Transcript Chapter 10

3. ตลาดผูข้ ายมากราย หรือ ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด
(Monopolistic Competition)
มีผขู้ ายจานวนมากราย
 ขายสินค้าทีแ
่ ตกต่างกันแต่สามารถใช้แทนกันได้
(differentiated product)
 การเข้ามาผลิตแข่งขันหรือออกไปจากตลาดเป็ นไปได้โดยเสรี

1
ตลาดผูข้ ายมากราย



เส้นอุปสงค์และรายรับหน่วยสุดท้ายของหน่วยธุรกิจ
ดุลยภาพในระยะสัน้ ของหน่วยธุรกิจ
ดุลยภาพในระยะยาวของหน่วยธุรกิจ
2
เส้นอุปสงค์และรายรับหน่ วยสุดท้ายของหน่ วยธุรกิจ

เส้นอุปสงค์จะเป็ นเส้นทีล่ าดลงจากซ้ายมาทางขวาเช่นเดียวกับ
ตลาดผูกขาด แต่ลกั ษณะของเส้นจะลาดกว่า
P
d
0

MR
Q
ระยะห่างของเส้นอุปสงค์จากแกนตัง้ จะแสดงถึงความนิยมในสินค้า
และส่วนแบ่งตลาด
3
เส้นอุปสงค์ของหน่ วยธุรกิจ
d40
d70
Q
0
เส้น d40 หมายถึง เส้นอุป
สงค์เมือ่ จานวนหน่วยธุรกิจมี
เพียง 40 ราย
 เส้น d70 หมายถึง เส้นอุป
สงค์เมือ่ จานวนหน่วยธุรกิจมี
เพียง 70 ราย
 ถ้าหน่ วยธุรกิจในตลาดมีมาก
ส่วนแบ่งตลาดก็จะลดลง

P
4
ดุลยภาพในระยะสัน้ ของหน่ วยธุรกิจ


หน่วยธุรกิจจะอยูใ่ นดุลยภาพเมือ่ ผลิต ณ จุดที่ SMC=MR
ในระยะสัน้ หน่วยธุรกิจอาจอยูใ่ นสถานการณ์ของการมีกาไรเกิน
ปกติ กาไรปกติ หรือขาดทุนก็ได้ ขึน้ อยูก่ บั ลักษณะของเส้นต้นทุน
และอุปสงค์ของหน่วยธุรกิจ
5
ดุลยภาพในระยะสัน้ ของหน่ วยธุรกิจ :
กรณี ต้นทุนต่อหน่ วยตา่ และสินค้าเป็ นที่นิยมมาก


P,R

SMC

SAC
A
P
AR=D=P
E

TR = OPAQ
TC = OCBQ

 = PABC

B
C
ดุลยภาพเกิดขึน้ ณ จุด E (SMC=MR)
ผลิตสินค้าออกจาหน่าย OQ หน่วย
ราคาหน่วยละ OP บาท
ได้รบั กาไรเกินปกติ จานวน PABC
MR
Q
0
Q
6
ดุลยภาพในระยะยาวของหน่ วยธุรกิจ


หน่วยธุรกิจจะเปลีย่ นไปใช้ขนาดโรงงานทีเ่ หมาะสมทีส่ ดุ และปรับ
ปริมาณการผลิตไปอยู่ ณ จุด LMC=MR
ในระยะยาวหน่ วยธุรกิจจะได้รบั เพียงแค่กาไรปกติเท่านัน้


หน่วยธุรกิจทีป่ ระสบกับการขาดทุนก็จะออกจากตลาดไป ส่วนแบ่งตลาด
ของหน่วยธุรกิจทีเ่ หลือจะสูงขึน้
ในระยะยาวหากหน่วยธุรกิจในตลาดได้รบั กาไรเกินปกติ จะเป็ นการดึงดูด
หน่วยธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาสูอ่ ุตสาหกรรม
7
ดุลยภาพในระยะยาวของหน่ วยธุรกิจ :
กรณี หน่ วยธุรกิจได้รบั ผลขาดทุนในระยะสัน้
P, C, R
LMC
LAC
P2
P1
d2=AR2
d1=AR1
MR1
O
Q1
MR2
Q
Q2
8
ดุลยภาพในระยะยาวของหน่ วยธุรกิจ :
กรณี หน่ วยธุรกิจได้รบั กาไรเกินปกติในระยะสัน้
P, C, R
LMC
LAC
P1
P2
d1=AR1
d2=AR2
MR2
O
MR1
Q
Q2 Q1
9
ดุลยภาพในระยะยาวของหน่ วยธุรกิจ (ต่อ)



