การขยายพันธ์ ุด้วยลาต้ นและ รากแบบพิเศษ ลาต้ นแบบพิเศษได้ แก่ บัลบ์ , คอร์ ม, ทูเบอร์ , ทูเบอรัสสเต็ม, ไรโซม, ซู โดบัลบ์ รากแบบพิเศษ คือ ทูเบอรัสรู ท ซึ่งมีหน้ าทีห่ ลักในการ เก็บรักษาอาหารเพือ่

Download Report

Transcript การขยายพันธ์ ุด้วยลาต้ นและ รากแบบพิเศษ ลาต้ นแบบพิเศษได้ แก่ บัลบ์ , คอร์ ม, ทูเบอร์ , ทูเบอรัสสเต็ม, ไรโซม, ซู โดบัลบ์ รากแบบพิเศษ คือ ทูเบอรัสรู ท ซึ่งมีหน้ าทีห่ ลักในการ เก็บรักษาอาหารเพือ่

การขยายพันธ์ ุด้วยลาต้ นและ
รากแบบพิเศษ
ลาต้ นแบบพิเศษได้ แก่ บัลบ์ , คอร์ ม, ทูเบอร์ ,
ทูเบอรัสสเต็ม, ไรโซม, ซู โดบัลบ์
รากแบบพิเศษ คือ ทูเบอรัสรู ท ซึ่งมีหน้ าทีห่ ลักในการ
เก็บรักษาอาหารเพือ่ ให้ พชื มีชีวติ อยู่ได้ ในช่ วงทีส่ ภาพแวดล้ อม
ทีไ่ ม่ เหมาะสม
โครงสร้ างอืน่ ของลาต้ นที่เปลีย่ นไป (กิง่ ตอนตามธรรมชาติ)
1. รันเนอร์ (Runners) ลาต้ นพิเศษทีเ่ กิดจากซอกใบตรงโคนก่ อ
เติบโตตามแนวขนานกับพืน้ ดินและได้ ต้นใหม่ ตรงข้ อใดข้ อหนึ่ง
เช่ น สตอเบอรี่
2. สโตลอน (Stolons) คือลาต้ นที่เปลีย่ นไปเจริญขนานบนดิน เช่ น
สะระแหน่ หรือลาต้ นทีอ่ ยู่ใต้ ดนิ และเป็ นหัว เช่ น มันฝรั่ง
3. ออฟเซ็ต (Offsets) คือ หน่ อข้ างหรือแขนงทีเ่ กิดตรงโคนลาต้ น เช่ น
อินทผลัม สั บปะรด และกล้ วย เป็ นต้ น
4. ซักเกอร์ (Souckers) คือ หน่ อทีเ่ กิดจากต้ นใต้ ดนิ
5. กอ (crown) คือ ส่ วนของต้ นทีอ่ ยู่ตรงคอดินเกิดต้ นหรือหน่ อใหม่
Runners บัวบก
Stolon หญ้ า
บัลบ์ (Bulbs)
บัลบ์ อยู่ใต้ ดนิ ประกอบด้ วยแกนของลาต้ นทีห่ ดสั้ นและมี
เนือ้ หนา เรียกว่ า เบซัลเพลท (basal plate) มีจุดเจริญหรือ
จุดกาเนิดดอกตรงปลายยอด และมีกลีบหัว (scale) เป็ นเนือ้
หนาห่ อหุ้ม พืชใบเลีย้ งเดีย่ วเท่ านั้นทีม่ บี ลั บ์ เพือ่ สะสม
อาหารและเพือ่ สื บพันธุ์
โครงสร้ างของบัลบ์
บัลบ์ มี 2 ชนิด
ทูนิเคตบัลบ์ (Tunicate bulb) หรือลามิเนตบัลบ์ (laminate bulb)
กลีบหัวชั้นนอกสุ ดเป็ นเยือ่ แห้ งๆ เรียกว่ า ทูนิค (tunic) ทาหน้ าที่
ห่ อหุ้มหัวไม่ ให้ แห้ งและป้องกันอันตราย ส่ วนกลีบหัวชั้นในมีเนือ้
