Transcript Document

CKD Guideline
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พญ.ธิตยิ า พัววิไล
27-09-11
การป้องกันโรคไตเรื้อรัง
 การป้องกันระดับปฐมภูมิ (Primary prevention)
 ป้ องกันไม่ให้ เกิดโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง พิษจากยา
 การป้องกันระดับทุติยภูมิ (Secondary prevention)
 ป้ องกันไม่ให้ โรคที่มีอยู่แล้ วลุกลามจนมีภาวะไตเสื่อมหรือไตวาย เช่น การ
ควบคุมเบาหวาน การควบคุมความดันโลหิต
 การป้องกันระดับตติยภูมิ (Tertiary prevention )
 ป้ องกันไม่ให้ เสียชีวิตหรือพิการจากภาวะไตวาย ได้ แก่ การบาบัดทดแทน
ไต (การฟอกเลือด การล้ างไตทางช่องท้ อง การปลูกถ่ายไต)
ผูป้ ่ วยที่มคี วามเสี่ยงสูงต่อการเป็ นโรคไตเรื้อรัง
โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิ ตสู ง
โรคแพ้ภูมิตนเอง ที่อาจ
ก่อให้เกิดไตผิดปกติ
โรคติดเชื้อในระบบที่อาจ
ก่อให้เกิดโรคไต
 โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคติดเชื้อระบบทางเดิน
ปัสสาวะซ้ าหลายครั้ง
ได้รับสารพิษหรื อยาที่ทาลายไต
อายุ > 60 ปี
มีมวลเนื้อไตลดลง ทั้งที่เป็ นมา
แต่กาเนิดหรื อเป็ นภายหลัง
มีประวัติโรคไตเรื้ อรังใน
ครอบครัว
ตรวจพบนิ่วในไต
การแบ่งระยะของโรคไตเรื้อรัง
ระยะ คำจำกัดควำม
1
ไตผิดปกกติ และ GFR ปกติหรื อเพิ่มขึ้น
2
ไตผิดปกกติ และ GFR ลดลงเล็กน้อย
GFR ( ml/min/1.73m2)
3
4
5
30-59
15-29
< 15 (หรื อได้รับการบาบัดทดแทนไต)
GFR ลดลงปานกลาง
GFR ลดลงมาก
ไตวายระยะสุ ดท้าย
≥ 90
60-89
การติดตามระดับการทางานของไตในโรคไตเรื้อรัง
 ควรมีการติดตามระดับการทางานของไตโดยการตรวจค่า eGFR และการตรวจปัสสาวะ
โรคไตเรื้ อรัง
ติดตามอย่างน้อย
ระยะที่ 1 และ 2
ทุก 12 เดือน
(ทุก 6 เดือน ถ้ าตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ)
ระยะที่ 3
ทุก 6 เดือน
(ทุก 12 เดือน ถ้ าระดับการทางานของไตคงที่และ
ตรวจไม่พบโปรตีนในปัสสาวะ)
ระยะที่ 4
ทุก 3 เดือน
(ทุก 6 เดือน ถ้ าระดับการทางานของไตคงที่)
ระยะที่ 5
ทุก 3 เดือน
การชะลอไตเสื่อมในผูป้ ่ วยโรคไตเรื้อรัง
 ความดันโลหิต < 130/80 มม.ปรอท
 เลือกใช้ ยาลดความดันกลุ่ม ACE-I หรือ ARBควบคุมให้ มี proteinuria น้ อย
กว่า 0.5 กรัมต่อวัน
 ระดับนา้ ตาลในเลือด<130 มก.ต่อเดซิลิตร (HbA1C < 7 %)
 หลีกเลี่ยงปั จจัยเสี่ยงต่างๆเช่น หลีกเลี่ยงการใช้ ยาแก้ ปวดกระดูก, ยาหม้ อ และ
