นโยบายเศรษฐกิจทางเลือกในประเทศก าลังพัฒนา สฤณี อาชวานันทกุล Fringer | คนชายขอบ

Download Report

Transcript นโยบายเศรษฐกิจทางเลือกในประเทศก าลังพัฒนา สฤณี อาชวานันทกุล Fringer | คนชายขอบ

นโยบายเศรษฐกิจทางเลือกในประเทศกาลังพัฒนา
สฤณี อาชวานันทกุล
Fringer | คนชายขอบ
http://www.fringer.org/
ปรับปรุงจากชุดสไลด์ทน่ี าเสนอในงานเสวนาทางวิชาการเรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจทางเลือกภายใต้กระแสโลกาภิวตั น์และ
อุดมการณ์เสรีนิยมใหม่: บทสารวจองค์ความรู้ และประสบการณ์”
วันที่ 29 พฤษภาคม 2551
จัดโดย โครงการส่งเสริม พัฒนาและเผยแพร่ความรูด้ า้ นเศรษฐศาสตร์เพื่อการพัฒนา
ศูนย์ศกึ ษานโยบายเพื่อการพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และ กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์)

งานนี้เผยแพร่ภายใต้ลขิ สิทธิ ์ Creative Commons แบบ Attribution Non-commercial Share Alike (bync-sa) โดยผูส้ ร้างอนุญาตให้ทาซ้า แจกจ่าย แสดง และสร้างงานดัดแปลงจากส่วนใดส่วนหนึ่งของงานนี้
ได้โดยเสรี แต่เฉพาะในกรณีทใ่ี ห้เครดิตผูส้ ร้าง ไม่นาไปใช้ในทางการค้า และเผยแพร่งานดัดแปลงภายใต้
ลิขสิทธิเดี
์ ยวกันนี้เท่านัน้
หัวข้อนาเสนอ
 นโยบายพัฒนาในอุดมคติ
 นโยบายพัฒนาทีต
่ งั ้ อยูบ่ นความสุข
: กรณีภฏู าน
 บทบาทของอิสลามในการพัฒนา
 นโยบายประชานิยมในละตินอเมริกา
2
นโยบายพัฒนาในอุดมคติ
GDP เป็ นองค์ประกอบเดียวของ “ความสุข”
ทีม่ า: Deutsche Bank Research, 2007
4
ปั ญหาด้านสิง่ แวดล้อม  ความจาเป็ นของ “ทางเลือก”
ทีม่ า: Carol King, “Will we always be more capable in the future?”;
Worldchanging.com - http://www.worldchanging.com/archives/007962.html
5
เหตุใดจึงควรคานึงถึง “ความยุตธิ รรมทางสังคม”
การเติบโตของเศรษฐกิจทีม่ ี “ฐานกว้าง” นันคื
่ อ เติบโตในทางทีค่ นส่วน
ใหญ่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่ในทางทีค่ วามมังคั
่ งกระจุ
่
กตัวอยูใ่ นมือชนชัน้ นา
นัน้ เป็ นการเติบโตทีท่ าให้คุณภาพชีวติ ของคนดีขน้ึ และเอือ้ อานวยต่อ
กระแสประชาธิปไตย ซึง่ จะผลักดันให้คนในสังคมรูจ้ กั อดทนอดกลัน้ ต่อ
ความคิดเห็นทีแ่ ตกต่าง แทนทีจ่ ะทะเลาะเบาะแว้งจนนาไปสูค่ วาม
รุนแรง หรือถูกกดขีโ่ ดยผูค้ รองอานาจ
 การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ “ดี” ทีม
่ ฐี านกว้าง จึงช่วยให้สงั คมมี
ระดับ “คุณธรรม” สูงขึน้ กว่าเดิม และระดับคุณธรรมทีส่ งู ขึน้ นัน้ ก็จะทา
ให้สงั คมยังยื
่ น มีสนั ติสขุ และเสถียรภาพมากกว่าในสังคมทีค่ วามเจริญ
กระจุกตัวอยูใ่ นมือคนเพียงไม่กค่ี น

6
ลักษณะของนโยบายพัฒนาในอุดมคติ


ตัง้ เป้ าหมายทีก่ ารส่งเสริมและดารง “ความอยูด่ มี สี ขุ ” ของประชาชนในสังคม
ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยังยื
่ น



“การพัฒนาอย่างยังยื
่ น” (Sustainable Development) หมายความว่า ไม่ใช้
ทรัพยากรธรรมชาติในอัตราทีเ่ ร็วกว่าความสามารถของมนุษย์ในการผลิตทรัพยากร
ทดแทน และไม่ทง้ิ ทรัพยากรธรรมชาติในอัตราทีเ่ ร็วกว่าอัตราทีธ่ รรมชาติจะสามารถดูด
ซับมันกลับเข้าไปในระบบ
ประเมินผลดีและผลเสียจากการดาเนินนโยบายอย่างรอบคอบ สาหรับผูม้ สี ว่ นได้
เสียแต่ละกลุม่ โดยมุง่ เน้นการส่งเสริมหรือธารงความอยูด่ มี สี ขุ ของผูด้ อ้ ยโอกาส
ทีส่ ดุ ในโครงการนัน้ ๆ เป็ นหัวใจสาคัญ
มองทรัพยากรทีม่ วี นั หมดต่างๆ รวมทัง้ ผลกระทบภายนอกว่าเป็ น “ต้นทุน” ทีต่ อ้ ง
จ่ายหรือกาจัดโดยไม่ให้ประชาชนเป็ นผูร้ บั ภาระ
7
ลักษณะของนโยบายพัฒนาในอุดมคติ (ต่อ)



