Transcript การติดตั้ง
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น INTRODUCTION TO COMPUTER AND INFORMATION TECHNOLOGY 1 ณัฏฐวุฒิ เอี่ยมอินทร์ ศน.บ. (สังคมศาสตร์), วท.ม. (เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา) Tel.08-1931-5306 e-Mail : [email protected] 2 LESSON V • ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) • ระบบการเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองตัวขึ้นไป เพื่อให้สามารถทา การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกันและสามารถที่จะมี ระบบเครือข่ายย่อยๆ ซ้อนอยู่ในตัวมันได้ • ใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น เครื่องพิมพ์ พื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ • ใช้ข้อมูลในไฟล์ร่วมกัน • ความง่ายในการดูแลระบบ 3 COMPUTER NETWORK • ช่องทาง หรือ สื่อกลาง(Media)ในการส่งผ่านข้อมูล ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ไป สิ่งที่ต้องคานึงในการเลือกช่องทางที่ต้องการคือ • อัตราเร็วในการส่งผ่านข้อมูล (Transmission Rate) • ระยะทาง (Distance) • ค่าใช้จ่าย(Cost) • ความสะดวกในการติดตั้ง (Ease of Installation) • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม (Resistance to Environmental condition) • การใช้งานจริงอาจใช้ได้มากกว่าหนึ่งช่องทางพร้อมๆกัน ขึ้นกับความเหมาะสม ประเภทของเครือข่าย • Local Area Network (LAN) • Metropolitan Area Network (Man) • Wide Area Network (Wan) ประเภทของเครือข่าย • Local Area Network (LAN) เครือข่ายเฉพาะที่ เป็นเครือข่ายที่ใช้ในองค์ส่วนใหญ่ เช่น มหาวิทยาลัย บริษัท ประเภทของเครือข่าย • Metropolitan Area Network (Man) เป็นกลุ่มของเครือ Lan ที่นามาเชื่อมต่อกัน ในบริเวณ ใกล้เคียง เช่นในเมืองเดียวกัน ประเภทของเครือข่าย • Wide Area Network (Wan) เป็นเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นกว่า Man เป็นการนาเอาเครือข่าย Man มาเชื่อมต่อ กันที่ใหญ่มากขึ้น ครอบคลุ่มทั้งภูมิภาค ประเทศ ทั้งทวีป จนเป็น อินเทอร์เนตในที่สุด 8 COMPUTER NETWORK • ระบบแบบมีสาย (Wired Line) • ระบบแบบไม่มีสาย (Wireless) 9 WIRED LINE • สายเคเบิลสาหรับการติดต่อระยะไกล โดยทั่วไปก็คือ ระบบสายโทรศัพท์แบบดั้งเดิม (POTS – Plain Old Telephone Service) • สายสัญญาณที่มีใช้ในปัจจุบัน จะมีชนิดต่างๆตามลักษณะเครือข่ายและความต้องการในการใช้งาน ดังนี้ • UTP • Coaxial Cable • Fiber Optic 10 WIRED LINE (ต่อ) • สายคู่เกลียวแบบมีชีลต์และไม่มีชีลต์ (Shielded and Unshielded Twisted-Pair Cable) • เป็นสายที่มีราคาถูกที่สุด ปกติแล้ว สายคู่บิดเกลียวจะหมายถึง สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีชิลต์ (UTP) ซึ่งใช้ในการเดินสายโทรศัพท์และใช้ในระบบเครือข่ายระยะใกล้ • สายคู่บิดเกลียวแบบมีชิลต์(STP) จะมีฉนวนโลหะหุ้ม ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีขึ้น • สายเกลียวคู่หนึ่งคู่จะแทนช่องทางสื่อสาร(channel) ได้หนึ่งช่องทาง • การใช้งานจริงอาจจะรวมสายจานวนหลายร้อยคู่เข้าด้วยกันเป็นสายใหญ่เพื่อให้สามารถใช้งานได้ พร้อมๆกัน ตัวอย่างเช่น ระบบสายโทรศัพท์ 11 WIRED LINE (ต่อ) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สามารถส่งข้อมูลไกลกว่าสายแบบคู่บิดเกลียวแต่มีข้อเสียคือ ราคาสูงกว่า • สามารถโคแอกสามารถส่งข้อมูลได้ทั้งแบบเบสแบนด์และบรอดแบนด์ • ปัจจุบันการใช้งานสายโคแอกกับระบบคอมพิวเตอร์เริ่มลดลง เนื่องจากการพัฒนาของสาย UTP ที่ สามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นเรื่อยๆ • สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic Cable) • มีแบนด์วิธที่กว้างมาก ทาให้สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากได้ด้วยความเร็วสูง • สามารถส่งได้ระยะไกล, ปลอดจากการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า • ข้อเสียคือ ติดตั้งและบารุงรักษายาก รวมทั้งมีราคาแพงที่สุด WIRED LINE (ต่อ) เปรียบเทียบการใช้งานสายเคเบิล UTP,STP COAXIAL FIBER OPTIC ค่าใช้จ่าย ต่า ปานกลาง สูง ระยะทาง สั้น( 100 เมตร) 500 เมตร 2 กิโลเมตร การติดตั้ง ง่าย ไม่ยาก ต้องใช้ความชานาญ สื่อที่เหมาะสม ข้อมูล เสียง,ภาพ,ข้อมูล ข้อมูลมัลติมีเดีย ความเร็ว ปานกลาง ปานกลาง สูงมาก การรบกวนของคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า รบกวน รบกวน ไม่มีผลใดๆ การดักสัญญาณ สามารถทาได้ สามารถทาได้ ไม่สามารถทาได้ 13 WIRELESS • ระบบไมโครเวฟ (Microwave system) • ใช้วิธีส่งสัญญาณทีม่ ีความถี่สูงกว่าคลื่นวิทยุเป็นทอดๆ จากสถานีหนึ่งไปยังอีกสถานีหนึ่ง • บ่อยครั้งเรียกว่าสัญญาณแบบ เส้นสายตา (Line of sight) เนื่องจากสัญญาณที่ส่งจะไปได้ไม่ไกลกว่าเส้น ขอบฟ้าของโลก เพราะสัญญาณเดินทางเป็นเส้นตรง • ดังนั้นสถานีจะต้องพยายามอยู่ในที่ๆสูงเพื่อช่วยให้ส่งสัญญาณได้ไกลขึ้น • ข้อดี ระบบไมโครเวฟราคาถูก ติดตั้งง่าย และมีอัตราการสูงข้อมูลสูง • ข้อเสีย สัญญาณอาจถูกรบกวนได้จากอุณหภูมิ พายุหรือฝน 14 WIRELESS (ต่อ) • ระบบดาวเทียม (Satellite) ทางานคล้ายระบบไมโครเวฟในส่วนของการใช้หลักการยิงสัญญาณจากแต่ ละสถานีไปยังจุดหมายที่ต้องการ • แต่ใช้ดาวเทียมในการยิงสัญญาณไปยังจุดหมายที่ต้องการ • สัญญาณเชื่อมต่อขาขึ้น (Up-link) และ สัญญาณเชื่อมต่อขาลง (Down-link) • ข้อดี :ใช้ดาวเทียมมีพิกัดแน่นอนเพียง 3 ดวงสามารถส่งไปได้ทุกจุดบนโลก • ข้อเสีย : ระบบดาวเทียมถูกรบกวนได้จากสภาพอากาศ ฝน หรือพายุ,ตาแหน่งของการโคจร,เวลาหน่วง (Delay Time) 15 WIRELESS (ต่อ) • ระบบอินฟราเรด (Infrared) • เป็นระบบเดียวกับ Remote Control ของเครื่องรับโทรทัศน์ • ข้อจากัดคือ ระยะทางรับส่งข้อมูลไม่ไกล, ห้ามมีสิ่งกีดขวาง • บลูทูธ (Bluetooth) • ใช้คลื่นวิทยุความถี่ 2.4 GHz เป็นสื่อในการรับส่งข้อมูล • ความเร็วประมาณ 1 Mbps, มีการเข้ารหัสข้อมูลป้องกันการดักฟังสัญญาณ • พัฒนาโดย Bluetooth Special Interest Group (Bluetooth SIG) • ปัจจุบันได้นาใช้กับอุปกรณ์แบบพกพา คือ PDA และโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากไม่จาเป็นต้องจัด ตัวอุปกรณ์ให้พอร์ตรงกันเหมือนระบบอินฟราเรด 16 WIRELESS (ต่อ) • ระบบเครือข่ายไร้สาย หรือ ระบบเครือข่ายแบบ Wireless LAN หรือ WLAN เป็นการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายแบบไร้สาย (ไม่จาเป็นต้องเดินสายเคเบิ้ล) เหมาะสาหรับการติดตั้งในสถานที่ที่ ไม่สะดวกในการเดินสาย หรือในสถานที่ที่ต้องการความสวยงาม เรียบร้อย และเป็นระเบียบ เช่น สนามบิน โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น 17 WIRELESS (ต่อ) • Wi-Fi public hotspot คือ จุดที่ให้บริการ อินเทอเนตไร้สาย เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้ต่อใช้งาน จุด ที่ให้บริการมักจะเป็นพื้นที่สาธารณะที่คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการเป็นจานวนมาก • ผู้ให้บริการ public hotspot ทุกแห่งจึงต้องเลือกเทคโนโลยีที่ได้เสถียร ได้รับการยอมรับมีการใช้ งานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีทุกแห่งก็ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานคือ IEEE 802.11 หรือ Wi-Fi คุณสมบัติที่จาเป็นของ Wi-Fi public hotspot คือ • ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายไม่ต้องมีการลง ซอร์ฟแวร์เพิ่มเติม • ผู้ใช้สามารถใช้งานได้จากหลากหลาย operating system (OS) • ผู้ใช้สามารถหาอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ง่ายในราคาถูก สามารถทางานร่วมกับ hotspot ได้ 18 โครงสร้างของ WI-FI PUBLIC HOTSPOT • • • • ประกอบไปด้วย สามส่วนหลักคือ Wireless access Hotspot gateway Authentication server 19 