Transcript เทคนิคและวิธีการตอนกิง่ การตอนกิง่ คือ การทาให้ กงิ่ ออกรากในขณะทีก่ งิ่ นั้นยังติดอยู่กบั ต้ นแม่ เหตุทใี่ ช้ การตอนกิง่ 1.

เทคนิคและวิธีการตอนกิง่
การตอนกิง่ คือ การทาให้ กงิ่ ออกรากในขณะทีก่ งิ่ นั้นยังติดอยู่กบั ต้ นแม่
เหตุทใี่ ช้ การตอนกิง่
1. เมื่อพืชขยายพันธุ์ด้วยวิธีนีต้ ามธรรมชาติ เช่ น สตรอเบอรี่
2. เมื่อใช้ วธิ ีอนื่ แล้ วออกรากยาก และสายต้ นมีคุณค่ าคุ้มกับ
ต้ นทุนและค่ าแรงในการตอน เช่ น ลาไย ลิน้ จี่
3. การตอนกิง่ สามารถขยายพันธุ์ได้ ต้นขนาดใหญ่ ในเวลาสั้ น
4. ในกรณีที่ต้องการต้ นพืชขนาดใหญ่ จานวนไม่ มากและใช้
อุปกรณ์ น้อย
วิธีการการตอนกิง่ มี 6 วิธี คือ
1. การตอนกิง่ แบบทิพ (Tip layering) เป็ นวิธีธรรมชาติของ
ลักษณะการขยายพันธุ์ของ แบล็คเบอรี่ชนิดเลือ้ ย ดิวเบอรี่
2. การตอนกิง่ แบบทับกิง่ (Simple layering) ใช้ กงิ่ อายุ 1 ปี ที่สามารถ
โน้ มลงให้ ทาบกับดินได้ แล้ วเอาดินกลบช่ วงกลางกิง่ ให้ ปลายยอดโผล่
เหนือดิน
3. การตอนกิง่ แบบทับกิง่ หลายช่ วง (Compound or Serpentine
layering) เหมือนการตอนกิง่ ทับกิง่ แต่ กลบดินหลายตอน ใช้ กับพืชทีม่ ี
กิง่ ยาวและอ่ อนพอที่จะกลบหลายตอนได้ ไม่ นิยมใช้ ขยายพันธุ์เป็ น
การค้ า
4. การตอนกิง่ แบบอากาศ (Air layering, Chinese layering, Pot
layering, Circumposition, Marcottage, Gootee) ใช้ ขยายพันธุ์ไม้
ผลหรือไม้ พ่ มุ เมืองร้ อนหรือกึง่ ร้ อน การเลือกกิง่ ตอนควรเลือกกิง่ ที่
เจริญมาได้ ฤดูหนึ่งแล้ วคือกิง่ เริ่มแก่
วิธีการตอนกิง่ ไม้ ผลของเมืองไทย
 ฤดูกาล ควรตอนกิง่ ในฤดูฝนตั้งแต่ เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิ งหาคม
 การเลือกกิง่ ควรเลือกกิง่ เพสลาด มีสีนา้ ตาลไม่ แก่ หรือไม่ อ่อนจนเกินไป
เมื่อควัน่ เปลือกแล้วควรลอกเปลือกออกได้ ง่าย
 ชนิดกิง่ กิง่ กระโดงเหมาะทีส
่ ุ ดเพราะเป็ นกิง่ ตั้งจะออกรากได้ รอบกิง่ ถ้ า
เป็ นกิง่ นอนรากจะออกแต่ ด้านบนแล้วห้ อยลงตามแรงดึงดูดของโลกทา
ให้ ได้ รากน้ อยและรากโตช้ า
 การควัน
่ และการหุ้มกิง่ ควัน่ รอบกิง่ เพือ่ ตัดท่ ออาหารแล้ วกรีดตามยาว
เท่ ากับความยาวรอบกิง่ ลอกเปลือกออกแล้วขูดเมือกเบาๆโดยใช้ สันมีด
เพือ่ ทาลายแคมเบียม แล้วหุ่มด้ วยกาบมะพร้ าวให้ มดิ ชิดแล้ วใช้ เทป
พลาสติกพันให้ มิดชิด
5. การตอนกิง่ แบบสุ มโคน (mound or Stool Layering หรือ Stooling)
ต้ นแม่ อายุ 1 ปี ให้ ตัดเหลือ 1 นิว้ เมื่อกิง่ งอกใหม่ ยาว 3-5 นิว้ กลบโคน
กิง่ สู งครึ่งหนึ่งด้ วยดินร่ วน ขีเ้ ลือ่ ย เมื่อกิง่ ยาว 8-10 นิว้ กลบครั้งที่ 2
รอบโคนสู ง ครั้งสุ ดท้ ายทากลางฤดูร้อน กลบเมื่อกิง่ ยาว 18 นิว้ ทิง้ ไว้ ให้
ออกราก
6. การตอนกิง่ แบบเทรยช์ (Trench Layering ) เป็ นวิธีทใี่ ช้
etiolation คือการใช้ ดนิ กลบกิง่ ใหม่ ให้ ได้ รับความมืดทั้งต้ น
