกาหนดมิให้ เด็กกระทาผิดอีก
* ทาทัณฑ์ บน
*วางเงินประกัน
ผู้ทยี่ ุยง ส่ งเสริม ช่ วยเหลือ หรือสนับสนุนนักเรียน
นักศึกษา ฝ่ าฝื นระเบียบมีโทษจาคุก 3 เดือน
ปรับไม่ เกิน 30,000 บาท
ผู้มหี น้ าทีค่ ุ้มครองเด็ก
1. ประชาชนทั่วไป (มาตรา 22,29)
2. สหวิชาชีพ (มาตรา 29)
3. ผู้ปกครอง (มาตรา 23,25)
4. พนักงานเจ้ าหน้ าทีส่ งเคราะห์ และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
(มาตรา28,30)
5. พนักงานเจ้ าหน้ าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา
(มาตรา65,66,67)
6. โรงเรียนและสถานศึกษา (มาตรา63)
7. ผู้มหี น้ าทีค่ ุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (มาตรา 24,28,30)
8. สถานสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ
บทบาทหน้ าที่ของประชาชนทั่วไป
* ต้ องปฏิบัตติ ่ อเด็กโดยคานึงถึงประโยชน์ สูงสุ ดของเด็กและ
ไม่ เลือกปฏิบัติโดยไม่ เป็ นธรรม (มาตรา 22)
* เมื่อพบเห็นเด็กตกอยู่ในสภาพจาต้ องได้ รับการสงเคราะห์ หรือ
คุ้มครองสวัสดิภาพต้ องให้ การช่ วยเหลือเบือ้ งต้ นและแจ้ งต่ อ
เจ้ าหน้ าที่ (มาตรา 29)
* ห้ ามกระทาผิดต่ อเด็กตามมาตรา 26 ไม่ ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่
* ห้ ามโฆษณาเผยแพร่ ทางสื่ อมวลชนหรือสื่ อสารสนเทศอืน่ ซึ่ง
ข้ อมูลเกีย่ วแก่ ตวั เด็กหรือผู้ปกครองทาให้ เกิดความเสี ยหายแก่ เด็ก
(มาตรา 27)
บทบาทหน้ าที่ของสหวิชาชีพ (มาตรา 29)
* แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสั งคมสงเคราะห์ หรือเจ้ าหน้ าที่
สาธารณสุ ขที่รับตัวเด็กไว้ รักษาพยาบาล
* ครู อาจารย์ หรือนายจ้ าง ซึ่งมีหน้ าที่ดูแลเด็กที่เป็ นศิษย์ หรือลูกจ้ าง
- หากพบหรือสงสั ยว่ าเด็กถูกทารุณกรรมหรือเจ็บป่ วยเนื่องจาก
การเลีย้ งดูโดยมิชอบต้ องรายงานโดยไม่ ชักช้ าต่ อเจ้ าหน้ าที่
* แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา ต้ องรักษาทางด้ านร่ างกายและจิตใจ
และฟื้ นฟูสมรรถภาพทางร่ างกายและจิตใจ แก่ เด็กที่จาต้ องสงเคราะห์
หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
บทบาทหน้ าทีข่ องผู้ปกครอง (มาตรา 23,25,34)
* ผู้ปกครองต้ องให้ การอุปการะเลีย้ งดู อบรมสั่ งสอนและพัฒนาเด็ก
ตามมาตรฐานขั้นต่า
* ผู้ปกครองต้ องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองมิให้ ตก
อยู่ในภาวะอันน่ าจะเกิดอันตรายแก่ ร่างกายหรือจิตใจ
* ผู้ปกครองต้ องไม่ ทอดทิง้ เด็กหรือละทิง้ เด็กไว้ ณ สถานที่ใด
* ผู้ปกครองต้ องไม่ ละเลยให้ สิ่งจาเป็ นแก่ การดารงชีพหรือสุ ขภาพเด็ก
* ผู้ปกครองต้ องไม่ ขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
* ผู้ปกครองต้ องไม่ เลีย้ งดูเด็กโดยมิชอบ
* ผู้ปกครองหรือญาติของเด็กอาจนาเด็กไปขอรับการสงเคราะห์ต่อ
พนักงานเจ้ าหน้ าที่ได้ ถ้ าไม่ อาจอุปการะเลีย้ งดูได้
บทบาทหน้ าที่ของพนักงานเจ้ าหน้ าที่สงเคราะห์
และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (มาตรา 28,30)
1. พนักงานเจ้ าหน้ าที่ต้องดาเนินการสงเคราะห์ หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
เด็กในกรณีดงั ต่ อไปนี้
* ผู้ปกครองตกอยู่ในสภาพไม่ อาจให้ การอุปการะเลีย้ งดู อบรม สั่ งสอน
และพัฒนาเด็กได้ ไม่ ว่าด้ วยเหตุใด
* ผู้ปกครองกระทาการใดอันน่ าจะเกิดอันตรายต่ อสวัสดิภาพ หรือ
ขัดขวางต่ อความเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
* ผู้ปกครองให้ การเลีย้ งดูโดยมิชอบ
* มีเหตุจาเป็ นอืน่ ใดเพือ่ ประโยชน์ ในการสงเคราะห์ หรือคุ้มครองสวัสดิ
ภาพเด็กหรือป้องกันมิให้ เด็กได้ รับอันตรายหรือถูกเลือกปฏิบัติโดยมิชอบ
2. การสงเคราะห์ หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก พนักงานเจ้ าหน้ าทีม่ ีอานาจ ดังนี้
- เข้ าไปในเคหสถานทีใ่ ดๆ ยานพาหนะใดๆ ระหว่ างเวลาพระอาทิตย์ ขนึ้ ถึงพระ
อาทิตย์ ตกเพือ่ ตรวจค้ นเมือ่ มีเหตุอนั ควรสงสั ยว่ ามีการทารุ ณกรรมเด็ก มีการกักขัง
หรือเลีย้ งดูโดยมิชอบ
(หลังพระอาทิตย์ ตกเมือ่ มีเหตุผลพิเศษ)
- ซักถามเด็กหรืออาจนาตัวเด็กไปยังทีท่ าการของพนักงานเจ้ าหน้ าที่ เพือ่ ทราบ
ข้ อมูลเกีย่ วกับเด็กและครอบครัวได้ ไม่ เกิน 12 ชั่วโมง แล้ วต้ องส่ งมอบตัวเด็กให้
ผู้ปกครอง
- มีหนังสื อเรียกผู้ปกครอง นายจ้ าง ผู้ครอบครองดูแลสถานทีท่ เี่ ด็กอาศัย หรือ
ศึกษา หรือบุคคลอืน่ มาให้ ข้อเท็จจริงเกีย่ วกับเด็ก
- เข้ าไปในสถานทีอ่ ยู่อาศัย สถานทีป่ ระกอบการ สถานศึกษา หรือ สถานทีท่ ี่เด็ก
เกีย่ วข้ องด้ วย ระหว่ างเวลาพระอาทิตย์ ขนึ้ ถึงพระอาทิตย์ ตก เพือ่ สอบถามรวบรวม
ข้ อมูลหลักฐานเกีย่ วกับเด็ก
- มอบตัวเด็กให้ แก่ ผ้ ูปกครองพร้ อมแนะนาตักเตือนผู้ปกครอง
- ทารายงานเกีย่ วกับตัวเด็ก และดาเนินการสงเคราะห์ หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
บทบาทหน้ าที่ของพนักงานเจ้ าหน้ าที่ส่งเสริมความประพฤติ (มาตรา65,66,67)
ถ้ านักเรียนนักศึกษาฝ่ าฝื นระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา พนักงานเจ้ าหน้ าที่
มีอานาจ ดังนี้
- มอบตัวนักเรียน นักศึกษาให้ ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาไปเพือ่ อบรมสั่ งสอน
และลงโทษ
- สอบถามครู อาจารย์ หัวหน้ าสถานศึกษาเกีย่ วกับตัวนักเรียน นักศึกษา
- เรียกผู้ปกครองมาว่ ากล่ าวตักเตือนหรือทาทัณฑ์ บนว่ าจะดูแลไม่ ให้ นักเรียนนักศึกษา
ฝ่ าฝื นระเบียบอีก แนะนาผู้ปกครองเรื่องอบรมสั่ งสอน
- สอดส่ องดูแลและรายงานความประพฤติของบคคลหรือแหล่ งที่ชักจูงนักเรียน
นักศึกษาให้ ประพฤติไปในทางมิชอบ
- ประสานงานกับผู้บริหารโรงเรียนสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ตารวจ พนักงาน
เจ้ าหน้ าที่อนื่ เพือ่ ส่ งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา
- เข้ าไปในเคหสถาน สถานที่หรือยานพาหนะใดๆ ในเวลาพระอาทิตย์ ขนึ้ ถึงพระอาทิตย์
ตกเพือ่ ตรวจสอบการฝ่ าฝื นกฎหมายหรือระเบียบของโรงเรียน สถานศึกษาได้
