การทำงานเชิงวิเคราะห์

Download Report

Transcript การทำงานเชิงวิเคราะห์

การทางานเชิงวิเคราะห์
เสถียร คามีศกั ดิ์
บุคลากรผูเ้ ชี่ยวชาญ
นิยาม ก.พ.อ.
งานเชงิ วิเคราะห์
ผลงานทีแ
่ สดงการแยกแยะองค์ประกอบ
ึ ษา
ต่างของเรือ
่ งอย่างมีระบบ มีการศก
ในแต่ละองค์ประกอบและ
ั ันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ
ความสมพ
เพือ
่ ให้เกิดความรูค
้ วามเข้าใจในเรือ
่ ง
นน
ั้ ๆ ซงึ่ เป็นประโยชน์ตอ
่ งานของ
ึ ษา
หน่วยงานหรือสถาบ ันอุดมศก
การวิเคราะห์
การจาแนก แยกแยะองค์ประกอบของสงิ่
่ น ๆเพือ
หนึง่ ออกเป็นสว
่ ค้นหาว่ามา
ั ันธ์ก ัน
ื่ มโยงสมพ
จากอะไร เชอ
อย่างไร เพือ
่ ค้นหาสาเหตุทแ
ี่ ท้จริง
้
ของสงิ่ ทีเ่ กิดขึน
การวิเคราะห์
การแยกแยะหาต้นตอของสาเหตุ หาต ัว
แปรทีส
่ าค ัญ การใชเ้ ครือ
่ งมือทาง
สถิต ิ ใชเ้ ครือ
่ งมืออุปกรณ์มาทาการ
วิเคราะห์ หรือคิดแบบวิเคราะห์(ผ ัง
ก้างปลา ผ ังรากไม้ กราฟ ฯลฯ) การ
ั
สงเคราะห์
คือการรวม การสรุป คิด
รวบยอด
การวิเคราะห์
การหาแนวโน้มและต้นตอของสาเหตุให้
้
พบ ไม่ใชเ่ ป็นการอธิบายกราฟว่าขึน
ลงอย่างไร หากเก็บข้อมูลผิด-ข้อมูล
ไร้สาระ ก็ทาให้ผลการวิเคราะห์ผด
ิ
ควรใชเ้ ครือ
่ งมือในการวิเคราะห์ ผ ัง
ก้างปลาฯลฯ **อย่าเก็บข้อมูลนาน
เกินไป –ล่าสม ัย **ถามผูร้ *
ู ้ *อ่าน
ตารา**
การวิเคราะห์
*การจาแนกแยกแยะ ออกมาใคร่ครวญ หาเหตุ
ปัจจ ัยของสงิ่ ของหรือเรือ
่ งราวต่าง ๆ
สรุปการค้นหาความจริง ในทุกแง่ทก
ุ มุมของสงิ่ ใด
สงิ่ ใดสงิ่ หนึง่ หรือหลายอย่างว่า ใคร อะไร ที่
ไหน เมือ
่ ไร ทาไม และอย่างไร “5W1H” WHAT
WHO WHERE WHEN WHY WHICH HOW
่ นหนึง่ งานวิจ ัยเชงิ สารวจ
งานวิเคราะห์/สว
วิทยาศาสตร์
Scientific Method
ความรูค
้ วามจริง
ื่ ถือได้
ความเชอ
Reliable Knowledge
Reliable Method
การคงสภาพ
Stable
ความน่าจะเป็น ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ
Probabilistic Low of Nature
การวิจ ัยเชงิ สารวจ

ึ ษาเพือ
เป็นการศก
่ หาความรูค
้ วามจริง
้ ในปัจจุบ ัน
ในการแก้ปญ
ั หาทีเ่ กิดขึน
โดยใชว้ ธ
ิ ส
ี ารวจและอธิบาย
ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ว่ามีล ักษณะอย่างไร
เป็นล ักษณะกว้าง ๆ ทาให้ทราบ
ข้อเท็จจริงเป็นแนวทางในการ
วางแผน การปร ับปรุงแก้ไข สงิ่ ต่าง ๆ
้ึ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท
ให้ดข
ี น
วิจ ัยเชงิ สารวจ 5 ประเภท
สารวจโรงเรียน School Survey
วิเคราะห์งาน
Job Analysis
วิเคราะห์เอกสาร
Documentary Analysis
สารวจประชามิต ิ
Public Opinion Survey
สารวจชุมชน
Community Survey
□การวิเคราะห์งาน Job Analysis
หาวิธท
ี ด
ี่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ ใน
การปฏิบ ัติงาน
ปร ับปรุงงาน
ขจ ัดความ
ี ใน
สูญเสย
การ
ปฏิบ ัติงาน
การวิเคราะห์เอกสาร Documentary
Analysis
เอกสาร หมายถึง หล ักเกณฑ์ วิธก
ี าร
เงือ
่ นไข แบบฟอร์ม พระราช
กฤษฎีกา พระราชบ ัญญ ัติ กฎ
ระเบียบ ข้อบ ังค ับ ประกาศ
ื เวียน มติทป
หน ังสอ
