chapter2 - UTCC e

Download Report

Transcript chapter2 - UTCC e

บทที่ 2
ิ ค ้า
อุปสงค์ อุปทาน และการกาหนดราคาสน
o อุปสงค์
o ความหมายของอุปสงค์
o กฎของอุปสงค์
o อุปสงค์สว่ นบุคคลและอุปสงค์ตลาด
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ
o ปั จจัยอืน
่ ๆ ทีก
่ าหนดปริมาณความต ้องการซอ
ื้ และการเปลีย
o การเปลีย
่ นแปลงปริมาณความต ้องการซอ
่ นแปลง
อุปสงค์
o อุปสงค์ชนิดอืน
่
o อุปสงค์ตอ
่ รายได ้
o อุปสงค์ไขว ้
1
บทที่ 2
ิ ค ้า
อุปสงค์ อุปทาน และการกาหนดราคาสน
o
อุปทาน
o ความหมายของอุปทาน
o
o
o
กฎของอุปทาน
อุปทานสว่ นบุคคลและอุปทานตลาด
ปั จจัยอืน
่ ๆ ทีก
่ าหนดปริมาณการเสนอขาย
o
การเปลีย
่ นแปลงปริมาณความต ้องการเสนอขายและการ
เปลีย
่ นแปลงอุปทาน
ิ ค ้า
o
การกาหนดราคาสน
o ราคาและปริมาณดุลยภาพ
่ ล
o การปรับตัวเข ้าสูด
ุ ยภาพในตลาด
o
การเปลีย
่ นแปลงดุลยภาพของตลาด
2
2.1 อุปสงค์ (Demand)
ื้ ในเวลาใด
อุปสงค์ หมายถึง จานวนสนิ ค ้าหรือบริการทีผ
่ ู ้บริโภคต ้องการจะซอ
่
เวลาหนึง่ ซงึ่ จะมากหรือน ้อยเท่าใดถูกกาหนดโดยปั จจัยต่างๆ ทีส
่ าคัญ เชน
ิ ค ้าชนิดนัน
ิ ค ้าชนิดอืน
ราคาสน
้ รายได ้ของผู ้บริโภค และราคาสน
่ ทีเ่ กีย
่ วข ้องกับ
ิ ค ้าชนิดนัน
สน
้
ั พันธ์ของตัวแปรอิสระทีละตัว และกาหนดให ้ตัว
โดยปกติจะพิจารณาความสม
แปรอืน
่ ทีม
่ อ
ี ท
ิ ธิพลต่ออุปสงค์ให ้คงที่ (Ceteris Paribus)
เมือ
่ พิจารณาเฉพาะตัวแปรสาคัญ จะแบ่งอุปสงค์เป็ น 3 แบบ คือ
ิ ค ้า (Price Demand)
o อุปสงค์ตอ
่ ราคาสน
o อุปสงค์ตอ
่ รายได ้ (Income Demand)
o อุปสงค์ไขว ้ (Cross Demand)
ิ ค ้า (Price Demand) ซงึ่
แต่หากกล่าวถึงอุปสงค์ จะหมายถึงอุปสงค์ตอ
่ ราคาสน
ั พันธ์ของปริมาณความต ้องการซอ
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ (อุป
จะพิจารณาความสม
3
ิ ค ้าและบริการ) กับราคาของสน
ิ ค ้าดังกล่าว
สงค์สน
2.1.1 ความหมายของอุปสงค์ตอ
่ ราคา (Price Demand)
ิ ค ้าหรือบริการชนิดหนึง่ ที่
อุปสงค์ตอ
่ ราคา หมายถึง ปริมาณสน
ื้ ในระยะเวลาใดเวลาหนึง่ ณ ระดับราคาต่าง ๆ