บทบาทหน้ าที่ของโรงเรียนและสถานศึกษา(มาตรา63,64)
ต้ องจัดให้ มีระบบงานและกิจกรรมแนะแนวให้ คาปรึกษาและ
ึ ษาและ
ฝึ กอบรมแก่ น ักเรียน น ักศก
ผูป
้ กครอง
เพือ่ ส่ งเสริมให้ นักเรียน นักศึกษา
- มีความประพฤติที่เหมาะสม
- มีความรับผิดชอบต่ อสั งคม
- มีความปลอดภัย
บทบาทหน้ าทีข่ องผู้มหี น้ าทีค่ ุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (มาตรา 24)
ผู้มหี น้ าทีค่ ุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
* ปลัดกระทรวงพัฒนาสั งคมและความมั่นคงของมนุษย์
*ผู้ว่าราชการจังหวัด , ผู้ว่าราชการกรุ งเทพมหานคร
*นายอาเภอหรือปลัดอาเภอผู้เป็ นหัวหน้ ากิง่ อาเภอ
* ผู้บริหารองค์ กรปกครองส่ วนท้ องถิ่น(นายก อบจ.,อบต.,
เทศบาล.ฯ)
บทบาทหน้ าที่
1. มีหน้ าทีค่ ุ้มครองสวัสดิภาพเด็กทีอ่ ยู่ในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบ
2. ดูแลและตรวจสอบสถานรับเลีย้ งเด็ก,สถานแรกรับ,สถาน
สงเคราะห์ ,สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
สถานพินิจทีอ่ ยู่ในเขตอานาจ
3. รายงานผลการตรวจสอบต่ อคณะกรรมการคุ้มครองเด็กฯ
4. มีอานาจหน้ าที่เช่ นเดียวกับพนักงานเจ้ าหน้ าที่
บทบาทหน้ าที่ของพนักงานอัยการ
1. เป็ นที่ปรึกษาด้ านกฎหมายแก่ ผู้ปฏิบัติหน้ าที่และประชาชน
2. ยืน่ คาร้ องขอขยายระยะเวลาการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเบือ้ งต้ น
3. ยืน่ คาร้ องขอให้ ศาลสั่ งวิธีการเพือ่ ความปลอดภัยแก่เด็ก
4. ยืน่ คาร้ องขอให้ ศาลคุ้มครองสิ ทธิของเด็กและผู้ปกครองตามที่
กฎหมายให้ อานาจ เช่ น ตั้งผู้ปกครองเด็ก , ตั้งผู้อนุบาลเด็ก ,
ตั้งผู้จัดการมรดก, ขอรับบุตรบุญธรรม เป็ นต้ น
5. เป็ นทนายแก้ ต่างให้ แก่ พนักงานเจ้ าหน้ าที่ ที่ถูกฟ้องเพราะปฏิบัติ
หน้ าที่
6. เป็ นโจทก์ ฟ้องผู้กระทาผิดกฎหมายอาญา
บทบาทหน้ าที่พเิ ศษของปลัดกระทรวง ผวจ. - ผว.กทม
1. มีอานาจส่ งเด็กเข้ ารับการสงเคราะห์ ในกรณีที่ผ้ ปู กครองไม่ ให้ ความ
ยินยอมโดยไม่ มีเหตุสมควรหรือไม่ อาจให้ ความยินยอมได้
2. กาหนดระยะเวลา ขยายหรือย่ นระยะเวลาในการสงเคราะห์ เด็ก
3. สั่ งให้ เด็กพ้ นจากการสงเคราะห์ และมอบตัวเด็กให้ แก่ ผ้ ูปกครอง
4. สั่ งให้ เด็กที่ได้ รับการสงเคราะห์ และอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์ แล้ว ได้ รับ
การสงเคราะห์ ต่อไปจนอายุ 20 ปี บริบูรณ์ หรือต่ อไปจนถึงอายุ 24 ปี
บริบูรณ์ ถ้ ามีเหตุจาเป็ น
5. สั่ งให้ ใช้ วธิ ีการคุ้มครองสวัสดิภาพทีเ่ หมาะสมแก่ เด็กทีเ่ สี่ ยงต่ อการ
กระทาผิด
6. สั่ งการตามที่เห็นสมควรเกีย่ วกับวิธีการสงเคราะห์ หรือคุ้มครองสวัสดิ
ภาพแก่ เด็กตามที่ผ้ ูปกครองสวัสดิภาพเสนอความเห็น
7. แต่ งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กคราวละ ไม่ เกิน 2 ปี
8. จัดตั้งสถานรับเลีย้ งเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถาน
คุ้มครองสวัสดิภาพ และสถาน พัฒนาและฟื้ นฟู ภายในเขตอานาจ
รับผิดชอบ
9. สนับสนุนหน่ วยงานอืน่ ของรัฐจัดตั้งเฉพาะสถานรับเลีย้ งเด็กในเขต
10. ออกใบอนุญาตและเพิกถอนใบอนุญาตกรณีทผี่ ้ ูอนื่ จัดตั้งสถานรับ
เลีย้ งเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และ
สถานพัฒนาและฟื้ นฟูในเขตอานาจ
11. กากับดูแลและส่ งเสริมสนับสนุนการดาเนินงานของสถานรับเลีย้ ง
เด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพและสถาน
พัฒนาและฟื้ นฟูในเขตอานาจ
12. แต่ งตั้งและถอดถอนผู้ปกครองสวัสดิภาพ
สถานที่สาหรับสงเคราะห์
และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
 สถานรับเลีย้ งเด็ก
 สถานแรกรับ
 สถานสงเคราะห์
 สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
 สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
สาระสาคัญ
* ลักษณะสถานที่
*การขออนุญาตและเพิกถอน
* การควบคุมดูแล
*บทบาทหน้ าที่
* ผู้ปกครองสวัสดิภาพ * ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพ
* ข้ อห้ ามสาหรับผู้มหี น้ าทีค่ ุ้มครองเด็ก
การควบคุมและตรวจสอบพนักงานเจ้ าหน้ าที่
ผูม
้ ห
ี น้าทีค
่ วบคุมและตรวจสอบ
 คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่ งชาติ
 คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และ
กรุ งเทพมหานคร
 ศาลคดีเยาวชนและครอบครัว หรือศาลจังหวัด
อานาจหน้ าทีข่ องคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่ งชาติ (มาตรา14)
1. เสนอความคิดเห็นต่ อรัฐมนตรีเกีย่ วกับนโยบาย แผนงาน งบประมาณ
และมาตรการในการสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความ
ประพฤติเด็กตามพระราชบัญญัตินี้
2. เสนอความเห็นต่ อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงและระเบียบเพือ่
ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
3. วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังเกีย่ วกับการ
รับเงิน การจ่ ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และจัดหาผลประโยชน์ ของกองทน
4. วางระเบียบเกีย่ วกับวิธีการดาเนินการค้ มครองสวัสดิภาพเด็กตาม
มาตรา 47
5. วางหลักเกณฑ์ ในการแต่ งตั้งพนักงานเจ้ าหน้ าที่
6. ให้ คาปรึกษา แนะนา และประสานงานแก่หน่ วยงานของรัฐและ
เอกชนที่ปฏิบัติงานด้ านการศึกษา การสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ
และส่ งเสริมความประพฤติเด็กรวมทั้งมีอานาจอานาจเข้ าไปตรวจสอบ
ในสถานรับเลีย้ งเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานค้ มครอง
สวัสดิภาพ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู สถานพินิจ หรือสถานที่ที่เกีย่ วข้ อง
กับการสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความประพฤติเด็ก
ทั้งของรัฐและเอกชน
7. ติดตาม ประเมินผลตรวจสอบการดาเนินงาน แนะนาและแก้ไข
ปัญหาให้ แก่ คณะกรรมการค้ มครองเด็กกรงเทพมหานคร และ
คณะกรรมการค้ มครองเด็กจังหวัด