มุง่ เน้นการพัฒนา “ศักยภาพ” ของมนุษย์ มากกว่า “ระดับรายได้”
ส่งเสริม “ความยุตธิ รรมทางสังคม” โดยรัฐต้องคุม้ ครองสิทธิมนุษยชนขัน้ พืน้ ฐาน
ของประชาชน จัดบริการสาธารณูปโภคขัน้ พืน้ ฐานทีไ่ ด้คุณภาพ ดาเนินนโยบายที่
มีจุดมุง่ หมายทีก่ ารลดความเหลื่อมล้าทางรายได้ และส่งเสริมการมีสว่ นร่วม
ทางการเมืองของประชาชน
สามารถรองรับความหลากหลายของแต่ละวัฒนธรรมท้องถิน่ ในทุกระดับได้
เพราะการใช้ชุดนโยบายพัฒนาทีย่ ดั เยียดแบบ “สาเร็จรูป” อาจนาไปสูค่ วาม
ขัดแย้งและความรุนแรงในสังคม และดังนัน้ จึงไม่อาจเรียกว่าเป็ นระบบเศรษฐกิจที่
ยังยื
่ นได้
8
รายได้ต่อหัวของกลุม่ ประเทศพัฒนาทีย่ กเป็ นกรณีศกึ ษา
9
นโยบายพัฒนาทีต่ งั ้ อยูบ่ นความสุข : กรณีภฏู าน
นิยามและประเภทของ “ความสุข”

ความสุข (happiness)


อรรถประโยชน์ (utility)


เป็ นคุณสมบัตนิ ามธรรม เป็ นอัตตวิสยั (subjective) และมีหลายระดับ ขึน้ อยูก่ บั เหตุปัจจัย
และสภาวะทางอารมณ์ของแต่ละคน
เป็ นภววิสยั (objective) และบางประเภทสามารถวัดออกมาเป็ นตัวเลข (เช่น รายได้)
ความอยูด่ มี สี ขุ (wellbeing)


คือสภาวะทีด่ ารงอยูต่ ่อเนื่องยาวนานกว่า “ความสุข” ซึง่ อาจเกิดขึน้ เพียงชัวครู
่ ย่ ามเท่านัน้
และเป็ น “ภววิสยั ” มากกว่า “ความสุข” เพราะระดับความสุขทีค่ นแต่ละคน “รูส้ กึ ” อาจมีไม่
เท่ากันถึงแม้วา่ จะอยูใ่ นภาวะ “อยูด่ มี สี ุข” ทัดเทียมกัน เช่น คนหนึ่งทีม่ ฐี านะ ความเป็ นอยู่
เสรีภาพ ฯลฯ ค่อนข้างดีอาจรูส้ กึ มีความสุขดีกบั ชีวติ ในขณะทีอ่ กี คนหนึ่งทีม่ ปี ั จจัยเหล่านี้
เท่ากันอาจรูส้ กึ ไม่มคี วามสุขเลย เพราะมีความทะเยอทะยานอยากได้ใคร่มมี ากกว่าคนแรก
ดังนัน้ “ความอยูด่ มี สี ุข” จึงสามารถนาไปใช้เป็ นส่วนหนึ่งในการกาหนดนโยบายพัฒนาได้
11
ข้อถกเถียงของอมาตยา เซน ต่อมุมมองเสรีนิยมใหม่
การมี “เสรีภาพทางเศรษฐกิจ” เพียงมิตเิ ดียว ไม่เพียงพอต่อการเข้าถึง
หรือประเมินระดับความอยูด่ มี สี ขุ
 แนวคิดของอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ทเ่ี ชือ
่ ว่าทุกคนสามารถแสดงออกถึง
ระดับอรรถประโยชน์ทพ่ี วกเขาได้รบั นัน้ เป็ นสมมุตฐิ านทีไ่ ม่ถูกต้อง
เพราะคนยากจนมักไม่สามารถแสดงความต้องการและความไม่พงึ พอใจ
ของพวกเขาออกมาได้ เนื่องจากถูกสภาพสังคม วัฒนธรรม หรือความเชือ่
ทางศาสนากดทับเอาไว้
 คนทีม
่ เี สรีภาพทางเศรษฐกิจระดับหนึ่ง อาจไม่มคี วามสุขก็ได้เพราะขาด
คุณภาพชีวติ ทีด่ ี

12
ดัชนีพฒ
ั นามนุษย์ (Human Development Index)

ประกอบด้วยตัวชีว้ ดั 3 ตัวหลัก ได้แก่
 ความยืนยาวของอายุประชากร สะท้อนแนวโน้มทีป
่ ระชากรจะ
สามารถใช้ชวี ติ อย่างมีสขุ ภาพดี และสะท้อนคุณภาพของระบบ
สาธารณสุขในประเทศ
 อัตราการรูห
้ นังสือและจานวนปี ทป่ี ระชากรได้รบั การศึกษา สะท้อน
ความสามารถในการเข้าถึงโอกาสต่างๆ
 รายได้ต่อหัวประชากร สะท้อนระดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจ
13
Human Development Index ของกลุ่มประเทศกรณีศกึ ษา
14
ดัชนีความสุขของโลก (Happy Planet Index)