ี่ ระชุม คาสง่ ั
ระบบไอที
หลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้ านเมือที่ดี 2546
ผูป
้ ฏิบ ัติงานทีม
่ ห
ี น้าทีค
่ วามร ับผิดชอบ ทีเ่ ป็นผูใ้ ช ้
หรือเป็นผูท
้ ไี่ ด้ร ับผลกระทบก ับกฎหมาย กฎ
ื เวียน
ระเบียบ ข้อบ ังค ับ ประกาศ มติ หน ังสอ
ต้องมีหน้าที่ สารวจ ตรวจสอบ
และทบทวน
้ ใหม่
เพือ
่ ดาเนินการปร ับปรุง หรือจ ัดประกาศขึน
ให้ท ันสม ัยและเหมาะสมก ับสภาวการณ์
หรือ
สอดคล้องก ับความจาเป็นในปัจจุบ ัน โดยคานึง
ถึงความสะดวกรวดเร็ว และลดภาระของ
ผูร้ ับบริการ(ลูกค้า) เป็นสาค ัญ
การวิเคราะห์งานหรือ
วิเคราะห์เอกสาร
•
•
เลือกงานทีม
่ ป
ี ญ
ั หาหรืองานทีไ่ ม่
สาเร็จตามต ัวชว้ี ัดหรืองานทีจ
่ ะพ ัฒนา
ื่ เรือ
ตงเป
ั้ ็ นชอ
่ ง
ทาโครงร่าง จ ัดทาสารบ ัญ ในการ
ดาเนินการ แบ่งออกเป็น 5 บท
ล ักษณะเดียวก ับทางานวิจ ัย
สารบ ัญงานวิเคราะห์ 5 บท
*บทที่ 1 บทนา
*บทที่ 2 เอกสารงานทีเ่ กีย
่ วข้อง
*บทที่ 3 วิธด
ี าเนินการวิเคราะห์
*บทที 4 ผลการวิเคราะห์ขอ
้ มูล
*บทที่ 5 สรุปผลการวิเคราะห์ วิพากษ์
และข้อเสนอแนะ
*บรรณานุกรม
*ภาคผนวก
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
่ นประกอบตอนต้น
1. สว
1.1ปกนอก
1.2 ปกใน
1.3คานิยม
1.4 คานา
1.5สารบ ัญ
ี าราง
1.6บ ัญชต
ี าพประกอบ
1.7บ ัญชภ
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
่ นประกอบเนือ
้ หา
2. สว
่ นทีจ
เป็นสว
่ ัดทาสารบ ัญ ทีแ
่ บ่ง
ออกเป็นบท ๆ
่ นประกอบตอนท้าย
3. สว
3.1บรรณานุกรม
3.2ภาคผนวก
3.3ประว ัติยอ
่ ผูเ้ ขียน
ั
การเลือกเรือ
่ งทางานเชงิ สงเคราะห์
หล ักเกณฑ์การเลือกเรือ
่ ง
1.งานประจาทีป
่ ฏิบ ัติ
ี่ วชาญ
2.ความสนใจและมีความเชย
3.เรือ
่ งทีม
่ ค
ี วามสาค ัญและเป็น
ประโยชน์
4.มีแหล่งข้อมูลให้คน
้ คว้า
ั
การเลือกเรือ
่ งทางานเชงิ สงเคราะห์
หล ักเกณฑ์การเลือกเรือ
่ ง
5.ขอบเขตของเรือ
่ ง
้ า่ ย
ิ้ เปลืองเวลาและค่าใชจ
6.ไม่สน
เกินไป
ี่ งต่ออ ันตราย
7.เสย
**รายงานประจาปี รายงานการ
ประชุม ข้อร้องเรียน การ
ั
ประชุมสมมนา
การะดมสมอง
ผลตรวจประก ันคุณภาพ
บทที่ 1 บทนา
1.
2.
3.
4.
5.
6.
ภูมห
ิ ล ัง/ความสาค ัญเรือ
่ ทีจ
่ ะวิเคราะห์
ว ัตถุประสงค์เรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
ประโยชน์ของเรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
ของเขตของเรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
ั เฉพาะ
นิยามศพท์
สมมติฐานการวิเคราะห์
ภูมห
ิ ล ัง/ความสาค ัญ
*หา Keyword ของห ัวเรือ
่ งทีเ่ ลือก
ดึงเอาคานนมาอธิ
ั้
บายถึง
ความสาค ัญว่าเป็นอย่างไร ทาไม
จึงสนใจจะวิเคราะห์ มีหล ักฐาน
อะไร
*ทาแล้วได้อะไร อยากรูค
้ าตอบอะไร
ั
ข้อสงเกต
ื่ เรือ
1. ชอ
่ งเป็นงานประจาทีป
่ ฏิบ ัติ ข้อมูล
ก็มอ
ี ยูแ
่ ล้ว ขอบเขตไม่กว้าง ไม่แคบ
้ า่ ยมากน ัก
ิ้ เปลืองเวลา ค่าใชจ
ไม่สน
2. Keyword ของเรือ
่ งคือ พน ักงาน
ั
มหาวิทยาล ัยระบบสญญาจ้
าง อธิบาย
ความเป็นมา ทาไมต้องจ้าง จ้างใคร ที่
ไหน ทาไม *ก.พ. คปร. ครม. งปม.