เนื่องจากเส้นอุปสงค์เป็ นเส้นทีล่ าดลงจากซ้ายลงมาขวา ดังนัน้ ปริมาณการ
ผลิตทีท่ าให้ได้รบั กาไรปกติ (AR=AC) ย่อมอยูท่ างซ้ายมือของเส้น LAC
โรงงานทีใ่ ช้ในการผลิต ณ จุดดุลยภาพในระยะยาวจึงเป็ นโรงงานทีม่ ขี นาด
เล็กกว่าโรงงาน ณ จุดต่าสุดของ LAC
ในระยะยาวหน่ วยธุรกิจไม่ได้ใช้ขนาดโรงงานที่มีต้นทุนตา่ สุด
(optimum scale of plant) และไม่ได้ผลิตในจานวนที่ทาให้ต้นทุนต่อ
หน่ วยของโรงงานที่ใช้อยู่มีค่าตา่ สุด (optimum rate of output) ซึ่งต่าง
กับกรณี ของผูผ้ ลิตในตลาดแข่งขันสมบูรณ์
10
ดุลยภาพในระยะยาวของผูผ้ ลิต : โรงงานขนาดเล็ก

ดุลยภาพ : SMC=LMC=MR < SAC=LAC
P,R
LMC
SMC
LAC
SAC
A
P
AR=D=P
MR
Q
0
Q
11
4.
ตลาดผูข้ ายน้ อยราย (Oligopoly)
มีหน่วยธุรกิจจานวนเพียงสองสามรายทีผ่ ลิตสินค้าออกจาหน่าย
 สินค้ามีลก
ั ษณะแตกต่างกัน แต่สามารถใช้แทนกันได้
 การเข้ามาผลิตแข่งขันในตลาด หรือการออกจากตลาดสามารถทา
ได้อย่างเสรี
 การกระทาของผูข
้ ายแต่ละรายจะกระทบต่อกัน เช่น การลด
ราคาสินค้าจะทาให้ผข้ ู ายรายอื่นมียอดขายลดลง

12
ตลาดผูข้ ายน้ อยราย


เส้นอุปสงค์และเส้นรายรับหน่วยสุดท้ายของหน่วยธุรกิจ
นโยบายของผูผ้ ลิตในตลาดผูข้ ายน้อยราย
1.
2.
3.
4.
5.
การรักษาราคาให้คงที่
การแข่งขันโดยไม่ใช้ราคา
การเป็ นผูน้ าราคา
การรวมตัวกันระหว่างหน่วยธุรกิจ
การใช้ทฤษฎีเกมส์ในการกาหนดนโยบาย
13
เส้นอุปสงค์และเส้นรายรับหน่ วยสุดท้ายของหน่ วยธุรกิจ



เส้นอุปสงค์เป็ นเส้นทีล่ าดจากซ้ายลงมาทางขวา
ระยะห่างจากแกนตัง้ จะอยูร่ ะหว่างตลาดผูกขาดและตลาดผูข้ ายมากราย
ความชันจะน้อยกว่าตลาดผูกขาด แต่มากกว่าตลาดผูข้ ายมากราย
P
0
MR
d
Q
14
1. นโยบายการรักษาราคาให้คงที่ : แบบจาลองอุปสงค์หกั งอ
(kinked demand curve model)

P

E
P2
D
P
B
P1
C
MR2
MR1
0

d2
d1
Q
Q

ราคาเดิม ณ OP ปริมาณซือ้ OQ
การลดราคาสินค้าเป็ น OP1 :
 คาดว่าจะขายได้ P1B
 ขายได้จริง P1C เพราะรายอื่นก็
ลดราคาลงด้วย
การขึน้ ราคาสินค้าเป็ น OP2 :
 คาดว่าจะขายได้ P2D
 ขายได้จริง P2E เพราะรายอื่นไม่
ขึน้ ราคาด้วย
เส้นMR จะมี 2 ช่วง
15
แบบจาลองอุปสงค์หกั งอ

จุดผลิตทีด่ ที ส่ี ดุ คือจุดที่ MC1=MR

P, C, R

MC2

MC1
AC2
AC1
A
B
P
C

E
F
ผลิตสินค้าออกขาย OQ หน่วย
ขายในราคา OP บาท
ได้รบั กาไรเกินปกติ PABC
การเปลีย่ นแปลงต้นทุนการผลิต
ซึง่ มีผลทาให้ MC เลื่อนในช่วงEF
จะไม่มผี ลทาให้ปริมาณการผลิต
และราคาเปลีย่ นแปลง
d=AR
Q
0
Q
MR
16
2. นโยบายการแข่งขันโดยไม่ใช้ราคา