ผู ้บริโภคต ้องการจะซอ
ิ ค ้าหรือบริการชนิดนัน
ของสน
้ โดยกาหนดให ้สงิ่ อืน
่ ๆ คงที่
ในทางเศรษฐศาสตร์จะถือว่าเป็ นอุปสงค์ได ้ ต ้องประกอบด ้วย
ื้ (Willingness to pay)
o ความเต็มใจซอ
ื้ (ability to pay) หรือ ต ้องมีอานาจซอ
ื้
o ความสามารถในการซอ
(Purchasing Power)
หากคุณสมบัตข
ิ ้อใดข ้อหนึง่ ไม่ถอ
ื ว่าเป็ นอุปสงค์
4
2.1.2 กฎของอุปสงค์ (Law of Demand)
ั พันธ์ระหว่างปริมาณการซอ
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ กับราคา
กฎของอุปสงค์ แสดงความสม
ิ ค ้า คือ “ถ ้ากาหนดให ้สงิ่ ต่างๆ คงทีแ
ิ ค ้าและบริการทีผ
ื้ ต ้องการซอ
ื้
สน
่ ล ้ว ปริมาณสน
่ ู ้ซอ
ิ ค ้า”
จะผันแปรตรงข ้ามกับราคาสน
P   Qd 
P   Qd 
ทัง้ นีเ้ พราะ
o ผลการทดแทน (Substitution Effect)
o ผลทางด ้านรายได ้ (Income Effect)
ื้ จากการเปรียบเทียบราคากับสน
ิ ค ้าที่
ผลการทดแทน คือ การเปลีย
่ นแปลงปริมาณซอ
ทดแทนกัน
ื้ จากการเปลีย
ผลทางด ้านรายได ้ คือ การเปลีย
่ นแปลงปริมาณซอ
่ นแปลงของราคาแล ้ว
ื้ ของผู ้บริโภคเปลีย
ทาให ้รายได ้ทีแ
่ ท ้จริงหรืออานาจซอ
่ นแปลงไป ผู ้บริโภคจึง
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ
เปลีย
่ นแปลงปริมาณการซอ
ิ ค ้าและบริการบางประเภท ไม่เป็ นไปตามกฎของอุปสงค์ คือ
สน
P   Qd 
P   Qd 
5
ิ ค ้าซงึ่ ไม่เป็ นไปตามกฎของอุปสงค์
สน
ิ ค ้ากิฟเฟ่ น (Giffen goods) เป็ นสน
ิ ค ้าทีร่ าคากับปริมาณการซอ
ื้
สน
ิ ค ้ามีทศ
ิ ค ้าทีค
่
สน
ิ ทางเดียวกัน เพราะเป็ นสน
่ นฐานะยากจนบริโภค เชน
้
ื้ สน
ิ ค ้าเหล่านี้ เพราะราคาถูก
ขนมปั ง ซงึ่ คนจนใชรายได
้สว่ นใหญ่มาซอ
ิ ค ้าชนิดอืน
ิ ค ้า giffen สูงขึน
มากเมือ
่ เทียบกับสน
่ ๆ ดังนัน
้ แม ้ราคาสน
้
ิ ค ้าลดลง และบริโภคสน
ิ ค ้า
ทาให ้รายได ้ทีแ
่ ท ้จริงลดลง จึงบริโภคสน
giffen นีท
้ ดแทน ผลของการทดแทนกัน จะมากกว่าผลของรายได ้ที่
ิ ค ้านีล
ื้ สน
ิ ค ้าเหล่านีเ้ พิม
ทาให ้บริโภคสน
้ ดลง จึงซอ
่ ขึน
้
ิ ค ้าอวดมัง่ อวดมี (Conspicuous goods) เป็ นสน
ิ ค ้าประเภททีผ
ื้ มี
สน
่ ู ้ซอ
ื้ ไปบริโภคเพือ
