Attach Files..

Download Report

Transcript Attach Files..

Knowledge Management (KM)
การบริหารจัดการความรู้
Knowledge Management
 เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทาให้
องค์กรต่างๆมีขอ้ มูลจัดเก็บอยูจ่ านวนมาก และเกิดความ
ต้องการที่จะจัดให้อยูอ่ ย่างเป็ นระเบียบ เข้าถึงง่าย ทันต่อการ
นาไปใช้งาน
ความหมายของความรู้

ดาเวนพอร์ท (2542)
ความรู้ คื อ กรอบของการประสบประสานระหว่างประสบการณ์
ค่านิยม ความรอบรู ้ในบริ บท และความรู ้แจ้งอย่างช่าชอง เป็ นการประสม
ประสานที่ให้กรอบสาหรับ การประเมินค่า และการนาเอาประสบการณ์
กับ สารสนเทศใหม่ ๆ มาผสมรวมเข้าด้วยกัน มัน เกิ ดขึ้ นและถูกนาไป
ประยุกต์ในใจของคนที่ รู้ สาหรั บในแง่ขององค์กรนั้น ความรู ้ มกั จะสั่ง
สมอยูใ่ นรู ปของเอกสาร หรื อแฟ้ มเก็บเอกสารต่างๆ รวมถึง สั่งสมอยูใ่ น
การทางาน อยูใ่ นกระบวนการ อยูใ่ นการปฏิบตั ิงานและอยูใ่ นบรรทัดฐาน
ขององค์กรนัน่ เอง
ความหมายของความรู้

สิ่ งที่ใช้อธิบายสิ่ งต่างๆที่พบเห็นได้อย่างมีเหตุผล โดยอาศัยข้อมูล
ทักษะ และประสบการณ์ที่มีอยู่ เป็ นส่ วนสนับสนุนการตัดสิ นใจ
ประเภทของความรู้








ความรู ้ก่อนประสบการณ์ (Priori knowledge)
ความรู้หลังประสบการณ์ (Posteriori knowledge)
ความรู้โดยประจักษ์ (Knowledge by Acquaintance)
ความรู ้โดยบอกกล่าว (knowledge by Description)
ความรู้เชิงประสบการณ์ (Expirical knowledge)
ความรู้โดยตรง (Immediate knowledge)
ความรู้เชิงวัตถุวิสัย (Objective knowledge)
ความรู้เชิงจิตวิสัย (Subjective knowledge)
ความหมายของการบริหารจัดการความรู้ (KM)

Stair (2001)
การบริ หารจัดการความรู้ เป็ นกระบวนการ รวบรวม จัดการ ความรู้
ความชานาญ ไม่วา่ ความรู ้น้ นั จะอยูใ่ น คอมพิวเตอร์ ในกระดาษ หรื อตัว
บุ ค คล โดยมี จุ ด มุ่ ง หมายเพื่ อ จัด การให้ บุ ค ลากร ได้รั บ ความรู ้ และ
แลกเปลี่ยนความรู ้ ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากเดิม โดยให้
เกิดประสบการณ์และความชานาญเพิ่มขึ้น
ความหมายของการบริหารจัดการความรู้ (KM)
คือ ระบบบริ หารจัดการ
ความรู ้ให้เป็ นระเบียบ ครบถ้วน ง่ายต่อการเรี ยกใช้
จัดเก็บตามความต้องการ เก็บรักษาความรู ้ให้ควบคู่
กับองค์กรตลอดไป โดยนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ใน
การจัดการ
 การบริหารจัดการความรู้
เหตุผลของการนา KM มาใช้
 การเปลีย่ นแปลงเทคนิคในการบริหารงาน
 ความเปลีย่ นแปลงด้ านการตลาด
 ลดความผิดพลาดในการแข่ งขันด้ านการตลาด
 สร้ างวิธีปฏิบัตท
ิ ดี่ ที สี่ ุ ด
 การสร้ างนวัตกรรมใหม่ ๆ
ความรู้ในองค์ กร(Knowledge in Organizations)

ความรู้อย่ างไม่ เป็ นทางการ (Tacit knowledge)
เป็ นทักษะหรื อความรู้เฉพาะตัวของแต่ละบุคคลที่มาจากประสบการณ์ ความเชื่อ หรื อ
ความคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบตั ิงาน เช่น การถ่ายทอดความรู ้ ความคิดผ่านการสังเกต การ
สนทนา การฝึ กอบรม

ความรู้อย่ างเป็ นทางการ (Explicit knowledge)



Object base ความรู ้ที่เกิดจากการสร้างขึ้นมา เช่นคู่มือ สิ ทธิบตั ร
Rule base ความรู้ที่ถูกนามาประมวลเป็ นกฎเกณฑ์ ระเบียบปฏิบตั ิ
ความรู้ทเี่ กิดจากวัฒนธรรม (Cultural knowledge)
เป็ นความรู้ที่เกิดจากศรัทธา ความเชื่อ ที่ทาให้กลายเป็ นความจริ ง ซึ่ งจะขึ้นอยูก่ บั
ประสบการณ์ การเฝ้ าสังเกต และการสะท้อนกลับของผลของตัวควบคุมและของ
สภาพแวดล้อม
องค์ ประกอบของ KM