8. ดาเนินการอืน่ ใดที่เกีย่ วกับการสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และ
ส่ งเสริมความประพฤติเด็ก
อานาจหน้ าทีข่ องคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด
และกรุงเทพมหานคร (มาตรา 20)
1. เสนอความเห็นต่ อคณะกรรมการเกีย่ วกับนโยบาย แผนงาน งบประมาณ และ
มาตราการ ในการสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความประพฤติเด็ก
ตามพระราชบัญญัตินี้
2. ให้ คาปรึกษา แนะนา และประสานงานแก่ หน่ วยงานของรัฐและเอกชนที่
ปฏิบัติงานด้ านการศึกษา การสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความ
ประพฤติเด็ก รวมทั้งมีอานาจเข้ าไปตรวจสอบในสถานรับเลีย้ งเด็ก สถานแรกรับ
สถานสงเคราห์ สถานค้ มครองสวัสดิภาพ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู สถานพินิจ หรือ
สถานทีท่ เี่ กีย่ วข้ องกับการสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความ
ประพฤติเด็กของรัฐและเอกชนภายในเขตกรงเทพมหานครหรือเขตจังหวัด
3. กาหนดแนวทางการสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความประพฤติ
เด็กในเขตกรงเทพมหาคร หรือเขตจังหวัด
4. จัดหาทนเพือ่ การสงเคราะห์ ค้ มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความ
ประพฤติเด็กในเขตกรงเทพมหานคร หรือเขตจังหวัด
5. ตรวจสอบหรือเรียกบคคลทีเ่ กีย่ วข้ องมาชี้แจงกรณีมกี ารปฏิบัตติ ่ อ
เด็กโดยมิชอบ
6. เรียกเอกสารหรือพยานหลักฐานใดๆ หรือขอคาชี้แจงจากผู้ที่
เกีย่ วข้ องเพือ่ ประกอบการวินิจฉัยในการปฏิบัตหิ น้ าที่ตาม
พระราชบัญญัตินี้
7. ติดตาม ประเมินผลและตรวจสอบการดาเนินงานเกีย่ วกับการ
สงเคราะห์ และส่ งเสริมความประพฤติเด็กในกรงเทพมาหานครและ
ระดับจังหวัด แล้ วแต่ กรณี และรายงานผลต่ อคณะกรรมการ
8. ดาเนินการอืน่ ใดตามทีค่ ณะกรรมการมอบหมาย
อานาจหน้ าที่ของศาลคดีเด็กและเยาวชน หรือศาลจังหวัด
(มาตรา 38,46)
1. พิจารณาพิพากษาคดีที่ผู้ปกครองฟ้องปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการ
จังหวัดภายใน 120 วัน นับแต่ วนั ทราบคาสั่ ง ให้ เด็กเข้ ารับการสงเคราะห์
หรือเข้ ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ (หากผู้ปกครองไม่ เห็นด้ วย)
2. พิจารณาพิพากษาคดีที่ผู้ปกครองฟ้องพนักงานเจ้ าหน้ าที่ภายใน 120 วัน
นับแต่ วนั ที่ พนักงานเจ้ าหน้ าที่ออกข้ อกาหนดให้ เด็กทางานบริการสั งคม
หรือทางานสาธารณะประโยชน์ (หากผู้ปกครองไม่ เห็นด้ วย)
3. พิจารณาพิพากษาคดีที่มผี ู้กระทาผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
4. พิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่เด็กและเยาวชนเป็ นผู้กระทาผิด
5. พิจารณาพิพากษาคดีแพ่ งเกีย่ วกับสิ ทธิเด็กและครอบครัว
กองทุนคุ้มครองเด็ก
วัตถุประสงค์ ในการใช้ จ่ายเงินกองทุน
เพือ่ เป็ นทุนใช้ จ่ายในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่ งเสริมความประพฤติ