WIRELESS ACCESS • เป็นส่วนที่ผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านทางเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi การเชื่อมจะผ่านทางอุปกรณ์ที่ชื่อว่า access point ซึ่งให้บริการ wireless access อุปกรณ์ access point ที่ใช้ในงาน public hotspot ก็จะมีคุณสมบัติโดยทั่วไปเช่นเดียวกับ access point ที่ใช้บ้านหรือ Office Authentication server • เป็นศูนย์รวมฐานข้อมูลของบัญชีผู้ใช้ ซึ่งอาจจะเก็บข้อมูลด้านการพิสูจน์ตัวตนหรือ ข้อมูลด้านอื่นๆ เช่น ระยะเวลาคงเหลือในการต่อ Internet ของผู้ใช้ 20 HOTSPOT GATEWAY • เป็นส่วนประกอบหลักของ public hotspot หน้าที่ของ hotspot gateway มีดังต่อไปนี้ • Access control หรือ gatekeeper • การพิสูจน์ตัวตน (user authentication) • การกาหนด IP address ให้กับ ผู้ใช้ • การกาหนดระยะเวลา และ bandwidth ของ ผู้ใช้ 21 อุปกรณ์ระบบเครือข่าย (NETWORK HARDWARE) • ในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์และสื่อกลางแบบต่างๆ เข้า ด้วยกัน ซึ่งอาจจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล ซึ่งแบ่งได้เป็น • อุปกรณ์รวมสัญญาณ • อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย • เครื่องทวนซ้าสัญญาณ (Repeater) • เราท์เตอร์ (Router) • สวิตซ์ (Switch) 22 NETWORK HARDWARE • Router (เราท์เตอร์) คือ อุปกรณ์ที่ทาหน้าเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล (Wan) ได้ และยังสามารถ เชื่อมต่อเครือข่ายเข้ากับเครือข่ายอื่น ๆ ที่ใหญ่กว่า เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น จะฉลาด กว่า Hub และ Switch 23 NETWORK HARDWARE (ต่อ) • Switch (สวิตซ์) คือ อุปกรณ์เครือข่าย ซึ่งในช่วงแรกนั้นจะเรียกว่า Bridge (บริดจ์) เหตุผลที่เรียกว่า บริดจ์ในช่วงแรกนั้น เพราะส่วนใหญ่บริดจ์จะมีแค่สองพอร์ต ปัจจุบันที่เรียกว่า Switch เพราะหมายถึง บริดจ์ที่มีมากกว่าสองพอร์ต • Switch จะฉลาดกว่า Hub คือ Switch สามารถส่งข้อมูลที่ได้รับมาจากพอร์ตหนึ่งไปยังเฉพาะพอร์ตที่ เป็นปลายทางเท่านั้น ทาให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตที่เหลือสามารถส่งข้อมูลถึงกัน และกันได้ใน เวลาเดียวกัน การทาเช่นนี้ทาให้อัตราการส่งข้อมูล หรือแบนด์วิธไม่ขึ้นอยู่กับจานวนคอมพิวเตอร์ที่ เชื่อมต่อเข้ากับ Switch คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะมีแบนด์วิธเท่ากับแบนด์วิธของ Switch 24 NETWORK HARDWARE (ต่อ) • Hub (ฮับ) หรือบางทีก็เรียกว่า "รีพีตเตอร์ (Repeater)" คือ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มของคอมพิวเตอร์ Hub มีหน้าที่รับส่งเฟรมข้อมูลทุกเฟรมที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่งไปยังทุก ๆ พอร์ตที่เหลือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Hub จะแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของเครือข่าย ฉะนั้นยิ่งมี คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับ Hub มากเท่าใด ยิ่งทาให้แบนด์วิธต่อคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องลดลง ใน ท้องตลาดปัจจุบันมี Hub หลายชนิดจากหลายบริษัท ข้อแตกต่างระหว่าง Hub เหล่านี้ก็เป็นจาพวก พอร์ต สายสัญญาณที่ใช้ ประเภทของเครือข่าย และอัตราข้อมูลที่ Hub รองรับได้ 25 เทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคต • จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Wi-Fi ที่ใช้ๆ กันอยู่ ซึ่งปัจจุบันมีรัศมีบริการประมาณ 100 เมตร มันเกิดมี ความสามารถในการให้บริการรัศมีเพิ่มเป็นหลายสิบกิโลเมตร และความเร็วสูงอีกด้วย ถ้าจังหวัด เล็ก ๆ จังหวัดหนึ่งมี Hot Spot จุดเดียวก็สามารถเชื่อมต่อ Internet รับส่งข้อมูลต่างๆทั้งภาพ และเสียงได้เต็มรูปแบบ จากทุกพื้นที่ในจังหวัด ชื่อเรียกใหม่เพื่อให้แตกต่างว่า "WiMax" 26 ถาม – ตอบปัญหา ข้อสงสัย