จัดทาโดยสถาบันวิจยั อิสระชื่อ New Economics Foundation
เป็ นดัชนีชุดแรกในโลกทีน่ าดัชนีวดั ผลกระทบทางสิง่ แวดล้อมมารวมกับดัชนีวดั
ความอยูด่ มี สี ขุ ของประชากร HPI วัด “ประสิทธิภาพเชิงนิเวศ” (ecological
efficiency) ของแต่ละประเทศในการ “แปลงสภาพ” ทรัพยากรธรรมชาติให้
ประชากรมีชวี ติ ทีย่ นื ยาวและมีความสุข
HPI = ความพึงพอใจในชีวิต x ความยืนยาวของอายุ
รอยเท้านิเวศ
15
ดัชนีความสุขของโลก (Happy Planet Index) ปี 2006
16
ดัชนีความสุขของโลก (Happy Planet Index) ปี 2006 (ต่อ)
Rank
Country
Life Sat.
Life Exp.
Eco. Footprint
HPI
1
Vanuatu
7.4
68.6
1.1
68.2
2
Colombia
7.2
72.4
1.3
67.2
3
Costa Rica
7.5
78.2
2.1
66.0
4
Dominica
7.3
75.6
1.8
64.6
5
Panama
7.2
74.8
1.8
63.5
6
Cuba
6.3
77.3
1.4
61.9
7
Honduras
7.2
67.8
1.4
61.8
8
Guatemala
7.0
67.3
1.2
61.7
9
El Salvador
6.6
70.9
1.2
61.7
10
Saint Vincent & Grenadines
7.2
71.1
1.7
61.4
11
Saint Lucia
7.0
72.4
1.6
61.3
12
Vietnam
6.1
70.5
0.8
61.2
13
Bhutan
7.6
62.9
1.3
61.1
14
Samoa (Western)
6.9
70.2
1.4
61.0
15
Sri Lanka
6.1
74.0
1.1
60.3
16
Antigua and Barbuda
7.4
73.9
2.3
59.2
17
Philippines
6.4
70.4
1.2
59.2
18
Nicaragua
6.3
69.7
1.1
59.1
19
Kyrgyzstan
6.6
66.8
1.1
59.0
20
Solomon Islands
6.9
62.3
1.0
58.9
17
นโยบาย “Gross National Happiness” ของภูฏาน
การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยังยื
่ น (sustainable economic
development)
 การอนุ รก
ั ษ์สงิ่ แวดล้อม (conservation of the environment)
 การส่งเสริมวัฒนธรรมประจาชาติ (promotion of national culture)
 ธรรมาภิบาลทีด
่ ี (good governance)

18
ตัวอย่างนโยบาย GNH ทีเ่ ป็ นรูปธรรม

“การท่องเทีย่ วอย่างยังยื
่ น” ควบคูไ่ ปกับนโยบายอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม





กฎหมายสิง่ แวดล้อมระบุวา่ ต้องมีพน้ื ทีป่ ่ าไม้ไม่ต่ากว่าร้อยละ 60 ของพืน้ ทีท่ งั ้ ประเทศ และ
พืน้ ทีส่ งวนไม่ต่ากว่าร้อยละ 25
แบนอุตสาหกรรมป่ าไม้ อนุญาตให้คนตัดไม้ไปสร้างบ้านเรือนและอาคารเท่านัน้ แต่ตอ้ ง
ขออนุญาตจากรัฐและต้องปลูกต้นไม้ชดเชย
มาตรการจากัดจานวนนักท่องเทีย่ วทางอ้อมด้วยการเก็บภาษีทอ่ งเทีย่ ว
แคมเปญ “ชาติเดียว ชาติพนั ธุเ์ ดียว” : บังคับใช้ชุดจริยธรรมแบบจารีตเก่าแก่
(driglam namzha), ภาษา (Dzongka), ใส่ชุดประจาชาติ และให้บา้ นเรือนและ
อาคารทุกหลังใช้สถาปั ตยกรรมแบบดัง้ เดิม
พัฒนาระบบราชการทีเ่ ข้มแข็งและสามารถกระจายอานาจไปสูท่ อ้ งถิน่
19
ปั ญหาและความท้าทาย





