ประวัติศาสตร์

Download Report

Transcript ประวัติศาสตร์

BASIC COMPUTER
รายวิชา 080154 คอมพิวเตอร์ เบือ้ งต้ น
(Basic Computer)
ความรู้ เบือ้ งต้ นเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์
 คอมพิวเตอร์ คอื อะไร
 ประวัติคอมพิวเตอร์
 องค์ ประกอบระบบคอมพิวเตอร์
 คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์
 คอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์
 ข้ อมูล สารสนเทศ
 บุคคลากรคอมพิวเตอร์
 ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ และสารสนเทศต่ อชีวติ ประจาวัน
คอมพิวเตอร์ คอื อะไร
 คอมพิ ว เตอร์ (Computer)
คือ อุป กรณ์ ห รื อ เครื่ อ งมื อ
อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถทางานได้ อย่ างอัตโนมัติ ด้วยชุ ดของ
คาสั่ ง หรือโปรแกรม ทีม่ นุษย์ สร้ างขึน้ มีความสามารถใน การ
รับข้ อมูล(input) ประมวลผล(processing) แสดงผล (output)
และจั ด เก็ บ ข้ อมู ล (storage) ได้ ทั้ งภายในและภายนอก
คอมพิวเตอร์ และทางานด้ วยความเร็วสู ง ถูกต้ อง แม่ นยา
คอมพิวเตอร์ คอื อะไร (ต่อ)
ลักษณะสาคัญของคอมพิวเตอร์
เป็ นอุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนิกส์ (electronic device)
 ทางานอย่ างอัตโนมัติ (automatically)
 มีหน่ วยความจาภายใน (internal memory)
 มีความเร็ วในการประมวลผลสู ง (high speed processing)
 มีความถูกต้ องแม่ นยาในการประมวลผล (accuracy processing)
 จัดเก็บข้ อมูลไว้ ภายนอกได้ (external storage)
 ประยุกต์ ใช้ งานได้ กว้ าง (wide application)

ประวัติคอมพิวเตอร์
ยุคที่ 1 : หลอดสุ ญญากาศ
 ยุคที่ 2 : ทรานซิสเตอร์
 ยุคที่ 3 : วงจรรวม
 ยุคที่ 4 : วงจรรวมขนาดใหญ่
 ยุคที่ 5 : ยุคประมวลผลคู่ขนานขนาดใหญ่

ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)

ยุคที่ 1 ค.ศ.1951- ค.ศ. 1958






หลอดสูญญากาศ
ใช้งานเฉพาะทางสาหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ทหาร รัฐบาล
ใช้บตั รเจาะรู (punch card) ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ยงั ทางานช้า เกิดข้อผิดพลาดได้สูง
ราคาแพงมาก
ยากต่อการสร้างโปรแกรมควบคุม
ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
ยุคที่ 1 ตัวอย่ างคอมพิวเตอร์ ในช่ วงแรก เช่ น UNIVAC
ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)

ยุคที่ 2 ค.ศ.1959-ค.ศ.1964
ทรานซิสเตอร์
 หน่ วยความจาภายในเป็ น magnetic core
 หน่ วยความจาภายนอกใช้ magnetic tape ที่มีความจุสูงกว่า
บัตรเจาะรู (punch card)
 โปรแกรมเป็ นภาษาระดับต่า ได้แก่ ภาษาแอสเซมบลี (Assembly)
 มีความเร็ วและความถูกต้องแม่นยาสู งขึ้น
 เริ่ มมีการนาคอมพิวเตอร์ มาใช้ในหน่ วยงานธุ รกิจอย่างแพร่ หลาย

ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
ยุคที่ 2
Transistor
Punch card
Magnetic tape
Diode
Tube
ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
 ยุคที่ 3
ค.ศ.1965-ค.ศ.1970
ใช้วงจรรวมที่เรี ยกว่า ไอซี (Integrated Circuit : IC) แทน
ทรานซิสเตอร์
 ไอซี มีคุณสมบัติทางานได้อย่างรวดเร็ ว มีความเชื่ อถือได้สูงมากกว่า
การใช้ ทรานซิสเตอร์
 ใช้จานแม่เหล็ก Magnetic disk เก็บข้อมูลที่มีจานวนมาก
 ภาษาที่ใช้สร้างโปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์ ยงั คงใช้ภาษาระดับสู ง
เช่น ภาษาเบสิ ก

ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
ยุคที่ 3 ตัวอย่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้แก่ System/630 ของบริษัท IBM เครื่อง
คอมพิวเตอร์ ขนาดเล็ก PDP-11 ของบริษัท DEC (Digital Equipment Corporation)
DEC PDP-11
IBM System/630
ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
 ยุคที่ 4
ค.ศ.1971-1990
ใช้วงจรรวมขนาดใหญ่(Large Scale Integration circuit : LSI)
่ น ชิป(chip)
 มีทรานซิ สเตอร์ (transistor) จานวนหลายพันตัวอยูบ
เรี ยกว่า Microprocessor
 มีประสิ ทธิ ภาพและความเร็ วในการทางานสู งมาก
 ตัวอย่างคอมพิวเตอร์ ยค
ุ นี้ได้แก่ Microcomputer ที่มีการใช้งานอย่าง
แพร่ หลาย

ประวัติคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
ยุคที่ 5
ค.ศ.1990-ปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ ที่มีความสามารถสู งมากๆ ทางานได้อย่างรวดเร็ วมากยิง่ ขึ้น
 หน่วยประมวลผลเป็ น Microprocessor Chip ที่มีความเร็ วสู งมาก เช่น CPU
Intel Pentium III ของบริ ษทั Intel
 มีความฉลาดในการประมวลผล เรี ยกว่า Intelligent Computer ปั ญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence) ระบบผูเ้ ชี่ยวชาญ (Expert System)
 เข้าใจภาษาธรรมชาติของมนุ ษย์(Natural Language)
 ภาษาคอมพิวเตอร์ ที่ใช้เป็ นภาษาระดับสู ง ภาษาแบบ Visual เช่น Visual
BASIC
 มีการประยุกต์ใช้งานทุกด้าน เช่น การประมวลผลด้าน Multimedia