สงครามราคา (price war) : ท้ายทีส่ ดุ จะนามาซึง่ ความเสียหายแก่
หน่วยธุรกิจ
นโยบายการแข่งขันโดยไม่ใช้ราคา เช่น การปรับปรุง เปลีย่ นแปลง
รูปแบบตัวสินค้า การเปลีย่ นแปลงวิธกี ารขาย แจกของแถม และจับ
ฉลากรางวัล เป็ นต้น
ผลกระทบจากการใช้นโยบาย


ด้านต้นทุน : ต้นทุนเพิม่ ขึน้ (ต้นทุนต่อหน่วยเพิม่ , ต้นทุนคงทีเ่ พิม่ )
ด้านรายรับ : หากนโยบายประสบความสาเร็จ ส่วนแบ่งตลาดมากขึน้ เส้น
อุปสงค์จะเลื่อนสูงขึน้ (รายรับมากขึน้ )
17
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนต่อหน่ วยเพิ่มขึน้ หน่ วยละเท่าๆ กัน

กรณี ผลจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขายที่ทาให้กาไรลดลง


หน่ วยธุรกิจมีต้นทุนสูงขึน้ มากกว่ารายรับที่เพิ่ม
กรณี ผลจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขายที่ประสบความสาเร็จ

หน่ วยธุรกิจสามารถมีรายรับเพิ่มมากกว่าต้นทุนที่สูงขึน้
18
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนต่อหน่ วยเพิ่มขึน้ หน่ วยละเท่าๆ กัน

กรณี ผลจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขายที่ประสบ
ความสาเร็จ
P, C, R
MC2
MC1
P1
C2
C1
AC2
AC1
A2
P2
A1
B2
d2=AR2
B1
E2
d1=AR1
E1 MR1
O
Q1 Q2
MR2
Q
19
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนต่อหน่ วยเพิ่มขึน้ หน่ วยละเท่าๆ กัน :
กรณี ประสบความสาเร็จ

ดุลยภาพเดิม ณ จุด E1 (MC1=MR1)



ภายหลังจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขาย






ปริมาณการผลิต OQ1 ราคาสินค้า OP1
ได้รบั กาไรเกินปกติจานวน P1A1B1C1
ต้นทุนเพิม่ ขึน้ เป็ น AC2 และ MC2
เส้นอุปสงค์เพิม่ ขึน้ เป็ น AR2 และ MR2
ดุลยภาพใหม่ ณ จุด E2 (MC2=MR2)
ปริมาณการผลิต OQ2 ราคาสินค้า OP2
ได้รบั กาไรเกินปกติจานวน P2A2B2C2
กาไรของหน่ วยธุรกิจเพิ่มขึน้ อย่างมาก
20
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนต่อหน่ วยเพิ่มขึน้ หน่ วยละเท่าๆ กัน

กรณี ผลจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขายที่ทาให้กาไร
ลดลง
P, C, R
MR2
P2
MC2 MC1
A2
P1
A1
C2
B2
C1
AC2
AC1
B1
E2
d2=AR2
d1=AR1
E1 MR1
O
Q1Q2
Q
21
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนต่อหน่ วยเพิ่มขึน้ หน่ วยละเท่าๆ กัน :
กรณี ไม่ประสบความสาเร็จ

ดุลยภาพเดิม ณ จุด E1 (MC1=MR1)



ภายหลังจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขาย






ปริมาณการผลิต OQ1 ราคาสินค้า OP1
ได้รบั กาไรเกินปกติจานวน P1A1B1C1
ต้นทุนเพิม่ ขึน้ เป็ น AC2 และ MC2
เส้นอุปสงค์เพิม่ ขึน้ เป็ น AR2 และ MR2
ดุลยภาพใหม่ ณ จุด E2 (MC2=MR2)
ปริมาณการผลิต OQ2 ราคาสินค้า OP2
ได้รบั กาไรเกินปกติจานวน P2A2B2C2
กาไรของหน่ วยธุรกิจลดลงจากเดิม
22
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนคงที่เพิ่มขึน้