ยังพึง่ พาอินเดีย (โดยเฉพาะการขายไฟฟ้ า - ร้อยละ 88 ของมูลค่าส่งออก) และเงิน
ช่วยเหลือจากต่างประเทศในอัตราสูง เนื่องจากภาคเอกชนยังมีขนาดเล็กมาก
การพัฒนาภาคธุรกิจเอกชนเป็ นไปอย่างเชือ่ งช้า และมีตน้ ทุนสูงกว่าค่าเฉลีย่ ของประเทศ
กาลังพัฒนา ส่งผลให้แนวโน้มอัตราว่างงานสูงขึน้ เนื่องจากมีหนุ่มสาวทีจ่ บการศึกษาเร็ว
กว่าตาแหน่งงานในภาคเอกชน ภาครัฐต้องรับภาระในการจ้างงานค่อนข้างสูง
การให้ความสาคัญต่อการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อมในระดับสูงมากอาจเพิม่ แรงตึงเครียดต่อการ
พัฒนาประเทศในช่วงต่อไป
ความพยายามทีจ่ ะอนุรกั ษ์อตั ลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างแข็งขืนกาลังส่งผลกระทบเชิงลบ
ต่อชนกลุ่มน้อยในประเทศ โดยเฉพาะชาวเนปาลอพยพทีถ่ ูกกีดกัน
หลังจากเพิง่ เปลีย่ นผ่านระบอบการปกครองเป็ นระบอบประชาธิปไตยทีม่ พี ระมหากษัตริย์
เป็ นประมุข รัฐบาลจาเป็ นจะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมากในการจัดตัง้ และทานุบารุง
โครงสร้างเชิงสถาบันใหม่ๆ ทีจ่ าเป็ นในระบอบประชาธิปไตย ไม่วา่ จะเป็ นระบบราชการ
สถาบันตุลาการ และองค์กรอิสระอื่นๆ
20
บทบาทของอิสลามในการพัฒนา
“โลกมุสลิม”
22
“ความล้าหลัง” ทางเศรษฐกิจของทวีปตะวันออกกลาง
สัดส่วน GDP ต่อหัวในประเทศอาหรับ 8 ประเทศ (จอร์แดน, อิรกั , ซีเรีย, เลบานอน,
ปาเลสไตน์, อียปิ ต์, ตูนิเซีย, โมร็อกโก) ต่อค่าเฉลีย่ โลก, 1820-2006
23
“เศรษฐกิจในอุดมคติ” ตามหลักอิสลาม







มนุษย์ทุกคนมีหน้าทีท่ างานเพือ่ หาเลีย้ งชีพ
พระอัลเลาะห์เป็ นเจ้าของสุดท้ายของสรรพสิง่ ทุกอย่างบนโลก
มนุษย์ควรแสวงหาความมังคั
่ งอย่
่ างชอบธรรมได้ดว้ ยการทางานหนักและรับมรดกตกทอด
สังคมมีหน้าทีด่ แู ลคนจนและคนด้อยโอกาส : ซากัต
ราคาในการทาธุรกรรมต่างๆ ต้องเป็ นราคาที่ “ยุตธิ รรม” หมายความว่าเป็ นผลลัพธ์ของ
ตลาดทีม่ กี ารแข่งขันอย่างเสรีจริงๆ การผูกขาดและกักตุนสินค้านาไปสูก่ ารฉวยโอกาสเอา
เปรียบผูอ้ ่นื และดังนัน้ จึงต้องถูกต่อต้านหรือกาจัด
เป้ าหมายของนโยบายการเงินของรัฐควรอยูท่ ก่ี ารรักษาเสถียรภาพของราคา
เป้ าหมายของนโยบายการคลังของรัฐควรอยูท่ ก่ี ารสร้างสมดุลระหว่างรายได้ (จากการเก็บ
ภาษี) และรายจ่าย (เพือ่ สาธารณประโยชน์) ในทางทีง่ บประมาณไม่ขาดดุล
24
ประสบการณ์การพัฒนาของประเทศมุสลิม





“เศรษฐศาสตร์อสิ ลาม” ทีต่ งั ้ อยูบ่ นกฎเกณฑ์ (normative economics) ทีม่ มี ติ ทิ างอุดมการณ์สงู
เริม่ ปรากฏเพียงเมือ่ กลางทศวรรษ 1970 เท่านัน้
สาเหตุของความล้าหลังในการพัฒนาเศรษฐกิจไม่ใช่หลักอิสลาม หากเป็ นปั จจัยอื่นๆ เช่น
ความบกพร่องเชิงโครงสร้างเชิงสถาบัน เช่น การปกครองแบบเผด็จการทหาร
ความเสือ่ มสลายของอาณาจักรอ็อตโตมันทัง้ ทางด้านการทหารและเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 19
เดินสวนทางกับกระแสการปฏิวตั อิ ุตสาหกรรมในขณะนัน้
ถึงแม้วา่ หลักชาริอะฮ์จะไม่มเี นื้อหา “ต่อต้าน” พัฒนาการทางเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์และผู้
สังเกตการณ์จานวนไม่น้อยทีม่ องว่า อิสลามส่งผลกระทบอย่างมีนยั สาคัญต่อระดับการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศทีป่ ระชากรส่วนใหญ่เป็ นชาวมุสลิม
ข้อสรุปของงานวิจยั ทีว่ า่ อิสลามในฐานะศาสนาส่งผลกระทบน้อยมากต่อโครงสร้างเชิงสถาบัน
ระบอบเศรษฐกิจ หรืออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมนัน้ ไม่น่าแปลกใจเนื่องจากหลัก
คาสอนของศาสนาอื่นๆ ก็ไม่ได้สง่ ผลกระทบในสาระสาคัญต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจของ
ประเทศอื่นๆ เช่นเดียวกัน
25
อิสลามไม่มคี วามสัมพันธ์เชิงสถิตติ ่อความเจริญทางเศรษฐกิจ