ี ลาง สกอ มหาวิทยาล ัย
กรมบ ัญชก
การปร ับเปลีย
่ นเป็นมหาวิทยาล ัยใน
กาก ับเป็นเหตุสาค ัญ
ั
ข้อสงเกต
3.ทาแล้วได้อะไร ทาให้มค
ี วามรูค
้ วาม
เข้าใจระบบการบริหารบุคลระบบ
ั
สญญาจ้
างพน ักงานมหาวิทยาล ัยของ
มหาวิทยาล ัยต่าง ๆ
4. อยากรูเ้ รือ
่ งอะไร ระบบการบริหารงาน
ั
บุคคลด้วยระบบสญญาจ้
างพน ักงาน
ของมหาวิทยาล ัยต่าง ๆ ใน 17
ประเด็น
5. มีหล ักฐานสน ับสนุนอ้างอิงได้ทก
ุ
ขนตอนที
ั้
น
่ าเสนอ
ว ัตถุประสงค์เรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
ั
1. ประเด็นทีเ่ ราอยากรูห
้ รือสงสยในท้
ายทบที่ 1
ั ันธ์ก ันก ับว ัตถุประสงค์
ต้องสมพ
2.การเขียนว ัตถุประสงค์ ต้องอธิบายได้ ว ัดได้
เป็นรูปธรรม
ึ ษากระบวนการบริหารงานบุคคลระบบ
*เพือ
่ ศก
ั
สญญาจ้
างพน ักงานมหาวิทยาล ัยของร ัฐใน
ประเด็นสาค ัญ 17 ประเด็น
*เพือ
่ เปรียบเทียบล ักษณะการวิเคราะห์
จาแนกแจกแจงความเหมือและความ
แตกต่างของกระบวนการบริหารบุคลฯ
ประโยชน์ของเรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
* เขียนให้สอดคล้องก ับว ัตถุประสงค์ทต
ี่ งไว้
ั้
หล ักการ ว ัตถุประสงค์ทาไปทาไม ก็ได้ร ับ
อย่างนน
ั้
*ได้มค
ี วามรูค
้ วามเข้าใจในระบบการบริหารงาน
ั
บุคคลระบบสญญาจ้
างพน ักงานมหาวิทยาล ัย
ของร ัฐใน 17 ประเด็น
*ไดทราบถึงความเหมือและความแตกต่าง
ของกระบวนการบริหารบุคลฯ ใน 17
ประเด็น
ั
ข้อสงเกต
ึ ษากระบวนการบริหารงานบุคคลระบบ
*เพือ
่ ศก
ั
สญญาจ้
างพน ักงานมหาวิทยาล ัยของร ัฐใน
ประเด็นสาค ัญ 17 ประเด็น
**ประโยชน์ คือ ความรูค
้ วามเข้าใจ
*เพือ
่ เปรียบเทียบล ักษณะการวิเคราะห์
จาแนกแจกแจงความเหมือและความ
แตกต่างของกระบวนการบริหารบุคลฯ
**ทราบถึงความเหมือน/ความต่าง
ขอบเขตของเรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
่ กาหนดปี การศก
ึ ษาฯ
1.จาก ัดโดยระยะเวลา เชน
ึ ษาเอกสาร ระเบียบ ข้อบ ังค ับ ประกาศ
*ศก
ื เวียน มติตา่ ง ๆ ของมหาวิทยาล ัย
หน ังสอ
ของร ัฐ จานวน 20 แห่ง ทีน
่ าเสนอในการ
จ ัดประชุมผูอ
้ านวยการกองการเจ้าหน้าที่
ึ ษาของร ัฐทว่ ั ประเทศ ณ
สถาบ ันอุดมศก
ว ันที่ 29 มกราคม 2547 ยกเว้น
มหาวิทยาล ัยรามคาแหง
ขอบเขตของเรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
2.จาก ัดโดยสถานที่ ระบุสถานทีใ่ นการวิเคราะห์
ั
่ พน ักงาน
้ เชน
ลงไปให้ชดเจนยิ
ง่ ขึน
่ น
มหาวิทยาล ัยของร ัฐ หรือ การบริหาร 10 สว
ั ัดมหาวิทยาล ัยศรีนครินทร
งานในกาก ับสงก
่ นงานใน
วิโรฒ ตามระเบียบการบริหารสว
กาก ับของมหาวิทยาล ัย พ.ศ. 2543
ขอบเขตของเรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
้ หา เป็นการจาก ัด
3.จาก ัดขอบเขตโดยเนือ
่ การเปรียบเทียบการ
ขอบเขตให้แคบลง เชน
ั
บริหารบุคคลระบบสญญาจ้
างพน ักงาน
มหาวิทยาล ัย/สถาบ ันของร ัฐ จาก ัดขอบเขต
ให้แคบลง การเปรียบเทียบการจ ัดสว ัสดิการ
้ กูลพน ักงานมหาวิทยาล ัย/
และประโยชน์เกือ
สถาบ ันของร ัฐ
ั เฉพาะ
นิยามศพท์
*เป็นคาเฉพาะใชใ้ นเรือ
่ งนีเ้ ท่านน
ั้ มีความหมาย
่ นี้
เชน
้ ต้นก ับผูอ
*เป็นข้อตกลงเบือ
้ า
่ นก่อน เพือ
่
ป้องก ันเอาไปอ้างอิงผิดพลาด
*ทาให้ไม่ตอ
้ งเขียนยืดยาวในเอกสารครงั้
ต่อ ๆ ไป
สมมติฐานการวิเคราะห์
โดยหล ักการทว่ ั ๆ
จะไม่มก
ี ารตงสมมติ
ั้
ฐานการวิเคราะห์
การรวบรวมเอกสารข้อมูลทีเ่ กีย
่ วข้องก ับ
เรือ
่ งทีจ
่ ะวิเคราะห์
่ นทีต
ึ ษาแนวคิด ทฤษฎี กฎ ระเบียบ
สว
่ อ
้ งศก
ื เวียนทีเ่ กีย
ประกาศ หน ังสอ
่ วข้อง นามาอธิบาย
้ เดียวก ัน มี
ในล ักษณะ ผสมผสานให้เป็นเนือ
ั ันธ์ก ัน เรียงตามลาด ับความสาค ัญ
ความสมพ
หรือเวลา ควรสรุปในแต่ละเรือ
่ งเป็นแนวคิด
ของผูว้ เิ คราะห์
การอ้างอิง
•
•
•
•
การอ้างอิงหน้าข้อความ
การอ้างอิงระหว่างข้อความ
การอ้างอิงหล ังข้อความ
ควรอ้างอิงแหล่งปฐมภูม ิ
ั ์ (2549:14-16)ต้น
• เสถียร คามีศกดิ
ั .์ 2549 : 24)ระหว่าง/
• (เสถียร คามีศกดิ
ท้าย
• “พระราชบ ัญญ ัติระเบียบข้าราชการพล
ึ ษา พ.ศ. 2547”
เรือนใสถาบ ันอุดมศก
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 121 ตอน...