ยกตัวอย่างเช่น การเพิม่ งบประมาณค่าโฆษณา
ต้นทุนต่อหน่วยจะเพิม่ สูงขึน้ แต่จะไม่ขนานกับเส้นเดิม โดย
ระยะห่างระหว่างเส้นใหม่และเส้นเดิมจะค่อยๆ ลดลง
ต้นทุนหน่วยสุดท้ายไม่เปลีย่ นแปลง เนื่องจาก MC ไม่ม ี
ความสัมพันธ์กบั FC
23
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนคงที่เพิ่มขึน้
P, C, R
MR1 MR2
MC
P2
P1
C2
A1
C1
B1
A2
AC2
AC1
B2
d2=AR2
E1
E2
d1=AR1
Q
O
Q1 Q2
24
นโยบายที่ทาให้ต้นทุนคงที่เพิ่มขึน้ (ต่อ)

ดุลยภาพเดิม ณ จุด E1 (MC=MR1)



ภายหลังจากการดาเนินนโยบายส่งเสริมการขาย






ปริมาณการผลิต OQ1 ราคาสินค้า OP1
ได้รบั กาไรเกินปกติจานวน P1A1B1C1
ต้นทุนเพิม่ ขึน้ เป็ น AC2 แต่ MC เป็ นเส้นเดิม
เส้นอุปสงค์เพิม่ ขึน้ เป็ น AR2 และ MR2
ดุลยภาพใหม่ ณ จุด E2 (MC=MR2)
ปริมาณการผลิต OQ2 ราคาสินค้า OP2
ได้รบั กาไรเกินปกติจานวน P2A2B2C2
กาไรของหน่ วยธุรกิจ จะมากขึน้ หรือน้ อยลง ขึน้ อยู่กบั ระดับที่
สูงขึน้ ของเส้นอุปสงค์(รายรับ) เมื่อเทียบกับต้นทุนต่อหน่ วยที่
25
เพิ่มขึน้
3. นโยบายการเป็ นผูน้ าราคา (price leadership)

นโยบายการเป็ นผูน้ าราคา เป็ นวิธกี ารทีง่ า่ ยทีส่ ดุ ในการขจัดปญั หา
การกระทบกระทังระหว่
่
างหน่วยธุรกิจ และเป็ นทีใ่ ช้อยูโ่ ดยทัวไป
่
 ผูน
้ าราคาโดยผูผ้ ลิตรายใหญ่
(price leadership by dominant firm)

ผูน้ าราคาโดยผูผ้ ลิตทีม่ ตี น้ ทุนต่า

(price leadership by a low cost firm)
Barometric price leadership

ผูน้ าราคาจากการตกลงร่วมกัน
(collusive price leadership)
26
4. นโยบายการรวมตัวกันระหว่างหน่ วยธุรกิจ :
การรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์ (perfect collusion)




หน่วยธุรกิจทุกรายจะตกลงร่วมมือกันทีจ่ ะดาเนินนโยบายเดียวกัน
ในทุกเรือ่ ง
ราคาสินค้ามีเพียงราคาเดียวและเป็ นราคาทีก่ าไรรวมของกลุ่มสูงสุด
ปริมาณการผลิตทัง้ หมดเป็ นปริมาณการผลิตที่ MC ของกลุ่มเท่ากับ
MRของกลุม่
หน่วยธุรกิจจะได้รบั การจัดสรรโควตาการผลิต


ต้นทุนแตกต่างกัน
กาไรต่อหน่วยแตกต่างกัน
27
นโยบายการรวมตัวกันระหว่างหน่ วยธุรกิจ :
การรวมตัวกันอย่างไม่สมบูรณ์ (imperfect collusion)


เป็ นการรวมตัวกันอย่างหลวมๆ โดยมีขอ้ ตกลงในการกาหนด
นโยบายร่วมกันบางเรือ่ งเท่านัน้
เช่น ตกลงกันในเรือ่ งการกาหนดราคาขายไว้เป็ นราคาเดียวกัน
สาหรับนโยบายส่งเสริมการขายเป็ นสิทธิทห่ี น่วยธุรกิจสามารถทีจ่ ะ
ดาเนินการอย่างใดก็ได้
28
5. การใช้ทฤษฎีเกมส์ในการกาหนดนโยบาย
(Games Theory)


การเลือกดาเนินนโยบายใดของหน่วยธุรกิจ ต้องใช้หลักการคาดคะเน
นโยบายของคูแ่ ข่งขันไปพร้อมๆกัน
ยกตัวอย่างเช่น
บริษทั B
โฆษณา
ไม่โฆษณา
โฆษณา
2,2
5 , 0.5
ไม่โฆษณา
0.5 , 5
1,1
บริษทั A
29
ผลของตลาดต่างๆ โดยเปรียบเทียบ
ผลต่อปริมาณการผลิตและราคาสินค้าในตลาด
 ผลต่อการจัดสรรทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ
 ผลต่อการใช้ทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ
 ผลต่อผลประโยชน์ของสังคม