งานวิจยั ของ มาร์คสั โนแลนด์ (Marcus Noland, 2006) แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
ว่า ไม่มคี วามสัมพันธ์เชิงสถิตทิ ม่ี นี ยั ยะสาคัญใดๆ ระหว่างความเชื่อทางศาสนา
กับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่วา่ จะในระดับระหว่างประเทศ (crossnational) หรือในระดับระหว่างภูมภิ าคต่างๆ ในประเทศ (subnational)
ในทางตรงกันข้าม โนแลนด์รายงานว่า “ค่าสัมประสิทธิ ์ทีม่ คี วามสาคัญทางสถิติ
แทบทุกตัวมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสัดส่วนประชากรทีเ่ ป็ นมุสลิม บ่งชีว้ า่
อิสลามส่งเสริมความเจริญ ไม่ใช่อุปสรรค”
ระดับความเป็ นอิสลาม” (ซึง่ สะท้อนในสัดส่วนประชากรทีเ่ ป็ นมุสลิม) ของแต่ละ
ประเทศ ไม่มคี วามสัมพันธ์เชิงสถิตใิ ดๆ กับ “ระดับความเจริญทางเศรษฐกิจ” ของ
ประเทศนัน้ ๆ
26
ชาวมุสลิมมองเห็นความบกพร่องของโครงสร้างเชิงสถาบัน

ข้อเท็จจริงทีว่ า่ หลักอิสลามไม่ใช่สาเหตุของความล้าหลังทางเศรษฐกิจ มีนยั ยะทีส่ าคัญยิง่ ต่อ
การดาเนินนโยบายพัฒนาในประเทศมุสลิม รัฐบาลประเทศมุสลิมควรมุง่ เน้นการส่งเสริม
โครงสร้างเชิงสถาบันต่างๆ
27
ระบบการเงินอิสลาม : “คูข่ นาน” กับการเงินกระแสหลัก




การทาธุรกรรมการเงินแบบอิสลามมีมาตัง้ แต่ยคุ แรกๆ ของอารยธรรมอิสลาม
(คริสต์ศตวรรษที่ 9-14)
หลังจากทีไ่ ด้รบั เอกราชจากประเทศเจ้าอาณานิคม ในช่วงต้นทศวรรษ 1960
ประเทศมุสลิมหลายแห่งก็เริม่ เกิดความสนใจทีจ่ ะนารูปแบบการเงินอิสลาม
กลับมาใช้ใหม่ นาไปสูก่ ารจัดตัง้ สถาบันการเงินมุสลิม
อุปสงค์ทส่ี งู ขึน้ ตลอดช่วงทศวรรษ 1980 ทาให้ระบบการเงินอิสลามเติบโตขึน้ และ
ดึงดูดให้ธนาคารพาณิชย์จากโลกตะวันตกเข้ามาเสนอบริการด้านบริหารความมัง่
คัง่ รวมทัง้ ขยายตลาดไปสูช่ าวมุสลิมหมูม่ ากผ่าน “หน้าต่างธนาคารอิสลาม”
ระบบการเงินอิสลามและตลาดทุนอิสลามแสดงให้เห็นความยืดหยุน่ ของหลักชา
ริอะฮ์ในการสนับสนุนระบบการเงินและตลาดทุนทีน่ อกจากจะสามารถดารงอยู่
“ควบคู”่ ไปกับระบบการเงินและตลาดทุนกระแสหลักแล้ว ยังสามารถ “ต่อยอด”
ระบบการเงินกระแสหลักในทางทีเ่ ป็ นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม
28
หลักการของระบบการเงินอิสลาม




ระบบการเงินแบบอิสลาม (Islamic financial system) หมายถึงระบบการเงินทีใ่ ห้ซอ้ื
ขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินทีไ่ ม่ขดั ต่อหลักชาริอะฮ์
หลักการพืน้ ฐานทีส่ าคัญทีส่ ดุ คือการห้าม “ริบา” (ดอกเบีย้ ) และห้ามการควบคุมราคา
และการบิดเบือนราคา แต่ไม่ได้หา้ มการเก็งกาไรใดๆ ทัง้ สิน้
แก่นแท้ของระบบการเงินอิสลามอยูท่ ก่ี ารส่งเสริมทักษะและทัศนคติแบบ “ไม่เสีย่ งเกิน
ตัว” ของผูป้ ระกอบการ การปกป้ องสิทธิในทรัพย์สนิ ส่วนบุคคล ความโปร่งใสและความ
เท่าเทียมกัน (level playing field) ของผูเ้ ล่นในระบบ ตลอดจนความศักดิสิ์ ทธิของ
์
สัญญาทางการเงิน
แนวคิดเรือ่ งการเงินอิสลามเป็ นแนวคิดทีพ่ ฒ
ั นาไปเรือ่ ยๆ ตามกาลเวลาและนวัตกรรม
ในโลกการเงินกระแสหลัก ปั จจุบนั แตกแขนงออกไปเป็ นสานักคิดสีแ่ ห่งหลักๆ ได้แก่ ฮา
นาฟี (Hanafi) มาลิกี (Maliki) ชาเฟย์ (Shafei) และ ฮันบาลี (Hanbali) แต่ละสานักคิดมี
การตีความรายละเอียดปลีกย่อยในชาริอะฮ์แตกต่างกันไปตามมุมมองของตน
29
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินในระบบอิสลาม





การขายแบบต้นทุนบวกส่วนต่าง (cost-plus-sale) หรือทุนเพือ่ การขาย
(purchase finance) เรียกว่า มูราบาฮา (Murabaha)
การเช่าซือ้ เรียกว่า อิจารา (Ijara)
การแบ่งผลกาไรจากธุรกิจ เรียกว่า มูดาราบา (Mudaraba) มีลกั ษณะ
คล้ายคลึงกับการลงทุนแบบร่วมลงทุน (venture capital) ในระบบการเงิน
กระแสหลัก
การร่วมทุนทาธุรกิจ เรียกว่า มูชาริกา (Musharika)
จากงานวิจยั พบว่า ธุรกรรมมูชาริกา และมูราบาฮาของธนาคารอิสลาม
สามารถใช้กาหนดนโยบายการเงินของธนาคารได้คอ่ นข้างดี ใช้แทนทีน่ โยบาย
ดอกเบีย้ ได้ (เช่น อิหร่าน)
30
ความท้าทายและนโยบายทีจ่ าเป็ น