ึ ษาวิเคราะห์
วิธก
ี ารดาเนินการศก
• นาว ัตถุประสงค์มากล่าวอ้างอีกครงั้ ร้อยเรียง
ก ันให้เป็นประโยค หรือข้อความยา้ ให้ผอ
ู้ า
่ น
่ “การวิเคราะห์ครงนี
ทราบ โดยเกริน
่ นา เชน
ั้ ้ มี
ึ ษาเปรียบเทียบความ
จุดมุง
่ หมายเพือ
่ ศก
เหมือนและความแตกต่างในแนวกว้างของ
ั
กระบวนการบริหารงานบุคคลระบบสญญาจ้
าง
พน ักงานมหาวิทยาล ัยของร ัฐ ซงึ่ ได้กาหนดวิธ ี
ึ ษาเปรียบเทียบไว้ด ังต่อไปนี”้
การศก
สงิ่ ทีค
่ วรนาเสนอในบทนี้
• มีใครเกีย
่ วข้องบ้าง จะวิเคราะห์ประเด็นอะไร
• (ประชากร/กลุม
่ ต ัวอย่าง/ผลงานย้อนหล ัง/
้ า้ งอิงในการ
ขนตอนการท
ั้
างาน/เอกสารทีใ่ ชอ
ปฏิบ ัติงาน)
• การแยกองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างมีระบบ
• ใชเ้ ครือ
่ งมือ เกณฑ์ในการวิเคราะห์(กฎหมาย/
เกณฑ์มาตรฐาน/หล ักการทางานทีม
่ ี
้ า่ สถิต/ิ เกณฑ์ของเบสต์)
คุณภาพ/ใชค
• จะมีขนตอนในการสร้
ั้
างเครือ
่ งมืออย่างไร
ื่ มน
เพือ
่ ให้มค
ี วามเชอ
่ ั ใชเ้ ทคนิคเดลฟาย
สงิ่ ทีค
่ วรนพเสนอ
• จะเก็บข้อมูลอย่างไร ต้องเขียนอธิบายให้
ื่ ถือได้
เชอ
• จะดาเนินการวิเคราะห์อย่างไร เมือ
่ ได้ขอ
้ มูล
แล้วจะทาอย่างไรก ับข้อมูล
ใครเกีย
่ วข้องหรือเกีย
่ วข้องก ับเรือ
่ ง
อะไรบ้าง
• ประชากรและกลุม
่ ต ัวอย่าง ถ้านาประชากรมา
้ า่ ยสูง
ี เวลา/ค่าใชจ
ทงหมดจะมากเกิ
ั้
นไป เสย
จึงต้องนาต ัวแทนของกลุม
่ ประชากร คือกลุม
่
ต ัวอย่าง ใช ้ Krejcie
ใครเกีย
่ วข้องหรือเกีย
่ วข้องก ับเรือ
่ ง
อะไรบ้าง
• วิเคราะห์งาน -ไม่สาเร็จ ตามต ัวชวี้ ัด ต้องนา
ภาระงานของปี ทีผ
่ า่ นมาวิเคราะห์ โดยหล ักการ
จะนาผลการปฏิบ ัติงานย้อนหล ัง 3-5 ปี มา
สร้างตารางนาเสนอ ว่าเป็นอย่างไร
้ อ
ื่ ตารางว่า “แสดงการบ ันทึก
• โดยใชช
ั
ผลสมฤทธิ
ต
์ ามต ัวชวี้ ัด ของงาน...........”