ยกเว้ นยอด ต้ นอ่ อนจะงอกขึน้ มาบนผิวดิน
ปัจจัยของการเกิดราก
1. ธาตุอาหาร กิง่ ติดอยู่กบั ต้ นแม่ จึงไม่ มีปัญหาการขาดนา้ และธาตุอาหาร
2. การหลีกเลีย่ งสภาพทีไ่ ม่ เหมาะสม การทีก่ งิ่ ยังติดอยู่กบั ต้นแม่ ทาให้ ไม่ มี
ปัญหา
3. การปฏิบัติต่อกิง่ การชักนาให้ เกิดรากทาได้ หลายวิธี วิธีเหล่านีต้ ัดตอนการ
เคลือ่ นทีส่ ารอาหารได้ แก่ คาร์ โบไฮเดรต ออกซินและปัจจัยต่ างๆ สาหรับการ
เจริญเติบโตมาสะสมอยู่เหนือบริเวณทีต่ ัดหรือควัน่ ทาให้ เกิดราก
4. การไม่ ได้ รับแสง (Physiological Conditioning)
5. การปรับสภาพทางสรีระ การปรับสภาพทางสรีรวิทยาสั มพันธ์ กบั ฤดูกาล
6. การทาให้ อ่อนวัยใหม่ (Rejuvenation) การตัดกิง่ ทาให้ เกิดกิง่ ใหม่ จะออกราก
ได้ ดี
เทคนิคในการขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิง่ แบบต่ าง ๆ
 ถ้ าต้ องการกิง่ พันธุ์เป็ นจานวนมากควรใช้ วธ
ิ ีการตอนกิง่
แบบซับซ้ อน จะได้ กงิ่ พันธุ์เป็ นจานวนมาก
 การตอนกิง่ บนอากาศควรเลือกกิง่ พันธุ์ทไี่ ม่ อ่อนไม่ แก่
จนเกินไป
 การใช้ สารเร่ งรากจะทาให้ ออกรากเร็วขึน
้
 การตอนกิง่ แบบทับกิง่ ควรทาในพืชทีม
่ กี งิ่ อ่ อนทั้งทีเ่ ป็ นพืช
พลัดใบและพวกทีม่ ใี บเขียวตลอดปี
การเปลีย่ นแปลงของพืชที่ทาให้ มีกงิ่ ตอนตามธรรมชาติ
พืชบางชนิดมีการปรับโครงสร้ างทางลาต้ นทีไ่ ด้ จานวนต้ นเพื่อตามธรรมชาติ
โครงสร้ างต่ อไปนีเ้ รียกว่ ากิง่ ตอนทีเ่ กิดขึน้ ตามธรรมชาติ
1.รันเนอร์ (Runners) ลาต้ นพิเศษที่เกิดจากซอกใบตรงโคนก่อ เติบโตตาม
แนวขนานกับพืน้ ดินและได้ ต้นใหม่ ตรงข้ อใดข้ อหนึ่ง เช่ น สตอเบอรี่
2. สโตลอน (Stolons) คือลาต้ นที่เปลีย่ นไปเจริญขนานบนดิน เช่ น
สะระแหน่ หรือลาต้ นทีอ่ ยู่ใต้ ดินและเป็ นหัว เช่ น มันฝรั่ง
3. ออฟเซ็ต (Offsets) คือ หน่ อข้ างหรือแขนงทีเ่ กิดขึน้ ตรงโคนลาต้ นในบาง
พืช ลาต้ นหนาและเตีย้ เป็ นกอ เช่ น อินทผลัม สั บปะรด และกล้วย เป็ นต้ น
4. ซักเกอร์ (Souckers) คือ หน่ อที่เกิดจากต้ นใต้ ดิน
การแบ่ งกอ (crown Division)
กอ คือ ส่ วนของต้ นทีอ่ ยู่ตรงคอดินเป็ นบริเวณทีเ่ กิดต้ นหรือหน่ อใหม่ ได้
คาถามท้ ายบทการตอนกิง่
1. ข้ อใดกล่ าวถึงการกลายพันธุ์ได้ ถูกต้ องทีส่ ุ ด
ก. เป็ นการเปลีย่ นแปลงทางพันธุกรรม
อย่ างถาวร
ข. การเปลีย่ นแปลงของยีน
ค. การกลายพันธุ์เกิดขึน้ ในพืชเท่ านั้น
ง. ไม่ มขี ้ อถูก
2. การเกิดไคเมอร่ ามีกแี่ บบ
ก. 2 แบบ
ข. 3 แบบ
ค. 4 แบบ
ง. 5 แบบ
3. ข้ อใดไม่ ใช่ วธิ ีในการตอนกิง่
ก. การทับกิง่ แบบหลายช่ วง
ข. การทาบกิง่
ค. การทับกิง่
ง. การสุ มโคน
4. การตอนกิง่ มีกวี่ ธิ ี
ก. 3 วิธี
ข. 4 วิธี
ค. 5 วิธี
ง. 6 วิธี
5. การตอนกิง่ ควรเลือกกิง่ ทีม่ ลี กั ษณะอย่ างไร
ก. กิง่ ทีไ่ ม่ แก่ หรืออ่ อนเกินไป
ข. กิง่ นอน
ค. กิง่ ทีม่ ขี นาดใหญ่
ง. กิง่ ทีแ่ ก่