ฐานะร่ารวย มักซอ
่ อวดความร่ารวยให ้ผู ้อืน
่ เห็น ดังนัน
้
ิ ค ้าเหล่านีส
หากราคาสน
้ งู ขึน
้ ก็ดงึ ดูดกลุม
่ ลูกค ้านีไ
้ ด้
6
การอธิบายกฎของอุปสงค์ สามารถแสดงได ้ 3 แบบ
่ ตารางอุปสงค์ของสน
ิ ค ้า X
o ตารางอุปสงค์ (Demand Schedule) เชน
PX
QX
5
7
4
10
3
14
2
20
1
29
้ ปสงค์ (Demand Curve)
o เสนอุ
P
5
2
0
D
7
20
Q
7
ั่ อุปสงค์ (Demand Function)
o ฟั งก์ชน
Qd = f (P, X1...............Xn)
Qd = f (P)
้ ปสงค์เป็ นเสนตรง
้
ในกรณีทเี่ สนอุ
เขียนสมการอุปสงค์ได ้ว่า
Qd = a – bP
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ
โดยที่ Qd = ปริมาณการซอ
a = ค่าคงที่ ทีเ่ ป็ นจุดตัดบนแกน Q
b = Q/P หรือ = dQ/dP = 1/slope
P
ตัวอย่าง Qd=25–2P
12.5
Qd = 25 - 2P
Slope = - 1/2
0
25
Q
8
2.1.3 อุปสงค์สว่ นบุคคลและอุปสงค์ตลาด
(Individual Demand and Market Demand)
ิ ค ้าที่
อุปสงค์สว่ นบุคคล (Individual Demand) หมายถึง ปริมาณสน
ื้ ณ ระดับราคาต่างๆ
ผู ้บริโภคแต่ละคนจะซอ
อุปสงค์ตลาด (Market Demand) เป็ นการรวมอุปสงค์สว่ นบุคคลเข ้า
ด ้วยกันตามแนวนอน
่ ถ ้าในตลาดมีผู ้บริโภค 2 ราย คือ A และ B ทีม
ื้
เชน
่ ค
ี วามต ้องการซอ
ิ ค ้า ณ ระดับราคาต่าง ๆ
สน
P
QA
QB
Market Demand Q (A+B)
1
10
9
19
2
9
6
15
3
8
4
12
4
7
3
10
5
6
2
8
9
P
P
P
5
5
5
1
1
1
DA
0
6 10
Q
อุปสงค์สว่ นบุคคล A
DB
0 2
9
D(A+B)
Q
0
อุปสงค์สว่ นบุคคล B
8
Q
19
อุปสงค์ตลาด
้ ปสงค์ตลาดจะมีความชน
ั น ้อยกว่าเสนอุ
้ ปสงค์สว่ นบุคคลของ A และ B
เสนอุ
10
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ
2.1.4 ปั จจัยอืน
่ ๆ ทีก
่ าหนดปริมาณความต ้องการซอ
1.
รายได ้
ิ ค ้าปกติ (Normal Goods) รายได ้ Qd รายได ้Qd3
- สน
ิ ค ้าด ้อยคุณภาพ (Inferior Goods) รายได ้ Qd รายได ้Qd
- สน
ิ ค ้าอืน
2. ราคาสน
่ ทีเ่ กีย
่ วข ้อง
ิ ค ้าทดแทนกัน
- สน
ิ ค ้า A QdAQdB
ราคาสน
ิ ค ้าประกอบกัน
- สน
ิ ค ้า A QdA QdB
ราคาสน
3.
รสนิยมผู ้บริโภค
4.
จานวนประชากร
5.
การคาดคะเนราคาและรายได ้ในอนาคต
6.
การกระจายรายได ้
7.