• ภาระงาน-ปริมาณ-คุณภาพ(ถูกต้อง-ท ันเวลา)
• หมายเหตุ บอกจานวน และเหตุไม่เป็นไปตาม
ต ัวชวี้ ัด
ใครเกีย
่ วข้องหรือเกีย
่ วข้องก ับเรือ
่ ง
อะไรบ้าง
• ต้องเสนอขนตอนในการปฏิ
ั้
บ ัติงาน พร้อม
ระยะเวลาทีก
่ าหนด เพือ
่ แยกแยะองค์ประกอบ
หาสาเหตุ ว่าผลงานสาเร็จตามต ัวชวี้ ัด หรือไม่
สาเร็จตามต ัวชวี้ ัด เพราะอะไร
การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมี
ระบบ
1. BRAIM STORMING-ระดมสมอง
กลุม
่ ทีส
่ นใจ Focus Group 6-12
ภายใต้การเลือกเฉพาะเจาะจง
Purposive Sampling
การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมี
ระบบ
ี่ วชาญ ไม่
2. Delphi Technique ผูเ้ ชย
ควรเกิน 10 คน แดสงความคิดเห็น
อย่างอิสระ กลน
่ ั กรองความคิดอย่าง
ี้ า
รอบครอบ ปราศจากการชน
อาจจะต้องสร้างเป็นแบบสอบถาม
ปลายเปิ ด-ประมาณค่า
การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมี
ระบบ
3. ใชเ้ ทคนิค SWOT ใชเ้ ทคนิคระดม
่ ยแยกแยะองค์ประกอบ
สมองเข้าชว
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
มองจากข้างนอกเข้าข้างใน-โอกาส
(O) อุปสรรค(T)/ภายในมองข้างใน
ไปข้างนอก-จุดแข็ง(S) จุดอ่อน(W)
การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมี
ระบบ
S-O มีจด
ุ แข็งมีโอกาส จะทาอะไร
O-W โอกาสไปปิ ดจุดอ่อน ทาอย่างไร
S-T มีจด
ุ แข็งจะแก้อป
ุ สรรค อย่างไร
W-T มีจด
ุ อ่อน มีอป
ุ สรรค จะป้องก ัน
อย่างไร จะเสริมสร้างจุดอ่อน
อย่างไร **ทาแล้ว**
การนาผลทีไ่ ด้จากการแยก
องค์ประกอบอย่างมีระบบมาลงผ ัง
1.ผ ังก้างปลา Fish Bone Diagram
2.ผ ังรากไม้ Tree Diagram
3.ตาราง SWOT
ผ ังก้างปลา
*ค.ศ.1943 ศ. คาโอรุซเิ กว่า ชาวญีป
่ ่น
ุ ผ ัง อิ
ิ าว่า(Ishikawa Diagram) แผนทีแ
ซก
่ สดงถึง
ั ันธ์ระหว่างปัญหาก ับสาเหตุ
ความสมพ
*ผ ังก้างปลา (Fish Bone Diagram) สาน ักงาน
อุตสาหกรรมแห่งญีป
่ ่ น(JIS)
ุ
คือแผนผ ังทีใ่ ช ้
ั ันธ์อย่างเป็นระบบระหว่าง
แสดงความสมพ
่ ผลกระทบให้เกิด
สาเหตุหลาย ๆ สาเหตุทส
ี่ ง
ปัญหาใดปัญหาหนึง่
ผ ังก้างปลา
*กาหนดปัญหาทีห
่ ัวปลา
*กาหนดกลุม
่ ปัญหาทีจ
่ ะเกิดปัญหานน
ั้
*ระดมสมองเพือ
่ หาสาเหตุในแต่ละปัจจ ัย
*หาสาเหตุหล ักของปัญหา
*จ ัดลาด ับความสาค ัญของสาเหตุ
*สรุปแนวทางการปร ับปรุงทีจ
่ าเป็น
ผ ังรากไม้
*แผนผ ังครอบคร ัว (Family Tree) และ
การจ ัดแผนผ ังองค์กร (Organization Chart)
แผนภูมต
ิ น
้ ไม้(Tree Diagram)
แผนภูมริ ะบบ(Systematic Diagram)
*ผ ังรากไม้ เอาปัญหามากาหนดเป็นโคนต้นไม้
แล้วแตกเป็นรากแขนง(Primary root)
มากมายแต่ละรากแขนงจะแตกออกเป็นราก
ฝอย(Secondary root)ย่อย ๆ ต้นตอขอสาเหตุ
อาจโยงไปโยงมา ปลายรากแต่ละรากคือ
คาตอบ
เทคนิคการระดมสมอง
*ใชใ้ นทุกขนตอนที
ั้
ต
่ อ
้ งการความคิด
หลากหลาย และสร้างสรรค์
*เมือ
่ ต้องการวิเคราะห์ปญ
ั หา
*เมือ
่ ต้องการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่
้
เกิดขึน
*เมือ
่ ต้องการตงห
ั้ ัวข้อปัญหาเพือ
่ จะทางานเชงิ
วิเคราะห์
้ า
*ค่าใชจ
่ ย
เวลา
ทร ัพยากร
ปร ัชญา/วิธก
ี ารทางาน
เชงิ บวกต่อผูบ
