r2r_conceptual_framework_15_jan_56

Download Report

Transcript r2r_conceptual_framework_15_jan_56

Conceptual Framework ใน
งานวิจย
ั R2R
นพ. สุธรี ์ รัตนะมงคลกุล
ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสงั คม
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
1
R2R
แนวความคิดทฤษฎี
ความอยากรู ้ ปรากฏการณ์
ขัน
้ ตอนของการวิจัย
สร ้างคาถามการวิจัย
ตรวจสอบงานวิจัยในอดีต
ั เจน
การกาหนดคาถามวิจัยทีช
่ ด
กรอบแนวคิดการวิจัย
ตัวแปร
ทฤษฎีทใี่ ช ้
สมมุตฐิ าน
การเตรียมข ้อมูล
การวิเคราะห์ข ้อมูล
สถิต ิ
การตีความ
การออกแบบการวิจัย
กลุม
่ ตัวอย่าง
ตัวแปร
การแทรกแซง
การอภิปราย
การเขียนรายงาน
วิธก
ี ารเก็บข ้อมูล
2
โมเดลของการดูแลแบบ palliative ca
Conceptual Framework




เป็ นการสรุปความคิดของผู ้ทาวิจัยต่อภาพรวมของการวิจัย
่ื่
เป็ นการแสดงความเชอมโยงระหว่
างการทบทวนวรรณกรรม
กับคาถามวิจัยของนักวิจัย
ั พันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ทีก
เห็นความสม
่ าหนดไว ้เป็ นข ้อ
ึ ษาวิจัย ทัง้ ตัวแปรต ้นและตัวแปรตาม
สมมุตฐิ านในการศก
เป็ นอย่างไร
ั พันธ์ระหว่าง
อาจแสดงในรูปแผนผังความคิดแสดงความสม
ตัวแปร
4
http://ruchareka.wordpress.com/2009/08/07/กรอบแนวคิดในการวิจย
ั -conceptual-framewo/
รูปแบบการนาเสนอ Conceptual
framework
1.
2.
3.
4.
5.
ตาราง (Tabular)
แผนผัง (Diagram)
สมการ (Equation/ Formula)
บรรยาย (Description)
ผสมผสาน (Combination)
5
1. Tabular format
จาก Coronary Artery
Disease and
Peripheral Vascular
Disease in Chronic
Kidney Disease: An
Epidemiological
Perspective
By Austin G. Stack,
In Cardiol Clin 23
(2005) 285–298
6
2. Diagram Format
The AKIN conceptual model of acute kidney
injury.
©2008 by American Society of Nephrology
Palevsky P M CJASN 2008;3:933-934
Schematic representation of relationships
8
Graphics from http://classes.aces.uiuc.edu/ACES100/Mind/c-m2.html
3. Equation/ Formula Format
กรอบแนวคิดของการศึ กษาปัญหาสุขภาพของชุมชน
ปัญหา = สิ่ งทีต
่ ้องการ – สิ่ งทีม
่ อ
ี ยู่
x ความ
ตระหนัก
เครือ
่ งมือสารวจระบาดวิทยวิถช
ี วิ
ี ิ ตชุมชน
ประชาคม
9
ประโยชน์ของกรอบแนวคิดวิจยั
–
–
–
–
–
–
ช่วยบอกรายละเอียดของการตอบคาถามนอกจากการ
อธิบายวาศึ
งศึ กษาไป “ทาไม”
่ กษา”อะไร” แลวรวมถึ
้
และ “อยางไร”
่
เป็ นการกาหนดชุดคาอธิบายทีส
่ มเหตุสมผลตอข
่ อมู
้ ลจาก
คาถามวิจย
ั
เป็ นตัวกรองในการเลือกหาคาถามวิจย
ั ทีเ่ หมาะสมรวมถึง
วิธก
ี ารทีเ่ หมาะสมในการเก็บขอมู
้ ล
เป็ นจุดอางอิ
งสาหรับการอภิปรายตอวรรณกรรม
วิธก
ี าร
้
่
วิจย
ั และผลการวิจย
ั
ช่วยกาหนดขอบเขตของงานวิจย
ั ทาให้มุงประเด็
นอยาง
่
่
ชัดเจน
เป็ นตัวเชือ
่ มโยงการทบทวนวรรณกรรมกับวิธก
ี ารวิจย
ั และ 10
ผลการวิจย
ั
การสร้างกรอบแนวคิดการวิจยั




แนวความคิดทีม
่ าจากทฤษฎีทม
ี่ เี นื้อหาสาระตรงกับเรือ
่ งที่
จะทาวิจย
ั มากทีส
่ ุดเพือ
่ อธิบายความสั มพันธระหว
างตั
วแปร
์
่
ตางๆที
ส
่ อดคลองกั
บประเด็นทีเ่ รากาลังโดยอาจนามาจาก
่
้
การทบทวนวรรณกรรม
เป็ นแนวความคิดทีเ่ ขาใจง
ายที
ส
่ ุด ซึง่ สามารถอธิบาย
้
่
ความสั มพันธระหว
างตั
วแปรได้ โดยไมยุ
บซ้อน
์
่
่ งยากซั
่
มากเกินไป
เป็ นแนวความคิดทีม
่ ป
ี ระโยชนในทางปฏิ
บต
ั ห
ิ รือเชิง
์
นโยบายทีส
่ ามารถกาหนดมาตรการตางๆได
อย
น
่
้ างเป็
่
รูปธรรม
ทุกแนวคิดจะตองน
ามาผสมกับแนวความคิดและ
้
ประสบการณของผู
วิ
ั เอง
์
้ จย
11
การสร ้างกรอบแนวคิดในการวิจัย