สมุนไพร
 ระดับไขมันในเลือดให้ ระดับ LDL <100 มก.ต่อเดซิลิตร หรือ< 70 mg/dL
ในผู้ป่วยซึ่งมีหลักฐานว่ามีโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดสมอง
 การควบคุมพฤติกรรมชีวิต
 งดสูบบุหรี่
 ควบคุมนา้ หนักตัวให้ BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติ
 ออกกาลังกายพอควร สม่าเสมอ
 การบริโภค
 รับประทานโปรตีน หรือเนื้อสัตว์ ในสัดส่วนที่พอเหมาะ (0.6-0.8 กรัมต่อ
นน.ตัวเป็ นกิโลกรัมต่อวัน)
 รับประทานอาหาร low salt เกลือโซเดียม 2 กรัม หรือ sodium
chloride 5 กรัมต่อวัน
 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
สาระสาคัญ
CKD Guideline
คัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ ยง
CKD 1,2
มีการเสื่ อมของไต < 7
mL/min/1.73m2 ต่อปี
ปรึกษำอำยุรแพทย์
CKD 3
CKD 4,5
มีการเสื่ อมของไต > 7
mL/min/1.73m2 ต่อปี
โปรตีนรั่วในปัสสาวะ > 1g ต่อวัน หรื อ spot
UPCR > 1,000 mg/g creatinine
ปรึกษำอำยุรแพทย์
โรคไต
เป้ าหมายของการรักษาเพือ่ ป้ องกัน และชะลอการเสือ่ มของโรคไตจากเบาหวาน
กำรรักษำ
การใช้ยากลุ่มACE inhibitor หรื อ ARB
การใช้ยาความดันโลหิ ตชนิ ดอื่นร่ วมด้วย
การควบคุมระดับน้ าตาลอย่างเข้มงวด
การจากัดโปรตีนในอาหาร
การจากัดเกลือในอาหาร
การให้ยาลดไขมันคอเลสเตอรอล
การสูบบุหรี่
เป้ ำหมำย
โปรตีนรั่วทางปั สสาวะ < 0.5 – 1.0 กรัม/วัน
ความดันโลหิ ตต่ากว่า 130/80 มม.ปรอท
Hb A1c ต่ากว่าร้อยละ 6.5
0.6-0.8 กรัม/กก./วัน
3-5 กรัมของเกลือแกง/วัน
LDL-c ต่ากว่า 100 มก./ดล
หยุดสูบบุหรี่
ปรึกษำอำยุรแพทย์ โรคไต
ประเมินสิทธิกำรรักษำ
CKD 3 (eGFR ลดลง > 7 )
แนะนำกำรบำบัด
ทดแทนไต
ประเมินเส้ นเลือดเตรียมส่ งทำ
เส้ นฟอกไตกรณี HD
CKD5
CKD 4 (eGFR <30 )
รับกำรบำบัดทดแทนไตตำมสิทธิ์
ประเมินหน้ ำท้ องและนัด
สัมภำษณ์
HD
กรณีเข้ ำโครงกำร CAPD
CAPD clinic
Nephro clinic
ประเมินเข้ ำ KT guideline
CAPD
Kidney Transplantation Guideline
CKD 4 ( e GFR < 30)
ให้ ข้อมูลเรื่องกำรปลูกถ่ ำยไต
ผู้บริจำค / ผู้รับบริจำค
ประกันสังคม
เบิกได้
ขอสิทธิ์ฟอกไตทำงเส้ น
เลือด
ขอสิทธิ์ปลูกถ่ ำยไต
ฟอกไต
สปสช.
คัดเลือกเข้ ำโครงกำร CAPD
ไม่ ผ่ำนเกณฑ์ CAPD สปสช.
ผ่ำนเกณฑ์ CAPD สปสช.
( shift mode, HD(จ่ ำยเอง) )
ลงทะเบียนรอปลูกถ่ ำยไต
CDKT/LRKT
เตรียมผู้ป่วยเพือ่ รอรับกำรปลูกถ่ ำยไต
ส่ งต่ อหน่ วยบริกำรที่รับปลูกถ่ ำยไต