หนาต่ อเนื่องกันเป็ นวงซ้ อนกันเรียกว่ า ลามินา (lamina) เช่ น หัว
หอม กระเทียม แดฟโฟดิล ทูลปิ และว่ านสี่ ทศิ
นอนทูนิเคตบัลบ์ (Nontunicate Bulb) หรือสเคลีบัลบ์ (scaly
bulb) ไม่ มีเปลือกหุ้ม เช่ น ลิลี่ กลีบหัวแยกกันเป็ นชิ้นๆ ทุกชิ้นติด
อยู่กบั เบซัลเพลท หัวซ้าง่ ายต้ องระมัดระวังกว่ าชนิดที่มีเปลือก
หุ้ม และต้ องเก็บไว้ ในสภาพชื้นๆ ตลอดเนื่องจากถ้ าหัวแห้ งแล้ ว
หัวจะเสี ย
รู ปแบบการเติบโตของบัลบ์
บัลบ์ มวี งจรการพัฒนาเริ่มจากปลายยอดและสิ้นสุดลง
ด้ วยการให้ ดอกและเมล็ด มี 2 ขั้นตอนคือ
ก. การเติบโตทางลาต้ น บัลบ์ เล็ตเจริญจนได้ หัวขนาด
ใหญ่ ทใี่ ห้ ดอก และมีนา้ หนักสู งสุ ด
ข. การสื บพันธุ์ คือ ช่ วงชักนาให้ มจี ุดกาเนิดดอก และ
สร้ างส่ วนต่ างๆ ของดอก การยืดตัวของก้ านดอกและดอก
บานพร้ อมรับการผสม บางครั้งมีการติดเมล็ด
การเกิดบัลบ์
ช่ วงการเจริญเติบโตทางลาต้ นเริ่มจากการเกิดบัลบ์
เล็ต ในซอกของกลีบหัวบนเบซัลเพลท ต่ อมาจะ
พัฒนาเป็ นหัวขนาดใหญ่ ให้ ดอกบัลบ์ เล็ตใหม่ หัว
ใหญ่ ทสี่ ุ ดสามารถให้ ดอกได้ แต่ หัวเล็กๆต้ องใช้ เวลา
อีก 1 ปี ขนาดและคุณภาพของดอกขึน้ อยู่กบั ขนาด
ของหัวบัลบ์
การสร้ างตาดอกและการออกดอก
การขยายพันธ์ ุบัลบ์
1. ออฟเซ็ต
2. การเกิดบัลบ์ เล็ตบนลาต้ น
บัลบ์ เล็ตทีเ่ กิดตามลาต้ นทีอ่ ยู่ใต้ ดนิ ใช้ ขยายพันธุ์
อิสเตอร์ ลลิ ลี่ อิสเตอร์ ลลิ ที่ ปี่ ลูกในแปลงกลางแจ้ งออกดอกใน
ตอนฤดูร้อน มีบัลบ์ เล็ตเกิดขึน้ และมีขนาดใหญ่ ขนึ้ ในช่ วงฤดู
ใบไม้ ผลิ
3. การตัดชาต้ น
ลิลสี่ ามารถขยายพันธุ์ด้วยการตัดชาต้ นได้ ด้วย
หลังจากต้ นให้ ดอกแล้ วนาต้ นมาชาแทนที่จะมีรากและกิง่
เหมือนในพืชอืน่ ๆ กลับมีบัลบ์ เล็ตเกิดขึน้ ที่ซอกใบ มีรากและ
ต้ นเล็กๆ ติดอยู่ทตี่ ้ นทีน่ ามาชา
4. การเกิดบัลบ์ เล็ตที่กลีบหัว (Scaling)
Scaling คือ การนากลีบหัวแต่ ละชิ้นแกะออกจาก
หัวแม่ และชาไว้ จนได้ บัลบ์ เล็ตทีโ่ คนกลีบหัว กลีบหัว 1
กลีบหัว จะให้ บัลบ์ เล็ต 3-5 บัลบ์ เล็ต วิธีนีป้ ระโยชน์ ในการ
ขยายพันธุ์ใหม่ ๆ และการสร้ างแม่ พนั ธุ์ทปี่ ลอดโรค