คน (People)
ผูท้ ี่มีผลกระทบกับองค์กร KM จะรวบรวมว่าใครเชี่ยวชาญในด้านใดบ้าง ถ้ามีงาน
ใหม่เข้ามาจะมอบหมายให้ใครเป็ นผูร้ ับผิดชอบ

สถานที่ (Place)
ที่ที่ทุกคนในองค์กรสามารถระดมความคิดร่ วมกันได้ อาจอยูใ่ นรู ปของเวปบอร์ด การ
ประชุมทางไกล หรื อโปรแกรมออนไลน์อื่นๆ

ข้ อมูล (Thing)
ทุกสิ่ งที่นาเก็บและให้ผใู้ ช้เข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้โดยง่าย การวิเคราะห์แยกแยะ
หมวดหมู่ของข้อมูลเป็ นเรื่ องสาคัญ
องค์ ประกอบหลักในการพัฒนา KM
 ผู้นา (Leadership)
 วัฒนธรรม (Culture)
 การเข้ าถึงแหล่ งความรู้ (Access)
 เทคโนโลยี (Technology)
 วัฒนธรรมการเรียนรู้ (Learning
 บรรยากาศอิสระ แต่ จริงจัง
Culture)
แนวทางการพัฒนา KM
กาหนดให้มีหวั หน้าคณะทางาน (Chief Knowledge
Officer) หรื อการสร้างทีมงานในแต่ละสาขามาร่ วมกันพัฒนา
กระบวนการทางาน
 ระบุขอ้ มูลหรื อความรู ้ที่ตอ้ งการใช้เพื่อการตัดสิ นใจให้ชดั เจน
 จัดทา Workflow พัฒนากระบวนการทางาน โดยการสร้าง
ความรู ้ การรวบรวมและการจัดเก็บ เพื่อเชื่อมโยงไปยังผลลัพธ์ที่ได้จา
กระบวนการดังกล่าวโดยให้คนในองค์กรมีส่วนร่ วมมากขึ้นในการ
ปรับปรุ ง Workflow

แนวทางการพัฒนา KM
การสร้างและการถ่ายทอดความรู ้ของบุคคลในองค์กรจะช่วย
แก้ปัญหาให้งานสาเร็ จและมีประสิ ทธิภาพขึ้น
 พัฒนาศูนย์ขอ้ มูลโดยอาศัยทักษะการถ่ายทอดหรื อการเคลื่อนย้าย
ความรู ้
 ทาระบบเครื อข่ายผูเ้ ชี่ยวชาญเพื่อการประสานงานความร่ วมมือ และ
การส่ งเสริ มการใช้ความรู ้ร่วมกัน

เครื่องมือทีใ่ ช้ ในการทา KM
ระบบสารสนเทศ
เทคโนโลยี
เทคโนโลยีสนับสนุน
เครื่องมือทีใ่ ช้ ในการทา KM
 ระบบสารสนเทศ
 ระบบสานักงานอัตโนมัติ (Office Automation System : OAS)
 ระบบสนับสนุนการสร้ างองค์ ความรู้ (Knowledge Work System :
KWS)

ระบบสนับสนุนการทางานกลุ่ม (Group Collaboration System :
GCS)

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI)
เครื่องมือทีใ่ ช้ ในการทา KM
 เทคโนโลยี

Business Intelligence การวิเคราะห์ ข้อมูล Data Mining

Collaboration การผสมผสานการใช้ Tool หลายๆตัวในการจัดเก็บ

Knowledge Transfer การถ่ ายทอดความรู้ ในรู ปแบบ e-Learning

Knowledge Discovery การหาวิธีทจี่ ะเข้ าถึงส่ วนต่ างๆ การสกัดข้ อมูล

Expertise Location การหาว่ าใครในองค์ กรทีมีความเชี่ยวชาญในเรื่องใด
เครื่องมือทีใ่ ช้ ในการทา KM
 เทคโนโลยีสนับสนุน
 เทคโนโลยีการสื่ อสาร (Communication Technology)
 เทคโนโลยีการทางานร่ วมกัน (Collaboration Technology)
 เทคโนโลยีการจัดเก็บ (Storage Technology)
ประโยชน์ ของ KM
 เพิม
่ ประสิ ทธิภาพขององค์ กร ป้องกันการสู ญหายของภูมิปัญญา
 เพิม
่ ขีดความสามารถในการตัดสิ นใจและวางแผนดาเนินงานให้
รวดเร็ว และดีขนึ้
 เปลีย่ นวัฒนธรรมอานาจ สู่ วัฒนธรรมความรู้
 ฯลฯ
Knowledge Management
จบการบรรยาย
คาถาม