ระบบคอมพิวเตอร์ VS เครื่องคอมพิวเตอร์
คาว่า "ระบบคอมพิวเตอร์ " มีความหมายกว้างกว่าคาว่า "เครื่อง
คอมพิวเตอร์ " เพราะหมายถึงส่ วนทุกส่ วนที่รวมกันแล้วทาให้สามารถใช้
เครื่ องคอมพิวเตอร์ให้เป็ นประโยชน์ได้ การพิจารณาระบบโดยรวมนั้น
จะช่วยให้มีทศั นคติที่กว้างขึ้น และเข้าใจการประยุกต์คอมพิวเตอร์ได้ดี
ขึ้น
เครื่องคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์
ส่ วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
 ฮาร์ ดแวร์
หรือที่เรียกว่ า คอมพิวเตอร์ (Hardware)
ส่ วนต่ างๆของคอมพิวเตอร์ ที่สามารถสั มผัสได้ ฮาร์ ดแวร์ ประกอบด้ วยการติดต่ อระหว่ าง
อุปกรณ์ ทสี่ ามารถควบคุมการทางาน การรับ และการแสดงผล
 ซอฟต์ แวร์
(Software)
กลุ่มของคาสั่ งทีส่ ั่ งฮาร์ ดแวร์ ให้ ทางาน กลุ่มของคาสั่ งนีเ้ รียกว่ าโปรแกรม เช่ น Microsoft
Word
 ข้ อมูล (Data)
รายละเอียดข้ อเท็จจริงต่ าง ๆ เกีย่ วกับบุคคล สิ่ งของ สถานที่ หรือ เหตุการณ์ ใด ๆ ทีส่ นใจ
ศึกษา และนาข้ อมูลเข้ าสู่ ระบบการประมวลผลของคอมพิวเตอร์
 บุคคลากร (People)
บุคลทีป่ ฏิบตั ิงานเกีย่ วข้ องกับระบบงานคอมพิวเตอร์ ใน ด้ านต่ าง ๆ ซึ่งมีความสาคัญต่ อ
ระบบงานมากทีส่ ุ ด
องค์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์
(1) จอมอนิเตอร์
(2) เมนบอร์ ด
(3) หน่ วยประมวลผลกลาง(CPU)
(4) หน่ วยความจาหลัก(RAM memory)
(5) Expansion card
(6) Power Supply
(7) CD-ROM Drive
(8) Hard disk
(9) Keyboard
(10) Mouse
องค์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์
เครื่ องคอมพิ ว เตอร์ (คอมพิ ว เตอร์ ฮ าร์ ด แวร์ ) มี
ส่ วนประกอบด้วยกันหลายส่ วน แบ่งเป็ น 4 ประเภท ดังนี้
 หน่ วยประมวลผล
 หน่ วยความจาหลัก
 หน่ วยรับข้อมูลและแสดงผลข้อมูล
 หน่ วยความจาสารอง
คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์
 อุปกรณ์ นาเข้ า (Input)
อุปกรณ์ ในการรับข้ อมูล และคาสั่ งจากผู้ใช้ เพือ่ ส่ งต่ อไปยัง
หน่ วยประมวลผล ตัวอย่างอุปกรณ์ เช่น
คีย์บอร์ ด
เม้ าส์
กล้ องเว็บแคม
เครื่องสแกนลายนิว้ มือ
สแกนเนอร์
เครื่องอ่ านบาร์ โค้ ด
คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์ (ต่อ)
หน่ วยประมวลผลกลาง (CPU – Central Processing Unit)
เปรียบเหมือนกับสมองของคอมพิวเตอร์ หน่ วยประมวลผลจะ
ทาหน้ าทีใ่ นการประมลผลข้ อมูลต่ าง ๆ ทีส่ ่ งมาจากหน่ วยรับข้ อมูล
คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์ (ต่อ)
 อุปกรณ์ ส่งออก (Output)
อุปกรณ์ ทที่ าหน้ าทีส่ ่ งข้ อมูลหรือผลทีไ่ ด้ จากการระมวลผล
กลับมาให้ ผู้ใช้ ตัวอย่างอุปกรณ์ เช่น
จอภาพ
เครื่องพิมพ์
ลาโพง
คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์ (ต่อ)
 หน่ วยความจา หรื อ อุปกรณ์ จัดเก็บข้ อมูล
หน่ วยความจาหลัก
หน่ วยความจาที่ต่อกับหน่ วยประมวลผลกลาง และหน่ วยประมวลผล
กลางสามารถใช้ งานได้ โดยตรงหน่ วยความจา ชนิดนีจ้ ะเก็บข้ อมูล และชุ ดคาสั่ ง
ในระหว่ างประมวลผล และมีกระแสไฟฟ้ า เมื่อปิ ดเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้ อมูลใน
หน่ วย ความจานีจ้ ะหายไปด้ วย
คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์ (ต่อ)
 หน่ วยความจา หรื อ อุปกรณ์ จัดเก็บข้ อมูล
หน่ วยความจาสารอง
อุ ปกรณ์ ที่ท าหน้ า ที่ในการเก็บ บั นทึก ข้ อมู ล และโปรแกรมต่ า งๆ ได้ แ ก่
ฮาร์ ดดิสก์ ฟล็อปปี้ ดิสก์ แผ่นซีดรี อม ฯลฯ โดยบางประเภทสามารถเปลีย่ นแปลง
แก้ไขได้ และบันทึกลงไปใหม่ ได้ แต่ บางประเภทไม่ สามารถเปลีย่ นแปลงแก้ไขได้
คอมพิวเตอร์ ฮาร์ ดแวร์ (ต่อ)
Monitor
(output)
Speaker
(output)
System unit
(processor, memory…)
Printer
(output)
Keyboard
(input)
Mouse
(input)
Storage devices
Scanner
(input)
(CD-RW, Floppy,
Hard disk, zip,…)
23
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์
แบ่ งตามความสามารถในการใช้ งาน
 Micro Computer หรือ Personal Computer
เช่ น คอมพิวเตอร์ ต้งั โต๊ ะ โน๊ ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ มอื ถือ
 Mini Computer
คอมพิวเตอร์ ที่มีสมรรถนะในการทางานสู งและมักใช้ เป็ น คอมพิวเตอร์ ศูนย์ กลางใน
ข่ ายงานบริ เวณเฉพาะที่ (LAN : Local Area Network) มินิคอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ ขนาดกลางที่นิยมใช้ ในธุรกิจขนาดเล็ก รัฐวิสาหกิจขนาดกลาง มหาวิทยาลัย เป็ น
ต้ น
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
 Mainframe Computer
สมรรถนะในการทางานสู ง เมนเฟรมไม่ นิยมนามาใช้ ในงานทัว่ ไป เพราะราคาแพง
นิยมนามาเป็ น เครื่องบริการหรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) ทีม่ ผี ู้ใช้ งานจานวนมาก เช่ น งาน
ธนาคาร ประกันภัย ธุรกิจการบินโดยสามารถรองรับการใช้ งานจากผู้ใช้ ได้ หลายๆ คนใน
เวลาเดียวกัน เช่ น การจองทีน่ ั่งของสายการบิน จะรับข้ อมูลจากเทอร์ มนิ อลลูกข่ ายหลายๆ
จุด ทีต่ ้ องการใช้ ข้อมูลเดียวกัน ซึ่งเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ จะเป็ น คอมพิวเตอร์ ศูนย์ กลาง ที่
สามารถรองรับการทางานได้ เป็ นอย่ างดี
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ต่อ)