เป็ นขัน
้ ตอนของการนาเอาตัวแปรและประเด็นทีต
่ ้องการ
ื่ มโยงกับแนวคิดทฤษฏีทเี่ กีย
ทาวิจัยมาเชอ
่ วข ้องในรูป
ของคาบรรยาย แบบจาลองแผนภาพหรือแบบผสม
ั เจน แสดงทิศทางของความสม
ั พันธ์ ของตัว
จะต ้องชด
ึ ษา สามารถใชเป็
้ นกรอบในการกาหนด
แปรทีจ
่ ะศก
ขอบเขตของการวิจัย การพัฒนาเครือ
่ งมือในการวิจัย
รูปแบบการวิจัย ตลอดจนวิธก
ี ารรวบรวมข ้อมูลและ
วิเคราะห์ข ้อมูล
12
ผศ.ดร.กมลพร สอนศรี คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา)
แหล่งทีม
่ าของกรอบแนวคิดการ
วิจัย
1. ผลงานวิจย
ั ทีเ่ กีย
่ วของ
้


ควรเลือกจากผลงานวิจย
ั ทีม
่ ี คุณภาพ เชือ
่ ถือ ได้
การทบทวนผลงานวิจย
ั สามารถทาได้ มากเท่าไรยิง่ ดีเท่านั้น
เพราะจะทาให้เราทราบวามี
ส
่ าคัญ
่ ตวั แปรใดบางที
้
2. ทฤษฎีทเี่ กีย
่ วข้อง



เพือ
่ ให้ไดกรอบแนวความคิ
ด ทีช
่ ด
ั เจน มีเหตุมผ
ี ล
้
เพือ
่ ผูวิ
ั จะไดทราบว
า่ ตัวแปรใดสาคัญ และมีความสั มพันธ์ กัน
้ จย
้
อยางไร
่
คาอธิบายหรือ ข้อสรุปต่าง ๆ ทีไ่ ด้จากการวิจย
ั ในการวิเคราะห์
หรือสรุปผลจะไดมี
้ ความหนักแน่นและเข้มแข็งในเชิงทฤษฎี
3. กรอบแนวคิดของผู้วิจย
ั เองทีส
่ ั งเคราะหขึ
้ เอง
์ น

นอกจากการศึ กษาผลงานวิจย
ั และทฤษฎีตางๆที
เ่ กีย
่ วข้องแลว
่
้ กรอบ
แนวคิดยังจะไดมาจากความคิ
ดและประสบการณการท
างานของผูวิ
ั
้
้ จ13ย
์
เองอีกดวย
้
ประโยชน์ของกรอบแนวคิดการวิจัย
1. ขัน
้ ตอนการเก็บรวบรวมขอมู
้ ล
เกีย
่ วข้องโดยตรงกับการออกแบบ
การวิจย
ั เพราะแบบของการวิจย
ั
เกีย
่ วข้องกับการวัดตัวแปรตาม
และตัวแปรอิสระ
2. ขัน
้ ตอนการออกแบบวิจย
ั


ชีใ
้ ห้เห็ นทิศทางการวิจย
ั ประเภท
ของตัวแปร และรูปแบบของ
ความสั มพันธระหว
างตั
วแปร
่
์
เลือกวิธก
ี ารทีจ่ ะใช้เก็บข้อมูล
3. ขัน
้ ตอนการวิเคราะหข
์ อมู
้ ล
4. ขัน
้ ตอนการตีความ
กรอบแนวคิดจะชีใ้ ห้เห็ นถึง

แนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูล
การตีความหมาย ผลทีไ่ ดจาก
้ 14
การวิเคราะห ์ อาศั ยกรอบแนวคิด
ช่วยทาให้ในการวิเคราะหครบถ
้วน
์