5. การคว้ านหรือตัดด้ านล่ างของหัว (Basal Currage)
วิธีนีใ้ ช้ กบั ไฮยาซินธ์ เป็ นหลัก วิธีทาคือ Scooping กับ Scoring เพือ่
กาจัดการข่ มของตายอดและกระตุ้นให้ เกิดหัวย่ อย ใช้ หัวแก่ทขี่ ุดขึน้ มา
หลังจากใบเหี่ยวและมีเส้ นรอบวงประมาณ 7 นิว้ ขึน้ ไป
Scooping คือ การคว้ านเอาเบซัลเพลทออกทั้งหมดด้ วยมีดบางโค้ ง
ช้ อนกลมหรือมีดที่มีใบเล็ก บัลบ์ เล็ตเกิดทีโ่ คนของกลีบหัว ควรคว้ านให้ ลกึ
เพือ่ ทาลาย main shoot
Scoring คือการใช้ มีดบากฐานของบัลบ์ เล็ตเป็ น
เส้ นตรงตัดกันให้ แต่ ละรอยบากลึกตัดเบซัลเพลท
และจุดเจริญ จุดเจริญในซอกกลีบหัวจะเจริญเป็ น
บัลบ์ เล็ต
6. การตัดชาใบ
วิธีนีใ้ ช้ กบั ว่ านแสงอาทิตย์
เกรพไฮยาซินธ์ ไฮยาซินธ์ ใช้ ใบทีเ่ ติบโตดี
และมีสีเขียวสด ตัดทั้งใบจากยอดของหัวแล้ วแบ่ งเป็ น 2-3 ส่ วนนา
แต่ ละชิ้นมาปักในวัสดุชาให้ ส่วนฐานอยู่ลกึ ในวัสดุชาหลายนิว้ อย่ า
ปล่ อยให้ ใบแห้ งควรให้ bottom heat ด้ วย ภายใน 2-4 อาทิตย์ จะได้
บัลบ์ เล็ตตรงโคนใบและรากเกิดขึน้ นาบัลบ์ เล็ตที่ได้ ไปปลูก
7. การตัดชาบัลบ์
8. การขยายพันธุ์บัลบ์ โดยการเพาะเลีย้ งเนือ้ เยือ่
บัลบ์ สามารถขยายพันธุ์ด้วยการเลีย้ งเนือ้ เยือ่ โดย
กระตุ้นให้ เกิด axillary shoot, adventitious shoot การชัก
นาให้ เกิดบัลบ์ ทกี่ ลีบหัวหรือฐานรองดอกรวม เพือ่ เพิม่
จานวนพันธุ์ใหม่ เพือ่ พัฒนาและดารงรักษาพันธุกรรม
รวมทั้งการผลิตสต็อกของวัสดุขยายพันธุ์ทผี่ ่านการ
ทดสอบไวรัสด้ วยวิธีเฉพาะแล้ ว
คอร์ ม (Corms)
คือ ส่ วนโคนของแกนต้ นทีข่ ยายใหญ่ ขนึ้ ห่ อหุ้มด้ วย
ใบแห้ งเป็ นแผ่ น
คอร์ มต่ างกับบัลบ์ ตรงที่ว่าบัลบ์ มกี ลีบหัว แต่ คอร์ ม
เป็ นโครงสร้ างลาต้ นที่มีเนือ้ แน่ น มีข้อและปล้ องเห็น
ชัดเจน
คอร์ มแก่ โคนกลีบจะแห้ งค้ างอยู่ทขี่ ้ อและหุ้มคอร์ มไว้
เรียกว่ าทูนิค (tunic) ป้องกันอันตรายและการสู ญเสี ยนา้
ยอดของคอร์ มจะมีปลายยอดทีเ่ จริญขึน้ เป็ นใบและดอก
ตัวอย่ างเช่ น แกลดิโอลัส แห้ ว เผือก เป็ นต้ น
รู ปแบบการเติบโต
ตัวอย่ างเช่ น แกลดิโอลัส ในเขตทีม่ ีอากาศหนาวรุนแรงต้องเก็บ