ถึงแม้สถาบันการเงินอิสลามจะมีความเสีย่ งค่อนข้างต่า แต่สถานการณ์ตลาดทีไ่ ม่เอือ้ อานวย
ปั ญหาขาดแคลนสภาพคล่อง พอร์ตลงทุน เครือ่ งมือบริหารความเสีย่ ง สินทรัพย์สภาพคล่องสูง
ตลอดจนข้อจากัดอื่นๆ ทาให้มลู ค่าสินทรัพย์ของสถาบันการเงินอิสลามอยูใ่ นระดับค่อนข้างคงที่
และสินทรัพย์เหล่านัน้ ส่วนใหญ่กเ็ ป็ นตราสารการเงินระยะสัน้
ปั จจุบนั ธุรกรรมการเงินแบบอิสลามมักจะเสียเปรียบตราสารหนี้กระแสหลักในด้านความคุม้ ค่า
ของต้นทุน (cost-efficiency)
อุปสรรคสาคัญประการหนึ่งทีก่ ดี ขวางการเติบโตของการเงินอิสลามคือการขาดความเข้าใจใน
สภาวะตลาดการเงินสมัยใหม่ทเ่ี ปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนรายละเอียดของกฎเกณฑ์ท่ี
ตรงตามหลักชาริอะฮ์
การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน และการเปิ ดให้ทุนไหลเวียนระหว่างประเทศโดยเสรี
ในหลายๆ ประเทศ ทาให้สถาบันการเงินอิสลามและสถาบันการเงินกระแสหลักเริม่ ร่วมมือกัน
อย่างใกล้ชดิ มากขึน้ เพือ่ หาหนทางเพิม่ สภาพคล่องและบริหารจัดการพอร์ตลงทุน
31
นโยบายประชานิยมในละตินอเมริกา
ปรัชญาและเบือ้ งหลัง



แนวคิดประชานิยมมีรากฐานทางปรัชญาเกีย่ วพันกับลัทธิประโยชน์นิยม
(Utilitarianism) ของ เจเรมี เบนแธม (Jeremy Bentham)
การดาเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบ “เปิ ดเสรีสดุ ขัว้ ” ภายใต้อุดมการณ์เสรีนิยมใหม่
ของ “ตะวันตก” ซึง่ ถูก “นาเข้า” มาใช้อย่างเร่งรีบและรุนแรง เป็ นสาเหตุหนึ่งของ
การเลือกดาเนินนโยบายประชานิยม
ผูป้ กครองภายใต้แนวคิดประชานิยมพยายามนาเสนอแนวนโยบายทีม่ ลี กั ษณะ
เป็ นปฏิกริ ยิ าโต้กลับ (Reactionary) นโยบายเดิม โดยมีสาระต่อต้านแนวคิดแบบ
“ตะวันตก” และลิดรอนอานาจทางเศรษฐกิจของชนชัน้ นา (Establishment) ทัง้ ชน
ชัน้ นาระดับท้องถิน่ และระดับชาติทม่ี บี รรษัทต่างชาติคอยหนุนหลัง
33
รูปแบบและหลักการของนโยบายประชานิยม



หลักการพืน้ ฐานของนโยบายประชานิยม คือการระดมทรัพยากรทางการคลังของรัฐบาล
ทัง้ เงินในงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ และรายได้จากการค้าขายของรัฐบาล มา
ใช้จา่ ยอย่างเต็มทีใ่ นนโยบายประชานิยมรูปแบบต่างๆ รวมทัง้ การทาให้สถาบันการเงิน
ของรัฐให้เป็ นแหล่งเงินทุนในการใช้จา่ ยงบประมาณไปในนโยบายประชานิยม โดย
เน้นหนักไปในการใช้นโยบายกึง่ การคลัง
รัฐบาลมักอ้างว่าการดาเนินนโยบายประชานิยมเป็ นไปเพือ่ ช่วยเหลือคนยากจนทีเ่ ป็ น
กลุม่ คนส่วนใหญ่ภายในประเทศให้มสี ทิ ธิเสรีภาพมากขึน้ และมีชวี ติ ความเป็ นอยูด่ ขี น้ึ
นโยบายประชานิยมมีหลากหลายมาตรการ
 มาตรการพัฒนาความเป็ นอยูข
่ องประชาชนในระดับรากหญ้า
 มาตรการสร้างสวัสดิการสังคม
 มาตรการแก้ไขปั ญหาความยากจนและการยกหนี้/พักชาระหนี้
34
ทีม่ าของนโยบายประชานิยมในละตินอเมริกา