1. ทิศทางการวิจยั
ประเภทของตัวแปร และรูปแบบของความสั มพันธระหว
างตั
วแปร
์
่
Factors effect Acute Pain
- Lumbar puncture
- Bonemarrow aspiration
- Venipuncture
- Intravenous cannulation
Operative pricedure
- Minor, moderate, major
Pharmacological pain
management: general
anesthetic, topical
anesthetic, NSAIDS,
opioids
Age 1-16 years old**
(Age : neonate, child, adolescent)
Etiology
RX
Children undergoing medical procedures**
-Lumbar puncture
-Bone marrow aspiration
-Operations: post- operative pain
Acute
pain in
children
Etiology
Pain induce stimuli
- Personality
- Learning
- Expectation
- previous pain
experience
Conceptual framwork
RX
Confounding
factors
Sex, age, pain
expereince, coping
strategies,Disease
s status, Religoius
&Cultural belief
Outcomes
H
Pain & anxiety
ratings, distress &
discomfort
Expression of pain
- affective
- cognitive
maturation
- interpersonal
components
15
การศึ กษาการเจ็บปวดกับความวิตกกังวลในผูป
้ ่ว
2. การแปลงแนวคิดการวิจยั ไปสู่การสรางแบบสอบถาม
้
การศึ กษาความเป็ นปึ กแผนของกลุ
ม
่
่
16
สถิติที่ต้องการใช้
ปัจจัยส่วนบุคคล
- เพศ
t-test
- อายุ
F-test
- การศึกษา (ภาค
ปกติ/กศ.ปบ.)
- อาชีพ - คณะที่
ศึกษา 2
- ผู้ให้บริการ
- สารสนเทศ
t-test
- สถานที่
F-test
- ครุภัณCorrelation
ฑ์
x
-พฤติ
สถาบั
นการศึ
ษา
กรรมใช้
บริกการ
ของห้องสมุด
1. ลักษณะการเข้าใช้
บริการ
ระดับความพึง
พอใจของผู้
มาใช้บริการ
การบริหารจัดการ
- การวางแผนเพื่อบริการ
F-test
- จัดองค์กรให้บริการ - การจูงใจ
มาใช้บริการ
17
- การควบคุมคุณภาพ
การบริหารจัดการสานักวิทยบริการทีม
่ ผ
ี ลตอความพึ
งพอใจผู้ใช้บริการห้องสมุด
่
4. การใช้กรอบแนวคิดกับการอภิปรายผลการศึ กษา
องคประกอบของ
discussion
์
1.
2.
3.
4.
5.
บอกผลการศึ กษาตามวัตถุประสงค ์ (เชือ
่ มโยงกับ
conceptual framework)
แสดงผลการศึ กษาเดิม (อาศัยขอมู
้ ลจาก literature
reviews)
อภิปรายถึงความเหมือนและความตางระหว
างผลการศึ
กษา
่
่
ใหมกั
ปทีไ่ ด้
่ บกับผลการศึ กษาเดิมและการนาไปสู่ขอสรุ
้
บอกขอจ
นทีก
่ าลังอภิปรายนี้
้ ากัดของการศึ กษานี้ตอประเด็
่
(หากมี)
อาจบอกขอเสนอแนะของการน
าไปใช้ทัง้ ในทางปฏิบต
ั ิ
้
หัวขอวิ
ั ในอนาคตและวิธก
ี ารวิจย
ั ทีค
่ วรแนะนา
18
้ จย
ขอจ
ั
้ ากัดของกรอบแนวคิดการวิจย

อาจไดรั
ของ
้ บอิทธิพลจากประสบการณและความรู
้
์
นักวิจย
ั ซึง่ อาจทาให้เกิดอคติส่วนบุคคลได้

กรอบแนวคิดวิจย
ั อาจมีอท
ิ ธิพลตอวิ
ี ด
ิ ของนักวิจย
ั ได้
่ ธค
และอาจส่งผลตอการให
่
้ความสาคัญและการละเลยบาง
ประแด็นได้

จึงควรทบทวนกรอบแนวคิดวิจย
ั อีกครัง้ เมือ
่ สิ้ นสุดเพือ
่
ประเมินงานทีท
่ า
19
ความแตกต่างของ frameworks



Conceptual framework กรอบแนวคิด/
กรอบความคิด
Theoretical framework กรอบทฤษฎี
Operational framework กรอบการ
ดาเนินการวิจัย หรือ Research flow
chart
20
Theoretical framework
ทฤษฎีแบบแผนความเชือ
่ ด้านสุขภาพ
(Health Belief Model)
21
Population: all piglets
- Healthy piglet
- Salmonella free
- Hybrid piglets
- 15 kg per piglet
Operational Framework
(กรอบการปฏิบต
ั งิ าน)
Sample: 16 piglets
Control group
(4 piglets)
Group A
(4 piglets)
1% of WV in feed
Treatment group
(12 piglets)
Group B
(4 piglets)
3% of WV in feed
Group C
(4 piglets)
5% of WV in feed
Challenge with Salmonella Enteritidis suspension (1x 107 cfu) in all piglets
Fresh fecal samples are collect from each piglet on day 1 to 7 after challenge.
22
The numbers of colonies count of Salmonella Enteritidis on XLD
Conceptual framework for
qualitative vs. quantitative research
Qualitative research (Gilgan, 2004; Perry, 1995)



Broad structure for data collection and analysis
Sensitises researcher - what to look for / how to look
Progressively refined, may incorporate experiential knowledge
- built as information comes to light
Quantitative research



Theory
Hypothesis
Identifying, validating and operationalising variables
(see for e.g. Dickson, Derevensky & Gupta, 2002)
23
การจัดการปัญหาจากการใช้ยาในหน่วยบริการปฐมภูมิ(DRPs)
โดย กิตติศักดิ์ เหลืองใส เภสัชกรปฏิบัติการ สานักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี
หน่วยงาน กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข
24