รักษาคอร์ มไว้ ตลอดฤดูหนาวและปลูกใหม่ ในฤดูในไม้ ผลิ ขณะ
ปลูกจะมีรากใหม่ เกิดขึน้ จากด้ านล่างของหัวและมีตา 1-2 ตา
เจริญขึน้ เป็ นต้ นภายใน 2-3 อาทิตย์ หลังจากต้ นเจริญและมีตา
ดอกเกิดขึน้ จะมีคอร์ มใหม่ เกิดขึน้ บนคอร์ มเก่ า โครงสร้ างคล้ าย
สโตลอนเกิดจากด้ านล่ างของหัว และมีหัวย่ อยหรือคอร์ เมล
(cormels) ติดอยู่ทปี่ ลายสโตลอน
Corm ต้ นเผือก (ลาต้ นเจริญตั้งฉากกับผิวดิน)
การขยายพันธุ์คอร์ ม
1. คอร์ มใหม่ (New Corms)
2. คอร์ เมล (Cormels)
คอร์ เมล คือ หัวย่ อยทีเ่ กิดขึน้ ระหว่ างหัวเก่ าและหัวใหม่
คอร์ เมลใช้ เวลาเติบโต 1-2 ปี จึงจะได้ คอร์ มขนาดทีใ่ ห้ ดอก การ
ปลูกคอร์ มตืน้ เพียง 2-3 นิว้ จะให้ คอร์ เมลเป็ นจานวนมากกว่ า
การปลูกคอร์ มลึก
3. การตัดแบ่ งคอร์ ม
คอร์ มขนาดใหญ่ อาจแบ่ งเป็ นชิ้นให้ มตี าติดทุกชิ้น แต่ ละ
ชิ้นจะได้ คอร์ มใหม่ ควรคลุกชิ้น คอร์ ม ด้ วยยากันเชื้อรา
เนื่องจากรอยตัดมีโอกาสเน่ าได้ ง่าย
ทูเบอร์ (tuber)
ทูเบอร์ มีส่วนต่ างๆ เช่ นเดียวกับลาต้ นแต่ บวมโตกว่ ามาก ถ้ าดู
จากภายนอกจะเห็นมีตาเรียงเป็ นระเบียบ มีข้อชัดเจน ตายอดอยู่
ปลายหนึ่งเห็นรอยทีส่ โตลอนเคยติดอยู่ ตายอดอยู่ทางด้ านหัวทูเบอร์
และอยู่ไกลสุ ดจากคราวน์ ทูเบอร์ มีการข่ มของตายอดเช่ นเดียวกับลา
ต้ น เช่ น มันฝรั่ง เป็ นต้ น
รูปแบบการเติบโต
ทูเบอร์ เป็ นโครงสร้ างสาหรับสะสมอาหารทีเ่ กิดขึน้ ใน
ฤดูเติบโตเพียงฤดูเดียว ในฤดูหนาวจะพักตัวและ
เจริญเติบโตเป็ นต้ นใหม่ ในฤดูใบไม้ ผลิ หลังจากเริมวงจร
การเติบโตใหม่ ลาต้ นจะใช้ อาหารที่เก็บสะสมไว้ ในหัวเก่ าที่
จะฝ่ อไป
การขยายพันธุ์
1. การตัดแบ่ ง
การขยายพันธุ์ทูเบอร์ อาจปลูกไปทั้งหัวหรือ
ตัดแบ่ งเป็ นชิ้น แต่ ละชิ้นให้ มี 1 ตาเป็ นอย่ างน้ อย ชิ้น
เล็กๆ เหล่ านีเ้ รียกว่ า seed และควรมีน้าหนัก 28-56
กรัม เพือ่ ให้ มีอาหารสะสมพอสาหรับต้ นใหม่ เจริญ
จนตั้งตัวได้ ดี
ทูเบอร์ เคิล (tubercles)
รากทีเ่ ป็ นหัวและต้ นทีเ่ ป็ นหัวมีโครงสร้ างหลายแบบ ล้วนมีการ
เติบโตเป็ นหัวแบบทูเบอร์ และทาหน้ าทีเ่ ก็บรักษาอาหาร