้ ริหาร
เป็นไปได้ในทางปฏิบ ัติ
กฎกติกามารยาทในการระดมสมอง
แสดงความคิดอย่างอิสระ
ห้ามวิพากษ์ความคิดเห็นของผูอ
้ น
ื่
ฟังความคิดเห็นของผูอ
้ น
ื่
ไม่มก
ี ารอภิปรายความเห็นของผูอ
้ น
ื่
หลีกเลีย
่ งการปะทะคารม
กฎกติกามารยาทในการระดมสมอง
อนุญาตให้ออกนอกลูน
่ อกทางได้
ปริมาณยิง่ มากยิง่ ดี
ั้
ั
สนกระซ
บ
สร้างสรรค์/อารมณ์ข ัน
ใชเ้ วลา 30-45
กฎกติกามารยาทในการระดมสมอง
เมือ
่ ได้ผลนามาปร ับปรุง
ึ ษาล่วงหน้า
ต้องให้ศก
ป้องก ันการข ัดแย้งแสดงความเห็น
้ านาจกดขีค
อย่างใชอ
่ วามคิด
จะใชเ้ ครือ
่ งมือ/ใชเ้ กณฑ์อะไร
1.กฎหมาย
2.เกณฑ์มาตรฐาน
3.หล ักการทางานมีคณ
ุ ภาพ
จะใชเ้ ครือ
่ งมือ/ใชเ้ กณฑ์อะไร
1.กฎหมาย
2.เกณฑ์มาตรฐาน
้ า่ สถิต/ิ ค่าร้อยละ นาเสนอผลใน
ใชค
รูปกราฟแบบต่าง ๆ หรือออกแบบ
ตาราง แล้วอธิบายเป็นลายล ักษณ์
อ ักษร
จะใชเ้ ครือ
่ งมือ/ใชเ้ กณฑ์อะไร
สร้างเครือ
่ งมือในการวิเคราะห์เป็น
แบบสอบถาม ต้องหาค่าสถิตแ
ิ บบ
ง่าย หาค่าเฉลีย
่ แล้วใชเ้ กณฑ์ของ
่
Best เชน
1.00-2.33เห็นด้วยน้อย
2.34-3.67เห็นด้วยปานกลาง
3.68-5.00เห็นด้วยมาก
จะใชเ้ ครือ
่ งมือ/ใชเ้ กณฑ์อะไร
เกณฑ์ของ Best
1.00-1.49ไม่เห็นด้วยอย่างยิง่
1.50-3049ไม่เห็นด้วย
2.50-3.49ไม่แน่ใจหรือเฉย ๆ
3.50-4.49เห็นด้วย
4.50-5.00เห็นด้วยอย่างยิง่ ๆ
ใชเ้ กณฑ์การทางานมีคณ
ุ ภาพ
เทคนิค PDCA
*ค.ศ. 1930 การควบคุมกระบวนการเชงิ สถิต ิ
วงจร STEWART
*ค.ศ. 1950 W. Edwards Deming วงจร Deming พ ัฒนา
ั ันธ์ 4
ด้านการบริหารคุณภาพ ความสมพ
ฝ่ายในการทาธุรกิจ “คุณภาพและความพึง
พอใจของลูกค้า” ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายผลิต
ฝ่ายขาย ฝ่ายวิจ ัย
เทคนิค PDCA
*พ ัฒนาให้เข้าก ับวงจรการบริหาร ขนการ
ั้
วางแผน
ขนปฏิ
ั้
บ ัติ
ขนตรวจสอบ
ั้
ขนด
ั้ าเนินการให้เหมาะสม(ขนการปร
ั้
ับปรุง
แก้ไข)
*แพร่หลายที่ ญีป
่ ่น
ุ วงจร PDCA การบริหาร
จ ัดการควบคุมคุณภาพ คือ การวางแผน
( Plan) ปฏิบ ัติ( Do) ตรวจสอบ
ผลล ัพธ์
( Check)
กาหนด
มาตรการแก้ไข
( Action)
วิธก
ี าร PDCA
มีการวางแผนปฏิบ ัติหรือไม่ P
ทาตามแผนหรือไม่ D
กาหนดแนวทางปร ับปรุงอย่างไร
ประเมิน/ตรวจสอบหรือไม่ C
ประเมินแนวทางแก้ไข
การแก้ไข จ ัดเป็นมาตรฐานหรือไม่
บ ันทึกผลการปฏิบ ัติงาน A
ึ ษาใหม่
วิเคราะห์ศก
เทคนิค Balanced Scorecard
*Professor Robert Kaplan และ Dr.
่ นใหญ่
Norton สารวจตลาดหุน
้ อเมริกา สว
ประเมินต ัวชวี้ ัดด้านการเงินเพียงต ัวเดียว
ื่ มโยงสอดคล้องก ัน
*ประเมินใน 4 ด้าน เชอ
ั ัศน์และกลยุทธ์
และผูกโยงเข้าก ับวิสยท
*FINACIAL PERSPECTIVEเงิน
*CUSTOMER PERSPECTIVEลูกค้า
*INTERNAL PROCESS PERSPECTIVE
กระบวนการ
*LEANING AND GROWTH
PERSPECTIVEการเรียนรูและพ ัฒนา
กลวิธ ี Balanced Scorecard
*เก็บข้อมูลย้อนหล ัง 3-5 ปี ข้อมูล Fact แยก
ออกเป็น 4 ด้าน การเงิน ลูกค้า
กระบวนการ การเรียนรูแ
้ ละพ ัฒนา
*วิเคราะห์วา
่ บรรลุผลสาเร็จหรือไม่ มีแนวโน้ม
อย่างไร เพิม
่ ลด คงที่ ทาเป็นรูปกราฟ
*หาจุดอ่อน หาจุดแข็ง ว่ามีอะไรบ้าง
*หาต้นตอของสาเหตุ ข้อแตกต่าง ปร ับปรุง