30
ผลต่อปริมาณการผลิตและราคาสินค้าในตลาด




ผูผ้ ลิตจะผลิตสินค้า ณ จุดที่ MC=MR
ความชันของเส้น MR :
ผูกขาด > ผูข้ ายน้อยราย > ผูข้ ายมากราย > แข่งขันสมบูรณ์
ปริมาณการผลิต :
ผูกขาด < ผูข้ ายน้อยราย < ผูข้ ายมากราย < แข่งขันสมบูรณ์
ราคาสินค้า :
ผูกขาด > ผูข้ ายน้อยราย > ผูข้ ายมากราย > แข่งขันสมบูรณ์
31
ผลต่อปริมาณการผลิตและราคาสินค้าในตลาด
P, C, R
MC
AC
MRตลาดแข่งขันสมบูรณ์
MRตลาดผูข้ ายมากราย
MRตลาดผูกขาด
O
MRตลาดผูข้ ายน้อยราย
Q
32
ผลต่อการจัดสรรทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ


การจัดสรรทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจเป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สูงสุดในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ และต่าสุดในตลาดผูกขาด
ในตลาดผูกขาด ผูผ้ กู ขาดมักกาหนดปริมาณการผลิตให้ต่า และตัง้
ราคาสูง การผลิตในปริมาณทีต่ ่าจะทาให้การจัดสรรทรัพยากร
เป็ นไปอย่างไม่มปี ระสิทธิภาพ
33
ผลต่อการใช้ทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ



การใช้ทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจเป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ และน้อยสุดในตลาดผูกขาด
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ : ระยะยาวหน่วยธุรกิจจะทาการผลิตด้วย
ขนาดโรงงานทีม่ ตี น้ ทุนต่าทีส่ ดุ (โรงงาน ณ จุดต่าสุดของ LAC)
ตลาดผูกขาด : ระยะยาวผูผ้ กู ขาดอาจไม่จาเป็นต้องใช้โรงงานทีม่ ี
ต้นทุนต่าสุด (ปริมาณการผลิตต่า อาจใช้โรงงานขนาดเล็กเท่านัน้ )
34
ผลต่อผลประโยชน์ ของสังคม

P,R
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์

M


E
PP
AC=MC=
AR=MR
จุดผลิต ณ จุด E (MC=MR)
ปริมาณการผลิต OQP ราคา
OPP
ผลประโยชน์ต่อสังคมสุทธิ :
OMEQP – OPPEQP = MPPE
(เท่ากับส่วนเกินผูบ้ ริโภค)
Dผูบ้ ริ โภค
Q
0
QP
35
ผลต่อผลประโยชน์ ของสังคม
Consumer surplus


P,R
Profit
M

B
PM

E
A
PP
AC=MC=
AR=MR
AR=D=P
MR
0
ตลาดผูกขาด
จุดผลิต ณ จุด A (MC=MR)
ปริมาณการผลิต OQM ราคา
OPM
ผลประโยชน์ต่อสังคมสุทธิ :
OMBQM – OPPAQM = PPMBA
 ส่วนเกินผูบ
้ ริโภค : MBPM
 กาไรเกินปกติของผูผ
้ กู ขาด :
ABPMPP
Q
QM
36
ประสิทธิภาพและความล้มเหลวของกลไกราคา
ประสิทธิภาพของกลไกราคาต่อระบบเศรษฐกิจ
 ความล้มเหลวของกลไกราคา

37
ประสิทธิภาพของกลไกราคาต่อระบบเศรษฐกิจ


การผลิต : กลไกราคาช่วยเลือกชนิดของสินค้าทีผ่ ลิต และจัดสรร
การผลิตให้เป็ นไปตามความต้องการของสังคมได้อย่างถูกต้อง
ระดับความพอใจส่วนรวมของสังคมอยูใ่ นระดับสูงสุด
การจัดสรรปัจจัยการผลิต : กลไกราคาทาให้การจัดสรรทรัพยากร
เป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยให้มกี ารใช้ทรัพยากรในแหล่งที่
ได้ผลตอบแทนสูงสุดเสมอ
38
ความล้มเหลวของกลไกราคา