ในยุคล่าอาณานิคมภูมภิ าคละตินอเมริกาตกเป็ นเมืองขึน้ และถูกประเทศแม่ขดู รีด
ทรัพยากรไปเป็ นจานวนมาก หลังจากได้รบั เอกราช ประเทศส่วนใหญ่อยูภ่ ายใต้
ระบบสังคมนิยมและเผด็จการ ปกครองโดยรัฐบาลทหาร เนื่องจากรัฐบาลทหาร
ต้องการแสวงหาความชอบธรรมเพือ่ จะได้อยูใ่ นอานาจนานๆ จึงเริม่ ใช้นโยบาย
ประชานิยม
การใช้นโยบายประชานิยมก่อปั ญหามากมาย องค์กรโลกบาลต่างๆ จึงเข้ามามี
บทบาทในละตินอเมริกา โดยเสนอให้ดาเนินนโยบายตามฉันทมติวอชิงตัน ซึง่
เป็ น “ยาแรง” ทีส่ ง่ ผลเสียต่อประเทศไม่น้อยไปกว่ากัน นาไปสูว่ กิ ฤติเศรษฐกิจทัว่
ทัง้ ภูมภิ าค ประชาชนได้รบั ความเดือดร้อนกันทัวหน้
่ า
หลังจากวิกฤติ ประเทศเริม่ มีปฏิกริ ยิ าต่อต้านการชักนาและนโยบายแทรกแซง
ของสหรัฐอเมริกา นาไปสูก่ ารดาเนินนโยบายประชานิยมอีกครัง้ ซึง่ มีรปู แบบ
แตกต่างออกไปจากเดิมในรายละเอียด
35
โครงสร้างเชิงสถาบันกับนโยบายประชานิยม



โดยรวม การใช้นโยบายประชานิยมเป็ น “ปฏิกริ ยิ า” (reactionary policies) ของประเทศละตินต่อผลเสีย
จากอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ และการกดขีแ่ ทรกแซงของบรรษัทข้ามชาติและรัฐบาลอเมริกนั
ประชากรในละตินอเมริกามีหลากหลายเชือ้ ชาติ มีภาษาและวัฒนธรรมเฉพาะเป็ นของตนเอง และมี
แนวโน้มทีจ่ ะต่อต้านต่างชาติ เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติทอ่ี ุดมสมบูรณ์ถกู ขูดรีดและแทรกแซงจาก
ต่างชาติเสมอมา ทาให้การดาเนินนโยบายประชานิยมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนส่วน
ใหญ่ เอือ้ ให้เกิดการดาเนินนโยบายในลักษณะนี้อยูเ่ สมอ
รูปแบบและความสาเร็จของนโยบายประชานิยม มักขึน้ อยูก่ บั
 อุดมการณ์ทางการเมืองทีผ
่ นู้ ายึดถือ เช่น ประชาธิปไตย สังคมนิยม หรือเผด็จการทหาร
 ลัทธิความเชือ
่ ทางเศรษฐกิจว่าเชือ่ ในลัทธิเสรีนิยมใหม่ หรือต่อต้านเสรีนิยมใหม่
 ระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างเชิงสถาบันในละตินอเมริกา ซึง่ ในหลายประเทศยังอ่อนแออยู่
 ระดับทรัพยากร เช่น ประเทศทีม
่ รี ายได้จากการขายพลังงานทีร่ าคากาลังพุง่ สูงเป็ นประวัตกิ ารณ์
(เวเนซุเอลา โบลิเวีย และเอกวาดอร์) ย่อมสามารถใช้เงินดาเนินนโยบายประชานิยมอย่าง “ยังยื
่ น”
มากกว่าประเทศทีไ่ ม่ม ี
36
หนี้สาธารณะ : หนึ่งในข้อจากัดของขอบเขตประชานิยม
สัดส่วนหนี้สาธารณะทีอ่ ยูใ่ นระดับสูงของอาร์เจนตินาและบราซิล
ประกอบกับการทีไ่ ม่มที รัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เท่าไรนักทา
ให้สองประเทศนี้มคี วามคล่องตัวในการดาเนินนโยบายประชานิยม
ต่ากว่าประเทศอื่นๆ อย่างเวเนซุเอลา ชิลี หรือเอกวาดอร์
37
รูปแบบของประชานิยมในละตินอเมริกา



ประชานิยมแบบดัง้ เดิม มีฐานเสียงส่วนใหญ่อยูท่ ก่ี ลุม่ สหภาพแรงงาน มีนโยบาย
จัดสรร กระจายและแจกจ่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ให้กบั ประชาชนส่วนใหญ่ของ
ประเทศซึง่ เป็ นคนจนและชนชัน้ กลางให้เป็ นธรรมมากขึน้ แต่กไ็ ม่ได้ตงั ้ ใจต่อต้านทุน
นิยมเสียทีเดียว นโยบายแบบนี้มลี กั ษณะต้องการกระจายอานาจในการบริโภคมากกว่า
ต้องการปฏิวตั ริ ะบอบเศรษฐกิจ
ประชานิยมเสรีนิยมใหม่ เลือกดาเนินนโยบายประชานิยมควบคูไ่ ปกับนโยบาย
เศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ปล่อยให้กลไกตลาดเป็ นตัวกาหนดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
และลดบทบาทของรัฐลง แล้วใช้นโยบายเอาใจฐานเสียงทีส่ ว่ นใหญ่เป็ นกลุม่ คนระดับ
ล่างในเศรษฐกิจนอกระบบซึง่ จะใช้เฉพาะกลุม่ เท่านัน้ ลักษณะสาคัญอีกประการหนึ่ง คือ
การแยกตัวเองออกจากกลุม่ นักการเมืองรุน่ เก่า หรือ กลุม่ อานาจเก่า
ประชานิยมชาตินิยม มีนโยบายซือ้ คืนกิจการของเอกชน โดยเฉพาะกิจการผูกขาดใน
สาธารณูปโภคพืน้ ฐานทีต่ กอยูใ่ นมือบรรษัทข้ามชาติ ให้กลับมาเป็ นของรัฐ และ
ดาเนินการปฏิรปู โครงสร้างสถาบัน
38
ผลดี-ผลเสียของนโยบายประชานิยมรูปแบบต่าง ๆ