Super Computer
เป็ นเครื่องคอมพิวเตอร์ ทมี่ ีความสามารถมากทีส่ ุ ด สาหรับงาน
ประมวลผลข้ อมูลจานวนมาก ซับซ้ อน และต้ องการประสิ ทธิภาพสู ง
ประเภทของซอฟต์ แวร์
 ซอฟต์ แวร์ ระบบ (ระบบปฏิบัตก
ิ าร)
 ซอฟต์ แวร์ ภาษา
 ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์
ซอฟต์ แวร์ สาเร็จรู ป
 ซอฟต์ แวร์ ใช้ งานเฉพาะด้ าน

ประเภทของซอฟต์ แวร์ (ต่อ)
ซอฟต์ แวร์ ระบบ
(Operating System)
ซอฟต์ แ วร์ ร ะบบ คื อ ตั ว ควบคุ ม การท างานของเครื่ อ งคอมพิว เตอร์ ท า
หน้ าที่ในการจัดเตรี ยมคาสั่ งที่ให้ ผ้ ูใช้ งานสามารถติดต่ อกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ได้
ซอฟต์ แวร์ ระบบ เป็ นโปรแกรมแรกที่สั่งคอมพิวเตอร์ ให้ ทางานเมื่ อเปิ ด
เครื่ องคอมพิวเตอร์ โดยซอฟต์ แวร์ ระบบอาจเก็บไว้ ในหน่ วยความจาหลัก หรื อใน
แผ่นจานแม่ เหล็ก
*** หากไม่ มีซอฟต์ แวร์ ระบบ คอมพิวเตอร์ จะทางานไม่ ได้
ตัวอย่างซอฟต์ แวร์ ระบบ ได้ แก่
Microsoft -- Windows XP, Window NT, Windows Vista, Windows 7
อืน่ ๆ -- DOS, UNIX , LINUX, MacOS, Symbian OS, Palm OS
ประเภทของซอฟต์ แวร์ (ต่อ)
หน้ าที่หลักของซอฟต์ แวร์ ระบบ