ฤดูกาล
11
ื้ และการเปลีย
2.1.5 การเปลีย
่ นแปลงปริมาณความต ้องการซอ
่ นแปลงอุป
สงค์ (Change in Quantity Demand and Change in Demand)
ื้ (Change in Quantity Demand)
o การเปลีย
่ นแปลงปริมาณความต ้องการซอ
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ อันเกิดขึน
หมายถึง การเปลีย
่ นแปลงปริมาณการซอ
้
ิ ค ้าชนิดนัน
เนือ
่ งจากการเปลีย
่ นแปลงของราคาสน
้ โดยกาหนดให ้สงิ่ อืน
่ ๆ
้ ปสงค์เสนเดิ
้ ม
คงที่ การเปลีย
่ นแปลงนีจ
้ ะเป็ นการเปลีย
่ นแปลงอยูบ
่ นเสนอุ
P
P
A
B
P1
D
0
Q
Q1
Q
12
o การเปลีย
่ นแปลงอุปสงค์ (Change in Demand) หมายถึง
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการ อันเกิดขึน
การเปลีย
่ นแปลงปริมาณการซอ
้ จากการ
ิ ค ้านัน
เปลีย
่ นแปลงของปั จจัยอืน
่ ๆ ทีไ่ ม่ใชร่ าคาสน
้ การเปลีย
่ นแปลง
้ ปสงค์จากเสนเดิ
้ มไปเป็ นเสนใหม่
้
นีจ
้ ะเป็ นการเลือ
่ น (shift) ของเสนอุ
P
P
C
A
B
D1
D2
0
Q0
Q
Q1
D
Q
13
2.2 อุปสงค์ชนิดอืน
่
o อุปสงค์ตอ
่ รายได ้ (Income Demand)
ิ ค ้าชนิดอืน
o อุปสงค์ตอ
่ ราคาสน
่ หรืออุปสงค์ไขว ้ (Cross Demand)
2.2.1 อุปสงค์ตอ
่ รายได ้ (Income Demand)
ิ ค ้าและบริการชนิดใดชนิดหนึง่ ทีผ
ื้
หมายถึง ปริมาณสน
่ ู ้บริโภคต ้องการซอ
ในระยะเวลาใดเวลาหนึง่ ณ ระดับ รายได ้ต่างๆ ของผู ้บริโภค โดย
กาหนดให ้สงิ่ อืน
่ ๆ คงที่
ั่ อุปสงค์ตอ
เขียนเป็ นฟั งก์ชน
่ รายได ้ ได ้ว่า
โดย
Qd = f(Y)
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการชนิดหนึง่
Qd = ปริมาณความต ้องการซอ
Y = รายได ้ของผู ้บริโภค
ั พันธ์ของ Y กับ Qd จะเป็ นอย่างไร ขึน
ิ ค ้าว่าเป็ น
ความสม
้ อยูก
่ บ
ั ชนิดของสน
ิ ค ้าปกติ (Normal Goods) หรือ สน
ิ ค ้าด ้อยคุณภาพ (Inferior Goods)14
สน
ิ ค ้าปกติ Y กับ Qd จะมีความสม
ั พันธ์ในทิศทางเดียวกัน
สน
Y   Qd 
Y   Qd 
้ ปสงค์ตอ
ิ ค ้าปกติ จะมี slope เป็ นบวก
ดังนัน
้ เสนอุ
่ รายได ้ของสน
Y
Dy
Y1
Y
0
Q
Q1
Q
15
ิ ค ้าด ้อยคุณภาพ Y กับ Qd จะมีความสม
ั พันธ์ในทิศทางตรงข ้าม
สน
Y   Qd 
Y   Qd 
้ ปสงค์ตอ