รากทีเ่ ป็ นหัวหรือทูเบอรัสรู ท เช่ น มันเทศ รักเร่
ลาต้ นทีเ่ ป็ นหัวหรือทูเบอรัสสเตม เช่ น บิโกเนีย
รู ปแบบการเติบโต
ทูเบอรัสรู ทมีอายุ 2 ปี เกิดขึน้ ในฤดูเติบโตและพักตัว เมื่อลาต้ น
ตาย ทาหน้ าทีส่ ะสมอาหารให้ พชื มีชีวติ รอดอยู่ได้ ในช่ วงทีพ่ กั ตัว
ในฤดูใบไม้ ผลิต่อมา ตาในบริเวณหัวจะเกิดเป็ นต้ นใหม่ใช้ อาหาร
จากรากเก่ าในช่ วงการเติบโตแรกๆ ต่ อมารากเก่ าสลายตัวไปได้ทู
เบอรัสรู ทใหม่ ทาให้ พชื มีชีวติ รอดตลอดช่ วงการพักตัวอีกครั้ง
การขยายพันธ์ ุ
1. การตัดแบ่ ง
วิธีทวั่ ไปคือการตัดแบ่ งหัวให้ แต่ ละส่ วนมีตาทีจ่ ะเกิด
เป็ นต้ น เช่ น รักเร่ เมือ่ ขุดขึน้ มามีรากเป็ นกระจุกให้ นาไปผึง
ไว้ 2-3 วันและเก็บรักษาไว้ ทอี่ ณ
ุ หภูมิ 4-10 องศาฯ ในขีเ้ ลือ่ ย
หรือเวอร์ มคิ ูไลท์ ถ้ าเก็บรักษาไว้ ในทีเ่ ปิ ดโล่ งจะเหี่ยว แบ่ ง
กระจุกรากก่ อนฤดูเพียงเล็กน้ อย เมือ่ ได้ รับสภาพอุ่นและชื้น
ตาจะเจริญขึน้ ทาให้ แบ่ งได้ อย่ างมัน่ ใจว่ าแต่ ละส่ วนทีแ่ บ่ งมีตา
ติดไปด้ วย
2. การตัดชาแบบมีใบติด (Leafy Cutting)
ไรโซม (Rhizomes)
ไรโซมเป็ นลาต้ นแบบพิเศษ ซึ่งแกนของต้ นเจริญ
ทอดยาวไปบนดินหรืออยู่ใต้ ผวิ ดิน พืชสาคัญทาง
เศรษฐกิจ เช่ น อ้ อย กล้ วย ไผ่ หญ้ าหลายชนิด ไม้
ประดับ ส่ วนมากเป็ นพืชใบเลีย้ งเดี่ยว พืชใบเลีย้ งคู่
น้ อยชนิด เช่ น บลูเบอรี่พ่มุ เตีย้ เฟิ นหลายชนิด และ
พืชชั้นต่าก็มีไรโซม
ต้ นกระชาย
รากออกเป็ นกระจุกเรียก fasicle
ขิง ข่ า ไอริส
ลาต้ นใต้ ดิน
ไรโซมมี 2 ชนิด คือ
1. Pachymorph ตัวอย่ างเช่ น ขิง และไรโซมาตัส ไอริส
ไรโซมมีลกั ษณะหนา สั้ นและอวบนา้ มีการเจริญแบบดีเทอร์ มิเนต
คือ เมื่อแต่ ละแง่ งให้ ดอกแล้ วก็จะมีการเจริญออกเฉพาะด้ านข้ าง
ไรโซมเจริญขนานกับดินมีรากลงด้านล่ าง
2. Leptomorph ตัวอย่ างเช่ น lily of the valley
และไผ่ ญปี่ ุ่ น ไรโซมมีลกั ษณะเรียวมีปล่ องยาว มีการเจริญ
แบบอินดีเทอร์ มเิ นต คือลาต้ นใต้ ดนิ ยืดยาวอย่ างต่ อเนื่อง
รูปแบบการเติบโต
ไรโซมเติบโตโดยการยืดตัวของจุดเจริญตรง
ปลายยอด กิง่ ข้ างและการเจริญจากส่ วนล่ างของ