ประชานิยมแบบดัง้ เดิมส่งผลให้รายได้ทแ่ี ท้จริงและการบริโภคอยูใ่ นระดับดีขน้ึ อย่างมี
นัยสาคัญในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ประชาชนได้สนิ ค้าและบริการมาอุปโภคบริโภคโดยไม่ตอ้ งแบก
รับต้นทุน ทาให้เศรษฐกิจในระยะแรกเติบโต แต่จะก่อให้เกิดปั ญหาตามมาในระยะยาว
โดยเฉพาะการบันทอนวิ
่
นยั ทางการคลังของรัฐ และวินยั ทางการเงินของประชาชน
ประชานิยมเสรีนิยมใหม่ ทาให้เกิดผลกระทบคล้ายคลึงกับประชานิยมแบบแรก ต่างกันที่
 มีผลดีจากการทีน
่ กั ลงทุนจากในและต่างประเทศจะมีความเชือ่ มันที
่ จ่ ะเข้ามาลงทุน
ภายในประเทศ มากกว่าประเทศทีใ่ ช้ประชานิยมแบบดัง้ เดิมและประชานิยมชาตินิยม
 เมือ
่ ใช้นโยบายควบคูก่ บั เสรีนิยมใหม่ทเ่ี น้นกลไกตลาด จะทาให้เกิดประสิทธิภาพเพิม่ มาก
ขึน้ หากประเทศมีโครงสร้างเชิงสถาบันทีด่ ี
ประชานิยมชาตินิยม ส่งผลให้รายได้ทแ่ี ท้จริงเพิม่ ขึน้ ระบบบริการสุขภาพและระบบการศึกษา
มีคุณภาพดีกว่าเดิม แต่กส็ ง่ ผลให้รฐั บาลมีภาระในการใช้จา่ ยมาก ซึง่ อาจส่งผลกระทบในระยะ
ยาวไม่ต่างกันกับนโยบายประชานิยมแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ ก็มขี อ้ กังขาว่ารัฐบาลจะสามารถ
ดาเนินธุรกิจผูกขาดได้ดกี ว่าเอกชนหรือไม่
39
รูปแบบของประชานิยมในประเทศละตินอเมริกา
40
ข้อถกเถียงเกีย่ วกับนโยบายประชานิยม
การดาเนินนโยบายประชานิยมช่วยแก้ปัญหาให้กบั คนยากจนได้หรือไม่
 การดาเนินนโยบายกระตุน
้ อุปสงค์ระยะสัน้ แบบเคนส์ (Keynes) ส่งผลดีหรือ
ผลเสียมากกว่ากัน
 การดาเนินนโยบายประชานิยมอยูภ
่ ายใต้อุดมการณ์สงั คมนิยมหรือไม่
 แนวนโยบายประชานิยมต่อต้านอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่จริงหรือไม่
 การดาเนินนโยบายประชานิยม ทาให้กระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยและ
ประชาสังคมต้องติดขัดจริงหรือไม่
 การดาเนินนโยบายประชานิยมมีเป้ าหมายเพือ
่ ช่วยเหลือคนจนจริงหรือไม่

41
การปรับตัวภายใต้กระแสโลกาภิวตั น์


การปรับตัวตอบสนองและสนับสนุนโลกาภิวตั น์
 แสดงให้เห็นว่าหลักการของทุนนิยมนัน
้ ไม่ได้ขดั ต่อการดาเนินนโยบายประชานิยมแต่
อย่างใด แม้วา่ อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยทีเ่ ฉพาะเจาะจงกว่าประชานิยมโดยทัวไปบ้
่ าง
 เช่น รัฐบาลประชานิยมเสรีนิยมใหม่ของประธานาธิบดี อัลเบอร์โต ฟูจโิ มริ แห่งเปรู เลือก
ทีจ่ ะไม่ดาเนินนโยบายปฏิรปู ทีด่ นิ นโยบายกระจายรายได้ แต่เน้นส่งเสริมการบริโภคของ
ประชาชน กระตุน้ อุปสงค์ระยะสัน้ เพือ่ กระตุน้ เศรษฐกิจมหภาค
การปรับตัวตอบสนองและต่อต้านโลกาภิวตั น์ในรูปแบบต่าง ๆ
 “เขตเศรษฐกิจของประชาชน” (Bolivarian Alternative for the Americas, ALBA) ลงนาม
ร่วมกันระหว่างโบลิเวีย คิวบา และเวเนซุเอลา
 นโยบายควบคุมเงินทุนไหลเข้า เช่น อาร์เจนตินาในยุคประธานาธิบดี เนสเตอร์ คิชเนอร์
 โครงการ “เปโตรคาริป” (Petro Caribe) ขายน้ ามันราคาถูก, “เปโตรชัว” (Petro Sur)
น้ามันแลกลูกวัว, และ “เทเลซัว” (Tele Sur) ผลิตรายการทางเลือก
42