แม้ว่ากลไกราคาจะสามารถจัดสรรการใช้ทรัพยากรในระบบ
เศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์สงู สุดก็ตาม แต่ประโยชน์ดงั กล่าวจะเป็ น
ประโยชน์สว่ นบุคคล ไม่ใช่ประโยชน์ในแง่สงั คมส่วนรวม



ผลประโยชน์ภายใน ผลประโยชน์ภายนอก ผลประโยชน์สงั คม
ต้นทุนภายใน ต้นทุนภายนอก ต้นทุนสังคม
ในการผลิตสินค้าทีต่ อ้ งใช้ปจั จัยการผลิตทีม่ ลี กั ษณะทีแ่ บ่งแยกไม่ได้
เช่น เครือ่ งมือเครือ่ งจักร แรงงานฝีมอื ซึง่ มีตน้ ทุนสูง ตลาดแข่งขัน
สมบูรณ์ไม่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์สงู สุดต่อการผลิตได้ เพราะ
หน่วยธุรกิจเป็ นเพียงส่วนย่อยในตลาด มีประมาณการผลิตไม่มาก
39
ความล้มเหลวของกลไกราคา (ต่อ)

ระบบเศรษฐกิจเผชิญกับปญั หาในการใช้กลไกราคากาหนดราคา
และปริมาณการผลิตสินค้าสาธารณะ (public goods)


สินค้าสาธารณะ : ทุกคนในสังคมได้รบั ประโยชน์เท่ากัน การใช้ประโยชน์
ของบุคคลหนึ่งจะไม่กระทบต่อการบริโภคของบุคคลอื่น เช่น การป้องกัน
ประเทศ วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสงสว่างบนท้องถนน เป็ น
ต้น
สาหรับสินค้าสาธารณะ ไม่วา่ ผูบ้ ริโภคจะจ่ายเงิน (จ่ายภาษี)เพือ่ ซือ้ สินค้า
และบริการหรือไม่ ก็จะได้รบั ประโยชน์เหมือนกัน ดังนัน้ จึงไม่มหี น่วย
ธุรกิจใดอยากเข้ามาผลิตสินค้าสาธารณะ
40
สรุปเปรียบเทียบตลาดทัง้ 4 ประเภท
ลักษณะ
ต่างๆ
ผูกขาด
น้ อยราย
มากราย
แข่งขัน
สมบูรณ์
จานวนผูผ้ ลิต
หนึ่งราย
น้อยราย
มากราย
จานวนมาก
ลักษณะของ
สินค้า
ไม่มสี นิ ค้า
ทดแทน
ลักษณะ
เส้นอุปสงค์
ยืดหยุน่ น้อย
มีทงั ้
แตกต่างกัน
ทดแทนได้
เหมือนกันและ แต่สามารถ อย่างสมบูรณ์
ต่างกัน
ทดแทนกันได้
อุปสงค์หกั มุม
ยืดหยุน่ มาก
ยืดหยุน่ อย่าง
สมบูรณ์
41
สรุปเปรียบเทียบตลาดทัง้ 4 ประเภท (ต่อ)
ลักษณะต่างๆ
ผูกขาด
การกาหนดราคา ผูข้ ายตัง้ ราคาสูง
ของผูข้ าย
ได้
กาไร
กาไรสูง
น้ อยราย
มากราย
แข่งขันสมบูรณ์
กาหนดโดย
ผูข้ ายตัง้ ราคา
ผูข้ ายไม่มี
ผูข้ ายรายใหญ่ ต่างกันได้ เพราะ บทบาทในการ
สินค้ามีความ
กาหนดราคา
แตกต่างกัน
แข่งขันกันกาไร
ขึน้ อยูก่ บั
กาไรค่อนข้างต่า
จะต่า หาก
ความสามารถ
ร่วมมือกันกาไร
ของผูข้ าย
จะสูง
42
สรุปเปรียบเทียบตลาดทัง้ 4 ประเภท (ต่อ)
ลักษณะ
ต่างๆ
ผูกขาด
น้ อยราย
มากราย
แข่งขัน
สมบูรณ์
การแข่งขัน
ด้านราคา
ไม่มี
มีน้อย
มีน้อยมาก
ไม่มี
การส่งเสริม
การตลาด
มีน้อย
มีมาก เพราะ มีมาก เพือ่ จูง มีน้อยหรือไม่มี
เป็ นการแย่ง ใจให้ลกู ค้าเกิด
เลย
ลูกค้าคูแ่ ข่ง ความต้องการ
ซือ้
43