ปล้ องที่เรียกว่ า intercalary meristem ด้ วย เมื่อพืช
เติบโตต่ อไปและส่ วนที่แก่ ๆ ตายไป
การขยายพันธุ์
1. การแบ่ งไรโซม
พืชทีม่ ีไรโซมมักขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแบ่ ง แต่ วธิ ีตัดอาจผันแปร
ไปตามชนิดของพืชสาหรับพวกทีม่ ีการเจริญแบบ pachymorph
เช่ น ขิงให้ ตดั ตรงจุดติดกับไรโซมได้ เป็ นแง่ งตัดยอดทิง้ แล้ ว
นาไปปลูก
2. การแบ่ งกอ
ในพืชที่มไี รโซมขนาดใหญ่ เช่ น ไผ่ สามารถใช้ ลา
ต้ นเหนือดินเรียกว่ า culm ตัดชาได้ โดยชาทั้งท่ อนวางนอน
ไปกับดินในร่ องให้ แขนงใหม่ เกิดตามข้ อ หรือจะตัดชากิง่
ให้ ติด 3-4 ข้ อ แล้ วปักชาแนวตั้งในดินก็ได้
ลาลูกกล้ วยหรือซูโดบัลบ์ (Psuedobulbs)
ซูโดบัลบ์ คือ โครงสร้ างพิเศษสาหรับสะสมอาหารของกล้วยไม้
ประกอบเป็ นส่ วนของลาต้ นที่ขยายใหญ่ อวบนา้ มีข้อเดียวหรือหลายข้ อ
ก็ได้ รูปร่ างของซูโดบัลบ์ แตกต่ างกันไปตามชนิดของกล้วยไม้ และ
สามารถใช้ จาแนกสปี ชีส์ได้ ด้วย
รู ปแบบการเติบโต
ซูโดบัลบ์ เจริญในแนวตั้งเกิดทางด้ านข้ างหรือทางยอดของซูโด
บัลบ์ ซึ่งเจริญในแนวนอนใบและดอกของซูโดบัลบ์ อาจเกิดขึน้ ที่ปลาย
ยอดหรือที่โคนแล้วแต่ ละชนิด ระหว่ างช่ วงทีเ่ ติบโตจะเก็บสะสมอาหาร
และนา้ ช่ วยให้ ต้นไม้ มีชีวติ อยู่ในฤดูพกั ตัวต่ อมา
การขยายพันธุ์
1. การตัดแบ่ ง
กล้ วยไม้ ทมี่ ีความสาคัญทางการค้ า ขยายพันธุ์ได้ โดยตัดไร
โซมเป็ นท่ อนๆ ในฤดูพกั ตัวหรือช่ วงฤดูก่อนเติบโต ใช้ มีดคมๆ ตัด
ไรโซมให้ ติด 4-5 ซู โดบัลบ์ เหลือไรโซมเก่ าพร้ อมซูโดบัลบ์ เก่ าหรือ
เรียกว่ า back bulbs ซึ่งไม่ มีใบแล้ วนาไปปลูก
2. ลาหลัง (Back Bulbs) และลาหน้ า (Green Bulbs)
ลาหลัง คือ ลาลูกกล้วยทีไ่ ม่ มีใบแล้วใช้ ขยายพันธุ์กล้วยไม้ เช่ น ซิม
บิเดียม โดยตัดแบ่ งออกมาแล้วทาแผลที่ตัดด้ วยยากันรา แล้วชาในวัสดุ
ออกรากให้ ต้นเจริญขึน้ เมื่อมีต้นและรากสมบูรณ์ แล้วนาไปปลูกได้ ส่ วน
ลาลูกกล้วยเดิมสามารถนามาชาไว้ อกี ครั้งให้ ได้ ต้นใหม่
ลาหน้ า คือลาลูกกล้วยทีม่ ีใบติดอยู่แล้วนามาชาได้ การแช่ ใน
สารละลาย IBA หรือ ใช้ IBA ทาช่ วยให้ ออกรากได้ ดี