จัดเตรียมส่ วนติดต่ อกับผู้ใช้ งาน
ประสานงานระหว่ าง CPU RAM keyboard mouse ฯลฯ
จัดการระบบการจัดเก็บไฟล์ ข้อมูลลงบนหน่ วยความจาสารอง
นาโปรแกรมหรือซอฟต์ แวร์ ประเภทอืน่ เข้ ามาประมวลผลในคอมพิวเตอร์
จัดตารางการใช้ ทรัพยากร ได้ แก่ การเข้ าใช้ หน่ วยประมวลผลกลาง(CPU)
ประเภทของซอฟต์ แวร์ (ต่อ)

ซอฟต์ แวร์ ภาษา (Programming Software)
ซอฟต์ แวร์ ภาษา คือ ซอฟต์ แวร์ ที่ทาหน้ าที่เป็ นเครื่องมือในการสร้ าง
ชุ ดคาสั่ งหรื อโปรแกรมเพื่อนาไปสั่ งงานคอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่ องมือที่
อานวยความสะดวกให้ ผู้ใช้ งานสามารถสร้ างชุ ดคาสั่ งได้ อย่ างรวดเร็ว
ตัวอย่ างโรปแกรมภาษา เช่ น
C, C++, C#, Java, Visual Basic, Delphi, PHP, Python เป็ นต้ น
ประเภทของซอฟต์ แวร์ (ต่อ)
 ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ (Application Software)
การใช้ งานคอมพิวเตอร์ ต้องมีซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ ซึ่ งอาจเป็ นซอฟต์ แวร์
สาเร็จรู ปที่มีผ้ ูพฒ
ั นาเพือ่ ใช้ งานทั่วไป เป็ นซอฟต์ แวร์ ที่ทาให้ การทางานสะดวกขึน้
หรื ออาจเป็ นซอฟต์ แวร์ ใช้ งานเฉพาะด้ านซึ่ งผู้ใช้ เป็ นผู้พัฒนาขึน้ เองให้ เหมาะสม
กับสภาพการทางานของตน

ซอฟต์ แวร์ สาเร็จรูป (Package Software)
ในบรรดาซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ ที่มีใช้ กนั ทั่วไป ซอฟต์ แวร์ สาเร็จรู ป(package)
เป็ นซอฟต์ แ วร์ ที่ มีความนิ ยมใช้ กันสู ง มาก ซอฟต์ แ วร์ ส าเร็ จ เป็ นซอฟต์ แ วร์ ที่
บริ ษัทพัฒนาขึ้น แล้ วนาออกมาจาหน่ าย เพื่อให้ ผ้ ูใช้ งานซื้อไปใช้ ได้ โดยตรง ไม่
ต้ อ งเสี ย เวลาในการพั ฒ นาซอฟต์ แ วร์ เอง ซอฟต์ แ วร์ ส าเร็ จ ที่ มี จ าหน่ ายใน
ท้ องตลาดทัว่ ไป
ประเภทของซอฟต์ แวร์ (ต่อ)
ตัวอย่ างซอฟต์ แวร์ สาเร็จรู ป
 Word processing เช่น Microsoft Word, WordPerfect
 Spreadsheet เช่น Microsoft Excel
 Presentation เช่น Microsoft Power Point
 Database เช่น Microsoft Access, MySQL, MSSQL Server, Oracle
 Utilities เช่น โปรแกรม Antivirus โปรแกรมเขียน CD
 Graphic เช่น AutoCAD
 Communication Software เช่น Internet Explorer
 etc. (game, medical, decision making)

Word processing (ซอฟต์ แวร์ ประมวลคา)

Spreadsheet (ซอฟต์ แวร์ ตารางคานวณ)

Presentation (ซอฟต์ แวร์ นาเสนองาน)

Database (ซอฟต์ แวร์ ฐานข้ อมูล) สาหรับเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูล
ประวัตินกั ศึกษา ข้อมูลประวัติพนักงาน
ประเภทของซอฟต์ แวร์ (ต่อ)