เพือ่ ให้ แก่ เด็ก ครอบครัว และครอบครัวอุปถัมภ์
การบริหารกองทุนค้ มุ ครองเด็ก
*แหล่ งทีม่ าของกองทุน*
*การบริหารกองทุน*
* รัฐบาลจัดสรรงบประมาณทุนประเดิม
#บริหารโดยคณะกรรมการบริหารกองทุน
* รัฐบาลจัดสรรงบประมาณรายจ่ ายประจาปี
#ควบคุมโดยคณะกรรมการติดตามและ
* ผู้บริจาค * ดอกผลกองทุน
* เงินที่กองทุนได้ รับตามกฎหมาย
ประเทศ
ประเมินผล และคณะกรรมการ
คุ้มครองเด็กแห่ งชาติ
* เงินอุดหนุนจากองค์ กรระหว่ าง
แนวคิดในการคุ้มครองเด็กให้ สัมฤทธิผลและยัง่ ยืน
# เด็กเรียนรู ้ (SELF LEARNING)
* เด็กเป็ นศูนย์ กลาง ทุกภาคส่ วนร่ วมกันฝึ กเด็กให้ เรียนรู้ ได้ ด้วยตนเอง
# ร ัฐอุม
้ ชู (PROTECTION)
* รัฐต้ องปกป้ องคุ้มครองเด็กให้ พ้นจากภยันตรายโดยสร้ างภูมิคุ้มกันแต่ แรกเกิด
# คุณครูอบรม (TEACHING)
* โรงเรียน สถานศึกษา ครู อบรมสั่ งสอนเด็กทั้งทางวิทยาการและการดาเนินชีวติ ที่เหมาะสม
# ชุมชนดูแล (COMMUNITY EYES)
* ชุ มชนมีส่วนช่ วยเหลือเฝ้ าระวังดูแลเด็ก จัดสิ่ งแวดล้ อมให้ เหมาะสม
ิ (LOVE)
# พ่อแม่ใกล้ชด
* ธรรมชาติของพ่อแม่ ต้องเลีย้ งดูลูกอย่ างใกล้ ชิด ด้ วยความรักและความเข้ าใจ
# แนบสนิทหล ักธรรม (MORAL)
* ทุกฝ่ ายนาหลักธรรมเป็ นแนวทางในการดาเนินชีวติ ของตนเองและเด็ก
อ.สาโรช
โครงสร้ างกระบวนการเรียนรู้ (วิทย์ )
คน
(สมอง)
กาย
จิต
ประสาทรับรู้
ตา
หู
จมูก
ปฏิกริยาโต้ ตอบ
ลิน้ กาย (สั มผัส)
ใจ(รู้ สึกเอง)
รู้ สึก จา คิด
แสดงปฏิกริยา
สิ่ งแวดล้ อมรอบกาย
ครอบครัว
เพือ่ น
ฮีโร่ , สื่ อ
โรงเรียน
ชุมชน
สั งคม
รับรู้
กาย
ทา
ควบคุม
สติ
สั มปชัญญะ
จิต
พูด
รู้สึก
ผล (ปัญหา)
ต้ นเหตุปัญหา
รู้ เหตุแก้ ไขได้
รู้ วธิ ีปัญหาหมด
นึกคิด
อ.สาโรช
โครงสร้ างกระบวนการเรียนรู้ (พุทธ)
คน (ขันธ์ ห้า)
*สมอง*
กาย (รู ป)
จิต (นาม)
ประสาทรับรู้ (อายตนะหก)
ตา
หู
จมูก
ลิน้ กาย (สั มผัส)
ปฏิกริยาโต้ ตอบ (อาการจิต) รับรู้ (วิญญาณ)
ใจ(รู้ สึกเอง)
แสดงปฏิกริ ิยา (กรรม)
สิ่ งแวดล้ อมรอบกาย
(อายตนะภายนอก)
อ.สาโรช
ครอบครัว
เพือ่ น
ฮีโร่ , สื่ อ
โรงเรียน
ชุมชน
สั งคม
รู้ สึก (เวทนา) จา (สั ญญา) คิด (สั งขาร)
กาย (รู ป)
ทา (กายกรรม)
จิต (นาม)
พูด (วจีกรรม) รู้ สึก (ทุกข์ -สุ ข)
ผล (ปัญหา)
ต้ นเหตุปัญหา
รู้เหตุแก้ ไขได้
รู้วธิ ีปัญหาหมด
ควบคุม
- สติ
- สมาธิ
- ปัญญา
นึกคิด (ปรุ งแต่ ง)
ทุกข์
สมุท ัย(อวิชชา)
นิโรธ
มรรค(วิชชา)
สู ญญตา
(หัวใจพุทธธรรม)
รู้ พร้ อมน้ อมดูจิต
กิเลสพลันดับลง
เห็นฐานคิดโลภโกรธหลง
ใจธารงสู ญญตา
สติปัฐฐานสี่
บาเพ็ญเป็ นวิชชา
มรรควิถีไตรสิ กขา
ทาขันธ์ ห้าว่ างไตรวัฏฏ์
ประจักษ์ แจ้ งสั จจะ
ตถาตานุวตั
ไตรลักษณ์ อะริยะสั จจ์
อิทัปปัจจยตา
ปฏิจจสมุปบาท
เพียรหมัน่ ดับสั ญญา
ไม่ ประมาทอวิชชา
ทุกผัสสาแค่ รับรู้
ไม่ มตี ูและสู
ทุกสิ่ งล้ วนเกิดอยู่
ไม่ ใช่ กแู ละของกู
เพียงชั่วครู่ แล้ วดับไป
ไม่ ยดึ ไม่ ถือมัน่
ธรรมะและกายใจ
เพราะรู้ ทันปล่ อยมันไป
ใช่ อนื่ ใดสู ญญตา
นิพพาน
มรรค
ผล
อ.สาโรช