ิ ค ้าด ้อยคุณภาพ จะเป็ นเสนทอดลงจากซ
้
้
เสนอุ
่ รายได ้ของสน
าย
ไปขวา มี slope เป็ นลบ
Y
Y1
Y
Dy
0
Q1
Q
Q
16
ิ ค ้าชนิดอืน
2.2.1 อุปสงค์ตอ
่ ราคาสน
่ หรืออุปสงค์ไขว ้ (Cross Demand)
ิ ค ้าและบริการชนิดใดชนิดหนึง่ ทีผ
ื้ ใน
หมายถึง ปริมาณสน
่ ู ้บริโภคต ้องการซอ
ิ ค ้าหรือบริการอีกชนิดหนึง่
ระยะเวลาใดเวลาหนึง่ ณ ระดับ ราคาต่างๆ ของสน
โดยกาหนดให ้สงิ่ อืน
่ ๆ คงที่
ั่ อุปสงค์ตอ
เขียนเป็ นฟั งก์ชน
่ ราคา ได ้ว่า
QA = f (PB)
โดย
ื้ สน
ิ ค ้าและบริการชนิดหนึง่
QA = ปริมาณความต ้องการซอ
ิ ค ้าอีกชนิดหนึง่
PB = ราคาสน
ั พันธ์ของ PB กับ QA จะเป็ นอย่างไร ขึน
ิ ค ้า 2
ความสม
้ อยูก
่ บ
ั ลักษณะของสน
ิ ค ้าทีท
ิ ค ้าทีใ่ ช ้
ชนิดว่าเป็ น สน
่ ดแทนกัน (Substitution Goods) หรือ สน
ประกอบกัน (Complementary Goods)
17
ิ ค ้าทดแทนกัน กับ QA จะมีความสม
ั พันธ์ในทิศทางเดียวกัน
สน
PB   QB   QA 
้ ปสงค์ไขว ้ของสน
ิ ค ้าทดแทนกัน จะมี slope เป็ นบวก
ดังนัน
้ เสนอุ
PB
Dc
P2
P1
0
Q1
Q2
QA
18
ิ ค ้าประกอบกัน PB กับ QA จะมีความสม
ั พันธ์ในทิศทางตรงข ้าม
สน
PB   QB   QA 
้ ปสงค์ไขว ้ของสน
ิ ค ้าประกอบกัน จะเป็ นเสนทอดลงจากซ
้
้
เสนอุ
ายไปขวา
มี slope เป็ นลบ
PB
P2
P1
Dc
0
Q2
Q1
QA
19
ิ ค ้า 2 ชนิดไม่มค
ในกรณีทส
ี่ น
ี วามเกีย
่ วข ้องกันเลย การเปลีย
่ นแปลง
ิ ค ้า B จะไม่กระทบต่อปริมาณการซอ
ื้ สน
ิ ค ้า A เลย
ของราคาสน
้ ปสงค์ไขว ้ของสน
ิ ค ้า A จะเป็ นเสนตรงตั
้
เสนอุ
ง้ ฉากกับแกนนอน มี
slope เป็ นอนันต์ ()
PB
DC
P1
P
0
Q
QA
20
2.3 อุปทาน (Supply)
2.3.1 ความหมายของอุปทาน (Supply)
ิ ค ้าหรือบริการทีผ
อุปทาน หมายถึง จานวนสน
่ ู ้ขายเต็มใจจะนาออก
ิ ค ้านัน
ขาย ณ ระดับราคาต่างๆ ของสน
้ ในระยะเวลาใดเวลาหนึง่ โดย
่ เทคนิคการผลิต
กาหนดให ้ปั จจัยอืน
่ ๆ ทีม
่ ส
ี ว่ นกาหนดอุปทาน (เชน
ฤดูกาลผลิต ต ้นทุนการผลิต) คงที่
ั พันธ์ของปริมาณการเสนอขายสน
ิ ค ้าและบริการกับราคาของ
ความสม
ิ ค ้านัน
ั พันธ์กน
สน
้ จะมีความสม
ั อย่างไร เป็ นไปตาม กฎของอุปทาน
21
2.3.2 กฎของอุปทาน (Law of Supply)