ซอฟต์ แวร์ ใช้ งานเฉพาะด้ าน
การประยุกต์ ใช้ งานด้ วยซอฟต์ แวร์ สาเร็ จมักจะเน้ นการใช้ งานทั่วไป แต่
อาจจะน ามาประยุ ก ต์ โ ดยตรงกับ งานทางธุ ร กิจ บางอย่ า งไม่ ไ ด้ เช่ น ในกิจ การ
ธนาคาร มีการฝากถอนเงิน งานทางด้ านบัญชี การควบคุมสิ นค้ าคงคลัง ดังนั้นจึง
ต้ องมีการพัฒนาซอฟต์ แวร์ ใช้ งานเฉพาะสาหรั บงานแต่ ละประเภทให้ ตรงกั บ
ความต้ องการของผู้ ใช้ แต่ ละราย ซอฟต์ แวร์ ใช้ งานเฉพาะมักเป็ นซอฟต์ แ วร์ ที่
ผู้พัฒนาต้ องเข้ าไปศึ กษารู ปแบบการทางานหรื อความต้ องการของธุ รกิจนั้น ๆ
แล้วจัดทาขึน้
ตัวอย่างซอฟต์แวร์ ใช้งานเฉพาะด้าน เช่น
ระบบงานทางด้านบัญชี ธนาคาร โรงงานอุตสาหกรรม บริ หารการเงิน และ
การเช่าซื้ อ ธุรกิจการบิน ธุรกิจท่องเที่ยว เป็ นต้น
ซอฟต์ แวร์ ในประเทศไทย
เขตอุตสาหกรรมซอฟแวร์
 Software Park (www.swpark.or.th) แหล่งสนับสนุ นการพัฒนา
ซอฟแวร์สาหรับผูป้ ระกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก
 สานักงานส่ งเสริ มอุตสาหกรรมซอฟแวร์ แห่ งชาติ (SIPA-
Software Industry Promotion Agency) www.sipa.or.th
ส่ งเสริ มให้คนไทยพัฒนาซอฟแวร์ไว้ใช้เอง
 พัฒนาเพื่อการส่ งออก นารายได้เข้าประเทศ

ข้ อมูลและสารสนเทศ

ข้ อมูล (Data)
คือ ข้อเท็จจริ งที่เกิดขึ้นที่คอมพิวเตอร์สามารถนาไปใช้งานได้ ประกอบ
ไปด้วยตัวอักษร ตัวเลข เสี ยง หรื อ รู ปภาพ

สารสนเทศ (Information)
คือ ผลลัพธ์ที่ได้จาการประมวลผลข้อมูลและสามารถนาไปใช้ประโยชน์
ได้ตรงกับความต้องการของผูใ้ ช้
เป็ น ข่าวสาร ความรู ้ต่าง ๆ ที่มีการบันทึกอย่างเป็ นระบบ และผ่านการ
ประมวลผลตามหลักวิชาการ เพื่อนาไปเผยแพร่ และใช้งานต่าง ๆ ทุกสาขา
บุคลากรคอมพิวเตอร์
ในการทางานกับคอมพิวเตอร์ จะต้องมีบุคลากรใน
ตาแหน่งต่างๆ เพื่อทาหน้าที่แตกต่างกัน บุคลากรที่สาคัญ
ประกอบ 3 กลุ่มด้วยกัน
 ผู้ใช้ งานทัว
่ ไป
 ผู้เชี่ยวชาญหรื อนักคอมพิวเตอร์
 ระดับบริ หาร
บุคลากรคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
 ผู้ใช้ งานทัว
่ ไป
เป็ นผูใ้ ช้งานทัว่ ไป ไม่จาเป็ นต้องมีความเชี่ยวชาญมาก
 อาจเข้ารับการอบรมบ้างเล็กน้อยหรื อศึกษาจากคู่มือการ
ปฏิบตั ิงานก็สามารถใช้งานได้
 เป็ นกลุ่มบุคคลมีจานวนมากที่สุดในหน่ วยงาน
 ลักษณะงานในการใช้คอมพิวเตอร์ จะเกี่ยวข้องกับการใช้งาน
คอมพิวเตอร์ทวั่ ไป เช่น งานธุรการสานักงาน งานป้ อนข้อมูล
งานบริ การลูกค้าสัมพันธ์ (call center) เป็ นต้น

บุคลากรคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
 ผู้เชี่ยวชาญหรื อนักคอมพิวเตอร์
ช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์(Computer Operator/Computer
Technician)
 นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst)
 นักเขียนโปรแกรม (Programmer)
 วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Enginering)
 ผูด
้ ูแลเน็ตเวิร์ก (Network Administrator)

การทางานของสถาปนิก
การทางานของนักวิเคราะห์ ระบบ
43
44
บุคลากรคอมพิวเตอร์ (ต่อ)

ผู้บริหารสู งสุ ดด้ านสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ (CIO – Chief
Information Officer)
 ตาแหน่ งสู งสุ ดทางด้านการบริ หารงานคอมพิวเตอร์ ในองค์กร
 ทาหน้าที่กาหนดทิศทาง นโยบาย และแผนงานทางคอมพิวเตอร์
ทั้งหมด
 มักพบเห็นในองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
 สาหรับในองค์กรขนาดเล็กอาจจะไม่มีตาแหน่ งนี้
บุคลากรคอมพิวเตอร์ (ต่อ)

หัวหน้ างานด้ านคอมพิวเตอร์ (Computer Center
Manager/Information Technology Manager)
 มีหน้าที่ดูแลและกากับงานทางด้านคอมพิวเตอร์ ให้บรรลุเป้ าหมาย
ตามแผนงานและทิศทางที่ได้วางไว้โดย CIO
 อาจต้องจัดเตรี ยมการบริ การฝึ กอบรม การให้คาปรึ กษา คาแนะนา
กับผูใ้ ช้งาน รวมถึงสร้างกฎระเบียบ มาตรฐานในการใช้งาน
คอมพิวเตอร์ของบริ ษทั ร่ วมกันด้วย
ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ และสารสนเทศต่ อชีวติ ประจาวัน
 สถานศึ กษา เช่ น การจัดทาประวัตินักเรี ยน ประวัติครู อาจารย์ การคัดคะแนน
สอบ การจัดทาตารางสอน ใช้คอมพิวเตอร์ ในงานห้องสมุด การจัดทาตารางสอ น
การศึกษาทางไกล
 วิศวกรรม
เช่น ช่วยคานวณโครงสร้าง ออกแบบ การวางแผน ควบคุมการสร้าง
 วิทยาศาสตร์
เช่น เครื่ องมือการทดลองต่างๆ การเดินทางของยานอวกาศต่างๆ
การถ่ายพื้นผิวโลก
 ธุรกิจ เช่น จัดเก็บข้อมูล ความรวดเร็ ว และถูกต้องในการคานวณ ทาให้สามารถ
ได้ขอ้ มูลที่ช่วยให้สามารถตัดสิ นใจในการ ดาเนินธุรกิจ ได้
 ธนาคาร เช่น ATM ฝาก-ถอน คานวณอัตราดอกเบี้ย ธุ รกรรมต่างๆ
ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ และสารสนเทศต่ อชีวติ ประจาวัน (ต่ อ)
 ร้ านค้ าปลีก เช่น ให้บริ การชาระ ค่าน้ า - ไฟฟ้ า ค่าโทรศัพท์
นอกเหนือจากงานขาย
ทัว่ ไป
 ทางการแพทย์ เช่น ใช้ในการจัดเก็บประวัติ ผลการรักษา จ่ายยา ควบคุมเรื่ องมือ
แพทย์
 โทรคมนาคม และการสื่ อสาร เช่น เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต
 อุตสาหกรรม เช่ น วางแผนการผลิต กาหนดเวลาการผลิต ควบคุมการผลิต
 ราชการ เช่ น งานทะเบียนราษฏร์ ช่วยในการนับคะแนนการ เลือกตั้ง และการ
ประกาศผลเลือกตั้ง การคิดภาษีอากร
Assignment
-
แบ่ งกลุ่ม 10 กลุ่ม 8-9คน/กลุ่ม
ส่ งรายชื่อสมาชิกแต่ ละกลุ่ม สั ปดาห์ หน้ า