แก้ไข อย่างไร
กลวิธ ี Balanced Scorecard
*นาผลทีไ่ ด้เทียบก ับเกณฑ์ 4 ด้าน
*วิเคราะห์เสนอวิธใี หม่
*จ ัดทาแผนโครงการกิจกรรม เสนอดาเนินการ
เทคนิค SIX SIGMA
ิ้ ใน
*งานไม่เป็นไปตามมาตรฐานเพียง 3-4 ชน
ิ้
งาน 1 ล้านชน
*เป็นกลยุทธ์ของฝ่ายบริหารในการพ ัฒนา
คุณภาพ เพือ
่ ให้สามารถตอบสนองความ
ต้องการของลูกค้า ให้เกิดความพึงพอใจ
ี ทีท
สูงสุด ลดความสูญเสย
่ าให้เกิดความไม่
พึงพอใจน้อยทีส
่ ด
ุ
วิเคราะห์การปฏิบ ัติงานของเรา
*ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
้ อ
*บริหารจ ัดการใชข
้ มูล
้ อ
ใชข
้ เท็จจริง
*มุง้ เน้นทีก
่ ระบวนการ
*การจ ัดการเชงิ รุก
*แก้ปญ
ั หาแบบไร้พรหมแดน
วิเคราะห์การปฏิบ ัติงานของเรา
*ฝ่ายบริหารมีสว่ นร่วม/เป็นผูน
้ า
้ ว ัตกรรม
*ใชน
*ความคิดสร้างสรรค์
*มุง
่ ความเป็นเลิศ
*พ ัฒนาแบบไม่หยุดยงั้
เทคนิค COMPARATIVE
แบ่งเป็น 2 ล ักษณะ
1.เปรียบเทียบล ักษณะวิเคราะห์
ก.กาหนดเป้าหมาย
ข.กาหนดเกณฑ์/กรอบ การเปรียบเทียบ
ค.นาข้อมูลมาเทียบเคียงก ัน
ง.วิเคราะห์ประเมินผลการเปรียบเทียบ
เทคนิค COMPARATIVE
แบ่งเป็น 2 ล ักษณะ
2. เปรียบเทียบล ักษณะสร้างสรรค์
ก.กาหนดกรอบแนวคิดทีต
่ อ
้ งการ
ข.ดึงล ักษณะเด่นออกมาเปรียบเทียบ
ค.พิจารณาความเหมาะสมทีจ
่ ะเอามาแทนที่
ง.ประยุกต์ให้เหมาะสมก ับเป้าหมายในการ
้
ประยุกต์Benchmarking มา
เปรียบเทียบ
นอกจากจะเปรียบเทียบ ความเหมือน ความ
ต่าง วิเคราะห์เปรียบเทียบของเขา-ของเรา
1. กระบวนการทางาน
2.การจ ัดองค์กร
3.กลยุทธ์
่ ยสน ับสนุนการผลิตและบริการ
4. ปัจจ ัยทีช
่ ว
ประโยชน์ COMPARATIVE
ั อ
้ นได้งา่ ยขึน
้
1.เข้าใจเรือ
่ งทีย
่ าก และซบซ
2.เข้าใจตรงก ันในมาตรฐานทีแ
่ ตกต่างก ัน
่ ยลดเวลาในการอธิบาย
3.ชว
4.จูงใจให้เกิดการคล้อยตาม
5.จุดประกายความคิดสร้างสรรค์สงิ่ ใหม่
วิธก
ี าร COMPARATIVE
1.กาหนดกรอบแนวคิดการเปรียบเทียบ
2.ออกแบบตารางการเปรียบเทียบ
3.กาหนดเกณฑ์การเปรียบเทียบ เด่น-ด้อยข้อจาก ัด ตามข้อกาหนด ว ัตถุประสงค์ ฯลฯ
4.สรุป ประยุกต์ ผลการเปรียบเทียบ พร้อมข้อ
วิจารณ์ ข้อเสนอแนะ
ขนตอนการสร้
ั้
างเครือ
่ งมือ
ื่ มน
ให้มค
ี วามเชอ
่ั
ึ ษามาอย่างไร
ต้องเขียนอธิบายว่าศก
จากทีไ่ หนบ้าง เมือ
่ สร้างแล้วต้องหา
่ นใหญ่ก็ให้
ความเทีย
่ งตรง สว
ี่ วชาญตรวจสอบก่อนนาไป
ผูเ้ ชย
ทดลองTry-Out
การเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์
ต้องเขียนอธิบายให้มห
ี ล ักฐานที่
ื่ ถือได้วา
น่าเชอ
่ เก็บข้อมูลมาอย่างไร
เจ้าต ัวเก็บเอง หรือให้คนอืน
่ เก็บให้ ่ ยเก็บ
เก็บเอง –ผูเ้ กีย
่ วข้องชว
ต ัวอย่าง..
จะดาเนินการวิเคราะห์อย่างไร
เมือ
่ ได้ขอ
้ มูลมาแล้วทาอย่างไร ต้อง
ั
เขียนอธิบายให้ชดเจนว่
าแยะแยะ
องค์ประกอบอย่างไร แต่ละ
องค์ประกอบจาทาการวิเคราะห์
อย่างไร ต ัวอย่าง....
การเสนอผลการวิเคราะห์
่ นนีต
้ อ
ในสว
้ งเขียนอธิบายว่ามีขนตอนใน
ั้
การทาการวิเคราะห์อย่างไร ให้
ละเอียด ใชเ้ กณฑ์อะไรในการ
วิเคราะห์ ในประเด็นไหนบ้าง
่ นออกแบบตารางเสนอผลการ
เป็นสว
้ วิเคราะห์/ออกแบบรูปกราฟ-เสน
แท่ง-วงกลม ต ัวอย่าง............