ั พันธ์ระหว่างปริมาณการขายสน
ิ ค ้าและบริการ
กฎของอุปทาน แสดงความสม
ิ ค ้า คือ “ถ ้ากาหนดให ้สงิ่ ต่างๆ คงที่ ปริมาณการเสนอขายสน
ิ ค ้าและ
กับราคาสน
ั พันธ์ในทางเดียวกับราคาของสน
ิ ค ้านัน
บริการจะมีความสม
้ ”
P   Qs 
P   Qs 
ทัง้ นีเ้ พราะ
ิ ค ้าเพิม
1. เมือ
่ ราคาสน
่ ขึน
้ ผู ้ผลิตเดิมจะขยายการผลิตโดยการใชปั้ จจัยการ
ผลิตมากขึน
้
ิ ค ้าเพิม
ิ ค ้าและ
2. เมือ
่ ราคาสน
่ ขึน
้ จะมีผู ้ผลิตรายใหม่เข ้ามาทาการผลิตสน
บริการ โดยเฉพาะผู ้ผลิตทีเ่ คยไม่ผลิตเพราะขาดทุน เมือ
่ ราคาเพิม
่ ขึน
้ จึง
ิ ค ้า
เข ้ามาผลิตสน
22
การอธิบายกฎของอุปทาน สามารถแสดงได ้ 3 แบบ
่ ตารางอุปทานของสน
ิ ค ้า X
o ตารางอุปทาน (Supply Schedule) เชน
PX
QX
8
20
7
17
6
14
5
11
4
8
3
5
้ ปทาน (Supply Curve)
o เสนอุ
P
S
8
3
0
5
20
Q
23
ั่ อุปทาน (Supply Function)
o ฟั งก์ชน
Qs = f (P, X1...............Xn)
Qs = f (P)
้ ปทานเป็ นเสนตรง
้
ในกรณีทเี่ สนอุ
เขียนสมการอุปทานได ้ว่า
Qs = a + bP
ิ ค ้าและบริการ
โดยที่ Qs = ปริมาณการขายสน
a = ค่าคงที่ ทีเ่ ป็ นจุดตัดบนแกน Q
b = Q/P หรือ = dQ/dP = 1/slope
P
Qs = 20+3P
ตัวอย่าง Qs=20+3P
Slope = 1/3
0
-6.67
20
Q
24
2.3.3 อุปทานสว่ นบุคคลและอุปทานตลาด
(Individual Supply and Market Supply)
ิ ค ้าและบริการ
อุปทานสว่ นบุคคล (Individual Supply) หมายถึง ปริมาณสน
ชนิดใดชนิดหนึง่ ทีผ
่ ู ้ผลิตแต่ละรายเต็มใจจะเสนอขายในตลาด ณ ระดับราคา
ิ ค ้า ในระยะเวลาเวลาหนึง่
ต่างๆ ของสน
ิ ค ้าชนิดใดชนิดหนึง่ ทีผ
อุปทานตลาด (Market Supply) ปริมาณสน
่ ู ้ผลิตหรือ
ผู ้ขายทุกคนในตลาดเต็มใจจะนาออกเสนอขายในตลาด ณ ระดับราคาต่าง ๆ
ิ ค ้าในระยะเวลาใดเวลาหนึง่
ของสน
เป็ นการรวมอุปสงค์สว่ นบุคคลเข ้าด ้วยกันตามแนวนอน
่ ถ ้าในตลาดมีผู ้ขาย 2 ราย คือ A และ B ทีม
ิ ค ้า ณ
เชน
่ ค
ี วามต ้องการขายสน
ระดับราคาต่าง ๆ
P
QA
QB
Market Supply Q (A+B)
10
14
22
36
8
11
20
31
6
8
18
26
4
5
15
20
2
0
10
10
25
ิ ค ้าหน่วยละ 10 บาท หากราคาสน
ิ ค ้าลดลงเป็ น 8 บาท A และ