การสรุป วิพากษ์ ให้ขอ
้ เสนอแนะ
1.จะนาว ัตถุประสงค์มากล่าวยา้ อีกครงั้
2.จะอธิบายว่ามีวธ
ิ ก
ี ารดาเนินการ
วิเคราะห์อย่างไร ตอนไหนทาอะไร
ี้ จงว่าได้ขอ
3.เขียนชแ
้ มูลมาแล้วมีวธ
ิ ก
ี าร
วิเคราะห์ขอ
้ มูลอย่างไร ใชเ้ กณฑ์
อะไร
4.สรุปผลการวิเคราะห์และวิพากษ์
การเขียนสรุป
1.เขียนเฉพาะสาระสาค ัญของเรือ
่ งราว
ทงหมดท
ั้
าให้ผอ
ู ้ า่ นทราบความเป็นมา
ความสาค ัญ ว ัตถุประสงค์ ขอบเขต
วิธก
ี ารดาเนินการ ผลของการ
ดาเนินการ รวมทงข้
ั้ อสรุป วิธเี ขียน
ต้องเขียนล ักษณะบทความ
การเขียนสรุป
1.1 ตอบปัญหาทีก
่ าหนดไว้
1.2อยูภ
่ ายใต้ขอบเขตทีก
่ าหนด
1.3ตามข้อเท็จจริงไม่ลาเอียง
1.4เป็นประโยชน์ตอ
่ การนาไปใช ้
1.5ทบทวนอย่างรอบครอบแล้ว
การเขียนวิพากษ์
2.การเขียนวิพากษ์/อภิปราย เพือ
่ ยืนย ัน
ให้ผอ
ู ้ า่ นเห็นว่า ผลการวิเคราะห์ทไี่ ด้
ื่ ถือ ถูกต้อง หรือมีขอ
น่าเชอ
้ ข ัดแย้ง
ี้ จง
ต้องอธิบายเหตุผลและหาข้อมูลชแ
การเขียนข้อเสนอแนะ
้ ระโยชน์อะไรได้บา้ ง
1.การนาไปใชป
2.การทางานเรือ
่ งคล้ายก ัน ต้อง
ระว ังอะไรบ้าง เรามีปญ
ั หา
ั
อย่างไร ต้องเสนอแนะให้ชดเจน
3.การจาทาเรือ
่ งคล้ายก ัน ควร
วิเคราะห์ในประเด็นไหนอีก
การเขียนข้อเสนอแนะยึดหล ัก
1.ไม่ใชเ่ กิดจากข้อคิดเห็น
2.ควรคานึงข้อจาก ัด เงิน เวลา
ความจาเป็น
3.ข้อเสนอแนะทุกประเด็นต้องมีรา
ละเอียดให้มากพอสมควร พอที่
สามารถนาไปปฏิบ ัติได้
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
*ปกนอก
่ นประกอบตอนต้น
สว
*ปกใน
*คานิยม
*คานา
*สารบ ัญ
ี าราง/บ ัญชภ
ี าพประกอบ
*บ ัญชต
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
่ นประกอบเนือ
้ หา
สว
่ นทีจ
*สว
่ ัดทาสารบ ัญเป็นบท ๆ
่ นประกอบตอนท้าย
สว
*บรรณานุกรม
*ภาคผนวก
*ประว ัติผเู ้ ขียน
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
คานิยม
ี่ วชาญ
*ร ับรองจากผูบ
้ ังค ับบ ัญชา ผูเ้ ชย
ื่ เสย
ี งเป็นทีย
ผูท
้ รงคุณวุฒ ิ ผูม
้ ช
ี อ
่ อมร ับ
่ งนน
ในชว
ั้ เพือ
่ ให้ผลงานเป็นที่
ื่ ถือมากยิง่ ขึน
้
น่าเชอ
คานา
*บอกขอบข่ายของเรือ
่ ง
*สาเหตุทส
ี่ นใจ
*จุดมุง
่ หมาย
่ ยเหลือ
*ขอบคุผช
ู้ ว
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
สารบ ัญ
ี อกแต่ละบท ห ัวข้อสาค ัญที่
เป็นบ ัญชบ
เรียงลาด ับ ปรากฏอยูห
่ น้าใดในเล่ม
ี าราง/ภาพประกอบ
บ ัญชต
*แยกตารางและภาพประกอบ ว่ามี
อะไรบ้างอยูห
่ น้าใด
*ต้องกล่าวนาตาราง/ภาพประกอบก่อน
ว่าจะแสดงอะไร และต้องมีเลขกาก ับ
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
บรรณานุกรม
*จะอยูต
่ อ
่ จากบทสุดท้าย เป็นการบอกว่า
ึ ษาค้นคว้ามาจากทีไ่ ด้
ผูเ้ ขียนได้ศก
บ้าง ของใคร เมือ
่ ไร
*อ้างอิง นาม - ปี เอามาจากการอ้างอิง
้ หา
ในเนือ
้ ก่อน และตามด้วย
* ให้เอาภาษาไทยขึน
ภาษาตางประเทศ
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
่ ยให้ผค
ภาคผนวก เป็นสงิ่ ทีช
่ ว
ู้ น
้ คว้า
ั
้ ไม่ใช ้
ไดเข้าใจชดเจนยิ
ง่ ขึน
้ หาของงาน จะมีหรือไม่
เนือ
แล้วแต่ความจาเป็น สงิ่ สาค ัญ
้ หา
อยูท
่ เี่ นือ
่ นประกอบของรูปเล่มงานเชงิ วิเคราะห์
สว
ประว ัติผเู ้ ขียน เขียนประว ัติอย่าย่อ
ว่ามีความรูค
้ วามชานาญ
ี่ วชาญอย่างไร ทาให้ผลงาน
เชย
ื่ ถือ ให้ผศ
ึ ษา
เป็นทีน
่ า
่ เชอ
ู้ ก
ค้นคว้าติดต่อสอบถามเรือ
่ งราว
เพิม
่ เติมได้
[email protected]
[email protected]