เดิมราคาสน
ิ ค ้าลดลงเป็ น 11 และ 20 หน่วยตามลาดับ อุปทาน
B ยินดีเสนอขายสน
ตลาด ณ ราคา 8 บาท จะเท่ากับ 11 + 20 = 31 หน่วย
หากรวมปริมาณอุปทานของผู ้ขายทุกราย ในแต่ละระดับราคาตามแนวนอน
้ ปทานสว่ นบุคคลและอุปทานตลาดได ้
สามารถสร ้างเสนอุ
P
P
SA
10
10
10
6
6
2
2
6
2
0
8
14
Q
อุปทานสว่ นบุคคล A
P
SB
0
10
18 22
Q
0
อุปทานสว่ นบุคคล B
SM
10
26
36
Q
อุปทานตลาด
้ ปทานตลาดจะมี slope ทีล
้ ปทานสว่ นบุคคล
เสนอุ
่ าดกว่าเสนอุ
26
ิ ค ้าและบริการ
2.3.4 ปั จจัยอืน
่ ๆ ทีก
่ าหนดปริมาณเสนอขายสน
1. ราคาปั จจัยการผลิต
2. เทคนิคการผลิต
ิ ค ้าชนิดอืน
3. การเปลีย
่ นแปลงของราคาสน
่ ทีเ่ กีย
่ วข ้อง
ิ ค ้าในอนาคต
4. การคาดคะเนราคาสน
5. จานวนผู ้ขาย
6. ภาษี และเงินชว่ ยเหลือ
7. เป้ าหมายของธุรกิจหรือผู ้ผลิต
27
2.3.5 การเปลีย
่ นแปลงปริมาณเสนอขายและการเปลีย
่ นแปลงอุปทาน
(Change in Quantity Supply and Change in Supply)
o การเปลีย
่ นแปลงปริมาณเสนอขาย (Change in Quantity Supply)
ิ ค ้าและบริการ เมือ
หมายถึง การเปลีย
่ นแปลงปริมาณการเสนอขายสน
่ มี
ิ ค ้าชนิดนัน
การเปลีย
่ นแปลงของราคาสน
้ โดยกาหนดให ้สงิ่ อืน
่ ๆ คงที่ การ
้ ปทานเสนเดิ
้ ม
เปลีย
่ นแปลงนีจ
้ ะเป็ นการเปลีย
่ นแปลงอยูบ
่ นเสนอุ
P
S
B
P1
P
0
A
Q
Q1
Q
28
o การเปลีย
่ นแปลงอุปทาน (Change in Supply) หมายถึง การ
ิ ค ้าและบริการ อันเกิดขึน
เปลีย
่ นแปลงปริมาณการเสนอขายสน
้ จาก
ิ ค ้านัน
การเปลีย
่ นแปลงของปั จจัยอืน
่ ๆ ทีไ่ ม่ใชร่ าคาสน
้ การ
้ ปทานจากเสนเดิ
้ ม
เปลีย
่ นแปลงนีจ
้ ะเป็ นการเลือ
่ น (shift) ของเสนอุ
้
ไปเป็ นเสนใหม่
P
S2
S
P
0
C
Q1
A
Q
S1
B
Q2
Q
29
ิ ค ้า (Price Determination)
2.4 การกาหนดราคาสน
2.4.1 ราคาและปริมาณดุลยภาพ
ิ ค ้าและปริมาณสน
ิ ค ้าไม่
ดุลยภาพตลาด หมายถึง สภาวะทีร่ ะดับราคาสน
เปลีย
่ นแปลง หากไม่มป
ี ั จจัยภายนอกเข ้ามากกระทบในตลาด นั่นคือ
ื้ และเป็ นราคาเดียวกันทีผ
ราคาดุลยภาพ เป็ นราคาทีผ
่ ู ้บริโภคยินดีทจ
ี่ ะซอ
่ ู ้ผลิต
ยินดีทจ
ี่ ะขาย
ื้ และเป็ นปริมาณ
ปริมาณดุลยภาพ เกิดจากปริมาณทีผ
่ ู ้บริโภคยินดีทจ
ี่ ะซอ
เดียวกันทีผ
่ ู ้ผลิตยินดีทจ
ี่ ะขาย
P
S
การแสดงโดยกราฟ
Pe
E
D
0
Qe
Q
30
การแสดงด ้วยตาราง
ราคา
ิ ค ้า
สน
Qd
(หน่วย)
Qs
(หน่วย)
10
8
6
1
3
10
36
31
26
4
2
20
37
20
10
สถานการณ์
ในตลาด
อุปทานสว่ นเกิน
อุปทานสว่ นเกิน
อุปทานสว่ นเกิน
ดุลยภาพ
อุปสงค์สว่ นเกิน
ผลต่อ
ราคา



คงที่

31
การแสดงด ้วยสมการ
ื้ 2 ราย มีสมการอุปสงค์สว่ นบุคคลดังนี้
สมมติมผ
ี ู ้ซอ
Qd1 = 60 – 8P
Qdm = (60–8P) + (20–2P) = 80-10P
QQd
d
=
20
–
2P
2
1
และมีผู ้ขาย 2 ราย มีสมการอุปทานสว่ นบุคคลดังนี้
Qs1 = 15 + 3P
Qsm = (15+3P) + (5+7P) = 20+10P
Qs2 = 5 + 7P
เงือ
่ นไขดุลยภาพตลาด Qd = Qs
80-10P = 20+10P
20P = 60
P = 60/20 = 3
แทน P=3 กลับเข ้าไปในสมการ Qdm หรือ Qsm จะได ้ Q=50
32
่ ล
2.4.2 การปรับตัวเข ้าสูด
ุ ยภาพในตลาด
การเกิดอุปสงค์สว่ นเกิน (Excess Demand)
ราคา
Supply
E
Pe
P1
B
A
excess demand
0
Qs
Qe
Qd
Demand
ปริมาณ
33
การเกิดอุปทานสว่ นเกิน (Excess Supply)
ราคา
Supply
excess supply
P2
A
B
E
Pe
Demand
0
Qd
Qe
Qs
ปริมาณ
34
2.4.3 การเปลีย
่ นแปลงดุลยภาพของตลาด
การเปลีย
่ นแปลงดุลยภาพของตลาด มาจาก
้ ปสงค์เปลีย
o การเปลีย
่ นแปลงเนือ
่ งจาก เสนอุ
่ นแปลงไป
้ ปทานเปลีย
o การเปลีย
่ นแปลงเนือ
่ งจาก เสนอุ
่ นแปลงไป
้ ปสงค์และเสนอุ
้ ปทาน
o การเปลีย
่ นแปลงเนือ
่ งจาก เสนอุ
เปลีย
่ นแปลงพร ้อมกัน
35
้ ปสงค์เปลีย
เสนอุ
่ น
่ รายได ้ของผู ้บริโภคเพิม
เชน
่ ขึน
้
ราคา
S
E’
P2
P1
E
D’
D
0
Q1
Q2
ปริมาณ
36
้ ปทานเปลีย
เสนอุ
่ น
่ เทคโนโลยีการผลิตดีขน
เชน
ึ้
ราคา
S
S´
P1
P2
E
E’
D
0
Q 1 Q2
ปริมาณ
37
้ ปสงค์และเสนอุ
้ ปทานเปลีย
เสนอุ
่ นทัง้ คู่
ราคาและปริมาณดุลยภาพจะเปลีย
่ นแปลงไปอย่างใด
้
ขึน
้ อยูก
่ บ
ั เสน้ D และ S เสนใดเปลี
ย
่ นไปมากกว่ากัน
D  S
ราคา
S
E’
P2
P1
S'
E
D’
D
0
Q1 Q2
ปริมาณ
38
D  S
S'
ราคา
P1
P2
E’
E
D’
0
Q2
S
Q1
D
ปริมาณ
39
D = S 
ราคา
S
S'
P2 = P1
E
E’
D’
D
0
Q1
Q2
ปริมาณ
40
D = S
ราคา
S
S'
P1
P2
E
E’
D’
0
Q1 =Q2
D
ปริมาณ
41